Sunday, May 31, 2009

หมูป่าดุขย้ำฮัลโหล3-1, พัทยาเจ๊าปลาทู

หมูป่านครปฐมโชว์ฟอร์มดุไล่ขย่ำฮัลโหล ทีโอที ผู้มาเยือนที่เล่น 10 คน 3-1 นนทพันธ์ , เอกภูมิ และเบิร์น ช่วยกันยิงคนละตุง พาทีมขยับแซงทีโอทีขึ้นมาอยู่อันดับที่ 7 ของตารางไทยลีก ส่วนทางด้าน โลมาพิฆาติ พัทยา ยูไนเต็ด ทำได้เพียงแค่เปิดบ้านเจ้าปลาทูคะนองไปแบบไร้สกอร์ ในไทยลีกนัดที่12

นครปฐม เอฟซี 3-1 ทีโอที เอฟซี

ที่สนาม ม.เกษตรฯ กำแพงแสน จ.นครปฐม "นักสู้เจดีฐ์ใหญ่" นครปฐม เอฟซี อันดับ 8 ของตาราง มี 13 แต้มจาก 10 นัดเปิดรังพบกับ "ฮัลโหล" ทีโอที เอฟซี อันดับ 7 ของตารางมี 15 แต้มจาก 11 นัดเกมนี้เจ้าบ้าน นครปฐม มี ไมเคิล เบิร์น, ประดิษฐ์ สว่างศรี, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์, วิมล จันทร์คำ เป็นตัวหลัก ขณะที่ ทีโอที นำทัพโดย สุเชาว์ นุชนุ่ม, กิตติพงศ์ มูลพงษ์, เคาดิโอ พาสคาล และ โคเน่ เซดู ลงสนาม

เริ่มครึ่งแรก น.5 ทีโอที ได้ลุ้นฟรีคิกทางด้านซ้ายระยะ 35 หลา สุเชาว์ นุชนุ่ม กดด้วยขวาเข้ากรอบ แต่ มานะ นพเนตร มือกาวเจ้าบ้านทุบออกข้างไปได้หวุดหวิด จังหวะถัดมา สิทธิศักดิ์ ตาระพันธ์ กึ่งยิงกึ่งผ่านด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษบอลผ่านมือ มานะ หลุดมาทางเสาสอง แต่ เคาดิโอ พาสคาล ห้องเครื่องผิวสีพุ่งชาร์จไม่โดนบอล

น.13 สุเชาว์ นุชนุ่ม เปิดบอลจากกราบซ้ายมาหน้าประตู ไกรสรณ์ ศรียันต์ สอดเข้ามาโหม่งบอลพุ่งหลุดเสาออกไปนิดเดียว น.18 ธีรชัย งามเจริญ แบ็คซ้ายทีมเยือนรับเหลืองแรกของเกมเมื่อไปรวบขาหลัง ไมเคิล เบิร์น จังหวะกระชากบอลหลุดไปทางกราบขวา

น.19 นครปฐม ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา เป็น ประดิษฐ์ สว่างศรี ปั่นด้วยขวาบอลลอยข้ามคานอีก น.23 โคเน่ เซดู กองหลังทีโอที รับเหลืองไปอีกคน เมื่อไปหวดใส่ ประดิษฐ์ สว่างศรี น.28 ทีโอที ได้ลุ้นอีกจากจังหวะที่ ธีรชัย งามเจริญ กดด้วยซ้ายระยะ 25 หลา มานะ นพเนตร พุ่งรับบอลหลุดมือ สุเชาว์ นุชนุ่ม พุ่งเข้าชาร์จ แต่ มานะ ยังตามมาตะคุบบอลไว้ได้ทัน

น.33 นนทพันธ์ เจียรสถาวงษ์ แบ็คซ้ายตัวเก่งของเจ้าถิ่น ปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลา ด้วยซ้ายนอกกรอบฝั่งขวา บอลโค้งเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม ให้ นครปฐม นำ 1-0

น.40 นครปฐม ได้ลุ้นประตูที่สอง ประดิษฐ์ สว่างศรี เปิดบอลจากกราบขวามาให้ ไมเคิล เบิร์น แปด้วยขวาเต็มๆ ในเขตโทษ แต่บอลพุ่งไปติดขา ดรุงฤทธิ์ ศรีลา แนวรับทีมเยือน จบครึ่งแรก นครปฐม นำ 1-0

ครึ่งหลัง ลงมานครปฐมก็บุกทันที เป็น ไมเคิล เบิร์น ได้ตั้งป้อมซัดไกลระยะ 35 หลา แต่ กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ ยังรับไว้ได้ น.50 นครปฐม น่าจะได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ ไมเคิล เบิร์น หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะหักกลับมากลางประตูให้ อดิสร แดงเรือง พุ่งเข้าชาร์จแต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

น.58 นครปฐม ที่บุกอย่างหนักมาได้ประตูที่สองจนได้เมื่อ ไมเคิล เบิร์น ได้จังหวะโชว์ สเต็ปเท้าหลอกผู้เล่นทีโอทีตรงกราบซ้าย ก่อนจะเปิดบอลเข้ามากลางประตูให้ เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ ยิงสวนตัว กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ เสียบเสาเข้าไปให้ นครปฐม นำ 2-0

น.64 สุเชาว์ นุชนุ่ม ปั่นฟริกคิกทางกราบซ้ายระยะ 30 หลาข้ามคานออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น น.68 ทีโอที ได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ สุเชาว์ นุชนุ่ม ได้ยิงฟรีคิกกลางประตูระยะ 25 หลา แต่คราวนี้บอลเฉียวเสาออกหลังไปนิดเดียว

น.78 นครปฐม มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ โคเน่ เซดู กองกลางผิวสีไปเสียบข้างหลัง วิมล จันทร์คำ ในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ชวลิต สนั่นไหว ให้จุดโทษและแจกเหลืองแดงให้กับ โคเน่ เซดู แต่ นนทพันธ์ เจียรสถาวงษ์ ชิพบอลข้ามคานออกหลังไปแบบน่าเสียเขกกะโหลก

น.82 ไมเคิล เบิร์น กดฟรีคิกระยะไกลกว่า 35 หลาบอลพุ่งเป็นจรวดเสียบสามเหลี่ยมขวามือเข้าไปแบบสุดสวย นครปฐม นำห่าง 3-0

น.88 สุเชาว์ นุชนุ่ม เปิดบอลจากกราบซ้ายไปหน้าประตูให้ ไกรสรณ์ ศรียันต์ โขกเข้าไปตีไข่แตกให้ ทีโอที ตามมา 1-3 แต่ก็ทำได้ดีที่สุดแค่นั้น หมดเวลา นครปฐม เปิดบ้านชนะ ทีโอที ไปได้แบบสะใจกองเชียร์ 3-1

วาทะโค้ช

อนุสรณ์ ชุ่มดวงใจ กุนซือนครปฐม - เกมนี้เด็กเล่นได้ดี รูปเกมยังไม่ถึงกับดีมาก แต่เราโชคดีที่ได้ประตูจากลูกเซตพีชทั้งสองประตู โดยรวมแล้วก็โอเค เราเก็บสามแต้มได้สำเร็จตามเป้า

พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผู้จัดการทีมทีโอที - วันนี้เราเล่นไม่ดีเล่นผิดพลาดไปหทดทุกจังหวะ มีโอกาสแต่ทำไม่ได้ รูปเกมไม่พอใจไม่เป็นไปตามที่วางไว้ คงต้องกลับไปปรับการเข้าทำประตูของกองหน้าใหม่

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม

นครปฐม เอฟซี : มานะ นพเนตร 7, ประหยัด บุญญา 6, นนทพันธ์ เจียรสถาวงษ์ 7.5, อาเบด บิรอนเซ่ 6, วุฒิศักดิ์ มณีสุข 6, ประดิษฐ์ สว่างศรี 6 (อภิศักดิ์ คงอ่อน 6), อดิสร แดงเรือง 6, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ 6 (ปริญญา อู่ตะเภา 6), ไมเคิล เบิร์น 8 (มิเชล แอสปิน -), วิมล จันทร์คำ 7, รีจินัลโด้ 7

ทีโอที เอฟซี : กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ 5, ธีรชัย งามเจริญ 6, โคเน่ เซดู 6, ดุรงฤทธิ์ ศรีลา 6.5,รัฐศักดิ์ บุญญรัตน์ 6, สิทธิศักดิ์ ตาระพันธ์ 5.5 (นาวิน จันทร์งาม 5.5), รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ 6 (ทวีทรัพย์ สีนวนน้อย 5), เคาดิโอ พาสคาล 6, สุเชาว์ นุชนุ่ม 7, ไกรสรณ์ ศรียันต์ 6, กิตติพงษ์ มูลพงศ์ 5 (กีรติ เขียวสมบัติ 5)

แมนออฟเดอะแมตช์ : ไมเคิล เบิร์น หัวหอกตัวเก่งชาวเวลล์ ของนครปฐม เอฟซี

พัทยา ยูไนเต็ด 0-0 สมุทรสงคราม

ที่สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ "โลมาพิฆาต" พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 12 ลงสนามพบกับ "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม ทีมอันดับ 13 เกมนี้เจ้าถิ่นมี นิรศ ทวีกุล, สันติ ไชยเผือก, ไพศาล โพธิ์นา และ ซีเกต หมาดปูเต๊ะ นำทัพ ด้าน สมุทรสงคราม นำทีมโดย ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร, จีรวัฒน์ แก้วโบราณ และ อรรถนพ ชัยแป้น

เริ่มครึ่งแรก พัทยา ใช้การจ่ายบอลสั้นสลับยาวทะลุไปตามช่อง บุกเข้าใส่ทีมปลาทูคะนอง แต่ สมุทรสงคราม ก็ไม่ธรรมดาตัดเกมได้ แล้วพยายามโต้กลับเร็วให้ คะนึง บุราณสุข กระชากบอลเข้าไปสังหารประตู ผ่านไป 10 นาที ลูกหวาดเสียวยังไม่มีให้เห็น

น.12 คนึง บุราณสุข กองหน้าความเร็วสูงของปลาทูคะนอง กระชากบอลจนถึงเส้นหลังด้านซ้าย ก่อนผ่านบอลเลียดเข้ามาหน้าประตูจะให้ สิทธิพันธ์ ชุมช่วย ดีที่ นริศ ทวีกุล นายทวารเจ้าบ้าน พุ่งตัวออกมาคว้าเอาไว้ได้ทัน

เกมผ่านไป 15 นาที ทีมเยือนกลับมาครองบอลได้มากกว่า เป็นฝ่ายพาบอลเข้ามากดดัน พัทยา ยูไนเต็ด ได้เป็นละลอกๆ แต่หาจังหวะเจาะเข้าไปสังหารประตูไม่ได้ จึงต้องตัดสินใจยิงไกล แต่ขาดความแม่นยำ บอลหลุดออกนอกกรอบหมด

น.38 พัทยา ก็น่าได้ประตูแรกเมื่อ อิทธิพล พูลทรัพย์ แทงบอลไหลให้ สันติ ไชยเผือก หลุดเข้าไปในเส้นแบ๊คด้านซ้าย ก่อนที่จะยิงบอลไหลเลียดออกเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย และเข้าช่วงท้ายเกมทีมพัทยา ก็พลิกเกมกลับมาเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่าแต่ก็หาจังหวะในการปิดสกอร์ไม่ได้ หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมเริ่มเปิดเกมเข้าแลกกันอย่างสูสี น.52 พัทยา ส่ง ธนา ชะนะบุตร กองหน้าความเร็วสูงลงแทน อมร ธรรมนาม เสริมแนวรุกของแดนหน้า น.54 สมุทรสงคราม ก็หวิดได้ประตูนำเมื่อ คะนึง บุราณสุข ได้บอลหน้าเส้นประตูด้านซ้ายเหนี่ยวเต็มข้อ บอลพุ่งทำท่าจะเสียบเสาด้านขวานายทวาร แต่ นริศ ทวีกุล ยังพุ่งตบบอลก่อนที่จะคว้าเอาไว้ได้แบบหวุดหวิด

เกมการเล่นของทังสองทีม ยังเป็นการรอจังหวะเล่นแบบระวังตัว ทำให้เกมดูเนือยๆ น.67 สันติ ไชยเผือก ไหลบอลออกทางปีกขวาให้ นิเวส ศิริวงศ์ กระชากหลบกองหลังตักยาวมาเสาสอง โอลิเวร่า กองหน้าร่างใหญ่ชาวบราซิล กระโดดโขกบอลตกพื้นเบาไป นายทวารแม่กลองคว้าเอาไว้ได้สบาย ท้ายรูปเกมยังเหมือนเดิม มำให้จบเกมการแข่งขัน ทั้งสองทีมเสมอกันไปอย่างจืดชื่น 0-0

วาทะโค้ช

พันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา กุนซือทีมพัทยา ยูไนเต็ด ถึงกับเดินส่ายหน้าที่เกมจบลงด้วยการเสมอกัน พร้อมกับกล่าวว่า "ไม่รู้ว่านัดนี้เป็นอย่างไรเด็กเล่นเนือยๆ ไม่คึกคักทำให้เกมไม่ลื่นไหลอย่างที่ตั้งใจไว้ ก็ผิดหวังจริงๆ กับการเล่นในนัดนี้ของลูกทีม

สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือสมุทรสงคราม กล่าวว่า - แม้นัดนี้เราเป็นฝ่ายเดินทางมาเยือน แต่นักเตะของเรามีโอกาสมากกว่าที่จะคว้าชัยในนัดนี้เสียดายที่เด็กยังจบสกอร์ไม่ดี นัดนี้ได้แค่เสมอแบบน่าชนะก็ถือว่าพอใจในจุดหนึ่ง

คะแนนความสามารถของนักเตะทั้งสองทีม

พัทยา ยูไนเต็ด : นริศ ทวีกุล 6, ออสตร้า 6, สมภพ นิลวงษ์ 6, นิเวส ศิริวงศ์ 6(ปรัชญา หงษ์อินทร์ 5.5), อิทธิพล พูลทรัพย์ 6.5, เปาโล เดอ โอลิเวร่า 6(สมชาย สิงห์มณี 5.5), สันติ ไชยเผือก 6, ไพศาล โพธิ์นา 6, ซีเกต หมาดปูเต๊ะ 6.5, อมร ธรรมนาม 6(ธนา ชะนะบุตร 5.5), รังสฤทธิ์ สุทธิสา 6

สมุทรสงคราม : ทศพร ศรีเรือง 6, ชุมพล บัวงาม 6, อรรถนพ ชัยแป้น 6.5, ทรงวุฒิ บัวเพช็ร 6.5, คะนึง บุราณสุข 7, มิเชล ชาร์ลริน 6, เอกศักดิ์ บัวเบา 6, สิทธิพันธ์ ชุมช่วย 6(เทวา พรมมา 5.5), สุขสยาม ชาญมณีเวช 6

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ คะนึง บุราณสุข หัวหอกตัวเก๋าปลาทูคะนอง

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

อำนาจฮีโร่แรบบิทตีเจ๊าแข้งเทพ1-1ขึ้นนำฝูง

ำนาจ แก้วเขียว ฮีโร่อีกแล้ว ช่วยแข้ง "เดอะกล๊าสแรบบิท" บางกอกกล๊าส ตีเจ๊า "แข้งเทพ" แบงค็อกฯ น.87 ต่อท่อให้ทีมคว้า 3 แต้มเต็มพร้อมกับขึ้นกลับมารั้งจ่าฝูงอีกครั้ง ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2552

แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-1 บางกอกกล๊าส เอฟซี

การแข่งขันฟุตบอล "ไทยพรีเมียร์ลีก 2009" นัดประจำวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมมา มีโปรแกรมลงฟาดแข้งกัน 4 คู่ จาก 4 สนาม ผลการแข่งขันมีดังนี้

ที่สนาม ม.กรุงเทพ รังสิต นักเตะ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับมือทีมรองจ่าฝูง "เดอะกล๊าสแรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่มีแต้มเท่ากับจ่าฝูง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 25 แต้ม แต่ลูกได้เสียมีน้อยกว่า นัดนี้เจ้าบ้าน แบงค็อก ยูไนเต็ด มี จีระ เจริญสุข, ซารีฟ สายนุ้ย และ ประเสริฐ หาดเจียง เป็นตัวความหวังในแดนหน้า ด้านบางกอกกล๊าส มี ศุภชัย คมศิลป์, อำนาจ แก้วเขียว, นันทวัฒน์ แทนโสภา และ อจายี่ ซามูเอล หัวหอกตัวจี๊ดชาวไนจีเรีย ลงเป็นตัวหลัก

เริ่มครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังผลัดกันเปิดเกมรุกสู้กันอย่างสูสี ผ่านไป 5 นาที เกมยังสู้กันในแดนกลางเป็นส่วนใหญ่ น.11 ธนัตย์ วงศ์ศุภลักษณ์ ของบางกอกกล๊าส ขึ้นเกมมาฝั่งซ้ายหน้าเขตโทษ ก่อนไหลให้ อจายี่ ซามูเอล ซัดเต็มข้อบอลข้ามคานออกไปแบบมีลุ้น

น.13 แบงค็อก ยูไนเต็ด ทำเกมสวนกลับให้ จิระ เจริญสุข ก่อนเจ้าตัวตัดสินใจ ตวัดยิงออกหลังไป น.15 นันทวัฒน์ แทนโสภา พาบอลไปฝั่งขวา แล้วไหลให้ อจายี่ ทำท่าจะหลุดเดี่ยว แต่จับบอลผิดจังหวะพลาดไปอย่างน่าเสียดาย

น.19 บางกอกกล๊าส เอฟซี ได้ลุ้นฟรีคิกหน้าเขต เยื้องไปด้านซ้าย พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ รับหน้าที่ซัดบอลพุ่งแรง แต่ตรงตัว วีระ เกิดพุดซา นายทวารแข้งเทพรับสบาย จากนั้นเกมรุกของ บางกอกกล๊าส กดดันแผงหลังเจ้าถิ่นได้ตลอด

น.30 อนาวิน จูจีน ได้บอลทางฝั่งขวา จี้เข้าไปในเขตโทษแล้วสับไกเต็มข้อ บอลพุ่งแรงตรงประตู แต่ วีระ เกิดพุดซา ยังไวทุบบอลออกหลังไปได้แบบหวุดหวิด แต่ลูกนี้ผู้ตัดสินเห็นว่าบอลชนเสาออกไป ทำให้ บางกอกกล๊าส ไม่ได้เตะมุม โดนแฟนโห่ทั้งสนาม

น.32 พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ เปิดเตะมมุสั่นไหลให้ ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ ส่องไกลแถวสอง บอลเหินออกหลังไปแบบมีลุ้น บางกอกกล๊าส ยังครองเกมบุกได้ดีกว่า ขณะที่ แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังพยายามเจาะตรงกลางของทีมเยือน แล้วหาจังหวะยิงไกล แต่ยังทำไม่ดีพอ

ท้ายครึ่งแรก บางกอกกล๊าส ขึ้นมาทางขวาจาก พลวัฒน์ วังฆะฮาด จี้เข้าข้างเขตโทษก่อนตัดสินใจ กึ่งยิงกึ่งผ่านไป หน้าประตู แต่ไม่มีเพื่อนเติม บอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังผลัดกันรุกและรับอย่างสนุก เป็น บางกอกกล๊าส ที่ขึ้นเกมบุกมาขึ้นหน้าประตูเจ้าถิ่นได้มากว่า แต่ยังหาจังหวะจบไม่ได้ ขณะที่ แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็ทำเกมบุกสวนกลับขึ้นมาเป็นระยะ น. 52 เจ้าถิ่นได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกด้านซ้ายของเขตโทษ แต่เปิดไม่ดีเข้ามือ กฤษณะ กลั่นกลิ่น รับสบาย

น.63 อจายี่ ซามูเอล พาบอลขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนเปิดเข้ามาหน้าประตูจะให้ นันทวัฒน์ แต่กองหลังเจ้าถิ่นยังไว ขึ้นโขกสกัดไปได้แบบหวุดหวิด น.66 แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดฟรีคิกยัดเข้าหาประตู กฤษณะ กลั่นกลิ่น พุ่งออกมารับบอลหลุดมือ แต่ยังไวตามไปคว้าไว้ได้

น.67 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮลั่น ศุภเสกข์ ไก่แก้ว ผู้เล่นตัวสำรองที่ลงมาแทน จีระ เจริญสุข ช่วงต้นครึ่งหลัง กระซากบอลจี้มาทางฝั่งขวา ก่อนไหลให้ วุฒิพันธ์ พันธะลี ไปหน้าเขตโทษ แตะบอลหนึ่งจังหวะ แล้วสับไกยิงเข้าไปไม่เหลือ ให้เจ้าถิ่นออกนำ 1-0

หลังจากเสียประตูไป บางกอกกล๊าส เอฟซี เร่งจังหวะเร็วขึ้นเพื่อทวงประตูคืน แต่ยังไม่สามารถเจาะเกมรับของเจ้าถิ่นได้ น.79 เนลสัน มาร์ติน ห้องเครื่องชาวชิลีของทีมเยือน ตัดบอลจากริมเส้นด้านขวา แล้วโยนยาวเข้าเขตโทษให้ ชาตรี ฉิมทะเล โหม่งเต็มๆ แต่เบาไปตรงตัว วีระ เกิดพุดซา รับสบาย

น.82 บางกอกกล๊าส ทำเกมขึ้นทางฝั่งซ้าย เนลสัน มาร์ติน ส่องไกลแถวสองบอลโค้งออกหลังแบบมีลุ้น น.84 สุรเชษฐ์ งามทิพย์ เปิดจากฝั่งซ้ายเข้าหาเขตโทษ บอลข้ามกองหลังเจ้าถิ่นไปเข้าหัว ชาตรี ฉิมทะเล โขกโล่งๆ ย้อยศรบอลออกเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย

น.89 บางกอกกล๊าส ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ศุภชัย คมศิลป์ เปิดเข้ากลาง นันทวัฒน์ แทนโสภา ขึ้นโขกเบียดกับ วีระ เกิดพุดซา บอลหลุดมาเข้าหัว อำนาจ แก้วเขียว โขกเน้นๆ เข้าไปตุงตาข่าย ให้ บางกอกกล๊าส ตีเสมอได้สำเร็จ 1-1

แต่จังหวะนี้ วีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นไม่พอใจการตัดสิน บอกผู้ตัดสินว่าโดนผู้เล่น บางกอกกล๊าส เข้ามาชาร์จตนเองเป็นลูกฟาวล์ ทำให้ทีมเจ้าถิ่นไม่พอใจ ประท้วงการตัดสิน ก่อนเกมการแข่งขันหยุดไปเกือบ 10 นาที จึงกลับมาแข่งขันกันต่อได้

ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่นทำเกมบุกกดดันหนักขึ้น มีจังหวะหวาดเสียวหลายครั้ง แต่ก็ปิดสกอร์ไม่ได้ จบเกม แบงค็อก ยูไนเต็ด โดน บางกอกกล๊าส เอฟซี ไล่ตีเสมอไปอย่างดุเดือด 1-1 ทำให้ บางกอกกล๊าส กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงได้อีกครั้ง

ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร 1-1 จุฬา ยูไนเต็ด

ที่สนามสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขต สมุทรสาคร เจ้าบ้าน ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร เปิดรังพบกับ จุฬา ยูไนเต็ด โดยเจ้าบ้านแข่งน้อยกว่าเพียง 10 นัดมี 12 แต้ม ส่วนทีมเยือนยังรั้งบ๊วยมีแค่ 6 แต้ม เกมนี้ ทีทีเอ็ม นำโดย ทะนงศักดิ์ ประจักกะตา,เจษฏา บุญเรืองรอด,พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี และ ทะนงศักดิ์ พรหมดาด ยืนกองหน้าคู่ บีคอมโบ้ อีโคโล่ ส่วน จุฬาฯ มี กิตติภูมิ ปาภูงา คุมแดนกลางพร้อม ไพฑูรย์ นนทะดี, กิตติศักดิ์ ปิ่นทอง และ อารอน ดา ซิลวา กองหน้าชาวแซมบ้า นำทัพ

เริ่มครึ่งแรก น.4 ชัชปภพ อุสาพรม ของเจ้าถิ่น เปิดบอลสุดสวยให้ ทะนงศักดิ์ พรหมดาด ขึ้นโขกบอลเต็มๆ ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย น.9 ทีมเยือนได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกเกือบสุดริมเส้นด้านซ้าย กิตติภูมิ ปาภูงา ซัดเข้ากรอบ แต่ตรงตัว ณรงค์ วิเศษศรี รับได้สบาย

น.20 จุฬาฯ สวนกลับทางซ้าย ไพฑูรย์ นนทะดี เปิดเข้าในให้ กิตติภูมิ ปาภูงา จะพลิกเข้าไปยิง แต่โดน ทะนงศักดิ์ แหย่เท้าสกัด บอลทะลักไปถึง วัฒนศัพท์ เจริญศรี ซัดจากระยะ 18 หลา ณรงค์ วิเศษศรี รับติดมือ น.22 ทีทีเอ็ม ได้โอกาสบ้างจาก อีโคโล่ ที่ฉีกไปเอาบอลทางซ้าย และจะเปิดแต่บอลปลิ้นหลังเท้าไซค์เกือบจะมุดคานบน ไปตกหลังคานนิดเดียว

น.24 ทีทีเอ็ม เตะมุมทางซ้าย ณรงค์ จันทร์เสวก เขี่ยสั้นให้ ทะนงศักดิ์ ประจักกะตา เปิดด้วยซ้าย ชัชปภพ อุสาพรม โขกโดนกองหลังบอลมาเข้าทาง เจษฏา บุญเรือดรอด ซัดเต็มเท้าติดขา วัฒนศัพท์ เจริญศรี ออกหลังนิดเดียว

น.25 ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร ตัดกลางสนาม บีคอมโบ้ อีโคโล่ กองหน้าตัวแสบของทีม กระชากบอลเล่นเอง โดยมีทะนงศักดิ์ พรหมดาด ยืนล้ำหน้าอยู่ แต่ อีโคโล่ ที่จ่ายบอลให้ไปชนตัว ทะนงศักดิ์ แล้วตามขึ้นไปเล่นกระชากหลุดแผงหลังแล้วยิงผ่านมือ ยีนค์ มาร์ค ไม่เหลือให้เจ้าบ้านนำ 1-0 ขณะที่ผู้เล่นจุฬาฯ โวยวายผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 สุรชัย กุหลาบ เพราะมองว่า น่าจะล้ำหน้าก่อนแต่ไม่เป็นผล

