Wednesday, April 29, 2009

บอลไทยดันสภารับลูกวาระแห่งชาติปรับชลฯ-ไฟฟ้า

ฝันอยากเห็นบอลไทยไปบอลโลก รัฐบาลต้องจริงใจ วิมล กาญจนะ เตรียมนำเสนอสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นชอบผลักดันแนวทางลีกแห่งชาติเสนอ "โอบามาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บรรจุเป็นวาระแห่งชาติ สร้างแผนพัฒนาบอลไทยทั้งระบบ 5-10 ปี มั่นใจลีกแข็งแกร่ง ทีมชาติไทยแกร่งตาม


ขณะที่เหตุการณ์ฉาวไทยพรีเมียร์ลีก "สงครามขวด" การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กับชลบุรี เจอปรับเบาะๆ แค่ทีมละ 3 หมื่นบาท แต่มีสิทธิ์เพิ่ม ต้องรอประชุมวันที่ 1 พฤษภาคม ด้านฟุตซอลลีก หายใจคล่องขึ้น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เซ็นหนุน 1 ล้านบาท
นายวิมล กาญจนะ อุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เตรียมเสนอนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคม และนำเรื่องเข้าสู่สภากรรมการบริหาร เพื่อขอมติเห็นชอบในการนำแนวทางลีกแห่งชาติเสนอถึงรัฐบาล เพื่อให้การสนับสนุนทั้งไทยพรีเมียร์ลีก ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 "ลีกภูมิภาค" อย่างจริงจัง เป็นแผนงบประมาณระยะยาว 5-10 ปี เพื่อพัฒนาลีกให้แข็งแกร่ง ทั้งในเรื่องการปรับปรุงสนามทั่วประเทศ อบรมโค้ช และการจัดตั้งศูนย์พัฒนาฟุตบอลมาตรฐานทั้ง 5 ภูมิภาค
" แน่นอนว่าสื่อของรัฐเองจะต้องเข้ามาสนับสนุนด้วย โดยเฉพาะในด้านการประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความนิยมได้อย่างรวดเร็ว เพราะอย่างน้อยเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าฟุตบอลอาชีพโดยเฉพาะลีกภูมิภาค มีกระแสตอบรับที่ดี เช่นเดียวกับฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ที่มีแฟนติดตามอย่างหนาแน่นทุกสัปดาห์ ดังนั้นจึงอยากเสนอให้รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญของฟุตบอลไทยในการนำไปเป็นวาระแห่งชาติ เชื่อว่าถ้ารัฐบาลมีความตั้งใจจริงอนาคตเราจะเห็นฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลกแน่นอน"
ปรับไฟฟ้า-ชลบุรี 3 หมื่น
ส่วน กรณีแฟนบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกับชลบุรี เกิดเหตุวิวาทจนทำให้เกมต้องยุติไปถึง 71 นาที ก่อนทั้งคู่เสมอ 2-2 ในเกมไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา ล่าสุดที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอล นายสมศักดิ์ อ่อนสมา รองประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด พร้อมด้วยนายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคม นายอุดม อนันตพงศ์ ประธานฝ่ายพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง ร่วมกันพิจารณาบทลงโทษ โดยที่นายสราวุธ ประทีปากรชัย และไกรสร พันธุ์เพียร
นาย อุดม อนันตพงศ์ ไปพิจารณาบทลงโทษ ก่อนที่จะให้เสนอต่อที่ประชุมของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่จะให้นโยบายกับคณะกรรมการผู้ตัดสินชุดใหม่ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ที่โรงแรมเรดิสัน เวลา 14.00 น. เพื่อร่วมพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง
ขณะ เดียวกันเตรียมที่จะทำเรื่องเสนอให้บริษัทไทยพรีเมียร์ ให้ออกหนังสือแจ้งไปยังสโมสรต่างๆ ห้ามให้แฟนบอลนำสุรา ขวดน้ำ พลุ เข้าไปในสนามอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาอีก
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก เซ็นอนุมัติสั่งปรับเงินกับทีมสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และสโมสรฟุตบอลชลบุรี ทีมละ 3 หมื่นบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการต่อไป
ธอส.หนุนฟุตซอลลีก
ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พระราม 9 เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา นายฐนนท์ศรณ์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล ประธานกรรมการกำกับดูแลและความรับผิดชอบสังคมและสิ่งแวดล้อม ธอส. พร้อมกรรมการบริหาร แถลงข่าวการให้การสนับสนุนการแข่งขันไทยแลนด์ ฟุตซอลลีก 2009 จำนวนเงิน 1 ล้านบาท โดยมี "บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานจัดการแข่งขันเข้าร่วม ซึ่งนายฐนนท์ศรณ์ กล่าวว่า ธอส.มีนโยบายการสนับสนุนสังคมในด้านต่างๆ อยู่แล้ว และเห็นว่าการส่งเสริมฟุตซอลลีกอาชีพจะช่วยพัฒนาศักยภาพให้นักกีฬาไทยก้าวไป สู่ระดับโลกต่อไป
นอกจากนี้ ธอส.ยังเสนอแนวความคิดที่จะจัดโครงการร่วมสนุกทายผลการแข่งขันฟุตซอลลีก ฤดูกาลนี้ ผ่านทางเอสเอ็มเอส หรือไปรษณียบัตร โดยมีรางวัลให้แฟนบอลประมาณ 1 แสนบาท
ด้าน "บิ๊กป๋อม" กล่าวว่า ฤดูกาลนี้เป็นปีที่ 3 แฟนบอลตื่นตัวมาก เพราะไม่เคยมีครั้งไหนที่แฟนบอลเข้าชมเต็มทุกสัปดาห์ ทุกแมทช์ตั้งแต่เช้ายันเย็น หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือเช่นนี้ เชื่อว่าภายใน 5 ปี ทีมชาติไทยจะก้าวไปติดท็อป 5 ของโลกตามเป้าหมายได้
ขณะ ที่เกมอุ่นเครื่องระหว่างทีมชาติไทยชุดเตรียมสู้ศึกเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ กับอิหร่าน วันที่ 8 พฤษภาคม เวลา 18.00 น. และวันที่ 10 พฤษภาคม เวลา 14.00 น.ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาตินั้น จะเปิดให้แฟนบอลเข้าชมฟรี พร้อมกับมีถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์ และสยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19 ด้วย

บางกอกกล๊าสบินถึงบ้านหลังทำศึกสิงคโปร์

ขุนพล "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี ลัดฟ้ากลับถึงมาตุภูมิ หลังยกทัพฟาดแข้ง สิงคโปร์ คัพ ทำเอานักเตะล้าไปตามๆ กัน ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผจก.ทีม เผยข่าวดี อนนท์ บุญสุโข หายเจ็บฟิตบู๊ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด อาทิตย์ที่ 3 พ.ค. เชื่อเกมสูสี ชี้ผลแพ้ชนะลำบาก

ทีม "กระต่ายแก้ว" สโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี จ่าฝูงไทยลีก 2009 ที่เดินทางไปแข่งขันฟุตบอล สิงคโปร์ คัพ ได้เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 14.45 น. เป็นที่เรียบร้อยแล้วในสภาพที่อ่อนล้าเพราะต้องเดินทางออกจากที่พักตั้งแต่ ช่วงเช้า ซึ่ง มร.ฮานส์ เอ็นเซอร์ กุนซือใหญ่ชาวเยอรมัน ได้ให้นักเตะพักผ่อน 1 วันไม่มีการฝึกซ้อมเพื่อให้ได้ฟื้นคืนสภาพ จะกลับมาทำการฝึกซ้อมกันอีกครั้งในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 30 เม.ย. นี้

ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผู้จัดการทีมสโมสรบางกอกกล๊าส เผยว่า "หลังจบศึกบอล สิงคโปร์คัพ บรรดานักเตะยังมีภารกิจใหญ่ในศึกไทยลีก รออยู่ข้างหน้าโดยในวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค.นี้ เรามีโปรแกรมที่จะต้อนรับการมาเยือนของทีมดัง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 ซึ่งมาถึงวันนี้ทีมเราอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ อาการบาดเจ็บของ อนนท์ บุญสุโข กองกลางตัวตัดเกมก็หายดีแล้ว คนอื่นที่ลงเล่นในสิงคโปร์คัพก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ"

"ส่วนอาการบาดเจ็บกองหน้าตัวเก่ง อาซายี่ ต้องตรวจเช็คอาการอีกครั้งว่าหายบาดเจ็บหรือยัง ถ้าดีขึ้นเราอาจจะเอาลงสนามในนัดนี้เลย ถ้าไม่หายก็คงต้องให้พักต่อไป ซึ่งก็เชื่อว่าการเจอกันในครั้งนี้น่าจะเป็นเกมที่สนุก สูสี และทีมเมืองทองฯ ก็ไม่น่าเหนือกว่าเราเพราะเขาขาดกองหน้าตัวเก่งอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ทำให้ความเฉียบคมในแดนหน้าอ่อนลงไปเยอะ นัดนี้ใครจะชนะใครแพ้ คงพูดกันลำบากต้องตามไปดูที่สนามแข่งขันรับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน" ผจก.ทีม "กระต่ายแก้ว" เผย

ไทยลีกเตรียมสอบ3นักเตะฟาดแข้งนอกลีก

ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง เตรียมเรียก 3 แข้ง ธนา ชะนะบุตร, จีระวัฒน์ แก้วโบราณ, สุทธินันท์ นนที ที่เป็นข่าวไปเดินสายเล่นบอล วังสะพุง คัพ ที่ จ.เลย ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง เพื่อหาข้อเท็จจริง ยันให้ความเป็นธรรมกับสโมสรที่ไม่มีส่วนรู้เห็น ส่วนนักเตะถ้าผิดจริงและไม่รู้ว่ามีกฎระเบียบห้ามแข้งไทยลีกเล่นฟุตบอล รายการอื่น ขั้นแรกอาจจะโดนโทษแบน 2-3 นัด เพื่อเป็นการเตือน ส่วนสโมสรอาจถูกปรับเงิน

จากกระแสข่าวที่มีการแจ้งเบาะแสไปยัง บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ว่ามี 3 นักเตะระดับไทยลีกได้ไปเดินสายเล่นฟุตบอลรายการ วังสะพุง คัพ ครั้งที่ 31 ที่ จ.เลย ได้แก่ ธนา ชะนะบุตร ของทีมพัทยา ยูไนเต็ด, จีระวัฒน์ แก้วโบราณ ของสมุทรสงคราม เอฟซี และ สุทธินันท์ นนที ของราชนาวีระยอง ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรงตามกฏระเบียบของการแข่งขัน ที่ห้ามผู้เล่นในไทยลีกไปเล่นฟุตบอลรายการอื่นโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสโมสรต้นสังกัดของนักเตะนั้นมีโทษถึงขั้นยุบสโมสรเลยทีเดียว

ในเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวสยามกีฬารายวันได้สอบถามไปยัง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ได้รับคำตอบว่า ข่าวที่เกิดขึ้นมีการแจ้งเข้ามา แต่เราในฐานะฝ่ายจัดต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียดก่อน อย่างน้อยต้องสืบว่าข่าวที่แจ้งมาเป็นจริงหรือไม่ และถ้าเป็นจริงก็ต้องดูด้วยว่ามีนักฟุตบอลมากกว่า 3 คนนี้หรือไม่ ซึ่งเราจะให้เป็นความธรรมกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว ไม่ใช่มีข่าวเข้ามาแล้วเราจะลงโทษทันที มันต้องสอบสวนให้ดีก่อน โดยขั้นแรกจะเรียกตัวนักเตะทั้ง 3 คนมาชี้แจงว่าเป็นจริงหรือไม่ที่ไปเดินสายเล่น และยังมีใครอีกหรือเปล่า ส่วนสโมสรต้นสังกัดต้องมีการสอบถามว่ารู้เห็นกับเรื่องนี้หรือไม่ คือต้องแยกกัน เพราะถ้านักเตะทำผิดแล้วสโมสรไม่รู้เรื่องเลย จะลงโทษยุบสโมสรทันทีมันก็ไม่เป็นธรรม

"กรณีถ้าเป็นจริงต้องยอมรับว่ามันเกิดขึ้นครั้งแรก ทั้งที่เราได้แจ้งกฎระเบียบไปยังสโมสรแล้ว เพียงแต่นักฟุตบอลอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และทางสโมสรอาจจะไม่ได้เฝ้าระวังมากนัก ขั้นแรกอย่างที่บอกต้องเรียกมาสอบสวนก่อน และถ้าผิดจริง แต่ว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจจะปรับลงโทษแบนไม่ให้ลงเล่น 2-3 นัดอย่างน้อยเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างถึงนักเตะคนอื่นที่คิดจะทำจะได้รู้ ว่ามีกฎระเบียบนี้อยู่ ส่วนสโมสรอาจจะโดนปรับเงิน ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่จะพิจารณาอีกที" ประธานจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2009 ชี้แจง

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายสมศักดิ์ ศิริธรรม ผู้บริหารสโมสร "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เอฟซี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ได้รับคำตอบว่า ไม่รู้ข่าวคราวเลยว่ามีนักเตะในทีมไปเล่นฟุตบอลในรายการดังกล่าว มารู้จากหน้าหนังสือพิมพ์เช่นกัน เพราะถ้าทราบคงจะห้ามไม่ให้ไปอยู่แล้ว แต่ยังไงเราจะเรียกเจ้าตัวมาพูดความจริงด้วยว่าไปเล่นจริงหรือเปล่า และคงต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก"

ส่วนทีม พัทยา ยูไนเต็ด นายพันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา โค้ชของทีมเผยว่ารู้ข่าวจากสื่อเช่นกัน ซึ่งกำลังสอบถามความจริงอยู่ แต่คิดว่าตัวนักเตะเองอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์มากกว่า

ด้าน "เสี่ยเหมา" กมล สุวรรณเจริญ ผช.ผจก.ทีมราชนาวีระยอง ได้ชี้แจงถึงลูกทีมที่ไปเล่นว่า เกิดขึ้นจริงแต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราปล่อยเทศกาลสงกรานต์ นักเตะได้เดินทางกลับบ้าน แล้วถูกทางผู้ใหญ่ในจังหวัดขอร้องให้ลงเล่นเพราะถือว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ของ จังหวัดแฟนบอลก็อยากชม เจ้าตัวบอกว่าไม่อยากลงหรอก แต่ผู้ใหญ่ร้องขอมาจึงลงไป 10 นาทีเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ ส่วนทางทีมเองก็ไม่รู้เพราะได้ปล่อยนักเตะกลับสงกรานต์ใครจะไปทำอะไรก็ไม่ ทราบเรื่อง ซึ่งก็ขอยอมรับผิดแทนนักเตะด้วย

ศรีราชาเสริมหอกอาร์เจนไตน์

"เสี่ยหน่อง" วีระศักดิ์ หวังกุศล รองประธานสโมสร "มัจฉาสีน้ำเงิน" ศรีราชา เอฟซี เผยถึงเสริมทีมให้แข็งแกร่งขึ้นว่า หลังจากที่ทีมทำผลงานหล่นไปอยู่รองบ๊วย แข่ง 7 นัดมี 5 แต้มเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหากับการจบสกอร์จนพลาดแต้มสำคัญหลายครั้งทำให้ทีมจำ ต้องมีการมีเสริมกองหน้าเข้ามา และไม่ใช่ใครอื่นเป็น กัตตัน กอนซาเลซ แข้งชาวอาร์เจนตินาที่เคยมาค้าแข้งด้วยกันเมื่อปีที่แล้วในระดับดิวิชั่น 1 และสามารถยิงไป 8 ประตู โดยหลังจากทีมขึ้นชั้นมาก็ได้กลับไปค้าแข้งในลีกดิวิชั่น 2 ที่บ้านเกิด เวลานี้ทีมได้ติดต่อขอให้กลับมาช่วยอีกครั้ง โดยกำลังเจรจาในส่วนของค่าเหนื่อย คาดว่ากองหน้าอาร์เจนไตน์น่าจะมาช่วยทีมได้ในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้

แคทฯรั้งฝูงฟุตซอลลีกหลังเฉือนไอแอม สปอร์ต

แคท เทเลคอม ขึ้นนำจ่าฝูงไทยแลนด์ฟุตซอลลีกเป็นครั้งแรกแล้วใน เกมที่ 10 หลังอัด ไอแอม สปอร์ต อดีตผู้นำในเกมบิ๊กแมตช์ 3-2 โดย แข้งตัวเก่ง ไอแอม สปอร์ต ฟรานซิสโก้ แจ็ควัน ที่เข่าเดี้ยงจากจังหวะปะทะในน.7 ต้องหามส่งโรงพยาบาลด่วน อีกคู่ ทีโอทีอัดนนทบุรีตามฟอร์ม 2-0 ฝั่งชลบุรี รั้งรองจ่าฝูงแล้ว ชนะ บางกอกกล๊าส 5-2 ส่วนคู่อื่นๆ กทม.เฉือนม.ศรีปทุม 6-5 ราชนาวีถล่มอาร์แบค 8-2 ทาง ท่าเรือน กลับมาฮอต ชนะ สุราษฎร์ฯ 6-2

การแข่งขันไทยแลนด์ ฟุตซอล ลีก 2009 วันพุธที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา มีฟาดแข้งกัน 6 คู่ ที่ห้องไอส์แลนด์ ฮอลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ รามอินทรา ซึ่งเป็นเกมนัดที่ 10 ของทุกทีม

ม.รัตนบัณฑิต 2- ราชนาวี 8

คู่แรก ม.รัตนบัณฑิต พบ ราชนาวี โดย ม.รัตนบัณฑิตย์อยู่อันดับ 10 มี 6 แต้ม ส่วนราชนาวีอยู่อันดับ 5 มี 12 แต้ม ก่อนเตะราชนาวีเป็นต่ออยู่ราว 1 เม็ด ผลการแข่งขันปรากฏว่า ราชนาวีเล่นเข้าฟอร์มถล่มรัตนบัณฑิตย์หรืออาร์แบคไป 8- 2โดย ราชนาวีได้ประตูจาก ดำรงค์ ภูสมนึก น.4,7,30 เจษฎา ชูเดช น.8,17,34 ชาคริต ดีใจ น.36 และอาร์แบค ทาง ธนากร ปิยะปรีชายุทธ ทำเข้าประตูตัวเอง ส่วนอาร์แบคได้ประตูจาก ธีรพงษ์ บุญรอด น.26 กีรติ โตสะสุตร์ น.26

ม.ศรีปทุม 5 - กทม. 6

คู่ที่สอง เป็นเกมหนีตายท้ายตาราง ม.ศรีปทุม ทีมอันดับสุดท้ายมี 3 แต้มพบ กทม.ทีมอันดับ 9 มี 9 แต้ม เกมคู่นี้บดบี้กันอย่างสนุกครึ่งแรกเสมอ 4-4 และ ม.ศรีปทุมนำไป5-4 แต่สุดท้าย กทม.แรงปลายแซงเข้าป้ายชนะไป 6-5 อย่างตื่นเต้น โดย ม.ศรีปทุมได้จาก วิษณุ โต๊ะทอง น.4,30 นันทวิทย์ วงษ์พิบูลสุข น.4,15 วิชญา รัตนไชย น.7 ส่วนกทม.ได้จาก สรรเพชร แก้วช่วย ตัวทีมชาติคนเดียว 4 ประตู น.2,19,31,39 มนตรี ทรัพย์มี น.14 ธนวรกฤต กัญญาเงิน น.17

นนทบุรี 0- ทีโอที 2

คู่ที่สาม นนทบุรีพบทีโอที โดย นนทบุรี อยู่อันดับ 11 รองบ๊วยมี 7 bแต้ม ส่วนทีโอที มี 19 แต้มอยู่อันดับ 4 ซึ่งก่อนแข่ง ทีโอทีต่อราว 2 เม็ด อย่างไรก็ดีเกมในครึ่งแรกนนทบุรีทานอยู่สมอกัน 0-0 ครึ่งหลัง ทีโอทีเร่งขึ้นมาและมาทำได้ น.28 ณัฐพันธ์ นามบุญมี กระชากขึ้นทางซ้ายถึงเส้นหลังยิงผ่านไปหน้าประตู และเป็น เสริมพันธ์ คุ้มถิ่นแก้ว เข้าฮอสที่เสาสองเป็น 1-0 จากนั้น น.34 ณัฐวุฒิ คงนิมิตร ได้หลุดเดี่ยว คลึงบอลฝ่าเท้าหลอกประตูด้วยอีขวาแล้วกดซ้ายลอดตัวโกล์เข้าไปเป็น 2-0 และ ทีโอที ชนะด้วยสกอร์นี้

แคท เทเลคอม 5 - ไอแอม สปอร์ต 2

คู่ที่สี่ บิ๊กแมตช์ระหว่างจ่าฝูงพบรองจ่าฝูง แคท เทเลคอม กับ ไอแอม สปอร์ต โดย แคท เทลคอม อยู่อันดับ 2 มี 20 แต้ม ส่วน ไอแอม สปอร์ต จ่าฝูงมี 22 แต้ม คู่นี้ใครชนะจะได้ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง ลงสนามมาทั้งสองทีมขนขุนพลแซมบ้าลงสนามกันครบครัน ทาง แคท มี ดาซูซ่า กับ โรเจอร์ริโอ้ ส่วน ไอแอม มี เมเคิ่ล กับ แจ็คสัน เกมเริ่มมา ไอแอม สปอร์ต นำไปก่อนจาก แจ็คสัน ดาวยิงประจำทีม ที่ลากไปยิงมุมแคบฝั่งขวาเข้าเสาสอง น.6 แต่ ไอแอม มัวแต่ดีใจ พอเอาบอลมาตั้ง แคท ก็ทำเกมขึ้นไปตีเสมอได้นาทีเดียวกันจาก ดาซูซ่า ที่หลุดไปทางซ้ายก่อนอัดมุมแคบเข้าเหมือนกันเป็น 1-1

นาทีถัดมา แจ็คสัน ตัวเก่งของ ไอแอม โดนผู้รักษาประตูของแคท เข้าปั๊ม จนเข่าพังต้องหามส่งโรงพยาบาลกรุงเทพเป็นการด่วน ไอแอม สปอร์ต เสียตัวผู้เล่นสำคัญไปเกิดอาการเป๋ จึงมาโดนอีก 2 ประตูรวดจาก โรเจอร์ริโอ้ น.10 และ 17 ครึ่งแรก แคทนำ 3-1 ครึ่งหลัง ไอแอม แก้เกมลงมาใหม่ และมาไล่เป็น 2-3 น.27 จาก ตั้ม ทิมมานนนท์ แต่สุดท้าย อลงกรณ์ ประทุมวงศ์ มายิง 2 ประตูดับความหวังของ ไอแอม สปอร์ต ใน น.36 และ น.39 จังหวะที่ไอแอม สปอร์ตดันขึ้นสูง หมดเวลา แท เทเลคอม ขึ้นไปนำจ่าฝูงแทนแม้ยังไม่ได้ ฟัลเกา นักฟุตซอลยอดเยี่ยมของโลกชาวบราซิลมาร่วมทีมก็ตาม

ชลบุรี บลูเวฟ 5 - บางกอกกล๊าส 2

คู่ที่ 5 ชลบุรี บลูเวฟ ทีมอันดับ 3 มี 19 แต้ม พบกับ บางกอกกล๊าส ทีมอันดับ 6 มี 12 แต้ม เกมนัดนี้ ชลบรี บลูเวฟ ถล่มเอาชนะ 5-2 จากฝีเท้าของ ศราวุฒิ เถื่อนกลาง น.4, เกียรติยศ เฉล้มเขตร์ น.25, พนมกรณ์ สายสอน น.26, 37 ภานุวัฒน์ จันทา น.38 ด้าน บางกอกกล๊าส ได้ประตูจาก กิตติพงษ์ โพธิ์ชัย น .3,.35 ทำให้ชลบุรี ขยับขึ้นเป็นรองจ่าฝูงทันที

การท่าเรือฯ 6- สุราษฎร์ธานี 2

คู่สุดท้ายของวัน การท่าเรือ อันดับ 8 มี 11 แต้ม ลงสนามพบกับ สุราษฎร์ธานี อันดับ 7 มี 11 แต้มเท่ากัน เdมนัดนี้ การท่าเรือฯ เอาชนะไปได้สบายๆ 6-2 จากฝีเท้าของ มนัส มัดตอฮา น.6, นพพร เสร็จธุระ น.32, วิวัฒน์ ศรียานงค์น.36, จเด็ด พูลเพิ่ม น.38, ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน น.39, สุชิน เอี่ยมฉลาด น.40 ทาง สุราษฎร์ฯ ได้จาก นที ธุศิริ น.2, ริสกี นุงอาหลี น.40 ทำให้ท่าเรือฯ เก็บ 3 แต้มได้อีก

