Monday, June 21, 2010

โค้ชแต๊กชูพิพัฒน์คู่ใครก็ได้ในแดนหน้า

"โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม กุนซือใหญ่ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ชู พิพัฒน์ ต้นกันยา ดาวยิงจอมเก๋าดีกรีทีมชาติไทย ที่เพิ่งได้ตัวมาจาก ซูเปอร์ลีก อินโดนีเซีย จะมาช่วยแก้ปัญหาการจบสกอร์ได้แน่ และเชื่อในฝีเท้าจะยืนล่าตาข่ายคู่กันใครก็ได้

ภายหลังจากที่ทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้ตัว "ต้น" พิพัฒน์ ต้นกันยา ดาวยิงจอมเก๋าดีกรีทีมชาติไทย มาจากซูเปอร์ลีก อินโดนีเซีย คาดว่า จะส่งลงเล่นประเดิมสนามใน เกม "มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2010" รอบสี่

โดย "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม กุนซือใหญ่ของทีม เปิดเผยว่า "พิพัฒน์ เขาเป็นนักเตะในตำแหน่งกองหน้า ที่มีประสบการณ์อย่างโชกโชน ผ่านมาหมดทั้งในเกมระดับลีกภายในประเทศ และต่างประเทศ ขณะเดียวกัน เกมในระดับทีมชาติ จัดว่า อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ

มั่นใจว่า การที่เราได้ตัวของ พิพัฒน์ ต้นกันยา มาร่วมทัพ จะสามารถแก้ไขปัญหา ในแดนหน้าได้แน่ และก็ยังมั่นใจอีกว่า ด้วยความที่มีวิญญาณของเพชฌฆาตอย่างเต็มเปี่ยม เขาจะสามารถยืนคู่กับใครก็ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น สุริยา ดอมไธสง หรือ คนึง บุราณสุข" โค้ชแต๊ก กล่าว

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ราชนาวีโวยเปาตัดสินผิดพลาดทำแฟนเดือด

"เสี่ยหนึ่ง" ประสพโชค ชลวีระวงศ์ บอร์ดบริหารทีม "ม้านิลมังกร" ราชนาวี ระยอง ออกโรงโวย ผู้ตัดสินไร้คุณภาพในการตัดสิน ทำให้แฟนไม่พอใจ และขว้างน้ำแข็งลงในสนาม จนเป็นต้นเหตุให้สโมสรโดน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก สั่งปรับ 3 พันบาท

ทีม "ม้านิลมังกร" ราชนาวี ระยอง ที่โดนปรับเงิน 3 พันบาทนั้น "เสี่ยหนึ่ง" ประสพโชค ชลวีระวงศ์ 1 ในบอร์ดบริหารทีมในส่วนของ อบจ.ระยอง ได้ออกมากล่าวว่า "จริงแล้วเกมนัดที่เราแพ้โอสถฯ นั้น ผมว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ที่มีการขว้างน้ำแข็งลงมาจากแฟนบอลนั้น มีสาเหตุมาจากเขาไม่พอใจ การทำหน้าที่ตัดสินเกมนัดดังกล่าวของ สุระ ศรีอาจ

เกมนั้นหากใครได้ชมการถ่ายทอดสดทางช่อง ทรูสปอร์ต จะเห็นเลยว่ามีถึง 2 จาก 4 จังหวะที่ผู้เล่นเราโดนทำฟาวล์จากผู้เล่นโอสถฯ และเราสมควรได้จุดโทษ แต่เราก็ไม่ได้ ตรงนี้เป็นต้นเหตุทำให้แฟนบอลเราไม่พอใจผู้ตัดสิน

ผมอยากจะฝากไปยัง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ด้วยว่า ให้พิจารณาผู้ตัดสิน ที่ลงทำหน้าที่ โดยเฉพาะกับลีกใหญ่ๆ อย่างไทยพรีเมียร์ลีก ให้เน้นคำว่าคุณภาพ ให้มากกว่าเดิม เพราะแต่ละทีม ไม่ใช่ว่าใช้เงินลงทุนกันหลักแสน แต่ลงทุนเป็นหลักสิบล้านบาท หากทีมจะพังกับผลงานการตัดสินที่ออกมาเกิดจากผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้แย่ๆ นั้นผมว่ามันไม่ใช่นะ"

นอกจากนี้ "เสี่ยหนึ่ง" ยังกล่าวอีกด้วยว่า "จากที่ก่อนหน้านี้ ผมเคยให้ข่าวไปว่าในเลกสองนั้น ทีมราชนาวี ระยอง จะมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นบางราย โดยเฉพาะตัวต่างชาติ เพื่อความเหมาะสม ซึ่งมีนักเตะอย่าง อเล็กซ์ อาวิล่า กองหลังชาวบราซิล ไม่อยู่ในแผนทำทีม นั้น

ปรากฏว่าล่าสุดมีทีมจากลีกดิวิชั่น 1 หลายทีมทั้ง สงขลา, ปตท. รวมถึงฮอนด้า แสดงความสนใจในตัวนักเตะรายนี้ ที่ต้องการได้ตัวไปเสริมทัพ โดยขณะนี้ เรากำลังพิจารณา ซึ่งต้องให้ตัว อเล็กซ์ เขามีส่วนในการตัดสินใจอนาคตของเขาเองด้วยว่าจะย้ายไปเล่นให้ที่ไหน"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ดร.วิชิตเตรียมเรียกไทยลีก,ด.1คุยถึงมาตรฐาน

ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก เตรียมเรียก 2 ลีก คุยทั้ง ไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 วันที่ 23 มิ.ย. ถึงมาตรฐานบอลไทย เพื่อนำเอาข้อบกพร่องมาปรับใช้ในเลกสอง ส่วนการเพิ่มทีมไทยลีกเป็น 18 ทีม ชี้ต้องดูการวัดมาตรฐานของเอเอฟซีก่อน ว่าสโมสรในไทยลีกผ่านเกณฑ์ขนาดไหน หากเพิ่มขึ้นมาแล้วไม่ดี มันก็เหมือนปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งเข่ง

ที่สมาคมฟุตบอล แห่งประเทศไทย ได้มีการประชุมแมตช์คอมมิชันเนอร์ ประจำอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมี ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก เป็นประธาน ก่อนออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ด้วยการประเดิมปรับทีม ราชนาวี ระยอง อีก 3 พันบาท หลังจากแฟนบอลใช้น้ำแข็งขว้างนักเตะของโอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี

"โดยเราปรับขั้นต่ำ 5 พันบาท เพราะวางกฎไว้ว่าเป็นขวดน้ำ แต่นี้เป็นน้ำแข็ง ซึ่งเราปรับตามความเหมาะสม แต่อนาคตจะต้องเปลี่ยนกฎว่า ห้ามขว้างสิ่งของลงสนาม จะปรับขั้นต่ำ 5 พันบาทอย่างแน่นอน เพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป"

เรียก 2 ลีกคุย 23 มิย.,มาตรฐานบอลไทย

นอกจากนั้น ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ยังกล่าวต่อว่า ในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ จะมีการเรียกประชุมทั้งไทยลีก และ ด.1 ในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ ที่ รร.เรดิสัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. โดยในช่วงเช้าเป็นของดิวิชั่น 1 และช่วงบ่าย เป็นของไทยลีก โดยจะพูดคุยในเรื่องของโปรแกรมของเลกที่ 2 เรื่องการโอนย้ายผู้เล่น, การตัดสินลงโทษต่างๆ หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมที่เกิดขึ้น และการเปลี่ยนแปลงระเบียบต่างๆ นอกจากนั้นยังมีเรื่องของปัญหาอุปสรรค ของสนามต่างๆ ที่ทางฝ่ายจัดการแข่งขัน เราไปเจอมา

ดร.วิชิต กล่าวต่อว่า "นอกจากนั้นทาง เอเอฟซี จะเดินทางมาประเมิน 16 สโมสรของไทยพรีเมียร์ลีก ในช่วงเดือน ต.ค. หลังจากที่สโมสรต่างๆ ได้ส่งเอกสารข้อมูลของสโมสรให้ทาง เอเอฟซี เรียบร้อยแล้ว แต่ก่อนที่ทางเอเอฟซี จะเดินทางมาตรวจจะเรียกทั้ง 16 สโมสรไปพรีเซนต์สโมสรตัวเองที่ เอเอฟซี มาเลเซีย ในช่วงเดือน สิงหาคม

ซึ่งทั้ง 16 สโมสรของเรา ก็จะต้องแย่งโควตาการเล่นศึก "เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก" กับสโมสร เวียดนาม, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย ด้วย ซึ่งตรงนี้ถือว่า เป็นทิศทางอนาคตของวงการฟุตบอลไทยเลยทีเดียว ถ้าหากไม่ได้โควตาเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกก็คงต้องรออีก 3 ปีแน่"

เพิ่มทีมต้องวัดมาตรฐานจากเอเอฟซี

ต่อคำถามของสื่อมวลชนที่ว่าในฤดูกาลหน้า จะมีโอกาสเพิ่มจำนวนทีมจาก 16 เป็น 18 ทีมหรือไม่ ดร.วิชิต ได้กล่าวว่า ตรงนี้คงต้องดูการวัดมาตรฐานของเอเอฟซี ก่อนว่าสโมสรในไทยลีก เราผ่านเกณฑ์ของเอเอฟซี ขนาดไหน เพราะถ้าหากเพิ่มขึ้นมาแล้วไม่ดี มันก็เหมือนปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งเข่ง และอยู่ที่ดุลยพินิจของผู้เกี่ยวข้องอย่าง ส.ฟุตบอล ด้วย

"ทุกสโมสรรู้กันอยู่ว่า การวัดมาตรฐานของแต่ละสโมสร อยู่ที่ การบริหารจัดการสนาม, การบริหารรายได้ ซึ่งมาจากแฟนบอลที่เข้ามาดู หรืออื่นๆ อีกเยอะ ซึ่งวันนี้ สโมสรในเมืองไทย ทำกันได้ดีขนาดไหน และทำได้ดีกี่ทีม ถ้าหากเพิ่มจำนวนทีมให้มากขึ้น ถ้าทีมฝีมือดี แต่ไม่พร้อม ปัญหาเกิดแน่ หรือทีมที่พร้อม แต่มาตรฐานไม่ถึงมันก็ลำบาก ตรงนี้ต้องดูกันให้รอบคอบ ส่วนเรื่องขึ้นชั้นตกชั้น ได้บอกไปแล้วตั้งแต่แรกว่า ทีมไทยลีกตกชั้น 3 ทีมและดิวิชั่น 1 ขึ้นชั้น 3 ทีมเหมือนเดิม"

ชี้ไม่ยอมให้การเมืองแทรกแซงแน่

นอกจากนั้น ดร.วิชิต ยังได้พูดถึงปัญหา ของการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก ข้อใหญ่คือการแทรกแซงของนักการเมือง และรัฐบาลในการปกครองวงการฟุตบอล ซึ่งตรงนี้รับไม่ได้ และทางฟีฟ่า ก็กำหนดชัดเจนว่าห้ามแทรกแซง แต่ถ้ารัฐบาลเข้ามาสนับสนุนนี้ น่าจะเป็นเรื่องโอเคมากกว่า และพร้อมเปิดโอกาสให้อย่างเต็มที่แน่นอน

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

จเด็จลั่นพาทัพฉลามชลคว้าแชมป์เลกแรก

"เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ กุนซือใหญ่ทีม ชลบุรี เอฟซี สุดมั่นใจจะพาทัพ "ฉลามชล" คว้าแชมป์เลกแรก ให้ได้ ชี้อีก 4 นัดที่เหลือ ถ้าเก็บได้อย่างน้อย 8 แต้ม น่าจะเพียงพอต่อการยึดตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป

"เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ กุนซือใหญ่ทีม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี จ่าฝูงศึก "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" ขณะนี้ ที่เตะมา 11 นัด มี 28 แต้มจากผลงานชนะ 9 เสมอ 1 แพ้นัดเดียว โดยนำ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่ารองจ่าฝูง 2 แต้ม ออกโรงคุยฟุ้ง ว่าจะพาทีมซิวแชมป์เลกแรกมาครองได้แน่นอน

กับเรื่องดังกล่าวนี้ หลังจากที่กุนซือคนเก่งทีม "ฉลามชล" สามารถพาทีมบุกไปเก็บชัยเหนือ อินทรี เพื่อนตำรวจได้ 4-0 ในเกมเมื่อ 19 มิ.ย. 53 ที่ผ่านมา ขณะที่ทีมที่ได้รับการคาดหมายว่าเป็นเต็งแชมป์อีกทีมอย่าง เมืองทองฯ ทำได้แค่บุกเสมอ ทหารบก ไป 2-2 เท่านั้น

โดย "เซอร์เด็จ" ได้กล่าวว่า "การที่ทีมเราสามารถขึ้นมาเป็นจ่าฝูงได้ในขณะนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้โอกาสที่เราจะได้แชมป์เลกแรก น่าจะมีความเป็นไปได้สูง โดยขณะนี้ เหลืออีก 4 เกมให้เราลุ้น ที่จะเป็นเกมเหย้า และเยือนอย่าง 2 นัด คือ บุรีรัมย์ พีอีเอ (ย) 26 มิ.ย., พบ โอสถฯ (ห), 4 ก.ค. พบ แบงค็อก (ห) 10 ก.ค. และปิดท้ายเลกแรกด้วยการไปเยือน บีอีซี เทโรฯ 17 ก.ค.

จาก 4 นัดนี้ ผมมั่นใจว่า เกมในบ้านที่จะเจอกับโอสถฯ และแบงค็อกนั้น เราจะเก็บชัยได้ทั้ง 2 เกม ที่เหลืออีก 2 เกม หากได้สัก 2 แต้ม เป็นได้ 8 แต้มจากที่เหลือ 4 เกมเป็นอย่างน้อย เราก็น่าจะดีพอ ที่จะคว้าแชมป์เลกแรกไปครองได้

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ไทยฮอนด้าทุบอาร์แบค3-0,หมูป่าบุกอัดกอและ3-1

"พญาอินทรี" ไทยฮอนด้า แรงต่อเนื่องเปิดบ้านไล่ทุบ "สิงโตน้ำเงินทอง" อาร์แบค มิตรภาพ เละ 3-0 ขณะที่ "กอและพิฆาต" นราธิวาส อาการยังไม่ฟื้น ทั้งที่ยิงนำก่อน แต่กลับโดน "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม ไล่ยิงรวดเดียวพ่ายไป 1-3 ด้าน ปราจีนบุรี เอฟซี ฟอร์มฝืดอีกหน เมื่อเปิดรังพ่าย ปตท. ไปแบบเซ็งๆ 1-2 ส่วน แคชทูเดย์ จันทบุรี ฉลองโค้ชใหม่ไม่สวยโดน ขอนแก่น เอฟซี บุกมาถลุง 2-0 ศึกฟุตบอล ดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลลีก "ดิวิชั่น 1" นัดประจำวันอาทิตย์ที่ 20 มิ.ย. 53 ที่ผ่านมา

ปราจีนบุรี เอฟซี 1-2 ปตท.

ที่สนามกีฬา จ.ปราจีนบุรี "นกเงือกพิฆาต" ปราจีนบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 8 ของตาราง เปิดบ้านตอนรับการมาเยือนของ "เศรษฐีน้ำมัน" ปตท. ทีมอันดับ 15

เกมนี้ ปราจีนบุรี เอฟซี ของ "โค้ชต๋อย" ประภาร นาคพงษ์ จะไม่ได้ใช้งานนักเตะตัวหลักถึงสามคนคือ ธนะศักดิ์ ศรีใส, เจษฎา แก้วประสงค์ และ อิทธิเดช วันนา ที่ต้องชดใช้ติดโทษแบนในเกมนี้ แต่ยังโชคดีที่ได้ วุฒิพงษ์ ศรีกสิกิจ กับ อีริค คูเคม สองกองกลางตัวหลัก ที่ผ่านทดสอบความฟิต สามารถลงสนามในเกมนี้ได้ โดยวันนี้ "โค้ชต๋อย" ประภาร นาคพงษ์ ได้เน้นเกมตรงกลาง โดยส่งกลางลงสนามถึง 5 คน เล่นในระบบ 3-5-2

ฝั่งทีมเยือน ปตท. มาเล่นในเกมนี้ ด้วยสภาพจิตใจที่ต้องบอกว่าดีมากเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่งานง่ายเหมือนกัน เมื่อต้องขาด วัชรพงษ์ คงช่วย และ มูฮาหมัด ซิลล่า ส่วนผู้เล่นคนอื่น ยังอยู่กันครบแดนหน้า นำโดย ปกระธาน เสนาลา, รชานนท์ ศรีนอก และ ทศพร ศรีนอก และยังคงใช้ระบบ 4-4-2 เช่นเคย

เริ่มเกมครึ่งแรกทั้งสองทีมเปิดเกมเข้าใส่กันทันที ผลัดกันมีโอกาสบุกทั้งคู่แต่ยังหาจังหวะเข้าทำไม่ได้ พอถึงกรอบเขตโทษกองหลังของทั้งสองทีมก็เคลียร์ทิ้งได้หมด และเกือบจะได้ประตูขึ้นนำ น.24 เมื่อได้ลูกฟาวล์ประมาณ 25 หลา ปองเทพ มุลาลี ปั่นฟรีคิกเฉียดเสาสองนิดเดียว

จากนั้นกลายเป็นทีมเยือนที่มาตั้งรับแล้วรอสวนกลับมาได้ประตูออกนำ น.26 จากจังหวะกระชากบอลจากมุมธงฝั่งซ้าย เข้ามาที่กรอบเขตโทษโดยที่ ประธาน เสนาลา จะหักคืนให้กับ รชานนท์ ศรีนอก ที่รออยู่แปเน้นๆ บอลเช็ดคานตกลงมาข้ามเส้นเข้าไป ถึงแม้ วิโรจน์ เพ็ชรดอน ควักออกมาแต่ไม่ทัน ทีมเยือนออกนำ 1-0

หลังจากที่ได้ประตูขึ้นนำทางด้านเจ้าถิ่นก็เริ่มเปิดเกมมากขึ้น แต่ก็ยังทวงประตูคืนไม่ได้ ถึงแม้จะมีโอกาสที่จะได้ลูกฟรีคิกหลายจังหวะ แต่ก็ยังยิงไม่ดีพอบอลหลุดกรอบไปหมด ส่วนทางฝั่ง ปตท. ก็มีจังหวะทำเกมขึ้นมาเหมือนกันแต่จังหวะสุดท้ายก็ยังไม่ดีพอเช่นกัน

ทีมเยือนน่า จะได้ประตูนำห่างออกไปอีก น.36 จากการโยนบอลยาวจากหลังมาที่กรอบเขตโทษบอลเลยมาเข้าหัวของ อับเดล แต่น่าเสียดายที่บอลไปเข้ามือของ วิโรจน์ เพ็ชรดอน ผู้รักษาประตูของ ปราจีนบุรี เอฟซี เวลาที่เหลือทั้งสองทีมยังบวกสกอร์เพิ่มกันไม่ได้จบเกมครึ่งแรกทีมเยือนบุกมานำ 1-0

ครึ่งหลัง เกมยังขาดๆ เกินๆ และ ผดุงศักดิ์ นาคพงษ์ กองหลังเจ้าถิ่นก็มาโดนใบเหลืองจากจังหวะเตะบอลโดนผู้เล่นทีมเยือนหลังจากผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ไปแล้ว

เจ้าถิ่นบุกได้มากขึ้น มีโอกาสหลายครั้งที่จะได้ประตู แต่ไม่เฉียบขาดในเกมรุก ขณะที่ทีมเยือนรอจังหวะตั้งรับรอสวนกลับและบีบให้เจ้าถิ่นดันขึ้นสูง และจากความไม่แน่นอนในเกม ทำให้โดนทีมเยือนโต้กลับจนเสียประตูอีกครั้ง โดย อับเดล กองหน้าทีมเยือนที่เป็นคนยิงเข้าไปให้ทีมเยือนนำห่างเป็น 2-0

งานหนักสำหรับเจ้าบ้าน โค้ชต๋อย อยู่นิ่งไม่ได้เติมผู้เล่นเกมรุกทันที โดยส่ง อภิชาติ อุ่นแอบ ลงแทน เอ็นวาโอดิก้า เพื่อหาประตูแรกให้ได้ ขณะทีมเยือนใช้วิธีตัดเกมไม่ให้เข้าเขตโทษตลอด จนกระทั่งมาใน น.85 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกประมาณ 25 อีกครั้ง ฮัม ซุก ฮุน รับหน้าที่สังหารปั่นเข้าไป เจ้าถิ่นปราจีนบุรี เอฟซี ตามมา 1-2 เวลาที่เหลือเจ้าถิ่นบุกแหลก แต่สุดท้ายตามไม่ทัน ทำให้แพ้คาบ้าน 1-2

หลังเกม

"โค้ชต๋อย" ประภาร นาคพงษ์ กุนซือใหญ่ของทีม ปราจีนบุรี เอฟซี ได้กล่าวถึงเกมนี้ว่า "วันนี้เด็กเราเล่นได้เนือย และต่ำกว่ามาตรฐาน ยิ่งพอมาเสียลูกแรกแล้ว เร่งเกมที่จะเอาประตูคืนแล้วทำให้เกมเสียไป"

สุวิทย์ นิ่มอ่อนน้อม โค้ชของ ปตท. ได้ออกมากล่าวชมลูกทีมว่า "วันนี้ทุกคนเล่นดีเล่นได้อย่างมีระเบียบวินัย ตามที่ผมวางแผนลงไป ทำให้เกมวันนี้เราสามารถที่จะจบสกอร์และปิดเกมเอาชนะไปได้"

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

ปราจีนบุรี เอฟซี : วิโรจน์ เพ็ชรดอน 5.5, ผดุงศักดิ์ นาคพงษ์ 5.5, ไตรรงค์ แก่นจันทร์ 6, วุฒิพงษ์ ศรีกสิกิจ 5.5, อีริค คูเคม 5.5 (เอกณรงค์ หวานอารมณ์ 5.5), กิตติราช เสนาะ 6, ฮัม ซุก ฮุน 6, ปองเทพ มุลาลี 5.5, วุฒิกรณ์ พลลม 5.5, เอ็นวาโอดิก้า 5.5 (อภิชาติ อุ่นแอบ 5), จารุวัฒน์ นามมูล 6

ปตท. : นิวัฒน์ หัตถเกียรติไกร 7, ศราวุฒิ นะตะสัตย์ 7, เพ็ชรประเสริฐ แจ้งแช่ม 7 (มากิ ดรามี่ -), ศราวุฒิ จตุรภัทร 7, ชมพู แสงโพธิ์ 6, ศักดิ์รินทร์ ภู่สามสาย 6.5, ประธาน เสนาลา 7, ชาญชัย นันสีบุตร 6.5, ทสพล ยอดจันทร์ 6.5, อับเดล ทานคู 7 (เสถียรพงษ์ การฟุ้ง 6), รชานนท์ ศรีนอก 7 (รชานนท์ ศรีนอก 6)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : รชานนท์ ศรีนอก กองหลังของทีม ปตท.