น.36 อารอน ดาซิลวา ทำชิ่งกับ กิตติศักดิ์ ปิ่นทอง ตรงเส้น 18 หลา แล้วบรรจงจะปั่นให้เสียบสามเหลี่ยมบน บอลเลยหลุดคานไปนิดเดียว ช่วงทดเวลาเจ็บครึ่งแรก จุฬาฯ ได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา แต่ยังไม่ทันได้เตะ ผู้ตัดสิน มงคลชัย เพชรศรี เป่าหมดเวลาก่อน เล่นเอาแข้งจุฬาฯ ถึงกับงงรุมประท้วงกันใหญ่ เจ้าหน้าที่ต้องเคลียร์ก่อนที่จะเลิกรากันไป จบครึ่งแรก ทีทีเอ็ม เจ้าบ้านนำ 1-0

ครึ่งหลัง จุฬาฯ กดดันจนได้เตะมุมทันทีทางด้านซ้าย กิตติภูมิ ปาภูงา เปิดยาวเสาสอง กิตติศักดิ์ ปิ่นทอง กองหน้าดาวรุ่งขึ้นโขกบอลย้อยจะเสียบคานบน ณรงค์ วิเศษศรี ต้องบินปัดปลายมือ แต่บอลตกบนเส้น ประดิษฐ์ ทวีไชย ตามเตะทิ้งไปได้ทัน

น.50 ทะนงศักดิ์ ประจักกะตา เตะบอลวืดหลุดมาเข้าทาง อารอน ดาซิลวา ครองบอลได้ ก่อนพลิกตัวกระชากถึงหัวกะโหลก แล้วกดด้วยซ้ายบอลพุ่งแรง ณรงค์ วิเศษศรี ประตูทีทีเอ็ม จะรับบอลเข้าซอง แต่ซองแตกหลุดมือไหลเข้าประตูไปให้ทีม จุฬาฯ ตีเสมอ 1-1

น.52 เจษฏา บุญเรืองรอด ของทีทีเอ็ม กระชากจะทำเกม โดน วัฒนศัพท์ เจริญศรี เข้าชาร์จ เจษฏา ไม่พอใจลุกมาจะเอาเรื่อง โดนเหลืองทั้งคู่ น.59 หลังโดนตีเสมอ ทีทีเอ็ม เปิดเกมบุกหนัก จังหวะนี้ได้เตะมุมทางขวา ชัชปภพ อุสาพรม เปิดเสาสอง ทะนงศักดิ์ พรหมดาด ได้โขกแต่โหนไปนิดเลยโหม่งใต้บอลข้ามคานไป

น.60 จุฬาฯ ก็ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อทีทีเอ็มโต้กลับที่ชัชปภพ อุสาพรม ทางขวา ก่อนที่จะเปิดให้ อีโคโล่ ซึ่งพลิกบอลได้แล้ว แต่โดน วัฒนศัพท์ เจริญศรี เตะสกัดจากด้านหลัง ผู้ตัดสินควักใบเหลืองให้ วัฒนศัพท์ ซึ่งเป็นเหลืองที่สองจึงโดนใบแดงไล่ออก

น.67 แม้ว่าจะเล่น 10 คน แต่แข้งจามจุรีก็สู้ ก่อนได้เตะมุมทางขวา กิตติภูมิ เปิดเสาแรก กองหลังทีทีเอ็มสกัดเข้าทาง อารอน ดาซิลวา ซัดเต็มเท้าบอลโด่งข้ามคาน น.69 เจ้าบ้าน ทำเกมได้สวย ทะนงศักดิ์ พรหมดาด ที่พลิกตัวซัดในเขตโทษ ยีนค์ มาร์ค ทุบออกหลังไปได้

น.79 ทีทีเอ็ม ที่รุกอย่างต่อเนื่องได้โอกาสจาก กามาร่า อาลี ที่เปิดบอลจากขวา เข้าหัว ทะนงศักดิ์ พรหมดาด โขกที่เสาแรก บอลเฉี่ยวเสาออกหลัง น.80 แข้งทีมเยือนโต้ได้สวยที่ กิตติภูมิ ปาภูงา กระชากผ่านมา 2 คนก่อนเปิดให้ ไพฑูรย์ นนทะดี ซัดออกหลัง

น.83 จุฬาฯ เกือบที่จะนำได้ อดิศักดิ์ กานู เปิดบอลจากขวา กสินสิษฐ์ เข้าชาร์จ บอลชนโคนเสาสอง กระดอนมาเข้าทาง ไพฑูรย์ นนทะดี ยิงซ้ำ ติด ณรงค์ วิเศษศรี แล้วบอลมาโดนขาของ จักรพงศ์ ใหญ่โต กระเด้งไปชนคานบนเกือบเข้าประตูตัวเอง

ท้ายเกมเจ้าบ้าน เปิดเกมบุกหนัก แต่จังหวะสุดท้ายไม่สามารถเจาะแผงหลัง จุฬาฯ ได้ ทำให้จบเกม ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร ทำได้เพียงเสมอกับ จุฬา ยูไนเต็ด 1-1 ส่งผลให้จุฬาฯ มี 7 แต้มหนีบ๊วยได้สำเร็จเป็นครั้งแรก

วาทะโค้ช

กิจ มีศรีสุข โค้ชของทีทีเอ็ม - เกมนี้เราวางแผนได้ดีแล้ว ทุกคนทำได้ดีในช่วงแรก จนสามารถขึ้นนำได้ แต่จังหวะที่เสียประตูเป็นการผิพลาดของตัวบุคคล ซึ่งทุกคนก็พยายามที่จะเอาชนะแล้ว เพียงแต่กองหน้าเราขาดตัวเก็บบอลเท่านั้น ทำให้เกมเราเหมือนว่าโยนเข้าไส่กำแพง ต้องชมจุฬาฯด้วยแม้จะเล่น 10 คนก็ยังเล่นเกมรับได้ดีมากๆ

โจเซ่ เฟอร์ไรร่า กุนซือจุฬาฯ - เป็นอีกเกมที่ประทับใจกับผลงานของทุกคนอย่างมาก แม้จะเหลือ 10 คน แต่เราก็ไม่ยอมและน่าจะเป็นผู้ชนะด้วยซ้ำไปในช่วงท้ายเกมที่เราโต้กลับ ซึ่งก็ต้องชมทุกคนที่ทำหน้าที่ได้ดี ส่วนตัวยังมั่นใจว่าเราจะไม่ตกชั้นแน่นอน

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม

ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร : ณรงค์ วิเศษศรี 6, ประดิษฐ์ ทวีไชย 6, จักรพงศ์ ใหญ่โต 6, ทะนงศักดิ์ ประจักกะตา 7, พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี 6.5, อีโคโล่ 7.5, ทะนงศักดิ์ พรหมดาด 7, เจษฏา บุญเรืองรอด 6.5, ชัชปภพ อุสาพรม 6 (วรวุฒิ วังสวัสดิ์-),นฤชา ยันตระศรี 6 (อนุชา ช่วยศรี-), ณรงค์ จันทร์เสวก 6 (กามาร่า อาลี5)

จุฬา ยูไนเต็ด : ยีนค์ มาร์ค 7.5, วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ 7, กิตติภูมิ ปาภูงา 7 (อดิศักดิ์ กานู-), อภิวัฒน์ งั่วลำหิน 6.5,ไพฑูรย์ นนทะดี 6.5, กิตติศักดิ์ ปิ่นทอง 7, อุดม จอกรบ 7, วัฒนศัพท์ เจริญศรี 6.5, ประสิทธิ์ เทาดี 6, วิธวรรธน์ สีชื่น 6, อารอน ดาซิลวา 7 (กสินสิษฐ์ เผื่อนอนงค์-)

แมนออฟเดอะแมตซ์ : เอ็นกูโล ยีนค์ มาร์ค ประตูจอมเซฟของจุฬาฯ ยูไนเต็ด

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

แข้งเทพลั่นสยบแรบบิท,ทีทีเอ็มโวอัดจุฬาฯ

แข้งเทพ " แบงค็อก ยูไนเต็ด คึกเจอทีมเก่ง "แรบบิท" บางกอกกล๊าส สยามกีฬา ทีวี ยิงสดหรือดูผ่านเน็ตได้ที่ http://sstv.siamsport.co.th/live/index.asp ,ทีโอที เอฟซี ขอรักษาอันดับ 5 ของตัวเองไว้ ด้วยการบุกอัดนครปฐม, "ปลาทูคะนอง" เยือนถิ่น พัทยาฯ อีกคู่ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร มั่นใจไล่อัดบ๊วยอย่าง จุฬาฯ พังพาบ ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค.52

สยามกีฬาทีวีสด"แข้งเทพ"ฉะ"แรบบิท"

ศึกไทยพรีเมียร์ลีก นัดประจำวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. 52 มีหวดแข้งกัน 4 คู่จาก 4 สนาม ตามโปรแกรมดังนี้ แบงค็อก ยูไนเต็ด เอฟซี กลับมาเล่นที่สนามตัวเองอย่าง ม.กรุงเทพ รังสิต รับการไปเยือนของ บางกอกกล๊าส เอฟซี เวลา 16.30 น. คู่นี้สยามกีฬา ทีวี เอ็นบีที 19 ถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 16.00 น. , นครปฐม พบ ทีโอที ที่สนาม ม.เกษตรฯ กำแพงแสน จ.นครปฐม เวลา 17.30 น. ,พัทยา ยูไนเต็ด เปิดสนามหนองปรือ ต้อนรับการไปเยือนของสมุทรสงคราม เวลา 18.00 น. และ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร พบ จุฬา ยูไนเต็ด เวลา 17.30 น.ที่สนามสถาบันการพลศึกษา จ.สมุทรสาคร

แบงค็อกฯระส่ำแต่สมชายโว"แรบบิท"ถึงเวลาแพ้

สมชาย ทรัพย์เพิ่ม กุนซือ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด เอฟซี ที่เตะมา 10 นัด ชนะ 2 เสมอ 6 แพ้ 2 มี 12 แต้ม พูดถึงเกมเปิดบ้านเจองานหิน รับการไปเยือนของทีมเต็งแชมป์อย่าง บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่เตะมา 11 นัด ชนะ 7 เสมอ 4 เป็นทีมเดียวขณะนี้ที่ยังแพ้ใครไม่เป็นว่า “ผมว่านัดนี้น่าจะถึงเวลาแล้วที่ บางกอกกล๊าส จะได้ลิ้มรสกับการเป็นผู้แพ้ซะที แม้ทีมเราจะไม่มี รามเทพ ชัยแป้น ,นันทวุฒิ ฝั่นชัยวัง ที่ติดโทษแบน และไม่มี 2 แบ็หซ้าย,ขวา ตัวเก่ง อย่าง จิรนัฐ นนทเกษม กับ ทรงศักดิ์ ชัยสมัคร ที่เจ็บก็ตาม แต่เราเองได้เล่นในบ้านสนามที่ใช้ซ้อมทุกวัน อีกทั้ง 2 นัดที่ผ่านมาก็ทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะเกมรับที่เหนียวแน่นขึ้น เกมนี้ผมมั่นใจทีมเราที่เวลาเจอทีมแข็งมักจะเล่นได้ดีจะเป็นผู้ชนะ และทำให้ บางกอกกล๊าส แพ้เป็นนัดแรกของฤดูกาลได้แน่“

"โค้ชอู๊ด"ยิ้มเจ้าถิ่นพิการขอพาบางกอกกล๊าสนำฝูงต่อ

ขณะที่ "โค้ชอู๊ด" อนุกูล กันยายน สตาฟฟ์โค้ช บางกอกกล๊าส กล่าวว่า "เป้าหมายของเราคือ รักษาการเป็นจ่าฝูงไว้ต่อไปให้ได้ เกมนี้แม้จะไม่ง่ายเพราะต้องไปเยือน แต่การที่เขาเองต้องขาดตัวหลักไปถึง 4 รายที่ทั้งเจ็บและติดโทษแบน น่าจะทำให้สภาพทีมเขาไม่ดีเท่าไหร่ ผมมั่นใจในสถิติเก่าๆ ที่เราทำได้ดีกว่าเขายามเจอกัน ที่เราชนะได้ 3 เสมอ 1 และ แพ้ 2 ครั้ง ใน 3 ฤดูกาลหลังสุดที่พบกันว่า เกมนี้เราจะบุกชนะทีมพิการอย่าง แบงค็อกฯ ได้แน่ แม้อาจจะต้องออกแรงมากหน่อยก็ตาม"

ผู้เล่นที่คาดว่า 2 ทีมจะส่งลงสนาม

แบงค็อก ยูไนเต็ด วีระ เกิดพุดซา, ชมพู แสงโพธิ์, มูซ่า ซาอิฟ, ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์, อาทิตย์ บุญพา, วุฒิพันธ์ พันธะลี, กิตติศักดิ์ ศิริแว่น, วิทยา หมัดหลำ, จีระ เจริญสุข, ซารีฟ สายนุ้ย ,ประเสริฐ หาดเจียง

บางกอกกล๊าส กฤษณะ กลั่นกลิ่น, ศุภชัย คมศิลป์, อำนาจ แก้วเขียว, ไกรเกียรติ เบียดตะคุ, พลวัฒน์ วังฆะฮาด, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์, อนนท์ บุญสุโข, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์, อนาวิน จูจีน , นันทวัฒน์ แทนโสภา, อจายี่ ซามูเอล

นครปฐมลุ้นชนะทีโอทีนัดแรกเรียกศรัทธาแฟน

อนุสรณ์ ชุ่มดวงใจ กุนซือ นครปฐม ที่เตะมา 10 นัด ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 3 มี 13 แต้ม ล่าสุดเพิ่งบุกไปแพ้ ชลบุรี มาแบบหมดสภาพถึง 0-3 กล่าวถึงเกมกับ ทีโอที ว่า "เรายังไม่เคยเอาชนะได้เลยในศึกไทยลีก จากการพบกันมา 4 หน ที่เสมอ 1 แพ้ 3 นัดนี้น่าจะถึงเวลาที่เราจะชนะเขาเป็นนัดแรกในการพบกันในไทยลีกได้แล้ว เกมนี้แม้จะไม่มี นิพนธ์ ชาญอาวุธ กองหลังตัวเก่งที่ติดโทษแบน แต่รายอื่นๆ อยู่กันพร้อมหน้า ผมจะปรับเล่น 5-3-2 เน้นแดนกลางแน่นและจะเปิดเกมรุกริมเส้นซ้ายขวาเข้าโจมตี เราได้กลับมาเล่นในบ้าน ผมต้องการพาทีมชนะเพื่อเรียกศรัทธาแฟนบอลคืน หลังจากแพ้มาในเกมที่แล้ว เราต้องการ 3 แต้มเพื่อลุ้นทำอันดับให้ดีกว่าเดิม และหนีทีมอื่นๆ ที่ไล่หลังเรามาด้วย"

ธนเดชฟุ้งสถิติเก่าข่มลุ้นดาวยิงแซมบ้าลงยิง

ด้าน ธนเดช ฟูประเสริฐ กุนซือ ทีโอที เอฟซี ที่เกมล่าสุดเพิ่งเปิดบ้านชนะ ราชนาวี-ระยอง มาได้ 2-1 ทำให้อันดับพรวดมารั้งที่ 5 ก่อนลงเตะเกมนี้กล่าวว่า "ทุกนัดอย่างที่ผมบอกมาตลอด เราหวัง 3 แต้ม ไม่เคยต้องการแค่ผลเสมอ เกมนี้นอกเหนือจาก ไพรับ ทับเกตุแก้ว เซนเตอร์ฮาฟรายเดียวที่ไม่สมบูรณ์เจ็บท้อง แต่รายอื่นๆ อยู่กันครบ แม้ต้องไปเยือนแต่สถิติเก่าๆ ที่ผ่านมาที่เราเจอเขานั้นเราไม่เคยแพ้เขาเลย อย่างแย่คือเสมอจาก 4 เกมที่เจอกันในไทยลีก เราชนะ 3 เสมอ 1 นัดนี้น่าจะเหมือนเดิม หากใบโอนย้ายของ วาลซี่ จูเนียร์ กองหน้าบราซิล ไม่มีปัญหา เราจะส่งหมอนี่ลงล่าตาข่ายแน่นอน เกมนี้ขอ 3 แต้มเท่านั้นครับ"

ผู้เล่นที่คาดว่า 2 ทีมจะส่งลงสนาม

นครปฐม มานะ นพเนตร, ประหยัด บุญญา, นนทพันธ์ เจียรสถาวงษ์, อาเบด บิรอนเซ่, วุฒิศักดิ์ มณีสุข, ประดิษฐ์ สว่างศรี, อดิสร แดงเรือง, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์, ไมเคิล เบิร์น, วิมล จันทร์คำ , รีจินัลโด้

ทีโอที กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ, ธีรชัย งามเจริญ, โคเน่ เซดู, ดุรงฤทธิ์ ศรีลา ,รัฐศักดิ์ บุญญรัตน์, สิทธิศักดิ์ ตาระพันธ์, รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์, เคลาดิโอ พาสคาล, สุเชาว์ นุชนุ่ม, ไกรสรณ์ ศรียันต์ , กิตติพงษ์ มูลพงศ์

พัทยาฯลุ้น 3แต้มขยับอันดับเชื่อขย้ำปลาทู

พัทยา ยูไนเต็ด ที่เตะมา 11 นัด ชนะ 2 เสมอ 5 แพ้ 4 มี 11 แต้ม ที่นัดนี้จะไม่มี ประวิทย์ ปะริวันตา กองหลังที่ติดโทษแบนนั้น พันธ์ศักดิ์ เกตุวัตถา กุนซือใหญ่ กล่าวว่า “เกมที่แล้วเราเล่นไม่ขี้เหร่ แต่น่าเสียดายที่บุกไปแพ้ โอสถฯมา 0-1 นัดนี้กลับมาเล่นต่อหน้าแฟนบอลในบ้านเราเองนั้น เป้าหมายมีอย่างเดียวคือ ต้องเก็บ 3 แต้มเพื่อลุ้นไปอยู่ในอันดับที่ดีกว่าเดิม อีกอย่างเจอกันในไทยลีก 2 ครั้งซีซั่นก่อน เราชนะเขาไม่ได้ มีแต่เสมอกับแพ้ นัดนี้เราที่ยังไม่เคยแพ้ใครในบ้านตัวเอง น่าจะเช็กบิลเขาได้แน่”

"น้าฉ่วย"มึนทีมยวบเจ็บ,แบนอื้อขอบุกเจ๊า

ขณะที่ "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือ สมุทรสงคราม ที่เตะมา 11 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 7 จนอันดับวูบมาอยู่ท้ายตารางแล้ว แถมล่าสุดแพ้รวดมา 3 นัดติดต่อกันต่อ ชลบุรี 0-1 ( ห ) , แพ้การท่าเรือ 0-1 ( ย ) แพ้ เมืองทองฯ 0-1 ( ห ) กล่าวอย่างท้อแท้กับสภาพทีมตัวเองขณะนี้ว่า "ไม่ไหวจริงๆ เกมนี้ดูแล้วคงเหนื่อยแน่ที่ต้องไปเยือนพัทยาฯ เพราะทีมเรามีทั้ง อภินันท์ แก้วปิลา ที่ติดโทษแบน แถมบางคนก็ยังเจ็บและเป็นไข้อยู่ด้วย แต่อย่างไรก็ดีเราเองก็ต้องการแต้มเพื่อเรียกความมั่นใจกลับสู่ทีม นัดนี้แม้สภาพจะไม่ดี แต่ผมก็เชื่อมั่นว่า ลูกทีมจะบุกยันเสมอ พัทยาฯได้เป็นอย่างน้อย"

ผู้เล่นที่คาดว่า 2 ทีมจะส่งลงสนาม

พัทยา ยูไนเต็ด นริศ ทวีกุล, ซีเกต หมาดปูเต๊ะ, สมภพ นิลวงษ์, ไพศาล โพธิ์นา, นิเวศ ศิริวงษ์, สันติ ไชยเผือก, รังสฤทธิ์ สุทธิสา, อัททานาเซ่, อมร ธรรมนาม, เปาโล ,อิทธิพูล พูลทรัพย์

สมุทรสงคราม เดนิส, สุขสยาม ชาญมณีเวช, ชุมพล บัวงาม, เอกศักดิ์ บัวเบา, ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร, อรรถนพ ชัยแป้น, มิเชล, พัชรินทร์ สุกใส, คะนึง บุราณสุข, จีระวัฒน์ แก้วโบราณ ,สิทธิพันธ์ ชุมช่วย

ทีทีเอ็มฯลั่นไล่ยำจุฬาฯถีบอันดับ

กิจ มีศรีสุข กุนซือใหญ่ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ที่เตะมา 10 นัด ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 4 มี 12 แต้ม ล่าสุดบุกไปเสมอกับ กฟภ.มาได้ 0-0 กล่าวว่า "นัดนี้ได้กลับมาเฝ้าบ้านเจอกับ จุฬาฯ ทีมบ๊วย แม้เขาจะดูดีขึ้นมาแต่ก็เชื่อว่า ศักยภาพลูกทีมผมดีกว่า เกมนี้หากลูกทีมไม่หลุดฟอร์มไปละก็ เราจะผ่าน จุฬาฯ ได้แบบไร้ปัญหาแน่ หากเราชนะ ก็มีลุ้นที่จะทำอันดับให้ดีกว่าเดิมให้ได้ เกมนี้ไม่น่ามีปัญหา ผมเชื่อว่า 3 แต้มเป็นของเราแน่"

กุนซือบราซิลลุ้นพาจุฬาฯชนะนัด2ของซีซั่น

โจเซ่ คาร์ลอส แฟร์ไรร่า กุนซือบราซิลของ จุฬาฯ ทีมบ๊วยที่เตะมา 11 นัด ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 7 ที่เกมล่าสุด เพิ่งชนะนัดแรกของซีซั่นเหนือรองบ๊วยอย่าง ศรีราชา มาได้ 1-0 กล่าวถึงเกมพาลูกทีมเยือนถิ่น ทีทีเอ็มฯ ว่า “เกมที่แล้วที่เราชนะเป็นนัดแรกของซีซั่นได้ทำให้นักเตะมีกำลังใจที่ดี และน่าจะเล่นกันได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง นัดนี้สภาพทีมสมบูรณ์ทุกแดน เรื่องแชร์แต้มไม่น่าจะมีปัญหา หากจังหวะและโอกาสเป็นใจ ถ้าเราจะชนะนัดที่ 2 ของฤดูกาลได้ในเกมนี้ ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด"

ผู้เล่นที่คาดว่า 2 ทีมจะส่งลงสนาม

ทีทีเอ็มฯ ณรงค์ วิเศษศรี ,ทะนงศักดิ์ ประจักกะตา, พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี, เจษฎา บุญเรืองรอด, ประดิษฐ์ ทวีไชย, ณรงค์ จันทร์เสวก, ชัชปภพ อุสาพรหม, วรวุฒิ วังสวัสดิ์, ขวัญชัย เฟื่องประกอบ, เอคโคโล่, ทะนงศักดิ์ พรมดาด

จุฬา ยูไนเต็ด ยีน มาร์ค, อุดม จอกรบ, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ, ประสิทธิ์ เทาดี, ไพฑูรย์ นนทะดี, ศักดา ชุติภัคพงษ์, วัฒนศัพท์ เจริญศรี , อดิศักดิ์ กานู, กิตติภูมิ ปาภูงา, คาร์ลอส ดา ซิลวา

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

โปลิศบุกขย้ำ3-2,ทัพบกสอย1ตุงบอลด.1

ขุนพลนักเตะ "โปลิศ" ตำรวจ ฟอร์มยังดุไม่เลิก ยกพลบุกขย้ำ "ลูกทัพฟ้า" ทหารอากาศ หวุดหวิด 3-2 นำจ่าฝูงต่อสบายใจ ด้าน ปราจีนบุรี โดนเจ๋งเฉือน "นายด่าน" ศุลกากร เดือด 1 ตุง ส่วน ทหารบกบุกไปยิง "เมืองร้อยเกาะ" สุราษฎร์ธานี ถึงถิ่น 1-0 รั้งรองจ่าฝูงต่อ ขณะที่ การบินไทย-บ้านบึง เปิดรังบี้ จันทบุรี หืดจับ 1-0 ศึกลูกหนังลีกดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 นัดที่ 10 เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ลงสนามฟาดแข้งกัน 4 คู่ 4 สนาม ผลการแข่งขันมีดังนี้

ทหารอากาศ 2-3 ตำรวจ

ที่สนามธูปะเตมีย์ เจ้าบ้าน "ทัพฟ้า" ทหารอากาศ ทีมอันดับ 13 ของตารางมีอยู่ 8 แต้ม เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน "โปลิศ" ตำรวจ ทีมจ่าฝูงของตาราง นัดนี้ถือเป็นดาร์บี้แมตช์กองทัพไทย ทหารอากาศ ใช้ตัวเก๋า ขวัญ ไวทยาชีวะ ทำเกม พร้อมวาง วัชรพงษ์ จันทร์งาม และ มานพ คล้ายแก้ว ลงล่าตาข่าย ด้านทีมเยือนตำรวจ เกมนี้มี มานิตย์ น้อยเวช, จักรพัน พรใส, ศรัญยู อินต๊ะราช และ กฤษฎี ประกอบของ นำทัพ

เริ่มครึ่งแรก ทีมเยือนเปิดเกมบุกใส่เจ้าบ้านก่อนทันที แต่ยังทำอะไรไม่ได้ จนมาถึง น.9 ทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ ศรัญยู อินต๊ะราช ปีกขวาตัวเก่งของตำรวจ กดด้วยขวาเต็มข้อระยะ 25 หลา บอลพุ่งผ่านผู้เล่นทั้งสองทีมในเขตโทษทะลักไปเข้ามือ วิชาญ ปรีดาบุญ นายทวารเจ้าบ้าน แต่ วิชาญ รับบอลพลาดปลิ้นเข้าประตูให้ ตำรวจ ขึ้นนำ 1-0

หลังจากนั้นเจ้าถิ่นพยายามทำเกมบุกเข้าใส่ทีมเยือน เพื่อยิงประตูคืนมาให้ได้ น.15 กฤษณะ ต่ายวัลย์ ปีกขวาทหารอากาศเปิดบอลจากกราบขวาไปหน้าประตู สมพงษ์ ยอดอาจ มือกาวตำรวจ ชกบอลพลาดบอลหลุดมาทางเสาสอง มานพ คล้ายแก้ว หัวหอกเจ้าบ้านวิ่งเข้ามาแปรด้วยซ้ายเสียบเสาสองให้ ทหารอากาศ ตีเสมอ 1-1