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไปวันที่ 3 พ.ค.นี้ เริ่ม 10.00 น.ที่แฟชั่นไอส์แลนด์ ทีโอที พบ กรุงเทพมหานคร, สุราษฎร์ธานี พบ นนทบุรี, ไอแอมสปอร์ต พบ ม.ศรีปทุม,การท่าเรือฯ พบ แคท เทเลคอม,ราชนาวี พบ ชลบุรี,บางกอกกล๊าส พบ รัตนบัณฑิต, บางกอกกล๊าส พบ ม.รัตนบัณฑิต

Tuesday, April 28, 2009

รีด เอาแน่เตรียมใช้บริการ ปีเตอร์ แลงก์ ร่วมทัพ

ปีเตอร์ รีด เอาแน่เตรียมใช้บริการแข้ง "ลูกครึ่งไทย-สวิส" ปีเตอร์ แลงก์ ร่วมทัพขุนพล 23 ปี ป้องกันแชมป์ซีเกมส์ 25 ที่ลาว เผยประสบการณ์ในสังเวียนแข้งอาชีพโชกโชน ผ่านดงแข้งสวิส และเคยเล่นลีกา 2 ของเยอรมันมาแล้ว เตรียมเรียกมาร่วมทีมไทยอุ่นเครื่อง เดือน มิ.ย.นี้ พร้อมตระเวนดูนักเตะอายุไม่เกิน 23 ปี ฝีเท้าเยี่ยมมาร่วมทีมซีเกมส์

หลังจาก ปีเตอร์ รีด กุนซือชาวอังกฤษของทีมชาติไทย ได้รับมอบหมายให้ดูแลทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ป้องกันแชมป์ฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ลาว จะเป็นเจ้าภาพ ช่วงปลายปีนี้ พร้อมกับมีข่าวฮือฮา เมื่อ ปีเตอร์ แลงก์ นักเตะลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ ปัจจุบันเล่นอยู่ ชาลเลนจ์ลีก ลีกดิวิชั่น 2 สวิตเซอร์แลนด์ กับทีม ชาฟฟ์เฮาเซ่น สนมาร่วมคัดตัวกับทีมชาติไทย รวมไปถึงลูกครึ่งไทย-อังกฤษ วัย 19 ปี จอร์จ ซูเนอร์ ที่ค้าแข้งอยู่กับทีมนอกลีกของอังกฤษ กับสโมสรแกรนแทม ทาวน์ และลูกครึ่งไทย-ไอริช วัย 18 ปี ปีเตอร์ เจอร์ราสจี ซึ่งเล่นทีมเยาวชนในลีกไอร์แลนด์

เรื่องนี้ "เสี่ยง้วน" ธารา พฤกษ์ชอุ่ม ผช.เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ในฐานะล่ามประจำตัวผู้ดูแล ปีเตอร์ รีด กุนซือใหญ่ ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า "ตามที่นักเตะ 3 รายที่เป็นลูกครึ่งได้เสนอตัวติดต่อเข้ามาว่า ต้องการร่วมรับใช้ชาติในชุดซีเกมส์แต่เมื่อทาง ปีเตอร์ รีด ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าฝีเท้าและประสบการณ์ยังไม่เข้าตาเท่าไหร่"

แต่กับรายของ ปีเตอร์ แลงก์ นี้เมื่อดูโปรไฟล์ส่วนตัวของนักเตะรายนี้ที่เล่นในตำแหน่งกองหลังและ มิดฟิลด์ตัวรับได้แล้ว ต้องถือว่าไม่ธรรมดาจัดอยู่ในระดับของจริง โดยเป็นลูกครึ่งแม่ไทย พ่อเป็นสวิตเซอร์แลนด์ ปัจจุบันเล่นอยู่ในลีกดิวิชั่น 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ หรือ ชาลเลนจ์ลีก กับทีม ชาฟฟ์เฮาเซ่น อยู่

โดยนักเตะรายนี้เคยผ่านการเล่นระดับเยาวชนให้กับทีมต่างๆ มาแล้วหลายทีมทั้ง ไฟร์บวร์ก ในลีกา 2 ของเยอรมัน 11 นัด, ทีม เอฟซี บาเซิล ชุดยู 21 ในสวิตเซอร์แลนด์ 2 ฤดูกาลเล่นไป 53 นัด ยิงได้ 2 ประตู ฤดูกาล 2007-2008 เล่นให้กับ ชาฟฟ์เฮาเซ่น ยิงไป 23 นัดยิงไป 1 ประตู ล่าสุดสัญญาฉบับใหม่กับทีมต้นสังกัดปัจจุบันนี้มีถึงวันที่ 10 มิ.ย. 2553 เลยทีเดียว โดยคาดว่าราวเดือน มิ.ย. ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ มีคิวลงอุ่นเครื่องนั้นปีเตอร์รีด จะเรียกตัวนักเตะรายนี้มาทดสอบฝีเท้าดูอย่างแน่นอน

ส่วนการเดินหน้าเตรียมทีมชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 25 นั้นขณะนี้ ปีเตอร์รีด พร้อมทีมงานอย่าง สตีฟ ดาร์บี้ ได้เดินทางตะเวนดูฟอร์มนักเตะของทีมต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกลุ่มทีมที่มีนักเตะฝีเท้าดีและอายุยังไม่เกิน 23 ปีเป็นหลัก

แจงแฟนบอลก่อจลาจลเบื้องต้นปรับ3หมื่น

โยนเผือกร้อนให้ อุดม อนันตพงษ์ ประธานพิจารณามารยาท และข้อประท้วงพิจารณาโทษ กรณีที่กองเชียร์ชลบุรีและการไฟฟ้าฯ ก่อจลาจล เกมวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังเชิญคนควบคุมการแข่งขันและผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล หากผิดจริงอาจจะต้องโดนตักเตือนและปรับไม่เกิน 30,000 บาท โดยให้ประธานพิจารณามารยาทแจ้งบทลงโทษและเสนอต่อคณะกรรมการอีกครั้งวันที่ 1 พ.ค. นี้

ความคืบหน้าเกี่ยวกับการก่อการจลาจล ขว้างปาสิ่งของและขวดน้ำ ของ 2 แฟนบอล ระหว่างทีมการไฟฟ้าฯ กับทีมชลบุรี เอฟ.ซี. ในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้มีแฟนบอลได้รับบาดเจ็บ และทางฝ่ายจัดการแข่งขันไทยลีก เตรียมหารือเพื่อลงโทษเหตุการณ์ดังกล่าว

เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอล องอาจ ก่อสินค้า เลขา ส.ฟุตบอล พร้อมด้วย อุดม อนันตพงศ์ ประธานพิจารณามารยาท และข้อประท้วง, สมศักดิ์ อ่อนสมา พร้อมด้วยคณะกรรมการควบคุมการแข่งขัน ได้มีการประชุม และสอบถามข้อมูลกับ ศราวุธ ประทีปกรณ์ชัย ประธานควบคุมการแข่งขัน และ ไกรสรณ์ พันธ์เพียร ซึ่งไม่ได้ทำหน้าที่ในนัดดังกล่าว แต่ได้เดินทางมาชมเกมการแข่งขันเนื่องจากเป็นชาว จ.อยุธยา

ทั้งสองคนให้ข้อมูลที่ตรงกัน คือหลังจากที่ นายอภิภู สุนทรพนาเวศ ผู้เล่นของการไฟฟ้าฯ ยิงประตูตีเสมอได้ 2-2 หลังจากที่ทีมตามอยู่ ได้แสดงอาการดีใจค่อนข้างเว่อร์ ทำให้ฝ่ายกองเชียร์ของ จ.ชลบุรี ไม่สามารถรับกับอาการดังกล่าวได้ จึงได้มีการขว้างปา สิ่งของและขวดน้ำลงไปในสนาม จากนั้นกองเชียร์ของการไฟฟฟ้าฯ ที่นั่งอยู่อีกฝั่งได้ปาขวดน้ำเข้าใส่กองเชียร์ของ ชลบุรี จนเหตุการณ์บานปลาย ถึงขั้นมีกองเชียร์ศีรษะแตกตามที่ปรากฏเป็นข่าว

จากนั้นที่ประชุมได้มีมติว่า จะยกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ อุดม อนันตพงษ์ ในฐานะประธานพิจารณามารยาท และข้อประท้วงนำเหตุการณ์ทั้งหมดนำไปพิจารณาลงโทษ จากนั้นให้ส่งเรื่องถึงคณะกรรมการไทยพรีเมียร์ลีก เพื่อนำไปเสนอที่ประชุมวันที่ 1 เม.ย. ที่ รร.เรดิสันเวลา 14.00 น. เพื่อแจ้งให้ทราบและพิจารณาหาข้อแก้ไขต่อไป

พร้อมกันนั้นในที่ประชุมได้มีการเสนอแนะให้มีการกำจัดขวดน้ำ, เหล้า, เบียร์นำเข้าไปในสนาม แต่จะให้ดื่มข้างนอกหรือบรรจุใส่พลาสติกเข้าไป แต่ก็มีข้อขัดแย้งอีกว่า บางสนาม ไม่สามารถดำเนินการตรงนี้ได้เนื่องจากแฟนฟุตบอลบางส่วนไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าไป ชมบนที่นั่ง แต่เกาะรั้วรอบสนาม สามารถนำขวดเหล้าหรือวัสดุอย่างอื่นเข้าไปได้ ที่ประชุมจึงได้เพิ่มเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในแต่ละสนามให้มากขึ้น โดยเฉพาะจ้าหน้าที่ควรยืนเรียงรายรอบสนามไม่ใช่ยืนดูฟุตบอล

หลังจากประประชุม อุดม อนันตพงษ์ กล่าวว่า "เรื่องของบทลงโทษ ตอนนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าจะลงโทษตามข้อไหน และต้องลงโทษอย่างไร เพราะต้องนำข้อมูลทั้งหมดนำไปประมวลอีกครั้ง แต่ตามกฎคงจะพิจารณาตามระเบียบที่ว่าด้วยเรื่องการพิจารณามารยาท ความประพฤติ พร้อมบทลงโทษของผู้เกี่ยวข้องกับทีมและการแข่งขัน"

"ซึ่งได้แจกให้กับทุกทีมได้รับทราบแล้ว คือข้อที่ 1 ว่าด้วย กรณีผู้สนับสนุนทีม (กองเชียร์) ก่อความวุ่นวาย (ทั้งสองฝ่าย) ก่อนหรือขณะทำการแข่งขันหรือหลังการแข่งขันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย บทลงโทษครั้งที่ 1 ว่ากล่าวตักเตือนและ/หรือ ปรับเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท และ/หรือ สมดุลกับเสียหายที่เกิดขึ้น กับสโมสรนั้นๆ"

"เรื่องนี้คงใช้เวลาอีกช่วงหนึ่งของการทำงาน แต่ยอมรับว่าการทำในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เนื่องจากทั้งสองทีมไม่สามารถควบคุมกองเชียร์ได้ แต่ในเมื่อจะเป็นอาชีพก็ต้องช่วยกันทำ ที่สำคัญคณะกรรมการควบคุมการแข่งขัน และกรรมการในสนามจะต้องมีไหวพริบและต้องมีความเด็ดขาด ช่วงที่ทำหน้าที่ด้วย ไม่ใช่ปล่อยเลยตามเลยจนเหตุการณ์บานปลาย"

"แม้ว่าบทลงโทษจะไม่มีการยืนยันว่ามีผลออกมาอย่างไร ส่วนของชลบุรี อรรณพ สิงโตทอง ผจก.ทีมจ.ชลบุรี ได้ออกมาสนับสนุนให้มีการหักเงินหรือลงโทษ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้แต่ละทีมมีความรับผิดชอบต่อแฟนฟุตบอล และสะดวกในการทำหน้าที่ อีกทั้งยังเป็นบรรทัดฐานของการแข่งขันด้วย"

"พร้อมกันนั้นยังได้เสนอแนะว่า เมื่อพิจารณาโทษตรงนี้แล้ว อยากให้คณะกรรรมการทั้งหมด นำเอาแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนำมาพิจารณาเป็นรายๆ ไป เริ่มตั้งแต่ชนวนของการดีใจ, การเริ่มขว้างปา รวมถึงการตอบโต้ ทั้งนี้เพื่อจะได้ลงโทษของคนทำผิดต่อไป"

ด้าน ประพล พงษ์พานิช กุนซือทีมการไฟฟ้า กล่าวว่า "ทางการไฟฟ้าฯ รับได้อยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอกเตือนไปยังไทยพรีเมียร์ลีกคือ ต้องมีการวางกฎเกณฑ์ ดูแลทีมหรือเปล่า ก่อนที่จะมาปรับ ตัวเองต้องทำงานให้ดีก่อน ตรงนี้บางครั้งผมยังมองว่าไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ แต่ในเมื่อมันผิดและต้องรับโทษเราก็พร้อมไม่มีปัญหา"

ขณะที่ อภิภู สุนทรพนาเวศ ซึ่งเป็นคนยิงประตูตีเสมอให้กับเจ้าถิ่น และได้ไปแสดงอาการดีใจต่อหน้าแฟนบอลชลบุรี จนเป็นที่มาของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ได้ออกมาแสดงสปิริตว่า "จังหวะที่ผมยิงประตูเข้า วิ่งไปดีใจต่อหน้าแฟนฟุตบอลชลบุรีจริง จะว่าไปแล้วตอนนั้นมีนักเตะการไฟฟ้าหลายคนมาแสดงความดีใจด้วย"

"ตอนที่ชลบุรียิงนำเราไป 2-0 ผู้เล่นของชลบุรีก็มาดีใจต่อหน้าเราไม่เห็นมีอะไร แต่พอผมยิงเข้ากลับเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา ผมไม่คิดว่าจะวุ่นวายถึงขนาดนี้ แต่ถ้าผมเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ผมก็ต้องขอโทษ โดยเฉพาะแฟนชลบุรีที่โกรธ ผมอยากให้ทุกอย่างจบ ผมขอโทษอีกครั้ง" อภิภู ทิ้งท้าย

เมืองทองเปิดโค้ชแต๊กโวแชมป์ไทยลีก

"โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม กุนซือป้ายแดง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด มาแล้ว ประกาศพาทีมซิวแชมป์ไทยลีกทันที เชื่อศักยภาพ และแรงหนุนพาประสบความสำเร็จ ส่วนแผนการเล่นยึดระบบ 4-5-1 เหมือนเดิมแต่เตรียมปรับเกมให้เร็วเร้าใจยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 52 ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. ที่ห้องแถลงข่าว สนามธันเดอร์โดม สนามเหย้า ของ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้แถลงข่าวเปิดตัว "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม กุนซือคนใหม่ของทีม ที่เข้ามาทำทีมแทน "โค้ชหมี" สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ โดยมี โรเบิร์ต โปโคเรอ ผจก.ทีม พร้อมด้วย โค้ชคนใหม่ อรรถพล บุษปาคม และ "โค้ชหมี" สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ อดีตโค้ชใหญ่เมืองทองฯ มาร่วมแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย พร้อมกับสื่อมวลชน

โรเบิร์ต โปโคเรอ ผจก.ทีม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งโค้ชว่า "ต้องขอบคุณ "โค้ชหมี" สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ ก่อนที่พาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 และตอนนี้ผ่านไปแล้ว 7 นัด ยังอยู่อันดับ 4 มี 13 คะแนน เราเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของผลงานแม้แต่น้อย แต่เราต้องการปรับทีมเมืองทองฯ ให้เป็นมาตรฐานระดับยุโรป เป็นมืออาชีพเต็มที่"

ผจก.ทีมเมืองทองฯ ได้กล่าวต่อไปว่า "โค้ชหมี ได้พูดคุยตลอดว่ามีเวลาให้กับทีมได้ไม่เต็มที่ อยากให้หามองโค้ชคนใหม่ที่สามารถทุ่มเวลาให้กับทีมได้เต็มร้อย และเราก็ได้ข้อสรุปที่ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม ซึ่งถือว่ามีฝีมือผ่านประสบการณ์ระดับสโมสรและระดับชาติมาก มาคุมแทนเชื่อว่าจะสานต่อกันได้อย่างดี ส่วนโค้ชหมี จะดันไปเป็นโค้ชระดับเยาวชน สำคัญไม่แพ้โค้ชทีมใหญ่เหมือนกัน เนื่องจากการปั้นเด็กอายุ 14-15 ปี เพื่อเป็นอนาคตให้กับทีมในวันข้างหน้า ถือว่าเป็นพื้นฐานที่มองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว"

ส่วน "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม กุนซือใหญ่ของทีม ได้กล่าวว่า "ต้องขอบคุณทางผู้บริหารทีมที่ให้โอกาสทำทีมอีกครั้ง เพราะเมื่อต้นฤดูกาลทำผลงานไม่ดีเลย กับทีม ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร จนต้องรับผิดชอบลาออกมา"

"การมารับงานเมืองทองฯ ครั้งนี้ถามว่ากดดันหรือเปล่า ตอบได้เลยว่าไม่ เพราะที่ผ่านมา ผมผ่านความกดดันมาเยอะ ส่วนเป้าหมายแม้ว่าทางผู้บริหารจะไม่ได้กะเกณฑ์มา แต่เท่าที่พูดคุยและมองจากศักยภาพทีมคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากการพา เมืองทองฯ คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้"

"เท่าที่ดูการเล่นของทีมเมืองทองฯ คงจะไม่ปรับอะไรเยอะ ยึดระบบ 4-5-1 เหมือนเดิมไปก่อน แต่จะเพิ่มสปีดเกมให้เร็วให้เร้าใจกว่าเดิมเพื่อชัยชนะของทีมมากขึ้น ตรงนี้คงทำงานได้ไม่ยากเนื่องจากศักยภาพนักเตะที่มีอยู่สามารถปรับสไตล์การ เล่นและจุดประสงค์ที่เราต้องการลงในสนามให้กับนักเตะทำได้ง่ายด้วย ส่วนเรื่องค่าตอบแทนก็ได้พอๆ กับ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ประมาณ 1 แสนบาท เรื่องสัญญาระยะเวลาทำทีมค่อยคุยกันอีกที แต่คงอยู่ยาวถึงจบฤดูกาลนี้ไปก่อน" โค้ชแต๊ก กล่าวปิดท้าย

ด้าน "โค้ชหมี" สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ ได้เปิดใจหลังจากแสดงสปิริตลาออกว่า "ลาออกแล้วก็ไม่ได้ไปไหนก็ยังทำเยาวชนให้กับทีมเมืองทองฯ เหมือนเดิม เพราะก่อนหน้านี้ค่อนข้างจะอึดอัดเนื่องจากมีภาระกิจคุมทั้งฟุตซอลทีมราช นาวี และทีมเมืองทองฯ ด้วย ซึ่งการทำ 2 อย่างถือว่าไม่ใช่อาชีพและได้คุยกับ โรเบิร์ตฯ ผจก.ทีม ให้หาโค้ชมาเปลี่ยน สุดท้ายก็ได้ "พี่แต๊ก" อรรถพล บุษปาคม เข้ามา เชื่อว่าพี่แต๊กมีความสามารถอยู่แล้ว น่าจะพาทีมประสบความสำเร็จ ได้ไม่ยากอย่างแน่นอน"

สำหรับ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม กุนซือใหญ่ป้ายแดงของทีมเมืองทองฯ จะนำลูกทีมไปเยือน เด็กเก่าของตัวเองอย่าง บางกอกกล๊าส จ่าฝูง ไทยลีก ที่เปลี่ยนแปลงมาจาก ธ.กรุงไทย ซึ่ง "โค้ชแต๊ก" คุมคว้าอันดับ 6 ในฤดูกาลที่แล้ว ที่สนามเฉลิมพระเกียรติคลอง 6 เวลา 16.00 น. วันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. นี้ ด้วย

Sunday, April 26, 2009

หวั่นบอลไทยลีกพัง หนีเดินสายที่ลอดช่อง

เกจิลูกหนังไทยออกโรงเตือนศึกไทยพรีเมียร์ลีก มีสิทธิ์ไม่ผ่านเกณฑ์ตรวจสอบมาตรฐาน หลังโปรแกรมมีการสับเปลี่ยนเวลา และสนามแข่งขันถี่ยิบ แถมปัญหา 2 ทีม แหกกฎระเบียบเดินสายไปเล่นที่ "สิงคโปร์ คัพ" อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ชี้สมาคมฟุตบอลอย่าเป็นเสือกระดาษ ต้องเร่งแก้ไขด่วนก่อนลีกในบ้านตัวเองจะพัง

หลังจากที่มีข่าวการเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลสิงคโปร์ คัพ ของ 2 สโมสรในไทยพรีเมียร์ลีก คือ บางกอกกล๊าส และทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วถึงความไม่เหมาะสม ล่าสุด “คม ชัด ลึก” ได้รับการเปิดเผยจากเกจิผู้คร่ำหวอดในวงการฟุตบอลไทยลีกช้านานว่า กรณีนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง สมาคมไม่น่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว อย่างน้อยการที่มอบหมายให้บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบไปแล้ว ทุกอย่างน่าจะเข้ารูปเข้ารอย
“เวลานี้ถือว่าฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ยังไม่เป็นมืออาชีพอยู่ เพราะระเบียบการแข่งขันระบุเอาไว้ชัดเจนว่าห้ามไปแข่งขันในทัวร์นาเมนต์อื่น ที่มีระยะเวลาเกิน 30 วัน แต่เขาเอาช่องว่างที่ไม่ได้ระบุว่า เป็นเกมต่างประเทศ และได้ขออนุญาตผ่านสมาคมไปแล้ว เท่าที่ทราบเรื่องนี้ก่อนหน้าไม่มีการขออนุญาต แต่อุบอิบทำกันเอาเอง จนเป็นข่าวจึงมาทำเรื่องขอ”
เกจิลูกหนังรายเดิมกล่าวอีกว่า แน่นอนข้อโต้แย้งที่กล่าวว่า สิงคโปร์ คัพ เป็นรายการที่เอเอฟซีรับรอง เราคงไม่เถียง เพราะทุกทัวร์นาเมนต์ที่อยู่ภายใต้สมาคมสมาชิกล้วนแต่ต้องขออนุญาตด้วยกัน ทั้งสิ้น
"ตอนนี้ที่น่าห่วงคือการแสวงหาผลประโยชน์แบบเห็นแก่ตัว จะทำให้วงการฟุตบอลไทยไม่พัฒนาไปสู่อาชีพได้อย่างเต็มที่ เพราะเมื่อไปแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ จะเห็นได้ว่ากระทบต่อโปรแกรมการแข่งขันในประเทศมาตลอดเวลา 5 ปี ที่สำคัญไม่มีประเทศใดในโลกที่เขาส่งทีมชุดใหญ่ที่กำลังแข่งขันในลีกหลักของ บ้านตัวเองไปแข่งขันเหมือนกับไทย หรือหากจะเป็นทีมชุดใหญ่ไปแข่งจริง เขามักจะรอในช่วงปิดฤดูกาลก่อน
เกจิลูกหนังกล่าวทิ้งท้ายว่า คงไม่ต้องถามว่าถ้าเราจัดเอฟเอ คัพ แล้วเชิญทีมจากสิงคโปร์ หรือชาติใกล้เคียงมา เขาจะยินดีหรือไม่ และหากสมาคมยังคงปล่อยให้ปัญหาเนิ่นนานไป โอกาสที่ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกจะ ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของการกีฬาแห่งประเทศไทยก็มีสูง อย่างน้อยโปรแกรมการแข่งขันในปีนี้ที่แข่งขันผ่านมา 7 นัด ยังไม่นิ่งมีการเปลี่ยนแปลงสนามแข่งขัน เวลาแข่งขันกันอยู่ตลอด หากต้องมาปรับโปรแกรมเพื่อเอื้อให้ 2 ทีมที่ไปเล่นสิงคโปร์ คัพ อีกน่าจะเป็นปัญหาใหญ่

“โรจน์” ฟุ้งร่างกายปึ้ก พร้อมหวนคืนทีมชาติ

“เจ้าโรจน์” รุ่งโรจน์ สว่างศรี ปราการหลังฝีเท้าดีของ “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี พร้อมแล้วที่จะกลับมาทวงทีมชาติ ลั่นศึกไทยพรีเมียร์ลีก หากรักษามาตรฐานสม่ำเสมอมีโอกาสคว้าแชมป์สูง

ได้ชื่อว่าเป็นกองหลังที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมคนหนึ่งของเมืองไทย สำหรับ "เจ้าโรจน์" รุ่งโรจน์ สว่างศรี อดีตนักเตะทีมชาติไทยจากโรงเรียนวัดสุทธิวราราม หรือ "สิงห์สะพานปลา" เมื่อหลายปีที่แล้ว ถึงขนาดรุ่นพี่อย่าง "เจ้าดำ" นที ทองสุขแก้ว อดีตปราการหลังทีมชาติไทย ถึงกับเอยปากว่าจะเป็นทายาทในตำแหน่งกองหลังคนต่อไป เพราะเรื่องทักษะเบสิกและเรื่องหัวใจดีเดือดเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ทว่ายังไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ เพราะบาดเจ็บต้องผ่าตัดหัวเข่าถึง 2 ครั้ง และเพิ่งจะกลับมาลงสนามได้อีกเมื่อไม่นานนี้

ล่าสุด รุ่งโรจน์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ต้องผ่าตัดหัวเข่าที่ถือเป็นจุดสำคัญในการเล่นฟุตบอลถึง 2 ครั้ง จนเกือบจะประกาศเลิกเล่นไปแล้ว เพราะต้องใช้เวลารักษาตัวนานพอสมควร แต่อาการบาดเจ็บดีขึ้นเรื่อยๆ จนหายเป็นปกติสามารถลงสนามช่วยทีมได้เต็มที่แล้ว ถึงตอนนี้ร่างกายพร้อมเต็มที่แล้วกับศึกไทยพรีเมียร์ลีกที่กำลังเริ่มขึ้น

“ตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าสภาพร่างกายและความฟิตต่างๆ ของผมพร้อมแล้วที่จะกลับมาทวงตำแหน่งกองหลังทีมชาติไทย แต่ก็ขึ้นอยู่กับโค้ชและสมาคมฟุตบอลด้วยว่าจะให้โอกาสหรือไม่ ส่วนการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ด้วยสภาพทีมของบางกอกกล๊าส ถือว่าทุกขุมกำลังแข็งแกร่งมาก หากรักษามาตรฐานการเล่นได้สม่ำเสมอ โอกาสที่จะซิวแชมป์มาครองก็น่าจะมีสูง”

ส.ฟุตบอลตั้งเฉลิมวุฒิคุมยช.19 ปี

นายวรวีร์ มะกูดี มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมฟุตบอลได้ประชุมกับ ผจก.ทีม ยช.19 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตกลงดึง เฉลิมวุฒิ สง่าพล เข้ามาทำทีม เนื่องจากเป็นโค้ชที่ได้รับการยอมรับทั้งการทำทีมและความสามารถในอดีตที่ เล่นฟุตบอล เด็กทุกคนรู้จัก และเหนือสิ่งอื่นใดเป็นโค้ชที่ทำทีมแบบเต็มเวลา เพราะไม่ได้ทำทีมใดทีมหนึ่ง



วิสิษฐ ก่อวรกุล ผจก.ทีม บอกว่า ก่อนหน้าได้พูดคุยกับเฉลิมวุฒิ บ้างแล้ว และเจ้าตัวก็พร้อมเต็มที่ จากนี้ไปจะให้กุนซือคนดังกล่าวไปเขียนโครงสร้างมา ส่วนตนวางแผนการเตรียมทีมเอาไว้แล้วระหว่างวันที่ 5-15 ส.ค.จะนำทีมเดินทางไปแข่งขันศึกชิงแชมป์อาเซียน ที่เวียดนาม จากนั้นเดือน ต.ค.จะส่งทีมไปเวียดนามอีกครั้งแข่งขันรายการตัน เนียนคัพ ก่อนยกพลไปภูเก็ต เพื่อแข่งขันเยาวชน 19 ปีรออบคัดเลือกวันที่ 1-15 พ.ย.