นราธิวาส 1-3 นครปฐม

ที่สนามเทศบาลเมืองนราธิวาส "กอและพิฆาต" นราธิวาส เอฟซี ทีมอันดับ 16 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี ทีมอันดับ 10 ทั้ง 2 ทีมฟอร์มช่วงหลังทำได้ไม่ดีกันทั้ง 2 ทีม ทำให้ในวันนี้ต้องเน้นใส่กันเต็มสูบ

วันนี้เจ้าถิ่น อุดมศักดิ์ ยีระเหร โค้ชคนใหม่ ขาด มงคล บัวแย้ม มิดฟิลด์ของทีม โดยจะเล่นในระบบ 4-4-2 กองหน้าคู่ใช้ เอ็นโดมาน มิเชล จับคู่กับ พงษ์ภพ นพมาตร ฝั่งทีมเยือน สถิตย์ ทวีนุช จะยังไม่สามารถใช้งานของ ธนสิทธิ์ ทองอินทร์ ปราการหลังของทีมได้ ส่วนขุมกำลังอื่นยังอยู่กันครบ จะเล่นในระบบ 4-3-3 นำโดย ภูวดล สุวรรณชาติ ดาวซัลโวของทีม เช่นเดิม

เริ่มเกมครึ่งแรก น.10 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูขึ้นนำจากการโหม่งของ มูฮัมหมัด ไฟซาล บือซา แต่ลูกเหินข้ามคานออกไป และในช่วงเวลาไล่กันนั้น นครปฐม ก็ต้องเปลี่ยนตัวคนแรก เมื่อ ปริญญา อู่ตะเภา มีอาการบาดเจ็บ และเป็น วิทยา นนทะลี ลงมาเล่นแทน

น.25 "หมูป่าเขี้ยวตัน" พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ เมื่อ วิทยา นนทะลี ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ แต่กลับยิงออกไปอย่างน่าเสียดาย กลางเกมทั้ง 2 ทีมยังเปิดเกมแลกใส่กัน

จนถึง น.45 เจ้าบ้าน นราธิวาส มาได้ประตูออกนำจนได้จากจังหวะที่ มูฮัมหมัดไฟซาล บือซา ได้บอลทางซ้ายก่อนโยนลูกเข้ามาในเขตโทษ เป็น มานพ ออกมาตัดบอล และชนกับเพื่อนร่วมทีม ก่อนบอลเข้าทาง เอ็นโดมาน มิเชล แหย่บอลเข้าประตูไปง่ายๆ กอและพิฆาต นำ 1-0

แต่ น.47 นครปฐม มาได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็ว จากลูกฟรีคิก บริเวณกรอบเขตโทษ และเป็น เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ ปั่นเข้าไปอย่างสวยงาม สกอร์กลับมาที่ 1-1 และจบครึ่งด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังมา เจ้าถิ่นเปิดเกมรุกใส่ นครปฐม ทันที แต่นักเตะ นครปฐม ตัดบอลได้ น.50 จึงเล่นเกมสวนกลับเร็วมาทางซ้าย ก่อนที่บอลจะถูกโยนเข้ากลางให้ ลี ทุค ได้วอลเลย์เต็มข้อเข้าไป ทำให้นครปฐม เอฟซี แซงนำ 2-1

เจ้าถิ่นเสียประตูไป ก็ไม่ท้อยังบุกต่อไป เพื่อหวังยิงประตูคืน ส่วน นครปฐม ทีมเยือนก็รอรับและโต้กลับ และก็มาสัมฤทธิผลอีกครั้งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.91 เมื่อกองหลัง นราธิวาส ดันขึ้นสูงในจังหวะเตะมุม และโดนโต้กลับ 1 ต่อ 3 คน และเป็น เฉลิมศักดิ์ รับบอลจากเพื่อน ก่อนใจเย็นเลือกยิงเข้าไปง่ายๆ จบเกม นครปฐม เอฟซี บุกมาชนะไป 3-1 ยุติผลผลงานที่เลวร้ายในรอบหลายนัดที่ผ่านมา ส่วน นราธิวาส เอฟซี ยังจมบ๊วยในลีกต่อไป

หลังเกม

แวฮาสมืน แวอุมา ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนนราธิวาส กล่าวว่า "ทีมเราได้โค้ชคนใหม่มาทำให้ต้องทบทวนเรื่องระบบและแท็กติกกันใหม่ รูปเกมวันนี้สู้ได้ดี บุกได้ดีแต่มาเสียประตูจากลูกโต้กลับทั้ง 2 จังหวะ ทำให้แพ้ไปในที่สุด"

สถิตย์ ทวีนุช ผู้จัดการทีมนครปฐม เอฟซี กล่าวว่า "พอใจที่เก็บ 3 คะแนนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้ง 2 ทีมเล่นกันได้อย่างสนุก ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลต้องการ และวันนี้ นักเตะของเราเล่นกันได้ดีกันทุกๆ คน"

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

นราธิวาส เอฟซี : ฌอง แฟร้งค์ 5, มูฮำหมัดฮากีกี มามะ 5.5, มะยุรี แมะวอ 5, เอนโดมาน มิเชล 5, มูฮัมหมัดไฟซาล บือซา 6, พงษ์ภพ นพมาตร 5.5, ดิโบม่า โอสซี่ 6, กูรามารูเด็ง ตูแวโซะ 5.5, อัดดือนันต์ สาแระรี 5.5, จิระเดช แสงสง่า 5, พงษ์สันต์ จันทสิทธิ์ 5

นครปฐม เอฟซี : มานะ นพเนตร 6, อภิศักดิ์ คงอ่อน 6, นิพนธ์ ชาญอาวุธ 6, เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ 7, ลี ทุค 6.5, ภูวดล สุวรรณชาติ 6, รัชพล นาโนวัน 6, ชอย วาน กึน 6, ธนากร ขำโมขะ 6, ฮูม่า อองเดร 6, ปริญญา อู่ตะเภา 5 (วิทยา นนทะลี 6)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ ปราการหลังตัวกลั่นทีม "หมูป่าเขี้ยวตัน"

ไทยฮอนด้า 3-0 อาร์แบค มิตรภาพ

ที่สนามพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง "พญาอินทรี" ไทยฮอนด้า ทีมอันดับ 6 ของตาราง แข่งไปแล้ว 13 นัด มี 19 แต้ม เปิดรังรับการมาเยือนของ "สิงโตน้ำเงินทอง" อาร์แบค มิตรภาพ ทีมอันดับ 10 แข่ง 12 นัด มี 15 แต้ม

เกมนี้ มาซามิ ทากิ กุนซือใหญ่แดนปลาดิบของเจ้าบ้าน ไทยฮอนด้า วันนี้ ต้องขาด 2 ผู้เล่นตัวหลัก ปกเกล้า อนันต์ และ ระวี พวงมี ที่ติดโทษแบน แต่รายอื่นๆ ยังพร้อมรบ ทั้งกัปตันทีม ประเสริ รุกไพร, สุทิน อนุกูล, นานา อซาโมอาห์ และ เอ็นกูอายิโอ้ อิซิดอเร่ ด้านผู้มาเยือนอาร์แบค มิตรภาพ "โค้ชจิ" สมเด็จ หิตเทศ กุนซือใหญ่ ส่งขุนพลชุดใหญ่ลงสนามเช่นกัน อาทิ อมร กันดีลัง, อะเดโฟลาริน ดูโรซินมี่, ประเสริฐ เฉยไธสง และ วัชรพล ช่างกลึงเหมาะ

เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที เจ้าบ้านไทยฮอนด้า ได้ทักทายก่อน จากการหลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษของ นานา อซาโมอาห์ แต่ว่าลูกยิงกลับไปติดเซฟของ เจษฎา ไปใกล้ นายทวารของอาร์แบค มิตรภาพ ออกหลังไป

เจ้าบ้าน ไทยฮอนด้า ที่วันนี้มาดุดันเหลือเกิน เปิดเกมบุกเข้าใส่อาคันตุกะเป็นพายุบุแคม และก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ใน น.7 จากจังหวะที่ เอ็นกูอายิโอ้ อิซิดอเร่ แทงทะลุช่องให้ สุทิน อนุกูล ได้หลุดเข้าไปยิงแต่ถูกทาง เจษฎา ไปใกล้ ผู้รักษาประตูทีมเยือนปัดไว้ได้ในจังหวะแรก แต่ด้วยความแรงของลูกทำให้บอลปลิ้นไปหน้าปากประตู และก็เป็น นานา อซาโมอาห์ ที่ตามไปซ้ำดาบสองจากระยะแค่ 1 หลาตุงตาข่ายให้ ไทยฮอนด้า ขึ้นนำ 1-0

หลังจากได้ที่ประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่า "พญาอินทรี" ก็ยังคงไม่เพลาเกมบุกลงไป และก็มาได้ประตูทิ้งห่างเป็น 2-0 น.12 จากจังหวะที่ สุทิน อนุกูล ควบเดี่ยวกว่าครึ่งสนามเข้าไปยิงเล่นทางหนีมือ เจษฎา ไปใกล้ นายทวารอาร์แบค เสียบเสาสองอย่างสวยงาม

ตกเป็นรองถึง 0-2 ตั้งแต่ต้นเกม "สิงโตน้ำเงินทอง" เริ่มตั้งเกมได้บ้าง และก็มาได้โอกาสครั้งแรกจากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลาของ อมร กันดีลัง จอมทัพของทีม แต่ทว่าเจ้าตัวก็ทำได้ไม่ดีพอ ซัดบอลเหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

ช่วงเวลาที่เหลือรูปเกมโดยรวมตกเป็นของเจ้าบ้านอย่างสิ้นเชิง และสามารถคุกคามแผงหลังของอาร์แบค มิตรภาพ ได้ตลอด แต่ก็ยังหาจังหวะบวกสกอร์เพิ่มไม่ได้ ผิดกับทางทีมเยือนที่วันนี้ทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน จนกระทั่งผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาครึ่งแรก "พญาอินทรี" ไทยฮอนด้าขึ้นนำ "สิงโตน้ำเงินทอง" อาร์แบค มิตรภาพ 2-0

ครึ่งหลัง เกมยังเป็นหนังม้วนเดิม เจ้าบ้านไทยฮอนด้า ยังครองเกมได้มากกว่า และก็มาได้ลุ้นประตูเพิ่ม จากจังหวะที่ ประเสริฐ รุกไพร จ่ายบอลทะลุแนวรับของอาร์แบค มิตรภาพ ให้กับ สุทิน อนุกูล ได้สับไกยิงในเขตโทษ แต่ก็เป็น เจษฎา ไปใกล้ ผู้รักษาประตู ที่ช่วยเซฟไม่ให้อาร์แบค ต้องตกเป็นรองไปมากกว่านี้

แต่แล้วอาร์แบค มิตรภาพ ก็ต้องมาสังเวยประตูที่ 3 จนได้ น.61 เมื่อ สุทิน อนุกูล ที่วันนี้สร้างปัญหาให้กับแผงหลังทีมเยือนได้มากเหลือเกิน รับบอลจากการเปิดยาวของ เชาวลิต ไปแดน เพื่อนร่วมทีมหลุดเข้าในกรอบเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะผ่านต่อไปให้ พัฒนา ซอกจอหอ กองหน้าตัวสำรองที่เปลี่ยนลงไป จิ้มบอลผ่านมือ เจษฎา ไปใกล้ ส่งบอลเข้าไปนอนนิ่งอยู่ก้นตาข่ายอย่างง่ายดาย เปลี่ยนสกอร์ให้เจ้าบ้านเป็น 3-0

อีก 3 นาทีถัดมาอาร์แบค มิตรภาพ น่าจะได้ประตูตีไข่แตกอย่างที่สุด เมื่อมาได้ลูกโทษที่จุดโทษจากจังหวะที่ อะเดโฟลาริน ดูโรซินมี่ ดีดบอลไปโดนแขวนของ นพรัตน์ สกุลอ๊อด กองหลังเจ้าถิ่นทำให้ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที และเป็น อะเดโฟลาริน ที่รับน่าที่สังหาร แต่ว่าคนที่ทำได้เยี่ยมกว่าคือ ประสิทธิ์ น่วมศาลา นายทวารไทยฮอนด้า ที่เดาใจ อะเดโฟลาริน ถูกพุ่งรับบอลไว้ได้อย่างสบาย ทำให้ ไทยฮอนด้า ยังคงรักษาสกอร์ที่นำอยู่ 3-0 ไว้ได้

เกมดำเนินมาถึง น.75 อาร์แบค มิตรภาพ ยังคงไม่ถอดใจ และมีโอกาสอีกครั้ง จากจังหวะที่ สุชาติ ชายใหญ่ เปิดจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปในหน้าประตูของไทยฮอนด้า และเป็น วศิน ทองสง ตัวสำรอง ที่เพิ่งลงไปโฉบเข้าโหม่งตัดหน้า ประสิทธิ์ น่วมศาลา ผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน แต่บอลก็ลอยข้ามคานออกหลังไปอีก

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ไทยฮอนด้า ผ่อนเกมลงไปเปิดโอกาสให้ อาร์แบค ได้ทำเกมรุกเข้าใส่ และ อาร์แบค มิตรภาพ ก็มาได้โอกาสงามอีกครั้งใน น.81 จากจังหวะโหม่งคนเดียวโล่งๆ หน้าประตูระยะ 6 หลาของ จักรกฤษณ์ ตาลประสิทธิ์ กองหลังของทีมที่เติมเกมขึ้นมา แต่เจ้าตัวกลับโหม่งเหมือนส่งคืนให้ ประสิทธิ์ น่วมศาลา บอลลอยเป็นปุยนุ่นเข้าซองประสิทธิ์ ที่รับไว้ได้อย่างง่ายดาย

ช่วงท้ายเกมทีมเยือนได้ลุ้นอีกครั้ง จากลูกที่ มะอูเซ็ง สาและ หลุดเข้าไปจิ้มบอลผ่านมือ ประสิทธิ์ น่วมศาลา ไปแล้ว แต่บอลกลับไม่ตรงกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย กระทั่งครบ 90 นาที ไม่มีฝ่ายไหนยิงเพิ่มได้ ทำให้จบเกม ไทยฮอนด้า เปิดบ้านทุบ อาร์แบค มิตรภาพ ไป 3-0

หลังเกม

มาซามิ ทากิ กุนซือใหญ่ไทยฮอนด้า กล่าวว่า "สำหรับเกมวันนี้ก็โอเค 3 แต้ม แต่หากดูรูปเกมโดยรวมลูกทีมยังทำได้ไม่ดีพอ ทั้งแท็กติกการ และการต่อบอลแต่อย่างน้อยการเก็บชัยในวันนี้ก็ทำให้นักเตะมีความมั่นใจมากขึ้น"

สมเด็จ หิตเทศ กุนซืออาร์แบค มิตรภาพ กล่าวว่า "รูปเกมในวันนี้ก็ถือว่าโอเค ลูกทีมทำได้ดีตามแผนที่วางเอาไว้ เพียงแต่เราจบสกอร์ไม่ได้เอง และอีกอย่างเราเสียประตูถึง 2 ลูกในช่วงต้นเกม ทำให้ต้องเปิดเกมแลกแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้"

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

ไทยฮอนด้า : ประสิทธิ์ น่วมศาลา 6, นพรัตน์ สกุลอ๊อด 6, อองรี วอลเตอร์ 6, ปิยะราษฎร์ ลาจังหรีด 6, เชาวลิต ไปแดน 6, ธงชัย กึนขุนทด 6 (สิงห์ฟ้า วาทโยธา-), เอ็นกูอายิโด้ อิซิดอเร่ 6.5, นานา อซาโมอาห์ 6 (พัฒนา ซอกจอหอ 6), ชัยพล หวังนุกูล 6 (อภิสิทธิ์ คำวัง-), สุทิน อนุกูล 7, ประเสริฐ รุกไพร 6.5

อาร์แบค มิตรภาพ : เจษฎา ไปใกล้ 6, พีระพงศ์ อุดทา 5, สุชาติ ชายใหญ่ 5, ประเสริฐ เฉยไธสง 4 (มะอูเซ็ง สาและ 5), จักรกฤษณ์ ตาลประสิทธิ์ 5, อองรี บิทก้า 5.5, วัชรพล ช่างกลึงเหมาะ 5.5, อะเดโฟลาริน ดูโรซินมี่ 5 (วศิน ทองสง 5.5), อมร กันดีลัง 5.5, เอกวิทย์ ใจนวน 5.5, กวีพันธ์ ทวีบุตร 5 (ยุทธพงษ์ บุญอำพร 5)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : สุทิน อนุกูล ศูนย์หน้าของทีมไทยฮอนด้า

แคชทูเดย์ จันทบุรี 0-2 ขอนแก่น เอฟซี

ที่สนามกีฬากลาง จ.จันทบุรี "กระต่ายป่า" แคชทูเดย์ จันทบุรี ทีมอันดับ 13 ของตาราง แข่งมาแล้ว 12 นัดมี 11 คะแนน เปิดบ้านพบกับ "ไดโนเสาร์พิฆาต" ขอนแก่น เอฟซี ทีมอันดับ 4 ลงสนามมาแล้ว 12 นัดมี 23 คะแนน

เกมนี้ เทพบุตร รอดแก้ว กุนซือใหม่ป้ายแดงของทีมเจ้าถิ่น ยังคงใช้ผู้เล่นหลักชุดเดิมลงสนาม นำโดย ไกรเกียรติ เบียดตะคุ, นิกร อนุวรรณ และ วิคตอร์ เพนซิล ลงทำเกม ด้าน ณรงค์ ท่วมไธสง กุนซือใหญ่ ขอนแก่น เอฟซี ก็ไม่น้อยหน้าใส่ชุดใหญ่ลงสนามเช่นเดียวกัน นำโดย ชรินทร์ บุตรฮาด, สุรชาติ สิงห์โหง่น และ เริ่มรัตน์ งามเจริญ

ครึ่งแรก น.13 จันทบุรี เจ้าบ้านได้โอกาสก่อน จากการขึ้นบอลมาทางกราบขวาของ วิคตอร์ เพนซิล ก่อนที่จะเลี้ยงตัดเข้ากลางแล้วจ่ายต่อให้ ไกรเกียรติ เบียดตะคุ ที่เติมขึ้นมา ไกรเกียรติ จัดการส่องไกลทันทีกว่า 25 หลาบอลพุ่งออกเสาสองไปแค่คืบเดียวเท่านั้น

ต่อมา น.27 เป็นโอกาสของขอนแก่น บ้างจากจังหวะที่ ชรินทร์ บุตรฮาด กองหน้าตัวเก่งได้โอกาสลากบอลจากซ้ายเข้ากลาง แล้วชิพบอลต่อให้ อดิศักดิ์ จารัตน์ ยิงเต็มข้อแบบไม่จับบอลก็เหินข้ามคานออกไปอีกอย่างไม่น่าเชื่อ

น.35 กิตติศักดิ์ มัสบูงอ ของ จันทบุรี ได้โอกาสกระชากบอลขึ้นมาทางปีกขวาจนถึงสุดเส้นหลังก่อนครอสเข้ากลางให้ กิตติศักดิ์ ใจหาญ วอลเลย์เต็มๆ และบอลพุงไปชนคานดังสนั่นพลาดโอกาสขึ้นนำไปอีกหนสำหรับ แคชทูเดย์ จันทบุรี

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ขอนแก่น เอฟซี เกือบมาได้ประตูขึ้นนำเมื่อบอลจากลูกคอร์เนอร์ที่ขลุกขลิกๆ อยู่หน้าประตูไหลมาเข้าทางปืนของ เริ่มรัตน์ งามเจริญ มิดฟิลด์ ขอนแก่น เอฟซี ยิงสวนตูมเดียวเหินข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง น.50 สุรชาติ สิงห์โหง่น ของ ขอนแก่น ได้โอกาสเปิดฟรีคิกจากทางฝั่งขวาบอลโค้งเข้าไปที่กลางประตู และเป็น ผดุงศักดิ์ กิตติวราพล มิดฟิลด์พันธุ์แกร่งของทีมที่โฉบมาโหม่งเข้าไป ขอนแก่น เอฟซี ทีมเยือนขึ้นนำไปก่อน 1-0

น.66 ขอนแก่น มาได้โอกาสอีกหนจากจังหวะที่ เริ่มรัตน์ งามเจริญ ได้บอลตรงกลางสนามแล้วจัดการแทงบอลขึ้นหน้าให้ ชรินทร์ บุตรฮาด กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษ แล้วจัดการชิพบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูทันที แต่บอลไม่เป็นใจลอยข้ามคานออกไป

น.76 ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ของ จันทบุรี ได้โอกาสบ้างในจังหวะที่ทำชิ่ง 1-2 กับ ไกรเกียรติ เบียดตะคุ แล้วหลุดไปหน้าเขตโทษก่อนกดเต็มเท้าทันที แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือผู้รักษาประตู ขอนแก่น เอฟซี

น.83 ขอนแก่น เอฟซี พยายามเพิ่มความกดดันเพื่อหวังประตูที่สองอย่างต่อเนื่อง กฤษดา เหมวิพัฒน์ ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาใหม่ได้โอกาสลากบอลขึ้นไปตรงกลางสนามแล้วจ่ายต่อให้ ศราวุธ วิเชียร จัดการเปิดบอลเรียดเข้าเขตโทษทันทีแต่ ชรินทร์ บุตรฮาด เข้าชาร์จไม่ทัน

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ขอนแก่น เอฟซี มาได้ประตูตอกฝาโลงจากการทำประตูของ ศราวุธ วิเชียร จบเกมการแข่งขัน ขอนแก่น เอฟซี บุกมาชนะ แคชทูเดย์ จันทบุรี 2-0

หลังเกม

เทพบุตร รอดแก้ว กุนซือใหญ่ แคชทูเดย์ จันทบุรี กล่าวว่า "เกมนี้พวกเรายังไม่ค่อยเข้าใจในเกมกันซักเท่าไหร่ เรามีเวลาเตรียมตัวกันค่อนข้างน้อยก่อนเกมนี้ แต่มันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว จากนี้ไปเราต้องพยายามกันมากขึ้น"

ณรงค์ ท่วมไธสง กุนซือใหญ่ ขอนแก่น เอฟซี เผยว่า "วันนี้ในครึ่งแรกเราเล่นกันได้ค่อนข้างอึดอัดทีเดียว จันทบุรี เค้าเตรียมตัวมาค่อนข้างดี แต่พอครึ่งหลังเราก็มาแก้เกมกันจนมาได้ประตูนำ และจากนั้นเด็กๆ ก็ทำได้ดีโดยตลอด ถือว่าเป็นการฉลองวันเกิดให้กับผู้จัดการทีมของเราด้วย"