น.29 เจ้าบ้านได้ลุ้นประตูขึ้นนำจากการยิงระยะ 25 หลาของ อนุวัฒน์ อินยิน ห้องเครื่องของทหารอากาศ บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียว จากนั้นเกมยังสนุกผลัดกันรุกผลัดกันรับแต่ไม่มีสกอร์เพิ่ม จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1

ครึ่งหลังเกมยังสูสี ทั้งสองทีมมีโอกาสพอกันแต่ยังสกอร์ยังไม่ขยับ น.68 เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูขึ้นนำเมื่อ อนุวัฒน์ อินยิน เปิดฟรีคิกจากกราบซ้ายไปหน้าประตู รพีพัชร นาคเพ็ชร โหนเข้ามาโหม่งบอลลอยข้ามคานไปแบบได้ลุ้น น.72 ทีมเยือนได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ กฤษฎี ประกอบของ แบ็คซ้ายตำรวจซัดฟรีคิกระยะ 25 หลาบอลทะลุกำแพงหลุดเสาออกหลังไป

น.74 ทีมเยือนก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จักรพัน พรใส ปีกซ้ายตำรวจเปิดลูกเตะมุมมากลางประตู วิชาญ ปรีดาบุญ ประตูเจ้าบ้านออกมาตัดบอลพลาด มานิตย์ น้อยเวช โหม่งสวนตัวเข้าไปตุงตาข่าย ตำรวจ นำ 2-1 ยิ่งเล่นเกมของทีมเยือนยังทำได้ดีกว่า น.77 อภินันท์ สวนทอง เซนเตอร์เจ้าถิ่นไปรวบ เอกอาทิตย์ สมจิตร ในเขตโทษ ผู้ตัดสิน บดินทร์ บุญด้วยลาน ให้จุดโทษตำรวจทันที มานิตย์ น้อยเวช แปรเสียบเสาขวามือเข้าไปไม่พลาด ตำรวจนำห่าง 3-1

ช่วงเวลาที่เหลือทหารอากาศเปิดเกมบุกกดดันเข้าใส่อย่างหนัก ช่วงทดเวลาเจ็บนาที มานพ คล้ายแก้ว หัวหอกเจ้าบ้าน มาทำประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ให้ ทหารอากาศ ไล่มาที่ 2-3 แต่ทำได้ดีที่สุดแค่นั้น จบเกม ตำรวจ บุกมาชนะ ทหารอากาศ ไปแบบสนุก 3-2 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จพร้อมนำจ่าฝูงดิวิชั่น 1 ต่อไป

หลังเกมส่งเสริม มาเพิ่ม กุนซือใหญ่ลูกทัพฟ้า กล่าวว่า "เกมนี้นักเตะเล่นได้ดีสู้ได้สูสี รูปเกมก็ทำได้ดี แต่พอมาเสียลูกจุดโทษเลยทำให้เกมเปลี่ยน ขอติงการตัดสินของกรรมการในเกมนี้ว่าทำได้แย่มาก เป่าไม่ทันเกมหลายจังหวะ ลูกจุดโทษไม่น่าให้ก็ให้ คงต้องปรับเกมใหม่ หวังว่าเกมต่อไปจะดีกว่านี้"

ชัยยง ขำเปี่ยม โค้ชตำรวจ กล่าวว่า "วันนี้เด็กเราเล่นได้ดีทั้งเกมรุกและเกมรับ ทำให้เราเก็บสามแต้มได้สำเร็จนอกบ้านได้สำเร็จ โดยรวมแล้วก็พอใจทั้งรูปเกมและสกอร์ที่ออกมา แต่คงต้องปรับปรุงสมาธิของแนวรับในเกมรับให้นิ่งกว่านี้"

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

ทหารอากาศ : วิชาญ ปรีดาบุญ 5, อภินันท์ สวนทอง 6, ธนวันต์ ชัยยะศิริสุวรรณ 6, พนา กาญจนศักดิ์ 6, ขวัญ ไวทยาชีวะ 5, รพีพัชร นาคเพ็ชร 6, ศิริวัฒน์ โชติเวชารักษ 6, กฤษณะ ต่ายวัลย์ 5 (น.46 อานัฐชัย จันทะยา 6), อนุวัฒน์ อินยิน 6,วัชรพงษ์ จันทร์งาม 6, มานพ คล้ายแก้ว 7

ตำรวจ : สมพงษ์ ยอดอาจ 5.5, กฤษฎี ประกอบของ 6, อานนท์ นานอก 6, โดดาตัส อันนาน 6, กามาร่า ฮาเม็ด 7, สุรพงษ์ ธรรมวงศา 6 (นิพนธ์ พันธุ์พร้อม), จักรพัน พรใส 7.5, ศรัญยู อินต๊ะราช 7.5, เอกอาทิตย์ สมจิตร 7, มานิตย์ น้อยเวช 7 (เจนวิทย์ บุญสุวรรณ -), จิมมี่ วูล์ฟ 6.5 (ประสพ เกิดศร 5)

แมนออฟเดอะแมตช์ : จักรพัน พรใส มิดฟิลด์ตัวทำเกมของตำรวจ

การบินไทยบ้านบึง 1-0 จันทบุรี

ที่สนาม เบียร์ช้าง บ้านบึง "เจ้าบ้าน" การบินไทยบ้านบึง ทีมอันดับ 11 ของตารางคะแนน เปิดบ้าน พบกับ "กระต่ายป่า" จันทบุรี ทีมอันดับ 10 โดยเกมนี้ เจ้าบ้านส่ง ภาสกร คัณทักษ์ ลงทำเกมแดนกลาง พร้องส่ง เปรมวุฒิ วงศ์ดี ลงล่าตะข่าย ด้านทีมเยือน ส่งนักเตะตัวหลักลงครบครัน ทั้งอย่าง พิทักษ์ พิทักษ์โกศล กัปตันทีม พร้อมด้วย ศิริศักดิ์ มัสบูงอ กองหน้าตัวเก่งของทีมลงล่าตาข่าย

เริ่มครึ่งแรกทั้งสองทีมเปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างสนุกสูสี น.6 ทีมเยือนจันทบุรีได้จังหวะทักทายก่อนจากจังหวะลูกเตะมุมจาก พิทักษ์ พิทักษ์โกศล เปิดเข้ามาหน้าประตู ให้กับ ไอเดียส ขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆ แต่บอลไปเข้ามือ หัสชัย แสนกล้า นายทวารการบินไทยฯ รับสบาย

น.11 จันทบุรี ที่เริ่มครองเกมกลางสนามได้ ขึ้นมาทางกราบขวาของศิริศักดิ์ มัสบูงอ ลากไปสุดเล้นหลัง ก่อนเปิดเข้ากลางประตูให้กับ อดิศร เขาหนองบัว วิ่งสอดเข้ามายิงเสาแรกระยะ 6 หลา แต่บอลเฉียดเสาออกไปแบบหวุดหวิด

จากนั้นทั้งสองทีมยังเปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างต่องเนื่อง น.31 กองเชียร์เจ้าถิ่นเกือบได้เฮกันก่อน จากจังหวะที่ ศักดา แสงจันทร์ฮาม ได้จังหวะลากบอลขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจ่ายบอลให้กับ เปรมวุฒิ ทำชิ่งบอลให้กับ ลันด์ไดร อิเม่ กองกองผิวสี สับไกลยิงระยะ 18 หลา แต่บอลลอยเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

น.38 การบินไทยบ้านบึง มาได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่เปรมวุฒิ เข้าให้กับ ธนพล ห่วงประโค่น โหม่งชงให้กับ ลันไดร์ อิเม่ ชาร์จจ่อๆ พลาดไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ทั้งสองทีมจะทำอะไรกันไม่ได้ทำให้หมดเวลาครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง ทีมเยือนจันทบุรี ปรับแผนเปลี่ยนเอากองหน้าอย่าง ปรัชญา นะราช ลงมาเล่นแทน อดิศร เขาหนองบัว พร้อมกับเปลี่ยนเอา พิทักษ์ พิทักษ์โกศล ที่มีอาการบาดเจ็บออกไป แล้วเอา บุญชัย นิลยิ่งดี ลงมาเล่นแทน

ก่อนที่เริ่มเกมมาได้เพียง 2 นาที กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่น เมื่อได้จังหวะสวนกลับเร็วจาก หัสชัย แสนหล้า นายทวารการบินไทยฯ เปิดบอลยาวมาให้กับ เปรมวุฒิ แต่บอลไม่ถึงเปรมวุฒิ แต่ ไอเดียส กองหลังจันทบุรี พลาดลื้ยล้มขณะที่จะหวดบอลทิ้ง ทำให้ เปรมวุฒิ ได้จังหวะฉกบอลก่อนลากเข้าไปยิงด้วยขวาบอลไซร้โค้งผ่านมือ พิเชฐ ไตรภูมิ ผู้รักษาประตูจันทบุรีเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้ การบินไทยบ้านบึง ออกนำไปก่อน 1-0

น.55 กองเชียร์ทีมเยือนเกือบได้เฮกันบ้างจากจังหวะที่ ปรัชญา นะราช หลุดเดี่ยวเข้าไปชิพบอลข้ามตัว หัสชัย นายทวารการบินไทยฯ แต่บอลลอยเฉียดเสาแรกออกไปอย่างย่าเสียดาย น.64 จันทบุรีมาได้จังหวะ ยิงไกลจาก ทักษิณ วิเศษสิงห์ แต่บอลเฉียดเสาออกไปอย่าน่าเสียดาย

น.71 เจ้าบ้านเกือบมาได้ประตูขึ้นห่างอีกครั้งจากจังหวะลูกเตะจากการเปิดเข้ามาที่หน้าประตูของจันทบุรี ก่อน เอ็กปูเซ่ กองหลังผิวสีของการบินไทยฯ เทกตัวคนโหม่งคนเดียวแต่บอลไปเข้ามือของ พิเชฐ นายทวารจันทบุรีรับสบาย ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ทั้งสองทีมทำประตูเพิ่มกันไม่ได้ ทำให้หมดเวลาการแข่งขัน การบินไทยบ้านบึง เฉือนชนะ จันทบุรี 1-0

หลังเกมวีระศักดิ์ เตี๊ยะเหมือน กุนซือการบินไทยบ้านบึง กล่าวว่า "วันนี้เป็นเกมที่เหนื่อยมากเพราะเด็กมีอาการล้ามาจากการลงทีม สองแมตช์ติดเมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่เด็กเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เราสามารถเก็บสามแต้มในบ้านได้สำเร็จ"

ด้าน ปัญญา การเจริญ โค้ชใหญ่จันทบุรี กล่าวว่า "เกมนี้เด็นเราเล่นได้ดีแต่สนามไม่เอื้ออำนวย พื้นสนามหญ้าค่อนข้างสูงและพื้นสนามมีน้ำขัง ทำให้เราคอนโทรลบอลยากแต่จุดสำคัญที่ทำให้เราไม่สารมารถเก็บแต้มได้ คือจังหวะจบสกอร์ที่เราต้องปรับเรื่องนี้อีกในนัดต่อไป"

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

การบินไทยบ้านบึง : หัสชัย แสนกล้า ผู้รักษาประตู 7, ประสาน อนันตชัยฤทธิ์ 7(น.45อาณัติ ดวงใหญ่ 6.5) , ธนพล ห่วงประโคน 7, ภาสกร คัณทักษ์ 7, เปรมวุฒิ วงศ์ดี 7.5 (น.83อภิสิทธิ์ ขวยขวาย), ภูริทัต จาริการนนท์ 6.5, บาร์นาร์ด ลินฟอร์ด 7, เคนเน็ต เอ็กปูเซ่ 7, ลัดไดร์ อิเม่ 7, ศักดา แสงจันทร์ฮาม 7, พิชัย ปรีชาเชาว์ 7

จันทบุรี : พิเชฐ ไตรภูมิ ผู้รักษาประตู 6.5, กิตติศักดิ์ พิกทักษ์โกศล 6.5, ทักษิณ วิเศษสิงห์ 6.5, ไอเดียส 5, คริสเตียน เยา 6.5, พิทักษ์ พิทักษ์โกศล 5 (น.45 บุญชัย นิลยิ่งดี6.5), ณัฐพล ก่อกิตติพงศ์ 6, พงษ์พันธ์ ไทรน้อย 6, อดิศร เขาหนองบัว 5(น.45 ปรัชญา นะราช 6.5),ชนันทร์ เกษี 6 ศิริศักดิ์ มัสบูงอ 6

แมนออฟเดอะแมตช์ : เปรมวุฒิ วงศ์ดี กองหน้าดาวรุ่ง การบินไทยบ้านบึง

ปราจีนบุรี 1-0 ศุลกากร

ที่สนามกีฬากลาง จ.ปราจีนบุรี เทศบาลเมืองปราจีนบุรี ทีมอันดับ 9 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "นายด่าน" ศุลกากร ทีมรองบ๊วย เกมครึ่งแรกเป็นทั้งสองทีมที่มีโอกาสได้ประตู พอกัน แต่จังหวะจบยังขาดความเฉียบคมทำให้เสมอกันไปก่อน 0-0 ครึ่งหลัง เจ้าถิ่น มาเหลือผู้เล่น 10 ในนาทีที่ 65 หลังจากที่ อัสมิง แม ไปเตะข้างหลังผู้เล่น ศุลกากร จนผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกสนามไป

เกมดำเนินมาถึง น. 80 จารุวัฒน์ นามมูล นักเตะของเจ้าบ้าน โดนอีกหนึ่งใบแดงตะเพิดออกสนาม หลังไปเล่นนอกเกมใส่แข้งทีมเยือน แม้มีผู้เล่นน้อยกว่า แต่ก็ไม่ทำให้เจ้าถิ่นเสียขวัญ ก่อนที่ช่วงท้ายเกม น. 86 บัวเต็ง ควาเบน่า ตัวสำรองที่เปลี่ยลงสนาม จะมาแผลงฤทธิ์ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำและเป็นประตูชัยให้ทีม ปราจีนบุรี ชนะ ศุลกากร 1-0

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

ปราจีนบุรี : สุทธิพงษ์ แสนกล้า 6, เอลมาเคลา เบโนอิส 5.5, ธนะศักดิ์ ศรีใส 6, สุรศักดิ์ แก้วอินตา 6, อัสมิง แม 5, วุฒิพงษ์ ศรีกสิกิจ 6, ผดุงศักดิ์ นาคพงษ์ 6,ไพรัช ลิ้มเกียรติสถาพร 5.5 (บัวเต็ง ควาเบน่า 6), ปองเทพ มุลาลี 6, ไตรรงค์ แก่นจันทร์ 5, เจษฎา แก้วประสงค์ 7

ศุลกากร : สราวุธ กองลาภ 5, มาเซา กิบ้า 5, สันติชัย อนุสิม 5, พิชิตพล ไชยสิทธิ์ 5, วรุตน์ สัพโพ 5, สัมพันธ์ ดำสุข 5, โชคลาภ นิลแสง 5, สุรศักดิ์ คุ้มกัน 5 (เอดเวิร์ด อนูด 5), สุริยา สิมมา 5, อนุชิต กระธรรมะ 5 (ไตรรงค์ ผู้ดี-), วุฒิชัย สัญญโภชน์ 5, นิติพงษ์ ไสยสิทธิ์ 5

แมนออฟเดอะแมตช์ : เจษฎา แก้วประสงค์ มิดฟิลด์ จอมบุก เทศบาลเมืองปราจีนบุรี

สุราษฎร์ธานี 0-1 ทหารบก

ที่สนามกีฬากลาง จ.สุราษฎร์ธานี "เมืองร้อยเกาะ" สุราษฎร์ธานี ทีมอันดับ 7 เปิดบ้านรับมือ "ตรากงจักร" ทหารบก ทีมรองจ่าฝูง เกมครึ่งแรกเป็นทั้งสองทีมที่ เดินหน้าสาดเกมรุกใส่กันหนัก แต่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้กระทั้งเกมดำเนินมาถึงช่วงทดเวลาเจ็บ น. 46 เป็นทางด้าน ฉัตรชัย โมกเกษม กองหลังที่เติมขึ้นมาโหม่ง ให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ก่อนจะหมดครึ่งแรกด้เวยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง น. 61 ขุนพล ทหารบก เหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ จักรพงศ์ สมบูรณ์ เล่นนอกเกมใส่ นักเตะเจ้าถิ่น ผู้ตัดสินจัดใบแดงไล่ออกสนาม แต่ยังควบคุมสถานการณ์ได้เปรียบเอาไว้ได้ ทำให้ ทหารบก บุกชนะ สุราษฎร์ธานี 1-0 เก็บสามแต้มได้สำเร็จ

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

สุราษร์ธานี : บรรหาร อินทร์นาค 5, สนิตย์ ซุนกี่ 5.5, เบาบ้า คาร์ริเนียน 5, สุรัช ทองสกุล 5, กฤษดา กลางณรงค์ 5, อซิซ กิมบ้า 5 (ธนชิต ช่วยสุ่น -), กามาร่า ซอรี่ 5 (ประกิจ กอบวัฒนกุล - ), มานะ หลักชุม 5, มานะ หลักชุม 5, อนุชาติ ล่องแป้น 5, อัครินทร์ อินทรกุล 5 (เอกลักษณ์ ธรรมวิศาล -)

ทหารบก : สุริยา อาหาสิเม 6, สราวุธ ทองสวัสดิ์ 6, ดาวุฒิ ดินเขต 6, ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม 6, ธาตรี สีหา 6, จักรพงศ์ สมบูรณ์ 6, สำเริง สิทธิโยธี 6 (ดุสิต ชุ่มชัยรัตน์-), ฉัตรชัย โมกเกษม 7, วัชนะ รัตนะ6, รัฐกิจ ชนะนา 6 (ทศพร อนุพัฒน์ -), ธนากรณ์ แดงทอง 6 (มงคล ทศไกร -) วีรพงษ์ มูลคำแสน, อนุสรณ์ เอี่ยมภาษี

แมนออฟเดอะแมตซ์ ฉัตรชัย โมกเกษม กองหลัง "ตรากงจักร" ผู้โหม่งประตูชัย

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไปยังคงดวลแข้งกัน 4 คู่จาก 4 สนามเช่นเดิม สนามกีฬากลาง จ.ศรีสะเกษ เริ่ม 17.00 น. ศรีสะเกษ พบ ปตท. ,สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี เริ่ม 16.00 น.ไทย-ฮอนด้า พบ สุพรรณบุรี, สนามกีฬากลาง จ.ขอนแก่น เริ่ม 17.00 น. ขอนแก่น พบ นครสวรรค์, สนามจิรนคร-หาดใหญ่ เริ่ม 16.00 น. สงขลา พบ รัตนบัณฑิต

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ตราชฎาฮึดแซง2-1,อุดรยิงดุ4-0บอลด.2

แข้ง "ตราชฎา" ราชประชา โชว์เก๋าโดนก่อน แต่พลิกมาแซง กรุงเทพมหานคร แบบดุเดือน 2-1 แถมมีแดงอีก 2 ใบ รั้งจ่าฝูงภาคกทม.ต่อ ด้านภาคเหนือ ชัยนาท เปิดบ้านเฉือน กำแพงเพชร หืดจับ 1-0 ได้ประตูชัย น. 90 ส่วนภาคตะวันออก "หนุ่มเมืองปากน้ำ" สมุทรปราการ บุกต้อน สิงห์บุรี นิ่ม 2-0 ขณะที่ภาคอีสาน มุกดาหาร ดับคาบ้านโดน "ยักษ์แสด" อุดรธานี บุกถล่มเละ 0-4 ศึกลูกหนังลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2. เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลอาชีพลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่ามมา ซึ่งยังคงมีการแข่งขันกันตามปกติ ยกเว้นภาคใต้พักเลกแรกอยู่ ผลการแข่งขันมีดังนี้

ภาคกรุงเทพปริมณฑล "ทีมเมืองหลวง" กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่อันดับ 5 ของตาราง ลงสนามมาแล้ว 8 นัดชนะ 2 เสมอ4 แพ้ 2 ต้อง พบกับศึกหนักรับการมาเยือนจ่าฝูง "ตราชฎา" ราชประชา ที่ลงสนาม 7 นัดยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น ชนะ 6 เสมอ 1 เกมนี้สภาพสนามลื่นเนื่องจากคืนก่อนการแข่งขันได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เป็นอุปสรรคกับการเล่นของนักเตะทั้งสองทีมไม่น้อย

เกมครึ่งแรกเจ้าบ้าน กรุงเทพมหานคร ก็เปิดเกมรุกใส่แบบไม่กลัวศักดิ์ศรีจ่าฝูงทันที และได้ประตูขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 6 จาก ราชัน กันจินะ ที่หนีการประกบพุ่งโหม่งตุงตาข่าย ทีมเมืองหลวงออกนำเร็ว 1-0 หลังเสียประตู ราชประชา พยายามโหมบุกเพื่อจะทวงประตูคืนและมาสำเร็จ น.16 จาก โคเน่ ขึ้นโหม่งไล่ตามมาเป็น 1-1 จากนั้นเกมก็เริ่มรุนแรงขึ้นตามลำดับ โคเน่ รับใบเหลืองนาที 19 จบครึ่งแรกเสมอ 1-1 ครึ่งหลัง "ทีมตราชฎา" แซงขึ้นนำ 2-1 นาที 49 จาก โคเน่ เจ้าเดิม หลังจากนั้นทั้งสองทีม ก็ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ราชประชา ชนะ กรุงเทพมหานคร 2-1 รักษาสถิติไม่แพ้ต่อทีมใดและนำเป็นจ่าฝูงต่อไป

ขณะที่ สนามกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ วิทยาลัยนอร์ท-กรุงเทพ เปิดบ้านชนะ ม.เกษตรศาสตร์ 3-2 โดยทีมว.นอร์ท-กรุงเทพ ได้ประตูจากสุธิศักดิ์ เต็งหลี น.25, เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ น.75 และ มาโนช มณฑา น. 95 ส่วนม.เกษตรศาสตร์ ได้ประตูจาก บดินทร์ สีเลา น. 20 และสิทธิพงศ์ กัลปพฤกษ์ น. 40 เกมนี้ บดินทร์ สีเลา รับใบเหลือง น. 51 และนาทีที่ 53 ก็รับเหลือที่ 2 เป็นใบแดง

ด้านสนาม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ม.รังสิต-สารวิทยา เลื่อนการแข่งขัน เนื่องจากฝนตกหนักสนามไม่สามารถแข่งขันได้

ภาคเหนือ ที่สนามกีฬาจังหวัดชัยนาท ทีมชัยนาท เอฟซี ซึ่งได้เปรียบในทุกประตู แต่กว่าที่จะเช็คบิลทีมเยือนอย่างสโมสรฟุตบอลกำแพงเพชร ได้เล่นเอาหืดขึ้นคอ ต้องรอถึงนาที 90 จากฝีเท้าของ ณัฐวุฒิ วงษ์แก้ว ก่อนและเอาชนะไปหวุดหวิด 1-0 ที่สนามกีฬาจังหวัดพิจิตร "เมืองชาละวัน" สมาคมกีฬาจังหวัดพิจิตร โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมต่อหน้าแฟนบอล ต้อนชนะ ตาก ไปอย่างไม่ยากเย็น 2-0 จากฝีเท้าของ พิสิฐ ยืนยิ่ง ที่ยิงคนเดียว น.21 และ 41

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่สนามกีฬาจังหวัดมุกดาหาร ทีมมุกดาหาร เปิดบ้านโดน "ยักษ์แสด" อุดรธานี บุกมาถล่มถึงถิ่นเละ 0-4 โดยอุดรธานีได้ประตูจาก คธาวุธ คนชม น.51, วีรยุทธ สืบสาย น.65, 71 และวิรพงศ์ วรรณศิริ น. 90

ที่สนามกีฬาจังหวัดเลย "เมืองในหมอก" จ.เลย อาศัยความได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์และความคุ้นเคยสภาพสนามออกนำไปก่อน น.32 จาก วอชาญ นันทะศรี ก่อนจะถูก ณรงค์ มานรัมย์ ยิงให้ทีมเยือนบุรีรัมย์ตามตีเสมอ1- 1 นาที 57 ต่อมา กูฟู พรีอุส จะยิงประตูชัยให้ เลย ชนะไปได้ 2-1

ที่สนามสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม ทีมมหาสารคาม ต้านทานความแข็งแกร่งของรองจ่าฝูงทีมนครพนม ไม่ได้ทั้งที่ออกนำไปก่อนตั้งแต่ น.11 จากฝีเท้าของจิรนิติ แถลงจิตร แต่สุดท้ายถูกนครพนมบุกแหลกยิง 2 ประตูรวดจาก ท้าวสมหมาย วรเกด น. 30 และสรลักษณ์ พรหมจอม น.82 จบเกม มหาสารคาม พ่าย นครพนม ไป 1-2

ภาคกลางและภาคตะวันออก ที่สนามกีฬาจังหวัดสิงห์บุรี ทีมสิงห์บุรี พ่าย "ทีมปากน้ำ" สมุทรปราการ 0-2 โดยทีมปากน้ำ ได้ประตูจาก ปราโมทย์ บุตะโรต น.51 และ ชาริติ ทวาเรศ น.79 โดยเกมนี้ ตราโอเร่ มานฟิจของสิงห์บุรี รับใบเหลืองน. 32 และเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง น. 62

สนามกีฬาจังหวัดราชบุรี "ทีมเมืองโอ่ง" ราชบุรี แพ้ "กรุงเก่า" อยุธยา 0-2 ทีมพระนครศรีอยุธยา ได้ประตูจาก ศราวุธ จันทร์เอี่ยม น. 60 และ ตูดูเร่ ยูกุน น. 92 ส่วนทีมราชบุรี พรพิษณุ พุ่มฟู ได้รับใบแดงนาที 93 ที่สนามกีฬาค่ายธนะรัตน์ ทีมประจวบคีรีขันธ์ ทำอะไรไม่ได้เสมอกับ ทีมระยอง แบบไร้สกอร์ 0-0