กิเลนผยองเจ๊าไร้สกอร์,พลังเอ็มใจเกินร้อย

ฝนทำพิษ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯเช็กบิล ศรีราชาฯไม่ลง เจ๊าเดือด 0-0 พร้อมกับ 2 ใบแดงของ ปกาศิต แสนสุข และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ด้าน''พลังเอ็ม'' เฉือนชนะ บีอีซี เทโรศาสน อย่างสนุก 3-2, ''สิงห์เจ้าท่า''แซง ราชนาวี-ระยอง 2-1, ส่วน ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร ไล่ถล่ม นครปฐม 4-0 ในเกมไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เมื่อ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา ลงฟาดแข้งกัน 4 คู่ จาก 4 สนาม ผลการแข่งขันมีดังนี้

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 0-0 ศรีราชา เอฟซี

ที่สนามธันเดอร์โดม "กิเลนผยอง" เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ ศรีราชา เอฟซี เกมนี้เจ้าถิ่น "กิเลนผยอง" หมดสิทธิ์ใช้งานดาวยิงทีมชาติไทยอย่าง "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ที่ได้รับบาดเจ็บไหปลาร้าต้องพักยาว 6 สัปดาห์ ขณะที่ผู้เล่นตัวหลักยังอูย่กันครบทีมทั้ง ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว พร้อม สุริยา ดอมไธสง ด้าน ศรีราชาฯ นำทัพโดยหัวหอกจอมเก๋าอย่าง สนอง ชัยประโคม ลงล่าตาข่าย

เริ่มครึ่งแรกเจ้าถิ่นเปิดเกมบุกทันที ก่อนโดนลูกสวนกลับของ ศรีราชา เอฟซี น.3 สุภภรณ์ พรหมพินิจ ขึ้นบอลทางฝั่งขวาแล้วโยนเข้าหนาประตูให้ สนอง ชัยประโคม เข้าชาจร์ แต่ไม่ผ่าน เจษฎา จิตสวัสดิ์ ปราการหลังกัปตันทีม กิเลนผยอง

จากนั้นเกมเปิดแลกกันมากขึ้น น.12 สนอง ชัยประโคม ได้ซัดนอกเขตโทษบอลหลุดเสาแบบมีลุ้น น.15 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว แตะบอลหลบกองหลังศรีราชา เอฟซี ก่อนสับไกหน้าเขตโทษ แต่ยังตรงตัว นันทพล ศุภไทย ผู้รักษาประตูทีมเยือน

น.19 ยาย่า กระซากบอลหลุดมาทางซ้าย ก่อนเปิดให้ สุริยา ดอมไธสง ขึ้นโขกตรงตัว นันทพล แต่รับไม่อยู่ต้องชกออกมา เข้าทาง พิเชษฐ์ อินทร์บาง แล้วไหลให้ ดานโก้ เซียก้า ซัดแถวสองข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

น.26 เมืองทองฯ ได้ลุ้นจากลูกเตะมุมฝั่งขวา ยาย่า โยนเข้าหาประตูเป็น ดานโก้ เซียก้า ขึ้นโขกเต็มๆ บอลเฉียวคานออกหวุดหวิด น.28 สุภภรณ์ พรหมพินิจ ของศรีราชาฯ รับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม

น.33 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ยิงหน้ากรอบเขตโทษบอลมุดลงพื้นทำให้ นันทพล รับกระฉอก ก่อน พิเชษฐ์ อินทร์บาง ตามมาซ้ำแต่ไม่โดนบอล กรรมการต้องเป่าหยุดเกมหลังผู้รักษาประตูได้รับบาดเจ็บ

น.41 เมืองทองฯ ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะหวังผลหน้าเขตโทษแต่ ยาย่า รับหน้าที่ปั่นโค้งออกหลังอย่าน่าเสียดาย น.44 ยาย่า กระซากบอลหลบผู้เล่นศรีราชาสองคน ก่อนเปิดมาหน้าประตูให้ พิเชษฐ์ อินทร์บาง วิ่งมาซัดแต่โดน นันทพล ศุภไทย พุ่งออกมาเซฟไว้ได้หวุดหวิด นาทีถัดมา ปกาศิต แสนสุข ของเจ้าถิ่นรับใบเหลืองคนที่สอง ก่อนจบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังเริ่มไม่ถึงนาที เมืองทองฯ ได้ลุ้นก่อนจากลูกเตะมุมด้านซ้าย พิชิตพงษ์ เฉยฉิว โยนเข้าหัว ดานโก้ เซียก้า โขกเต็มบอลพุ่งชนคานอย่างจัง น.48 พิชิตพงษ์ ทะลวงเข้าหน้าเขตโทษก่อนสับไกแต่ไม่ตรงกรอบ น.50 กิเลนผยอง ยังบุกหนักขึ้นทางซ้ายแล้วโยนมาหน้าประตู นันทพล ออกไปชกบอลมาเข้าทาง พิเชษฐ์ อินทร์บาง ยิงไกลบอลเฉียวเสาออกหลังไปแบบมีลุ้น

นาทีถัดมา ศรีราชา เอฟซี โต้กลับทางขวา วรุตม์ วงศ์ดี แตะบอลหลบ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านจะเข้าเสาแรกแต่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ยังพุ่งปัดออกมาได้หวุดหวิด เกมสู้กันดุเดือดมากขึ้น น.54 ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ รับใบเหลืองเป็นคนที่สองของ กิเลนผยอง

เข้าสู่ช่วงนาที 60 เกมต้องหยุดชะงักลง หลัง ปกาศิต แสนสุข เจตนาทำฟาล์ว เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ที่เพิ่งลงมาแทน สุภภรณ์ พรหมพินิจ ช่วงต้นครึ่งหลัง ก่อนทั้งสองจะมีเรื่องกันและกรรมการแจกใบแดงไล่ออกทั้งคู่

น.70 เมืองทองฯ ขึ้นเกมมาทงฝั่งซ้าย อนุสรณ์ ศรีชาหลวง ที่ลงมาแทน พิเชษฐ์ อินทร์บาง ต้นครึ่งหลัง เปิดเข้าหาประตู บอลตกหน้า สุริยา ดอมไธสง แต่ทำอะไรไม่ได้ เข้ามือ นันทพล ศุภไทย รับสบาย

น.72 กิเลนผยอง ครองเกมบุกอย่างเห็นได้ชัด ยาย่า แหวกเข้าเขตโทษแล้วยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งชนโค่นเสาเต็มๆ พลาดประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย นาทีถัดมา ศรีราชา เอฟซี โต้กลับ สนอง ชัยประโคม หลุดเดียวเข้าหาเขตโทษแต่ช้าเกินไปกองหลังเจ้าถิ่นตามมาเคลียร์ทัน

น.78 ยาย่า ทะลวงเข้าหน้าประตูก่อนสับไก นันทพล รับหลุดมือ ดานโก้ เซียก้า ตามเข้าจะซ้ำ แต่นันทพลยังเร็ววิ่งคว้าไว้ได้ ทั้งสองทีมยังไล่บี้กันอย่างดุเดือด น.85 ชยานันท์ ป้อมบุปผา ดาวรุ่งของกิเลนผยองที่เพิ่งลงสนาม ได้ยิงหน้าเขตโทษบอลพุ่งแรงแต่ตรงตัว นันทพล

น.89 ศรีราชา เอฟซี โต้กลับผั่งขวา วรุตม์ วงศ์ดี จ่ายทะลุให้ ซารุตะ ฮิโรโนริ ห้องเครื่องชาวญี่ปุ่น กระซากบอลหลุดเดียว ก่อนจ่ายไปเสาสองให้ เอกชัย ฤทธิพันธ์ ยิงคนเดียวโล่งๆ บอลชนคานอย่า

น่าเสียดาย

ท้ายเกมเจ้าถิ่นยังโหมเกมบุกหนัก อนุสรณ์ ศรีชาหลวง ยิงไกลบอลพุ่งแรงเฉียวคานออกหลังแแบบมีลุ้น ถัดมา ศรีราชา เอฟซี โต้กลับ ซารุตะ พาบอลเข้าเขตโทษก่อนสับไกแต่ยังติดเซฟ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูกิเลนผยอง จบเกม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเจ๊า ศรีราชา เอฟซี แบบไร้สกอร์ 0-0

วาทะโค้ช

จักรกฤษณ์ ทับแว่ว สตาฟฟ์โค้ชเมืองทองยูไนเต็ด - น่าเสียดายนะเกมนี้จริงๆ แล้วต้อง 3 แต้มเราเองก็มีโอกาสหลายครั้งแต่ไม่ได้ประตูส่วนหนี่งที่ทำให้นัดนี้เกมเรา ไม่ไหลลื่นเท่าไหร่ก็คือสภาพสนามที่แฉะ เพราะฝนตกลงมาก่อนแข่งด้วยแต่ก็ต้องชมทีมศรีราชาด้วยที่เขาเตรียมตัวมาเล่น กับเราได้ดีทีเดียว เสียดายครับที่ไม่ชนะในเกมนี้ต้องขอโทษแฟนบอลเมืองทองฯ ด้วยนัดต่อไปผลงานเราน่าจะออกมาดีกว่านี้ได้

ครองพล ดาวเรือง กุนซือศรีราชา เอฟซี - พอใจนะกับ 1 แต้มที่เราเก็บได้ถือว่าเป็นไปตามเป้าที่เราวางไว้ในการมาเยือนนัดนี้ แต่ก็เสียดายอยู่เหมือนกันเพราะเองก็มีโอกาสไม่ใช่ไม่มีที่จะเป็นผู้ชนะ เกมนี้เป็นเกมที่สนุกนะครับสำหรับผู้ตัดสินผมคงจะไม่มีอะไรคอมเมนต์เขา 1 แต้มนัดนี้ถือว่าเราประสพความสำเร็จ นัดหน้าทีมเราะจะได้กองหน้าชาวอาเจนติน่า ที่เป็นดาวซัลโวของเราในดิวิชั่น 1 ฤดูกาลที่แล้วมาช่วยทีมน่าจะทำให้ผลงานเราดีขึ้นได้แน่นอน

คะแนนความสามารถของ 2 ทีม

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 6, ปกาศิต แสนสุข 6, เจษฎา จิตสวัสดิ์ 6, ณัฐพร พันฤทธิ์ 6, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ 6, สุริยา ดอมไธสง 6 (ชยานันท์ ป้อมบุปผา 6), ชีล่า มูซ่า 6.5 (มาเน่า มุสตาฟา - ), พิเชษฐ อินทร์บาง 6 (อนุสรณ์ ศรีชาหลวง 6), พิชิตพงษ์ เฉยฉิว 6, ดานโก้ เซียก้า 6.5, ซูมาโฮโร่ ยาย่า 6.5

ศรีราชา เอฟซี : นันทพล ศุภไทย 7, อรรถพงษ์ หนูพรหม 6, ก่อเกริก เพ็ชรคงทอง 6, สุภภรณ์ พรหมพินิจ 6 (เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ -), สนอง ชัยประโคม 6 (เอกชัย ฤทธิพันธ์ 6), พรศักดิ์ ป้องทอง 6, ดีเอโก้ โรเบิร์ต 6.5, สุจิรต จันทกล 6.5, สุพจน์ วงศ์หอย 6, ชารูตะ ฮิโรโนอิ 6, วรุตม์ วงศ์ดี 6 (อำไพ มุธาพร-)

แมนออฟเดอะแมตซ์ : นันทพล ศุภไทย นายทวารจอมเซฟศรีราชา เอฟซี

บีอีซี เทโรศาสน 2-3 โอสถสภา เอ็ม-150

ที่สนามหนองจอก "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน เปิดศึกใหญ่กับ "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 ก่อนเกมนี้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่สภาพสนามสามารถแข่งขันได้ นัดนี้ เทโรฯ ยังนำทัพโดย กิตติพล ปาภูงา, ชลากร สงวนดี, วุฒิชัย ทาทอง, บัมบ้า และ อานนท์ สังสระน้อย ส่วน โอสถสภา ใช้ ศรายุทธ ชัยคำดี และ วสันต์ นาทะสัน ลงยืนแดนหน้า

เริ่มครึ่งแรก น.6 ทั้งสองทีมเปิดเกมเข้าใส่กันทันที เทโรฯ ได้เสียวก่อน วุฒิชัย ทาทอง ปาดบอลจากกราบขวา โกศวัต ว่องไวลิขิต สกัดมาเข้าทาง บัมบ้า ซัดซ้ำบอลออกหลัง น.7 โอสถสภาสวนกลับ เจษฏา พั่วนะคุณมี ได้โอกาสลองซัดไกลระยะกว่า 30 หลาบอลเบาเกินไป ศิวรักษ์ เทศสูเนิน รับสบาย

น.17 เกมทั้งคู่ยังเล่นสูสีกันมาตลอด โอสถสภาได้โอกาสอีกครั้งจากการลากของ สุรเดช ธงชัย จากซ้ายตัดเข้ากลางก่อนยิงก็ตรงตัว ศิวรักษ์ น.18 พลังเอ็มบุกมาใหม่ คัพฟ้า บุญมาตุ่น จ่ายย้อนหลังให้ วสันต์ นาทะสัน วิ่งเข้าซัดก็ยังไม่ผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ประตูดาวรุ่งของเทโรฯได้

น.26 เจ้าบ้านบุกขึ้นทางซ้าย นพพล ปิตะฝ่ายเปิดบอลโด่ง กิตติศักดิ์ ระวังป่า นายทวารโอสถสภาออกมาจะชกบอลแต่ชนกับ ประทุม ชูทอง กองหลังเพื่อนร่วมทีม บอลเข้าหัว อานนท์ สังสระน้อย แต่ก็โขกออกข้าง ขณะที่ กิตติศักดิ์ กับ ประทุม เจ็บทั้งคู่แต่พยาบาลแล้วสามารถเล่นต่อได้

น.33 เทโรฯ ขึ้นทางขวา ชาคริต บัวทอง เปิดเข้าหัว วุฒิชัย ทาทอง แต่โหนไปหน่อยเลยโหม่งไม่เต็มหัวบอลออกข้าง น.35 เจ้าบ้านเริ่มเห็นช่องมากขึ้น ชาคริต บัวทอง เปิดบอลจากแดนตัวเอง วุฒิชัย ทาทอง โหม่งบอลตั้งให้กับ อานนท์ สังสระน้อย วิ่งเข้าซัดบอลพุ่งเฉี่ยวเสานิดเดียว น.44 โอสถสภาได้เสียวบ้างเมื่อ ศรายุทธ ชัยคำดี ลงมาล้วงบอลเอง แล้วพลิกยิงระยะ 30 หลาบอลพุ่งจะฮุคเข้าใต้คาน ศิวรักษ์ บินปัดได้ปลายมือ จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง ยังเปิดเกมแลกกันสนุก สงวนดี ของเทโรฯได้ซัดระยะ 18 หลา กิตติศักดิ์ ระวังป่า ต้องทุบทิ้งไป น.53 ทีมเยือนเจาะทางซ้าย เจษฏา พั่วนะคุณมี เปิดเรียดเข้ากลาง คริสเตียน เอ็กบา วิ่งสอดจากเสาสองเข้ามาซัดโล่งๆ ไม่มีเหลือ โอสถสภานำ 1-0

น.63 เทโรฯ ได้ฟรีคิกตรงกลาง กิตติพล ปาภูงา เปิดเข้าใน กองหลังโอสถสภาสกัดมาเข้าทาง อานนท์ เตะสวนบอลโดนขา วุฒิชัย ทาทอง ข้ามคาน น.68 โอสถสภาก็มาได้ประตูที่สองจากจังหวะสวนกลับเร็ว สุรเดช ธงชัย สปีดพาบอลขึ้นทางซ้าย ก่อนผ่านเข้ากลางให้ วสันต์ นาทะสัน จับบอลแล้วจ่ายต่อให้ คัพฟ้า บุญมาตุ่น ซัดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบโคนเสาเป็น 2-0 ทีมเยือนนำห่าง

น.69 ตีไข่แตกได้เร็ว ชลากร สงวนดี เปิดจากซ้ายบอลโด่งไปเสาสอง อานนท์ สังสระน้อย ขึ้นโขกสวนผ่านมือ กิตติศักดิ์ เข้าไปอย่างสวยงามเทโรฯ ไล่มา 1-2 น.79 เกมเจ้าบ้านโหมมาตลอด และตีเสมอจนได้ จากการบุกทางขวาแล้วเปิดยาวไปเสาสอง ชลากร สงวนดี วิ่งเข้าไส่เต็มเท้าบอลแสกหน้า กิตติศักดิ์ เข้าตุงต่ายเป็น 2-2 เทโรฯ ตีเสมอเหลือเชื่อ

น.86 คัพฟ้า บุญมาตุ่น ได้บอลตรงกลางสนาม ตัดสินใจลากเข้าหากองหลัง แล้วซัดด้วยขวา บอลพุ่งเข้าหาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ไม่กล้ารับต้องทุบออกมา แต่โชคร้ายเข้าทาง คริสเตียน อเยว เอ็กบา ตามเข้าซ้ำแบบใจเย็นส่งบอลไบนอนก้นตาข่าย โอสถสภานำ 3-2 จบเกม โอสถสภา บุกมาชนะ บีอีซี เทโรศาสน ถึงถิ่น 3-2

วาทะโค้ช

พยงค์ ขุนเณร กุนซือเทโรฯ - เป็นเกมที่สนุกเกมหนึ่งและนักเตะก็เล่นได้ดีมากๆ ทั้ง 3 ประตูที่เราเสียเกิดจากเกมโต้กลับของโอสถสภาทั้งสิ้น เขาได้ 3 ครั้งเป็นประตูทั้ง 3 ครั้งอันนี้ต้องชมเขาด้วยว่าทำได้ดี ส่วนเราเองก็กลับมาสู่เกมแล้วในช่วงตีเสมอ 2-2 แต่ก็มาพลาดที่โหมมากไปทำให้โดนโต้และมาเสียลูกที่ 3 เสียดายมากเกมน่าจะแบ่งแต้มกันมากกว่า

อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ โค้ชโอสถสภา - เป็นเกมที่สู้กันด้วยแท๊กติกมากกว่า แม้ฝนจะตกแต่เกมนี้ต้องแก้ไขสถานการณ์กวันตลอด มีการแก้ไขปรับเปลี่ยนไปเรื่อย จนครึ่งหลังที่เราได้ 2 ลูกตอนนั้นมั่นใจว่าชนะแน่ แต่นักเตะกลับเล่นรับมากไปทั้งที่ออกมากระตุ้นให้ดันขึ้นมาสูง การรับมากไปเลยโดน โชคดีที่มาโต้จนได้ประตูที่สาม ไม่เช่นนั้นคงเสียดายแน่ถ้าไม่ชนะเกมนี้

คะแนนความสามารถทั้ง 2 ทีม

บีอีซี เทโรศาสน : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน 7, นพพล ปิตะฝ่าย 6.5, ชลากร สงวนดี 8, กิตติพล ปาภูงา 7.5 (ตะวัน ศรีปาน5), อะคาซู 8, ชาคริต บัวทอง 7, บัมบ้า เกาซู 6.5, วุฒิชัย ทาทอง 7 (ปณัย คงประพันธ์-), อานนท์ สังสระน้อย 7.5, ทัศนา แช่มสะอาด 7.5, เกย์ ฮูเบิร์ท 7

โอสถสภา : กิตติศักดิ์ ระวังป่า 7.5, โกศวัต ว่องไวลิขิต 7, ประทุม ชูทอง 7.5, ศิวเมตร ธนูศร 7, ศรายุทธ ชัยคำดี 7 (วันใหม่ เศรษฐนันท์-), วสันต์ นาทะสัน 8, คัพฟ้า บุญมาตุ่น 8 (จักรกริช บุญคำ-), สุรเดช ธงชัย 7.5, เจษฏา พั่วนะคุณมี 7.5,พยุงศักดิ์ พันนารัตน์ 6.5, อเยว เอ็กบา 8.5

แมน ออฟเดอะแมตซ์ : คริสเตียน อเยว เอ็กบา กองหน้าของโอสถสภา

การท่าเรือไทย เอฟซี 2-1 ราชนาวีระยอง

ที่สนามแพทสเตเดี้ยม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ ไทย เอฟซี ทีมอันดับ 10 เปิดบ้านรับมือ "ม้านิลมังกร" ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับ 13 ของตาราง นัดนี้เจ้าถิ่นส่ง พิพัฒน์ ต้นกันยา ยืนหอกคู่กับ นิรุตน์ คำสวัสดิ์ โดยมี จีระวัฒน์ มัครมย์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งสนับสนุนเกมรุกแดนกลาง ด้าน ทีมเยือน ราชนาวี ฯ เปลี่ยนคู่ขาดาวล่าตาข่ายจาก สมเจตร สัตบุษ กับ วุฒิชัย อะสุชีวะ เป็น พิศาลสิน ซ่าอินทร์ และซีฟ ออสมาน