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

แคชทูเดย์ จันทบุรี : กนกศักดิ์ วงศ์รัตนวิจิตร 6, พิชัย ปรีชาเชาว์ 6, สุภชัย ภูผา 6.5, พงษ์พันธ์ ไทรย้อย 6.5, ไกรเกียรติ เบียดตะคุ 6.5, ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น 6 (ฮอสเซียน นิสซิม 6), ซามูเอล 6.5, คริสเตียน ลามิน 6.5, นิกร อนุวรรณ 6 (สิทธิชัย มัสบูงอ 6.5), กิตติศักดิ์ ใจหาญ 6 (ศิริศักดิ์ มัสบูงอ 6), วิคตอร์ เพนซิล 6.5

ขอนแก่น เอฟซี : ปิยะวัฒน์ อินทรพิมพ์ 6.5, วุฒิศักดิ์ คำมูล 6.5, ศุภกร ฆารดา 6.5, สุรชาติ สิงห์โหง่น 7, โรมีโอ 6.5, จัตตุพล สิทธิเลาะ 6.5, พีรวิส ฤทธิ์ศรีบูรณ์ 6.5 (กฤษฎา เหมวิพัฒน์ 6), ผดุงศักดิ์ กิตติวราพล 7.5, เริ่มรัตน์ งามเจริญ 6.5 (บอริส วิลฟิลด์ 6), อดิศักดิ์ จารัตน์ 6.5 (ศราวุธ วิเชียร 6.5), ชรินทร์ บุตรฮาด 7

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ผดุงศักดิ์ กิตติวราพล กองกลางจอมคลาสสิกของ ขอนแก่น เอฟซี

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

กรูปรีเฮนัดแรกเชือดเทโร1-0,ปลาทูคะนองลั่น2-0

"กรูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี ได้เฮลั่นสนาม หลังเปิดบ้านโค่นทีมแกร่งอย่าง "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ได้สำเร็จ 1-0 คว้า 3 แต้มแรกของฤดูกาลได้สำเร็จ จากประตูโทนของ เทวา ศรีธรรมานุสาร ขณะที่ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม โชว์ฟอร์มเก่ง ไล่สอย "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ได้แบบสนุก 2-0 ศึกลูกหนัง สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" นัดประจำวันอาทิตย์ ที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ศรีสะเกษ เอฟซี 1-0 บีอีซี เทโรศาสน

ที่สนามฟุตบอลสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขต ศรีสะเกษ "กรูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี ทีมอันดับ 16 ของตาราง ที่มีอยู่ 4 แต้ม เปิดบ้านรับมือ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ทีมอันดับ 10

สำหรับขุนพลของเจ้าบ้านมี ไพโรจน์ อนันตณรงค์, ปิยะวัฒน์ ทองแม้น และ วาลซี่ จูเนียร์ เป็นแกนหลัก ส่วนทีมเยือนบีอีซี เทโรฯ นำทัพมาโดย กิตติพล ปาภูงา, วุฒิชัย ทาทอง และ อานนท์ สังสระน้อย ส่วนบรรยากาศในสนามมีแฟนบอลเจ้าถิ่นและบีอีซี เทโรฯ มาชมเกมกว่า 7 พันคน แม้ว่าอากาศจะร้อนอบอ้าวก็ตาม

เปิดฉากครึ่งแรก ทีมเยือนก็ได้ลุ้นจากลูกเตะมุม ชาคริต บัวทอง เปิดมาให้ อูแบร์ต โหม่งที่กลางประตู แต่กดไม่ลง ถัดมา น.4 ไพโรจน์ อนันตณรงค์ ของเจ้าถิ่น มีโอกาสกระชากเข้าไปยิง แต่ติดขา ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ ไปเข้ามือ พิศาล ดอกไม้แก้ว ผู้รักษาประตูทีมเยือน

เกมยังเปิดเข้าใส่กัน น.9 ประลอง สาวันดี กองหลังเจ้าถิ่น เติมขึ้นสูง ก่อนผ่านไปเสาแรก ยุน ดอง คิม เข้าชาร์ต แต่โดน ปรัชญ์ มาปิดเสาได้ทัน ถัดมานาทีเดียว อมาโร่ เปิดให้ ยุน ดอง คิม หลุดไปเสาสอง แทนที่จะยิง แต่แข้งโสมขาวตัดใจหักเข้ากลาง อมาโร่ เติมมาสวย แต่ก็ช้า เมื่อโดนแนวรับมังกรไฟมาตัดบอลได้ทัน

ทีมเยือนไม่ปล่อยให้บุกฝ่ายเดียว นาทีถัดมา กิตติพล ปาภูงา วางบอลยาวให้ อานนท์ สังสระน้อย จับหนึ่งจังหวะ แล้วผ่านไปเสาสองให้ ชาคริต ที่เติมมาโหม่งเต็มกบาล บอลหลุดคานแบบได้เสียว เกมยังบุกกันสนุก น.26 ศรีสะเกษ ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ปรัชญา หงษ์อินทร์ ผ่านให้ ยุน ดอง คิม โหม่งที่เสาแรก บอลโด่งหลุดคานไปแค่คืบ

ยังพยายามเซตเกมเข้าสู้ด้วยกันทั้งสองทีม แต่เจ้าบ้านจะเน้นรับแน่นแล้วโต้เป็นหลัก น.32 มังกรไฟ ได้โอกาสลุ้นอีกหน เมื่อ กฤษฎา กระจาดทอง นายทวารเจ้าถิ่น ชกบอลไม่ดีมาเข้าทาง อูแบร์ต ได้ยิงในกรอบ 18 หลา แต่เหินข้ามคานออกไป

ถัดมาสองนาที ทีมเยือนน่าขึ้นนำมากที่สุด เมื่อ อานนท์ ทำชิ่งให้ ชาคริต ไปยิงเหน่งๆ แต่ กฤษฎา ยังบล็อกไว้ได้ บอลกระฉอกมาเข้าทาง กิตติพล ยิงโล่งๆ ไม่ถึง 6 หลา ดันงัดโด่งออกหลังแบบไม่น่าเชื่อ หวิดได้ประตูขึ้นนำ

น.38 อมาโร่ เบิ้ลบอลเร็วให้ วาลซี่ เข้าไปในกรอบ แต่แตะยาวไปหน่อย กฤษฎา โกลทีมเยือนออกมาขวางไว้ได้ทัน ศรีสะเกษยังได้บุกต่อเนื่อง กลายเป็นทีมเยือนที่ต้องมาตั้งรับ แล้วรอสวน แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้มากนัก ทำให้จบครึ่งเวลาแรก เสมอกันไปก่อน 0-0

ครึ่งหลัง มังกรไฟ ถอด ธฤติ โนนศรีชัย ที่เจ็บออกให้ ดั๊กลาส โคโบ ลงแทน เริ่มเกมมาทีมเยือนก็โหมใส่เจ้าบ้านทันที แต่ก็ยังเจาะแนวรับเจ้าบ้านไม่ได้เสียที น.54 ศรีสะเกษ ได้โต้กลับ แต่ลูกนี้ วุฒิชัย ทาทอง สกัด อมาโร่ แบบถึงลูกถึงคน รับเหลืองไปอีกราย

ถัดมานาทีเดียว เทวา ศรีธรรมานุสารไหลให้ ปรัชญา หงษ์อินทร์ ได้ยิงที่เสาสอง บอลยังตรงตัว พิศาล โกลทีมเยือน จากนั้นฝนเริ่มโปรยปรายลงมา แต่ก็แค่วูบเดียวก็หายไป ทำให้สนามลื่นคอนโทรลบอลยากขึ้น

น.58 ศรีสะเกษถอด วาลซี่ ออกให้ ทัตพงษ์ หล้าธรรม ลงแทน น.61 มังกรไฟได้เตะมุม กิตติพล เปิดให้ อานนท์ ได้โหม่ง แต่ยังโด่งออกไป เกมยังสนุกเมื่อศรีสะเกษไม่รอรับอย่างเดียว พยายามหาโอกาสรุกเหมือนกัน น.68 มังกรไฟให้ ณกฤษณ์ ธรรมรสโสภณ ลงแทน ชาคริต บัวทอง

ช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกม ยังรุกรับทั้งคู่ น.76 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮลั่น เมื่อ เทวา ศรีธรรมานุสาร มิดฟิลด์ตัวกลั่นซัดไกล 25 หลา บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยม เป็นประตูขึ้นนำให้ศรีสะเกษ 1-0

ถัดมา บีอีซี เทโรฯ ถอด พิชิต ใจบุญ ออกให้ นะเรศ กาพย์ไกรแก้ว ลงแทน แต่เจ้าบ้านยิ่งเล่นยิ่งดี น.80 อมาโร่ หลุดไปยิงบอลหลุดสองแบบได้เสียว น.89 ดั๊กลาส โดน ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ฉกบอลเข้าไปดวลกับ พิศาล แต่ลูกนี้ ปิยะวัฒน์ ยิงออกซะงั้น

นาทีต่อมา เทโรฯ ได้เตะมุม กิตติพล เปิดมาเสาแรก วุฒิชัย แปเต็มเท้า บอลจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ ประลอง ที่ยืนคุมเส้น สกัดได้แบบฉิวเฉียด ก่อนจะเป็น ศรีสะเกษ เอา สุพรรณ หาดคำ ลงแทน ปิยะวัฒน์ ทองแม้น

ช่วงทดเจ็บ น.92 ศรีสะเกษ ได้ฟรีคิก ยุน ดอง คิม ปั่น โค้งไปแฉลบกำแพง บอลจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ พิศาล ยังผวาไปปัดไว้ได้ จากนั้นทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม ศรีสะเกษ เอฟซี เอาชนะ บีอีซี เทโรฯ ไปแบบสนุก 1-0 เก็บสามแต้มแรกของฤดูกาลได้สำเร็จ

วาทะโค้ช

วิสูตร วิชายา กุนซือใหญ่ ศรีสะเกษ เอฟซี - สุดยอดครับวันนี้ นักเตะทำได้ดีเล่นตามแผนที่เราวางไว้ ต้องขอบคุณที่ช่วยกันทำงานหนัก ทำให้เราได้ 3 แต้มแรก นอกจากนั้นต้องขอบคุณผู้ใหญ่และแฟนบอลชาวศรีสะเกษ ที่ไม่ทิ้งกัน เข้ามาเชียร์ทุกเกม เชื่อว่าผลงานจะดีขึ้น

พยงค์ ขุนเณร ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมบีอีซี เทโรศาสน - ภาพรวมถือว่าใช้ได้ในวันนี้ แต่เรามีโอกาสเยอะมากในวันนี้ แต่ก็จบไม่ได้ ทำให้ศรีสะเกษที่เขามาดีจริงๆ เอาชนะเราได้ ต้องยอมรับว่าศรีสะเกษเขาสู้ทั้งเกม ต้องกลับไปปรับปรุงทีมกันต่อไปครับ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ศรีสะเกษ เอฟซี : กฤษฎา กระจาดทอง 7, ประลอง สาวันดี 7.5, เทวา ศรีธรรมานุสาร 8, ไพโรจน์ อนันตณรงค์ 7, ปรัชญา หงษ์อินทร์ 7, ปิยะวัฒน์ ทองแม้น 6.5 (สุพรรณ หาดคำ-), เอกพันธ์ จันดากรณ์ 7, วิคเตอร์ อมาโร่ 7, เอ็นจี้ ดีวาย7, ยุน ดอง คิม 7.5, วาลซี่ จูเนียร์ 6 (ทัตพงษ์ หล้าธรรม 6.5)

บีอีซี เทโรศาสน : พิศาล ดอกไม้แก้ว 6.5, นพพล ปิตะฝ่าย 6.5, ธฤติ โนนศรีชัย 6.5 (ดั๊กลาส 6.5), ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ 6.5, กิตติพล ปาภูงา 6.5, วุฒิชัย ทาทอง 6.5, ชาคริต บัวทอง 6.5 (ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ 6.5), อานนท์ สังสระน้อย 6.5, อูแบร์ต 6.5, พิชิต ใจบุญ 6.5 (นะเรศ กาพย์ไกรแก้ว 6), เนโต้ 6.5

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : เทวา ศรีธรรมานุสาร กองกลางผู้ทำประตูชัยให้ ศรีสะเกษ เอฟซี

เอสซีจี สมุทรสงคราม 2-0 ทีโอที แคท เอฟซี

ที่สนามกีฬากลาง จ.สมุทรสงคราม "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ทีมอันดับ 6 ของตาราง เฝ้าบ้านรับการมาเยือนของทีม "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี อันดับ 7 ซึ่งทั้งสองทีมต่างก็มี 17 แต้มเท่ากัน เกมนี้จึงถือว่ามีความสำคัญในการขึ้นไปอยู่หัวตารางอย่างมาก

เกมนี้ เจ้าถิ่น สมุทรสงคราม ต้องขาด 2 ตัวหลักที่โดนแบนอย่าง ประสาร พันธ์สำลี กับ ดิยุฟ บีรัม ขณะที่ อภินันท์ แก้วปีลา ก็ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้กองหลังต้องปรับทัพกันใหม่ โดยได้ พานุวัฒน์ ยิ้มสง่า กลับคืนสนาม พร้อมกับ พิเชษฐ์ อินทร์บาง และ สิทธิพันธ์ ชุมช่วย

ด้าน ทีโอที เกมนี้ยังไม่มี จอร์จี้ ทิมาคูริดเซ่ แถว ยุทธนา ไชยแก้ว ก็มาโดนแบนด้วย ซึ่งทีมยังเน้นแข้งนอกลงสนามเป็นหลักไม่ว่า มาเรียน จูฮาส,โทมัส โคซ่า,มิโลสลาฟ ทอธ และแอนด์ตัน คูบาล่า โดยบรรยากาศเกมนี้แฟนบอลเจ้าถิ่นมาชมกันแน่นสนาม รวมถึงพนักงานจากเอสซีจี สำนักงานใหญ่ก็ตามมาเชียร์กันกว่า 4 คันรถเลยทีเดียว

เริ่มครึ่งแรกทั้งสองทีมเน้นการครองบอลเป็นหลัก น.3 ทีมเยือน "วิหคเพลิง" ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ ธีรชัย งามเจริญ เปิดจากซ้าย วิชา นันทะศรี ยืนโขกที่เสาสอง ปินโต้ ยังปัดทิ้งมาได้ แม่กลองเล่นเร็วสวนกลับทันที และ พิเชษฐ์ อินทร์บาง ได้บอลหลุดเดี่ยว แต่บอลห่างตัวไป โดน แซมมวล ป. คันนิ่งแฮม ออกมาคว้าบอลจากเท้าก่อนที่ แซมมวล จะเจ็บและต้องปฐมพยาบาลนานกว่า 5 นาที

น.14 ทีมเยือน ทีโอที ทำเกมรุกจนได้ฟาวล์ทางฝั่งขวา ธีรชัย งามเจริญ เปิดด้วยเท้าซ้าย มิโลสลาฟ ทอธ ขึ้นโขกที่เสาสอง พยายามจะกดบอลลงพื้น แต่ไม่เข้ากรอบ น.16 ปลาทูคะนอง ได้ฟาวล์บ้างระยะประมาณ 35 หลา พานุวัฒน์ ยิ้มสง่า ซัดเรียดบอลทะลุกำแพงแต่เข้ามือ แซมมวล ป. คันนิ่งแฮม

เจ้าบ้านเริ่มทำเกมรุกได้มากขึ้น น.20 ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย พานุวัฒน์ เปิดแรงบอลยาวไปเสาสอง สิทธิพันธ์ ชุมช่วย เอาบอลไว้ได้ก่อนลากตัดในซัดด้วยซ้ายเข้ามือ แซมมวล น.26 สุขสยาม ชาญมณีเวช เติมขึ้นมาทางขวาเปิดบอลเร็วเข้ากลาง อรรถนพ ชัยแป้น ได้วอลเล่ย์เต็มข้อ บอลเหินข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

น.28 เซเลสเตียน กองหลังของ สมุทรสงคราม เข้าเตะสกัด มิโลสลาฟ ทอธ ในจังหวะที่เกี่ยวบอลจะทำเกมรุกรับใบเหลืองไปเป็นคนแรก และ ทีโอที ได้ฟรีคิกระยะ 20 หลา ธีรชัย งามเจริญ ยิงเข้ากรอบ แต่ก็โดนปฏิเสธจากการปัดของ ปินโต้

เกมทั้งคู่ยังเปิดเกมแลกกันตลอด น.30 อาทิตย์ ดาวสว่าง แบ็คขวาทีโอที แคท ต้องยอมเข้าเสียบสกัดการลากของ มิเชล ชาร์ลีน สังเวยใบเหลืองไปบ้าง ทั้งสองทีมแม้จะพยายามเปิดเกมรุก แต่ต่างก็ใช้การเข้าสกัดบอลที่ถึงลูกถึงคน ส่งผลให้เกมต้องชะงัก เพราะเสียฟาวล์กันง่ายตลอดเวลา

น.40 พานุวัฒน์ ยิ้มสง่า ของแม่กลองทำชิ่งกับ สิทธิพันธ์ ชุมช่วย ก่อนปั่นไซค์โค้งจากกรอบด้านซ้ายบอลหลุดเสาสองออกหลังนิดเดียว เจ้าถิ่นยังบุกต่อ น.43 กันตภณ สมพิทยานุรักษ์ เติมจากกราบซ้าย เปิดยัดเข้ากลาง แต่บอลเข้ามือ แซมมวล ทีโอที บุกสวนกลับบ้างใน น.44 และ โทมัส โคซ่า ได้โอกาสซัดจากทางด้านขวา ปินโต้ ประตูของสมุทรสงคราม ยังเหนียวปัดไว้ได้อีกครั้ง

ช่วงทดเจ็บก่อนจบครึ่งแรก ทีโอที ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย พลวัฒน์ วังฆะฮาด เปิดได้สวย สุขสยาม ชาญมณีเวช กองหลังสมุทรสงครามโหม่งบอลผิดเหลี่ยม ลูกจะย้อยเข้าประตูตัวเอง แต่ ปินโต้ ยังไวพอที่จะเคลื่อนตัวมาปัดทิ้งได้ เล่นเอาแฟนบอลปลาทู ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0

ครึ่งหลัง "วิหคเพลิง" เปลี่ยนตัวคนแรก โดยส่ง เอ็ดวาร์ด อีฟีมบ้า เข้าเล่นแทน วิชา นันทะศรี ขณะที่ ปลาทูคะนอง ยังคงชุดเดิม แต่ว่าเมื่อเล่นไปถึง น.51 เกมไม่ดีขึ้น สมุทรสงคราม จึงเปลี่ยนเอาปีกจรวด เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ เล่นแทน อรรถนพ ชัยแป้น

น.53 มิเชล ชาร์ลีน กองกลางตัวตัดเกมของแม่กลองไปดึง แอนด์ตัน คูบาล่า เสียใบเหลืองไปอีกราย เกมค่อนข้างที่จะเล่นกันยาก เพราะต่างก็เข้าถึงเร็วตลอด ทำให้เกมรุกต่างก็ไม่สามารถจะทำกันได้ถนัด น.62 สิทธิศักดิ์ ตาระพันธ์ ของทีโอที โดน พัชรินทร์ สุขใส แย่งบอล ก่อนที่ประหยัด บุญญา จะมารองบอลแล้ว ตั้งใจจะยิงลักไก่บอลข้ามคานนิดเดียว นาทีต่อมาทีโอทีได้สวนทางกราบซ้าย สิทธิศักดิ์ ตัดสินใจซัดมุมแคบ ปินโต้ คว้าติดมือ

เกมยังคงหาช่องเจาะเข้าทำกันลำบาก แต่แล้ว น.68 กองเชียร์ปลาทูคะนอง ก็เฮกันลั่นสนาม เมื่อใช้การเจาะตามช่องได้ดี พิเชษฐ์ อินทร์บาง ลากจากกลางก่อนเปิดออกขวาให้ เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ พลิกพาบอลหลบ ธีรชัย งามเจริญ แล้วซัดมุมแคบเต็มแรง บอลโดนขาของ ชูศักดิ์ สุวรรณา เปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้เอสซีจี สมุทรสงคราม ออกนำ 1-0

จากนั้นทั้งสองทีมเปลี่ยนตัวพร้อมกัน โดย แม่กลองเอา จีรวัฒน์ แก้วโบราณ แทน พานุวัฒน์ ยิ้มสง่า ส่วน ทีโอที ถอดเอา มิโลสลาฟ ทอธ ที่เล่นไม่ได้ออก และให้ วิชาญ นันทะศรี เล่นแทน น.74 วิชาญ นันทะศรี ลงมาก็มีโอกาสสร้างสกอร์เมื่อลากบอลจากขวา แล้วซัดระยะ 20 หลา บอลพุ่งเรียด ปินโต้ ยังรับไว้ได้

ทีโอที แคท ต้องมาเน้นเกมรุกมากขึ้น แต่ว่า สมุทรสงคราม ก็ใช้การตั้งรับที่ดี น.80 ก็ได้สวนกลับเร็วจาก พัชรินทร์ สุขใส ที่ตัดบอลกลางสนาม ส่งต่อให้ จีรวัฒน์ แก้วโบราณ พลิกพาบอลไปคนเดียว จากนั้นไหลออกขวาให้ เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ สปีดสุดเส้นหลังก่อนเปิดเข้ากลางไปที่จุดนัดพบ และเป็น จีรวัฒน์ แก้วโบราณ ที่มีหน้าที่จิ้มบอลลูกนี้เข้าสู่ประตูไปให้ ปลาทูคะนอง หนีไป 2-0

แต่ทีมเยือนยังไม่ท้อ น.89 มีลุ้นได้ประตูคืนเมื่อ อีฟีมบ้า กระชากบอลจากขวาก่อนไหลให้ วิชาญ นันทะศรี ซัดโล่งๆ กับวางเท้าไม่ดี บอลโด่งไปไกล ปลาทู เปลี่ยนตัวรายสุดท้ายเอา พิทวัส ทองแพง เล่นแทน พิเชษฐ์ อินทร์บาง โดยเจ้าถิ่นสามารถประคองเกมไว้ได้หมด ทีโอที แม้ว่าจะโหมบุก ก็ทำอะไรไม่ได้ จบเกม เอสซีจี สมุทรสงคราม เอาชนะ ทีโอที เอฟซี ไปได้ 2-0 เป็นการคว้าชัย 2 นัดติด ทำให้มี 20 แต้ม แต่ว่ายังรั้งอันดับที่ 6 อยู่เช่นเดิม