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันวันที่ 31 พ.ค.52 ภาคเหนือ, เวลา 18.00 เชียงใหม่ ยูไนเต็ด พบ พิษณุโลก ที่สนามกีฬากลางจ.แพร่, เวลา 17.00 อุตรดิตถ์ พบ แพร่ ที่สนามกีฬากลางจ. อุตรดิตถ์, เวลา 18.00 เชียงราย พบ เพชรบูรณ์ ที่สนาม ม.แม่ฟ้าหลวง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เวลา 16.00 นครราชสีมา พบ สุรินทร์ ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, เวลา 16.00 ชัยภูมิ พบ อุบล ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬาจังหวัดชัยภูมิ, เวลา 16.30 ร้อยเอ็ด พบ สกลนคร ที่สนามกีฬาจังหวัดร้อยเอ็ด

ภาคตะวันออกเวลา 16.00 ไทยซัมมิท พบ ฉะเชิงเทรา ที่สนามกกท. จังหวัดสมุทรปราการ, เวลา 16.00 โรสเอเชีย ปทุมธานี พบ นครนายก ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6, เวลา 16.00 สระบุรี พบ ลพบุรี ที่สนามกีฬาบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี

ภาคกรุงเทพและปริมณฑล เวลา 16.00 มรภ.นครสวรรค์ พบ เกษมบัณฑิต ที่สนาม ร.ร.กีฬาจังหวัดนครสวรรค์, เวลา 16.00 ราชวิถี พบ กรุงเทพคริสเตียน ที่สนามบีอีซี เทโรศาสน หนองจอก

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

เด็กโควเวอร์ฯซึมพ่ายยับ1-8โต๊ะเล็กญวน

แข้งไอ้หนูโควเวอร์ โค้ชชิ่งฯ ต้านไม่ไหวเจอเด็กโข่ง ทีมยาลาย ถลุงไปยับเยิน 8-1 ทำให้ได้แค่ชิงอันดับ 3 กับ ฮานอย เท่านั้น "โค้ชอั๋น" สุรพงษ์ คงเทพ รับเด็กสู้ไม่ได้จริง ทราบว่านักเตะเขาอายุ 16-17 ปีทั้งนั้น แต่ยังไม่ซีเรียส เพราะเป้าหมายที่มา เพื่อพานักเตะมาหาประสบการณ์ ส่วนนัดชิงที่ 3 ยังสั่งลุยเต็มที่

ความเคลื่อนไหวของทีมเยาวชนโควเวอร์ โค้ชชิ่งฯ ที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันฟุตซอลรายการพิเศษ "สตีทส์ชิลเด้นส์ฟุตซอลทัวร์นาเมนทร์" ที่กรุงโฮจิมินทร์ ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 25-31 พ.ค.นี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ลงแข่งขันเป็นเกมที่สาม หลังจากที่นัดแรกชนะ โฮจิมินทร์มา 4-0 นัดที่สองชนะกาเมามา 6-2 และเสมอจีดี4 มา 1-1 โดยวันนี้เป็นการแข่งขันรอบรองชนะเลิศพบกับทีมยาลาย

สำหรับ 5 คนแรกของทีมยช.โควเวอร์โค้ชชิ่งฯ ประกอบด้วย กิตติเชษญ์ มหาสถิตย์ธรรม, กุลชาติ จีนถนอม, พนมวรรณ เมืองสมัย, เศฎฐวุฒิ จุลวานิช และ ทัตเทพ เศรษฐทัตต์ เกมครึ่งแรก ยช.โควเวอร์โค้ชชิ่งฯ พยายามสู้อย่างเต็มที่ แต่ก็ต้านทานความแข็งของนักเตะยาลายที่อายุ 16-17 ปีไม่ไหว โดนยิงประตูขึ้นนำไปก่อน 4-0

ส่วนครึ่งหลัง เกมยังเป็นของ ยาลาย ที่แข็งแกร่งและคล่องแคล่วกว่านักเตะโควเวอร์ มายิงประตูเพิ่มได้อีก 4 ลูก แต่ยช.โควเวอร์ก็พยายามสู้จนดีที่สุด พร้อมกับส่งตัวสำรองอย่าง ภศภูมิ ศิริธารา, ชาคริต พันหาญ, อนุชิต บุญสาร และ เพชรรัตน์ โชติปาละ ลงเล่นเพื่อหาประสบการณ์

ก่อน ยช.โควเวอร์ฯ มายิงประตูตีไต่แตกได้จาก อนุชิต บุญสาร น.46 ทำให้จบเกมทีมโควเวอร์โค้ชชิ่งฯ พ่ายไปแบบกระดูกคนละเบอร์ 1-8 ได้แค่ชิงอันดับสามกับ ฮานอย ที่แพ้ จีดี 4 ถึง 2-7 โดยจะลงเล่น วันที่ 31 พ.ค. นี้ เวลา 14.30 น.ส่วนคู่ชิงเป็นการพบกันระหว่าง ยช.จีดี 4 กับ ยาลาย จะลงเล่นเวลา 15.30 น.

หลังเกม "โค้ชอั๋น" สุรพงษ์ คงเทพ กล่าวถึงเกมนี้ว่า "เราสู้เขาไม่ได้จริง ยิ่งพอทราบว่านักเตะเขาอายุ 16-17 ปีทั้งนั้น เรื่องกระดูกก็เป็นรองแล้ว แถมทักษะเบสิกยังใช้ได้ทีเดียว อย่างไรก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะเป้าหมายที่เรามาที่นี่ก็เพื่อพานักเตะมาหาประสบการณ์เปิดโลกทัศน์ฟุตบอลให้มากขึ้น ส่วนเกมชิงที่สามก็จะพยายามเต็มที่เพื่อเอาที่สามกลับบ้านเรา"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

เทโรเฉือนหวิวม้านิลคว้าชัยไฟ้ฟ้าหวิดดับฉลามชลแพ้ยับ

การแข่งขัน ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 12 เมื่อวันเสาร์ที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา มีผลการแข่งขันดังนี้

บีอีซีเทโรศาสน 3-2 ศรีราชา เอฟซี

ที่สนามบีอีซีเทโรฯ หนองจอก ทีม "มังกรไฟ" บีอีซีเทโรศาสน อันดับ 7 ที่เตะมา 11 นัด มี 13 แต้ม เปิดบ้านพบกับทีมรองบ๊วย ศรีราชา เอฟซี ที่เตะมา 10 นัด มี 6 แต้ม นัดนี้เจ้าถิ่นนำทัพโดย อานนท์ สังสระน้อย ดาวซัลโวประจำทีมลงจับคู่กับ กิตติพล ปาภูงา โดยมี ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสาให้ ด้านทีมเยือน คู่หัวหอกเป็น กัตโต้ กอนซาเลซ ชาวอาเจนติน่า กับ สนอง ชัยประโคม

เริ่มครึ่งแรก น. 7 กองเชียร์ เจ้าถิ่นสุดเซ็ง เมื่อแนวรับเคลียร์บอลกันไม่ดี บัมบ้า เกาซู เคลียร์บอลไม่ขาด บอลหลุดออกมานอกกรอบ ถึงตัว อรรถพงษ์ หนูพรหม ซัดไม่เหลือซาก ให้ทีมเยือน ศรีราชา ออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0

น. 13 เจ้าถิ่นมีลุ้นตีเสมอแต่ลูกโขกของ อานนท์ สังสระน้อย ข้ามคานไปซะก่อน น. 14 บัมบ้า เกาซู เกือบแก้ตัวให้ทีมได้ เมื่อหลุดเข้าไปดีดแต่บอลเข้าซอง นันทพล ศุภไทย นายทวารทีมเยือนเซฟได้สบายๆ น. 19 บีอีซีเทโรฯ พลาดโอกาสนำอีกครั้งเมื่อ จักรพันธ์ แก้วพรม หลุดเข้าไปซัดเต็มเหนี่ยวบอลแฉลบแนวรับทีมเยือนออกหลังไป น. 20 บีอีซีฯ ได้เตะมุมขวา กิตติพล ปาภูงา ปั่นไปเข้าหัว ทัศนา แช่มสะอาด กองหลังที่พ้นโทษแบน 2 นัดกลับมาโขกตั้งกลับมาให้ อาเรียน อาคาซู ซัดเข้าไปไม่เหลือซากสกอร์กลับมาอยู่ที่ 1-1 น. 21 ทีมเยือนน่าจะพลิกนำอีกครั้งเมื่อ กัตโต้ กอนซาเลซ ไหลให้ อรรถพงษ์ ซัดโล่งๆ แบบไม่มีใครประกบ บอลเหินข้ามคานเฉย น. 23 ชารูตะ ปีกขวา ชาวญี่ปุ่นของทีมเยือนได้ซัดบอลหลุดกรอบไปอีกครั้ง

น. 28 กิตติพล ปาภูงา ไปเล่นหนักใส่ อำไพ มุธาพร ทีมเยือนโดนเหลืองเป็นรายแรกของเกมนี้ไป น. 30 บีอีซีเทโรฯ น่าจะพลิกกลับมานำได้เมื่อ ธฤติ โนนศรีชัย กองหลังเติมขึ้นไปซัดแต่บอลข้ามคานหน้าตาเฉย น. 31 โอกาสเป็นของทีมเยือนที่น่าได้ประตูนำอีกครั้งจากลูกเตะมุมซ้ายของ วรุตม์ วงศ์ดี ไปเข้าหัว สนอง ชัยประโคม โขกเหน่ง ๆ แต่จังหวะนี้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวารทีมเยือนเซฟตรงเส้นเอาไว้ได้

น. 44 ศรีราชา ได้ฟรีคิก วรุตม์ ปั่นไปติดกำแพงกระดอนออกหลังทีมเยือนได้เตะมุมซ้ายวรุตม์ เปิดเข้าไปบอลปลิ้นไปถึง อรรถพงษ์ หนูพรหม ซัดไม่ผ่านมือศิวรักษ์ นายทวารเจ้าถิ่นอีกครั้ง จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 1-1

ครึ่งหลัง น. 48 เทโรฯ น่าจะได้ประตูนำครั้งแรก อานนท์ พาบอลทะลุไปสวยจนสุดเส้นหลังก่อนเปิดไปหน้าประตู แต่ไม่มีเติม โดนเคลียร์ทิ้งไปได้ น. 51 บัมบ้า เกาซู ได้ซัดเหน่งๆ แต่ติดสุพจน์ วงษ์หอย กองหลังทีมเยือนที่ล้มตัวขวางทางบอลไว้ได้ น. 54 เป็นทีมเยือนที่พลิกกลับมานำอีกครั้ง จากการหลุดเข้าไปซัดอย่างเลือดเย็นของ ชารูตะ นักเตะชาวญี่ปุ่น ให้ศรีราชา นำ 2-1 น. 61 บีอีซีเทโรฯน่าจะตีเสมอได้เมื่อ จักรพันธ์ แก้วพรม โชว์ความเหนือชั้นลากเข้าหาเขตโทษ ก่อนตัดสินใจป้ายไปทางขวาให้ กิตติพล ปาภูงา ตะบันเต็มเหนี่ยมแต่ไม่ผ่าน นันทพล ศุภไทย นายทวารทีมเยือน น. 70 บีอีซีเทโรฯ โหมบุกหนักและน่าจะได้ประตูตีเสมอ แต่ อานนท์ สังสระน้อย ได้ชาร์ตเหน่งๆ ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย น. 82 อคาซู ของเจ้าถิ่น เปิดจากขวา ไปเข้าหัว ชลากร สงวนดี ขวิดเหน่งๆ เข้าไปไม่เหลือซากสุดปัญญาที่ นันทพล ศุภไทย นายทวารทีมเยือนจะเอาอยู่ ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้ง 2-2

น. 86 เป็นเจ้าถิ่นที่แซงนำ จากการเปิดบอลยาวของ กิตติพล ปาภูงา ไปถึง อานนท์ สังสระน้อย พอดี ก่อนซัดประตูที่ 5 ของทัวร์นาเมนต์ นี้ของตัวเองเข้าไปให้ บีอีซีเทโรฯ นำเป็น 3-2 และและเป็นประตูชัยให้ทีม "มังกรไฟ" เก็บชัยชนะได้สำเร็จ

หลังเกมปรากฏว่ามีการประทะกันของกองเชียร์ 2 ทีม โดยเป็นกองเชียร์ทีมเยือนที่เดินเข้าไปหากองเชียร์เจ้าถิ่น และใช้เท้าย่ำไปที่ผ้าพันคอของบีอีซีเทโรฯ จนทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นไม่พอใจ กรูกันเข้ามาจะทำร้ายแฟนบอลศรีราชา ก่อนที่กองเชียร์ 2 ทีมจะกรูกันเข้าหากัน ดีที่เจ้าหน้าที่สนามรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลความปลอดภัยแค่ราว 2-3 นายห้ามทัพไว้ได้ทัน ก่อนเหตุการณ์บานปลายและกองเชียร็ 2 ทีมแยกจากกันไป แต่หลังจากนั้นปรากฏว่า 2 ทีมยังคงคาใจกันไม่เลิก จะไปฟาดปากกันต่อบริเวณลานจอดรถทางออกสนามอีกรอบ แต่ดีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยมีการอ้างมาจากแฟนบอลศรีราชา ด้วยว่าพวกเขาโดนแฟนบอลเจ้าถิ่น ขี่มอเตอร์ไซต์พุ่งเข้าชน

วาทะโค้ช

พยงค์ ขุนเณร กุนซือ บีอีซีเทโรฯ - 2 ประตูที่เราเสียนั้นเป็นความผิดพลาดของเราเอง ยังดีที่กลับมาได้โอเคนะกับ 3 แต้ม แม้ว่าโดยรวมผลงานจะยังไม่ดีเท่าไหร่นักก็ตามที แต่เชื่อว่าทีมเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนกับเกมที่เหลือต่อจากนี้ไปต้องยกเครดิตให้กับลูกทีมไปเต็มๆ เลยสำหรับเกมนี้

ครองพล ดาวเรือง กุนซือ ศรีราชา เอฟซี - ถึงแม้ทีมจะกลับมาตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ผมก็พอใจกับฟอร์มของลูกทีมนะที่มาสู้กับทีมใหญ่ๆ อย่างบีอีซีเทโรฯ เขาได้ระดับนี้จริงแล้วอย่างที่บอกที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเราเล่นไม่ดีเพียง แต่เรายังขาดเรื่องของความเก๋าไปเท่านั้นที่ ทำให้ไม่สามารถรักษาสกอร์นำเอาไว้ได้ โดยรวมพอใจครับเล่นกันได้แบบนี้ที่ทำให้เทโรฯ ต้องหืดจับ แม้จะแพ้แต่ผมก็พอใจ และถือว่ามีอนาคตและเชื่อว่าแฟนบอลเองก็คงจะคิดเหมือนกับผม

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

บีอีซีเทโรฯ : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน 6, นพพล ปิตะฝ่าย 6, ธฤติ โนนศรีชัย 6, จักรพันธ์ แก้วพรหม 7, กิตติพล ปาภูงา 6.5, อาเรียน อคาซู 6.5, ชาคริต บัวทอง 6 ( ชลากร สงวนดี 6.5 ), บัมบ้า เกาซู 5.5 (วุฒิชัย ทาทอง 5.5), อานนท์ สังสระน้อย 6.5, ทัศนา แช่มสะอาด 6, กีร์ฮูเบิร์ต 5.5 (พิชิต ใจบุญ 6)

ศรีราชา เอฟซี : นันทพล ศุภไทย 6, ดราเม่ มากิ 6, อรรถพงษ์ หนูพรหม 6 (เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ 5.5), ก่อเกริก เพ็ชรคงทอง 6, อำไพ มุธาพร 6, สนอง ชัยประโคม 6 (เอกชัย ฤทธิ์พันธ์ 5.5), ดีเอโก้ โรเบิร์ต 6, สุพจน์ วงษ์หอย 6, ชารูตะ ฮิโรโนริ 6.5, วรุมต์ วงศ์ดี 6.5, กัตโต้ กอนซาเลซ 6 (วิลเลี่ยน เมนดอนก้า 5.5)

แมนออฟเดอะแมตซ์ : จักรพันธ์ แก้วพรม ปีกขวาตัวจี๊ด บีอีซีเทโรฯ

ราชนาวี ระยอง 2-1 โอสถสภา เอ็ม 150

ที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง เป็นการพบกันระหว่าง ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับ 7 ของตารางการแข่งขันที่นำทีมโดย สมเจตร สัตบุษ อดีตกองหน้าทีมชาติไทย พร้อมด้วย สุทธินันท์ นนที แต่ไม่มีสองนักเตะตัวเก่งอย่าง มารุต ดอกมะลิป่า ที่โดนโทษแบนกับ ศุภชัย ขำทรัพย์ ที่เจ็บเปิดบ้านรับการมาเยือน "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 ทีมอันดับ 3 ของตาราง ที่นำทีมโดย กิตติศักด์ ระวังป่า, "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี และ คัพฟ้า บุญมาตุ่น โดยก่อนการแข่งขันจะเริ่มได้มีการกระโดดร่มโชว์ของนักโดดร่มกองทัพเรือ ให้แฟนบอลในสนามได้ชมเรียกน้ำย่อย

เริ่มครึ่งแรก โอสถสภา เอ็ม 150 ผู้มาเยือนเป็นฝ่ายเคลื่อนเกมรุก เข้ามาเล่นในแดนของราชนาวี เจ้าบ้านได้ตลอด แต่กองหลังทีมเจ้าบ้านยังแกร่งสามารถตัดเกมรุกของทีมพลังเอ็มเอาไว้ได้หมด และบางจังหวะก็สวนกลับได้อย่างสวยๆ ผ่านไป 10 นาที ลูกหวาดเสียวยังไม่มีให้เห็น

น.15 เจ้าบ้านได้ ฟรีคิกทางริมสนามด้านขวา สุทธินันนท์ นนที หวดโด่งมาหน้าประตู บอลตกลงเสาแรก กระดอนจะเข้าประตู กิตติศักดิ์ ระวังป่า นายทวารพลังเอ็มพุ่งปัดบอลหลุดออก เข้าทาง สมเจตร สัตบุษ ดาวยิงประจำทีมซัดจ่อๆ ไม่เหลือ ให้ ราชนาวี ระยอง ขึ้นนำ 1-0

พอเสียประตูทีมโอสถสภา โหมรุกหนัก แต่นักเตะเจ้าบ้านอาศัยลูกขยัน บวกกับความฟิตไล่บี้ติดจนทำให้ โอสถสภา ต่อเกมรุกได้ไม่ถนัดทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายพับสนามบุกได้มากกว่า น.37 โอสถสภา เปลี่ยนเอา สุมัญญา ปุริสาย ลงแทน กฤษฎา เก็มเด็น ที่เจ็บ เกมยิ่งเล่นทีมราชนาวี เจ้าบ้านยิ่งดีโดยเฉพาะในแดนหน้าที่เร็วกว่ากองหลังโอสถสภา ทำให้สามารถกระชากบอลโต้กลับได้สวยๆ หลายครั้ง

ท้ายครึ่งแรก ฝนเริ่มเทลงมาอย่างหนัก บรรดานักเตะทีมโอสถสภา ก็โหมรุกอย่างหนักหมายแก้ประตูคืน แต่ทีมราชนาวี ก็ไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีของทีมหัวตารางเปิดเกมสวนกลับได้อย่างสนุก ชนิดสะใจแฟนบอลเจ้าบ้าน ที่แห่เข้ามาเชียร์กันแน่นสนาม จบเกมการแข่งขันครึ่งเวลาแรก ราชนาวี ระยอง นำอยู่ 1-0

ครึ่งหลังฝนยังเทลงมาอย่างหนัก แต่แฟนบอลชาว จ.ระยอง ก็ไม่มีใครหนีเ ฝ้าชมการฟาดแข้งกันอย่างใจจดใจจ่อ น.50 ใหญ่ นิลวงษ์ ของราชนาวี ระยอง หลุดเข้าไปในเส้นแบ๊คด้านขวากดระยะแค่ 15 หลา บอลพุ่งเฉียดเสาสองออกไปแค่คืบชนิดมีเฮ

น.52 ราชนาวี ระยอง ได้ฟรีคิกนอกเขตด้านซ้าย สุทธินันท์ นนที รับหน้าที่ปั่นฟรีคิกสุดสวย เข้าเสียบสามเหลี่ยมมุมซ้ายมือนายทวาร อย่างงดงามชนิด กิตติศักดิ์ ระวังป่า ไม่ได้กระดิก ทำให้ ราชนาวี ระยอง หนีไปเป็น 2-0

จากนั้น สภาพสนามเริ่มมีน้ำท่วมขัง น.54 คับฟ้า บุญมาตุ่น กองกลางดาวรุ่งของ โอสถสภา หวดบอลระยะเกือบ 30 หลา บอลพุ่งเลียดแฉลบพื้นหญ้า เข้าเสียบมุมซ้ายมือนายทวารอย่างงดงามให้ทีมโอสถสภา ไล่มาเป็น 1-2

แม้ฝนจะตก น้ำจะท่วมขังเป็นหย่อมๆ ทีมโอสถสภา ที่เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าพยายามต่อเกมรุก แต่ราชนาวี ก็ใช้ความแข็งแรงตัดเกมโต้กลับ น.73 ใหญ่ นิลวงษ์ ตัดบอลได้หน้าเส้นแบ๊คด้านขวากระชากบอลวิ่งเข้าจ่อยิงระยะแค่ 8 หลา ดีที่ กิตติศักดิ์ ระวังป่า ยังเฉียบปัดบอลเซฟลูกอันตรายเอาไว้ได้

น.88 โอสถสสภา ก็หวิดตีเสมอได้จากลูกฟรีคิกนอกเขตแบ๊คด้านขวา จักรกริช บุญคำ เปิดบอลโด่งมาหน้าประตู บอลพุ่งชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย จบเกมการ ราชนาวี ระยอง เปิดบ้านเชือด โอสถสภา สุดมันส์ 2-1

วาทะโค้ช

น.ท.เอกรัตน์ ทรัพย์สิน กุนซือทีมราชนาวี ระยอง - ก็พอใจกับผลงานของลูกทีมที่ช่วยกันเล่นจนทีมเราได้พบกับชัยชนะในนัดนี้ หลังจากที่ต้องแพ้มาแล้วหลายนัด และชัยชนะในนัดนี้ก็ขอมอบให้กับแฟนบอลชาว จ.ระยอง ที่มาเชียร์แม้ฝนจะตกก็ไม่มีใครหนี

อ.อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ กุนซือทีมโอสถสภา เอ็ม 150 - นัดนี้เด็กเราดันไปเล่นตามเขาเอง แทนที่จะครองบอล ต่อบอลหาจังหวะ กลับไปสาดบอลยาวตามเขา บวกกับการเข้าทำประตูในจังหวะสุดท้ายไม่แม่พอ เลยต้องแพ้ไปในที่สุด

คะแนนความสามารถของนักเตะทั้งสองทีม

ราชนาวี ระยอง : ชินกร ดีสาย 6.5, อุดร พิมภาค 6.5, สุระเดช เสาไธสง 6.5, ฟานิค อาดัม 6 (ติณภพ ศรสถิตย์ 6), ใหญ่ นิลวงษ์ 6.5, สมเจตร สัตบุษ 7, ก้องศักดิ์ แสนทวีสุข 6 (ดนุสรณ์ ผุยแสงพันธ์ 6) สุทธินันท์ นนที 7, ยามิค จอเกส 6.5, เจษฎา งามเมือง 6.5, รัฐพร แซ่ตั๋น 6(ศักดิ์สุริยา กุลโพนเมือง 6)

โอสถสภา เอ็ม 150 : กิตติศักดิ์ ระวังป่า 6.5, โกศวัต ว่องไวลิขิต 6, ประทุม ชูทอง 6.5, ศิวะเมต ธนูศร 6 (อนิรุตน์ สืบยิ้ม 5.5), วันใหม่ เศรษฐนันท์ 6 (วสันต์ นาทะสัน 6), จักรกริช บุญคำ 6.5, กฤษฎา เก็มเด็น 5.5 (สุมัญญา ปุริสาย 5.5), ศรายุทธ ชัยคำดี 6, คัพฟ้า บุญมาตุ่น 6.5, สุรเดช ธงชัย 6, เจษฎา พั่วนะคุณมี 6

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : สุทธินันท์ นนที ของราชนาวี ระยอง

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 2-2 การท่าเรือไทย เอฟซี

ที่สนามกีฬากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา การไฟฟ้าฯ ทีมที่กำลังหลังผิงฝาไม่ชนะในลีกมาแล้ว 8 เกม อยู่อันดับ 11 มี 11 แต้ม เกมนัดนี้ขาด ณรงค์ชัย วชิรบาล ที่โดนแบน แต่ยังมี อภิภู สุนทรพนาเวศ, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ลงสนาม พบกับ การท่าเรือไทย อันดับ 6 มี 15 แต้ม นัดนี้ การท่าเรือฯ ยังมี พิพัฒน์ ต้นกันยา ยืนคู่กับ นิรัตน์ คำสวัสดิ์ โดยมี จีรวัฒน์ มัคครมย์ ยืนแดนกลาง โดยเกมนี้ได้รับเกียรติจาก รัฐมนตรีช่วยคมนาคม เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร เข้ามาชมการแข่งขันด้วย

เริ่มครึ่งแรก น.17 การไฟฟ้าฯ ได้ลุ้นก่อนจากลูกเตะมุมด้านขวาหาประตู ก่อนเป็น ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ นายทวารทีมเยือน ชกบอลออกมาเข้าทางปฎิภาณ เพชรพูล ที่เติมมาสูง ซัดเปรี้ยงเดียวยังดีตรงตัวของ ภัทรกรอีกครั้ง จากนั้น เกมส่วนใหญ่อยู่กลางสนาม เพราะทั้งสองทีมต่อบอลกันไม่ติดเพราะสภาพสนามที่ค่อนข้างจะเลื่อน แต่จังหวะโต้กลับเร็วของการไฟฟ้าฯ น.39 โจเอล เฮนรี่ กองหลังการไฟฟ้าฯ เติมขึ้นมาสูง ถึงเส้นหลังด้านขวา ก่อนหักเข้ากลางให้ รณชัย รังสิโย จับบอลหนึ่งจังหวะ แล้วผ่านต่อให้ อภิภู สุนทรพนาเวศ จับก่อนกลับตัวยิงเปรี้ยงเดียวบอลพุ่งเสียบเสาสองสุดสวย ให้ทีมเจ้าบ้านออกนำ 1-0 จากนั้นทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกการไฟฟ้าฯ นำ 1-0