เริ่มเกมครึ่งแรก เจ้าบ้านได้ทักทายก่อน นิรุตน์ คำสวัสดิ์ แทงบอลทะลุช่องให้ พิพัฒน์ ต้นกันยา แลบเข้าไปกด แต่ผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า น. 7 เกมรุกของ "สิงห์เจ้าท่า" ยังคงโจมตีทั้งทางริมเส้นด้านซ้าย และ ขวา ทว่าแนวรับของ ราชนาวี ระยอง ยังคงขึงเกมรับเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ก่อนจะทำเกมโต้กลับเร็ว แต่ พิศาลสิน ซ่าอินทร์ กับ ซีฟ ออสมาน ดูเหมือนเรด้าสังหารยังจูนไม่ลงตัวทำให้ยิงพลาดเป้าไปหมด

น. 10 พิพัฒน์ ต้นกันยา ดาวยิงตัวเก่งลากบอลจากระยะ 20 หลาเข้าไปกระหน่ำบอลพุงแรงผ่านมือ สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน นายทวารทีมเยือนที่พยายามปัดป้องแบบสุดเหยียดเป็นประตูให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0

น. 15 ราชนาวี พยายามต่อบอลตามช่อง สู่แดนหน้า ให้ พิศาลสิน ซ่าอินทร์ พาบอลทะลุทะลวงเข้าไปลุ้นประตู แต่แนวรับของเจ้าบ้านยังไม่พลาดดักเก็บตกเอาไว้ได้หมด

น. 20 ทีมเยือนเกือบสังเวยประตูที่สอง จากฟรีคิกริมเส้นด้านขวา จีระวัฒน์ มัครมย์ รับหน้าที่วาง เข้าหากรอบเขตโทษ จังหวะสุดท้าย ยุทธนา ไชยแก้ว ขึ้นโหม่งปะทะกับ สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน นายทวารทีมเยือนบอลเข้าประตู แต่ผู้ตัดสินมองว่าเป็นการฟาว์ลของ ยุทธนา

น. 30 "สิงห์เจ้าท่า" ยังคงโชว์เกมรุกได้หวือหวา พิพัฒน์ ต้นกันยา มีโอกาสจะ ทะลวงตาข่าย หลายจังหวะ แต่แนวรับของ ราชนาวี ฯ ดักล้ำหน้าได้ทุกจังหวะเสียว

น. 35 มารุต ดอกมะลิป่า นักเตะราชนาวี ไปเตะข้างหลัง นิรุตน์ คำสวัสดิ์ หัวหอกเจ้าบ้าน ผู้ตัดสินให้ เจ้าบ้านได้ฟรีคิกระยะหวังผล แต่ นิรุตน์ คำสวัสดิ์ ยิงไปติดกำแพง ของ ทีมเยือนบอลกระดอนออกไป

ช่วงท้ายเกม ทั้งสองทีมพาเหรดเกมรุกใส่กันแบบได้เสียแต่จังหวะสังหารประตูไม่เฉียบคมพอทำให้จบครึ่งแรก สิงห์เจ้าท่า นำ 1-0

ครึ่งหลังเริ่มแค่นาทีเดียวทีมเยือนเกือบได้ประตูตีเสมอ สุทธินันท์ นนทรี สับไกยิงฟรีคิกระยะ 35 หลา บอลพุงทะลุแนวรับของ ทีมเยือนเข้าหาประตู แต่ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ กระโดดขึ้นรับเข้าซองหวุดหวิด

น. 50 ทีมเยือนบุกแหลกหวังทวงประตูตีเสมอ แต่ ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ ยังไม่พลาด ออกมารับได้ทุกจังหวะ น. 55 สุทธินันท์ นนทรี วางบอลจากระยะหน้ากรอบเขตโทษให้ พิศาลสิน ซ่าอินทร์ ที่หลุดกับดักล้ำหน้า เข้าไปตวัดยิงบอลเฉียดเสาสองออกไปเพียงคืบ

น. 65 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูหนีห่าง พิพัฒน์ ต้นกันยา หลุดเข้าไปกระดกบอลหมายจะให้ข้ามตัว สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน แต่แรงเกินไปบอลข้ามคานออกไป น. 70 ชานนท์ วงษ์อารี มิดฟิลด์พันธุ์ดุของเจ้าถิ่น วางฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลติดกองหลังของราชนาวีบอลออกหลัง เป็นลูกเตะมุม บอลกระดอนมาเข้าทางปืนของ รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ สับไกระยะกว่า 40 หลา จนกองหลังเจ้าบ้านต้องเคลียร์กันอุตลุต

น. 73 ราชนาวีระยอ ได้ประตูตีเสมอสำเร็จ มาริโอ ดาซิลวา กองหลังท่าเรือฯ ไปเตะรวบ พิศาลสิน ซ่าอินทร์ ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษแก่ทีมเยือน สุทธินันท์ นนทรี ที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาดเป้าไล่ตีเสมอ 1-1

น. 75 แนวรับ ราชนาวี ไปทำฟาว์ล จีระวัฒน์ มัครมย์ ห้องเครื่องดาวโรจน์เจ้าท่า นอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่ จีระวัฒน์ ลุกขึ้นมาปั่นฟรีคิกบอลเข้า สามเหลี่ยมบนไม่เหลือซากเจ้าบ้าน ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1

น. 80 การท่าเรือ ฯ ทำเกมโต้กลับเร็ว พิพัฒน์ ต้นกันยา ลากบอลจี้เข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนจะแทงต่ออีกทอดให้ เอ็ดวัลโด้ เปไรร่า ที่อาศัยรูปร่างสูงใหญ่เบียดกองหลัง ราชนาวี ฯ เข้าไปกดแต่หักข้อมากเกินไปบอลออกเสาสองไปแบบได้ลุ้น

น. 85 สุทธินันท์ นนทรี ยิงฟรีคิกบอลจะเข้าเสาสองอยู่แล้ว แต่ กองหลัง การท่าเรือฯ เคลียร์พ้นโซนพื้นที่สีแดงกันอุตลุต ช่วงท้ายเกมแฟนบอล ราชนาวี ระยองยังมีอารมณ์ค้างกับความพ่ายแพ้ปาขวดน้ำลงสนาม ก่อนที่เจ้าหน้าจะระงับเหตุการณ์เอาไว้ได้ จบเกม การท่าเรือฯ ชนะ ราชนาวีระยอง 2-1 เก็บสามแต้มในบ้านตัวเองได้สำเร็จ

วาทะโค้ช

"โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ ไทย เอฟซี - เราค่อนข้างที่จะกดดันกันพอสมควร ซึ่งมันเป็นรอยต่อระหว่างเกมที่เราแพ้โอสถสภาฯ มา แต่ เกมนี้ได้เล่นในบ้านพร้อมกับมีแฟนบอลมาเชียร์กันแน่นอย่างนี้ถือว่าเป็น กำลังใจให้กับทีม เป็นอย่างมากในส่วนตัวผู้เล่นต้องยอมรับว่ายังต้องปรับปรุงกันต่อไปเพราะนัก เตะเราเมื่อเทียบกับทีมใหญ่ๆ ถือว่าไม่ใช่ระดับท๊อปของประเทศ

"เดอะแฟร้งค์" สุขสันต์ คุณสุทธ์ กุนซือราชนาวีระยอง - สนามค่อนข้างที่จะแฉะไปสักนิดทำให้ครอลโทรลบอลกันลำบาก แม้เราแพ้แต่ขอบอกว่าไม่ซีเรียสเพราะเด็กมันเล่นดีกันทุกคน ไม่รู้ว่าจะติกันตรงไหนเป็นเพราะโชคไม่เข้าข้างเราด้วย โอกาสหน้าแก่ตัวกันใหม่

คะแนนความสามารถของทั้ง 2 ทีม

การท่าเรือไทย เอฟซี : ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ 6, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ 6.5, พงษ์พิพัฒน์ คำนวณ 6, มาริโอ ดาซิลวา 6, อิทธิพล นนท์ศิริ 6, โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ 6, จีระวัฒน์ มัครมย์ 7, เกียรติเจริญ เรืองปาน 6, นิรุตน์ คำสวัสดิ์ 5.5 (ชานนท์ วงษ์อารี- ), ยุทธนา ไชยแก้ว 5 (เอ็ดวัลโด้ เปไรร่า 5), พิพัฒน์ ต้นกันยา 6.5

ราชนาวีระยอง : สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน 6, เจษฎา งามเมือง 5.5, สุรเดช เสาไธสง 6, อุดร พิมพ์ภาค 5.5, กามเดม อดัม 5, สุทธินันท์ นนทรี 6, ยาคนิค 5.5, มารุต ดอกไม้ป่า 5.5, ศุภชัย ขำทรัพย์ 5.5, พิศาลสิน ซ่าอินทร์ 6, ซีฟ ออสมาน 5 ( ก้องศักดิ์ แสนทวีสุข-)

แมนออฟเดอะแมตซ์ : จีระวัฒน์ มัครมย์ กองกลาง "สิงห์เจ้าท่า"

ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร 4-0 นครปฐม เอฟซี

ที่สนาม สพล.สมุทรสาคร ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร เปิดบ้านรับการมาเยือน นครปฐม เอฟซี เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง กามาร่า อาลี ลงล่าตาข่ายคู่ ประดิษฐ์ ทวีชัย ขณะที่ทีมเยือน นครปฐม มี ประดิษฐ์ สว่างศรี, พานุวัฒ ยิ้มสง่า และ นันทพันธ์ เจียรสถาวงศ์ นำทัพ

เริ่มครึ่งแรก น.16 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮก่อน ชัชปภพ อุสาพรหม จ่ายบอลทะลุช่อง ให้ ทนงศักดิ์ พรมดาด ยิงแต่ไปติดตัว ธนากร ทองอินทร์ ผู้รักษาประตูนครปฐม บอลเด้งมาชนหน้าแข้ง ประดิษฐ์ ทวีชัย เข้าประตู ทีทีเอ็มฯ ออกนำ 1-0 หลังจากนั้นทั้งสองทีม สู้กันอย่างสนุกแต่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก ทีทีเอ็มฯ นำ 1-0

ครึ่งหลังเริ่มได้เพียง 2 นาที กองเชียร์เจ้าบ้านได้เฮกันอีกครั้ง เบคคอมโบ เอคโคโล่ ได้จังหวะลากบอลขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนสับไกลยิงแต่ไปติด ตัว ธนากร ผู้รักประตูนครปฐม ปัดออกมาเข้าทาง ทนงศักดิ์ พรมดาด ไหลไปให้ กามาร่า อาลี ยิงโล่งๆ ไม่เหลือ ทีทีเอ็มฯ ห่าง 2-0

น.62 ทีทีเอ็มฯ ได้ประตูหนีไกล ชัชปภพ จ่ายบอลทุะลุช่อง ให้กัน เบคคอมโบ เอคโคโล่ หลุดเดี่ยวเข้าไปล็อกหลบ ธนากร ผู้รักษาประตูนครปฐม ก่อนแปเข้าไปง่ายๆ ให้ ทีทีเอ็มฯ นำ3-0 ทีทีเอ็มฯ ยังเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างหนัก น.71 ได้ลูกเตะมุมทางด้านขวา ศุภกร รามกุหลาบสุข ที่เปลียนลงมาแทนทนงศักดิ์ พรมดาด เปิดลูก เตะมุมเข้าไปที่กลางประตู ให้ เบคคอมโบ เอคโคโล่ โหม่งเข้าปอย่างสวยงาม จบเกม ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร เปิดบ้านถล่ม นครปฐม เอฟซี เละ 4-0

วาทะโค้ช

กิจ มีศรีสุข ของทีทีเอ็ม สมุทรสาคร - สำหรับการคุมทีมนัดแรกแล้วชนะไดันั้น ต้องยกเรดิตให้กับโค้ช แต็กด้วยเพราว่า เด็กชุดนี้โค้ชแต็กวางลากฐานไว้หมดแล้ว โดยรวมเด็กเล่นดีทุกนัดอยู่แล้วแต่นัดี่ชนะได้ก็จะทำให้นักเตะมีมั่นใจมาก ขึ้นด้วย

สถิต ทวีนุช ผู้จัดการทีมนครปฐม เอฟซี - แปลกใจมากแล้วที่ทีมอย่าทีทีเอ็มฯ มาอยู่ท้ายตารงได้ยังไงเพราะ ทีทีเอ็มฯ เล่นดีมากครับในนัดนี้ ส่วนนักเตะเราเล่นได้ดีแล้วแต่การต่อเราไมดีเพราะสภาพสนามไม่ดีมีฝนตกลงมา ทำให้เราต่อบอลไม่ได้

คะแนนความสามารถนักเตะทั้ง 2 ทีม

ทีทีเอ็มฯ : ณรงค์ วิเศษศรี 7, ทนงศักดิ์ ประจักกะตา 8, ภานุวัฒน์ ไฟไหล 7, เบคคอมโบ เอคโคโล่ 7, พรีทรรศน์ โพธิ์เรือยดี 7, ณรงค์ จันทร์เสวก 7, ชัชปภพ อุสาพรหม 7, (ทนงศักดิ์ พรมดาด 7) ศุภกร รามกุหลาบสุข 6.5, เจษฎา บุญเรืองรอด 7, ประดิษฐ์ ทวีชัย 6.5, กามาร่า อาลี 7 (น.81 วันทอน อินอุเทน)

นครปฐม เอฟซี : ธนากร ทองอินทร์ 5, ประหยัด บุญญา 4.5, นันทพันธ์ เจียรสถาวงศ์ 5, วุฒิศักดิ์ สุขมณี 5, วิมล จันทร์คำ 5, เดชากลิ่นพะยอม 5, อดิศร แดงเรือง 5, นิพนธ์ ชาญอาวุธ 5, พานุวัฒ ยิ้มสง่า 5, ประดิษฐ์ สว่างศรี 4

แมน ออฟเดอะแมชต์ : ทนงศักดิ์ ประจักกะตา ปราการหลังทีเอ็มฯ

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไปวันที่ 2 พ.ค. 2552 ที่สนามธนารมณ์ ลำลูกกา เวลา 16.00 น. โอสถสภา เอ็ม 150 พบ ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร,ที่สนามม.เกษตร กำแพงแสน 17.30 น. นครปฐม เอฟซี พบ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ,ที่สนาม สิรินธร เวลา 18.00 น. ชลบุรี เอฟซี พบ แบ็งค๊อก ยูไนเต็ด สยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19 ถ่ายทอดสด,ที่สนามเทศบาลตำบลหนองปรือ พัทยา ยูไนเต็ด พบ บีอีซี-เทโร ศาสน , วันที่ 3 พ.ค. 2552 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ คลอง6 เวลา 16.00 น. บางกอกกล๊าส เอฟซี พบ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด, ที่สนามจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เวลา 16.00 น. จุฬา ยูไนเต็ด พบ ราชนาวี ระยอง, ที่สนามการท่าเรือ คลองเตย เวลา 17.30 น. การท่าเรือไทย เอฟ.ซี. พบ ทีโอที เอฟซี,ที่สนาม สิรินธร เวลา 18.00 น.

ศรีราชา เอฟซี พบ สมุทรสงคราม เอฟซี คู่นี้สยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19 ถ่ายทอดสด

กระต่ายยืดสถิติไร้พ่ายตีเจ๊าปลาทูนำฝูงต่อ

"เดอะกล๊าสแรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี ฆ่าไม่ตาย ได้ลูกทีเด็ดจากชาตรี ฉิมทะเล ยิงในน.88 ช่วยทีมจ่าฝูงตีเเสมอ "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงครามได้สำเร็จ พร้อมกับพกสถิติยังไม่อพ้ทีมใดได้อีกต่อไป ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2552

สมุทรสงคราม เอฟซี 1-1 บางกอกกล๊าส เอฟซี

ที่สนามกีฬากลางจังหวัด สมุทรสงคราม "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เอฟซี เปิดบ้านรับมือทีมจ่าฝูง "เดอะกล๊าสแรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี เกมนี้เจ้าถิ่นสมุทรสงคราม ขาดแบ็กตัวเก่ง อภินันท์ แก้วปีลา ลงสนาม แต่ยังมี จิรวัฒน์ แก้วโบราณ ประจำแดนหน้าล่าตาข่าย ด้านทีมเยือน บางกอกกล๊าส ส่งนักเตะตัวใหม่ชาวชิลี เนลสัน มาร์ติน ประเดิมสนามคุมแดนกลางเป็นนัดแรก

เริ่มครึ่งแรกทั้งสองทีมยังผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่เป็นทีมเยือนที่มีจังหวะลุ้นประตูมากว่า ผ่านไป 20 นาที เกมบุกทั้งสองทีมเริ่มเปิดแลกกันมาขึ้น แต่ยังสู้กันในแดนกลางเป็นส่วนใหญ่ น.25 จิรวัฒน์ แก้วโบราณ หัวหอกเจ้าถิ่นพาบอลทะลุเข้าเขตโทษ ก่อนโดน ศุภชัย คมศิลป์ เข้ามาสกัดล้มลง ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ประสาร พันธ์สำลี รับหน้าทีสังหารไม่พลาดให้ ปลาทูคะนอง ออกนำ 1-0

จากนั้น บางกอกกล๊าส โหมเกมบุกมากขึ้น น.29 ได้ลุ้นจากลูกเตะมุม ศุภชัย คมศิลป์ เปิดมาเสาสองให้ อำนาจ แก้วเขียว ขึ้นโขกบอลออกหลังอย่าน่าเสียดาย น.31 บางกอกกล๊าส ยังบุกอย่างต่อเนื่อง เนลสัน มาร์ติน จอมทัพชาวชิลีกึ่งยิงกึ่งผ่าน บอลหลุดเสาสองแบบมีลุ้น

เดอะกล๊าสแรบบิท ยังตั้งหน้าบุกหนัก ขณะที่ สมุทรสงคราม ช่วยกันรับอย่างเหนียวแน่น และใช้เกมโต้กลับเร็วเข้าสู้ น.36 เจ้าถิ่นได้สับไกลกว่า 30 หลา บอลพุ่งแรงตรตัว กฤษณะ กลั่นกลิ่น ถึงกับรับกระฉอกก่อนตามไปรับไว้ทัน

ท้ายครึ่งแรกเกมรุกของทีมเยือนที่พยายามท้วงประตูคืนยังขาดๆ เกินๆ ไม่มีจังหวะหวาดเสียว ขณะที่เจ้าถิ่นตั้งรับได้เหนียวแน่น หมดครึ่งแรก สมุทรสงคราม นำ 1-0

ครึ่งหลังบางกอกกล๊าส เปิดฉากบุกทันที น.47 ศุภชัย คมศิลป์ สับไกลเกือบครึ่งสนามบอลพุ่งจะเสียบเสาสอง แต่ เดนนิส นายทวารเจ้าถิ่นยังไวพุ่งปัดไว้ได้หวุดหวิด น.50 บางกอกกล๊าส ได้ลุ้นจากฟรีคิกหน้าเขตโทษ แต่ นันทวัฒน์ แทนโสภา ปั่นโค้งออกหลังไปแบบไม่ไมีลุ้น

น.55 ชาตรี ฉิมทะเล กองหน้าดาวรุ่งบางกอกกล๊าส พาบอลหลุดจะเข้าเขตโทษ แต่โดน พัชรินทร์ สุขใส เข้าสกัดจากด้านหลัง กรรมการคว้าใบเหลืองแจกทันที น.56 กองหลัง เดอะกล๊าสแรบบิท จ่ายบอลให้ผู้รักษาประตู กฤษณะ กลั่นกลิ่น แต่จับบอลพลาด เกือบไหลเข้าประตู ดีที่ยังตามมาเคลียร์ได้ทัน

น.58 นันทวัฒน์ แทนโสภา ยิงฟรีคิกหน้าเขตโทษบอลจะมุดเข้าเสาสอง แต่ เดนนิส ยังปัดไว้ได้ น.59 จากลูกเตะมุม อำนาจ แก้วเขียว ขึ้นโหม่งหลุดออกหลังหวุดหวิด

น.65 สมุทรสงคราม โต้กลับแล้วได้ฟรีคิกฝั่งขวา ประสาร พันธ์สำลี เปิดยาวจะให้เสาสอง แต่บอลไปชนคาดแบบหวาดเสียว น.68 บางกอกกล๊าส โยนบอลจากแดนกลางเข้าเขตโทษ เดนนิส ออกมาคว้าบอลได้แล้ว แต่หลุดมือมาเข้าทาง ศรันย์ พรมแก้ว ยิงไปติดกองหลังออก

ทีมเยือน ยังเปิดเกมบุกหนักอย่างต่อเนื่องและมีลุ้นหลายจังหวะ แต่ยังไม่ผ่านมือ เดนนิส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม น.72 ศุภชัย คมศิลป์ ซัดฟรีคิกนอกกรอบบอลเปลี่ยนทางเฉียวเสาออกหลังแบบมีลุ้น

เกมสู้กันอย่างดุเดือดมากขึ้น ยังเป็น บางกอกกล๊าส ที่ยังเปิดเกมบุกหนัก น.88 กองเชียร์เดอะกล๊าสแรบบิทได้เฮลั่น สุรเชษฐ์ งามทิพย์ ที่ลงมาแทน นันทวัฒน์ แทนโสภา ช่วงท้ายครึ่งหลัง โยนบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากลางประตูให้ ชาตรี ฉิมทะเล ที่ลงมาต้นครึ่งหลังโฉบมาโขกเต็มหัว เข้าไปตุงตาข่าย ให้บางกอกกล๊าส ตีเสมอ 1-1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บทั้งสองทีมพยายามเร่งเกมบุก แต่ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เปิดบ้านโดน "เดอะกล๊าสแรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี ไล่ตีเสมอแบบสนุก 1-1 แบ่งกันทีมละแต้ม

วาทะโค้ช

"น้าฉ่วย" สมชาย ช่วยบุญชม โค้ชสมุทรสงคราม - เหนื่อยใจจริงๆ เกมนี้เรามีโอกาส 3 แต้มเห็นๆ แต่ก็มาพลาดกันง่ายเกินไป ความจริงนักเตะทุกคนเล่นได้ตามแผนแล้ว และเล่นได้ดีด้วย แต่จังหวะโต้กลับซึ่งมีหลายครั้งมาก กลับทำไม่ได้ถ้าได้ประตูที่ 2 ก็จะปิดเกมแล้ว ช่วงหลังยิ่งมารวน และรนกันเกินไปทำให้พลาดโดนตีเสมอ อีกอย่างกรรมการไม่ดีมากๆ เป่าไม่ทันเกมและใบเหลืองก็ไม่ยอมให้ทางบางกอกกล๊าสเลย ถือว่าทำหน้าที่ได้แย่มาก

ฮาน เอ็มเซอร์ กุนซือบางกอกกล๊าส - เป็นเกมที่หนื่อยอีกเกม ครึ่งแรกความจริงไม่ต่างกัน แต่เรามาโดนจุดโทษเท่านั้น ครึ่งหลังก็แก้ด้วยการเปิดเกมรุกมากขึ้น และส่ง ชาตรี ฉิมทะเล ลงไปก็ทำได้ดี และยิงประตูตีเสมอได้ด้วย ก็น่าพอใจกับแต้มที่ได้มา ทั้งที่ควรจะได้ดีกว่านี้ ก็ยอมรับว่ากองหน้าขาด อจายี่ ไปทำให้ไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร

คะแนนความสามารถทั้ง 2 ทีม

สมุทรสงคราม : เฮอร์วี่ เพอร์เร่ 7,ชุมพล บัวงาม 7,ทรงวุฒิ บัวเพชร7.5,พัชรินทร์ สุกใส 6, จีรวัฒน์ แก้วโบราณ 7.5 (สันติภาพ ศิริ-), ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น, 6 (คะนึง บุราณสุข 6), กัตภณ สมพิทยานุรักษ์ 6, มิเชล ตูมารู 6.5, เอกศักดิ์ บัวเบา 7,สิทธิพันธ์ ชุมช่วย 7,ประสาร พันธ์สำลี 8

บางกอกกล๊าส : กฤษณะ กลั่นกลิ่น 6, อำนาจ แก้วเขียว 7, อนนท์ บุญสุโข 6.5, รุ่งโรจน์ สว่างศรี 7, เนลสัน มาร์ติน 6 (ชาตรี ฉิมทะเล 7), ศรันย์ พรมแก้ว 6 (อจายี่5.5), อนาวิน จูจีน 6.5, ศุภชัย คมศิลป์ 6, นันทวัฒน์ แทนโสภา 6 (สุรเชษฐ์ งามทิพย์ 5), พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ 7, สุภชัย ภูผา 7

แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ : ประสาร พันธ์สำลี กองหลังสมุทรสงคราม