วาทะโค้ช

สมชาย ชวยบุญชุม โค้ชเอสซีจี สมุทรสงคราม– เป็นเกมที่กดดันที่สุด เพราะก่อนลงสนามตัวของเราไม่พร้อม แบ็คสองข้างเราไม่มี เลยต้องปรับกันใหม่ แต่ว่าวันนี้เราชนะได้เพราะทีมสปีริต ทุกคนช่วยกัน อีกอย่างการเอา เอกภูมิ ลงไปช่วยพลิกเกมได้มาก ก็ชนะมา 2 นัดแล้ว ทำให้มั่นใจมากขึ้น โดยหวังว่าการเล่นในบ้านอีก 2 นัดที่เหลือ จะเก็บแต้มได้อีก และน่าจะติด 1 ใน 5 ก่อนจบเลกแรกได้

ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือทีโอที - ยอมรับว่าแพ้จริงๆ เกมนี้ทุกคนต่างคนต่างเล่น ทีมเวิร์คไม่มี เรามีโอกาสสร้างสกอร์ แต่ว่าก็ทำพลาดง่ายไป อีกอย่างเรามองหาตัวสำรอง ที่จะเปลี่ยนพลิกเกมก็แทบไม่มี คือส่งใครลงไปก็ช่วยทีมไม่ได้มาก เกมก็เลยเป็นรอง อีกทั้งเสียงเชียร์แฟนบอลเจ้าบ้านก็กดดันเราได้มาก ก็ยอมรับว่าสู้ไม่ได้เกมนี้

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เอสซีจี สมุทรสงคราม : โนกูชิ ปินโต้ 7, ประหยัด บุญญา 7, อรรถนพ ชัยแป้น 6 (เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ 7), พานุวัฒน์ ยิ้มสง่า 6.5 (จีรวัฒน์ แก้วโบราณ 6), พิเชษฐ์ อินทร์บาง 6 (พิทวัส ทองแพง-), พัชรินทร์ สุขใส 7.5, กัณตพล สมพิทยานุรักษ์ 7, เซเลสเตียน 8, มิเชล ชาร์ลีน 6, สิทธิพันธ์ ชุมช่วย 6.5, สุขสยาม ชาญมณีเวช 6.5

ทีโอที แคท เอฟซี : แซมมวล ป. คันนิ่งแฮม 6, ชูศักดิ์ สุวรรณา 6, มาเรียน จูฮาส 6.5, วิชา นันทะศรี 5 (เอ็ดวาร์ด อีฟีมบ้า 5), สิทธิศักดิ์ ตาระพันธ์ 6 (กิตติภัทร วงศ์สมบัติ-), โทมัส โคซ่า 6.5, ธีรชัย งามเจริญ 6.5, แอนด์ตัน คูบาล่า 6, มิโลสลาฟ ทอธ 6 (วิชาญ นันทะศรี-), พลวัฒน์ วังฆะฮาด 6, อาทิตย์ ดาวสว่าง 6.5

แมนออฟเดอะแมตช์ : แอนยีชี่ เอ็คโคน่า เซเลสเตียน ปราการหลังจอมแกร่งชาวไนจีเรีย ของสมุทรสงคราม

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

โจ้ซัดเบิ้ลเจ้าท่าขย่มโลมา2-0,กิเลนช็อกทัพบกตี2-2

"สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี เฝ้าบ้านสุดแกร่ง ไล่เขมือบ "โลมาฟ้าขาว" พัทยา ยูไนเต็ด อยู่มือ 2-0 จากฝีเท้าของ "โจ้ห้าหลา" ศรายุทธ ชัยคำดี ทั้งสองเม็ด ขณะที่ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด สุดช็อกหลัง โคเน่ โมฮัมเหม็ด และ รณชัย รังสิโย ช่วยกันพังตาข่ายแซง "กงจักรพิฆาต" ทหารบก 2-1 แต่มาพลาดโดนทีเด็ด ธาตรี สีหา ซัดท้ายเกมให้ทัพบกเก็บ 1 แต้มไปด้วยสกอร์ 2-2 แถม พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ยังโดนใบแดงปิดท้ายเกม ศึกลูกหนัง ไทยลีก เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" นัดประจำวันอาทิตย์ ที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา

การท่าเรือไทย เอฟซี 2-0 พัทยา ยูไนเต็ด

ที่สนามแพท สเตเดี้ยม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับ 11 ของตาราง แข่งมาแล้ว 11 นัด มีอยู่ 14 แต้ม เปิดบ้านรับมือ "โลมาฟ้าขาว" พัทยา ยูไนเต็ด ซึ่งเริ่มต้นซีซั่นนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม แข่งมา 12 นัด มี 21 แต้ม รั้งอันดับ 4 อยู่ในขณะนี้

"สิงห์เจ้าท่า" มีสถิติในการเล่นในแพท สเตเดี้ยม ที่ดียังไม่แพ้ทีมไหน โดยเอาชนะมา 2 นัดติด เกมนี้ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่ ปรับทัพพอสมควร ผู้รักษาประตูเป็นทางด้านของ อิริค มุนเซ่ หัวใจสำคัญในแนวรับ ส่ง มาริโอ ดา ซิลวา ลงยืนคู่กับ มอยซี่ แดนกลางได้ จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ ขับเคลื่อนเกมรุก ส่วนคู่หัวหอก "โจ้ห้าหลา" ศรายุทธ ชัยคำดี ล่าตาข่ายคู่กับ จาค็อบ

ด้าน "โลมาฟ้าขาว" ส่งแนวรับลงเล่นหนาแน่น ทั้ง สมภพ นิลวงษ์, วุฒิศักดิ์ มณีสุข และ นิเวส ศิริวงษ์ แผงมิดฟิลด์ อิทธิพล พูลทรัพย์ ยังเป็นตัวคุมจังหวะ แล้วให้ สันติ ไชยเผือก ทำเกมริมเส้น วาง ธนา ชะนะบุตร เป็นหัวหอกเดี่ยวทะลวงเป้า

เริ่มเกมครึ่งแรก ขุนพลเจ้าถิ่นดาหน้าบุกแหลก ทว่าไม่ผ่านแนวรับอันแข็งแกร่งของ "โลมาฟ้าขาว" ได้ ขณะที่ พัทยา ใช้วิธีสวนกลับเร็วสู้ น.7 ธนา ชะนะบุตร ได้สับไกยิงในระยะกว่า 25 หลา แต่ถูกปฏิเสธโดย มอยซี่ นายทวารเจ้าบ้าน ถัดมานาทีเดียวกัน ได้ขึ้นโหม่งจากกการเตะมุมของ อิทธิพล พูลทรัพย์ แต่ก็หลุดกรอบออกไป ไม่ได้ลุ้น

น.16 ธนา ชะนะบุตร ได้ลากบอลฝ่าแนวรับของ "สิงห์เจ้าท่า" เข้าไปกดในหัวกะโหลก แต่จังหวะที่จะสับไกยิง มี มอยซี่ มาพัวพัน จนกระทั่งบอลทะลักไปเข้ามือของ อิริค มุนเซ่ นายทวารเจ้าถิ่น

น.20 เจเรมี่ หัวหอกชาวฝรั่งเศล กระชากบอลหมายจะเข้าไปสังหารในกรอบเขตโทษ ทว่าโดน นนทพันธ์ เจียรสถาวงศ์ กระแทกล้มบริเวณเส้นประตู ต้องเสียเวลาปฐมพยาบาล ไปเกือบ 5 นาที ก่อนจะตัดสินใจถอดออก แล้วส่ง เปรมวุฒิ วงศ์ดี ลงไปเล่นแทน

น. 23 หายนะเริ่มมาเยือนทีมพัทยา เมื่อ จาค็อบ ลากบอลเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ โดน สมภพ นิลวงศ์ เสียล้ม ผู้ตัดสินเห็นว่าเป็นลูกได้เปรียบ จึงปล่อยให้เล่น จังหวะต่อมาบอลทะลักมาเข้าทางปืนของ ศรายุทธ ชัยคำดี ในระยะ 5 หลา เหนี่ยวไกยิงเต็มข้อไม่เหลือ บอลพุ่งเสียบตาข่ายให้เจ้าถิ่นนำ 1-0

น.30 พัทยา ได้ฟรีคิก ในระยะนอกกรอบเขตโทษ อิทธิพล พูลทรัพย์ รับหน้าที่ส่อง แต่บอลพุ่งตรงตัว อิริค มุนเซ่ นายทวาร "สิงห์เจ้าท่า" รับเข้าซองสบาย อีก 2 นาทีถัดมา การท่าเรือ ได้ฟรีคิกบ้าง จากการยิงของ จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ ถูก นริศ ทวีกุล กระโดดชกบอลออกมา เข้าทาง นนทพันธ์ เจียรสถาวงศ์ วิ่งเข้าซ้ำดาบสอง บอลเหินข้ามคานออกไป

น.38 พัทยา ได้ลุ้นทะลวงตาข่ายบ้าง จากจังหวะที่ อนุชา กิจพงษ์ศรี ลากบอลลุยเข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนจะตักบอลเข้าเสาสองให้ เปรมวุฒิ วงศ์ดี กระโดดขึ้นโหม่ง แต่บอลเฉียดคานหวุดหวิด

ช่วงท้ายเกม น.44 มาริโอ ดา ซิลวา ลากบอลจากแดนกลาง ก่อนแทงบอลทะลุช่องให้ ใหญ่ นิลวงษ์ เปิดเน้นๆ ให้ ศรายุทธ ชัยคำดี ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่หัวหอกจอมสังหารในระยะ 5 หลา จะกระโดดแปเน้นๆ บอลทะลุตาข่ายให้ การท่าเรือไทย เอฟซี ออกนำ 2-0

ทดเจ็บครึ่งแรก พัทยา ได้เตะมุม โดย อิทธิพล พูลทรัพย์ วางบอลให้ สมภพ นิลวงศ์ ก่อนชิ่งสั้นๆ ให้ ธนา ชะนะบุตร สับไกยิงเปรี้ยงเดียว บอลเฉียดคานเกือบได้ลุ้นเป็นสกอร์ ก่อนจะหมดครึ่งแรก การท่าเรือฯ ยังนำ พัทยา ยูไนเต็ด อยู่ 2-0

ครึ่งหลัง น.48 จาค็อบ วางบอลข้ามกองหลังของพัทยา กะจะให้ ศรายุทธ ชัยคำดี แต่มี สันติ ไชยเผือก เข้ากระกระแทกล้มนอกกรอบเขตโทษ ต้องหามออกมาปฐมพยาบาลข้างสนาม ก่อนจะลงไปเล่นได้ในเวลาต่อมา น.55 รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ ไปสอยข้างหลัง สันติ ไชยเผือก ในระยะนอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่ อิทธิพล พูลทรัพย์ จะรับหน้าที่สังหารเอง แต่บอลตรงตัว มุนเซ่ อัลริช

อีก 2 นาทีต่อมา ธนา ชะนะบุตร หัวหอกความเร็วสูงของทีมเยือน ลากบอลลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะสับไกยิง บอลเหินเฉียดคานไปหวุดหวิด ถัดมา สันติ ไชยเผือก ได้ลองส่องฟรีคิกระยะนอกกรอบเขตโทษ เยื้องทางริมเส้นด้านขวา แต่บอลก็มาเข้าซอง มุนเซ่ อัลริช นายทวารเจ้าท่า อีกคำรบ

หลังได้ประตูนำห่าง "สิงห์เจ้าท่า" เน้นเกมรับมากขึ้น ปล่อยให้ ฝั่งพัทยา ที่ครองเกมรุกบุกกดดันกันนานกว่า 10 นาที แม้จะได้ลุ้นฟรีคิกจากการวางของ อิทธิพล พูลทรัพย์ หลายหนติด และ ความพยายามของ ธนา ชะนะบุตร ที่พยายามลากบอลทะลุทะลวงเข้าไปยิง แต่ก็ไม่อาจฝ่าแนวรับอันแข็งแกร่ง เข้าไปทะลวงเป้าเจ้าถิ่นได้

เกมเย่อกันถึง น.90 อาลีฟ เปาะจิ ที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน ใหญ่ นิลวงษ์ ได้ลองส่องไกลในระยะ 25 หลา บอลเหินข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น ช่วงทดเวลาเจ็บออกไป 4 นาที การท่าเรือไทย เน้นการครองบอลเพื่อรักษาสกอร์ขึ้นนำ ก่อนเอาชนะไป 2-0 เก็บสามแต้มได้สำเร็จ

วาทะโค้ช

สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่ การท่าเรือไทย เอฟซี - เป็นสามแต้มที่ล้ำค่า กับการเป็นเจ้าบ้านอยู่แล้ว แต่เกมครึ่งหลัง ต้องปรับทัพกันพอสมควร ซึ่งต้องนั่งคุยกันถึงเรื่องจังหวะจบสกอร์ ขณะเดียวกันเราพยายามที่จะโลเตชั่นนักเตะ เพราะยังมีเกม เอฟเอ คัพ กลางสัปดาห์ให้เล่นอีก หนักแน่สำหรับสถานการณ์ของทีมในช่วงเวลานี้

ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เฮดโค้ชของ พัทยา ยูไนเต็ด - เป็นเกมที่ดีด้วยกันทั้งคู่ แต่ต่างกันเพียงแค่จังหวะจบสกอร์เท่านั้น พัทยา เราก็มีโอกาสจบสกอร์ได้หลายจังหวะเช่นกัน แต่ทำไม่ได้ ซึ่งสิ่งนี้แหละ ที่จะนำเอาไปเป็นการบ้านปรับทัพ ก่อนกลับมาเล่นในเกมเอฟเอ คัพ ที่สนามแห่งนี้อีกครั้ง

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

การท่าเรือไทย เอฟซี : มุนเซ่ อัลริช 6, มาริโอ ดาซิลวา 6.5, มอยซี่ 6.5, เกียรติเจริญ เรืองปาน 6, นนทพันธ์ เจียรสถาวงศ์ 6, วรวุฒิ วังสวัสดิ์ 6, ใหญ่ นิลวงษ์ 6 (อาลีฟ เปาะจิ 5), รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ 6, ศรายุทธ ชัยคำดี 7 (ฮิโรชิ โมริต้า), จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ 6.5, จาค็อบ 6

พัทยา ยูไนเต็ด : นริศ ทวีกุล 5.5, อตานาซ 5, วุฒิศักดิ์ มณีสุข 5, สมภพ นิลวงศ์ 5 (ปฏิพณ เพชรวิเศษ 5), นิเวส ศิริวงศ์ 5, อนุชา กิจพงษ์ศรี 5, สันติ ไชยเผือก 5, ริชาร์ด 5, อิทธิพล พูลทรัพย์ 5, ธนา ชะนะบุตร 6, เฌเรมี่ โนเวโร่- (เปรมวุฒิ วงศ์ดี 5)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ศรายุทธ ชัยคำดี กองหน้าดาวซัลโวของ การท่าเรือไทย เอฟซี

ทหารบก 2-2 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด

ที่สนามกีฬากองทัพบก "กงจักรพิฆาต" ทหารบก ทีมรองบ๊วย ที่เตะมา 11 นัดมี 6 แต้ม เปิดบ้านเจอศึกหนักกับแชมป์เก่า "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง ซึ่งเกมนี้หากทีมเยือน หวังจะกลับไปนั่งจ่าฝูงอีกครั้ง ต้องเก็บชัยให้ได้ด้วยผลต่างอย่างน้อย 3 ประตูขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ผลต่างประตูได้เสียดีกว่า ชลบุรี จ่าฝูงทันที

นัดนี้เจ้าถิ่นมากันแบบฟูลทีมนำทัพโดย ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม กัปตันทีม, จักรพงศ์ สมบูรณ์, รวมถึง 2 กองหน้า ธาตรี สีหา กับ มงคล ทศไกร ขณะที่ทีมเยือนไม่มี กองหลัง เซนเตอร์ ภานุพงศ์ วงศ์ษา ที่ติดโทษแบน โดยเกมนี้แดนหน้าใช้บริการ ธีรศิลป์ แดงดา จับคู่ยืนหอก กับ คริสเตียน คาเคา ส่วนตัวเก๋ารายอื่นๆ ดักโน่ เซียก้า, ซูมาโฮโร่ ยาย่า ยังอยู่กันพร้อมหน้า รวมถึงนายทวาร กวิน ธรรมสัจจานันท์

เริ่มครึ่งแรกแค่ 15 วินาที ทีมเยือน "กิเลนผยอง" ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะหลุดเข้าไปซัดของ คริสเตียน คาเคา แต่ติดบล็อกออกหลังไปซะก่อน ถัดมาอีกไม่กี่วินาที เมืองทองฯ ได้ลุ้นต่อ จากลูกเตะมุม ธีรศิลป์ แดงดา โขกชนเสาแรกออกหลังไปอีกครั้ง

น.8 ดัสกร ทองเหลา ดีดมาจากขวากะจะให้ ยาย่า แต่บอลลึกเลยออกข้างไป น.11 จักรพงศ์ สมบูรณ์ พาไปสวยทางขวา ก่อนตัดสินใจผ่านไปหน้าประตู บอลเลยไปหมดไม่มีกองหน้าคนไหนของ ทหารบก ชาร์ตได้ทัน ก่อนเป็น โคเน่ โมฮาเหม็ด ที่เตะทิ้งออกหลังไปได้

น.12 เจ้าถิ่นที่ไม่ชนะใครมา 4 นัดติดต่อกัน ก็ได้เฮลั่น ชนิดช็อกกองเชียร์ทีมเยือน โดยได้จากลูกยิงสุดสวยของ นิพนธ์ คำทอง ปีกซ้าย ที่ซัดเข้าไปให้ ทหารบก นำก่อน 1-0

น.19 จักรพงศ์ สมบูรณ์ หลุดเข้าไปซัดอีกครั้ง แต่หนนี้ไม่เข้ากรอบ ทหารบก ได้แค่เสียวเท่านั้น นาทีเดียวกัน เมืองทองฯ โต้กลับ ยาย่า' ไหลให้ คริสเตียน แต่โดนสกัดทิ้งออกหลังไปได้ เมืองทองฯ ได้เตะมุม ก็ไม่มีลุ้นในจังหวะนี้ น.24 ดัสกร ทองเหลา ของทีมเยือนวางไปเข้าหัว ธีรศิลป์ แดงดา โขกตั้งมาให้ ดักโน่ เซียก้า วอลเลย์ออกหลังไปไกล

น.26 ฉัตรชัย โมกเกษม ตัดฟาวล์ คริสเตียน ริมเขตโทษด้านขวาของ ทัพบก พอดี จากนั้น เมืองทองฯ ที่บุกหนักหวังตีเสมอให้ได้เร็วที่สุด เพื่อกลับมาแซงนำ ได้ฟรีคิก ดัสกร ทองเหลา รับหน้าที่ปั่นยัดเสาแรก บอลชนเสากระดอนออกมา แต่ไม่มีใครซ้ำได้ทัน พลาดได้ประตูตีเสมอไม่น่าเชื่อ

น.30 สาวก "อุลตร้าเมืองทอง" ได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อทัพ "กิเลนผยอง" ตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ จากลูกยิงไกลสุดสวยราว 40 หลาของ โคเน่ โมฮาเหม็ด โดยถือเป็นประตูที่ 3 ของดาวยิงจากไอวอรี่โคสต์ รายนี้ในซีซั่นนี้ด้วย

จากนั้นถัดมาไม่กี่อึดใจเมืองทองฯ น่าจะมีโอกาสพลิกแซงนำ เมื่อ ดัสกร ทองเหลา วางยาวกะจะให้ ดักโน่ เซียก้า ที่หลุดเช็กล้ำหน้าไปแล้ว แต่บอลลึกเกินไป ดักโน่ เก็บไม่ได้บอลไปถึง อุดมศักดิ์ พัฒน์แช่ม นายทวารทหารบก เซฟไว้ได้

น.31 ทหารบก ดันกันขึ้นมาอีกครั้ง จักรพงศ์ สมบูรณ์ เปิดจากขวาผ่านหน้าประตูไป แต่ นิพนธ์ คำทอง ชาร์ตไม่ถึง เมืองทองฯ รอดไปในจังหวะนี้ น.36 ชีล่า มูซ่า ของเมืองทองฯ อดีตเด็กเก่าทัพบก โดนเหลืองแรกในเกมนี้ หลังไปตัดฟาวล์กลางสนามใส่ ธาตรี สีหา หัวหอกเจ้าถิ่น

น.38 เมืองทองฯ พลาดโอกาสพลิกนำอีกครั้งจาก คริสเตียน ที่พาหนีตัวประกบเซนเตอร์จอมเก๋าเจ้าถิ่นอย่าง ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม ไปแล้ว แต่เจ้าตัวดีดบอลไม่ดี บอลข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

น.45 โคเน่ โมฮาเหม็ด โขกบอลเข้าไปตุงตาข่าย ในจังหวะฟรีคิกที่ ดัสกร ทองเหลา วางเข้าไป แล้วกองหลังทัพบก เคลียร์กันไม่ดี มาเข้าทาง แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 อย่าง โกสัย แสนมาตย์ ยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าซะก่อน ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีม เสมอกันอยู่ 1-1

ครึ่งหลัง น.46 เมืองทองฯ ส่ง รณชัย รังสิโย ลงแทน ชีล่า มูซ่า เพื่อเสริมเกมรุก น. 48 รณชัย ที่เพิ่งลงไปแค่ไม่กี่นาที และเกมล่าสุดในศึกไทยคม เอฟเอคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ที่ชนะบ้านบึงนวนครมาได้ 11-0 เพิ่งยิงไปคนเดียว 5 ตุง ก็แผลงฤทธิ์รับบอลจาก คริสเตียน คาเคา หลุดเข้าไปซัดให้เมืองทองฯ แซงนำเป็น 2-1 ทันที

น.53 เมืองทองฯ พลาดได้ประตูนำห่าง เมื่อ ยาย่า หลุดเข้าไปซัด แต่ติดเซฟของ อุดมศักดิ์ พัฒน์แช่ม นายทวารทีมเจ้าถิ่นซะก่อน น.55 กองเชียร์ เมืองทองฯ เฮเก้อ เมื่อ คริสเตียน คาเคา ลองส่องไกล แต่บอลชนคานไปซะอีก

น.56 ธาตรี สีหา ของทัพบก ดึงเสื้อ คริสเตียน คาเคา โดนใบเหลืองไปอีกคน น. 60 ทหารบก เปลี่ยนตัวรายแรกเอา สมพร ธัญญเจริญ แทน นิพนธ์ คำทอง น.75 เจ้าถิ่น เปลี่ยนอีกราย เอา มงคล ทศไกร ออกแล้วส่ง สำเริง สิทธิโยธี ลงแทน