ครึ่งหลัง น.50 การท่าเรือฯ ปรับเกมถอด ยุทธนา ไชยแก้ว ออกแล้วให้ ณรงค์ฤทธิ์ สามนปาน ลงสนามแทน ถัดมาอีกนาทีเดียว การท่าเรือฯ ได้ลุ้นเมือรังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ ของท่าเรือฯ ได้ซัดระยะ 30 หลาข้ามคานแบบมีลุ้น น.60 กลายเป็นการท่าเรือฯ ที่ได้ประตูตีเสมอได้ เมื่อ ได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาตรงกรอบเขตโทษเยื้องออกมาด้านขวา ก่อนเป็น จีรวัฒน์ มัครมย์ ที่ซัดด้วยขวา บอลโค้งเข้า 3 เหลี่ยมเสาสองสุดสวย ทำให้ทีมเยือนตามตีเสมอได้ สำเร็จ 1-1

น.62 การไฟฟ้าฯ ถอด ชัยวุฒิ วัฒนะ ออกหลังจากได้รับบาดเจ็บที่โคนขาด้านซ้าย แล้วให้ยุทธจักร ก้อนจันท์ลงสนามแทน จากนั้นอีก 4 นาทีกลายเป็น การท่าเรือฯ ที่ขึ้นนำ 2-1 จากการผิดพลาดของกองหลังไฟฟ้าฯ ที่เคลียร์บอลไม่ขาดไปเข้าทางพิพัฒน์ หลุดเดี่ยว ก่อนพิพัฒน์ จะกระชากบอลเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนซัดด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือแซมมวล ป.คันนิ่งแฮม ทำให้การท่าเรือฯ กลับมานำ 2-1 โดยพิพัฒน์ ซัดทีมเก่าของตัวเองด้วย

น.68 การไฟฟ้าฯ หวังแก้ประตูคืนและได้ผลเมื่อ ธีรทร บุญมาทัน กระชากบอลไปทางด้านซ้าย ก่อนเปิดไปที่เสาสองให้ วิคเตอร์ เมนซาร์ วอลเล่ย์ตูมเดียวบอลตกพื้นพุ่งเข้าเสาสองสุดสวย ทำให้การไฟฟ้าฯ ตามตีเสมอได้สำเร็จ 2-2

น.86 ทั้งคู่เหลือ10 คนเมื่อ จังหวะที่การท่าเรือฯ ได้เตะมุม เอ็ดวานโด้ ที่เพิ่งลงไปกระแทกกับแซมมวล ทำให้แซมมวลลุกจะมาเอาเรื่อง กันทำให้ผลักกันไปผลักกันมา แต่ก็ห้ามกันไว้ทัน ผู้ตัดสินเลยควักใบแดงไล่ทั้งคู่ออกจากสนาม ทำให้ การไฟฟ้าฯ ต้องถอด รณชัย รังสิโย ออกแล้วให้ อัมรินทร์ เยาว์ดำ ลงไปเฝ้าเสาแทน

หลังจากนั้นทั้งคู่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ เสมอกันไปสุดมัน 2-2 แบ่งกันทีมละ 1 แต้ม ทำให้การไฟฟ้าฯ ไม่ชนะมา 9 นัดติดในไทยลีก หลังเกมทางแฟนคลับของการไฟฟ้าฯ ได้จัดแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้กับ ยุทธจักร ก้อนจันทร์ ที่เกิดวันที่ 31 พ.ค. ด้วย

วาทะโค้ช

ทองสุข สัมประหังสิต กุนซือใหญ่การไฟฟ้าฯ - เกมนี้ทุกอย่างดีหมดแต่จังหวะสุดท้ายเราจบไม่ได้ แถมมาเสียประตูง่ายๆ อีกต่างหาก ไม่รู้เป็นอะไรจะได้ 3 แต้มก็มาพลาดง่ายๆ อีก เซ็งจริงๆ น่าเสียดายด้วย

สะสม พบประเสริฐ โค้ชใหญ่ การเท่าเรือไทย - โอเคนะกับ 1 แต้มเพราะเกมมาเยือน แต่ว่าถ้าผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมที่เด็กเราเจ็บ เขาก็ไม่ตีเสมอ คงต้องค่อยๆ ปรับโดยเฉพาะแนวหลังที่ยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่

คะแนนความสามารถของทังสองทีม

การไฟฟ้าฯ : แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม 6.5, ธีรธร บุญมาทัน 7, ปฎิภาน เพชรพูล 7, วัชระ มหาวงศ์ 6.5, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค 7, อภิเชษฐ์ พุฒตาล 7, อภิภู สุนทรพนาเวศ 7.5, ชัยวุฒิ วัฒนะ 7, รณชัย รังสิโย 6 (อัมรินทร์ เยาว์ดำ-), วิคเตอร์ เมนซ่าร์7.5,เฮนรี่ โจเอล โคคู 7

การท่าเรือฯ : ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ 6.5, บุญมี บุญรอด 7, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ 7, พิพัฒน์ ต้นกันยา 7, จีระวัฒน์ มัครมย์ 7 (เอกชัย สำเร 5.5), ยุทธนา ไชยแก้ว 6 (เกียรติเจริญ เรืองปาน 6), นิรุตน์ คำสวัสดิ์ 7 (เอ็ดวานโด้ เปไรร่า-), มาริโอ ดาซิลวา 7,กิตติศักดิ์ ธนสุวรรณ 7, เกียรติเจริญ เรืองปาน 6.5, มาดูโร่ สวาโม่เซ่ 7,

แมนออฟเดอะแมตช์ : วิคเตอร์ เมนซ่า ผู้ซัดประตูตีเสมอให้การไฟฟ้าฯ

บิ๊กแมตช์ไทยลีก "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ฟอร์มสะท้านบุกถล่ม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี 5-2 คว้า 3 คะแนนเต็ม ทำแต้มเท่าจ่าฝูง "แร็บบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี 25 แต้ม ด้านอานนท์ ฮีโร่ช่วยแข้ง "มังกรไฟ" เทโรฯ ปลิดชีพ ศรีราชาฯ แบบฉิวเฉียด 3-2 ช่วยทีมคว้า 3 แต้มสำคัญ,ราชนาวี เปิดรังเฉือนหวิว โอสถฯ 2-1ขณะที่ ไฟฟ้า เจ๊าสุดมันการท่าเรือ 2-2 ในศึกไทยพรีเมียร์เมื่อวันเสาร์ที่ 30 พ.ค. 2552

ชลบุรี เอฟซี 2-5 เมืองทอง ยูไนเต็ด

ที่สนามเทศบาลหนองปรือ พัทยา เกมบิ๊กแมตซ์ประจำสัปดาห์ เป็นพบกันระหว่าง "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี กับ "กิเลนผยอง" เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด เกมนี้ถือว่ามีความหมายอย่างยิ่งทีมใดชนะได้ จะได้ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงทันที ซึ่งทีมชลบุรีแข่งเพียง 10 นัดมี 23 แต้ม ส่วน เมืองทอง แข่ง 11 นัดมี 22 แต้ม อยู่อันดับที่ 4 ของตาราง

คู่นี้ถือว่าเจอกันครั้งแรกในระดับไทยลีก และผลงานที่ผ่านมาก็ฮอตทั้งคู่ โดยชลบุรีเอาชนะ นครปฐม มา 3-0 ส่วน เมืองทองฯ ก็บุกชนะสมุทรสงคราม 1-0 โดยเกมนี้ชลบุรีตัดสินใจนาทีสุดท้ายส่ง สุรีย์ สุขะ ที่เจ็บลงสนามแม้ว่าจะไม่สมบูรณ์เต็มที่ พร้อมด้วยตัวหลักชุดเดิมเกียรติประวุฒิ สายแวว ยืนเซ็นเตอร์คู่กับ ชลทิตย์ จันทคาม พร้อมณัฐพงษ์ สมณะ,อาทิตย์ สุนทรพิธ,สุรัตน์ สุขะ และมีพิภพ อ่อนโม้ ยืนหน้าคู่กับ โคเน่ โมฮัมเหม็ด ด้าน "กิเลนผยอง" ก็ใช้ชุดใหญ่เช่นกัน นำโดยอดีตลูกหม้อเก่าของชลบุรี ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์, เจษฏา จิตสวัสดิ์, มูซ่า ซีล่า, แดนโก้ เซียก้า, โซมาโฮโล ยาย่า และหัตฐพร สุวรรณ ที่ได้โอกาสลงตัวจริง โดยใช้ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ลงยืนหน้าคู่กับ พิเชษฐ์ อินทร์บาง พร้อมกับได้ไส่ชื่อ ธีรศิลป์ แดงดา เป็นตัวสำรองด้วย

เริ่มครึ่งแรก ทีมเยือนได้ทักทายก่อนทันทีจาก พิเชษฐ์ อินทร์บาง ที่ลากบอลตรงเส้น 18 หลาก่อนพลิกตัวซัดด้วยขวา บอลออกข้าง น.13 เอกพันธ์ อินทเสน ขอลชลบุรีได้บอลทางขวา เปิดเรียดเข้าไปที่ปากประตู กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูเมืองทองฯ ปัดบอลไม่หยุดไหลไปเสาสอง อาทิตย์ สุนทรพิธ ยืนโล่งๆ คนเดียววิ่งเข้าไส่ด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งเสยตาข่ายให้ชลบุรีนำ 1-0

น.18 ทีมเยือนน่าจะตีเสมอได้ ยาย่า ตัดบอลจากกลางสนาม กระชากเข้าหากองหลังชลบุรี แล้วจ่ายออกซ้ายให้ พิเชษฐ์ อินทร์บาง ที่เติมขึ้นมาช่วย แต่กลับไม่เปิดเข้าใน ซัดเองบอลออกข้าง น.23 ชลบุรี ที่ใช้การต่อบอลสั้นทำเกมทางขวา พิภพ อ่อนโม้ ได้บอลไม่มีใครเข้าประกบ กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปที่หน้าประตู เจษฏา จิตสวัสดิ์ จะใช้อกพักบอลแต่พลาดบอลไหลไปถึงเสาสอง แต่ โคเน่ ไม่ทันระวังเลยชวดยิงประตูไป

น.30 เมืองทองฯ พยายามจะเอาคืน แต่กลับโดนชลบุรียิงหนีห่างจนได้ เมื่อ อาทิตย์ สุนทรพิธ จ่ายบอลสั้นให้ เอกพันธ์ อินทเสน เปิดด้วยซ้าย บอลไม่แรง แต่ เจษฏา จิตสวัสดิ์ กลับสกัดบอลพลาดหลุดไปถึง โคเน่ โมฮัมเหม็ด จับบอลหนีการประกบของ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ แล้วพลิกตัวซัดเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบโคนเสาไม่มีเหลือซาก ให้ "ฉลามชล" นำห่าง 2-0

น.33 เมืองทองฯ ได้ฟรีคิกระยะ 35 หลา พิชิตพงษ์ หลอกไม่ยิงข้ามบอลให้ ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ กดด้วยซ้ายเต็มแรงบอลพุ่งจะเสียบคานบน โกสินทร์ ไม่พลาดบินปัดปลายมือ นาทีต่อมากองเชียร์อุลตร้าเมืองทองได้เฮกันลั่น หัตฐพร สุวรรณ เปิดบอลยาวจากแดนตัวเองข้ามหัว เกียรติประวุฒิ สายแวว ที่ไม่ยอมขึ้นโหม่ง ไปถึง แดนโก้ เซียก้า วิ่งสอดขึ้นมาเอาบอลลงได้สวย ก่อนซัดด้วยขวาในเขตโทษ โกสินทร์ พุ่งปัดแต่ไม่ถึงบอลเข้าไปซุกที่ก้นตาข่ายให้เมืองทองฯ ไล่มา 1-2

น.39 ใบเหลืองแรกของเกมเป็นของ ณัฐพงษ์ สมณะ กองหลังชลบุรีที่ไปหวด ยาย่า จากด้านหลัง น.42 เมืองทองฯ ตีเสมอได้สำเร็จ ยาย่า เปิดมุมด้าานขวาด้วยซ้าย บอลโด่งเข้าไปที่หน้าประตู โกสินทร์ ออกมาตัดบอลช้าไป โดน แดนโก้ เซียก้า ขึ้นโขกตัดหน้าตุงตาข่าย เป็นสกอร์ให้ เมืองทองฯ ตีเสมอ 2-2 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง น.47 ชลบุรีลงมาบุกทันที เอกพันธ์ อินทเสน ตั้งป้อมซัดไกล กวิน ธรรมสัจจานันท์ รับไว้ได้ น.53 สุรัตน์ สุขะ เข้าไปยันไส่ พิเชษฐ อินทร์บาง รับเหลืองอีกคน น.54 พิเชษฐ อินทร์บาง ได้บอลทางขวา ก่อนที่จะจ่ายให้ ยาย่า กระชากเข้าเขตโทษ แล้วไหลให้ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว วิ่งเข้าซัดเต็มข้อ โกสินทร์ บินปัดปลายมือ น.56 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เตะมุมทางซ้าย เปิดโค้งเข้าหัว ณัฐ พร พันธ์ฤทธิ์ กองหลังขึ้นมาสะบัดโขกเต็มแรง บอลเสียบใต้คานอย่างสวยงาม พลิกให้ กิเลนผยอง แซงขึ้นนำ 3-2 น.58 อาทิตย์ สุนทรพิธ ก็ต้องสังเวยใบเหลืองอีกคน จากการทำฟาวล์ ปกาศิต แสนสุข

น.62 กองหลังของชลบุรีก็รั่วอีกครั้ง เมื่อโดน ปกาศิต แสนสุข เปิดบอลยาวจากริมเส้นกราบขวา บอลหลุดเลยไปถึง พิเชษฐ์ อินทร์บาง ทางซ้ายก่อนที่จะยิงผ่านมือ โกสินทร์ ที่พยายามออกมาขวาง เข้าประตูไปเป็นสกอร์ให้ทีมเยือนหนีห่าง 4-2 น.69 หัตฐพร สุวรรณ กองกลางของเมืองทองฯ เตะอาทิตย์ทางด้านหลังรับเหลืองไปอีกราย น.72 ยาย่า ได้บอลตรงเส้น 18 หลา หาจังหวะยิงไม่ได้ ไหลต่อให้ พิชิตพงษ์ ที่เติมขึ้นมา ก่อนแตะบอลออกซ้ายไปถึง หัตฐพร สุวรรณ ที่เติมขึ้นมาคนเดียวจัดการกระดกบอลข้ามตัว โกสินทร์ เสียบเสาสองสวยงาม เป็นสกอร์ให้เมืองทองฯ หนีห่างเป็น 5-2

น.81 เมืองทองฯ เปลี่ยนตัวคนแรก โดยส่งเอา วาเลรี่ เซนู แข้งผิวหมึกลงแทน ยาย่า อีก 5 นาทีต่อมา ก็เปลี่ยนหน้าให้ สุริยา ดอมไธสง แทน พิเชษฐ์ อินทร์บาง น.88 ชลบุรี ที่เกมยังไม่อาจจะเจาะประตูคืนได้เกือบเสียอีก เมื่อเมืองทอง โต้เร็วจาก พิชิตพงษ์ ที่วางบอลให้ วาเลรี่ เซนู หลุดเดี่ยวก่อนกระดกบอลข้ามหัว โกสินทร์ แล้วจะยิงกับเตะบอลวืด เลยโดนกองหลังชลบุรีมาเคลียร์ไปได้

ท้ายเกม ชลบุรีได้ฟรีคิกระยะ 20 หลา อาทิตย์ ซัดได้สวย กวิน ต้องทุบออกมา ชลทิตย์ ตามซ้ำก็โดนกวินปัดออกหลัง ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้าบ้านก่อนจบเกม เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด บุกมาถล่มชลบุรี 5-2 ซึ่งถือเป็นการแพ้มากที่สุดของชลบุรีด้วย โดยเมืองทองฯ คว้าเพิ่มอีก 3 แต้ม ทำให้มี 25 แต้มขึ้นไปเท่ากับ บางกอกกล๊าส แต่ว่าประตูได้เสียดีกว่า ทำให้ขึ้นนั่งจ่าฝูงได้เป็นครั้งแรก

วาทะโค้ช

"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี - ต้องขอบอกว่าเป็นเกมที่แย่มากสำหรับเรา เพราะได้ประตูนำก่อนถึง 2-0 แต่ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ไม่ได้ จุดเปลี่ยนของเกมก็คงจะอยู่ที่ประตูซึ่งเขาไล่มา 1-2 ครึ่งหลังเกมมันเปิดแลก และจังหวะสังหารประตู ของนักเตะเมืองทองฯ เล่นได้ดีกว่าประกอบกับกองหลังเรารั่ว เลยโดนเยอะ อย่างไรก็ตามการแพ้หนนี้ถือว่าไม่เสียหายมาก เพราะเราแข่งน้อยกว่าใครเพื่อนอยู่ 1 แมตซ์

อรรถพล บุษปาคม โค้ช "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด - บอกแล้วว่าเป็นเกมที่สู้กันสนุกแน่ ช่วงที่โดนนำ 2-0 ต้องชมเด็กเราว่ามีสมาธิได้ดี ทำให้เกมเรากลับมาเร็วและตีเสมอได้เร็ว ส่วนครึ่งหลังเราแก้เกมด้วยการเน้นเกมรุกที่รวดเร็ว ซึ่งก็ทำได้ดี อีกอย่างวันนี้เราปิดจุดแข็งของชลบุรีได้ทำให้เกมนี้เราคุมไว้ได้หมด ดีใจมากที่ชนะได้เพราะทำให้เราขึ้นมานำได้เป็นครั้งแรก

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม

ชลบุรี เอฟซี : โกสินทร์ หทัยรัตนกุล 6, สุรีย์ สุขะ 6.5, ณัฐพงษ์ สมณะ 6.5, เกียรติประวุฒิ สายแวว 6, ภานุวัฒน์ จินตะ 5.5 (เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ 5), อาทิตย์ สุนทรพิธ 7, พิภพ อ่อนโม้ 7.5, โคเน่ โมฮัมเหม็ด 7, เอกพันธ์ อินทเสน 6 (แอนเดอร์สัน 5), ชลทิตย์ จันทคาม 6.5, สุรัตน์ สุขะ 7

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 7, ปกาศิต แสนสุข 6.5, เจษฏา จิตสวัสดิ์ 7, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ 7.5, หัตฐพร สุวรรณ 7.5, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ 7, มูซ่า ซีล่า 7, พิเชษฐ อินทร์บาง 7.5 (สุริยา ดอมไธสง-), พิชิตพงษ์ เฉยฉิว 7.5, แดนโก้ เซียก้า 8, ยาย่า 7.5 (วาเลรี่ ซานู-)

แมนออฟเดอะแมตซ์ : แดนโก้ เซียก้า แข้งไอวอรี่โคสต์ผู้ซัด 2 ประตู

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

Tuesday, May 26, 2009

ทีโอทีดึงแข้งแซมบ้าวัย22เสริมคมแดนหน้า

ทีม "ฮัลโหล" ทีโอที เอฟซี อิมพอร์ตแข้งแซมบ้าวัย 22 วาลซี่ ไทไซร่า จูเนียร์ มาเสริมทัพ ด้วยค่าเหนื่อยราว 1 แสนบาทต่อเดือน "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ กุนซือใหญ่ เตรียมส่งประเดิมนัดบุกไปเยือน นครปฐม เอฟซี 31 พ.ค. นี้ เชื่อฝีเท้านักเตะใหม่รายนี้ จะช่วยเติมช่องว่างในการจบสกอร์ของทีมได้อย่างแน่นอน

ความเคลื่อนไหวของทีมลูกหนังในศึกไทยพรีเมียร์ลีก อย่างทีม "ฮัลโหล" ทีโอที เอฟซี ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้ลงฝึกซ้อมตามปกติ ที่สนามทีโอที แจ้งวัฒนะ ภายใต้การคุมทีมของ ผจก.ทีมและกุนซืออย่าง "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ และ ธนเดช ฟูประเสริฐ

การซ้อมในวันดังกล่าว ได้มีสมาชิกใหม่ของทีมที่เพิ่งอิมพอร์ตเข้ามาจากประเทศบราซิล 1 ราย เข้ามาร่วมฝึกซ้อมด้วยคือ วาลซี่ ไทไซร่า จูเนียร์ อายุ 22 ปีสูง 188 ซ.ม. น้ำหนัก 78 ก.ก. เล่นบอลได้ทั้งเท้าซ้ายและขวาเบสิกฟุตบอลดี

"โค้ชก๊อก" กล่าวว่า "วันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ค.นี้ ใบไอทีซี ของนักเตะรายนี้จะมาถึงสมาคมฟุตบอลของเรา และคาดว่าเราจะส่งเขาลงสนามในเกมเยือนทีม นครปฐม เอฟซี วันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค.นี้ แต่อาจจะเป็นแค่ตัวสำรองไปก่อน แต่ผมเชื่อว่าคุณสมบัติของเขา จะมาช่วยเติมเต็มในสิ่งที่เรายังขาดอยู่ คือความเฉียบคมในการสังหารประตูทีมคู่ต่อสู้ได้ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน โดยค่าเหนื่อยนั้นจะอยู่ที่ราว 1 แสนบาทต่อเดือน"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ทีทีเอ็มอุ่นแข้งโดนทัพบกเผาเครื่องพัง1-4

ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร อุ่นเครื่องฝืดโดน ขุนพล "ตรากงจักร" ทหารบก ทีมรองจ่าฝูงดิวิชั่น 1 เผาเครื่องยับ 4-1 ขณะที่ กิจ มีศรีสุข กุนซือใหญ่ทีทีเอ็ม บอกไม่ซีเรียสกับผลที่ออกมา ต้องการให้ตัวสำรองลงหาประสบการณ์ และลองเด็กก่อนลงสนามในบ้านพบ จุฬา ยูไนเต็ด วันที่ 31 พ.ค. นี้ มั่นใจนัดนี้มี 3 แต้มแน่นอน

ความเคลื่อนไหวของทีม ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ในศึกฟุตบอล "ไทยพรีเมียร์ลีก 2009" ที่วันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. นี้ จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ จุฬา ยูไนเต็ด ที่สนามสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขต สมุทรสาคร เวลา 17.30 น. ล่าสุดเมื่อวันที่ วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ขุนพล ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ได้ยกทีมไปอุ่นเครื่องกับทีม "ตรากงจักร" ทหารบก รองจ่าฝูงลีกดิวิชั่น 1 ที่สนามกีฬากองทัพบก ริมถนนวิภาวดี-รังสิต

สำหรับเกมนี้ ทีมทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ขนนักเตะตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนามเกมไทยลีก นัดวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ลงเล่น ประกอบด้วย ศักดิ์สิทธิ์ วุฒิภราดร, อนุชา ไชยวงศ์, วรวุฒิ วังสวัสดิ์, สมชาย หันเอียง พร้อมกับให้ตัวจริงวิ่งวอร์มรอบสนาม

ครึ่งแรก ทีมทีทีเอ็ม สมุทรสาคร เป็นฝ่ายบุกมีโอกาสยิงประตูอย่างสวยๆ หลายครั้ง แต่ยิงบอลหลุดออกนอกกรอบหมด จน น.36 ชาตรี สีหา ยิงให้ทีมทหารบก ขึ้นนำไปก่อนครึ่งแรก 1-0

ครึ่งหลัง ทีมทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ขนตัวจริงลงผสมกับตัวสำรองที่เตรียม เอาไว้เล่นนัดเจอกับ จุฬา ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค.นี้ ประกอบด้วย เจษฎา บุญเรืองรอด, ทนงศักดิ์ ประจักกะตา, ทนงศักดิ์ พรมดาด, พีระทรรศน์ โพธิ์เรือนดี เพียงแค่ 5 นาที "แอ๊ดดี้" ศิกดิ์สิทธิ์ วุฒิภราดร ยิงให้ทีมทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ไล่ตีเสมอเป็น 1-1

พอได้ประตูคืน ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร เร่งเครื่องบุกอย่างสนุกเท้า โดยทีมทหารบก ชุดนี้ไม่ธรรมดาเปิดเกมเข้าแลกกันอย่างสนุก ก่อนที่ทีมทหารบกจะปิดสกอร์ได้ดีกว่ายิงได้อีก 3 ประตูจาก วันชนะ รัตนะ น.56, สมพร ธัญเจริญ น.85 และอนุสรณ์ เอี่ยมภาษี น.87 จบเกมทีมทหารบก เผาเครื่องทีมไทยลีก ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ไป 4-1

หลังเกมการอุ่นเครื่อง กิจ มีศรีสุข กุนซือใหญ่ทีมทีทีเอ็ม สมุทรสาคร กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มๆว่า "ไม่ซีเรียสกับเกมการอุ่นเครื่องในนัดนี้ เพราะเราส่งตัวสำรองลงหาประสบการณ์ และในครึ่งหลัง ใช้ตัวจริงผสมกับตัวสำรองลงเล่นเพื่อลองทีมก่อนที่จะไปเจอกับจุฬา ยูไนเต็ด วันอาทิตย์นี้"

"มั่นใจว่านัดเจอกับทีมจุฬา ยูไนเต็ด เราต้องเก็บ 3 แต้มได้แน่นอน เพราะเป็นการเล่นในบ้าน เชื่อว่าทีมของเราดีกว่าทีมผู้มาเยือนในทุกประตู รับรองไม่ทำให้แฟนบอลชาวมหาชัยต้องผิดหวัง ขอให้ไปเชียร์และเป็นแรงใจให้ทีมของเราเยอะๆ ก็แล้วกัน"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

The F.A. Cup 2009 พร้อมเปิดตัว 12 มิ..ย 52 นี้

พร้อมแล้ว !! สำหรับการแข่งขันฟุตบอลน็อคเอาท์รายการ The F.A. CUP 2009 เตรียมเปิดตัวและแถลงข่าวใหญ๋ วันศุกร์ที่ 12 มิ.ย. 52 นี้ เวลา 14.00 ณ รร. เรดิสัน

THE F.A. CUP 2009 เปิดสนาม 27 มิ.ย. 52 โดยจะทำการแข่งขันในระบบน็อคเอาท์ ซึ่งจะแบ่งออกรอบแข่งขันดังต่อไปนี้

1. รอบคัดเลือก (รอบแรก) ประกอบไปด้วย 32 ทีมสโมสรที่สมัครเข้าแข่งขันในระดับดิวิชั่น 2 ,ถ้วยพระราชทาน ข,ค,ง แข่งขันให้เหลือ 16 ทีม

2. รอบสอง 32 ทีม ประกอบไปด้วย 16 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบ + 16 ทีมในระดับดิวิชั่น1 แข่งขันให้เหลือ 16 ทีม