ไฟฟ้าไล่ช็อตฉลามท้ายเกม แฟนเดือดหวิดวางมวย

ที่สนามพระนครศรีอยุธยา เจ้าบ้าน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทีมอันดับ 8 ของตาราง มีแค่ 7 แต้ม พบกับ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี เกมนี้เจ้าถิ่นขาด ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ที่โดนแบน แต่ยังมี ณรงค์ชัย วชิรบาล, อภิเชษฐ์ พุฒตาล ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีม พร้อม ยุทธจักร ก้อนจันทร์, ศุภกิจ จินะใจ, รณชัย รังสิโย เป็นแกนหลัก

การไฟฟ้าฯ 2-2 ชลบุรี เอฟซี

ขณะที่ ชลบุรี ทีมอันดับ 3 ของตารางลงสนาม 6 นัดมี 13 แต้ม เกมนี้ส่งชุดใหญ่ทั้ง โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, พิภพ อ่อนโม้, อาทิตย์ สุนทรพิธ, ณัฐพงษ์สมณะ, เกียรติรประวุฒิ สายแวว ลงสนาม

เริ่มครึ่งแรกเพียง 2 นาที การไฟฟ้าฯ เสียประตูแบบไม่น่าเสีย เมื่อพลาดโดนลูกเตะมุม อาทิตย์ เปิดเข้าไปก่อนจังหวะแรก แต่กองหลังการไฟฟ้าฯ เคลียร์มาเข้าทาง อาทิตย์ อีกครั้ง คราวนี้เปิดตัดไปที่เสาแรกเป็น เกียรติประวุฒิ สายแวว ที่ดันมาสูง โดดโหม่งตัดหน้า แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม ผู้รักษาประตูการไฟฟ้าฯ เข้าไปทำให้ทีมเยือนออกนำ 1-0

น.18 ไฟฟ้าฯ เกือบได้ประตูตีเสมอ ณรงค์ชัย วชิรบาล เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาระยะ 35 หลาเข้ากรอบเขตโทษ วีระยุทธ จิตขุนทด โหม่งสะบัดที่เสาแรกบอลตรงตัวโกสินทร์ หทัยรัตนกุล น.33 ชลบุรี ได้เสียวอีกเมื่อ ภานุวัฒน์ จินตะ หลุดไปดวลกับ แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม แต่จังหวะสุดท้ายยิงไม่ได้ติดมือแซมมวล ป.คันนิ่งแฮม

น.42 เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ ของชลบุรี แทงบอลทะลุช่องให้ เอกพันธ์ อินทะเสน หักบอลจากด้านขวาเข้ากลางให้ แอนเดอร์สัน มาเชโด้แปโล่งๆ แค่ 5 หลาบอลออกข้างหน้าตาเฉย น.43 การไฟฟ้าฯ โต้กลับเร็ว อภิภู สุนทรพนาเวศ เปิดบอลจากด้านซ้าย ข้ามหัวกองหลังชลบุรี ไปเข้าหัว รณชัย รังสิโย ที่ยืนแค่ 6 หลาโหม่งเต็มหัว แต่ตรงตัวโกสินทร์ หทัยรัตนกุล ทำให้หมดครึ่งแรก ชลบุรี ออกนำ 1-0

ครึ่งหลังลงมาไม่ถึงนาที การไฟฟ้า เกือบได้ประตูตีเสมอ อภิเชษฐ์ พุฒตาล เปิดลูกเตะมุมเข้ากลางให้ ภานุพงษ์ วงศ์ษา ที่เติมขึ้นสูงโหม่งเต็มหัวแต่บอลออกเสาสองน่าเสียดาย น.69 ชลบุรี ได้จังหวะสวนกลับ พิภพ อ่อนโม้ แทงบอลทะลุช่องให้ แอนเดอร์สัน มาเชโด้ หลุดเดี่ยวก่อนแปหนีมือ แซมมวล เข้าเสาสองไม่เหลือซาก ชลบุรี นำห่าง 2-0 แถมเกมยังต้องหยุดลงเกือบ 5 นาทีหลังแฟนชลบุรี จุดพลุจนควันเข้ารบกวนการแข่งขัน

น.80 ชลบุรี เหลือ 10 คนเมื่อ สุทธินันท์ พุกหอม กระโดดเสียบไส่ เมนซ่า แบบเต็มๆ ผู้ตัดสิน ควักใบแดง ไล่สุทธินันท์ ออกจากสนามทันที น.88 การไฟฟ้าฯ ได้ประตูตีไข่แตกจนได้ เมื่อ ณรงค์ชัย วชิรบาล ได้ซัดฟรีคิกระยะ 25 โกสินทร์ หทัยรัตนกุล ตะครุบบอลไม่อยู่ไปเข้าทาง วิคเตอร์ เมนซาร์ ที่ซ้ำไม่ถึง 2 หลาเข้าไปให้ไฟฟ้าฯ ขยับตามมา 1-2

ช่วงทดเวเลาเจ็บนาทีที่ 3 กลายเป็นการไฟฟ้าฯ ที่ได้ประตูตีเสมออย่างเหลือเชื่อ ณรงค์ชัย วชิรบาล ได้ซัดตรงกรอบเขตโทษ แต่บอลดันไปติดขา อภิภู สุนทรพนาเวศ ที่ยืนอยู่หน้าประตูแค่ 3 หลา ก่อนเจ้าตัวซัดเต็มข้อไม่เหลือ ทำให้การไฟฟ้าฯ กลับมาฟื้นเหลือเชื่อ 2-2

แต่ช่วงที่นักเตะการไฟฟ้าฯ วิ่งดีใจ แฟนบอลชลบุรี ทางฝั่งอัฒจันทร์มีหลังคา ไม่พอใจขว้างขวดน้ำลงสนาม ทำให้กองเชียร์การไฟฟ้าฯ ขว้างขวดกลับไปทางกองเชียร์ชลบุรี อีก ก่อนเกิดเหตุการวุ่นวาย เพราะทาง แฟนบอลชลบุรี จะเอาเรื่องแถมเหตุการณ์บานปลายมีปัญหากันนอกสนามอีกจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยามรักษาความปลอดภัยต้องวิ่งไปห้ามกันจ้าละหวั่น

โดยมีแฟนบอลสาวชลบุรี ถูกหามออกจากสนามเนื่องจากหัวแตก ทาง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองโค้ชชลบุรี ต้องมาขอร้องแฟนบอลชลบุรี และการไฟฟ้าฯ ให้หยุด ทำให้เกมต้องพักถึง 73 นาทีเลยทีเดียว เพราะต้องรอกำลังตำรวจ จาก สพ.อ.พระนครศรีอยุธยา และอพปร. เข้ามาเสริมเกือบ ร้อยนาย เนื่องจากเจ้าบ้าน การไฟฟ้าฯ กลัวว่าจะเป็นอันตรายกับนักเตะทั้ง 2 ทีม

ก่อนบอลจะเขี่ยมเริ่มทาง ทีมการไฟฟ้าฯ ก็ออกมาแสดงสปิริตพร้อมชดใช้ให้กับกองเชียร์ชลบุรี ที่ได้รับบาดเจ็บด้วย แต่หลังจากนั้นเขี่ยไม่ถึงนาที ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา เสมอกัน 2-2 แบ่งทีมละ 1 แต้ม ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำรถตำรวจมารับผู้ตัดสินทั้ง 4 คนถึงในสนามเพราะกลัวเกิดด้วย แถมกองเชียร์ชลบุรี ต้องนำรถส่วนตัวและรถบัสเข้ามารับถึงในสนามเลยทีเดียว

วาทะโค้ช

"น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พาณิช ของการไฟฟ้าฯ - เกมนี้นักเตะติดโทษแบน เจ็บหลายคน เพราะแข่งติดๆ กันหลายต่อหลายนัด บางคนเราต้องเข็นลงสนามในสภาพไม่สมบูรณ์ด้วย อีกอย่างวันนี้เราเสียประตูเร็วไปหน่อย ทำให้ต้องเร่งเกมตีเสมอแต่มาโดลูกที่ 2 แต่บทสรุป 1 แต้ม ถือว่าโอเค

"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ของชลบุรี - จริงแล้วไม่น่าจะเกิดเหตุการแบบนี้ขึ้น ที่จริงเราต้องได้ 3 แต้มกลับไป แต่ว่าโดนตีเสมอไม่น่าเชื่อ เสียใจกับเหตุการที่เกิดขึ้น ยังไงฝ่ายจัดควรจะพิจารณาหามาตรการณ์ป้องกันให้แน่นหนากว่านี้แต่รวมๆ ถือว่าโอเค

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม

การไฟฟ้าฯ : แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม 7, วีรยุทธ จิตรขุนทด 5.5 (ลำเนาว์ สิงห์โต 6), ภานุพงษ์ วงศ์ษา 7, วัชระ มหาวงศ์ 7, ณรงค์ชัย วชิรบาล 7.5, อภิเชษฐ์ พุฒตาล 7.5, อภิภู สุนทรพนาเวศ 8, รณชัย รังสิโย 7, เฮนรี่ โจเอล 7.5, ยุทธจักร ก้อนจันทร์ 6 (รัตตพล ปิยวุฒิสกุล6 ), ศุภกิจ จินะใจ 5.5 (วิคเตอร์ เมนซ่า 7)

ชลบุรี เอฟซี : โกสินทร์ หทัยรัตนกุล 7, สุรีย์ สุขะ 7.5, เกียรติประวุฒิ สายแวว 7.5, ภานุวัฒน์ จินตะ 7.5, สุทธินันท์ พุกหอม 7.5, อาทิตย์ สุนทรพิธ 7.5 (ชวลิต เขียวชอุ่ม -), พิภพ อ่อนโม้ 7.5 (ชลทิศ จันทร์คาม -), แอนเดอร์สัน มาเชโด้ 7 (ไกรสร ปั้นเจริญ -), เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ 7.5, เอกพันธ์ อินทเสน 7

แมนออฟเดอะแมตช์ : อภิภู สุนทรพนาเวศ

ฮัลโหลเริงร่าอัดเด็กจุฬากระจุย 3-0

ที่สนามกีฬากลาง จ.กาญจนบุรี (กลีบบัว ) "ฮัลโหล" ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 9 เปิดบ้านรับมือ "ลูกพระเกี้ยว" จุฬา ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยของตารางที่ยังควานหาชัยชนะไม่เจอ มา 6 นัดติด เจ้าถิ่นยังคงใช้ "กบไซเบอร์" สุเชาว์ นุชนุ่ม สตาร์ประจำทีมนำทัพ พร้อม สิทธิศักดิ์ ตาระพัน, รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ ส่วนคู่หน้าใช้ ไกรสรณ์ ศรียันต์ กับ กีรติ เขียวสมบัติ ล่าตาข่าย

ทีโอที เอฟซี 3-0 จุฬา ยูไนเต็ด

ด้านทีมเยือน "ลูกพระเกี้ยว" จุฬา ยูไนเต็ด รวมแข้งชราวางใจให้ วัชรพงษ์ กล้าหาญ เฝ้าเสา ส่วน วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ กับ อุดม จอกรบ ดูแลแนวรับ และใช้ "เดอะโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ ทะลวงตาข่ายตั้งแต่วินาทีแรกของเกม

เริ่มครึ่งแรก วรวุธ ศรีมะฆะ โชว์ความเก๋าเอาตัวบังบอล ก่อนจะจ่ายเรียด ให้ วัฒนศัพท์ เจริญศรี สอดขึ้นไปหมายจะสับไกยิงแต่ กิติคุณ แจ่มสุวรรณ นายทวาร "ฮัลโหล" ไม่ยอมพลาดง่ายๆ ออกมาตัดบอลจากเท้าหวุดหวิด

น.7 เจ้าบ้านโชว์เกมรุกได้หวือหวา มีโอกาสจะได้ประตูขึ้นนำ จากการทำเกมของ กรีติ เขียวสมบัติ หัวหอกทีโอที ที่กระชากบอลเข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนจะปาดเข้าจุดนัดพบ แต่ ไกรสรณ์ ศรียันต์ วิ่งไปทันโดนกองหลัง "ลูกพระเกี้ยว" หวดโด่งพ้นเขตอันตราย

น. 10 เจ้าบ้านได้ฟรีคิกในระยะ ริมเส้นด้านซ้าย เป็นทางด้าน สุทัศน์ อินเจริญ รับหน้าที่สับไกยิงแต่ วัชรพงษ์ กล้าหาญ นายทวาร "รั้วจามจุรี" ปัดออกหวุดหวิด น. 15 สุเชาว์ นุชนุ่ม มิดฟิลด์สาวกรี๊ดแตกโชว์เบสิกลากบอลทะลุแนวรับทีมเยือนที่กรูกันเข้ามาสกัด ถึงสองคน ได้สับไกยิงแต่ตรงตัว วัชรพงษ์ รับติดหนึบ

น. 20 สุทัศน์ อินเจริญ ได้โอกาสวางบอลจากทางริมเส้นด้านซ้าย เข้าเสาสอง เกือบถึงหัว โคเน่ เซย์ดู ทว่ากองหลังทีมเยือนดักสกัดเต็มหน้าปากประตู น. 25 ทีโอที พยายามติดเครื่องลุยแหลกตามเสียงเชียร์ แต่แนวรับของ "ลูกพระเกี้ยว" จุฬา ยูไนเต็ด ยังคงใช้ความเก๋าเกมเปลี่ยนจากรับเป็นรุกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งต่อให้ วรวุธ ศรีมะฆะ เป็นตัวจ่ายบอล เล่นงานกองหลัง เจ้าถิ่นปั่นป่วนเช่นกัน

น. 33 โคเน่ เซย์ดู แนวรับ ทีโอที เอฟซี แย่งโหม่งกับ วรวุธ ศรีมะฆะผู้ตัดสินให้ทางฝั่ง จุฬา ฯ ได้ฟาว์ล วิธวรรธ์ สีชื่น จะเปิดเข้าไปลุ้น หน้ากรอบเขตโทษ แต่โดนแผงหลังเจ้าบ้านสกัดออกพ้นโซนอันตราย น. 43 เจ้าถิ่นทำเกมโต้กลับเร็ว กรีติ เขียวสมบัติ กระชากบอลมาจากครึ่งสนามก่อน จะวางโด่งเข้าหากรอบเขตโทษ วัชรพงษ์ กล้าหาญ นายทวารจุฬา ฯ ปัดหวืดบอลเข้าเสาสอง แต่ รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ ดักรอโหม่งออกเสาสองไป ก่อนจบครึ่งแรกแบบไร้สกอร์

ครึ่งหลังยังคงเป็นเจ้าถิ่นที่เปิดฉากยำใหญ่ แต่ก็ไม่อาจพังทำนบแนวรับของ ทีมเยือน ที่เกมนี้มารับกันเหนียวแน่นจริงก่อนจะใช้สูตรเดิมในการโต้กลับเร็วสู้ น. 57 ทีโอที เอฟซี มีโอกาสจะได้ประตูหลายจังหวะ จาก กรีติ เขียวสมบัติ ที่พยายามพุงโหม่ง บริเวณหน้าปากเขตโทษ แต่ วัชรพงษ์ กล้าหาญ ยังนิ่งเซฟได้ทุกจังหวะเสียว

น.70 เกมรุกของ จุฬา ยูไนเต็ด ยิ่งเล่นยิ่งแย่ไม่อาจจะทำเกมทำลายแนวรับเจ้าถิ่นได้เลย พร้อมกับเปิดทางให้ ทีโอที เอฟซี กรีฑาทัพขยี้แหลก น. 80 แดนหน้า ทีโอที ดีขึ้นผิดหูผิดตาแล้วมาประสบผลสำเร็จ ได้ประตูนำก่อน จาก นาวินทร์ จันทร์งาม เปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้าย ให้ สิทธิศักดิ์ ตาระพัน หลุดเข้าไปซัดเบิกร่องให้ทีมนำ 1-0

น. 86 เจ้าถิ่นหนีห่าง อีกครั้งจากการยิงประตูสุดสวย ระยะ 40 หลา ของ นาวิน จันทร์งาม ให้ ทีโอที นำ 2-0 เกมทำท่าว่าจะจบด้วยสกอร์นี้ แต่ช่วงทดเวลาเจ็บ น. 93 เคลาดิโอ ดาเนียล จัดการส่องประตูฝังให้เจ้าถิ่น เอาชนะไปเบ็ดเสร็จ 3-0 เก็บสามแต้มในบ้านได้สำเร็จ ส่วน จุฬา ยูไนเต็ด เพิ่มสถิติไม่ชนะใครเป็นนัดที่ 7 ติดต่อกัน

วาทะโค้ช

"โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ กุนซือ ทีโอที เอฟซี - จุฬาฯเขามาเน้นเกมรับอยู่แล้ว เลยทำให้เกมรุกทำอะไรไม่ถนัดแต่พอเปลี่ยนแผนเอากองหน้าตัวสำรองอย่าง นาวิน จันทร์งาม กับ เคลาดิโอ ดาเนียล ลงไปเล่นแทน สามารถพลิกเกมได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะปัญหาของเราก็คือ จังหวะจบสกอร์ยังไม่เฉียบคมแม้ว่าเกมโดยรวมจะดีก็ตาม"

"บิ๊กหอย" ธวัชชัย สัจกุล กุนซือ จุฬาฯ ยูไนเต็ด - ฟุตบอลลีกแข่งกัน 30 นัด ผมมั่นใจว่า ลูกทีมยังไม่มีใครยอมยกธงขาวหรอกเรายังต้องปรับปรุงแก้ไขไอ้ส่วน ที่ไม่ดีกันต่อไปทั้งเกมรับและรุกอย่างไรก็ตามวาระสุดท้าย ถ้าทีมลงตัวผมว่า ทีมเราจะรอดตกชั้นแน่นอน"

คะแนนความสามารถของทั้ง 2 ทีม

ทีโอที เอฟซี : กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ 6, อาทิตย์ ดาวสว่าง 6, ไพรัช ทับเกตุแก้ว 6, สุเชาว์ นุชนุ่ม 6, สิทธิศักดิ์ ตาระพัน 7, กีรติ เขียวสมบัติ 6.5 (กิตติพงษ์ มูลพงศ์- ), ทวีทรัพย์ สีนวนน้อย 6 (เคลาดิโอ ดาเนียล 6), รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ 6, โคเน่ เซย์ดู 6, สุทัศน์ อินเจริญ 6,ไกรสรณ์ ศรียันต์ 6 (นาวิน จันทร์งาม 6)

จุฬา ยูไนเต็ด : วัชระพงษ์ กล้าหาญ 5, วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ 5.5, วิธวรรธน์ สีชื่น 5.5, อุดม จอกรบ 5.5, บุณยฤทธิ์ ปฐมทัศน์ 5, วัฒนทรัพย์ เจริญศรี 5 (ณัฐพล บานไม่รู้โรย -), อโวน่า เซ 5, ไพฑูรย์ นนทดี 5 (กิตติศักดิ์ ปิ่นทอง -), กสินสิษฐ์ เผื่อนอนงค์ 5, อดิศักดิ์ กานู 5, วรวุธ ศรีมะฆะ 5 ( กามเด็ม ฟูเตา- )

แมนออฟเดอะแมตซ์ : สิทธิศักดิ์ ตาระพัน กองกลางทีโอที เอฟซี

โปลิศเฮ2-1นำฝูงต่อ,จันท์ดุขย่ม4-2บอลด.1

แข้ง "โปลิศ" ตำรวจ ยังแรงไม่เลิกเปิดบ้านเชือด "อาร์แบค" รัตนบัณฑิต หืดจับ 2-1 คว้าสามแต้มนำโด่งเป็นจ่าฝูงต่อ ด้าน "ตรากงจักร" ทหารบก เจ๋งบุกไปปราบ "ขุนแผน" สุพรรณบุรี คาถิ่น 1-0 ขณะที่ จันทบุรี งัดฟอร์มเก่งไล่ต้อน "ไดโนเสาร์พิฆาต" ขอนแก่น สนุก 4-2 ส่วน "นายด่าน" ศุลกากร เปิดรังใหม่เกือบหม่องไล่เจ๊า ปตท. เดือด 1-1 ศึกลูกหนังลีกดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 ประจำปี 2552 เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ลงฟาดแข้งกัน 4 คู่ จาก 4 สนาม ผลการแข่งขันมีดังนี้

ศุลกากร 1-1 ปตท.

ที่สนามศุลกากร สุวรรณภูมิ "สิงห์นายด่าน" ศุลกากร ทีมอันดับ 14 ของตารางมีอยู่ 1 แต้ม เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน "เศรษฐีน้ำมัน" ปตท. ทีมอันดับ 6 มีอยู่ 6 แต้ม ท่ามกลางกองเชียร์ทั้งสองทีมที่เข้ามาชมเกมมากพอสมควร นัดนี้ ศุลกากร ใช้จอมเก๋าอย่าง อาทิตย์ ธนูศร กับ โชคทวี พรหมรัตน์ กองหลังดีกรีทีมชาติคุมเกมรับ พร้อมวาง ศรานุวัฒน์ นุศาสตร์สัง ลงล่าตาข่าย ด้านทีมเยือน ปตท. มี จิราวุธ สาระนันท์, ธาดา ทองท้วม นำทัพ

เริ่มเกมครึ่งแรกเจ้าบ้านเปิดเกมใส่ก่อนทันที แต่ น.13 ทีมเยือนได้เฮก่อนเมื่อ สันติธร ลัทธิรมย์ จอมทัพปตท. เปิดลูกเตะมุมตรงฝั่งขวาเข้ามากลางประตู จ๊อคกี้ สเตฟาน เซนเตอร์ชาวแคเมอรูนขึ้นโขกตูมเดียวตุงตาข่ายเป็นประตูนำ 1-0 จากนั้นเจ้าถิ่นพยายามทำเกมบุกใส่หวังที่จะยิงประตูตีเสมอให้ได้แต่ยังไม่ เป็นผล

น.18 ทีมเยือนหวิดได้ประตูเพิ่ม สันติธร ลัทธิรมย์ ปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลาบอลพุ่งชนคานดังสนั่นออกหลังไป น.22 เจ้าบ้านได้ลุ้นตีเสมอจากจังหวะที่ สุรศักดิ์ คุ้มกัน กองหน้าศุลกากร ได้ฮาล์ฟวอลเลย์ระยะ 25 หลาบอลพุ่งเข้าหาประตู แต่ เจตนา จูมจตุรัส นายทวารทีมเยือนพุ่งปัดชนคานออกหลังได้หวุดหวิด

น.38 เอ็ดเวิร์ด อาโนลด์ อีฟิมบ้า ปีกขวาชาวแคเมอรูนหลุดเข้าไปกดเต็มข้อในกรอบเขตโทษตรงเสาแรก บอลพุ่งเสียบเสาสองให้ ศุลกากร ตีเสมอเป็น 1-1 น.40 เจ้าบ้านน่าขึ้นนำสุดๆ ศรานุวัฒน์ นุศาสตร์สังข์ หัวหอกศุลกากรพาบอลหลุดขึ้นไปหน้าประตู ก่อนจะผ่านบอลมาเสาสองให้ วุฒิชัย คู่แก้ว คู่หูในแดนหน้าจับหนึ่งจังหวะแล้วกดด้วยขวาบอลพุ่งหลุดเสาไปอย่างไม่น่า เชื่อ หมดครึ่งแรกยังเสมอกัน 1-1

ครึ่งหลังทั้งสองทีมเปิดบุกแลกใส่กันอย่างสนุก น.75 เจ้าบ้านมีลุ้นได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ไตรรงค์ ผู้ดี กองกลางศุลกากรได้กดเต้มข้อในกรอบเขตโทษแต่ไม่ผ่านมือ เจตนา จูมจตุรัส จากนั้นทั้งสองทีมเริ่มเข้าปะทะกันหนักขึ้น

น.85 เจ้าบ้านมาเหลือ 10 คนเมื่อ ปราโมทย์ พจน์สุนทร กลางตัวรับศุลกากรไปเตะใส่ ศราวุฒิ จตุรภัทร แบ็คขวาปตท. ผู้ตัดสิน สุรชัย กุหลาบควักใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ ปราโมทย์ พจน์สุนทร ออกจากสนาม หลังจากรับเหลืองแรกมาในน.29 ของครึ่งแรก จากนั้น ปตท. เปิดเกมบุกกดดันเข้าใส่ทีมนายด่านอย่างหนักแต่ทำประตูเพิ่มไม่ได้ จบเกม ศุลกากร เสมอ ปตท.ไป 1-1 แบ่งไปทีมละ 1 แต้ม

หลังเกม ณรงค์ สุวรรณโชติ โค้ชศุลกากร กล่าวว่า "เกมนี้ถือว่าโอเค ตนเพิ่งจะเข้ามาคุมทีมฝึกซ้อมเปลี่ยนรูปเกมเปลี่ยนระบบได้แค่ 3 วัน เด็กก็เล่นได้ดีทุกคน คิดว่าถ้ามีเวลามากกว่านี้เราจะดีขึ้นแน่นอน เกมนี้ผู้ตัดสินไม่ทันเกมหลายจังหวะทำให้เกมเปลี่ยนแต่กับ 1 แต้มที่ได้แล้วเราเหลือ 10 คน ก็พอใจ คงต้องกลับไปปรับเกมรับแดนกลาง การหนีตัวประกบให้ดีกว่านี้"

ด้าน ประพันธ์ เปรมศรี โค้ชปตท. กล่าวว่า "เกมนี้นักเตะเราเล่นได้ดี มีโอกาสบุกมากกว่า แต่ต้องบอกว่าการตัดสินใจของกรรมการในเกมนี้หลายจังหวะทำได้ค่อนข้างแย่ บางจังหวะที่เราควรได้ฟาวล์แต่เรากลับไม่ได้ ทำให้มีผลกับรูปเกมของเรามาก ทั้งที่เกมนี้เราน่าจะเป็นผู้ชนะ แต่ก็พอรับได้กับผลการแข่งขันในนัดนี้"

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

ศุลกากร: อาทิตย์ ธนูศร 5, ภัทรพล โมลิโต 6.5, โชคทวี พรหมรัตน์ 7, เมธี ทวีกุลกาญจน์ 6, สุรศักดิ์ คุ้มกัน 6, ศรานุวัฒน์ นุศาสตร์สังข์ 6 (วรุตน์ สัพโพ 6), เอกราช บุพศิริ 5 (ไตรรงค์ ผู้ดี 6), เอ็ดเวิร์ด อาโนลด์ อีฟิมบ้า 7, ปราโมทย์ พจน์สุนทร 6, สามารถ เพชรหนู 6, วุฒิชัย คู่แก้ว 5 (สัมพันธ์ ดำสุข -)

ปตท. : เจตนา จูมจตุรัส 6, วัชรพงษ์ คงช่วย 6 (ศักดิ์รินทร์ ภู่สามสาย 5), จ๊อคกี้จ๊อคกี้ สเตฟาน 7, ศราวุฒิ นะตะสัตย์ 6, สันติธร ลัทธิรมย์ 6.5, อนุ สิงหราช 6, ศราวุฒิ จตุรภัทร 7.5, โจเซฟห์ ควาเบน่า 6, นวพล ทีปะลา 5 (พันตรี หมัดอาดัม 5), จิราวุธ สาระนันท์ 7, ธาดา ทองท้วม 7

แมนออฟเดอะแมตช์ : ศราวุฒิ จตุรภัทร แบ็กขวาจอมบุกที่เด่นทั้งรุกและรับของปตท.