น.77 เมืองทองฯ ส่ง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ลงแทน ดัสกร ทองเหลา ที่มีอาการเจ็บข้อเท้า น.88 เมืองทองฯ หวิดโดนตีเสมอ เมื่อ ฉัตรชัย โมกเกษม หลุดเข้าดีด แต่ กวิน นายทวารเมืองทองฯ ยังคว้าไว้ได้

อย่างไรก็ดี น. 90 เมืองทองฯ ก็โดนตีเสมอเป็น 2-2 จนได้ จากหัวหอกตัวเก่งของทหารบก ธาตรี สีหา ที่หลุดเข้าไปซัดเข้าไป

น. 92 เมืองทองฯ ได้ลุ้นแซงนำอีกครั้ง จากฟรีคิกของ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ แต่เปิดไปโดนเคลียร์ออกมาได้ ทัพบก ได้บอลโต้กลับเร็วริมเส้นขวา ฉัตรชัย โมกเกษม พาบอลทำเกมรุกริมเส้น แต่โดน พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เตะสกัดดื้อๆ ผู้ตัดสินปรีชา กางรัมย์ ควักใบแดงไล่ พิชิตพงษ์ ออกจากเกมทันที เวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เกิดขึ้น จบเกมสองทีมเสมอกันไป 2-2 แบ่งไปทีมละแต้มเท่านั้น

วาทะโค้ช

พต.ขวัญ รัตนรังษี กุนซือทหารบก - เขาทางทีมเราเต็มๆ ครับนัดนี้ เป็นไปตามที่ผมวางหมากเอาไว้เลยทีเดียว เรารู้ว่าเมืองทองฯ จะมาบุกใส่เราๆ ก็เตรียมเกมรับที่ยอดเยี่ยม และการโต้กลับไว้รับมือ โอเคครับสำหรับเกมนี้ หากไม่พลาดโดนประตูที่เมืองทองฯ นำเราไป ป่านนี้น่าจะชนะไปแล้ว โอเคนัดนี้ ยกเครดิตให้นักเตะทุกคนในทีมไป

โรเบิร์ต โปร์คูเรอร์ ผจก.ทีม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด - เราเสียสมาธิในเกมรับกันไปเอง วันนี้นักเตะเราเล่นเหมือนขาดๆ เกินๆ ไป อีกทั้งเราไม่มีโชคด้วยยิงชนเสา 2 ครั้งกับคานอีก 1 ครั้ง เสียดายเราน่าจะเป็นฝ่ายชนะได้ในเกมนี้ได้ แต่ก็ทำไม่ได้ไม่เป็นไร นัดต่อไปเชื่อว่าเราจะเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้แน่นอน

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ทหารบก : อุดมศักดิ์ พัฒน์แช่ม 6, ดาวุฒิ ดินเขต 6, วิทยา โพธิ์ยอด 6, ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม 6, นิพนธ์ คำทอง 6.5 (สมพร ธัญญเจริญ 6), จักรพงศ์ สมบูรณ์ 6.5 (รัฐกิจ ชนะนา – ), ธาตรี สีหา 7, มงคล ทศไกร 6 (สำเริง สิทธิโยธี 6), ฉัตรชัย โมกเกษม 6, วันชนะ รัตนะ 6, อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ 6.5

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 6, เจษฎา จิตสวัสดิ์ 6, ณัฐพร พันฤทธิ์ 6, ดัสกร ทองเหลา 6.5 (พิชิตพงษ์ เฉยฉิว -), ธีรศิลป์ แดงดา 6.5, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ 6.5, คริสเตียน คาเคา 6.5, ชีล่า มูซ่า 6 (รณชัย รังสิโย 6.5), ดักโน่ เซียก้า 6.5, โคเน่ โมฮัมเหม็ด 6.5, ซูมาโฮโร่ ยาย่า 6.5 (จักรพันธ์ แก้วพรม - )

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ธาตรี สีหา หัวหอกตัวเก่งของ ทหารบก

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

เสือเตี้ยลั่นเปิดเกมส์รุกรับมือ โลมามหาภัย

" โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือจอมโวของ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี สั่งลูกทีมเปิดเกมรุกเต็มสูบ หวังเปิดบ้านดับซ่า "โลมาฟ้า-ขาว" พัทยา ยูไนเต็ด เก็บ 3 แต้ม เพื่อเกาะกลุ่มนำ ให้ได้ คู่นี้สยามกีฬาทีวี ช่องเอ็นบีที 19 ยิงสดให้ชมตั้งแต่ เวลา 17.00 น. ด้านแชมป์เก่า "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เตรียมจัดทัพใหญ่บุกกระซวก ทีมรองบ๊วย "ตรากงจักร" ทหารบก ที่พร้อมรับสภาพ แต่ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่นอน ศึกไทยลีก วันที่ 20 มิ.ย. นี้

ศึกลูกหนัง "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" วันอาทิตย์ที่ 20 มิ.ย. นี้ ยังคงมีให้แฟนบอลได้ตามลุ้นตามเชียร์กันอีก 4 สนามเช่นเดิม ซึ่ง "ตรากงจักร" ทหารบก ทีมรองบ๊วยของตาราง ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของจ่าฝูง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ซึ่งคู่นี้จะมีการบันทึกเทปทาง เอ็นบีที 19 เริ่มเตะเวลา 18.00 น.

โดย สถานการณ์ของเจ้าบ้านต้องบอกว่ายังแย่ไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากฤดูกาลนี้ยังไม่ชนะใครในรังของตัวเองเลย แถมยังต้องมาเจอกับทีมแชมป์เก่าที่ฟอร์มกำลังดีอีก โดยนัดล่าสุดของ ทหารบก ออกไปพ่าย เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี 2-4 ทั้งๆ ที่มีโอกาสขึ้นนำไปก่อน 2-1

สำหรับ ผู้เล่นที่ "โค้ชขวัญ" ขวัญ รัตนรังสี กุนซือของทีม จะส่งลงสนามสู้กับแชมป์เก่า จะประกอบไปด้วยผู้รักษาประตู อุดมศักดิ์ พัฒน์แช่ม กองหลังจากขวาไปซ้าย วิทยา โพธิ์ยอด, ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม, ฉัตรชัย โมกเกษม แผงกองกลางมี จักรพงศ์ สมบูรณ์ เลื้อยทางฝั่งขวาและมี นิพนธ์ คำทอง ทำเกมด้านซ้าย ส่วนคู่กลางเป็น อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ กับ วันชนะ รัตนะ ส่วนคู่กองหน้าเป็น มงคล ทศไกร กับ "เจ้าโด้" ธาตรี สีหา

โดย กุนซือคู่บุญของ ทบ. เผยก่อนเกมนี้ว่า "การเจอกับ เมืองทองฯ เป็นงานที่หนักมากๆ แต่เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเล่นไปตามสภาพที่มีอยู่ แม้ว่าจะยังไม่ชนะใครในบ้าน แต่เชื่อว่าความมุ่งมั่นของนักเตะ น่าจะสร้างความลำบากใจให้กับทีมแชมป์เก่าอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดีจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อกำลังใจในนัดต่อๆ ไป"

เมืองทองฯ หวังบุกฟัน 3 แต้มเพื่อรั้งฝูง

ด้าน "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูงของตารางและแชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ถือว่ามีกำลังใจอย่างมากหลังจากที่กลางสัปดาห์ไล่ถล่มทีมนอกลีกในศึกเอฟเอ คัพ ไปแบบเละเทะ 11-0 แถม ไทยลีก ยังบุกไปชนะ โอสถฯ ได้อีก 3-0 นับว่ากำลังลงตัวทุกขุมกำลัง แม้จะขาด ปกาศิต แสนสุข ที่มีอาการบาดเจ็บในตำแหน่งแบ็กขวาก็ตาม เช่นเดียวกับ ภานุพงศ์ วงศ์ษา ที่ติดโทษแบน

โดยผู้เล่นของ เมืองทองฯ ที่คาดว่าเกมนี้ เรเน่ เดอซาเยียร์ จะส่งลงสนาม ประกอบไปด้วย กวิน ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสาประตู ส่วนกองหลังถอยเอา จักรพันธ์ แก้วพรม มายืนแบ็กขวา ส่วนแบ็กซ้ายเป็น ปิยะชาติ ถามะพันธ์ เช่นเดิม ส่วนคู่เซนเตอร์เป็น เจษฎา จิตสวัสดิ์ กับ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ แผงกองกลางมี ดัสกร ทองเหลา, ดักโน่ เซียก้า, ซูมาโฮโร่ ยาย่า และ คริสเตียน และ กองหน้าเป็น โคเน่ โมฮาเหม็ด กับ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา

ซึ่ง เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือชาวเบลเยียมของ เมืองทองฯ ได้กล่าวว่า "ตามศักยภาพและสถานการณ์แล้วเราต้องเก็บ 3 คะแนนให้ได้อย่างเดียว เนื่องจากการเจอกับทีมที่ผลงานไม่ดีแล้วเกิดพลาดแพ้ขึ้น มาจะทำให้การลุ้นแชมป์ค่อนข้างลำบาก แต่ด้วยความมั่นใจของนักเตะแล้ว เชื่อว่านัดนี้จะสามารถเก็บชัยชนะได้"

"น้าฉ่วย" บ่นเด็กล้าแต่ในบ้านต้องคว้าชัย


ขณะ ที่สนามกีฬา จ.สมุทรสงคราม เวลา 16.30 น. เจ้าบ้านอย่าง "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี ทีมอันดับ 6 เปิดรังต้อนรับการมาเยือนของ "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี อันดับ 7 ของตาราง โดยคู่นี้มีการบันทึกเทปทางสยามกีฬาทีวี ช่องเอ็นบีที 19 ด้วย

สำหรับ ความพร้อมของ "แม่กลอง" ในเกมนี้ ต้องบอกว่านักเตะไม่ค่อยสมบูรณ์ โดย ดิยุฟ บิราเม่ กับ ประสาร พันธ์สำลี สองดาวเตะตัวเก่งติดโทษแบน ส่วน อภินันท์ แก้วปีลา แบ็กจอมเก๋าก็มีอาการบาดเจ็บอีก แถมกลางสัปดาห์เพิ่งจะเล่น 120 นาทีกับ เอฟซี ภูเก็ต ในศึกเอฟเอ คัพ แม้จะชนะได้แต่ก็บั่นทอนความฟิตของนักเตะไปมากพอสมควร

ซึ่ง 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ออกสตาร์เป็นตัวจริงในเกมนี้ ประกอบไปด้วย ปินโต้ เป็นผู้รักษาประตู แบ็กขวาเป็น สุขสยาม ชาญมณีเวช แบ็กซ้ายเป็น กัณตภณ สมพิทยานุรักษ์ คู่เซนเตอร์ใช้ ประหยัด บุญญา จับคู่กับ เอลวิช ส่วนกองกลางมี อรรถณพ ชัยแป้น, พัชรินทร์ สุกใส, จิรวัฒน์ แก้วโบราณ และ ภานุวัฒ ยิ้มสง่า ส่วนกองหน้าเป็น พิเชษฐ์ อินทร์บาง และ สิทธิพันธ์ ชุมช่วย คอยล่าตาข่าย

โดย "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม เฮดโค้ช เอสซีจีฯ กล่าวว่า "การมีผู้เล่นตัวหลักติดโทษแบนและบาดเจ็บ ถือว่าเป็นงานที่หนักพอสมควรไม่ว่าจะเจอใครก็ตาม โดยเกมนี้เราจะต้องเน้นความรัดกุมเอาไว้ก่อนเพราะผู้เล่นส่วนใหญ่ค่อนข้าง ที่เหนื่อยจากเกมกลางสัปดาห์ อย่างไรก็ดีเมื่อเราเล่นในบ้านก็ต้องเอา 3 คะแนนเท่านั้น แม้จะยอมรับว่าผู้เล่นต่างชาติของ ทีโอที จะเป็นนักเตะที่ดีและแข็งแกร่ง แต่เราก็มีวิธีการรับมือไว้แล้วขอเพียงแค่วันแข่ง นักเตะของเรามีอย่าออกอาการล้าให้เห็น"

"โค้ชต้อม" มักน้อยขอแต้มเดียว

ส่วน "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ของ "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ ต้องเรียกความมั่นใจของนักเตะกลับมาโดยด่วน หลังจากที่สัปดาห์ก่อนเล่นในบ้านแพ้ให้กับ เทโรฯ เละเทะ 0-5 แถมเกมนี้ยังต้องขาด ยุทธนา ไชยแก้ว ที่ติดโทษแบนอีก ส่วน จอร์จี้ ก็ยังไม่ครบกำหนดโทษแบน

แม้จะมีผู้เล่นแบนแต่ "โค้ชต้อม" ยังคงมี 11 นักเตะในดวงใจที่จะส่งลงสนามในเกมนี้ โดยนายทวารเป็น แซมมวล ป.คันนิงแฮม แผงกองหลังจากขวาไปซ้ายมี อาทิตย์ ดาวสว่าง, จูฮาส, ชูศักดิ์ สุวรรณา, ธีรชัย งามเจริญ กองกลางประกอบไปด้วย เอ็ดเวิร์ด, แอนตัน คูบาล่า, พลวัฒน์ วังฆะฮาด และ สิทธิศักดิ์ ตาระพัน ส่วนกองหน้าใช้ มิโรสลาฟ ทอธ ยืนคู่กับ โทมัส โคซาร์

ซึ่ง "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ ได้เผยถึงเกมนี้ค่อนข้างมักน้อยว่า "การขาด ยุทธนา ไชยแก้ว ทำให้ต้องมีการปรับเอา พลวัฒน์ วังฆะฮาด ไปเล่นเป็นตัวตัดเกมแทน และเอา อาทิตย์ ดาวสว่าง ไปยืนแบ็กขวา ซึ่งเกมนี้เราขอแค่แต้มเดียวถือว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจาก "แม่กลอง" เป็นทีมที่เล่นในบ้านได้ดี นอกจากนั้นสภาพฟ้าฝนที่เห็นว่าตกเป็นประจำน่าจะทำให้เราเล่นได้ยากแต่จะ พยายามมีแต้มกลับไปให้ได้"

เตี้ย" สั่งลูกทีมเต็มที่เพื่อเกาะกลุ่มนำ

ขณะ ที่คู่ระหว่าง "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับ 10 ของตาราง เปิดสนามแพท สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ "โลมาฟ้า-ขาว" พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 โดยคู่นี้เริ่มหวดกันเวลา 17.00 น. และมีการถ่ายทอดสดทางสยามกีฬาทีวี ช่องเอ็นบีที 19 ด้วย

ซึ่ง สถานการณ์ล่าสุดของ การท่าเรือไทยฯ ต้องเช็กความฟิตของ พงษ์พิพัฒน์ คำนวน แบ็กซ้ายตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ มอยเซ่ แต่รายนี้ไม่น่ามีปัญหา น่าจะผ่านการทดสอบความฟิตลงสนามได้ โดยเกมล่าสุดบุกไปพ่าย ชลบุรี อย่างสนุก 1-2 แต่ถือว่ารูปเกมน่าพอใจเพราะเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกตลอด

โดยผู้ เล่นในเกมนี้ของ การท่าเรือไทยฯ ที่คาดว่าจะลงสนามประกอบไปด้วยผู้รักษาประตู มุนเซ่ อัลลิช กองหลังจากขวาไปซ้ายมี รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์, มาริโอ ดา ซิลวา, มอยเซ่, นนทพันธ์ เจียรสถาวงศ์ ส่วนแผงกองกลางได้ วรวุฒิ วังสวัสดิ์ พ้นโทษแบนกลับมาผนึกกำลังร่วมกับ จักรกริช บุญคำ, จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ และ เกียรติเจริญ เรืองปาน ส่วนคู่กองหน้าเป็น สมปอง สอแหลบ กับ "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี

ซึ่ง "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือ การท่าเรือไทยฯ กล่าวว่า "พัทยา เป็นทีมที่มีอันดับดีกว่าซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นทีมที่ดี แต่สถานการณ์ของเราตอนนี้ ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเปิดเกมบุกทุกนัด ยิ่งเกมนี้ได้เล่นในบ้านด้วยจะต้องเอา 3 คะแนนอย่างเดียว"

"โค้ชวัง" เผยรู้แกว ท่าเรือ ขอบุกสู้


ด้าน "โลมาฟ้า-ขาว" พัทยา ยูไนเต็ด ที่ฤดูกาลนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างแจ่มจันทร์ จนพาตัวเองมาอยู่อันดับที 4 ของตาราง ซึ่งทีมของ "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ในเกมนี้ถือว่าต้องเจอข่าวร้าย เมื่อ ลูโดวิค ทาคาม ดาวซัลโวร่วม 7 ประตู ติดโทษแบนไม่สามารถลงล่าตาข่ายให้กับทีมได้ แถม อัลเวส ปีกชาวแซมบ้า ก็มีอาการบาดเจ็บพักยาวในเกมที่เปิดบ้านชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอีก

โดยผู้เล่น ของ พัทยา ที่คาดว่าเกมนี้ "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล จะส่งลงสนาม ประกอบไปด้วย นริศ ทวีกุล เฝ้าเสาประตู ส่วนกองหลังจากขวาไปซ้ายมี นิเวส ศิริวงศ์, สมภพ นิลวงศ์, อาร์ลอนโด้, อนุชา กิจพงษ์ศรี กองกลางถ่างเอา อิทธิพล พูลทรัพย์ ไปยืนปีกขวา ส่วนปีกซ้ายเป็น สันติ ไชยเผือก ขณะที่คู่กลางเป็น แอนนัตต้า กับ ริชาร์ด บาร์รินตัน ขณะที่คู่กองหน้าส่ง ธนา ชนะบุตร แทน ลูโดวิค ทาคาม โดยยืนคู่กับ เฌเรมี่ ดาวยิงหน้าฝรั่ง

ซึ่ง "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือ พัทยา กล่าวว่า "หนักแน่นอน เพราะ การท่าเรือไทยฯ เป็นทีมที่เล่นเกมรุกได้ดี รวมไปถึงการเล่นในบ้านที่แข็งแกร่ง ดังนั้นจึงเป็นเกมที่เราต้องเหนื่อยหน่อย ซึ่งคิดว่าเขาคงมาบุกใส่เรา แต่หากนักเตะทุกคนของ พัทยา รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดีก็มีลุ้นถึงชนะได้เช่นกัน

วิสูตรหวังปลดล็อกชนะเกมแรก
และ คู่สุดท้ายที่สนามศรีนครลำดวล จ.ศรีสะเกษ เป็นการพบกันของทีมบ๊วย ที่ยังไม่ชนะใครในฤดูกาลนี้อย่าง ศรีสะเกษ เอฟซี พบกับ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ทีมอันดับ 9 ของตาราง โดยคู่นี้มีการถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต เวลา 16.00 น. ด้วย

ซึ่งเกมนี้เจ้าบ้าน ศรีสะเกษ ต้องการชัยชนะเพื่อปลดล็อกให้ได้ซักทีหลังจากที่ก่อนหน้านี้ 11 นัด ยังไม่สามารถเก็บชัยชนะจากใครได้เลย โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาบุกไปแพ้ บุรีรัมย์ ในศึกอีสานดาร์บี้แมตช์ 0-1 โดยรูปเกมถือว่าสู้ได้อย่างสนุกและนัดนี้เหล่าทัพ "กรูปรี" ก็หวังจะเป็นเกมที่ดีอีกนัดหนึ่ง

โดย 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะถูกส่งลงสนาม ประกอบไปด้วยผู้รักษาประตู กฤษฎา กระจาดทอง แบ็กขวา ปรัชญา หงษ์อินทร์ แบ็กซ้าย ประลอง สาวันดี คู่เซนเตอร์ใช้ เอ็นยี่ ดิวิเน่ กับ เอกพันธ์ จันทรดากรณ์ แผงกองกลางประกอบไปด้วย ไพโรจน์ อนันตณรงค์, ปิยะวัฒน์ ทองแม้น, อมาโร่ และ เทวา ศรีธรรมมานุสาร ส่วนคู่กองหน้าเป็น ยอน ดอง คิม กับ วัลซี่ จูเนียร์

ซึ่ง วิสูตร วิชายา กุนซือของ ศรีสะเกษ กล่าวว่า "การเจอกับ เทโรฯ ถือเป็นเกมที่หนัก แต่นัดที่ผ่านมาเราแสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถสู้กับทีมใหญ่ได้ แม้จะแพ้ให้กับ บุรีรัมย์ ก็ตาม อย่างไรก็ดีหากทุกอย่างเข้าทางเราถือว่ามีลุ้นถึงชนะได้เลย"

เทโรฯ มาไกลแต่ไม่เอาผลเสมอ

ด้าน ทีมของ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ต้องเดินทางหลายร้อยกิโลเพื่อมาเจอกับ ศรีสะเกษ แม้ว่าเกมนี้จะไม่มีใครติดโทษแบน แต่ก็ต้องดูสภาพความฟิตของนักเตะหลายคน เนื่องจากกลางสัปดาห์เพิ่งจะลงทำศึกหนักกับ บางกอกกล๊าส ในศึก ไทยลีก นัดตกค้าง และแพ้ไป 0-1

ซึ่งผู้เล่นในเกมนี้ของ บีอีซี เทโรฯ ที่คาดว่าจะลงสนาม ประกอบไปด้วยผู้รักษาประตู พิศาล ดอกไม้แก้ว กองหลังจากขวาไปซ้ายมี กีย์ อูแบร์, ธฤติ โนนศรีชัย, ปรัชญ์ สมัคราษฎร์, นพพล ปิตะฝ่าย ส่วนแผงกองกลางประกอบไปด้วย อันโตนิโอ วาร์กัส ยืนปีกขวา ปีกซ้ายเป็น ชาคริต บัวทอง และคู่กลางเป็น หัตฐพร สุวรรณ กับ กิตติพล ปาภูงา ส่วนกองหน้ายังคงใช้บริการ วุฒิชัย ทาทอง กับ อานนท์ สังสระน้อย เหมือนเดิม

โดย "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน เผยว่า "เกมนี้อาจต้องดูความฟิตของนักเตะหลายคนเพราะเพิ่งเล่นกลางสัปดาห์มา แต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่ว่าจะส่งใครลงก็ต้องเน้นเรื่องความรัดกุมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่า ศรีสะเกษ จะยังไม่ชนะใครแต่เราก็ไม่ประมาทเพื่อเอา 3 คะแนนกลับบ้านให้ได้"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ฉลามชลดุขย้ำโปลิศ4แผล,แรบบิทบุกสอยแข้งเทพ4-1

"ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ฟอร์มดุ ยกทัพบุกขย้ำ "โปลิศแมน" อินทรีเพื่อนตำรวจ เละคาบ้าน 4-0 เก็ย 3 แต้มเต็ม แซง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงได้สำเร็จ ขณะที่ "เดอะกล๊าส แรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี เร่งเครื่องบุกกระหนำยิง "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ดับคาบ้าน 4-1 คว้าชัยนอกบ้านเป็นัดที่สองติดต่อกัน ฟุตบอล "สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล "สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" นัดประจำวันเสาร์ที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา

อินทรีเพื่อนตำรวจ 0-4 ชลบุรี เอฟซี

ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต "โปลิศแมน" อินทรีเพื่อนตำรวจ ทีมอันดับ 12 ของตาราง ลงแข่งมาแล้ว 11 นัด เก็บได้ 11 แต้ม เปิดบ้านรับมือรองจ่าฝูง "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ที่ลงเตะมา 10 นัด มี 25 แต้ม เท่ากับ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แต่ลูกได้-เสียเป็นรอง เกมนี้หากว่าพวกเขาชนะหรือเสมอ จะแซงนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว

เกมนี้ อินทรีเพื่อนตำรวจ มี ทาคาฮิโระ กาวามูระ เป็นหัวใจสำคัญในแนวรับ แดนกลางได้ ณรงค์ชัย วชิรบาล ปั้นเกม ส่วนคู่หัวหอกให้ นันทวัฒน์ แทนโสภา เป็นหัวหอกตัวเดี่ยว ทะลวงเป้า ด้านทีมเยือน "ฉลามชล" ยังคงยึดนักเตะชุดเดิม เซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ มี ชลทิตย์ จันทะคาม กับ สุทธินันท์ พุกหอม แผนกขับเคลื่อนเกมรุกแดนกลาง ยังเป็น ภูริทัต จาริกานนท์ กับ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ขับเคลื่อนเกมรุกให้ ฌูลส์ บากา ล่าตาข่าย

เริ่มเกมครึ่งแรก อินทรีเพื่อนตำรวจ เปิดเกมได้ดุดัน น.5 เกือบได้ทะลวงเป้า เมื่อ จักรพันธ์ พรใส วางบอลโด่งยาวให้ นันทวัฒน์ แทนโสภา แต่เกี่ยวบอลไม่ติด โดนกองหลังชลบุรี สาดบอลโด่งพ้นพื้นที่สังหาร

เกมดำเนินถึง น.10 สุรีย์ สุขะ วางบอลโด่งเข้าหน้ากรอบเขตโทษ จะให้ ฌูลส์ บากา แต่กองหลังตำรวจโหม่งเคลียร์ไม่ขาด บอลกระดอนมาเข้าทางปืนของ ภานุวัฒน์ จินตะ วิ่งเข้าซ้ำดาบสองไม่เหลือซากให้ทีมเยือน ผงาดนำอย่างรวดเร็ว 1-0

น.15 เพื่อนตำรวจ เกือบสังเวยเม็ดสองอีกครั้ง จากจังหวะที่ อาทิตย์ สุนทรพิธ วางบอลโด่งจากริมเส้นซ้ายให้กับ เอกพันธ์ อินทเสน ใช้อกพักบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนจะซัดด้วยเท้าขวา แต่ช้อนใต้ลูก บอลโด่งข้ามคานออกไป

ถัดมาอีก 2 นาที สุรีย์ สุขะ ฟูลแบ็กตัวเก่ง กระชากบอลขึ้นริมเส้นด้านขวา ก่อนจะสับไกยิง จังหวะแรกโดนกองหลัง ตำรวจ เคลียร์บอลมาเข้าทาง ฌูลส์ บากา วิ่งเข้าซ้ำตุงตาข่ายให้ชลบุรีทิ้งห่าง 2-0

น.30 ชลบุรี เกือบบวกสกอร์เพิ่มอีกครั้ง เป็นจังหวะที่ เอกพันธ์ อินทเสน แทงบอลทะลุช่องให้ อาทิตย์ สุนทรพิธ ที่เติมเกมขึ้นทางริมเส้นด้านขวา แต่ยิงเบาเข้าซองของ สมพงษ์ ยอดอาจ

เกมหลังจากนั้นเป็นทางด้าน ชลบุรี เอฟซี ที่เน้นการครองบอล ชิงจังหวะเข้าทำเสียเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ อินทรีเพื่อนตำรวจ พยายามหาโอกาสโต้กลับ โดยใช้ความเร็วของ นันทวัฒน์ แทนโสภา เป็นตัวเข้าทำ แต่ไม่เด็ดขาดพอ จบครึ่งแรกทีมเยือน "ฉลามชล" บุกมานำอยู่ 2-0

ครึ่งหลัง อินทรีเพื่อนตำรวจ แก้เกมมาดี เร่งเครี่องเกมรุกบุกใส่แหลก มีโอกาสจะทะลวงตาข่าย ด้วยการยิงฟรีคิกของ ณรงค์ชัย วิชิระบาล แต่ก็มไม่ผ่านแนวรับของ ชลบุรี เอฟซี ที่สาดบอลพ้นโซนสังหารกันได้ทุกจังหวะเสียว

กระทั้งถึง น.65 ชลบุรีฯ ได้ประตูนำห่าง เป็นจังหวะที่ เอกพันธ์ อินทะเสน กระชากบอลขึ้นริมเส้นด้านขวา โดน เดชา สะอาดโฉม เสียบสกัด ผู้ตัดสินให้เป็นฟรีคิกแก่ทีมเยือน อาทิตย์ สุนทรพิธ รับหน้าที่ปั่นบอลเข้ากรอบเขตโทษ มี กาวามูระ ที่ขึ้นโหม่งสกัดแต่ผิดเหลี่ยม บอลเข้าประตูตัวเองให้ ชลบุรี นำห่าง 3-0

เพื่อนตำรวจ ยังเร่งเกมเร็วเกือบได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะที่ จักรพันธ์ พรใส วางบอลโด่งให้กับ เอกอาทิตย์ สมจิตร ที่โหนขึ้นโหม่งบริเวณหัวกระโหลก แต่เบาเกินไป สินทวีชัย รับบอลเข้าซองสบาย

น.70 อินทรีเพื่อนตำรวจ หวุดหวิดได้ประตูตีไข่แตก จากการทำเกมโต้กลับเร็วของ สุรชาติ สารีพิมพ์ ที่ได้กระชากเข้าหา กรอบเขตโทษ ก่อนจะสับไกยิงในระยะ แค่ 5 หลา แต่ยิงไม่ดีบอลเข้าหน้าต่าง

น.80 อินทรีเพื่อนตำรวจ เกือบโดนทะลวงอีกดอก เมื่อ สุกรี อีแต แทงบอลออกทางริมเส้นด้านซ้าย ให้ เอกพันธ์ อินทะเสน ควบบอลหนีตัวประกบ ก่อนจะเปิดยัดเข้าเสาสองให้ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่เติมขึ้นมาสไลด์บอล แต่มี เดชา สะอาดโฉม ที่พยายามเข้ามาสกัดรอดพ้นจากการเสียประตูหวุดหวิด

น.90 สุกรี อีแต แทงบอลออกริมเส้นด้านซ้าย ให้ ณัฐพงษ์ สมณะ ก่อนที่แบ็กซ้ายหน้าหล่อ จะตักโด่งเข้าไปลุ้นหน้ากรอบเขตโทษให้ เอกพันธ์ อินทะเสน ขึ้นดวลโหม่งกับแนวรับ เพื่อนตำรวจ ทะลุตาข่ายไม่เหลือซากให้ จบเกม ชลบุรี เอฟซี บุกมาเอาชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจ ไปอย่างท่วมท้น 4-0 เก็บเพิ่มอีกสามแต้ม แซง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงทันที

วาทะโค้ช

ชัยยงค์ ขำเปี่ยม ผู้ฝึกสอน อินทรีเพื่อนตำรวจ - ยอมรับว่าสู้เขาไม่ได้จริงๆ อีกอย่างเรามาเสียประตูในครึ่งแรกเร็วไปหน่อย ประสบการณ์ของนักเตะ ชลบุรี เอฟซี เหนือกว่า เรายังต้องเรียนรู้กับแทคติกของแต่ละทีม ต่อไปเรื่อยๆ ยังมั่นใจว่าจะทำอันดับหนีโซนท้ายตารางได้ก่อนจบเลกแรก

จเด็ด มีลาภ ผู้ฝึกสอน ชลบุรี เอฟซี - เราได้ประตูนำเร็ว จึงทำให้ควบคุมเกมรุกได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณ "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหะกุล รวมทั้ง จักพันธ์ ปั่นปี ที่คุมทีมซ้อม ในระหว่างที่ตนไม่สบายต้องเข้าโรงพยาบาล ส่วนเกมหน้า เยือนบุรีรัมย์ ถือว่าหนักเพราะตัวผู้เล่นเขาดี ทว่าเราต้องบุกไปเพื่อชนะ พร้อมกับนำจ่าฝูงต่อไปให้ได้"

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

อินทรีเพื่อนตำรวจ : สมพงษ์ ยอดอาจ 5, ซาง ซึง วอน 5, กาวามูระ 5, ธนพัต ณท่าเรือ 5, สุรชาติ สารีพิมพ์ 5, ณรงค์ชัย วชิรบาล 5, นันทวัฒน์ แทนโสภา 5 (ฟูจิ-) ,มงคล นามนวด 5 (ประดิษฐ์ สว่างศรี5 ), จักรพันธ์ พรใส 6, เอกอาทิตย์ สมจิตร 5 (สิงขร มังคุด-), เดชา สะอาดโฉม 5

ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล 6, สุรีย์ สุขะ 6 (เจษฎากรณ์ เหมแดง- ) ชลฑิตย์ จันทคาม 6, สุทธินันท์ พุกหอม 6, ณัฐพงษ์ สมณะ 6, อาทิตย์ สุนทรพิธ 6, เอกพันธ์ อินทะเสน 7, เทิดศักดิ์ ใจมั่น 6,ภริฑัต ภูริจานนท์ 6, ภานุวัฒน์ จิตตะ 5.5 (เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ 5) จูลล์ บราก้า 5.5 (สุกรี อีแต 5)

แมนออฟเดอะแมตช์ : เอกพันธ์ อินทะเสน นักเตะ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี

แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-4 บางกอกกล๊าส เอฟซี

ที่สนามศูนย์ ยช.ไทยญี่ปุ่น ดินแดง "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 14 ของตาราง เตะมา 10 นัดมี 8 แต้ม เปิดบ้านพบกับ "เดอะกล๊าส แรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 5 เตะมา 12 นัดมี 18 แต้ม

เกมนี้เจ้าถิ่น แบงค็อก ยูไนเต็ด สภาพทีมไม่ดีนัก เพราะไร้ตัวหลักที่ติดโทษแบนถึง 3 ราย ทั้ง ปฏิภาณ เพชรพูล กองหลัง และ 2 กองกลาง วิทยา หมัดหลำ กับ เชค อาบิด โฟฟาน่า แถมยังไม่มีนายทวารมือ 1 วีระ เกิดพุดซา ที่ไม่สมบูรณ์ มีชื่อเป็นแค่สำรองเท่านั้น ทำให่เกมนี้เป็นหน้าที่ของ สราวุธ กองลาภ ส่วนทีมเยือน บางกอกกล๊าส เอฟซี ขนทัพใหญ่มาลุยเต็มสูบ

เริ่มครึ่งแรก น.4 ทีมเยือน "บีจี" ได้ฟรีคิกริมเส้นขวา ศุภชัย คมศิลป์ โยนเข้าไปโดนกองหลังเจ้าถิ่น "แข้งเทพ" โขกทิ้งออกมาได้ น.7 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮลั่น เมื่อได้ลูกฟรีคิกทางริมกราบซ้ายราว 35 หลา รัตพล ปิยวุฒิสกุล เปิดเข้ามากลางประตู กิตติศักดิ์ ระวังป่า นายทวาร "บีจี" รับกระฉอก บอลปลิ้นไปเข้าทาง ปารเมศ มาศขุนทด ชาร์จเข้าไปง่ายๆ ไม่มีเหลือให้ แบงค็อกฯ นำไปก่อน 1-0 โดยถือเป็นประตูที่ 3 ของเจ้าตัวในซีซั่นนี้ด้วย

น.18 ศุภชัย คมศิลป์ ไหลบอลให้ โคเน่ คาสซิม แทงต่อไปให้ รุ่งโรจน์ สว่างศรี กองหลังที่เติมขึ้นมาช่วยเกมรุกซัดติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่น แบบไม่ได้ลุ้นอะไร น.24 "บีจี" มีลุ้นตีเสมอ ศุภชัย คมศิลป์ เตะมุมขวา เนย์ ฟาเบียโน่ ได้โขกข้ามคานออกไป นาทีเดียวกันทีมเยือนเปลี่ยนรายแรกทันที โดยส่งหัวหอกอย่าง ชาตรี ฉิมทะเล ลงไปแทน เนย์ ฟาเบียโน่

น.25 เจ้าถิ่นเล่นเกมโต้กลับได้ดีแต่ ซารีฟ สายนุ้ย เปิดเสียของบอลไม่ถึง ปารเมศ โดน เคลียร์ทิ้งไปได้ น.26 ศุภชัย คมศิลป์ โยนบอมบ์ไปเสาสองของ "แข้งเทพ" บีคอมโบ้ เอคโคโล่ จับบอลไม่ดีปลิ้นโดนกองหลังเจ้าถิ่นเตะสาดทิ้งออกมาได้

น.30 กองหลังจอมโหดของทีม บางกอกกล๊าส อย่าง รุ่งโรจน์ สว่างศรี ไปผลัก ปารเมศ หัวหอก "แข้งเทพ" ดื้อๆ หลังเจ้าตัวโดนล็อกหลบชนิดหลังแทบหัก เลยโดนใบเหลืองแรกของเกมนี้ไป น.32 แบงค็อกฯ ได้ฟรีคิก ริมเส้นขวา รัตตพล ซัดเต็มเหนี่ยว กิตติศักดิ์ ทุบทิ้งออกมาก่อนเพื่อนๆ ช่วยเตะทิ้งออกมาได้ก่อน

น.34 ทีมเยือนได้ลุ้นตีเจ๊า 2 หนซ้อน จังหวะแรก พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ หลุดเข้าไปซัดแต่ติดเซฟของ สราวุธ กองลาภ นายทวารเจ้าถิ่น ต่อมา "บีจี" ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ศุภชัย ซัดเข้ามาโดนเคลียร์ออกหลังไปได้

น.35 บางกอกกล๊าส ตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้จาก โคเน่ คาสซิม ซึ่งถือเป็นประตูแรกของนักเตะจากไอวอรี่โคสต์ ในซีซั่นนี้ด้วย โดยได้จากจังหวะเตะมุมซ้าย พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ เปิดบอลไป เข้าหัว อำนาจ แก้วเขียว โขกชงต่อให้ โคเน่ คาสซิม ยิงเข้าไปไม่เหลือ

น.40 "แข้งเทพ" หวิดโดน เมื่อแนวรับปล่อยให้หัวหอกสำรองอย่าง ชาตรี ฉิมทะเล หลุดเข้าไปซัด แต่ สราวุธ กองลาภ ยังปัดออกหลังไปได้ เวลาที่เหลือ 2 ทีม ทำสกอร์เพิ่มกันไม่ได้ จบครึ่งแรกเสมอกันไปก่อน 1-1

ครึ่งหลัง น.52 ทีมเยือน บางกอกกล๊าส เอฟซี หวิดพลิกแซงนำจากฟรีคิกของ ศุภชัย คมศิลป์ ที่ปั่นเข้าไป แต่ไม่ดีพอ ที่จะผ่านมือ สราวุธ กองลาภ นายทวาร แบงค็อกฯ บินปัดออกหลังไปได้

น.53 แบงค็อกฯ ได้ลุ้นจากการหลุดเข้าไปซัดของ ปารเมศ มาศขุนทด แต่ติดบล็อคกองหลังทีมเยือน น.54 ซารีฟ สายนุ้ย ของ "แข้งเทพ" โดนเหลืองไปอีกราย หลังทำฟาวล์ ทนงศักดิ์ ของทีมเยือน น.55 เจ้าถิ่นโต้กลับ ปารเมศ วางข้ามฟากไปให้ ฐนกรณ์ พิชิตชัยพจนารถ ซัดเข้ามือ กิตติศักดิ์ ระวังป่า นิ่มๆ

น.58 แบงค็อก ยูไนเต็ด ถอดคนทำประตูอย่าง ปารเมศ มาศขุนทด ออก แล้วส่งมือสังหารลูกนิ่ง ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ ลงไปเล่นแทน น.59 ทีมเยือนเปลี่ยรายที่ 2 เอา โคเน่ คาสซิม ออก แล้วส่ง อนาวิน จูจีน ลงทำเกมในแดนกลาง น.70 "บีจี" เปลี่ยนรายสุดท้ายเอา อจายี ซามูเอล ลงไปเสริมเกมรุก หวังจะเผด็จศึกให้ได้

น.75 บางกอกกล๊าส เอฟซี แซงนำเป็น 2-1 จนได้ จากลูกโขกเช็ดเข้าเสาแรกของ ชาตรี ฉิมทะเล ตัวสำรองที่ลงไปแทน เนย์ ฟาเบียโน่ ในช่วงครึ่งแรก โดยรับบอลจากจังหวะครอสไปให้ทางขวาของ อนาวิน จูจีน ที่เพิ่งลงไปในน. 59 นั่นเอง ซึ่งประตูนี้ถือเป็นประตูที่ 4 ในซีซั่นนี้ของ ชาตรี ด้วย

น. 83 บางกอกกล๊าส เอฟซี ขยับเข้าใกล้การคว้าชัยนอกบ้านนัดที่ 2 ของซีซั่นได้ เมื่อนำห่างเป็น 3-1 จากการทำเกมริมเส้นขวาของ อจายี่ ซามูเอล ที่เปิดยัดเข้าเขตโทษ แนวรับแบงค็อกฯ เล่นพลาดบอล ปลิ้นมาเข้าทาง อนนท์ บุญสุโข ดีดบอลย้อยผ่านมือ สราวุธ กองลาภ เข้าไปสุดสวย

น. 88 ทีมเยือน นำหายห่วง 4-1 จากการซัดเองบ้างของ อจายี่ ซามูเอล ที่เปิดซิงเม็ดแรกของเจ้าตัวในซีซั่นนี้ได้ หลังจากเพิ่งเปิดให้เพื่อนพาทีมยิงนำ 3-1 ก่อนหน้านี้ จบเกม บางกอกกล๊าส เอฟซี บุกมาเอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปได้อย่างสนุก 4-1 เก็ยชัยนอกบ้านเป็นนัดที่ 2 ติดกัน

วาทะโค้ช

วรกรณ์ วิจารณ์ณรงค์ กุนซือ แบงค็อกยูไนเต็ด - ฟุตบอลมันก็อย่างนี้ล่ะ พอเราพลาดเสียประตูตีเสมอให้เขาไป เราก็ต้องเร่งกัน เพื่อหวังกลับมาทำประตูให้ได้อีกครั้ง แต่เราก็ทำไม่ได้ และเป็นเขาที่ทำได้ดีกว่าเรา จะแพ้เยอะหรือแพ้น้อย ก็แพ้เหมือนกัน เราจบกันไม่ได้เอง ไม่เป็นไรครับ ต้องสู้กันต่อไปในเกมที่เหลืออยู่

คาร์ลอส โรเบอร์โต้ คาร์วัลโญ่ กุนซือบางกอกกล๊าส เอฟซี - เราพลาดเสียประตูแรกให้เขาเร็วไปหน่อย ตั้งแต่ต้นเกม ยังดีที่ได้ประตูตีเสมอตั้งแต่ครึ่งแรก พอครึ่งหลังเราเองปรับเกมกันได้ดีขึ้น มีจังหวะเกมรุกที่หลากหลายขึ้น และกองหน้าจบสกอร์ได้ เราก็กลับมาสู่เกม และเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ต้องยกเครดิตให้กับทุกคนในทีมไป

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แบงค็อก ยูไนเต็ด : สราวุธ กองลาภ 6, รัตตพล ปิยวุฒิสกุล 6, เกรียงไกร ชาสังข์ 6, มูซ่า ซาอิบ 6, ปรีชา ชาวกล้า 6, กิตติศักดิ์ ศิริแว่น 6 (พลวัฒน์ ปิ่นกอง - ), ทรงศักดิ์ เฮมเขียว 6, ฐนกรณ์ พิชิตชัยพจนารถ 6 (มาซาฮิโร่ ฟูกาซาว่า -), จิรณัฐ นนทเกษ 6, ซารีฟ สายนุ้ย 6, ปารเมศ มาศขุนทด 6 ( ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ 5.5)

บางกอกกล๊าส เอฟซี : กิตติศักดิ์ ระวังป่า 6, อำนาจ แก้วเขียว 7, อนนท์ บุญสุโข 7, รุ่งโรจน์ สว่างศรี 7, เนย์ ฟาเบียโน่ โอลิเวียร่า 5.5 (ชาตรี ฉิมทะเล 7.5), เอคโคโล่ บีคอมโบ้ 6 (อจายี่ ซามูเอล 7), ศุภชัย คมศิลป์ 7, คูนิฮิโกะ ทากิซาว่า 7, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ 7, โคเน่ คาสซิม 6 (อนาวิน จูจีน 7), ทนงศักดิ์ ประจักกะตา 7

แมนออฟเดอะแมตช์ : ชาตรี ฉิมทะเล หัวหอกของ บางกอกกล๊าส เอฟซี

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ทีทีเอ็ม10ตัวยันบุรีรัมย์0-0,พลังเอ็มเจ๋งบุกยิงม้านิล2-1

"สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิตร เปิดบ้านดวลแข้ง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ สุดเดือด แต่เจาะตาข่ายกันไม่ได้ แม้เจ้าถิ่นจะเหลือแค่ 10 คนช่วงท้าย หลัง โคบีนัน กูอัตต้า โดนใบเหลืองที่สอง ไล่ออกไป ขณะที่ "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี เค้นฟอร์มเก่งบุกไปเด็ดหนวด "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง ถึงถิ่น 2-1 อีวาน เมนซ่า ฮีโร่เหมคนเดียว 2 เม็ด ศึกลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล "สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" นัดประจำวันเสาร์ที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ทีทีเอ็ม เอฟซี พิตร 0-0 บุรีรัมย์ พีอีเอ

ที่สนาม อบจ.พิจิตร "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิตร ทีมอันดับ 8 ของตาราง เล่นไปแล้ว 10 นัด มีอยู่ 15 คะแนน เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนบิ๊กทีมจากภาคอีสาน "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ อันดับ 3 ของตาราง เล่นไปแล้ว 12 นัด ยังไม่เคยแพ้ทีมใคร ชนะ 5 เสมอ 7