3. รอบสาม 32 ทีม ประกอบไปด้วย ทีมจากไทย พรีเมียร์ลีก 16 ทีม และ 16 ทีมที่ผ่านรอบสองแข่งขันให้เหลือ 16 ทีม

4. รอบสี่ 16 ทีม

5. รอบก่อนรองชนะเลิศ (รอบ 8 ทีม)

6. รอบรองชนะเลิศ

7. รอบชิงชนะเลิศ

THE F.A CUP 2009

วัตถุประสงค์

1. เพื่อเป็นการคัดหาทีมสโมสรของเมืองไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในระดับสโมสรของเอเชียและระดับโลกต่อไป

2. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของนักฟุตบอลไทยภายใต้ระบบการจัดการแข่งขันที่มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล

3. เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์สินค้า จากการสนับสนุนวงการฟุตบอลไทย และสร้างกิจกรรมที่มีประโยชน์ให้ประชาชนชาวไทยได้เข้าร่วม

ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน

สโมสรที่เข้าร่วมแข่งขันในรายการ F.A.CUP ได้แก่ สโมสรที่สังกัดอยู่กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกอบไปด้วย

1. 16 ทีม จากไทยพรีเมียร์ลีก

2. 16 ทีม จากฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1

3. เปิดรับสมัครทีมจาก ดิวิชั่น 2, ถ้วย ข, ค, และ ง จำนวน 32 ทีม (ทีมที่สมัครเข้าแข่งขันต้องจ่ายค่าประกันทีม 20,000 บาท)

ระบบการแข่งขัน

F.A.CUP เป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วยน็อคเอ้าท์ที่ยิ่งใหญ่ของสมาคมฟุตบอลฯ จับฉลากประกบคู่แข่งขันตั้งแต่รอบแรก จนถึง รอบรองชนะเลิศ

การแข่งขันรอบคัดเลือก ทำการแข่งขัน ณ สนามกลางที่ผู้จัดการแข่งขันได้เตรียมไว้ อาทิ ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติหนองจอกหรือสนามจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่มีการจำหน่ายบัตรชม

การแข่งขันรอบสอง, รอบสาม, รอบสี่, รอบก่อนรองและรอบรองชนะเลิศ ใช้สนามเจ้าบ้านที่มีชื่อแรกนำหน้าหากถ้าทีมเจ้าบ้านไม่พร้อมให้หาสนาม แข่งขันแทนหรือไปทำการแข่งขันที่สนามทีมเยือนแทน โดยทีมที่เป็นเจ้าของสนามจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการจำหน่ายบัตรชมการ แข่งขันเองทั้งหมด ยกเว้นค่าผู้ตัดสิน โดยแบ่งรายได้จากค่าจำหน่ายบัตรชมฯให้เจ้าบ้าน 60 % และทีมเยือน 40 %

รอบชิงชนะเลิศ ทำการแข่งขัน ณ สนามกลางที่ผู้จัดการแข่งขันได้เตรียมไว้ อาทิ สนามศุภชลาศัย โดยฝ่ายจัดการแข่งขันเป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขันเองทั้งหมด

นักฟุตบอลที่แข่งขันในรายการนี้มีสิทธิเล่นได้แค่หนึ่งสโมสรเท่านั้น กรณีที่ย้ายสโมสรใหม่แต่ได้เล่นให้สโมสรเก่าในรายการนี้ไปแล้ว จะไม่มีสิทธิเล่นให้สโมสรใหม่ในรายการนี้

แหล่งข้อมูล : http://www.fat.or.th

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

Monday, May 25, 2009

สุพรรณป่วนแข้งวงในแฉไม่ได้รับเงิน4เดือน

ทีมสุพรรณบุรี ป่วน แข้งวงในแฉไม่รับเงิน 4 เดือน เตรียมวอล์คเอาต์ไม่ลงสนามเกมออกไปเยือนฮอนด้า วันที่ 31 พ.ค.นี้ ถ้าเงินยังไม่ถึงมือ ด้าน ผจก.ทีม บุญชู จันทร์สุวรรณ รับเงินมีแต่ยังเบิกไม่ได้ ชี้ต้องใจเย็น แต่ถ้าหากนักเตะไม่เล่นก็คงต้องถอนทีม ออกจากการแข่งขัน ขณะที่ คัมภีร์ ปิ่นฑะกูล กัปตันทีมที่โชว์ข้อความทวงถามเงิน อาจโดนยกเลิกสัญญา แต่หลายทีมในไทยลีกจ้องฉกไปร่วมทัพ

จากกรณีที่ คัมภีร์ ปิ่นฑะกูล กัปตันทีมห้องเครื่องของทีมสุพรรณบุรี เปิดเสื้อโชว์ข้อความที่เขียนไว้บนเสื้อด้านในว่า "เงินเดือนพวกผมอยู่ไหน" หลังจากซัดตีไข่แตกให้สุพรรณบุรี ได้ในเกมเปิดบ้านพ่าย ศรีสะเกษ 1-2 เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ในศึกฟุตบอลดิวิชั่น 1

ขณะเดียวกันบนอัฒจันทร์กองเชียร์เจ้าบ้าน ยังเขียนข้อความเรียกร้องแทนนักเตะด้วยว่า "นักบอลสู้ด้วยกายและใจ แต่ทำไม ไม่ได้เงินเดือน" ซึ่งสร้างความสงสัยเป็นอย่างมากจนทราบว่า นักเตะของสุพรรณบุรี นั้นยังไม่ได้รับเงินเดือนเลยมาเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว แม้ว่าจะลงสนามเตะมาอย่างต่อเนื่องด้วยสปิริต

จากการเปิดโชว์ข้อความดังกล่าว ของกัปตันทีมห้องเครื่องคนสำคัญครั้งนี้ ทำให้มีข่าวว่า คัมภีร์ มีสิทธิ์ อาจโดนยกเลิกสัญญากับทีมบ้านเกิดของตัวเองด้วย และล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ยังมีกระแสวงในที่เชื่อถือได้จากนักเตะสุพรรณบุรี ว่า "ที่กัปตันทีมอย่าง คัมภีร์ ปิ่นฑะกูล โชว์ข้อความเรื่องเงินเดือน เป็นจริงทุกอย่าง เพราะตั้งแต่เล่นให้กับสุพรรณบุรี ในศึกดิวิชั่น 1 มา 4 เดือน ยังไม่ได้รับเงินเดือนจากสโมสรเลย

ทำให้นักเตะในทีมเริ่มทวงถามกัน เกี่ยวกับเรื่องเงินจากสโมสร แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากสโมสร จนนักเตะหลายคนเริ่มออกอาการเซ็ง ทำให้ต้องระบายออกมาด้วยการให้แฟนบอลและคนภายนอกรับทราบถึงสถานการณ์ทีมใน ตอนนี้ อย่างที่คัมภีร์ทำ"

นอกจากนั้นยังมีข่าวออกมาอีกว่า ในเกมที่ สุพรรณบุรี จะออกไปเยือน ไทยฮอนด้า วันที่ 31 พ.ค.นี้ ที่เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี นักเตะอาจจะจะรวมตัววอล์คเอาต์ไม่ไปแข่งขันในเกมนี้ก็ได้ ถ้าหากยังไม่ได้รับคำตอบเรื่องเงินเดือนเป็นที่น่าพอใจ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวสยามกีฬาได้สอบถามไปยัง บุญชู จันทร์สุวรรณ ผจก.ทีมสุพรรณบุรี ซึ่งกุนซือเมืองสุพรรณ ได้พูดถึงเรื่องเงินเดือนนักเตะที่ไม่ได้รับมา 4 เดือน ว่าจริง และตอนนี้เรายังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณของทีมออกมาจ่ายให้กับนักเตะ ได้ และทีมเราก็ไม่ได้มีสปอนเซอร์เข้ามาหนุนเหมือนกับทีมอื่น ทำให้เกิดปัญหาตรงนี้ขึ้นมา"

ผจก.ทีมสุพรรณบุรี กล่าวต่อว่า "ถ้าหากนักเตะรวมตัวไม่ลงแข่งขันในเกมที่จะออกไปเยือนไทยฮอนด้าจริง บอกตรงๆ ว่าผมก็ค่อนข้างจะซีเรียสเหมือนกัน ถ้าหากทางออกไม่ได้จริงๆ สุดท้ายก็คงต้องถอนทีม"

นอกจากนั้น ยังมีข่าวอีกว่า ทาง กุนซือใหญ่ จีรศักดิ์ เจริญจันทร์ ก็เตรียมจะลาออกจากทีมด้วย ขณะที่กัปตันทีมตัวเก่ง อย่าง คัมภีร์ ปิ่นฑะกูล ที่จะโดนยกเลิกสัญญา ก็มีหลายทีมในไทยลีกที่เตรียมจะดึงคัมภีร์ ไปเล่นเหมือนกัน แต่ทุกอย่างก็คงต้องรอตลาดซื้อขายเปิดในช่วงพักเลกแรกก่อน

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

เสี่ยเหมาเตือนเชิ้ตดำไทยลีกอาจโดนแฟนรุม

"เสี่ยเหมา" กมล สุวรรณเจริญ ผช.ผจก.ทีมราชนาวีระยอง ออกโรงเตือน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก รวมถึงผู้ตัดสินของสมาคมลูกหนังไทย ให้คำนึงถึงคุณภาพการตัดสินมากกว่าที่เป็นอยู่ บอกหากไม่เร่งพัฒนาคุณภาพเชิ้ตดำ อนาคตอาจมีเรื่องราวใหญ่โต ขณะที่กลุ่มแฟนคลับทีมราชนาวี ระยอง ยันหากทีมตัวเองยังไม่ได้รับความเป็นธรรมอีก จะยกพลกันบุกสมาคมฯ เพื่อประท้วงคุณภาพผู้ตัดสิน

จากกรณีที่เกมฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ครั้งที่ 13 เมื่อ 24 พ.ค. 52 ที่ผ่านมา ที่สนามกีฬาจ.กาญจนบุรี (กลีบบัว) รังเหย้าของทีม ทีโอที เอฟซี มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นในเกมที่เจ้าถิ่นเปิดบ้านชนะทีมเยือน ราชนาวี ระยอง ไปได้ 2-1 โดยได้จุดโทษในช่วงทดเวลาเจ็บ น. 92 หลังจาก เสกสันต์ ชาวทองหลาง นักเตะราชนาวี ระยอง ทำแฮนด์บอลระหว่างขึ้นสกัดลูกโขกของ สุเชาว์ นุชุน่ม

โดยผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวคือ สานิตย์ สุขสมดาว ได้ตัดสินให้เป็นจุดโทษ ก่อนที่นักเตะทีมราชนาวี ระยอง จะไม่พอใจการตัดสินได้เดินออกจากสนามเป็นเวลา 5 นาที ก่อนจะกลับมาลงสนามต่อและสุเชาว์ นุชนุ่ม ยิงประตูชัยให้ ทีมทีโอที เอฟซี ชนะไปได้ 2-1 ในน. 97 โดยระหว่างเหตุการณ์ได้มีกองเชียร์ทีมเยือนเขวี้ยงกระป๋องเบียร์ และขวดน้ำพลาสติกลงไปในสนามด้วยนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดในเรื่องนี้ "เสี่ยเหมา" กมล สุวรรณเจริญ ผช.ผจก.ทีมราชนาวีระยอง ที่ค่อนข้างหัวเสียกับการเสียจุดโทษของทีมตัวเอง ออกมากล่าวกับ นสพ.สยามกีฬาว่า "ช่วงสายของวันที่ 25 พ.ค. 52 ที่ผ่านมาผมได้โทรศัพท์ไปแจ้งถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

โดยเฉพาะคุณภาพของผู้ตัดสินในเกมนี้อย่าง คุณสานิตย์ สุขสมดาว ที่ตัดสินให้ทีมเราเสียจุดโทษในจังหวะที่ เสกสันต์ ชาวทองหลาง ขึ้นโขกสกัดบอลแย่งกับ สุเชาว์ นุชนุ่ม แล้วลูกโขกของสุเชาว์ไปถูกแขนของ เสกสันต์ ที่หันหลังขึ้นโขกสกัด ผมยอมรับจังหวะนี้ลูกฟุตบอลโดนแขนของเสกสันต์ จริง แต่หากดูที่เจตนาจากการที่นักเตะทีมผมหันหลังสกัดบอลในจังหวะนั้น ไม่น่าจะถือว่าเป็นเจตนาของการทำแฮนด์บอล

ผจก.ทีมทีโอที เอฟซี อย่าง "พี่ก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ เองยังให้สัมภาษณ์เลยว่า จริงแล้วบทสรุปของเกมนี้น่าจะลงเอยด้วยการเสมอกันไป พร้อมกับบอกด้วยว่าลูกที่ได้จุดโทษถือเป็นความโชคดีของทีม ที่ผมเรียนกับ ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ก็เพื่อต้องการให้ทีมเราได้รับความเป็นธรรมบ้าง จากการตัดสินของผู้ตัดสิน"

"เสี่ยเหมา" กล่าวอีกว่า นี่ไม่ใช่เกมแรกที่เราโดนแบบนี้ จากการทำหน้าที่ไม่ได้มาตรฐานของผู้ตัดสิน ไม่ว่าจะเป็นเกมนัดที่ 5 ของเราที่เราบุกไปแพ้ พัทยา ยูไนเต็ด แล้วโดนจุดโทษในช่วงทดเจ็บ ทำให้เราแพ้ออกมาเมื่อ 9 เม.ย. 52 เกมนั้นเป็น นายทวีชัย สุภัทรวัน ลงตัดสิน จังหวะที่นักเตะผมทำฟาวล์นั้น เป็นการทำฟาวล์นอกเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินชี้ว่าเป็นจุดโทษหน้าตาเฉย

ส่วนอีกเกมคือนัดที่เราเล่นในบ้านตัวเองแท้ๆ ในเกมนัดที่ 9 เมื่อ 10 พ.ค. นัดนั้นเราได้ประตูนำไปก่อน แต่พอถึง น. 30 ผู้เล่นของเรา ยามมิค จอร์เจส โดนใบแดงแบบไม่น่าจะโดน จากการตัดสินของ นายนิติภูมิ กุลบุตร ต่อด้วยเกมล่าสุดกับทีโอที เอฟซี"

ผช.ผจก.ทีมราชนาวีระยอง เผยอีกว่า "คนอย่างผมชีวิตนี้ทุ่มเทให้กับฟุตบอลเต็มที่ ใครๆ ก็รู้เราเข้าไปทำทีมอยากจะเห็นทีมมีอนาคต ซึ่งทุกวันนี้ใครจะเชื่อว่าทีมที่อาจจะเรียกได้ว่าโนเนมอย่าง ราชนาวีระยอง จะได้รับการตอบรับดีจากแฟนบอล ชาวจ.ระยอง ทุกนัดที่เราลงเตะในบ้านนั้น มีแฟนบอลเข้าชมหลายพันคน เก็บค่าบัตรผ่านประตูได้มากชนิดที่ใครๆ ก็คงไม่อยากจะเชื่อว่าภาพแบบนี้จะเกิดขึ้นมาได้กับทีมราชนาวีระยอง

โดยส่วนตัวไม่ได้เป็นคนที่จ้องจะมีเรื่องกับผู้ตัดสิน และไม่ชอบที่จะโทษผู้ตัดสิน สิ่งที่ผมอยากจะถามกับ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก อยากจะเห็นทีมที่มีแฟนบอลให้การสนับสนุนแต่ละนัดหลายพันคน มีแนวโน้มว่าจะไปได้สวยกับเส้นทางของทีมอาชีพอีกทีมทั้งๆ ที่เราเป็นทีมเล็กๆ ตกชั้นจากลีกสูงสุดอย่างนั้น หรือเราเป็นทีมเล็กๆ ไม่รู้ว่าด้วยความเป็นทีมเล็กๆ หรือเปล่าถึงจะชอบโดนรังแกอยู่เสมอ

ผมมองว่าคุณภาพของผู้ตัดสินนั้นเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจแฟนบอลเรา โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับที่เขาอุตส่าห์ตามไปเชียร์ แล้วเห็นผู้ตัดสินที่ย่ำแย่ตัดสินให้เราเป็นผู้แพ้ออกจากสนาม ผมวิตกว่าสักวันหนึ่งหากผู้ตัดสินยังเป็นเช่นนี้ อาจจะมีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้นได้สักวันหนึ่ง ไม่ใช่แต่เฉพาะกับทีมเรา แฟนบอลเองที่เขาไม่พอใจกับผู้ตัดสินอาจจะแบกความกดดันเก็บกดไว้จนไม่อาจจะทน ได้แล้วมาระเบิดกับผู้ตัดสินเป็นได้

ผมจึงอยากจะฝากไปยัง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก รวมถึงคณะกรรมการผู้ตัดสินด้วยว่า ให้ดูแลเรื่องคุณภาพของผู้ตัดสินเป็นพิเศษ อย่างกลุ่มแฟนคลับของเราเองได้ประกาศกันแล้วว่า หากทีมราชนาวีระยอง ยังเจอกับผู้ตัดสินที่ไร้คุณภาพเช่นนี้อีกพวกเขาเตรียมตัวแล้วที่จะยกพลกัน มาประท้วงคุณภาพผู้ตัดสินถึงที่สมาคมฟุตบอลเลยทีเดียว" เสี่ยเหมา กล่าวทิ้งท้าย

ด้านความเคลื่อนไหวของทีม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่เกมล่าสุดเมื่อ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา บุกไปเอาชนะ สมุทรสงคราม เอฟซี ได้ 1-0 อยู่อันดับ 4 ตามเดิม ล่าสุดเมื่อ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม กุนซือใหญ่ได้ส่งทีมชุดสำรอง แต่มีนักเตะเก๋าอย่าง พิเชษฐ์ อินทร์บาง, สลาฮูดิน อาแว, ธนพัต ณ ท่าเรือ หัตฐพร สุวรรณ , มาเน่ มุสตาฟา, นวพล ตันตระเสนีย์ ลงช่วยทีมอุ่นเครื่องกับทีม ราชประชานนทบุรี ทีมจากระดับลีกดิวิชั่น 2 ที่สนามธันเดอร์โดมฯ

โดยได้รับความสนใจจากแฟนบอล เข้ามาชมกันหลักร้อยคน เกมนี้เป็นทีมชุดสำรองของเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่แพ้คาบ้าน 1-3 โดยทีมเยือนได้จาก ประกิต ดีพร้อม น. 28, ณัฐพล พูลทวี น. 49, วิสูตร บุญเป็ง น. 78 ส่วน เมืองทองฯ ตีไข่แตกได้จาก สลาฮูดิน อาแว น. 88

หลังเกม "โค้ชแต๊ก" กล่าวว่า "เกมนี้แค่การอุ่นเครื่อง ผมไม่ได้ซีเรียสกับผลการแข่งขันที่ออกมาแต่อย่างใด ต้องการให้นักเตะที่ไม่ค่อยได้ลงสนาม ได้ลงยืดเส้นยืดสายบ้าง จะได้เห็นฟอร์มและรู้ข้อบกพร่องของทีมที่ยังมีอยู่"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ฮือฮา!!นครปฐมคว้าแบ็กผู้ดีร่วมทีม

"นักสู้เมืองเจดีย์ใหญ่" นครปฐม เอฟซี ทีมในศึกไทยพรีเมียร์ลีก ยังคงเดินหน้าเสริมทัพเพื่อสู้ศึกไทยลีกต่อไป ล่าสุดจัดการคว้าตัว ไมเคิล แอสปิน แบ็กขวาตัวเก่งจากสโมสรนอร์ทวิช วิคตอเรีย ทีมในบลูสแควร์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาร่วมทีมแบบเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว

ความเคลื่อนไหวของการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ที่กำลังขับเคี่ยวกันอย่างสนุก ล่าสุด นครปฐม เอฟซี ทีมอันดับ 8 ของตาราง ได้เสริมทัพด้วยการเซ็นสัญญาคว้าตัว ไมเคิล แอสปิน แบ็กดาวรุ่งวัย 19 ปี มาจากสโมสรนอร์ทวิช วิคตอเรีย ทีมในบลูสแควร์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แบบไม่มีค่าตัว

ซึ่งการมาร่วมทีมในครั้งนี้เกิดจากการชักชวนของ ไมเคิ่ล เบิร์น นักเตะชาวเวลส์ ของ นครปฐม เอฟซี ที่เคยค้าแข้งกับนอร์ทวิช วิคตอเรีย มาก่อนเช่นกัน ได้ชักชวนให้ดาวรุ่งชาวอังกฤษ มาลองทดสอบฝีเท้ากับทีมนครปฐม และหลังจากโชว์ฟอร์มได้ดีในการซ้อม สถิตย์ ทวีนุช ผจก.ทีมนครปฐม เอฟซี จึงได้ตกลงเซ็นสัญญาแบบเป็นทางการ

โดยประวัติคร่าวๆของ ไมเคิล แอสปิน นั้นเกิดที่ เมืองแบล็คเบิร์น เคยเป็นเด็กฝึกของสโมสรแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทีมดังในศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ก่อนที่จะเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ เปรสตัน นอร์ทเอนด์ ทีมในลีกแชมเปี้ยนชิพ ด้วยวัย 16 ปี และย้ายไปเล่นกับสโมสรนอร์ทวิช วิคตอเรีย ฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาลงเอยกับ นครปฐม เอฟซี ในท้ายที่สุด

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ศรีสะเกษเชือดสุพรรณเดือด2-1บอลด.1

"กรูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ สุดเจ๋ง ยกพลดับซ่า "ช้างศึกยุทธหัตถี" สุพรรณบุรี ถึงถิ่น 2-1 เกมนี้แข้งสุพรรณสุดแสบ ดีใจประท้วงทีมตัวเองที่ไม่จ่ายเงินมา 5 เดือน ขณะที่ "หนุ่มอาร์แบค" รัตนบัณฑิต งัดฟอร์มเก่ง บุกกระซวก นครสวรรค์ สนุก 3-2 ด้าน "ไดโนเสาร์พิฆาต" ขอนแก่น สุดเซ็ง โดนเป่ากลับคำตัดสิน ได้แค่เจ๊า ไทยฮอนด้า 1-1 ส่วน ปตท. พลาดท่าเสียโทษท้ายเกมให้ สงขลา ตีเสมอ 1-1 ศึกลูกหนังลีกดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา ดวลแข้งกัน 4 คู่จาก 4 สนาม ผลการแข่งขันมีดังนี้

สุพรรณบุรี 1-2 ศรีสะเกษ

ที่สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าบ้าน "ช้างศึกยุทธหัตถี" สุพรรณบุรี ทีมอันดับ 3 เปิดบ้านพบกับ "กรูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ ทีมอันดับ 8 โดยเกมนี้เจ้าบ้านส่ง เกียรติชัย ศรีโปฎก และ ธีระพงษ์ สว่างศรี ลงทำเกม ด้านทีมเยือน ส่ง ไพโรจน์ อนันตรงค์ ลงคุมเกมแดนกลาง พร้อมวาง ทัตพงศ์ หล้าธรรม ลงล่าตาข่าย

เริ่มครึ่งแรก สุพรรณบุรี เปิดเกมบุกเข้าใส่ ศรีสะเกษ อย่างหนัก น.7 สุพรรรบุรี มาได้จังหวะทักทายก่อนเมื่อ ฉัตรชัย คุ้มพญา ได้จังหวะหลุดเดี่ยวเข้าไปหลบ กฤษฎา กระจาดทอง ผู้รักษาประตูกรูปรีอันตราย ก่อนแปรเข้าประตูไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกเป็นจังหวะล้ำหน้า

น.10 กองเชียร์ทีมเยือนได้เฮกันก่อน จากจังหวะที่กองหลัง ศรีสะเกษ ฉวยโอการเปิดบอลยาวมาให้ ทัตพงษ์ หล้าธรรม กองหน้าของทีม แต่แผงกองหลัง สุพรรณบุรี ดักล้ำหน้าพลาด ทำให้ ทัตพงษ์ ลากบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงด้วยขวาผ่านมือ กิตติธร ชูดี เข้าไป ทำให้ ศรีสะเกษ ออกนำไปก่อน 1-0

น.18 กองเชียร์เจ้าถิ่นเกือบได้เฮบ้างเมื่อ จักรพรรณ เอี่ยมมาก ได้จังหวะสับไกลยิง ระยะ 18 หลา หน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่บอลลอยเฉียดเสาออกไปนิดเดียว จากนั้น สุพรรณบุรี ยังเปิดเกมบุกเข้าใส่ ศรีสะเกษ อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของ ศรีสะเกษ ได้

น.40 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิก ระยะ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย กฤษณะ รับหน้าที่ปั่นฟรีคิก แต่ยิงไม่ได้ลุ้น บอลลอยข้านคานออกไปไกล น.42 ศรีสะเกษ เกือบมาได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ กฤษฎา นายทวารทีมเยือนเปิดบอลยาวมาไห้กับ จีรวัฒน์ ทองลือ เอาบอลลง ก่อนเปิดให้ ไพโรจน์ อนันตรงณ์ วอลเลย์ไม่เต็มเท้า บอลไปเข้ามือ กิตติธร นายทวารเจ้าถิ่นรับสบาย หมดครึ่งแรก ศรีสะเกษ นำ 1-0

ครึ่งหลัง สุพรรณบุรี ออกมาเปิดเกมบุกเข้าใส่ ศรีสะเกษ อย่างหนัก แต่ น.48 ทีมเยือน ศรีสะเกษ มาได้ประตูที่สอง จากจังหวะสวนกลับเร็วทางกราบขวาของ ไพโรจน์ ก่อนลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษล็อกหลบกองหลัง สุพรรณบุรี แล้วเปิดให้กับ ณัฐวุฒิ กิ่งพิลา ที่เปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง แปรโล่งเข้าประตูไป ศรีสะเกษ ออกนำ 2-0

น. 49 สุพรรณบุรี เปลี่ยนเอา คัมภีร์ ปิ่นฑะกูล ลงมาแทน ภุชงค์ สุวรรณประทีป ได้ไม่ถึงนาที คัมภีร์ เกือบแผลงฤทธิ์ได้ เมื่อได้จังหวะสับไกลยิงระยะ 35 หลา บอลลอยไปชนคานอย่างจัง