จันทบุรี 4-2 ขอนแก่น

ที่สนามกีฬากลางจ.จันทบุรี เจ้าถิ่น จันทบุรี ทีมอันดับ 12 ที่มีอยู่ 2 แต้ม เกมนี้เปิดบ้านพบกับ "ไดโนเสาร์พิฆาต" ขอนแก่น ทีมอันดับ 5 มีอยู่ 7 แต้ม เจ้าบ้านส่งตัวหลักลงครบส่วนผู้มาเยือนมี อิสระพงศ์ ลิละคร นำทัพ ครึ่งแรกจันทบุรีขึ้นนำ 1-0 จากจุดโทษของ ณัฐพงษ์ ก่อกิตติพงศ์ น.13 ส่วนครึ่งหลังเกมยังสนุกเจ้าบ้านนำ 2-0 น.55 จากณัฐพงศ์ คนเดิมถัดมาสองนาที อดิศร เขาหนองบัว ยิงให้เจ้าบ้านเป็น 3-0

น.68 ศรายุทธ วิเชียร ยิงให้ขอนแก่นตามมา 1-3 ก่อนที่ ศุภกร ฆารดา มายิงให้ขอนแก่นไล่มาเป็น 2-3 น.77 ท้ายเกม น.85 จันทบุรี หนีเป็น 4-2 จาก แยงกี้ หลังจากนั้นเกมยังสนุกตื่นเต้นแต่ทำประตูเพิ่มไม่ได้ทำให้จบเกมจันทบุรี เอาชนะไป 4-2

หลังเกม ปัญญา การเจริญ โค้ชจันทบุรีกล่าวว่า "เป็นเกมที่สนุกมากวันนี้ขอนแก่นมาดีแต่เราทำได้ดีกว่าและยิงนำไปถึง 3-0 แต่ก็โดนไล่มาโดยเฉพาะลูกโด่งที่ต้องแก้กันต่อไป ไม่เป็นไรได้สามแต้มก็โอเคแล้ว"

ส่วน ณรงค์ ท่วมไธสง ของขอนแก่นกล่าวว่า "เสียเร็วเลยตั้งตัวไม่ทันนักเตะเราพยายามทำเต็มที่แล้วมีโอกาสเยอะเหมือน กันน่าจะตีเสมอได้หลายหนไม่เป็นไรเกมหน้าเอาใหม่"

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

จันทบุรี : ทักษิณ วิเศษสิงห์ 6.5 (เกริกชัย ละอองแก้ว-), คริสเตียน 6.5, สิทธิชัย มัสบูงอ 6.5, ศิริศักดิ์ มัสบูงอ 6.5, แยงกี้ 7, วาเลนไทร์ 6, ณัฐพงษ์ ก่อกิตติพงศ์ 7, พงษ์พันธ์ ไทรย้อน 6.5, อดิศร เขาหนองบัว 6.5 (ปรัชญา นะราช 5.5), สุระสิทธิ์ จันทะแสง 6.5 (ฐิติ สังข์ศรี 6), อาทิตย์ ยุทธวิชัย 6.5

ขอนแก่น : สรายุทธ ตะโก 6, วุฒิชัย พันธ์มุก 6 (กาเมร่า-), วุฒิศักดิ์ คำมูล 6, ศุภกร ฆารดา 6, ผดุงศักดิ์ กิตติวราพล 6, ชรินทร์ บุตรฮาด 6, อิสระพงษ์ ลิละคร 6, สุรชาติ สิงห์โหง่น 6 (อดิศักดิ์ จารัตน์ 5.5), โรเมโอ 6, เริ่มรัตน์ งามเจริญ 6, เดโจกัม 6 (ศรายุทธ วิเชียร6)

แมนออฟเดอเดอะแมตช์ : แยงกี้ ดาวเตะผิวสีจันทบุรี

สุพรรณบุรี 0-1 ทหารบก

ที่สนามฟุตบอลร .ร.กีฬาสุพรรณบุรี เจ้าบ้าน "ขุนแผน" สุพรรณบุรี ทีมอันดับ 2 ของตารางมีอยู่ 9 แต้ม เกมนี้พบกับ "ตรากงจักร" ทหารบก ทีมอันดับ 11 ที่มีอยู่ 3 แต้ม เจ้าบ้านส่งตัวหลักอย่าง คัมภีร์ ปิ่นทะกุล กับ กฤษณะ ภูผา นำทัพ ส่วนทหารบกมี จักรพงษ์ สมบูรณ์และ ธาตรี สีหา เป็นตัวยืน

เริ่มเกมทั้งสองทีมเปิดเกมใส่กันทันทีและมีโอกาสทำประตูทั้งคู่ จน น.26 สมพร ธัญเจริญ มายิงให้ทหารบกนำ 1-0 หลังจากนั้นพลัดกันรุกรับตลอด ครึ่งหลังเกมยังสนุกสูสีแต่ไม่มีทีมไหนที่จะจบสกอร์ได้ ทำให้จบเกม ทหารบก บุกมาเอาชนะสุพรรณบุรี 1-0 คว้าสามแต้มสำเร็จ

หลังเกม จีรศักดิ์ เจริญจันทร์ โค้ชใหญ่สุพรรณบุรีกล่าวว่า "เกมนี้สนุกสูสีเรามีโอกาสเหมือนกันแต่จบไม่ได้ไม่เป็นไรฟุตบอลก็อย่างนี้ ต้องปรับกันต่อไป"

ส่วน ขวัญ รัตนรังสี ของทหารบกกล่าวว่า "สนามไม่ค่อยดีเท่าไหร่ทำให้เกมไม่ไหลลื่นนัก น่าจะได้หลายลูกแต่พลาดไปเองพอใจกับสามแต้มที่ได้มาต้องยกให้กับนักเตะที่ ช่วยกันเล่นในเกมนี้"

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

สุรรณบุรี : อมรการ ศรีทะโร 6, สุจิน เพ็งศิริ 6 (วินิจ มาโสมพันธ์ 5.5), ธีรพงษ์ สว่างศรี 6, กฤษณะ ภูผา 6, คัมภีร์ ปิ่นทะกุล 6.5, สมพร ประจง 6, อนุวัฒน์ น้อยชื่นพันธ์ 6, เกียรติชัย ศรีโปฎก 6, อนุชา บัณฑิตผลเลิศ 6, มูซ่า ซีร่า5.5 (ฉัตรชัย คุ้มพญา 5.5), ครรชิต ปทุมสูตร 6 (ยศดนัย นาคทับทิม5.5)

ทหารบก : ดาวุฒิ ดินเขต 6, ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม 6.5, ธาตรี สีหา 5.5, จักรพงศ์ สมบูรณ์ 6 (รัฐกิจ ชนะนา 5), สำเริง สิทธิ์โยธี 6, สมพร ธัญเจริญ 6 (วุฒินันท์ ขันแก้ววงศ์ 5), มงคล ทศไกร 6 (ธนากรณ์ แดงทอง 5 ), ฉัตรชัย โมกเกษม 6, วันชนะ รัตนะ 6, วีรพงษ์ มูลคำแสน 6

แมนออฟเดอะแมตย์ : ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม ของทหารบก

ตำรวจ 2-1 รัตนบัณฑิต

ที่สนาม คลองจั่น "โลห์เงิน" ตำรวจ ทีมจ่าฝูงเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน "อาร์แบค" รัตนบัณฑิต ทีมอันดับ 15 ของตาราง นัดนี้ เจ้าบ้านส่ง อานนท์ นานอก ลงทำหน้าที่แทนกัปตันทีม กฤษฎี ประกอบของ ที่มีอาการบาดเจ็บจากนัดที่แล้ว และมานิตย์ น้อยเวช ที่ซัดไปแล้ว 3 ลูกนำดาวซัลโวอยู่ ลงล่าตาข่าย ขณะที่ รัตนบัณฑิต ใช้ส่งนักเตะตัวหลัก คฑาวุฒิ บุญอำพร และวาง กวีพันธ์ ทวีบุตร กองหน้าคนเดียว

เริ่มเกมครึ่งแรก น. 5 เจ้าถิ่นมาได้จังหวะทักทายก่อน จากการทำเกมขึ้นาทางด้านขวา จาก จักรพันธ์ พรใส แล้วเปิดเข้ามากลางประตู แต่ มานิตย์ โหม่งบอลไปเข้ามือ ธีรพงษ์ พุทธสุขา ผู้รักษาประตูอาร์แบค รับสบาย

น.23 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮลั่น มานิตย์ จ่ายบอลทะลุช่องมให้ ปฏิพล วิ่งมารับบอลหลุดกับดักล้ำหน้าของอาร์แบค ก่อนจะลากบอลเข้ามาหน้าประตูแล้วเปิดเข้าหน้าประตู แต่ไปติด คฑาวุฒ กองหลังรัตนบัณฑิต แต่เตะออกมาไปดี ไปโดนตัว ธีรพงษ์ เด้งเข้าประตูตัวเอง ทำให้ ตำรวจ ออกนำไปก่อน 1-0

จากนั้น ตำรวจยังเปิดเกมบุกเข้าใส่ อาร์แบคอย่างต่อเนื่อง น.37 รัตนบัณฑิต เกือบมาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะ คฑาวุฒ ลากบอลขึ้นมาทางกราบขวาก่อนเปิดเข้าไปหน้าประตู ให้ วุฒิพงศ์ ขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆ แต่บอบเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบครึ่งแรก ตำรวจ นำ 1-0

ครึ่งหลัง เริ่งเกมได้เพียงนาทีเดียว กองเชียรเจ้าเกือบได้เฮกันอีกครั้ง ผู้เล่นอาร์แบค จ่ายบอลพลาด จักรพันธ์ ผู้เล่นตำรวจตัดบอลได้ก่อนจ่ายบอลทะลุช่องให้กลับ เอกอาทิตย์ ลากบอลเข้าไปยิง แต่ไปติดตัวผู้รักษาประตูอาร์แบครับไว้ได้

น.65 เจ้าบ้านมาได้ประตูหนีห่าง จักพันธ์ ก่อนเปิดบอลให้กลับ สุรพงษ์ ธรรมวงศ์ศา ยิงโล่งๆ บอลลอยไปชนเสาเด้งออกมาเข้าทาง เอกอาทิตย์ ยิงซ้ำระยะ 6 หลาเข้าไปไม่เหลือซาก ตำรวจออกนำ 2-0

น.80 อาร์แบคได้ประตูตีไข่แตกจาก จังหวะฟรีคิกระยะ 40 หลา ของ กวีพันธ์ ยิงไปชนคานเด้งออกมา เข้าทาง ปรวัตร ยิงซ้ำเข้าไป ไล่มา 1-2 จากนั้นอาร์แบค พยายามทำเกมบุกใส่ ตำรวจอย่างต่อเนื่อง

นาทีสุดท้าย อาร์แบค เกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ ปรวัตร ลากบอลไปที่เส้นหลังก่อนเปิดมาให้ วุฒิพงษ์ ก่อนโหม่งกดลงพื้น บอลเด้งลอยจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ สมพงษ์ ยอดอาจ โชว์ซุปเปอร์เซฟปัดออกมาไปได้อย่างหวุดหวิด จบเกม ตำรวจ ชนะ รัตนบัณฑิตไปได้ 2-1 เก็บสามแต้มในบ้านได้สำเร็จ นำจ่าฝูงต่อไป

หลังเกม ชัยยง ขำเปี่ยม กุนซือตำรวจ กล่าวว่า "ถือว่าโอเค ครับเกมนี้เราทำได้ดีในจังหวะจบสกอร์ทำให้เราเก็บสามแต้มในบ้านไดอีกนัด แต่ยังมีสิ่งที่ต้องปรับอีกคือเรื่องสมาธิกับเกมให้มากยิ่งขึ้นกว่านี้ "

ด้าน สุประมิตร บุญมีมาก โค้ชรัตนบัณฑิต "ดีครับเด็กเราเล่นได้ตามเกมที่วางไว้ แต่ผู้ตัดสินตัดสินไม่ค่อยดีเท่าทำให้เราแพ้เกมนี้ โดยเฉพาะจังหวะ ที่เราเสียประตูแรก มันน่าจะเป็นจังหวะล้ำหน้ามากกว่า และนั้นสิ่งทำให้เราแพ้ในเกมนี้"

คะแนนความสามรถของนักเตะทั้งสองทีม

ม.รัตนบัณฑิต : ธีระพงศ์ พุทธสุขา 5, สุรชัย พรมทะลาย 5 (น.55 สุประมิตร บุญมีมาก 5), อรัญ คลองมดคัน 5, ปรวัตร สิริวัฒนากร 6, อมร กันดีลัง 5 (น.31จิระเดช บงสีดา6), กวีพันธ์ ทวีบุตร 6, วุฒิชัย บุญประคอง 5, เกรียงศักดิ์ ชุมพรผ่อง 6, ทาราทิ ดาโอะ 5 (น.31วุฒิพงศ์ เกิดกุล 6), สรุชัย แก้วรอด 5, เกรียงศักดิ์ ชุมพรผ่อง 6

ตำรวจ : สมพงษ์ ยอดอาจ 6.5, อานนท์ นานอก 6.5, โดดาตัส อันนาน 6, กามาร่า ฮาเม็ด 7, สุรพงษ์ ธรรมวงศา 6.5, มานิตย์ น้อยเวช 7, จักรพัน พรใส 7.5, เอกอาทิตย์ สมจิตร 7, ซามูเอล แรมเต้ 7, ปฏิพณ เพชรวิเศษ 7 (อับดุสสลาม เลขพรยันต์ 6.5), ประสพ เกิดศร 6

แมนออฟเดอะแมตช์ จักรพัน พรใส มิดฟิลด์ริมเส้นด้านซ้ายของตำรวจ

สำหรับโปรแกรมวันที่ 26 เม.ย.52 นี้ ที่สนาม ทหารอากาศ พบ สงขลา เวลา 16.00, ที่สนามเบียร์ช้าง บ้านบึง การบินไทย-บ้านบึง พบ นครสวรรค์ เวลา 16.00, ที่สนามกีฬากลาง จ.สุราษฎ์ธานี สุราษฏร์ธานี พบ ไทย-ฮอนด้า เวลา 16.00 , ที่สนามเทศบาลเมืองปราจีนบุรี เทศบาลเมืองปราจีนบุรี พบ ศรีสะเกษ เวลา 16.00

Wednesday, April 22, 2009

"โค้ชแต๊ก"คุมทีทีเอ็มต่อ

จากกรณีที่ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร หลังพ่ายแพ้ สมุทรสงคราม คาบ้าน 0-1 ในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทว่าทางนายอนุชา กระเดื่องเดช ผู้จัดการทีมยืนยันว่าจะยังคงใช้บริการ นานอรรถพล ต่อไป และได้นัดเคลียร์ปัญหา เมื่อวันที่ 21 เม.ย.52

ล่าสุด โค้ชแต๊ก เผยว่า หลังการประชุมกับผู้บริหารสโมสร ทางทีทีเอ็มฯ ยับยั้งไม่ให้ตนออก ขอให้ช่วยดูแลทีมต่อไป ยืนยันว่าให้การสนับสนุน นอกจากนี้ก็มีทั้งแฟนคลับของมหาชัย และพนักงานยาสูบเดิม เดินทางมาให้กำลังใจ ตนจึงตัดสินใจที่จะรับหน้าที่คุมทีมต่อไป โดยทางผู้บริหารทีทีเอ็ม มั่นใจว่าตนจะพาทีมมาสู่กลางตารางหรือหัวตารางได้

อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทีมต้องเร่งหาเพลย์เมคเกอร์และกองหน้าต่างชาติโดยด่วน เพราะหลังเกมเปิดสนาม ก็เสีย วรวุฒิ วังสวัสดิ์ ที่เจ็บยาว ส่วนเกมต่อไปที่เปิดบ้านพบ นครปฐม ยังไงก็ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืน

สาวกเฮ!หงส์คอนเฟิร์มบุกไทย22ก.ค.

สาวก เดอะ ค็อป เมืองไทย ยิ้มร่า "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยืนยันเดินทาง ทัวร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงปิดฤดูกาลนี้แน่นอนแล้ว โดยจะลงหวดทีมชาติไทย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 22 ก.ค. 2 ทุ่มตรง ต่อด้วยบุกซดทัพลูกหนังแดนลอดช่อง วันที่ 26 ก.ค.

ลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ทางการของทีม เมื่อวันพุธที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา ยืนยันหมายกำหนดการยกพลบุก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงปิดฤดูกาลนี้ โดยมีคิวลงดวลแข้งกับทีมชาติไทย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันพุธที่ 22 กรกฏาคม ก่อนจะเตะกับ ทีมชาติสิงคโปร์ อีก 4 วันถัดไป

ราฟาเอล เบนิเตซ จะพาทัพ "หงส์แดง" มาเยือนแดนสยาม ภายใต้การสนับสนุนของ สเตรจิค สปอร์ต อินเวสต์เมนต์ (เอสเอสไอ) บริษัทในเครือของ โพรฟิตเทเบิ้ล กรุ๊ป เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลงสู้ศึกฤดูกาล 2009-2010 ซึ่งยอดทีมแห่งถิ่น แอนฟิลด์ มาโชว์ฝีเท้าให้แฟนบอลชาวไทยชมครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2003 ขณะที่ลงเตะในแดนลอดช่อง เมื่อปี 2001

กุนซือชาวสแปนิช กล่าวว่า "พวกเรามีแฟนบอลที่มหัศจรรย์ทั้งในประเทศไทย และสิงคโปร์ และมันจะเป็นเรื่องเยี่ยมที่ได้พาลูกทีมกลับไปที่นั่นอีกครั้งหนึ่ง"

ทางด้าน เอียน แอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของสโมสร กล่าวเสริมว่า "เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นภูมิภาคสำคัญของ ลิเวอร์พูล เอฟซี ขณะที่เรากำลังเดินหน้าแผนการระดับนานาชาติ การทำให้แฟนๆ ได้เห็นทีมจริงๆเป็นสิ่งสุดยอด พวกเราได้รับการตอบรับในทิศทางที่ดีจากแฟนๆ ของสโมสรในแถบนี้ และสโมสรจะทำงานใกล้ชิดกับพวกเขา ผู้สนับสนุนของเรา และผู้ให้ความร่วมมือในท้องถิ่นให้การรับรองว่า นี่จะเป็นทัวร์ที่น่าตื่นเต้น และเต็มไปด้วยความทรงจำอย่างแน่นอน"

ขณะเดียวกัน สตีฟ แม็คมาน อดีตกองกลางฮาร์ดแมนของทัพ "เร้ด แมชชีน" ยุค 80 ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของ โพรฟิตเทเบิ้ล กรุ๊ป กล่าวว่า "นี่เป็นข่าวดีจริงๆ ที่พวกเราสามารถนำหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในโลก มายังเมืองไทย และสิงคโปร์ได้ มันจะเป็นการสร้างโอกาสที่เป็นจริงสำหรับแฟนๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่พวกเขาจะได้เห็นฮีโร่ในดวงใจอย่างใกล้ชิด"

สงขลาเจ๊าฮอนด้า1-1บอลด.1นัดตกค้าง

สงขลา ไร้โชคตะบันประตูนำก่อน 1 เม็ดแต่สุดท้ายต้าน ไทย-ฮอนด้า ไม่ไหว โดนไล่ตีเสมอก่อนหมดเวลาแค่ 4 นาที 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ส่งให้ ฮอนด้า ขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ส่วนเจ้าถิ่นรั้งอยู่อันดับ 7 ศึกลูกหนังดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา นัดตกค้าง ที่สนามจิรนคร จ.สงขลา มีผลการแข่งขันดังนี้

สงขลา 1- ไทย-ฮอนด้า 1

สงขลา ทีมอันดับ8 เปิดสนามจิระนครรับการมาเยือนของทีมจากเมืองหลวง “สิงห์มอเตอร์ไซค์” ไทย-ฮอนด้า ทีมอันดับ 4 เกมนี้เจ้าถิ่นส่งหัวหอกตัวเก่งอย่าง ณัฐพล จันทสุริวงศ์ ลงล่าตาข่ายเช่ยเดิม ด้าน ไทย-ฮอนด้า มี สุทิน อนุกูล เป็นจอมทัพ พร้อมด้วย แข้งตัวกลั่นอย่าง เชาวลิต ไปแดน, ประเสริฐ รุกไพรี ลงบู๊

เกมครึ่งแรก เป็นทางด้านเจ้าบ้าน ที่อาศัยระบบทีมเวิร์กต่อบอล หวังกะซวกตาข่ายของทีมเยือนให้กระเจิง แต่งานนี้ อาคันตุกะจาก “เมืองหลวง“ ขึงเกมรับอย่างเหนียวแน่น ก่อนใช้เกมโต้กลับเร็วเล่นงานเกือบพังประตูได้หลายหน กระทั่งเกมดำเนินมาถึง น. 40 กองเชียร์ “แดนสมิหลา” สงขลา ได้เฮก่อน เมื่อ ณัฐพล จันทสุริวงศ์ หลุดเข้าไปกระหน่ำให้ทีมขึ้นนำ 1-0 หมดครึ่งแรกนำด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง เกมทำท่าจะเข้าทาง สงขลา หลังใช้วินัยในเกมรับดีเยี่ยมเกือบจะยันสกอร์ชนะอยู่แล้ว ทว่า น. 86 แนวรับก็มาพลาดจนได้ จากจังหวะเตะมุมของ ไทย-ฮอนด้า เป็นทางด้าน เชาวลิต ไปแดน ที่รับหน้าที่วางเข้าหากรอบเขตโทษ กองหลังเจ้าบ้าน พากันลังเลไม่เคลียร์ให้ขาดบอลเฉียดคานมุดตุงตาข่าย ไล่ตีเสมอ1-1 แชร์กันไปทีมละแต้ม

แมนออฟเดอะแมตช์ เชาวลิต ไปแดน กองหน้าไทย-ฮอนด้า ผู้ยิงประตูตีเสมอ 1-1 แบ่งแต้มได้สำเร็จ