เกมนี้เจ้าถิ่น "สิงห์เหนือ" ภายใต้การคุมทัพของ โจเซ่ อัลเวส เบอร์วิช ส่ง ทศพร ศรีเรือง ลงเฝ้าเสา แผงหลังมี ธนา ศรีพันดร, โคบีนัน กูอัตต้า, นิติพงษ์ ไสยสิทธิ์ กัย พีรทรรศ์ โพธิ์เรือนดี เป็นกัปตันทีม แผงกองกลางได้ ขวัญชัย เฟื่องประกอบ ทำเกมริมเส้น แถมยังมี แฟร้งด์ อดัม, ศักดา ชุติภัคพงศ์, ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร, โรแลนด์ วาร์กัส กับ เจษฏา บุญเรืองรอด โดยทิ้ง ไกรกิตติ อินอุเทน ลงส่องในแดนหน้าเพียงลำพัง

ด้าน "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม กุนซือใหญ่ "ปราสาทสายฟ้า" ให้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ลงเล่นเป็นนายทวารเช่นเดิม แนวรับมี อันเดอสัน ดอส ซานโตส กับ โคเน่ เซย์ดู ยืนเป็นเซนเตอร์คู่ ขณะที่แบ็กซ้ายมี ธีราทร บุญมาทัน ทางขวา ได้ อภิเชษฐ์ พุฒตาล แดนกลางใช้ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชติ กับ สุเชาว์ นุชนุ่ม ทำเกมริมเส้นซ้าย และขวาตามลำดับ โดยให้ รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ เดินเครื่องร่วมกับ เคลาดิโอ ปาสกาล กองหน้าให้โอกาส ไกรสรณ์ ศรียันต์ ลงล่าตาข่ายร่วมกับ คนึง บุราณสุข

เปิดเกมมาครึ่งแรก เป็นทางทีมเยือนที่สร้างเกมบุกได้ก่อน น.3 อภิเชษฐ์ พุฒตาล รับบอลจากทางขวา แล้วเปิดเข้ามาให้ ไกรสรณ์ ศรียันต์ วิ่งโฉบมายิงแต่ล้ำหน้าไปเสียก่อน น.6 รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชติ โยนฟรีคิกมาให้ ดอส ซานโตส โหม่งบอลไปเข้ามือ ทศพร ศรีเรือง นาทีถัดมา "ปราสาทสายฟ้า" พลาดการได้ประตูนำ เมื่อ ไกรสรณ์ ศรียันต์ ปาดบอลเข้ามาให้ สุเชาว์ นุชนุ่ม แปโล่งๆ เข้าประตูไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าก่อน

เกมส่วนใหญ่ยังสู้กันที่กลางสนาม จนกระทั่ง น.16 โคเน่ เซย์ดู กองหลังของ บุรีรัมย์ เติมเกมขึ้นมายิงนอกกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไป น.19 รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค โยนลูกเตะมุมจากฝั่งขวา เข้ามาถึงเสาสอง ทศพร ศรีเรือง นายทวาร ทีทีเอ็ม พิจิตร ยังชกบอลออกไปได้ก่อน

น.22 ธีราทร บุญมาทัน ไหลบอลไปให้กับ อภิเชษฐ์ พุฒตาล วิงแบ็กฝั่งขวาที่เติมขึ้นมายิงบอล หลุดเสาแรกออกไป น.23 ขวัญชัย เฟื่องประกอบ พลิ้วหนีการประกบของ ดอส ซานโตส ทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดบอลไปเข้ามือของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน

น.27 เจษฏา บุญเรืองรอด กองกลางของเจ้าถิ่น ได้โอกาสยิงไกล แต่บอลยังคงไม่เข้าเป้าอีกครั้งหนึ่ง อีกสองนาทีถัดมา บุรีรัมย์ เปลี่ยนตัวเป็นคนแรก โดยส่ง วีรยุทธ จิตรขุนทด ลงเล่นแทน อภิเชษฐ์ พุฒตาล น.32 รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ ห้องเครื่องตัวกลั่นของ บุรีรัมย์ ยิงบอลจากลูกเก็บตกแบบไม่ต้องจับ บอลหลุดเสาแรกออกไปอย่างได้เสียว

น.34 โคบีนัน กูอัตต้า รับเหลืองแรกจากการไปโวยวายใส่ผู้ตัดสิน จากจังหวะที่ไปเสียบ รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ จังหวะต่อมา สุเชาว์ นุชนุ่ม ยิงฟรีคิกไปตรงตัว ทศพน ศรีเรือง ปัดออกหลังไป

น.40 รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ซัดฟรีคติกจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลไปติดกำแพงออกหลังไป จากนั้น รังสรรค์ เปิดมุมไปให้ เดลาดิโอ ปาสกาล โหม่งที่เสาแรก บอลพุ่งไปถูก ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร โหม่งเคลียร์ทิ้งออกหลังไปได้ทัน หลังจากนั้นนักเตะของทั้ง 2 ทีม ทำเกมบุกกันอย่างชนิดไม่มีใครกลัว แต่ไม่สามารถผลิตสกอร์ได้ หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง ทีมเยือนได้ลุ้นก่อน น.51 ไกรสรณ์ ศรียันต์ ลากบอลเข้ามาในเขตโทษ ก่อนไหลไปให้ สุเชาว์ นุชนุ่ม ยิงเหน่งๆ คนเดียว บอลกลับไปติดกองหลังของ ทีทีเอ็ม พิจิตร น.53 สุเชาว์ นุชนุ่ม เล่นเตะมุมสั้นไปให้ ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายดาวรุ่ง กึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าปากประตู ทศพร ศรีเรือง ยังเหินไปปัดบอลทิ้งออกไปได้

น.58 คะนึง บุราณสุข ใช้ความเร็วฉีกหนีกองหลัง ทีทีเอ็ม พิจิตร ขึ้นมาทางขวา ก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู บอลกลับลอยหลุดเสาแรกออกไป น.65 บุรีรัมย์ เริ่มขยับตัวอีกครั้ง คราวนี้ส่ง สุริยา ดอมไทสง ลงไปเล่นแทน รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ ที่วันนี้ฟอร์มได้โดดเด่นมาก น.69 สุริยา ดอมไทสง กระชากบอลเข้าเขตโทษ ก่อนจะหลอกยิงที่เสาสอง ทศพร ศรีเรือง ยังล้มตัวเซฟไว้ได้ทัน

น.76 รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ไปดึงตัว โคบีนัน กูอัตต้า อย่างน่าเกลียด แต่ผู้ตัดสินกลับไม่ว่าอะไร นัดมาอีกนาทีเดียว จากการโต้กลับเร็วของ ทีทีเอ็ม พิจิตร เป็นทาง ไกรกิตติ อินอุเทน ที่กระชากบอลเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนยิงไปติดนายทวาร บุรีรัมย์ รับกระฉอกออกมา ยังดีที่ วีรยุทธ จิตขุนทด ยังเคลียร์ออกหลังไปได้

น.81 เจ้าบ้านต้องเหลือ 10 คน เมื่อ โคบีนัน กูอัตต้า ไปขวางบอลทิ้งผู้ตัดสินให้ใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบแดงทันที สร้างความไม่พอใจให้กับผู้เล่นของ ทีทีเอ็ม พิจิตร จนต้องรุมมาประท้วงเป็นการใหญ่ น.85 รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ยิงฟรีคิกบอลเกือบเสียบคานอยู่แล้ว แต่ ทศพร ศรีเรือง ยังบินปัดไว้ได้อีกครั้ง

เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.92 ขวัญชัย เฟื่องประกอบ โยนลูกเตะมุมเข้าไปกลางประตู แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังปัดไว้ได้ และในจังหวะโต้กลับเร็ว สุเชาว์ นุชนุ่ม ได้ยิงในกรอบเขตโทษ บอลพุงไปถูก ทศพร ศรีเรือง นายทวารของเจ้าบ้าน ปัดไปโดนเสาเด้งมาถึง ไกรสร ศรียันต์ ตามซ้ำโล่งๆ บอลยังไปถูก ทศพร ปัดออกหลังไปได้อีกครั้ง หลังจากนั้นแม้ว่า บุรีรัมย์ จะมีโอกาสได้บุกมากกว่า แต่ก็ไม่สามารถผลิตสกอร์ได้ จบเกมเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0 แบ่งไปคนละ 1 คะแนน

วาทะโค้ช

โจเซ่ อัลเวส เบอร์วิช กุนซือใหญ่ ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร - วันนี้เรามีผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบนเยอะ ทำให้เกมออกมาไม่ดีอย่างที่คิด ซึ่งเราก็ไม่อยากจะโทษว่า สาเหตุที่เราทำได้แค่เสมอเกมนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการตัดสินที่ผิดพลาดของกรรมการ

อรรถพล ปุษปาคม กุนซือใหญ่ บุรีรัมย์ พีอีเอ - ต้องยอมรับว่านักเตะของเราล้ามาก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่เรามีเกมกลางสัปดาห์อย่าง เอฟเอ คัพ เลยทำให้เกมในช่วง 70-80 นาที เราค่อนข้างที่จะหมดแรง

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร : ทศพร ศรีเรือง 8, ธนา ศรีพันดร 6.5, โคบีนัน กูอัตต้า 6.5, พีรทรรศ์ โพธิ์เรือนดี 6.5, ขวัญชัย เฟื่องประกอบ 6, แฟร้งด์ อดัม 6, ศักดา ชุติภัคพงศ์ 6, ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร 7, โรแลนด์ วาร์กัส 5.5 (ฮิโรยูกิ ยามาโมโต้ 6), เจษฏา บุญเรืองรอด 6,ไกรกิตติ อินอุเทน 6 (กิตติพงศ์ มูลพงษ์ -)

บุรีรัมย์ พีอีเอ : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน 5.5, อันเดอสัน ดอส ซานโตส 6, โคเน่ เซย์ดู 6, ธีราทร บุญมาทัน 6.5, อภิเชษฐ์ พุฒตาล 5 (วีรยุทธ จิตขุนทด 6), รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชติ 6.5, สุเชาว์ นุชนุ่ม 6.5, รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ 6(สุริยา ดอมไธสง 6), เคลาดิโอ ปาสกาล 6, ไกรสรณ์ ศรียันต์ 6, คนึง บุราณสุข 5.5 (ซาลาฮูดิน อาแว 5.5)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ทศพร ศรีเรือง ผู้รักษาประตูของ ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร

ราชนาวี-ระยอง 1-2 โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี

ที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง "ม้านิลมังกร" ราชนาวี-ระยอง ทีมอันดับ 13 ของตาราง ลงสนาม 12 นัด มี 11 แต้ม เปิดรังเหย้ารับการมาเยือนของ "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ทีมอันดับ 11 ของตาราง ลงสนาม 12 นัด มี 13 คะแนน

ซึ่งก่อนเกมการแข่งขันของทั้งคู่จะเริ่มขึ้น ได้มีพายุฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักนับตั้งแต่ช่วงบ่าย จึงทำให้สภาพสนามค่อนข้างที่จะเปียกแฉะ ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อทั้งสองทีมกับการเล่นลูกบนพื้น แต่ก็ไม่ถึงกับขนาดที่จะต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป

เกมนี้เจ้าบ้าน "ม้านิลมังกร" ได้ "โค้ชแฟร้งค์" สุขสันต์ คุณสุข อดีตกุนซือใหญ่ กลับมาผนึกกำลังกับ น.ท.สมศักดิ์ อักษร หัวหน้าผู้ฝึกสอน เพื่อช่วยกันกู้สถานการณ์ของทีมให้หนีพ้นโซนอันตราย ซึ่งขุมกำลังหลักยังลงสนามกันได้พร้อมหน้า นำโดย สมเจตร สัตบุษ, สุทธินันท์ นนที, เจษฎา งามเมือง รวมถึง 2 ฝาแฝดแห่งโสมขาว จาง กิล ยอง และ จาง กิล ฮยอค

ด้าน "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือใหญ่ "พลังเอ็ม" ก็ถือว่ามาเยือนแบบเต็มถัง ด้วยการจัดตัวหลักลงสนามแบบครบเครื่อง นำโดย โกศวัต ว่องไวลิขิต, คัพฟ้า บุญมาตุ่น, เจษฎา พั่วนะคุณมี และ ไพฑูรย์ เทียบมา

เริ่มเกมครึ่งแรก ก็เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ราชนาวี-ระยอง ที่จัดการเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างหนักทันที เพียงแค่ 20 วินาทีแรก ราชนาวี ก็เกือบที่จะได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ จาง กิล ฮยอค แนวรุกโสมขาว ล้มลงจากจังหวะล็อกบอลหลบการเข้าสกัดของ ประทุม ชูทอง ในกรอบเขตโทษ แต่ สุระ ศรีอาจ ผู้ตัดสินฟีฟ่า กลับมองว่าล้มง่ายเกินไป

แต่หลังจากนั้นก็ดูเหมือนโอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี จะสามารถตั้งเกมได้ และมีโอกาสเซตเกม แลกหมัดเข้าใส่ ซึ่งก็เพียงแค่ไม่กี่จังหวะ เหล่าขุนพลพลังเอ็ม ก็สามารถกระทุ้งสกอร์แรกของเกม จนได้ น.15 จากการแทงทะลุช่องของ คัพฟ้า บุญมาตุ่น ขึ้นมาทางขวาให้กับ อภิภู สุนทรพนาเวศ ลากเดี่ยวถึงเส้นหลัง หนีการประกบของ เจษฎา งามเมือง แบ็กขวาเจ้าถิ่น ก่อนจะเปิดบอลใส่พานให้ อีวานส์ เมนซาห์ ตั้งป้อมซัดด้วยขวา บอลพุ่งลอดขา โกสินทร์ เหมบุตร เข้าไปตุงตาข่าย ให้ โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ออกนำไปก่อน 1-0

น.24 แนวรุกโอสถฯ ยังช่วยกันเล่นได้ดี และเกือบที่จะได้ลุ้นประตูที่ 2 ของเกมจากการเปิดด้านขวาของ อีวานส์ เมนซาห์ บอลลอยมาเข้าหัว ดาวิด ไบย่า ศูนย์หน้าร่างโย่งที่เทกตัวขึ้นโขก จนเกือบจะมุดเสียบคานอยู่แล้ว แต่ยังดีที่ โกสินทร์ เหมบุตร นายด่านเจ้าถิ่น ยังบินปัดบอลออกหลังเอาไว้ได้ทัน

น.31 ราชนาวี-ระยองมาได้ลูกฟรีคิกหน้าปากประตู เยื้องไปทางซ้ายในระยะที่ได้ลุ้น และเป็น สุทธินันท์ นนที เพลย์เมกเกอร์ตัวกลั่นของ ราชนาวี รับหน้าที่ปั่นด้วยขวา บอลพุ่งแรงเหมือนจะฮุกเสียบใต้คาน แต่จังหวะนี้ ฉัตรชัย บุตรพรม นายด่านพลังเอ็ม ยังโชว์ซูเปอร์เซฟปัดเอาไว้ได้เช่นกัน

บุกน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่หากมีโอกาสก็มักจะได้ลุ้นเสมอสำหรับโอสถฯ น.37 พวกเขาก็หนีห่างไปเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เจษฎา พั่วนะคุณมี เปิดฟรีคิกจากริมเส้นด้านขวา เข้ามาที่หน้าปากประตู บอลลอยมาเข้าหัว ดาวิด ไบย่า ก่อนที่เจ้าตัวจะโหม่งเช็ดต่อมาให้ อีวานส์ เมนซาห์ ตะบันด้วยขวาย้อนศรเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ส่งผลให้โอสถสภาออกนำเป็น 2-0 ในช่วง 45 นาทีแรก

ครึ่งเวลาหลัง น.อ.สมศักดิ์ อักษร กุนซือใหญ่ ราชนาวี-ระยอง ตัดสินใจเสริมผู้เล่นแนวรุกอย่าง วุฒิชัย อะสุชีวะ ลงไปแทน ศุภชัย ขำทรัพย์ เพื่อที่จะเปิดเกมบุกแบบเต็มตัว ซึ่งก็ทำให้เกมรุกของฝั่งเจ้าถิ่นในครึ่งเวลาหลังดูมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น

น.51 โอสถฯ เปลี่ยนผู้เล่นคนแรกเช่นกัน โดยเอา วสันต์ นาทะสัน ลงไปเล่นแทน อีวานส์ เมนซาห์ ผู้เบิ้ล 2 ตุงในเกมนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับแท็คติกโดยเน้นกองกลางให้แน่น

เกมดำเนินมาถึง น.65 ราชนาวี-ระยอง ก็เจาะประตูตีไข่แตกจนได้ จากคิม แด เยือง โยนจากริมเส้นด้านขวาเข้ากลาง บอลเลยมาที่เสาสอง ก่อนที่ จาง จิล ยอง จะวิ่งตามมาเก็บตกไหลถวายพานเข้าในให้ วุฒิชัย อะสุชีวะ ตะบันยิ่งหน้าปากประตู เข้าไปให้กองเชียร์ราชนาวีได้เฮกันสนั่น สกอร์เจ้าไล่ตามมาเป็น 1-2

น.88 เป็นโอกาสทองของ ราชนาวี-ระยอง ที่น่าจะได้ประตูตีเสมอเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ วุฒิชัย อะสุชีวะ ได้โหม่งเล่นทางบริเวณหน้าปากประตู บอลค่อยๆ ลอยย้อนมาที่เสาสอง ก่อนจะกระดอนไปเข้าทาง จอง จิล ยอค ที่ยื่นอยู่คนเดียวโล่งๆ แต่เจ้าตัวกลับซัดไปติดเซฟ ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตูโอสถฯ ออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เวลาที่เหลือ ราชนาวี-ระยอง พยายามที่จะเดินเกมรุกอย่างหนัก เพื่อทวงประตูตีเสมอให้ได้ แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังพลาดกันไปหมด จบเกม โอสถสภา เอ็ม150-สระบุรี บุกมาเอาชนะ ราชนาวี-ระยอง ไปได้แบบสุดมันส์ 2-1

วาทะโค้ช

น.อ.สมศักดิ์ อักษร กุนซือ ราชนาวี-ระยอง - ต้องยอมรับครับว่า เกมนี้โอสถฯ เตรียมทีมมาดีจริงๆ โดยเฉพาะเกมรับ และจังหวะโต้กลับ ซึ่งถือว่าใช้ได้ผล เราเองก็ต้องปรับเรื่องจังหวะเข้าทำ ให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้

ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือโอสถสภา เอ็ม150 สระบุรี - โอเคครับกับ 3 แต้มที่ได้มา และเกมนี้ก็เป็นนัดแรกของฤดูกาล ที่เรายิงได้มากกว่า 1 ลูก ซึ่งเราคงทำทได้ดีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เป็นแน่

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ราชนาวี-ระยอง : โกสินทร์ เหมบุตร 6.5, สุระเดช เสาไธสง 6.5, คิม แด เยือง 6.5, สมเจตร สัตบุษ 6.5, สุทธินันท์ นนที 6.5 (ติณภพ ศรีสถิตย์ - ), จอร์จอส ยานนิค 7, เสกสันต์ ชาวทองหลาง 6.5, ศุภชัย ขำทรัพย์ 6 (วุฒิชัย อะสุชีวะ 7), เจษฎา งามเมือง 6.5, จาง จิล ยอค 6.5, จาง จิล ยอง 6.5

โอสถสภา เอ็ม 150-สระบุรี : ฉัตรชัย บุตรพรม 7, โกศวัต ว่องไวลิขิต 6.5, ประทุม ชูทอง 7.5, ศิวะเมต ธนูศร 7, คัพฟ้า บุญมาตุ่น 7, เจษฎา พั่วนะคุณมี 7, อภิภู สุนทรพนาเวศ 7(อภิศักดิ์ อาสายุทธ์- ) ,สุรเดช ธงชัย 7 (กฤษฏา เก็มเด็ม-), ดาวิด ไบย่า 7, อีวาน เมนซ่า 7 (วสันต์ นาทะสัน- ), ไพฑูรย์ เทียบมา 7

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ประทุม ชูทอง ปราการหลังพันธุ์แกร่งของพลังเอ็ม

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

บอร์ด ทบ.เซย์เยสใช้แข้งนอก 3 ราย แฟนบอลยกเลิกชุดดำ

บอร์ดบริหารของสโมสรฟุตบอลทหารบกอนุมัติให้มีการใช้นักเตะต่างชาติได้จำนวน 3 ราย เพื่อเข้ามากู้สถานการณ์ทีม ส่วนแฟนบอลได้มีการยกเลิกการใส่ชุดดำเข้าไปชมเกมวันอาทิตย์นี้แล้ว

หลังจากที่มีการประชุมเป็นการภายในของผู้บริหารทีมทหารบกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังยืนยันว่าจะไม่ใช้นักเตะต่างชาติ ทำให้กลุ่มแฟนบอลของทีมทหารบกที่รับไม่ได้กับนโยบายบอร์ดบริหารได้มีการเตรียมใส่เสื้อดำพร้อมป้ายประท้วงเข้าเชียร์ในเกมรับมือทีมจ่าฝูง เมืองทอง ยูไนเต็ด วันอาทิตย์นี้

ล่าสุดทีมข่าวไทยลีกออนไลน์ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าววงในสโมสรฟุตบอลทหารบกว่า ทางบอร์ดบริหารได้ให้อนุมัติให้สามารถใช้นักเตะต่างชาติได้แล้ว โดยเบื้องต้นจะเปิดให้คัดนักเตะต่างชาติก่อน 3 ราย เพื่อช่วยกู้สถานการณ์ทีมให้พ้นจากแดนอันตรายท้ายตาราง

แกนนำแฟนบอลรายหนึ่งกล่าวอย่างพอใจว่า การเรียกร้องของแฟนบอลถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว และในวันอาทิตย์นี้จะยกเลิกการใส่เสื้อดำตามที่นัดแนะกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

แหล่งข่าว :: http://www.thaileagueonline.com/

มังกรไฟมั่นใจเก็บ3แต้ม กูปรีรับเป็นรองแต่สู้เต็มสูบ

บีอีซี เทโรศาสน ลั่นแม้ไปเยือนแต่ตั้งเป้าขอสามแต้มย้ำห้ามประมาทเจ้าบ้าน ส่วน วิสูตร วิชายา กุนซือ ศรีสะเกษ รับทีมเป็นรองแน่แต่ขอ ใส่เต็มสูบ

การแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน 2553 เวลา 18.00 น."มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน จะเดินทางไปเยือน "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี ที่สนามศรีนครลำดวน จ.ศรีสะเกษ โดยอันดับในตอนนี้ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน อยู่อันดับ 9 แข่งมา 9 นัด ชนะ 4 นัด เสมอ 2 นัด แพ้ 3 นัด ได้ 15 เสีย 11 มี 14 แต้ม จะเดินทางไปเยือน "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี ที่อยู่อันดับ 16 แข่งมา 11 นัด เสมอ 4 นัด แพ้ 7 นัด ได้ 12 เสีย 23 มี 4 คะแนน