น.62 สุพรรณบุรี ได้ประตูไข่แตก จากจังหวะลูกเตะมุมทางด้านขวา กฤษณะ เปิดเข้าที่หน้าประตูให้กับ ธีรพงษ์ สว่างศรี โหม่งแต่บอลไปตรงตัว กฤษฎา นายทวาร ศรีสะเกษ ปัดบอลออกมาเข้าทาง คัมภีร์ โหม่งซ้ำจ่อๆ เข้าไป สุพรรณบุรี ไล่มา 1-2 โดย คัมภีร์ แสดงการดีใจด้วยการเปิดเสื้อตัวใน ที่มีข้อความว่า "เงินเดือนพวกผมอยู่ไหน" ขณะเดียวกันแฟนบอลของ สุพรรณบุรี ก็ชูป้ายประท้วงทีมในเรื่องของเงินเดือนนักเตะที่ไม่ได้รับมากว่า 5 เดือนแล้ว

จากนั้น สุพรรณบุรี เปิดเกมบุกเข้าใส่ ศรีสะเกษ อย่างต่อเนื่อง น.69 สุพรรณบุรี เกือบมาได้ประตูตีเสมอ หลังจากที่ได้ลูกฟรีคิกทางด้านซ้ายระยะ 40 หลา กฤษณะ ภูผา เปิดเข้ามาให้กับ เกียรติศักดิ์ โหม่งโล่งๆ แต่เบาไป ทำให้ กฤษฎา นายทวาร ศรีสะเกษ รับสบาย

น.77 คัมภีร์ เกือบมาแผลงฤทธิ์ อีกครั้ง เมื่อได้จังหวะสับไกลยิงระยะ 20 หลา แต่บอลไปโดนกองหลัง ศรีสะเกษ บอลเด้งออกหลังไป น.90 สุพรรณบุรี ที่พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่ เกือบมาได้ประตูตีเสมออีกครั้ง จากจังหวะที่ ธีระพงษ์ ได้จังหวะสับไกลยิง แต่บอลไปแฉลบกองหลัง ศรีสะเกษ เฉียดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบเกบ ศรีสะเกษ บุกมาชนะ สุพรรณบุรี 2-1

หลังเกม "โค้ชลอย" จีรศักดิ์ เจริญจันทร์ กุนซือใหญ่ สุพรรณบุรี กล่าวว่า "วันนี้เด็กเราเล่นได้ดีแล้ว แต่เราเสียประตูเร็วไป ทำให้เราต้องเปิดเกมแรก ทำให้เราเสียประตูที่สอง แต่ไม่เป็นไร แพ้เกมนี้เกมหน้าเราเอาใหม่"

ด้าน ชาติกล้า ทรัพย์ทรงพล โค้ชใหญ่ ศรีสะเกษ กล่าวว่า "เกมนี้นักเตะเราเล่นอย่างยอดเยี่ยม และมีวินัยในเกมรับมาก ทำให้เราสามารถเก็บสามแต้มจาก สุพรรณบุรี ได้สำเร็จ"

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

สุพรรณบุรี : กิตติธร ชูดี 6, อมรการ ศรีทะโร 6, สุจิน เพ็งศิริ 6, ภุชงค์ สุวรรณประทีป 6 (คัมภีร์ ปิ่นฑะกูล 7), ยุทธพงษ์ บุญอำพร 6, วัชรพล ช่างกลึงเหมาะ 5 (น.32 กฤษณะ ภูผา 7), เกียรติชัย โปฎก 6.5, ฉัตรชัย คุ้มพญา 6, ครรชิต ปทุมสูตร 6, จักรพรรณ เอี่ยมมาก 6.5, ธีรพงษ์ สว่างศรี 6.5

ศรีสะเกษ : กฤษฎา กระจาดทอง 7 , เชาวนัด บุดดี 6.5 (น.47 สุพรรณ หาดคำ 6.5), ประลอง สาวันดี 7 , อนุวัฒน์ นุชิต 7, จีรวัฒน์ ทองลือ 7, ทัตพงศ์ หล้า 7 (เดวิด สร้างนานอก), ไพโรจน์ อนันตรงค์ 7.5, สมศักดิ์ วงศ์ใหญ่ 7 (น.45 ณัฐวุฒิ กิ่งพิลา 6.5), ไพรสณฑ์ ฮุนทวีชัย 7, เอกพันธ์ จันดากรณ์ 7, จักรพันธ์ พรหมรส 7

นครสวรรค์ 2-3 รัตนบัณฑิต

ที่สนามกีฬากลาง จ. นครสวรรค์ "สิงโตแดงปากน้ำโพ" นครสวรรค์ ทีมบ๊วย เปิดบ้านรับการมาเยือน "อาร์แบค" รัตนบัณฑิต ทีมรองบ๊วย เกมครึ่งแรกเป็นทั้งสองทีมที่พาเหรดเกมรุกบุกใส่กันแหลก น. 24 จิบกาง เคทเชา ยิงให้เจ้าถิ่นนำ 1-0 ก่อนที่ช่วงท้ายเกม น. 45 วุฒิพงษ์ เกิดกุล จะมายิงตีเสมอ 1-1

ครึ่งหลัง เกมของทีมเยือนรุกได้หวือหวากว่า เกมดำเนินมาถึง น. 80 กวีพันธ์ ทวีบุตร ยิงให้ทีมขึ้นนำ 2-1,และ ศุภชัย พรหมเลิศ ยิงตีเสมอให้ นครสวรรค์ เป็น 2-2 ก่อนท้ายเกม น. 88 วุฒิพงษ์ เกิดกุล บวกสกอร์ให้ทีม "อาร์แบค" ย้ำชัยเป็น 3-2

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

นครสวรรค์ : บุญเรือง ปัญญา 6, เอกภพ ทิพยพร 6, สมเกียรติ บุญรอด 6, ธนิตศร น้อยสว่าง 6, พงษ์พันธ์ หงส์น้อย 6, คุณากรณ์ พึ่งพา 6, ศุภชัย พลเลิศ 6, สัญญา พ่วงจันทร์ 6, จิบกาง เคทเชา 6.5, พันธ์ศักดิ์ พันธ์สิงห์ 6, เทลอม เดฟโพ่ 6

รัตนบัณฑิต : เจษฎา ไปใกล้ 6.5, สุรชัย พรมทะลาย 6, ปรวัตร สิริวัฒนากร 6, จิระเดช บงสีดา 6 (เอกวิทย์ ในนวน 5.5), เกรียงศักดิ์ ชุมพรผ่อง 6, สุรชาติ ชายใหญ่ 6, กวีพันธ์ ทวีบุตร 6, วุฒิพงษ์ เกิดกุล 7, จักรกฤษณ์ ตาลประสิทธิ์ 6, อีบาโก้ 6 (ณัฐพล เสนาผดุง 5)

ขอนแก่น 1-1 ไทยฮอนด้า

ที่สนามกีฬากลาง จ.ขอนแก่น "ไดโนเสาร์พิฆาต" ขอนแก่น ทีมอันดับ 5 เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "สิงห์มอเตอร์ไซค์" ไทยฮอนด้า ทีมอันดับ 3 ของตาราง เกมครึ่งแรกดวลแข้งมาถึง น. 15 เจ้าบ้านได้ประตูออกนำก่อน จากการยิงของ สุรชาติ สิงห์โหง่น ก่อนที่ น. 25 สุทิน อนุกูล จะมาซัดประตูตีเสมอให้ทีมเยือน ทำให้หมดครึ่งแรกเสมอ 1-1

ครึ่งหลัง ยังเป็นทั้งสองทีมพยายามกรีฑาทัพบุกใส่กันชนิดทีมไหนพลาดเป็นต้องโดนส่อง น. 75 เจ้าถิ่นมาเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ ขอนแก่น ได้ลูกเตะมุม เป็นทางด้าน สุรชาติ สิงห์โหง่น ที่รับหน้าที่วาง ก่อนที่ จัตตุพล สิทธิเลาะห์ จะเทกตัวขึ้นโหม่ง บอลตุงตาข่าย ให้ขอนแก่นขึ้นนำ 2-1

แต่จังหวะที่นักเตะ ขอนแก่น จะเอาลูกบอลมาเขี่ยเริ่มเล่น กลุ่มสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะของ ไทยฮอนด้า รุมประท้วงผู้ตัดสินว่า จัตตุพล สิทธิเลาะห์ ใช้มือปัดลูกบอลเข้าประตู ทำให้ บรรพต อวนศรี ผู้ตัดสินในเกมนี้ พลิกคำตัดสินพร้อมกับให้ใบแดงไล่ จัตตุพล ออกสนามอีกด้วย ทำให้สกอร์ยังมาเสมอกันที่ 1-1 ก่อนจะจบเกมด้วยสกอร์นี้ แบ่งกันไปทีมละแต้ม หลังจบเกมทำเอาบรรดากลุ่มสตาฟฟ์โค้ช ขอนแก่น ไม่พอใจการตัดสิน ยืนยันจะทำหนังสือประท้วงผู้ตัดสินคนดังกล่าว

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

ขอนแก่น : สรายุทธ ตะโก 6, วุฒิชัย พันธ์มุก 6, วุฒิศักดิ์ คำมูล 6, ศุภกร ฆารดา 6, ผดุงศักดิ์ กิตติวราพล 6 (เริ่มรัตน์ งามเจริญ -), อิสระพงษ์ ลิละคร 6, สุรชาติ สิงห์โหง่น 6, อดิศักดิ์ จารัจน์ 6 (ชรินทร์ บุตรฮาด -), เชษฐพงษ์ คำจันทร์ 6 (ศรายุทธ วิเชียร -), จัตตุพล สิทธิเลาะห์ 6, เทคเน่ ดีโจกัม 6

ไทยฮอนด้า : ประสิทธิ์ น่วมศาลา 6, นพรัตน์ สกุลอ็อด 6, สุรทิน อนุกูล 6, อิสิโดเร่ 6, นานา แซมมวล 6 ( ชมนันท์ สุขเกษม - ) ,สิงห์ฟ้า วาทโยธา 6,ไปรเวท วันนา 6 (เทิดศักดิ์ จันทร์บ่อโพธิ์ -), เชาวลิต ไปแดน 6, ระวี พวงมี 6, กิตติภพ อุปะธาคำ 6 (สมลักษณ์ รัศมี -)

ปตท. 1-1 สงขลา

ที่สนาม สพล. ชลบุรี "เศรษฐีน้ำมัน" ปตท. ทีมอันดับ 12 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ สงขลา ทีมอันดับ 9 เกมครึ่งแรกเป็นทั้งสองทีมที่เปิดฉากบุกใส่กันสูสี ก่อนที่จะทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไป 0-0 ขณะที่ครึ่งหลัง น. 79 อภิวัฒน์ สายสร้อย กดให้ทีมนำ 1-0 เกมดำเนินมาถึงช่วงท้ายเกม น. 83 ทีมเยือนมาได้จุดโทษ วิทวัส เอี่ยมรัมย์ ที่รับหน้าที่สังหารไม่เหลือซาก ให้ทีมไล่ตีเสมอ 1-1 แบ่งกันทีมละแต้ม

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

ปตท. : นิวัฒน์ หัตถเกรียงไกร 6, จ๊อกกี้ สเตฟาน 6, ศราวุฒิ นะตะสัตย์ 6, จิราวุฒิ สาระนันท์ 6, จักรพงศ์ แสนหลวง 6,อนุ สิงหราช 6, ศราวุฒิ จตุรภัทร 6, ศักดิ์รินทร์ ภู่สามสาย 6 ,เพนซิล วิคเตอร์ 6 (ธาดา ทองท้วม -), ทศพล ยอดจันทร์ 6 (ประมวล ศรีบุญ -), โจเซฟ ควาเบน่า 6 (อภิวัฒน์ สายสร้อย 6.5 )

สงขลา : นินูรุดดีน นิเดร์หะ 6, อิทธิพล หนุดหละ 6, ณัทธร เพ็ชรมณี 6, ซัมเม หนิมา 6, ไชยรัตน์ หมัดศิริ 6, ณัฐพล จันทสุริยวงศ์ 6, วิทยา หมัดอะหิน 5 (วิทยวัส เอี่ยมรัมย์ -), ชัชชัย ชื่นชมภู 6 (สิโรตม์ มีบุญ 6), นที คุ่มเคี่ยม 6, มานพ สอนแก้ว 6, ริชาร์ด มากูร์ 6

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป วันที่ 30 พ.ค.52 เริ่มเวลา 16.00 น. ทุกสนาม สุราษฎร์ธานี พบ ทหารบก ที่สนามกีฬากลาง จ.สุราษฎร์ธานี, เทศบาลเมืองปราจีนบุรี พบ ศุลกากร ที่สนามกีฬากลาง จ.ปราจีนบุรี, ทหารอากาศ พบ ตำรวจ ที่สนาม ธูปะเตมีย์, การบินไทย-บ้านบึง พบ จันทบุรี ที่สนาม เบียร์ช้าง บ้านบึง

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

กิเลนเฉือดปลาทู กระต่ายเจ๊า ฉลามกินนิ่ม ฮัลโหลเกมส์เดือดเชือดหวิว

"กิเลนผยอง" เมืองทองยูไนเต็ด เดินหน้าคว้าอีก 3 แต้ม หลังไปบุกพิฆาติ "แข้งปลาทูคะนอง" สมุทรสงครามถึงถิ่น 1-0 จากการซัลโวประตูชัย ของ "เจ้าโต้ง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว น. 28 ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2552

การแข่งขัน ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 11 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา ลงสนามฟาดแข้งกัน 4 คู่ ผลการแข่งขันมีดังนี้

สมุทรสงคราม เอฟซี 0-1 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด

ที่สนามกีฬากลาง จ.สมุทรสงคราม "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เอฟซี เปิดบ้านรับงานหนัก "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เกมนี้เจ้าบ้านได้ จีระวัฒน์ แก้วโบราณ กองหน้าตัวหลักพ้นโทษแบนกลับมาลงสนาม พร้อม ทรงวุฒิ บัวเพชร ขณะที่เมืองทอง ยังไม่มี ยาย่า ที่เจ็บต้องนั่งสำรอง โดยส่งหน้าเป็น วาเลรี่ เซนู ลงคู่กับ อนุสรณ์ ศรีชาหลวง และมี พิชิตพงษ์ เฉยฉิว คุมเกมแดนกลาง

เริ่มครึ่งแรก สมุทรสงคราม เล่นในบ้านไม่กลัวศักดิ์ศรีทีมใหญ่อย่าง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด น. 3 กิตติ ราช เสนาะ กองหน้าแม่กลองลากบอลเข้าเขตโทษ โดนเจษฏา จิตสวัสดิ์ เข้ามาชนล้มกลิ้ง แต่ผู้ตัดสิน ชัยยะ มหาปราบ ไม่ได้ว่าอะไร น.10 เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เริ่มตั้งเกมได้ใช้การเจาะตามช่อง โดยพิชิตพงษ์ เฉยฉิว ไหลบอลให้ อนุสรณ์ ศรีชาหลวง ได้ซัดระยะ 20 หลา บอลออกข้าง น.14 สมุทรสงครามได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกระยะ 35 หลา แต่ว่า อภินันท์ แก้วปีลา ซัดแรงบอลแฉลบกำแพงก่อนจะชนโคนเสาอย่างจัง น.21 เมืองทองฯ มีโอกาสอีกครั้ง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ไหลให้ วาลารี่ เซนู ทางซ้าย แต่เจ้าตัวยิงขุดดินแบบไม่มีลุ้น น.28 ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ได้บอลบริเวณกรอบ 18 หลา ทำท่าจะเปิดบอลไปทางซ้าย แต่หักกลับทะลุช่องไปทางขวาที่มี พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เติมขึ้นมาซัดเต็มข้อบอลแฉลบ เอกศักดิ์ บัวเบา กองหลังสมุทรสงคราม มุดเข้าไปนอนก้นตาข่ายอย่างสวยงาม ทำให้เมืองทองฯ ออกนำ 1-0 น.37 โรเบิร์ต โปรคูเร่อร์ ผจก.ทีมของเมืองทองฯ ออกไปโวยวายผู้ช่วยผู้ตัดสิน สุรชัย กุหลาบ ที่ยกธงให้ เซียก้า ฟาวล์ในจังหวะเข้าแย่งบอ กัณตภณ สมพิทยานุรักษ์ จากด้านหลัง ผู้ตัดสิน ชัยยะ มหาปราบ ต้องมาเตือนให้อยู่ในความสงบ น.43 เจษฏา จิตสวัสดิ์ กองหลังเมืองทองโดนเหลืองเป็นคนแรก เมื่อไปสกัด คะนึง บุราณสุข ในจังหวะที่จะลากบอลเข้าเขตโทษ สมุทรสงครามได้ฟรีคิกเยื้องไปทางซ้าย อรรถนพ ชัยแป้น ตั้งใจยิงเสาแรก บอลโดนมือ พิชิตพงษ์ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้จุดโทษ ทำให้ สมุทรสงคราม ได้เตะมุมทางขวา คะนึง บุราณสุข เปิดเสาแรก จีระวัฒน์ แก้วโบราณ โหม่งเช็ดบอลไปโดนมือ วิศรุต พันนาสี คราวนี้ ชัยยะ มหาปราบ ไม่ลังเลชี้เป็นจุดโทษให้แม่กลองทันที โดย ทรงวุฒิ บัวเพชร กัปตันทีมสังหารเอง แต่กลับยิงเบาเกินไป กวิน ธรรมสัจานันท์ พุ่งปัดก่อนที่จะตามตะคุบไว้ได้ ทำให้ ปลาทูคะนอง พลาดโอกาสทองที่จะตีเสมอได้อย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรก เมืองทองฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0

ครึ่งหลัง น.55 แข้งกิเลนผยองที่เน้นเกมรับ ได้โอกาสสวนจาก มูซ่า ซีล่า ตัดบอลกลางสนามให้ไหลให้ แดนโก้ เซียก้า ซัดตามน้ำ บอลเหินโด่งข้ามคาน น.57 อนุสรณ์ ศรีชาหลวง กองหน้าความเร็วสูงของเมืองทองฯ กระชากบอลขึ้นทางขวาซัดเสาแรกบอลออกข้าง ก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นตะคริวต้องส่ง สุริยา ดอมไธสง ลงเล่นแทน น.68 แม่กลองได้เตะมุมทางขวา คะนึง บุราณสุข เปิดได้ดี อรรถนพ ชัยแป้น วิ่งเข้าหวด แต่ไม่เต็มเท้า บอลเข้ามือ กวิน ธรรมสัจจานันท์ น.72 เมืองทองฯ ได้ฟรีคิกทางสุดริมเส้นด้านขวา วิศรุต พันนาสี เปิดติดกำแพงก่อนซ้ำบอลโด่งจะเสียบคานบน ทศพร ศรีเรือง ต้องปัดทิ้ง น.74 ปลาทูคะนอง ได้โอกาสบ้าง จากลูกตั้งเตะเกือบ 35 หลา คะนึง บุราณสุข ปั่นเข้าไปที่กลางประตู เทวา พรมมา โฉบเข้าโหม่งเช็ดจะเปลี่ยนทางแต่บอลออกข้าง น.79 เจ้าบ้านเกือบจะได้เฮอีก จากลูกฟรีคิกในแดนตัวเอง สุขสยาม ชาญมณีเวช เปิดยาวจะให้ มิเชล แต่ว่าไม่เล่นบอลปล่อยให้ เทวา พรมมา ได้บอลหลุดเดี่ยว แต่กลับซัดออกข้างเฉย น.82 สมุทรสงครามเตะมุมทางซ้าย คราวนี้ให้ อรรถนพ ชัยแป้น เปิดเข้าหัว เทวา ขวิดเต็มกบาลแต่ตรงตัว กวิน ธรรมสัจจานันท์ที่คว้าติดมือ น.88 มูซ่า ซีล่า กระชากจากกลางสนาม ก่อนซัดนอกเขตโทษ บอลข้ามคาน น.92 เจ้าบ้านโหมหนักและได้เตะมุมทางขวา คะนึง เปิดเสาแรก ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ โกขสกัดมาเข้าทาง ยาย่า อาศัยความสามารถกระชากริมเส้นด้านซ้าย ก่อนเปิดให้ สุริยา ดอมไธสง ที่ยืนว่างอยู่ตรงกลาง สุริยา พยายามจะชิพบอล แต่ไม่ข้ามมือ ทศพร ศรีเรือง ที่ออกมาปิดมุมได้ดี จบเกม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด บุกมาชนะ สมุทรสงคราม เอฟซี 1-0

วาทะโค้ช

สมชาย ชวยบุญชม กุนซือสมุทรสงคราม – เป็นเกมที่เราเล่นได้ดีอีกนัด ทั้งที่ตัวผู้เล่นไม่สมบูรณ์มากนัก เพราะตัวหลักหลายคนเป็นไข้อีสุกอีใส อีกทั้ง คะนึง บุราณสุข ก็ติดสอบทำให้มาช้า เกมช่วงแรกเราเลยกดดันเขาไม่ได้มากนัก อีกอย่างเรามีโอกาสจากจุดโทษแล้ว แต่ทรงวุฒิ เขามั่นใจมาก เลยขอไปยิง ก็ไม่โทษกันเพียงแต่เสียดายเท่านั้นเกมน่าจะเสมอ ยังไงแมตซ์หน้าเราจะเต็มทีมน่าจะกลับมาชนะได้อีก

อรรถพล บุษปาคม โค้ชของเมืองทอง – เกมนี้ครึ่งแรกต้องชมนักเตะทุกคนว่าทำเกมรุกมีประสิทธิภาพมาก เรากดดันเ ขาได้ตลอดและมีโอกาสในการทำประตูจนได้สกอร์ขึ้นนำ ส่วนครึ่งหลังยอมรับว่าแม่กลองมาดีกว่า ทำให้เราเน้นรับ ประสิทธิภาพในเกมรุกเลยหายไป ยังดีที่ช่วงท้ายเราดีขึ้นอีกแต่ก็ยิงประตูที่สองไม่ได้ ถือว่า 3 แต้มมีค่ามากเพราะเป็นนัดมาเยือนด้วย

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม

สมุทรสงคราม : ทศพร ศรีเรือง 7, อภินันท์ แก้วปีลา 6.5 (เทวา พรมมา 5), ทรงวุฒิ บัวเพชร 6.5, พัชรินทร์ สุกใส 6, จีระวัฒน์ แก้วโบราณ 7, กิตติราช เสนาะ 5 (คะนึง บุราณสุข 6), กัณตภณ สมพิทยานุรักษ์ 6.5, ปฏิภัทร รอบรู้ 6 (อรรถนพ ชัยแป้น 6), มิเชล 6, เอกศักดิ์ บัวเบา 7, สุขสยาม ชาญมณีเวช 7

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 7, ปกาศิต แสนสุข 7, เจษฏา จิตสวัสดิ์ 6.5, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ 7, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ 7 (สลาฮูดิน อาแว-),วาเลรี่ เซนู 6 (ยาย่า5),มูซ่า เซียล่า 6.5, วิศรุต พันนาสี 7, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว 7.5, อนุสรณ์ ศรีชาหลวง 6.5 (สุริยา ดอมไธสง 5), แดนโก้ เซียก้า6

แมนออฟเดอะแมตซ์ : พิชิตพงษ์ เฉยฉิว กองกลางตัวทำประตูของเมืองทอง ยูไนเต็ด

บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-1 การท่าเรือไทย เอฟซี

ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 เจ้าบ้าน "เดอะกล๊าสแร๊บบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี จ่าฝูง มี 24 แต้มจาก 10 นัด เปิดรังรับการมาเยือนของ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือฯ ไทย อันดับ 5 ลงสนาม 9 นัดมี 14 แต้ม นัดนี้เจ้าบ้านส่งชุดใหญ่ ทั้ง นันทวัฒน์ แทนโสภา, อนาวิน จูจีน,อำนาจ แก้วเขียว, พลวัฒน์ วังฆะฮาด แต่ขาด รุ่งโรจน์ สว่างศรี, พีรพงษ์ พิชิตโชติรัตน์ ที่ติดโทษแบน ส่วน การท่าเรือฯ ให้ พิพัฒน์ ต้นกันยา, จีรวัฒน์ มัครมย์,นิรุตน์ คำสวัสดิ์ เป็นตัวหลัก โดยเกมนี้มี ผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอลทั้ง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานจัดการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก, ปีเตอร์ รีด กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย และมือขวา สตีฟ ดาบี้ เข้ามาชมเกมด้วย เริ่มครึ่งแรก น.20 บางกอกกล๊าส ได้ลุ้นก่อน อนนท์ บุญสุโข เปิดบอลยาวครึ่งสนามให้ นันทวัฒน์ แทนโสภา หลุดแผงหลังของ การท่าเรือฯ ไปซัดตรงกรอบเขตโทษด้านขวา แต่บอลพุ่งออกเสาสองไปแบบมีลุ้น น.28 นันทวัฒน์ แทนโสภา ได้จังหวะตั้งป้อมซัดตรงกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงตรงตัว ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ ต้องชกออกหลังไป น.30 พิพัฒน์ ต้นกันยา เปิดบอลจากด้านข้างให้ จีรวัฒน์ มัคครมย์ ก่อนเจ้าตัวแทงบอลต่อให้ นิรุตน์ คำสวัสดิ์ ซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลออกข้างเสาแรกไป น.31 การท่าเรือไทย ได้ฟรีคิกระยะ 30 หลา จีระวัฒน์ มัคครมย์ ห้องเครื่องที่ซัดประตูจากฟรีคิกไปแล้ว 3 เม็ด รับหน้าที่ปั้น บอลพุ่งจะเสียบคาน แต่ กฤษณะ กลั่นกลิ่น พุ่งปัดไว้ได้

น.37 สิงห์เจ้าท่า โต้กลับ พิพัฒน์ ต้นกันยา กระชากบอลเข้าหากองหลัง บางกอกกกล๊าส ก่อนไหลให้ นิรุตน์ คำสวัสดิ์ ด้านขวา เจ้าตัวแตะบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดเต็มข้อเสียบเสาสอง ไม่เหลือ ทำให้ทีมเยือนออกนำ 1-0 งานนี้ นิรุตน์ ดีใจหนักไปหน่อย วิ่งดึงเสื้อขึ้นมาปิดหน้า ผู้ตัดสินเลยควักใบเหลืองแจกฉลองการทำประตูด้วย น.44 อนาวิน จูจีน ของบางกอกกล๊าส เปิดบอลจากริมกรอบเขตโทษด้านขวาให้ นันทวัฒน์ แทนโสภา โหม่งที่เสาสองแต่แป๊กออกหลังไป จากนั้นอีกนาทีเดียว นิรุตน์ คำสวัสดิ์ ได้ซัดฟรีคิกระย 35 หลาบอลพุ่งจะเข้ากรอบกฤษณะ กลั่นกลิ่น เซฟไว้ได้ โดยเป็น อิทธิพล นนท์ศิริ กองหลัง การท่าเรือฯ ที่เติมมาสูง พุ่งเข้าชาร์จผู้รักษาประตูอีก ทำให้ผู้ตัดสินควักใบเหลืองแจกอีกราย หมดครึ่งแรก การท่าเรือฯ บุกมานำ บางกอกกล๊าส 1-0