คะแนนความสามารถของทั้ง2 ทีม

สงขลา: ดนเล๊ะ หมะอิ 6,ณัทธร เพ็ชรมณี6 ,ซัมเซ็ม หมิมา6 ,อมร หมัดเลียด6,ทบ สมใจ6,ไชยรัตน์ หมัดศิริ6,ณัฐพล จันทสุริวงศ์7,เฉลิมพร คำเม็ง6,มานพ สอนแก้ว6,วิทวัส เอี่ยมรัมย์6,ริชาร์ด อบองเย่ มิกู 6

ไทย-ฮอนด้า: ประสิทธิ์ น่วมศาลา 6,นพรัตน์ สกุลอ๊อด6,สุทิน อนุกูล6,ชัยพล หวังนุกูล6,ไอซิดอร์ เดาจิโอ6 ,ประเสริฐ รุกไพรี6 ,ชมนันท์ สุขเกษม6 ,ไปรเวท วันนา6,เชาวลิต ไปแดน7,เฮนรี่ วัลเธอร์6 ,ระพี พวงมี 6

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไปในวันที่ 25 เม.ย. นี้ ทุกสนามเริ่ม 16.00 น. สนาม ม.เกษมบัณฑิต ศุลกากร พบ ปตท, สนามกีฬาคลองจั่น ตำรวจ พบ รัตนบัณฑิต, สนามกีฬากลาง จ.จันทบุรี จันทบุรี พบ ขอนแก่น

เมืองทองใช้สุริยาเป็นหอกตัวเป้าแทน "มุ้ย"

ทีม "กิเลนผยอง" เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ซึ่งรั้งอันดับ 4 ของตารางในเวลานี้ และจะมีโปรแกรมลงทำศึกในบ้านวันอาทิตย์ที่ 26 เม.ย.พบกับ ศรีราชา เอฟซี ด้วยสภาพทีมที่ต้องขาดศูนย์หน้าตัวเป้าอย่าง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมที่เอาชนะการไฟฟ้าฯ 1-0 กระดูกไหปลาร้าด้านซ้ายแตกและต้องพักยาวถึง 6 สัปดาห์เต็ม

ล่าสุดเมื่อ 22 เม.ย.ทีมยังทำการฝึกซ้อมกันที่สนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี โดยนี ปีเตอร์ รีด และสตีฟ ดาร์บี้ กุนซือทีมชาติไทยมานั่งชมฟอร์มนักเตะด้วย ซึ่งการซ้อมได้เน้นในเรื่องการเล่นเกมครึ่งสนาม และต่อด้วยการเข้าทำ และยิงประตู

"โค้ชหมี" สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ โค้ชใหญ่เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวถึงสภาพทีมว่า การต้องขาด ธีรศิลป์ ไปมีผลกระทบทีมพอสมควร เนื่องจากที่ผ่านมาเกมรุกก็ยังไม่ดีนัก แต่เราก็ต้องปรับระบบกันใหม่ ด้วยการใช้ สุริยา ดอมไธสง ขึ้นไปเล่นหน้าตัวเป้าแทน ซึ่ง สุริยา จะเป็นกองหน้าที่มีความเร็ว และมีการเคลื่อนที่ตลอดเวลา"

"นอกจากนี้ก็จะใช้แผงกองกลางที่เราดีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวะการเข้าทำ ส่วนการเจอกับศรีราชาแม้จะเล่นในบ้านก็คงประมาทไม่ได้เพราะเป็นทีมพลังวัย รุ่นเล่นกันมานาน และมีสปิริตของทีมสูง คิดว่าคงต้องดูจังหวะของเกมก่อน แล้วค่อยปรับในภายหลัง ยังไงก็เต็มที่ และมองไปที่ 3 แต้มเท่านั้น"

ด้าน โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผจก.ทีม ที่มาดูแลการซ้อมด้วย เผยว่า ธีรศิลป์ กลับมาพักที่บ้านแล้ว แต่ว่าจะต้องรอดูอาการประมาณ 5 วันจึงจะค่อยซ้อมเบาๆได้ ก็เสียดายเพราะทีมกำลังลงตัวและธีรศิลป์ ก็กำลังมั่นใจด้วย ในเวลานี้คงต้องปรับตัวที่มีอยู่ให้ลงตัวที่สุด ซึ่งยังเชื่อว่าแข้งที่เหลือก็สามารถทดแทนกันได้

ท่าเรือใช้รังเตะคลองเตย,ดึงแข้งบราซิลอุดรูรั่ว

"สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ได้ฤกษ์กลับไปใช้สนามของตัวเองที่คลองเตยเป็นรังเหย้าประเดิมนัดแรกต้อนรับ การมาเยือนของ "ตะหานน้ำ" ราชนาวีระยอง อาทิตย์ที่ 26 เม.ย. นี้ ประธานสโมสร "บิ๊กเชฐ" พิเชฐ มั่นคง มั่นใจกระแสตอบรับจากแฟนดีแน่เตรียมทำแผนประชาสัมพันธ์กระจายข่าวให้แฟนบอล คลองเตย รับทราบ ล่าสุดเตรียมเล็งแข้งแซมบ้า และ แข้งจากแคเมอรูน เข้ามาเสริมทัพ ส่วนเมืองทองยูไนเต็ด ปรับทัพ ใช้ สุริยา ดอมไธสง เป็นหัวหอกหลักในการล่าตาข่ายแทน “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่เจ็บจนต้องพักยาว

ความเคลื่อนไหวของทีมในศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ที่อยู่ระหว่างซ้อมเพื่อเตรียมลงเตะนัดที่ 7 ของฤดูกาลในวันเสาร์, อาทิตย์ที่ 25-26 เม.ย. นี้ โดยล่าสุดทีม การท่าเรือไทย เอฟซี ที่อยู่อันดับ 7 เตะมา 5 นัดมี 7 แต้ม เกมล่าสุดบุกไปแพ้ให้โอสถฯ รองจ่าฝูงมา 1-2

"บิ๊กเชฐ" พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสร "สิงห์เจ้าท่า" ออกมาเปิดเผยกับนสพ.สยามกีฬาว่า "สนามของเราที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย คลองเตย ล่าสุดได้ทำการปรับปรุงเสร็จแล้วซึ่งยอมรับว่าใช้เวลานานพอสมควรทีเดียวต่อ จากนี้ไปเราจะกลับไปใช้สนามของตัวเองที่คลองเตยเล่นนัดเหย้าโดยจะเริ่ม ประเดิมนัดแรกตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 26 เม.ย. นี้เป็นต้นไป"

"เกมดังกล่าวเราจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีม ราชนาวีระยอง ในเวลา 17.30 น. และสัปดาห์ต่อไป 3 พ.ค. ที่เราจะพบกับทีโอที เอฟซี นั้นจะมีการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 11 ด้วยการที่เราได้กลับมาเล่นในสนามของเราเองแห่งนี้ผมมั่นใจว่าจะทำให้เราทำ ผลงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอนไหนจะเป็นแรงสนับสนุนจากแฟนบอลของทีมเราเองที่ ไม่ต้องเดินทางตามไปเชียร์ยังสนามอื่นที่เราไปใช้ก่อนหน้านี้แต่สนามแห่งนี้ มีทำเลอยู่ใกล้กับชุมชนใหญ่อย่าง คลองเตย รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งขณะนี้ไม่มีสนามไหนในพื้นที่ดังกล่าวเลยที่มีเกม ไทยพรีเมียร์ลีกให้แฟนบอลได้ชมกัน"

"เชื่อว่าทีมเราจะได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนบอลเหมือนวันวานที่ผ่านมา แน่นอนซึ่งขณะนี้สโมสรเองได้เตรียมทำแผนประชาสัมพันธ์รวมถึงจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับแฟนบอลเอาไว้แล้วคาดว่ายอดจำนวนแฟนบอลที่จะเข้ามาเชียร์ทีมเราจะไม่ น้อยหน้าทีมอื่นๆและน่าจะนำมาซึ่งรายได้เข้าสู่สโมสรดีกว่าไปใช้สนามอื่นๆ เล่นอย่างแน่นอน"

"ด้านผลงานของทีมนั้นยอมรับว่า 5 นัดที่ผ่านมายังไม่สู้ดีเท่าไหร่ยังดูติดๆขัดๆไปหน่อยแต่เชื่อว่าอีก 2-3 นัดน่าจะลงตัวมากกว่านี้โดยในเลกสองนั้นเราจะอิมพอร์ตนักเตะชาวบราซิลและ แคเมอรูน เข้ามาเสริมทัพโดยได้รับการประสานงานจาก "ง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ที่ปัจจุบันเป็นโค้ชอยู่ในเอสลีกของสิงคโปร์ซึ่งมีความสนิทสนมเป็นการส่วน ตัวกับโค้ชเราอย่างคุณสะสม พบประเสริฐ เป็นอย่างดี"

Tuesday, April 21, 2009

ไฟฟ้าเจ๊า1-1,ฉลามชลยำ6-0AFCคัพ

"จอมช็อต" การไฟฟ้าฯ สุดเช็งโดน บินห์เยือง ไล่เจ๊านาทีท้าย 1-1 พลาดสามแต้มทองจากเมืองญวนน่าเสียดาย ประพล พงษ์พานิช กุนซือใหญ่สุดเสียดาย แต่ยังไม่ท้อขอเดินหน้าสู้ต่อไป มั่นใจสองเกมที่เหลือผ่านได้แน่ ขณะที่ "ฉลามชล" ชลบุรี ฟอร์มดุเขมือบ ฮานอย เอสซีบี เละ 6-0 การันตีแชมป์กลุ่ม จี ศึกลูกหนัง เอเอฟซี คัพ นัด 4 เมื่อ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี คัพ นัดที่ 4 เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา ทีมจากเมืองไทยลงฟาดแข้ง 2 ทีม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี เปิดสนามศุภชลาศัยรับการมาเยือน ฮานอย เอสซีบี ขณะที่ "จอมช็อต" การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยกทัพไปเยือนทีมบินห์เยือง ที่ประเทศเวียดนาม ผลการแข่งขันมีดังนี้

บินห์เยือง (เวียดนาม) 1-1 การไฟฟ้าฯ (ไทย)

บุญคง อรรคบุตร ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์สยามกีฬาและฟุตบอลสยามรายวัน รายงานความเคลื่อนไหวของทีม "จอมช็อต" การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่เดินทางไปลุยศึกฟุตบอลเอเอเอฟซี คัพ กลุ่มเอส นัดที่ 4 พบกับ บินห์เยือง ของเวียดนาม ซึ่งผลงาน 3 นัดที่ผ่านมา การไฟฟ้าฯ ชนะ 2 แพ้ 1 มีอยู่ 6 แต้ม และล่าสุดเล่นในบ้านที่สนามศุภชลาศัย แพ้ บินห์เยือง มา 1-3

สำหรับ 11 คนแรกของการไฟฟ้าฯ ประกอบด้วย แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม, ปฎิภาณ เพ็ชรพูล, เฮนรี่ โจเอล, อภิเชษฐ พุฒตาล, วัชระ มหาวงศ์, ณรงค์ชัย วชิรบาล, อภิภู สุนทรพนาวศ, ศุภกิจ จินะใจ, ยุทธจักร ก่อนจันทร์, รณชัย รังสิโย และ ลำเนา สิงห์โต ส่วน บินห์เยือง มีดาวเตะดีกรีทีมชาติเวียดนาม เหงียน หวูฟอม, เฟือง คอง มิน และ หวู นู ทั่น เป็นตัวหลักโดยขาด เครสเลส์ กองหน้าตัวเก่งที่เจ็บ

ก่อนเกมนี้มีฝนเทลงมาหนัก ทำให้สภาพสนามแฉะไปด้วยน้ำ เป็นอุปสรรคต่อการคอนโทรลบอลของทั้งสองทีม เริ่มเกมครึ่งแรกเจ้าบ้านที่เปิดเกมใส่ทันที แค่นาทีแรกก็ได้ลุ้นก่อนจาก ฟิรานี่ แต่ยิงไม่ดีปลิ้นออกหลังไป น.4 เจ้าบ้านยังได้บุก ดึก เกือง เติมขึ้นไปยิงเสาสองแต่ แซมมวล ยังออกมาบล๊อกได้ทัน เกมไฟฟ้าฯ ยังรับแล้วโต้ น.14 อภิภู สุนทรพนาเวศ เติมสูงก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ากลางบอลหลุดเสาไปแบบน่าเสียดาย

ถัดมาสองนาที การไฟฟ้าฯ มีโอกาสขึ้นนำบ้าง ลำเนา ได้ยิงแต่ยังหลุดกรอบแบบมีเสียว เจ้าถิ่นชักตื้อปล่อยให้ การไฟฟ้าฯได้ครองบอลมากขึ้น น.23 การไฟฟ้าฯ น่าขึ้นนำสุดๆ เมื่อ อภิภู เปิดยาวให้ ลำเนา หลุดไปยิงเดี่ยวกับผู้รักษาประตูบินห์เยือง แต่ลูกนี้ยิงไม่ดีติดเซฟไว้ได้ จังหวัดต่อมา ยุทธจักร ได้ยิงไกลบอลจะมุดสามเหลี่ยม แต่โกล์เจ้าบ้านปัดได้แบบเหลือเชื่อ

น.31 เหงียน ดึกเทียน กระชากหลุดไปในกรอบแต่ อาลี โจเอล ยังตามมาสไลด์ออกไปแบบหวุดหวิด น.34 เจ้าถิ่นน่าขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ ฟิรานี่ กระชากหนี วัชระ ก่อนเปิดไปเสาสอง เหงียน ดึก เทียน โหม่งไม่ถึง 5 หลาแต่ลูกนี้ แซมมวล โชว์ฟอร์มเทพปัดออกไปได้

น.41 เฮือก กวก ทัน ชักศอกใส่ อภิภู ริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาโดนเหลืองเป็นคนแรก การไฟฟ้าฯ ได้ฟรีคิก ณรงค์ชัย ยิงยัดแต่ยังโดนเคลียร์ทิ้งได้ น.43 ยุทธจักร จ่ายถวายพาลให้ ลำเนา หลุดไปดวลกับโกล์เจ้าบ้านอีกหน ก่อนจะล๊อกหลบแล้วยิง แต่เบาไปโดนกองหลังเคลียร์ไว้ได้ทัน จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง น.51 ฟิรานี่ หลุดเข้าไปแต่ อภิเชษฐ ยังสไลด์ได้ทัน น.55 ณรงค์ชัย เติมมาสูงก่อนได้ยิงนอกกรอบบอลพุ่งหลุดโคนเสาแค่คืบ ถัดมาสองนาทีเจ้าถิ่นได้ลุ้นเมื่อ ฟิรานี่ ไหลให้ ดึก เทียน หลุดไปในกรอบแต่ แซมมวล ยังไวออกมาคว้าจากเท้า

น.58 การไฟฟ้าฯขึ้นนำ 1-0 จนได้ เมื่อกองหลังเจ้าถิ่นเคลียร์ไม่ขาดมาเข้าทางปืน ณรงค์ชัย ตะบันเต็มข้อซ้ายเสียบสามเหลี่ยมไม่เหลือซาก เกมเริ่มเป๋สำหรับเจ้าบ้าน น.70 กองเชียร์เจ้าถิ่นไม่พอใจผู้ตัดสินคขว้างรองเท้าแตะลงสนาม แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรบานปลาย น.72 ฟิรานี่ ได้โหม่งบริเวณจุดโทษแต่ยังตรงมือ แซมมวล

น.81 ฟิรานี่ โขกเข้ากลางประตูแต่ อาลี โจเอล ยังโขกสกัดไว้ได้ทัน น.83 การไฟฟ้าฯ โต้กลับเร็ว วัชระ จ่ายให้ ชัยวุฒิ วิ่งมาตะบันเต็มเท้าบอลพุ่งถากเสาออกไปกองเชียร์เจ้าถิ่นเงียบกริบ

น.86 ปฎิภาณ เพ็ชรพูล มีเรื่องกับ หวง เฟือง ก่อนนักเตะทั้งสองทีมจะกรูเข้าหา กันแต่ผู้ตัดสินชาว ทาจิกิสถาน ยังห้ามทัพได้แล้วควักใบแดงไล่ตัวชนวนออกทั้งคู่ นาทีสุดท้ายเจ้าบ้านได้ฟรีคิก หวูฟอม ตักเข้ากลางประตู แซมมวล ออกมาตัดปะทะกับ ฟิรานี่ ทำให้เจ็บต้องปฐมพยาบาล

ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย หวูฟอม เติมสูงก่อนเปิดเข้ากลาง โจเอล แย่งโหม่งกับ ฟิรานี่ บอลตกเข้าทาง เหวียน อัน ดึก ตีลังกายิงบอลพุ่งเสียบเสาสองเป็นประตูตีเสมอ 1-1 แบบเหลือเชื่อ จบเกมเสมอกันไปแบบสนุก 1-1

หลังเกม "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช กุนซือใหญ่ทีมการไฟฟ้าฯได้แต่เซ็งๆ ก่อนที่จะกล่าวว่า "เสียดายมากเราน่าจะได้สามแต้มล้ำค่า ยันมาจนวินาทีสุดท้ายแล้วขาดเพียงโชคเท่านั้น วันนี้เราทำได้ดีมากแต่ก็ยังไม่ดีที่สุดฝนตกลงมาทำให้เกมคอนโทรลลำบาก ไม่เป็นไรกับ 1 แต้มถือว่าตามเป้าหมาย เรายังมีโอกาสในอีกสองเกมที่เหลือมั่นใจน่าจะผ่านเข้ารอบได้อย่างแน่นอน"

ส่วน ฟราสชิสโก้ โค้ชบินห์เยือง กล่าวว่า "เป็นเกมที่สนุกและสูสีมากๆ การไฟฟ้าฯ ทำได้ดีในเกมนี้ ยอมรับเรามีโชคและนักเตะมุ่งมั่นจนนาทีสุดท้ายทำให้เราได้ 1 แต้มเชื่อว่าสองเกมที่เหลือเราจะสามารถเป็น 1 ใน 2 ทีมเข้ารอบต่อไป"

ชลบุรี เอฟซี 6-0 ฮานอย เอสซีบี

ที่สนามศุภชลาศัย "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านรับการมาเยือน ฮานอย เอสซีบี จากเวียดนาม เกมนัดนี้ ชลบุรีมี 9 แต้มเต็มจาก 3 นัดหากชนะจะการันตีเป็นอันดับ 1 ของสายทันที ขณะที่ ฮานอย มีแค่ 3 แต้ม ต้องการชัยชนะเพื่อลุ้นเข้ารอบต่อไป

สำหรับ 11 คนแรกของทีม ชลบุรี ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, กองหลัง ชลทิศ จันทร์คาม ยืนคู่กับ สุทธินันท์ พุกหอม แบ็กขวา สุรีย์ สุขะ, แบ็กซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ, คู่กองกลาง เกรียงไกร พิมพ์รัตน กับ ภานุวัฒน์ จินตะ ด้านขวา เอกพันธ์ อินทเสน ด้านซ้าย อาทิตย์ สุนทรพิธ ส่วนคู่หน้า พิภพ อ่อนโม้ ยืนคู่ โคเน่ โมฮาเหม็ด ขณะที่ ฮานอย เอสซีบี มี อเล็ก ดาซิลโว, เหงียน ก็อก เถียน, เหงียน ดัก ซาง เป็นตัวหลัก

เริ่มครึ่แรก น.11 ชลบุรี บุกหนัก พิภพ อ่อนโม้ กลับตัวยิงระยะ 18 หลา ยังดีที่ เหงียน มินท์ ฟอง ผู้รักษาประตู ฮานอย พุ่งปัดได้หวุดหวิด น.15 ชลบุรี ที่บุกอยู่ข้างเดียวขึ้นนำจน ได้จากจังหวะที่ ภานุวัฒน์ จินตะ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวหลอกกองหลังของ ฮานอย ตรงกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะเลี้ยงตัดเข้าในแล้วปั้นด้วยเท้าขวา บอลฮุกเสียบเสาสองสุดสวย ชลบุรี ออกนำเร็ว 1-0

น.22 ชลบุรี ขึ้นนำ 2-0 จากจังหวะที่ เอกพันธุ์ อินทเสน กระชากบอลกว่าครึ่งสนาม ก่อนเปิดเข้ามากรอบ 6 หลา พิภพ อ่อนโม้ เข้าชาร์จ แต่ดันแป๊กกลายเป็นดีบอลมาเข้าทาง โคเน่ โมฮัมเหม็ด ซัดตูมเดียวไม่เหลือซาก ชลบุรี ขยับห่าง 2-0 น.24 ณัฐพงษ์ สมณะ เติมเกมขึ้นมาสูง ก่อนจะเปิดบ้านจากริมเส้นด้านซ้ายให้ โคเน่ โมฮัมเหม็ด โหม่งโล่งๆ แค่ 5 หลา ข้ามคาน

น.31 โคเน่ โมฮัมเหม็ด ได้บอลหลุดไปในกรอบเขตโทษ ก่อนซัดเต็มข้อ แต่โดน เหงียน มินท์ ฟอง ปัดข้ามคานอย่างน่าเสียดาย น.39 ชลบุรี ถอดโคเน่ โมฮาเหม็ด ออกแล้วให้ แอนเดอร์สัน มาชาร์โด้ หอกบราซิลลงสนามแทน และเจ้าตัวลงไปไม่ถึง 2 นาทีก็หลุดเดียวไปซัดแค่ 5 หลาข้ามคาน

น.42 ชลบุรี บุกหนักอยู่ข้างเดียว สุรีย์ สุขะ หลุดไปดวลกับประตูไม่ถึง 5 หลาแต่เจ้าตัวดันยิงเต็มข้อโดนผู้รักษาประตูเซฟออกหลัง น.44 ชลบุรี ขยับหนีเป็น 3-0 จากจังหวะที่ เอกพันธุ์ อินทเสน เปิดบอลจากด้านขวา ให้ พิภพ อ่อนโม้ โหม่งเต็มหัว หมดปัญญาที่ เหงียน มินท์ ฟอง ถัดมาอีกนาที เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ หลุดเดียวไปซัดจ่อๆ แต่เหงียน มินท์ ฟอง ใช้ขาเซฟได้อีก หมดครึ่งแรก ชลบุรี นำอยู่ 3-0

ครึ่งหลัง น.49 แอนเดอร์สัน มาเชโด้ ได้สับตรงกรอบเขตโทษเต็มข้อบอลพุ่งจะเสียบเสาแรกแต่ออกข้างไป น.52 กองหลังชลบุรี เช็คล้ำหน้าพลาด อเล็กซานเดอร์ ดาซินวา หลุดเดียวไปแป แต่ไม่ผ่านมือ โกสินทร์หทัยรัตนกุล ถัดมาอีกนาที อาทิตย์ ได้เปิดฟรีคิกตรงกรอบเขตโทษด้านขวา บอลผ่านกองหลัง ฮานอย ไปเข้าทาง สุทธินันท์ แปเน้นๆ ข้ามคาน

น.62 ชลบุรี นำห่างเป็น 4-0 จากจังหวะที่ อาทิตย์ สุนทรพิธ เปิดบอลจากด้านขวาไปเสาสองให้ สิทธินันท์ พุกหอม โหม่งเต็มหัวมาเสาสอง เป็นสุรีย์ สุขะ ที่ดีดส้นแค่ 2 หลาเข้าไป น.67 แอนเดอร์สัน มาชาโด้ ของชลบุรี หลุดไปแปเสียบเสาสองให้ ชลบุรี นำห่าง ฮานอย เอสซีบี แบบนิ่มๆ 5-0

น.88 ชลบุรี ได้จุดโทษ เมื่อ ไกรสร ปั้นเจริญ โดนหวดล้มลงในกรอบเขตโทษ และเป็น ไกรสร เอง ที่ลุกมาซัดเองไม่เหลือซาก ทำให้ ชลบุรี นำห่าง 6-0 ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้

ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ เคดะห์ จากมาเลเซีย บุกไปเอาชนะ อีสเทิร์น แอธเลติก ของฮ่องกง 3-2

หลังเกม "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ของชลบุรี บอกว่า "วันนี้เด็กทุกคนเล่นได้ตามแผนทุกอย่าง และโค้ชฮานอย ก็รู้จักกันมานานเหมือนพี่น้อง แต่ในเกมต้องเต็มที่เพราะถือเป็นศักดิ์ศรีของประเทศชาติ อีกอย่างเราก็พยายามเปลี่ยนตัวเพื่อพักนักเตะเพื่อลุยกับไฟฟ้าฯ วันเสาร์ 25 เม.ย.นี้ และหวังว่าผลงานของทีมจะดีอย่างต่อเนื่องเกมที่เจอ การไฟฟ้าฯ ด้วย เพราะถือว่าเป็นทีมใหญ่ด้วยกันทั้งคู่