ครึ่งหลัง น.48 การท่าเรือฯ ได้ฟรีคิกทางริมเส้นด้านขวา จีรวัฒน์ มัคครมย์ เปิดเข้าไป เป็นดาริโอ ดาซิลวา โหม่งเต็มหัว แต่บอลข้ามคานอย่างน่าเสียดาย ถัดมาอีกนาทีเดียว บางกอกกล๊าส เกือบได้บ้างเมื่อ พลวัฒน์ วังฮะฆาด กระชากถึงเส้นหลัง ก่อนหักเข้ากลางให้ อาจายี่ แปรเน้นๆ บอลจะเสียบเสาแรกแต่ ภัทรกร ยังพุ่งปัดไว้ได้ แต่การท่าเรือฯ ก็ไม่รอด จากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุม ศุภชัย คมศิลป์ เปิดเตะมุมด้านขวา ด้วยเท้าซ้ายเข้ามากลางถึงหัว อำนาจ แก้วเขียว กัปตันทีมบางกอกกล๊าส ที่ดันมาสูงโหม่งตรงกรอบ 6 หลาเสาสอง บอลย้อนศรเสียบคานเสาแรกสุดสวย บอลกลับมาสกอร์เท่ากัน 1-1 น.54 ไกรเกียรติ เบียดตะคุ ของบางกอกกล๊าส โดนเหลืออย่างไม่น่าเสีย เมื่อ เจ้าตัวตัดบอลจาก นิรุตน์ คำสวัสดิ์ ได้ก่อนจะเล่นบอลต่อ แต่โดน นิรุตน์ กระแทกจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินดันไม่ยอมเป่าฟาล์วจน การท่าเรือฯ ตัดบอลไปได้ทำให้ เจ้าตัวไปโวยวายผู้ตัดสิน สุดท้ายเลยโดนเหลือไประงับอารมณ์ น.59 บางกอกกล๊าส กมดีขึ้นผิดหูผิดตา อาจายี่ โชว์สเต๊ปเทพ กระชากบอลริมเส้นด้านซ้ายหลอก 2 กองหลัง การท่าเรือฯ ก่อนเข้าไปยิงจ่อๆ ติดตัว ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ และเด้งมาเข้ามือ ภัทรกร อีกครั้ง ถัดมาอีกนาทีเดียว บางกอกกล๊าส ถอด เนสสัน มาติน แล้วให้ สุรเชษฐ์ งามทิพย์ ลงเล่นแทน ซึ่งถือว่าเป็นนักเตะน้อยที่สุดในสนามแค่ 18 ปีเท่านั้น

น.74 อำนาจ แก้วเขียว พุ่งเข้าเคลียร์บอลก่อนที่ เจษฎา ภู่เล็ก จะถึงบอล ทำให้เกิดการปะทะกัน แต่ทาง มาริโอ ดาซิลวา กองหลังของทีม การท่าเรือฯ ดันไม่พอใจ เข้ามาผลักจะเอาเรื่อง ทำให้ กฤษณะ กลั่นกลิ่น ของบางกอกกล๊าส เข้าไปผลักด้วย ทำให้ผู้ตัดสินแจกเหลืองไปทั้งคู่ จากนั้น ผู้ตัดสินแจกสุเชษฐ์ งามทิพย์ ของบางกอกกล๊าส ที่ไปฟาล์ว ผู้เล่นการท่าเรือฯ ด้วย น.82 นิรุตน์ คำสวัสดิ์ หัวหอกการท่าเรือไทยฯ ถึงกับเป็นตะคริว ทำให้ต้องส่งเอ็ดวานโด้ลงสนามแทน ขณะที่บางกอกกล๊าส ส่ง อนาวิน จูจีน ออกแล้วให้ ศรัณย์ พรหมแก้ว ลงสนาม และชาตรี ฉิมทะเล ลงแทน ซามูเอล อาจายี่

ท้ายเกม บางกอกกล๊าส น่าจะได้ประตูชัย จากจังหวะที่ ศุภชัย คมศิลป์ เปิดฟรีคิกจากระยะ 30 หลาด้านขวาของกรอบเขตโทษ บอลพุ่งชนเสาสองอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบเกมเสมอกันสุดมันส์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม

วาทะโค้ช

ฮาน เอ็มเซอร์ บางกอกกล๊าส เอฟซี - เกมนี้บอกตรงๆ ไม่เคยเจอผู้ตัดสินที่แย่แบบนี้มาก่อน ตั้งแต่แข่งขันในศึกไทยลีก ทำให้เกมเราแย่ไปหมด แต่ก็ยอมรับว่าครึ่งแรกด้วยแทคติดที่ไม่ลงตัว ทำให้ทีมไม่ดีแต่ยังดีที่ครึ่งหลังปรับแต่งลงไปใหม่ ทีมเลยดีขึ้น แต่ไม่เป็นไรเส้นทางลุ้นแชมป์อีกยาวไกล คงต้องทำให้ดีกว่านี้

สะสม พบประเสริฐ การท่าเรือไทยเอฟซี - โอเคเราน่าชนะ เพราะเรามาพลาดแค่ลูกตีเสมอแค่ลูกเดียวเท่านั้นเชื่อว่าจากนี้ฟอร์มนักเตะจะ ดีขึ้นเรื่อยๆ และถ้าดูจากตารางคะแนน เชื่อว่าเรามีลุ้นแชมป์แน่นอน

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม

บางกอกกล๊าส เอฟซี. กฤษณะ กลั่นกลิ่น 7, พลวัฒน์ วังฆะฮาด 7.5, ไกรเกียรติ เบียดตะคุ 7, อำนาจ แก้วเขียว 8, อนนท์ บุญสุโข 7.5, ซามูเอล อาจายี่ 6.5 (ชาตรี ฉิมทะเล-), เนลสัน มาติน 6 (สุรเชษฐ์ งามทิพย์ 5.5 ), อนาวิน จูจีน 6.5 (ศรัณย์ พรหมแก้ว 5.5 ), ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ 7, ศุภชัย คมศิลป์ 7.5, นันทวัฒน์ แทนโสภา 7

การท่าเรือไทย เอฟซี ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ 7.5, บุญมี บุญรอด 7, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ 7, พิพัฒน์ ต้นกันยา 6 (เจษฎา ภู่เล็ก 5.5), จีระวัฒน์ มัครมย์ 7, นิรุตน์ คำสวัสดิ์ 7 (เอ็ดวานโด้-), มาริโอ ดาซิลวา 7, กิตติศักดิ์ ธนะสุวรรณ 7, เกียรติเจริญ เรืองปาน 7.5, อิทธิพล นนท์ศิริ 7.5, ยุทธนา ไชยแก้ว 6 (ณรงค์ฤทธิ์ สามนปาน 6)

แมนออฟเดอะแมตช์ อำนาจ แก้วเขียว กัปตันทีมบางกอกกล๊าส ผู้โขกประตูตีเสมอให้ทีม

ทีโอที เอฟซี 2-1 ราชนาวีระยอง

ที่สนามกีฬาจ.กาญจนบุรี (กลีบบัว) "ฮัลโหล" ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 9 เปิดบ้านรับมือ ราชนาวีระยอง อันดับ 14 เกมนี้เจ้าถิ่น ทีโอที เอฟซี นำทัพโดย สุเชาว์ นุชนุ่ม, กิตติพงศ์ มูลพงษ์, สิทธิศักดิ์ ตาระพันธ์ รวมถึง 2 แข้งผิวสี เคาดิโอ พาสคาล และ โคเน่ เซดู กองกลางและหลัง ด้านทีมเยือนที่นัดนี้ไร้เงากุนซือใหญ่ น.ท.สุขสันต์ คุณสุทธิ์ เนื่องจากเจ้าตัวติดภารกิจเดินทางไปร่วมศึกฟุตบอลอาวุโสชิงแชมป์โลก โดยมีสตาฟฟ์โค้ช น.ท.เอกรัตน์ ทรัพย์สิน มาคุมทัพแทน

เริ่มครึ่งแรกท่ามกลางสภาพสนามที่แฉะลื่น เพราะฝนเทลงมาก่อนเกมจะเริ่มราว 1 ชั่วโมง เพียงไม่ถึงนาที สุเชาว์ นุชนุ่ม เกือบจะได้หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน ของทีมเยือนอยู่แล้วดีที่ พัฒนพงษ์ เซี่ยมผุง มาเบรคเกมไว้ได้ก่อนบอลจะไปเข้ามือสิทธิพงษ์ น. 5 โอกาสเป็นของทีมเยือนบ้างจากการหลุดไปซัดของ สมเจร สัตบุษ แต่ไปติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่นราชนาวีระยองออกมา น. 8 กองเชียร์เจ้าถิ่นเกือบได้เฮเมื่อ ไกรสรณ์ ศรียันต์ หลุดเข้าไปซัดบอลแฉลบกองหลังทีมเยือน สุระเดช เสาไธสง ทำท่าจะย้อยเสียบใต้คาน แต่บอลชนคานกระดอนออกมาเข้าทางปืน กิตติพงศ์ มูลพงศ์ ชาร์ตเหน่งๆ ข้ามคานไปอีก น. 16 ทีมเยือนฟรีคิก พัฒน์พงษ์ เซี่ยมผุง ปั่นเข้าไปโดน เคาดิโอ พาสคาล กองกลางเจ้าถิ่น สกัดไม่ดีบอลเกือบปลิ้นไปถึง เฟดเดอริค อดัม ดีที่ กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ ตามตระครุบไว้ได้ น. 20 โคเน่ เซดู กองหลัง ทีโอที ดึงสมเจต ล้มลงราชนาวีระยองได้ฟรีคิกระยะ 30 กว่าหลา มารุต ดอกมะลิป่า ซัดไปติดกำแพงไม่มีลุ้นอะไร น. 27 ทีโอที ที่แม้จะเดินเกมรุกได้วูบวาบกว่าแต่ปัญหาก็คือการจบสกอร์ที่ทำได้ไม่เฉียบคม พลาดโอกาสนำไปอีกครั้งเมื่อ รัฐศักดิ์ บุญรัตน์ กระชากหนีศรายุทธ เขียวแพร ก่อนเปิดไปติดแนวรับราชนาวีระยองโขกทิ้งออกมาเข้าทาง สุเชาว์ นุชนุ่ม ชาร์ตซ้ำเหน่งๆ ไม่ผ่านมือ สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน

น. 34 ทีโอที ได้เตะมุม ธีรชัย งามเจริญ เปิดเตะมุมขวาเข้าในเขตโทษบอลตกใส่ ศรายุทธ เขียวแพร แนวรับทีมเยือนก่อนจะโดน เคาดิโอ พาสคาล หลุดไปยิงเผาขนแต่นักเตะชาวไอวอรี่โคสต์ รายนี้ยิงหลุดกรอบไปแบบไม่น่าเชือ น. 38 เคาดิโอ พาสคาลทำแฟนบอลเจ้าถิ่นเซ็ง เมื่อกระชากหนีศรายุทธ เขียวแพร ไปได้ถึงในเขตโทษเกือบจะสุดเส้นหลัง แล้วตัดสินใจยิงยัดเอง บอลเลยออกหลังไปแบบน่าผิดหวัง

น. 43 สุระเดช เสาไธสง สกัดบอลพลาด เป็นลูกส้มหล่นให้ ไกรสรณ์ ศรียันต์ แต่เจ้าตัวรีบซัดไปหน่อย บอลหลุดเสาสองออกหลังไปแบบน่าผิดหวัง หมดครึ่งแรกยังเสมอกัน แบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง น. 52 สุเชาว์ นุชนุ่ม เตะมุมซ้ายโคเน่ เซดู โขกเช็ดบอลผ่านหน้า สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน นายทวารราชนาวีระยองไปจะถึง กิตติพงศ์ มูลพงษ์ ตัดสินใจจะเจตนาใช้มือทำเข้าประตูผู้ตัดสิน สานิตย์ สุขสมดาว ให้ ใบเหลืองเป็นรางวัลไป น.65 สุเชาว์ นุชนุ่ม เปิดฟรีคิกไปเข้าหัว ไกรสรณ์ ศรียันต์ โขกเข็ดเข้าไปอย่างสวยงาม ทีโอที ออกนำ 1-0 น. 67 ดีใจได้แค่ 2 นาทีกองเชียร์ ทีโอที ก็ต้องเซ็งเมื่อ แนวรับ ทีโอที 2 คนอย่าง ดุรงฤทธิ์ ศรีลา กับ โคเน่ เซดู พลาดปล่อยให้ รัฐพร แซ่ตั๋นหลุดเข้าไปซัดเสียบเสาสองไม่เหลือซากสกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1

น. 89 สองทีมหวิดมีเรื่องกันในสนามหลังจากเตะติดดาบกันมาตลอดหลังสกอร์มาอยู่ที่ 1-1 แต่ไม่มีอะไรบานปลาย น. 92 ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 ของเกมนี้กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นสนามพร้อมกับมีเสียงตะโกนด่าทอผู้ ตัดสินมาจากฝั่งกองเชียร์ราชนาวีระยอง ที่มากับกระป๋องเบียร์จากอัฒจรรย์ ทำเอาเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารที่ดูแลควาปลอดภัยต้องขึ้นไปเชิญตัวออกจากสนาม หลังจากที่ผู้ตัดสิน สานิตย์ สุขสมดาว เป่าให้ ทีโอที ได้จุดโทษจากการทำแฮนด์บอลของ เสกสันต์ ชาวทองหลาง ในจังหวะขึ้นโขกกับ สุเชาว์ นุชนุ่ม เจอดอกนี้เข้าไป ทำเอานักเตะ "ตะหานน้ำ" ถึงกับเดือดจัด พากันเดินออกจากสนามเป็นเวลาถึง 5 นาทีก่อนตัดสินใจมาเล่นต่อไปและเป็น สุเชาว์ นุชนุ่ม ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไป

น. 99 หวิดมีการฟาดปากกันอีกครั้งหลังจาก กีรติ เขียวสมบัติ โดนทำฟาวล์แล้วรัฐศักดิ์ บุญญรัตน์ เดือดแทนเพื่อนจะไปเอาเรื่องนักเตะราชนาวีระยองผู้ตัดสินต้องห้ามทัพอีก ครั้ง โดยจังหวะนี้มีขาดน้ำลอยเข้าไปในสนามจากแฟนบอลอีกครั้งพร้อมกับมีป้ายของกอง เชียร์ราชนาวีระยองชูขึ้นมาด้วยว่า "มาตรฐานบอลไทยอยู่ที่กรรมการ" ก่อนที่ผู้ตัดสินจะปล่อยให้เกมดำเนินไปกว่าเวลาปกติถึง 15 นาที จึงเป่าจบเกม

หลังจบเกมมารุต ดอกมะลิป่า กับ เสกสันต์ ชาวทองหลางไม่พอใจผู้ตัดสินจะเข้ามาเอาเรื่อง แต่เพื่อนร่วมทีมรวมถึงเจ้าหน้าที่ทีมราชนาวีระยอง มาห้ามไว้ได้จบเกมทีโอที เฉือนชนะไปได้หวุดหวิด 2-1 ชนิดเกมดุเดือด

วาทะโค้ช

พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ กุนซือ ทีโอที เอฟซี - ราโชคดีมากกว่าที่เก็บ 3 แต้มในเกมนี้โดยเฉพาะการได้จุดโทษช่วงท้ายเกม แม้จะเป็นลูกโทษปัญหาก็ตามแต่ก็เป็นการตัดสินใจของผู้ตัดสิน ซึ่งเกมนี้ผลน่าจะลงเอยด้วยการเสมอกันมากกว่าพอใจครับกับ 3 แต้มทำให้อันดับเราดีขึ้น

เอกรัตน์ ทรัพย์สิน ผช.โค้ช ทีมราชนาวีระยอง - ทีมเรามักโดนแบบนี้เป็นประจำเลยทีเดียวโดยเฉพาะเกมนัดเยือนจริงแล้วเกมสู้ กันได้สนุกทีเดียวหลายครั้ง เราได้ทำหนังสือไปยังสมาคมฟุตบอลแต่ไม่มีอะไรกลับมาเกมนี้เราแพ้ก็เพราะผู้ ตัดสินที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ ผมอยากจะฝากไปถึง บ.ไทยพรีเมียร์ลีกด้วยว่าอย่ารังแกทีมเล็กเป็นอันขาดไม่เช่นนั้นอีกหน่อยคง ไม่มีแฟนบอลเข้าไปดูแน่หากยังปล่อยให้ผู้ตัดสินเป็นแบบนี้

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

ทีโอที เอฟซี : กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ 6, รัฐศักดิ์ บุญญรัตน์ 6, ดุรงฤทธิ์ ศรีลา 6, เคาดิโอ พาสคาล 6, สุเชาว์ นุชนุ่ม 7, สิทธิศักดิ์ ตาระพันธ์ 6 (กีรติ เขียวสมบัติ 6) ( สมรชัย พลายงาม - ), กิตติพงษ์ มูลพงศ์ 6 ( กิตติภัทร วงศ์สมบัติ 5.5 ), ธีรชัย งามเจริญ 6, รัตนะ เพ็ชอาภรณ์ 6, โคเน่ เซดู 6, ไกรสรณ์ ศรียันต์ 6.5

ราชนาวีระยอง : สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน 6, ศรายุทธ เขียวแพร 6, สุระเดช เสาไธสง 6, แฟดเดอริค อดัม 6 ( ดนุสรณ์ ผุยแสงพันธ์ 6), ใหญ่ นิลวงษ์ 6 (สุทธินันท์ นนที 6), สมเจตร สัตบุษ 6, เสกสันต์ ชาวทองหลาง 6, มารุต ดอกมะลิป่า 6, ศุภชัย ขำทรัพย์ 6, รัฐพร แซ่ตั๋น 6, พัฒน์พงษ์ เซี่ยมผุง 6 (อุดร พิมพ์ภาค 6)

แมนออฟเดอะแมตซ์ : สุเชาว์ นุชนุ่ม ปีกขวาตัวเก่งทีโอที เอฟซี

ชลบุรี เอฟซี 3-0 นครปฐม เอฟซี

ที่สนามสิรินธร อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าบ้าน "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 2 ของตารางที่มีอยู่ 20 แต้ม เปิดบ้านพบ "นักสู้เจดีย์ใหญ่" นครปฐม ทีมอันดับ 6 มีอยู่ 13 แต้ม เกมนี้เจ้าบ้านยังมีตัวหลักลงครบครันนำโดย สุรีย์-สุรัตน์ สุขะ,อาทิตย์ สุนทรพิชและ โคเน่ โมฮาเหม็ด ส่วนผู้มาเยือนมี ไมเคิล เบิร์น, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ และ ประหยัด บุญญา นำทัพ

เริ่มครึ่งแรก น.4 เจ้าบ้านก็มีโอกาสทักทายก่อน สุรีย์ เปิดบอลจากริมเส้นขวามาให้ โคเน่ ได้โหม่งที่กลางประตูบอลหลุดสามเหลี่ยมแค่คืบ น.6 เอกพันธ์ ลากเข้าไปถึงเส้นหลัง ก่อนไหลมาหน้าประตู พิภพ ได้ยิงเหน่งๆ แต่ไม่ดี น.7 เจ้าบ้านยังบุกต่อเนื่อง และมีลุ้นจากฟรีคิกริมกรอบประตู 18 หลาฝั่งขวา อาทิตย์ ปั่นโค้งชนเสาแรกอย่างจัง น.9 อดิศร แดงเรือง เข้าสกัดข้างหลัง โคเน่ รับเหลืองเป็นคนแรกของเกม น.13 ผู้มาเยือนได้ลุ้นบ้างเมื่อ วิมล คืนหลังให้ ไมเคิล เบิร์น ซัดนอกกรอบบอลพุ่งเข้าหากรอบ แต่ โกสินทร์ ยังรับเข้าซอง น.15 ชลบุรี ได้โต้เร็วบ้าง สุรัตน์ เปิดโด่งมาหน้าประตู โคเน่ โหม่งเต็มกบาลบอลจะมุดคานอยู่แล้วแต่ มานะ ยังลอยไปปัดข้ามคานไปได้ น.19 กองเชียร์เจ้าบ้านได้เฮลั่นเมื่อ อาทิตย์ จ่ายถวายพานให้ โคเน่ หลุดเช็คล้ำหน้าเข้าไปยิงให้ชลบุรีขึ้นนำ 1-0 น.27 ชลบุรีได้เตะมุม อาทิตย์ เปิดมาหน้าประตู สุรีย์ ขึ้นปะทะกับ ริจินัลโด้ ถึงกับแตกต้องหยุดปฐมพยาบาลชั่วคราวทำให้ สุรีย์ มีแผลแตกที่โหนกแก้มขวาต้องส่ง เจษฎากร เหมแดง ลงเล่นแทน น. 39 ชลบุรีได้ลูกเตะมุมอีกครั้ง อาทิตย์ เปิดมาเสาสอง โยชิอากิ โหม่งขงเข้ามาหน้าประตู โคเน่ โหม่งซ้ำไปโดนแขน วุฒิศักดิ์ ตรงหน้าประตูบอลปลิ้นออกไป ลูกนี้ผู้ตัดสินให้แค่เตะมุมทำให้นักเตะชลบุรีรุมประท้วงจะเอาลูกจุดโทษแต่ ก็ไม่เป็นผลได้แค่ลูกเตะมุมเท่านั้น

น.43 ผู้มาเยือนได้ลุ้นบ้างเมื่อได้ฟรีคิกริมเส้น นนทพันธ์ เปิดไปที่เสาสอง วุฒิศักดิ์ ได้โหม่งโล่งๆ แต่โหม่งไม่ดี โด่งออกหลังไป หมดครึ่งแรก ชลบุรีนำ 1-0

ครึ่งหลัง น.46 เจ้าบ้านก็ได้เฮกันลั่น พิภพ หลุดเข้าไปลากหลบ 2 กองหลัง นครปฐม เข้าไปยิงเหน่งๆ ไม่เหลือซากสกอร์เจ้าบ้านขยับ 2-0 น.52 เจ้าบ้านยังไล่ขย่มอยู่ฝ่ายเดียวและมีโอกาสลุ้นขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ พิภพ หลุดเข้าไปดวลกับ มานะ แต่ลูกนี้ พิภพ ยิงไม่ดีพอติดมือโกล์นครปฐม น.60 พิภพ ยังคงโดดเด่นมีโอกาสหลุดเข้าไปดวลกับ มานะ อีกครั้งแต่ยังยิงไม่ดีพอตรงตัว มานะ เซฟไว้ได้ทัน น.64 อาทิตย์ เล่นบอลยาวตักโด่งไปริมเส้นซ้าย ณัฐพงษ์ เติมมาสวยก่อนตะบันด้วยซ้ายบอลหลุดเสาแค่คืบเดียว น.66 นครปฐมได้โต้กลับเร็ว เอกภูมิ ได้ซัดหน้ากรอบแต่ยังโด่งออกไป น.75 ไมเคิล เบิร์น ลากหลบสองนักเตะเจ้าถิ่นก่อนชิ่งให้ อดิศร แล้วไหลต่อให้ ริจินัลโด้ ได้ยิงแต่ยังหลุดกรอบไกล น.83 ชลบุรียังร้อนแรงไม่เลิกได้ลูกเตะมุม อาทิตย์ เปิดมาเสาแรก มารุยาม่า โถมขึ้นมาโหม่งเต็มหัวให้ชลบุรีนำ 3-0

ช่วงท้ายเกม นครปฐม พยายามทำเกมบุกสู้ แต่ก็ไม่เป็นผล จบเกม ชลบุรี ชนะนครปฐม 3-0 เก็บ 3 แต้มเต็มในบ้านได้สำเร็จ

วาทะโค้ช

"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือชลบุรี - ดีครับเกมนี้เราคาดหวังทุกเกมที่เล่นในบ้านซึ่งวันนี้นักเตะก็ทำได้ดีเล่น กันดีทุกคนจะว่าไปแล้ววันนี้นครปฐมก็มาดีแต่เรานั้นทำได้ดีกว่าจึงชนะในเกม นี้ ต้องยกเครดิตให้นักเตะทุกคนที่ช่วยกัน

สถิตย์ ทวีนุช เฮดโค้ชนครปฐม เกมวันนี้ไม่มีอะไรเลย เล่นกันได้สนุกสูสีเราเป็นรองอยู่แล้ว แต่นักเตะก็ทุ่มเทกันได้ดี เราโชคร้ายที่เสียประตูลูกแรก ดูแล้วผู้ช่วยผู้ตัดสินพลาดเพราะเห็นแล้วล้ำหน้าเยอะมาก ไม่เป็นไรเอาใหม่ครับฟุตบอลมีแพ้มีชนะแต่อยากให้ผู้ตัดสินพัฒนาการทำหน้าที่ ด้วย

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

ชลบุรี เอฟซี : โกสินทร์ หทัยรัตนกุล 6.5, ณัฐพงษ์ สมณะ 6.5, ภานุวัฒน์ จินตะ 6.5 (อดุล หละโส-), อาทิตย์ สุนทรพิช 6.5, พิภพ อ่อนโม้ 7, มารุยามา 6.5, โคเน่ โมฮาเหม็ด 7 (ไกรสร ปั้นเจริญ-), เอกพันธ์ อินทะเสน 6.5, ชลทิตย์ จันทคาม 6.5, สุรัตน์ สุขะ 6.5, สุรีย์ สุขะ 5.5 (เจษฎากร เหมแดง 6)

นครปฐม เอฟซี : มานะ นพเนตร 6.5, ประหยัด บุญญา 6 (เดชาวัติ กลิ่นพยอม 5.5), บิรอนเซ่ 6, วุฒิศักดิ์ มณีสุข 6, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ 6 (อนุสรณ์ สีมี 5.5), วิมล จันทร์คำ 6, ไมเคิล เบิร์น 6, อดิศร แดงเรือง 6, ประดิษฐ์ สว่างศรี 6 (ปริญญา อู่ตะเภา 5.5), นนทพันธ์ เจียรสถาวงศ์ 6.5, รีจินัลโด้ 6

แมนออฟเดอแม็ตช์ : พิภพ อ่อนโม้ กองหน้าจอมเก๋าของชลบุรี

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/