ขณะที่ เนียน ฮอง ทัน กุนซือของ ฮานอย กล่าวว่า "เกมนี้สู้ไม่ได้จริงๆ เพราะเด็กเจอสภาพ อากาศที่ค่อนข้างจะร้อนด้วย อีกอย่างศักยภาพนักเตะของเรา เป็นรองด้วย แต่ 2 นัดที่เหลือคงเต็มที่เพื่อลุ้นเข้ารอบต่อ

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป ชลบุรี จะออกไปเยือน อีสเทิร์น แอสเลติก ที่ฮ่องกง วันที่ 5 พ.ค.นี้ ขณะที่ ฮานอย เอสซีบี จะออกไปเยือน เคด้า ของมาเลเซีย ในวันเดียวกัน

บอลไทยมอบงานกรรมการบริหารยุคบังยี2

"บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกลูกหนังไทย มอบงาน สภากรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลไทยยุค "บังยี 2" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้ประกาศรายชื่อสภากรรมการทั้งหมดออกมาเมื่อต้นเดือนเม.ย.ที่ ผ่านมา "บิ๊กโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง ดูแลฟุตบอลระดับรากหญ้าและเยาวชน ขณะที่ "บังมาด" สามารถ มะลูลีม นั่งผจก.ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ส่วนฟุตซอลชายชุดใหญ่ "บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ยังดูแลเหมือนเดิม

หลังจากที่ "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี ได้รับเสียงโหวตให้ดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย สมัยที่ 2 จากการเลือกตั้งเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดได้แต่งตั้งมอบหมายงานให้กับสภากรรมการสมาคมลูกหนังไทยชุดใหม่ "บังยี 2" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการประชาสัมพันธ์ข่าวผ่านทางเว็บไซต์ของสมาคมฯ www.fat.or.th

สำหรับคำสั่งแต่งตั้งตำแหน่งสภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีดังนี้ นายกสมาคมฟุตบอล นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ, สภาที่ปรึกษาสมาคมฟุตบอลฯ ประธานเป็น ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ, รองประธาน สรัญ รังคศิริ, สภานายกกิตติมศักดิ์สมาคมฟุตบอลฯ ดาโต๊ะ ดร.วิจิตร เกตุแก้ว, อุปนายกสมาคมฟุตบอลอาวุโส ชัยโชค พุ่มพวง, พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา อุปนายกฯ ฝ่ายการแข่งขัน, พุทธิพงษ์ ปุณณกัณฑ์ อุปนายกฝ่ายการตลาดและสิทธิประโยชน์

ไบรอัน แอล มาร์คา อุปนายกฝ่ายต่างประเทศ, สามารถ มะลูลีม อุปนายก ฝ่ายสวัสดิการและพัฒนาสโมสร, วิมล กาญจนะ อุปนายกฝ่ายพัฒนาภูมิภาค, กิตติรัตน์ ณ ระนอง อุปนายกฝ่ายพัฒนาฟุตบอลระดับรากหญ้าและเยาวชน, ประเวช รัตนเพียร อุปนายกฝ่ายกิจกรรมพิเศษ, วิรัช ชาญพานิช อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค, สุนทร มีสุวรรณ เหรัญญิก, พัฒนาชาติ กฤดิบวร นายทะเบียน

กรรมการ 8 คนประกอบด้วย ธัญญา โพธิ์วิจิตร, วิโรจน์ ปลุกใจ, พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ, เกษม จริยวัฒน์วงศ์, จิรวุฒิ สิงโตทอง, น.ต.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, สถาพร โคตรบุตร, เกรียงสิทธิ์ หนุ่มรักชาติ ขณะที่ เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ มี องอาจ ก่อสินค้า เป็นเลขาธิการฯ และมี รองเลขาฯ 3 คนประกอบด้วย ดร.กษม ชนะวงศ์, ธารา พฤกษ์ชอุ่ม, พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม

ขณะที่คำสั่งแต่งตั้ง ผจก.ทีมชาติไทย ทั้งชายและหญิงมีดังนี้ ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย (ชาย) สามารถ มะลูลีม เป็น ผจก.ทีมชุดซีเกมส์, วิสิษฐ กอวรกุล ผจก. ทีมชาติเยาวชนอายุ 18-20 ปี, ปวิณ ภิรมย์ภักดี ผจก.ทีมชาติเยาวชนอายุ 15-17 ปี, ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย (หญิง) นวลพรรณ ล่ำซำ ผจก. ทีมชาติหญิงชุด อช.คัพ และ ซีเกมส์, ธัญญา โพธิ์วิจิตร ผจก.ทีมฟุตบอลหญิงเยาวชนทีมชาติไทยอายุ 18-20 ปี, ดร.กษม ชนะวงศ์ ผจก.ทีมฟุตบอลหญิงเยาวชนทีมชาติไทย อายุ 14-17 ปี

ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย (ชาย), อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ผจก.ทีมฟุตซอลทีมชาติไทยชุดใหญ่, สามารถ ทรัพย์พจน์ ผจก.ทีมฟุตซอลทีมชาติไทยชุดซีเกมส์, ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย (หญิง) นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ผจก.ทีมฟุตซอลทีมชาติไทยหญิงชุดใหญ่

"ซิโก้" ยิ้มไม่หุบกับผลงานของ ชลบุรี เอฟซี

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือหนุ่มของ ชลบุรี เอฟซี ยิ้มแก้มปริที่ลูกทีมโชว์ฟอร์มดุดันต้อน ฮานอย เอซีบี จากเวียดนามขาดลอย 6-0 ในศึกเอเอฟซี คัพ 2009 พร้อมทั้งสยบข้อครหาที่ว่าเตรียมล้มบอลเกมนี้ไปในตัวและสร้างความสุขให้แฟน บอลชาวไทย

ฟุตบอลถ้วยใบรองของทวีปเอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 กลุ่ม จี เมื่อช่วงหัวค่ำวันอังคารที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา “ฉลามชล” เฝ้าสนามศุภชลาศัยไล่ทะลวงตาข่ายสโมสรจากแดนเหงียนแบบสนุกเท้าถึง 6 ลูก โดย ภานุวัฒน์ จินตะ, โคเน โมฮาเหม็ด, พิภพ อ่อนโม้, สุรีย์ สุขะ, แอนเดอร์สัน มาชาโด และ ไกรสร ปั้นเจริญ เรียงหน้ายิงคนละเม็ด

ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ของทีมเมืองน้ำเค็มผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้วจากการเตะ 4 นัด เก็บ 12 คะแนนเต็ม อย่างไรก็ตาม ก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้น “ซิโก้” แสดงอาการไม่พอใจที่มีสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งปล่อยข่าวลือว่าเตรียมสั่งลูก ทีมล้มบอลด้วยจุดประสงค์บางอย่าง ทว่า สุดท้าย ชลบุรี ก็รัว ฮานอย แบบไม่ยั้ง

หลังจบแมตช์ อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกาทีมชาติไทยให้สัมภาษณ์ว่า “ผลงานวันนี้ถือเป็นการลบล้างข้อกล่าวหาที่ผมมีส่วนกับการล้มบอลได้เป็น อย่างดีว่ามันไม่จริงแม้แต่น้อย ผลการแข่งขัน 6-0 เชื่อว่าแฟนบอลชาวไทยน่าจะมีความสุขไม่น้อย”

ส่วนเรื่องการลอยลำเข้าสู่รอบต่อไป เกียรติศักดิ์ บอกว่า “แม้ทีมจะการันตีการเข้ารอบแล้วและอาจมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นในนัดต่อไป แต่ผมยืนยันว่านักเตะทั้ง 22 คนในรายการนี้เป็นตัวเลือกในใจผมทั้งหมด นัดหน้า (บุกเยือน อีสเทิร์น แอธเลติก ที่ฮ่องกง) ก็จะไม่อ่อนข้ออย่างแน่นอน เราขอเล่นเต็มที่เหมือนเดิมให้สมกับเป็นตัวแทนจากประเทศไทย”

ขณะเดียวกัน ซิโก้ ยังพูดถึงโปรแกรมไทยพรีเมียร์ลีก 2009 วันเสาร์นี้ที่จะดวลแข้งกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งวันนี้ออกไปเสมอ บินห์ เดือง ที่เวียดนาม 1-1 ว่า “แม้พวกเขาจะเป็นทีมใหญ่และน่าจะเป็นเกมที่เล่นยาก อย่างไรก็ตาม ทีมระดับเดียวกันก็เคยคว้าชัยชนะเหนือพวกเขาได้ ดังนั้น เราก็หวังว่าจะทำได้เช่นกัน”

ด้าน เหงียน คอง วินห์ เฮดโค้ชของ ฮานอย เอซีบี ยอมรับความปราชัยแบบหมดรูปว่า “การมาเล่นที่เมืองไทยนับเป็นประสบการณ์ที่ดีของเรา ซึ่งที่เวียดนามเราก็เคยแพ้เขามาก่อน 0-2 ต้องยอมรับว่า ชลบุรี เป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก เนื่องจากมีผู้เล่นทีมชาติจำนวนมากและนักเตะฝีเท้าดีอยู่ในทีมอีกไม่น้อย”

Monday, April 20, 2009

ไฟฟ้าลั่นบุกยิงบินห์เยืองเอเอฟซีคัพ


"จอมช็อต" การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หลังชนฝา "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช กุนซือใหญ่ ประกาศกร้าวเกมนี้ต้องมีแต้มจากบ้าน บินห์เยือง ของเวียดนาม วาง ณรงค์ชัย วชิรบาล คุมทัพแดนกลาง พร้อมส่ง รณชัย รังสิโย กับ ลำเนา สิงห์โต ล่าตาข่าย ขณะที่ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี เตรียมเปิดสนามศุภชลาศัย รอโช้ย ฮานอย เอสซีบี จากเวียดนาม "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ช โว 3 แต้มไม่พ้นมือแน่ ศึกลูกหนังเอเอฟซี คัพ วันที่ 21 เม.ย.นี้
บุญคง อรรคบุตร ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์สยามกีฬาและฟุตบอลสยามรายวัน รายงานความเคลื่อนไหวของทีม "จอมช็อต" การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่เดินทางไปลุยศึกฟุตบอล เอเอฟซี คัพ กลุ่มเอส นัดที่ 4 พบกับ บินห์เยือง ของเวียดนาม ที่สนามฟุตบอลเมืองบินห์เยือง ประเทศเวียดนาม วันที่ 21 เม.ย.นี้ เวลา 18.00 น. โดยการไฟฟ้าฯ แข่งมา 3 นัด ชนะ 2 แพ้ 1 มีอยู่ 6 แต้ม นัดล่าสุดเล่นในบ้านที่สนามศุภชลาศัย แพ้ บินห์เยือง 1-3
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช กุนซือใหญ่ของทีมพร้อมด้วย อ.ทองสุข สัมปะหังสิต ที่ปรึกษาและ ธนิศ อารีสง่ากุล ผช.โค้ช ได้จับนักเตะลงซ้อมในช่วงเช้า ที่เน้นสปีดและยืดเส้นยืดสาย

จากนั้นในช่วงเย็นได้เดินทางไปฝึกซ้อมที่สนามบินห์ เยืองที่จะใช้แข่งขัน รูปแบบการซ้อมเน้นการขึ้นเกมเป็นหลักใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงเสร็สิ้น นอกจากนั้น ช่วงเวลา 10.00 น.ทาง "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช กุนซือใหญ่ได้เข้าร่วมประชุมผจก.ทีม โดยทีมการไฟฟ้าฯ จะได้ใส่ชุดเสื้อสีขาว กางเกงม่วงลงทำศึก

"น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช กุนซือใหญ่ของทีมการไฟฟ้าฯ เผยถึงเกมที่จะพบกับบินห์เยืองว่า "เกมนี้คงจะไม่มีเป้าหมายอื่นใดนอกจากชัยชนะ อย่างไรก็ดีอยากที่จะได้แต้มในเกมนี้ไม่สามแต้มก็หนึ่งแต้ม เพราะน่าจะสำคัญสำหรับเราหากอยากที่จะได้เข้ารอบต่อไป สำหรับบินห์เยืองเรารู้ว่าเขาเล่นอย่างไร เกมแรกที่เราแพ้ไม่ใช่ว่าสู่ไม่ได้ แต่เราจบสกอร์ไม่ได้เท่านั้นเอง
เกมนี้คงจะเปิดเกมรุกเต็มสูบ โดยจะให้ ณรงค์ชัย วชิรบาล ที่กำลังเข้าฟอร์มคุมทัพในแดนกลาง ส่วนกองหน้าตนจะใช้บริการของ รณชัย รังสิโย กับ ลำเนา สิงห์โต กองหน้าดีกรีทีมชาติลาว มั่นใจว่าทั้งสองคนจะประสานงานกันได้ดีในแดนหน้า รวมทั้งมีตัวเติมเข้าทำอย่าง ศุภกิจ จินะใจ และ อภิภู สุนทรพนาเวศ
สภาพจิตใจของนักเตะตอนนี้ อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากๆ นักเตะมีขวัญกำลังใจดีมาก ตนได้พยายามปลุกเร้ากระตุ้นเพื่อให้พวกเขากลับมาสู่ฟอร์มเก่ง ซึ่งเชื่อมั่นลึกๆ ว่านัดนี้เราไม่ได้ 1 แต้มก็น่าจะ 3 แต้มเต็ม
ส่วน มร.ฟรานเชสโต้ วิสตาล โค้ชใหญ่ของบินห์เยืองกล่าวถึงความพร้อมที่จะพบกับ การไฟฟ้าฯ ว่า "เราโชคดีที่เกมแรกบุกไปชนะการไฟฟ้าฯ ได้ในบ้านวันนั้น แต่เกมนี้คงจะไม่ง่ายอย่างแน่นอน เพราะศักยภาพของทีมการไฟฟ้าฯ พร้อมทุกขุมกำลัง อีกทั้งทีมของตนช่วงนี้ค่อนข้างล้าจากเกมวีลีก"
"คงจะเน้นเกมรับที่เหนียวแน่นแล้วหาโอกาสโต้กลับ เป้าหมายแรกได้หนึ่งแต้มก็พอใจแล้ว แต่เราก็อยากที่จะได้สามแต้มเพื่อลุ้นเข้ารอบเหมือนกัน อย่างไรก็ตามตนก็ยังเชื่อมั่นในศักยภาพนักเตะที่มีความมั่นใจมากในตอนนี้ ที่สำคัญเราเล่นในบ้านน่าจะคว้าชัยชนะมาครองได้"

สำหรับ 11 คนแรกของการไฟฟ้าฯ ที่จะลงเล่นประกอบด้วย แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม, ปฎิภาณ เพ็ชรพูล, เฮนรี่ โจเอล, อภิเชษฐ พุฒตาล, วัชระ มหาวงศ์, ณรงค์ชัย วชิรบาล, อภิภู สุนทรพนาวศ, ศุภกิจ จินะใจ, ยุทธจักร ก่อนจันทร์, รณชัย รังสิโย และ ลำเนา สิงห์โต

นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจากสื่อ ท้องถิ่นของเวียดนาม ถึงเกมการแข่งขันระหว่าง การไฟฟ้าฯ กับ บินห์เยือง วันที่ 21 เม.ย.นี้ ส่วนใหญ่เห็นพร้องต้องกันว่า บินห์เยืองดีกรีแชมป์วีลีก 2 สมัยของเวียดนาม จะสามารถเอาชนะทีมการไฟฟ้าฯ ของไทยได้อีกครั้ง รวมทั้งเกมการแข่งขันในนัดนี้ จะมีแฟนบอลเจ้าถิ่นเข้ามาชมเต็มสนามความจุ 2 หมื่นคน อย่างแน่นอน และนี่จะเป็นตัวแปรให้ทีมเจ้าถิ่นเก็บชัยชนะได้ในเกมนี้

ด้านความเคลื่อนไหวของทีม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ที่มีคิวลุยศึกเอเอฟซี คัพกลุ่มจี นัดที่ 4 วันที่ 21 เม.ย.นี้ ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 18.30 น. หลังจาก 3 นัดที่ผ่านมาชนะรวดมี 9 แต้ม นั่งจ่าฝูงของกลุ่มจี ด้วยการชนะ อีสเทิร์น แอตเลติก จากฮ่องกง 4-1, ไปเยือน ชนะ เคด้า ของมาเลเซีย 1-0 และ บุกไปชนะ ฮานอย เอสซีบี ของ เวียดนาม ถึงถิ่น 2-0 นัดนี้พบกับ ฮานอย เอสซีบี ที่มีแค่ 3 แต้มจาก 3 นัด ด้วยการเฝ้าบ้าน ชนะ เคด้า 3-1, ออกไปเยือนแพ้ อีสเทิร์น แอสเลติก 0-3 และ แพ้ ชลบุรี 0-2 รั้งบ๊วยกลุ่มจี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุม ส.ฟุตบอลฯ สนามศุภชลาศัย ได้มีการแถลงข่าวความพร้อมของทีมและประชุม ผจก.ทีม ของทั้ง ชลบุรี เอฟซี และ ฮานอย เอสซีบี โดยทาง ชลบุรี มี "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่พร้อม ด้วย พิภพ อ่อนโม้ กัปตันทีม ขณะที่ ฮานอย เอสซีบี ของเวียดนาม ส่ง เหงียน คองวิน โค้ชใหญ่ และ โกรัน กาจิค มาแถลงข่าว
"ซิโก้" เปิดเผยถึงเกมนี้ว่า "ถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างประเทศไม่ใช่แค่สโมสร ชลบุรี กับ ฮานอย เท่านั้น เกมนัดนี้ ชลบุรี ส่งชุดใหญ่ลงสนามแน่นอน โดยเฉพาะที่มีดีกรีทีมชาติไทย ทั้ง โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, ชลทิศ จันทร์ความ, ณัฐพงษ์ สมณะ, สุทธินันท์ พุกหอม, อาทิตย์ สุนทรพิธ นำทัพ ส่วนสองพี่น้อง "สุขะ" สุรีย์ กับ สุรัตน์ เกมนี้ไม่สามารถลงช่วยทีมได้เนื่องจากว่าทั้งคู่ป่วยพร้อมกันกะทันหัน"

"ที่ผ่านมาเกมของชลบุรี มีปัญหาที่การจบสกอร์ค่อนข้างเยอะ อาจจะเป็นเพราะจังหวะเข้าทำที่ยังไม่ค่อยดี แต่เชื่อว่าจะค่อยๆ แก้ไขกันได้ โดยเกมนี้ เราต้องการเก็บ 3 แต้มเพื่อการันตีการเป็นอันดับ 1 ของสาย เพื่อได้เล่นในบ้าน ในรอบ 2 ต่อไป และจะได้เจอกับทีมจาก เซ้าไชนา, อินโด หรือ มาเลเซีย ซึ่งถือว่าอ่อนกว่าเรา และจะได้ไม่ต้องมากังวลกับเกม เอเอฟซี คัพ และมีสมาธิกับการลุ้นแชมป์ไทยลีกอย่างเต็มที่อีกด้วย" ซิโก้ กล่าวปิดท้าย

ขณะที่ พิภพ อ่อนโม้ กัปตันทีม ที่ตั้งแต่เปิดฤดูกาลเพิ่งลงสนามมายิงได้แค่ 1 ประตู พูดถึงเกมนี้ว่า "ตนไม่ได้คิดว่าใครจะยิงประตู แต่ขอแค่ให้ทีมเก็บชัยชนะได้ก็ถือว่าโอเคแล้ว แต่ยังไงก็อยากจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มีโอกาสก็จะทำประตูให้ได้"

ส่วนเหงียน คอง วิน ผู้ฝึกสอนของทีม ฮานอย เอสซีบี จากเวียดนาม ได้พูดถึงเกมนี้ว่า "เป็นเกมที่หนักมากๆ เพราะชลบุรี เป็นทีมที่แข็งแกร่ง แถมมี ซิโก้ เกียรติศักดิ์ ที่ชาวเวียดนามรู้จักดีในฐานะยอดนักเตะ และเป็นคนที่รู้จักพื้นฐานของฟุตบอลเวียดนามดี เกมนี้ คงต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อย่างน้อยต้องลุ้นเก็บแต้มให้ได้ เพื่อจะลุ้นเข้ารอบต่อไป แต่ยอมรับว่าเหนื่อยมากๆ เพราะสภาพ อากาศที่นี้ร้อนคล้ายๆ กับโ ฮจิมินฯ ส่วนที่ฮานอย มีแต่ฝน ตก ไม่ร้อนถึงขนาดนี้ ถ้าเป็นแบบนี้นักเตะเจอปัญหาหนักแน่"

โดยช่วงเย็น ฮานอย เอสซีบี ได้ลงฝึกซ้อมสนามศุภชลาศัย สนามแข่งขันจริงด้วย มี เหงียน คอง วิน กุนซือใหญ่คุมทัพเหมือนเดิม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อทำความคุ้นเคยกับสนามและสภาพอากาศ แต่จะเห็นได้ชัดว่า นักเตะส่วนใหญ่ของเวียดนามค่อนข้างจะมีปัญหากับสภาพอากาศที่ร้อนจัด จนต้องหาน้ำมาดื่มตลอดการฝึกซ้อมด้วย
สำหรับเกมนัดนี้ ทางราคาต่อรองให้ ชลบุรี ต่อลูกครึ่ง เนื่องจากเห็นว่าทางเจ้าบ้านต้องการเซฟตัวเพื่อเล่นศึกไทยพรีเมียร์ลีก กับ การไฟฟ้าฯ แชมป์เก่า วันเสาร์ที่ 25 เม.ย.นี้ ที่สนามกีฬากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเกมชลบุรี พบกับ ฮานอย เอสซีบีจะเริ่มหวด 18.30 น. ทรูสปอร์ต 2 ถ่ายทอดสด นอกจากนั้น สโมสรชลบุรี จะนำร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของสโมสรมาเปิดจำหน่ายที่บริเวณหน้าสนามศุภ ชลาศัย ตั้งแต่ 15.00 น.ขณะที่บัตรเข้าชมเปิดขาย 16.00 น.ราคา 100 และ 200บาท
การฝึกซ้อมของทีม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ในช่วงเย็นได้ยกทีมมาทำการฝึกซ้อมที่สนามสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี ภายใต้การควบคุมทีมของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แต่การซ้อมในวันสุดท้ายก่อนลงสนามพบกับ ทีมฮานอย เอซีบี กลับไม่มีสองพี่น้องตระกูล "สุขะ" สุรีย์ กับ สุรัตน์ ที่เป็นตัวหลักของทีมเดินทางมาทำการฝึกซ้อมด้วย
เนื่องจากทั้งสองคนเกิดป่วย จนไม่สามารถเดินทางมาทำการฝึกซ้อมได้จนต้องเปลี่ยนตัวแบบกะทันหันเอา เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ ลงแทน สุรัตน์ และเอา เจษฎากร เหมแดง ลงแทน สุรีย์ ซึ่งการซ้อมเน้นวอร์มเบาๆ ด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง ยืดเส้น วิ่งระยะสั้นๆ ตบท้ายด้วยการเล่นเกมเต็มสนาม 30 นาที
หลังการฝึกซ้อม อรรณพ สิงโตทอง ผู้จัดการทีมฟุตบอลชลบุรี ที่มาดูการฝึกซ้อม กล่าวว่า "นัดนี้เราน่าจะเป็นต่อทีม ฮานอย เอซีบี เพราะเราเคยเอาชนะเขาในบ้านมาแล้วถึง 2-0 อยู่ที่ประตูแรก ถ้าเราได้ประตูเร็วมีสิทธิ์ไหลแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าทางโค้ชใหญ่ "ซิโก้" เขาจะวางตัวผู้เล่น 11 คนแรกอย่างไร ถ้าวางชุดใหญ่ลงเล่นหนทางคว้าชัยไม่น่าพลาด ถ้าเอาแค่ประคองตัวคงจะต้องเอาตัวหลักกับตัวสำรองคละเคล้ากันไปเพราะเราต้อง มองถึงเกมไทยลีก ในนัดต่อไปด้วย"

"เราให้ความสำคัญในเกมฟุตบอลไทยลีกมากกว่าเกมในศึก เอเอฟซี คัพ ด้วยซ้ำไป เชื่อว่าจะเอาตัวจริงหรือตัวสำรองมาผสมเรามีศักยภาพเหนือกว่าคู่แข่งจาก เวียดนามอย่างแน่นอน และถ้าชนะในนัดนี้เราจะก้าวเป็นทีม 1 ของสาย จี ทันที"