ก่อนการแข่งขัน "โค้ชแบน" ธชตะวัน ศรีปาน กุนซือทีม"มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน เปิดเผยว่า ถึงแม้นัดก่อนหน้านี้ทีมของเราจะเป็นฝ่ายแพ้ "กล๊าสแร็บบิท" บางกอกกล๊าส 0-1 ก็ตาม แต่ในนัดนี้เราจะเดินทางไปเยือน "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี ที่จ.ศรีสะเกษ ก็จะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด ผมตั้งเป้าไว้ว่าน่าจะเก็บ 3 แต้มได้ แต่อย่างไรก็ตามก็จะไม่ประมาทคู่แข่งเด็ดขาด แม้ว่าทีมศรีสะเกษจะรั๊งบ๊วยก็ตาม แต่เล่นในบ้านคู่แข่งต้องห้ามประมาท"

ด้าน "บิ๊กหนึ่ง" นายวีรวัฒน์ ขอไพบูลย์ กรรมการ บริษัท ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ จำกัด (มหาชน) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ 3เค จำกัด กล่าวว่า ทาง 3 เค แบตเตอรี่ มั่นใจในฟอร์มการเล่นของ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ที่จะเดินทางไปเยือน "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี ว่าจะสามารถเก็บ 3 แต้มในบ้านคู่แข่งได้อย่างแน่นอน

กูปรีรับเป็นรองแต่สู้ตาย

ส่วน วิสูตร วิชายา กุนซือของทีม "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี เปิดเผยว่า นัดนี้เล่นในบ้านเจอกับ บีอีซี เทโรศาสน ก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด พยายามจะเก็บแต้มให้ได้ และพยายามให้ผู้เล่นทีมของเราเล่นให้แน่นอน พยายามเล่นให้ดีที่สุด เปิดเกมรุกให้เต็มที่ ถึงแม้จะเป็นรองก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด"

แหล่งข่าว :: http://www.thaileagueonline.com/

ปลาทูเซ็งขาดแบ็กสองข้าง ทีโอทีนอกบ้านขอหนึ่งแต้ม

เอสซีจี สมุทรสงคราม หลังยวบ เมื่อแบ็กสองข้างไม่สามารถลงสนามได้ แต่เล่นในบ้านมั่นใจเสียงเชียร์จะพาคว้าสามแต้ม ส่วนทีมเยือน ทีโอที แคท เอฟซี ที่ขาดสองกองกลางยันเล่นนอกบ้านต้องรัดกุมไว้ก่อนเพลย์เซฟขอหนึ่งแต้ม

ความเคลื่อนไหวก่อนการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 นัดประจำวันอาทิตย์ที่ 20 มิ.ย.53 "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี ทีมอันดับ 6 ลงสนาม 11 นัด มี 17 แต้ม เปิดสนามกีฬากลาง จ.สมุทรสงคราม ในเวลา 16.30 น.รับมือ "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ทีมอันดับ 7 เล่น 12 นัด มี 17 แต้ม

ปลาทูหลังยวบ ประสารแบน อภินันท์เดี้ยง

"โค้ชฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม หัวหน้าผู้ฝึกสอนขแง "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี กล่าวถึงความพร้อมของทีมว่า

ทีมมีปัญหาทั้งเรื่องตัวผู้เล่นทั้งเจ็บและติดโทษแบน ที่เจ็บคือ อภินันท์ แก้วปีลา แบ็กซ้ายที่เจ็บน่องไม่สามารถลงเล่นได้ ส่วนที่แบนมีสองรายด้วยกันคือ ประสาร พันธ์สำลี แบ็กขวา และ ดียุฟ บีรัม กองหน้าไอวอรี่โคสต์ อีกทั้งทีมเพิ่งเล่นในศึกมูลนิธิไทยคมเอฟเอคัพ เมื่อวันพุธกับ เอฟซี ภูเก็ต ทำให้เกิดอาการล้าน่าจะมีปัญหาพอสมควร แต่การได้เล่นในบ้านต่อหน้ากองเชียร์ที่ให้กำลังใจน่าจะเป็นกุญแจไขไปสู่ชัยชนะได้ แต่การเจอทีโอทีประมาทไม่ได้โดยเฉพาะนักเตะชาวต่างชาติมีคุณภาพทั้งสิ้นแต่การเล่นในเวลา 16.30 น. อากาศร้อนน่าจะเป็นปัญหาสำหรับนักเตะต่างชาติของทีมเยือนพอสมควร

ปรับทัพแดนหลัง สุขสยามยืนแบ็ก พิเชษฐ์ สิทธิพันธ์ ลงยิง

สำหรับผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในวันอาทิตย์นี้ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู ปินโต้ กองหลัง แบ็กขวา สุขสยาม ชาญมณีเวช เซนเตอร์ฮาล์ฟ ประหยัด บุญญา อันยิซี่ เซเลสติน แบ็กซ้าย กัณตพล สมพิทยานุรักษ์ กองกลาง พานุวัฒ ยิ้มสง่า พัชรินทร์ สุขใส

อรรถนพ ชัยแป้น กองหน้า จีรวัฒน์ แก้วโบราณ พิเชษฐ์ อินทร์บาง สิทธิพันธ์ ชุมช่วย

ทีโอทีมักน้อยขอหนึ่งแต้ม

"โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือของ "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี กล่าวว่า วันอาทิตย์นี้ทีมจะขาดสองกองกลางอย่าง จอร์จี้ ซิมาคูริดเซ่ ปีกจอร์เจีย และ "จ้อง" ยุทธนา ไชยแก้ว กองกลางห้องเครื่อง ที่ติดโทษแบน ทำให้แดนกลาง ต้องส่ง เอ็ดเวิร์ด ลงมาเล่นริมเส้นฝั่งขวา ขยับ พลวัฒน์ วังฆะฮาด จากแบ็กขวา ขึ้นมาเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางให้ อาทิตย์ ดาวสว่าง ลงมายืนแบ็กขวา ส่วนเกมต้องออกไปเยือนทีมแกร่งแห่งเมืองแม่กลองนั้น โค้ชต้อมกล่าวว่า ต้องเล่นอย่างรัดกุมไม่ประมาทเน้นการตั้งรับรอโต้ตามสไตล์หวังว่าอย่างน้อยต้องมีหนึ่งแต้มติดมือกลับออกมา

นักรบสโลวักลงเป็นแกนหลักครบครัน

สำหรับผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในวันอาทิตย์นี้ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู แซมมวล ป.คันนิงแฮม กองหลัง แบ็กขวา อาทิตย์ ดาวสว่าง เซนเตอร์ฮาล์ฟ ชูศักดิ์ สุวรรณา มาเรียน จูฮาส แบ็กซ้าย ธีรชัย งามเจริญ กองกลาง ปีกขวา เอ็ดเวิร์ด คู่กลาง พลวัฒน์ วังฆะฮาด แอนตัน คูบาลา ปีกซ้าย สิทธิศักดิ์ ตาระพัน กองหน้า โธมัส โคซาร์ มิโรสลาฟ ทอธ

แหล่งข่าว :: http://www.thaileagueonline.com/

กระต่ายแก้วคึกจัดขอบุกคว้าชัย 2 นัดติด

วรากร วิจารณ์ณรงค์ เฮดโค้ช แบงค็อก ยูไนเต็ด ประกาศลั่นเล่นไม่บ้านต้องไม่แพ้เน้นรับแล้วโต้กลับหวังสยบทีมเยือนคว้า 3 แต้มให้ได้ ด้าน ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผจก.ทั่วไปทีมเยือนอย่าง บางกอกกล๊าส เอฟซี มั่นใจลูกทีมกำลังฮึกเฮิมมั่นใจบุกคว้าชัยกลับบ้านได้

ความเคลื่อนไหวก่อนเกมสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกวันเสาร์นี้(19 มิ.ย) คู่ระหว่าง "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 จากท้ายตารางที่ลงสนามไปแล้ว 10 นัดเก็บได้ 8 คะแนน มีคิวเปิดสนาม ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง รับการมาเยือนทีม อันดับ 5 ของตารางอย่าง "เดอะกล๊าสแร๊บบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี ซึ่งคู่นี้ทั้ง 2 ทีมต่างมั่นใจจะคว้าชัยทั้งคู่ สำหรับความพร้อมของทั้ง 2 ทีม

อ้วกไม่หวั่นแบน 3 เน้นรับแล้วโต้กลับ

“โค้ชอ้วก” วรากร วิจารณ์ณรงค์ กุนซือใหญ่ทัพ “แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด เผยถึงความพร้อมในนัดนี้ว่า นักเตะในทีมสมบูรณ์ดีพร้อมที่จะลงสนามจะขาดก็แค่ตัวที่ติดโทษแบนอย่างวิทยา หมัดหลำ, ปฏิพาน เพชรพูล, เชค อาบิบ โฟฟาน่าส่วนที่เจ็บก็ตัวเดิมอย่าง ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์ ซึ่งไม่น่ามีปัญหาเพราะเรามีตัวที่สามารถเล่นแทนได้อยู่แล้วอย่าง เกรียงไกร ชาสังข์,กิตติศักดิ์ ศิริแว่น, ฐนกรณ์ พิชิตชัยพจนารถ

สำหรับแผนการเล่นในนัดนี้นั้นทีมจะเล่นในระบบที่ถนัดคือ 4-4-2 โดยจะเน้นตั้งรับให้เหนียวแน่นไว้ก่อนแล้วรอจังหวะสวนกลับเล่นงานทีมเยือน ซึ่งนัดนี้การที่ต้องเจอกับทีม บางกอกกล๊าส ที่โดยรวมแล้วมีคุณภาพผู้เล่นที่ดีกว่าเราหากเทียบกันตัวต่อตัวทำให้เราต้องเล่นอย่างระมัดระวังมากขึ้น แต่ตนเชื่อว่าถ้าทีมเราเล่นได้อย่างท็อปฟอร์มเมื่อไหร่ก็สามารถสู้ได้ทุกทีม และนัดนี้ก็เช่นเดียวกันตนหวังว่าเราจะเล่นได้ดี เพราะถึงตอนนี้ต้องบอกว่าเราไม่สามารถที่จะพลาดได้แล้วหากหวังที่จะอยู่บนลีกสุงสุดของประเทศต่อไป และถ้าหากเราชนะนัดนี้ก็จะมีผลทำให้สภาพจิตใจของนักเตะดีขึ้นตามไปด้วยซึ่งเป้าหมายของเราในนัดนี้เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก 3 แต้มเท่านั้น

สำหรับ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

วีระ เกิดพุดซา (ผู้รักษาประตู),มุสซ่า ซาอิบ, เกรียงไกร ชาสังข์, กิตติศักดิ์ ศิริแว่น, มาซาฮิโร่ ฟูกาซาว่า , ทรงศักดิ์ เฮมเขียว , จิรณัฐ นนทเกษ ,ฐนกรณ์ พิชิตชัยพจนารถ,ซารีฟ สายนุ้ย ,ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์,ปารเมศ มาศขุนทด

กระต่าย กระหายใช้ชุดเดิมล่าชัย

ทางด้าน ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผจก.ทั่วไปทีมเยือนอย่าง "เดอะกล๊าสแร๊บบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี เผยว่านัดนี้ทัพนักเตะ บีจี ค่อนข้างที่จะสมบูรณ์ทีเดียวนักเตะเกือบทุกคนพร้อมที่จะลงสนามแล้ว เราสามารถจัดชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้ส่วนนักเตะที่ต้องรอเช็คความฟิตก็มีแค่ เนย์ ฟาเบียโน่ ศูนย์หน้าชาวบราซิล กับ รุ่งโรจน์ สว่างศรี กองหลังแข้งโหดแต่ถ้าทั้ง 3 คนนี้ไม่สามารถลงสนามได้เราก็มีตัวที่ทดแทนกันได้อยู่แล้ว

สำหรับแผนการเล่นในนัดนี้นั้น ผจก.ทั่วไปทีมเยือน เปิดเผยว่าก็คงตามแท็กติกของโค้ชอย่าง คาร์ลอส โรเบอร์โต้ คาร์วัลโย่ แต่จากการที่ได้พูดคุยน่าจะเล่นระบบที่เราถนัดคือ 4-4-2 คือจะเน้นเกมรุกเป็นหลักเหมือนเดิมเพื่อเป้าหมายในการคว้า 3 แต้มให้ได้ หลังจากที่ทีมมีขวัญกำลังใจที่ดีเยี่ยมจากการบุกไปชนะ บีอีซี เทโรศาสน มา 1-0 ทำให้ตอนนี้นักเตะทุกคนมีความฮึกเฮิมเป็นอย่างมากและกระหายที่จะลงสนามในนัดนี้เต็มแก่แล้วถึงแม้ว่าเพิ่งจะผ่านศึกหนักมาและได้พักแค่ 2 วันก็ตาม

สำหรับ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

กิตติศักดิ์ ระวังป่า (ผู้รักษษประตู), อำนาจ แก้วเขียว (กัปตันทีม), อนนท์ บุญสุโข, รุ่งโรจน์ สว่างศรี, เนย์ ฟาเบียโน่,ทนงศักดิ์ ประจักกะตา, ศุภชัย คมศิลป์, คูนิฮิโร ทากิซาว่า, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์, อนาวิน จูจีน, พอล บีคอมโบ เอคโคโล่

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกคู่ระหว่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี จะฟาดแข้งกันวันเสาร์ที่ 19 มิ.ย. นี้ที่สนาม ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เวลา 18.00 น.

แหล่งข่าว :: http://www.thaileagueonline.com/

แต็ก เน้นรัดกุมดวลสิงห์เหนือหวัง 3 แต้มแม้เด็กล้า

บุรีรัมย์ พีอีเอ ประกาศขอบุกดับซ่า ลั่นแม้สภาพร่างกายเป็นรองแต่ไม่หวั่น ขอเล่นรัดกุมไว้ก่อนรอลุ้น 3 ตัวหลักลงสนาม

ความเคลื่อนไหวของทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ทีมอันดับ 3 ในตารางสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกที่ลงสนามไปแล้ว 12 นัดเก็บได้ 22 คะแนนตามหลังจ่าฝูงอย่าง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แค่3 แต้มเท่านั้น มีโปรแกรมออกไปเยือนทีม "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ทีมอันดับ 10 ของตาราง ที่สนาม กีฬากลาง จ.พิจิตร ซึ่งจะทำการแข่งขันในเวลา 16.30 น.

"โค้ชแต็ก" อรรถพล ปุษปาคม กุนซือทัพ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ กล่าวถึงสภาพทีมในตอนนี้ว่าคอนข้างที่จะล้าพอสมควร หลังจากวันพุธที่ผ่านมาเพิ่งผ่านเกมเอฟเอคัพกับ ราชวิถี มาในส่วนของนักเตะตอนนี้ที่ต้องรอเช็คความฟิตก็มี 3 ตัวหลักอย่าง สุเชาว์ นุชนุ่ม,ธีราทร บุญมาทัน,รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ซึ่งทั้งมีอาการบาดเจ็บจากนัดนี้ส่วนตัวที่ติดโทษแบนไม่มีพร้อมที่จะจัดตัวที่ดีที่สุดลงสนาม

สำหรับแผนการเล่นในนัดนี้โค้ชคนดังเผยว่า คงจะเน้นให้เด็กเล่นอย่างรัดกุมไว้ก่อนเนื่องจากสภาพร่างกายเป็นรอง อีกอย่างนัดนี้เราเล่นเป็นทีมเยือนและเจอกับทีม ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ซึ่งเป็นทีมทีดีทีมหนึ่งและมีสภาพร่างกายที่ดีกว่าเราแนแนอน เพราะเรามีเวลาพักแค่ 2 วันส่วนทีมเจ้าบ้านมีเวลาพัก 1 สัปดาห์เต็มๆ สำหรับเป้าหมายในนัดนี้นั้นจะต้องมี 1 แต้มเป็นอยางน้อยหลังจากที่ช่วงหลังทีมเรามีความมั่นใจกันมากขึ้น จากการที่สามารถเก็บชัยชนะติดต่อกันหลายนัดรวมถึงนักเตะมีความเข้าใจเกมมากขึ้น โดยเฉพาะความเข้าใจกันระหว่างกองกลางกับกองหน้าทำให้เราทำผลงานได้ดี สำหรับนัดนี้ตนมั่นใจว่าทัพ ปราสาทสายฟ้า จะยังทำผลงานได้ดีและคว้า 3 แต้มกลับบ้านได้

สำหรับ 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน(ผู้รักษาประตู),อภิเชษฐ์ พุฒตาล(กัปตันทีม),แอนเดอร์สัน ดอส ซานโตส,โคเน เซย์ดู,ธีราทร บุญมาทัน,สุเชาว์ นุชนุ่ม,เคลาดิโอ ปาสกาล,รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์,รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค,พลวุฒิ ดอนจุ้ย และ หลุยส์ เอดูอาร์โด้ ปูร์ซิโน่

แหล่งข่าว :: http://www.thaileagueonline.com/

Friday, June 11, 2010

โลมาในบ้านเน้นรุก ตำรวจรอเช็กหอกตัวเก่ง เทโรกระอักแบนสี่

ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือหนุ่ม พัทยา ยูไนเต็ด ลั่นเล่นในบ้านต้องเน้นเกมรุกเต็มสูบแต่จะกี่แต้มต้องวัดกันในเกม ฟากชัยยง ขำเปี่ยม โค้ชอินทรีเพื่อนตำรวจ แย้มรอเช็ก นันทวัฒน์ แทนโสภา ดาวยิงตัวเก่งรายเดียว ชี้ทีมกำลังมั่นใจไม่หวั่นเสียงเชียร์เจ้าถิ่นและการเป่าของเปาเลยสักนิด

การแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 นัดประจำวันเสาร์ที่ 12 มิ.ย.53 มีลงสนามกันทั้งสิ้น 4 คู่ 4 สนาม ความพร้อมของคู่ที่น่าสนใจมีดังนี้ที่สนามเทศบาล ต.หนองปรือ "โลมาฟ้า-ขาว" พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 เล่น11นัด มี18 แต้ม เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "สุภาพบุรุษโล่เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ ที่เล่นมา 10 นัด มี 11 แต้ม คู่นี้จะทำการแข่งขันในเวลา 17.00 น.

โลมาเปิดเกมเต็มสูบ อัตตรานาสส่อชวด

"วังลันตา" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม พัทยา ยูไนเต็ด ที่นัดล่าสุดบุกไปแพ้ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด 0-1 กล่าวถึงความพร้อมของทีมว่า ถือว่าค่อนข้างพร้อมในระดับหนึ่งแต่ว่า อัตตรานาส กองกลางตัวตัดเกม มีอาการเจ็บเข่าอาจต้องพักในเกมนี้และจะให้ รังสฤษดิ์ สุทธิสา ลงสนามแทนที่ เกมนัดนี้เล่นในบ้านคงเต็มที่เหมือนเคยรวมทั้งต้องเปิดเกมรุกเป็นพิเศษเพื่อเอาใจแฟนบอล แพ้ชนะหรือไม่ยังบอกไม่ได้อยู่ที่จังหวะของเกม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในวันเสาร์นี้ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู นริศ ทวีกุล กองหลัง นิเวส ศิริวงศ์ สมภพ นิลวงศ์ อาร์ลินโด้ อนุชา กิจพงษ์ศรี กองกลาง สมชาย สิงห์มณ๊ รังสฤษดิ์ สุทธิสา อิทธิพล พูลทรัพย์ สันติ ไชยเผือก กองหน้า ลูโดวิค เฌเรมี่

เสือยงชี้ทีมกำลังมั่นใจ รอเช็กนันทวัฒน์

"เสือยง" พ.ต.ต ชัยยง ขำเปี่ยม กุนซือหนุ่มของ อินทรีเพื่อนตำรวจ เมื่อสัปดาห์ก่อนพาทีมบุกไปชนะทีมอย่าง ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร 1-0 จากประตูชัยของ สิงขร มังคุด เผยถึงความพร้อมว่า ทีมต้องรอเช็กอาการของกองหน้าตัวเก่งคือ นันทวัฒน์ แทนโสภา ที่มีอาการเป็นไข้ หากหายไม่ทันน่าจะส่ง ฟูจี ลงเล่นแทน ส่วน ลี โฮ จิน ปีกแดนกิมจิ คงต้องรอให้สภาพร่างกายฟิตเต็มที่จึงพร้อมปล่อยลงสนามสัมผัสไทยลีก โดยที่อดีตผู้รักษาประตูระดับตำนานทีมชาติไทยกล่าวต่อว่า เวลานี้ทีมกำลังมั่นใจเนื่องจากเพิ่งบุกไปชนะคู่แข่งถึงถิ่น เกมวันเสาร์นี้ก็เช่นกันแม้ต้องไปเยือนแต่ก็ไม่หวั่นเสียงเชียร์เจ้าถิ่นรวมทั้งการตัดสินของกรรมการอยู่แล้ว มั่นใจว่าอย่างน้อยต้องมีหนึ่งคะแนนหากเข้าทางก็มีถึงสามคะแนนเต็ม

สำหรับผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในวันเสาร์นี้ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู สมพงษ์ ยอดอาจ กองหลัง เดชา สอาดโฉม ทาเคฮิโร่ คาวามูระ ชาง ซุง-วอน กฤษฎี ประกอบของ กองกลาง เอกอาทิตย์ สมจิตร ณรงค์ชัย วชิรบาล ธนพัต ณ ท่าเรือ จักรพันธ์ พรใส กองหน้า สุรชาติ สารีพิมพ์ นันทวัฒน์ แทนโสภา

เทโรยวบแบนสี่เกมเยือนทีโอที

"มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ที่จะออกไปเยือน "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี ที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม เวลา 18.00 น.ของวันเสาร์นี้ จะต้องขาดผู้เล่นตัวหลักถึงสี่รายด้วยกันคือ ธฤติ โนนศรีชัย ดั๊กลาส โคโบ้ นพพล ปิตะฝ่าย เจ้าของเหลืองแดงอันอื้อฉาวในเกมพบ เอสซีจี สมุทรสงคราม เมื่ออาทิตย์ก่อนทั้งสามรายถือเป็นแนวรับตัวหลักของทีม รวมทั้ง มาริโอ เนโต้ กองกลางแซมบ้า น่าจะทำให้ ธชตะวัน ศรีปาน กุนซือของทีมต้องหนักใจฝในการจัดตัวลงเล่นในวันเสาร์นี้พอสมควร

ส่วนอีกสองคู่ที่ลงทำการแข่งขันในวันเสาร์ประกอบไปด้วย

แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดสนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง พบ ราชนาวี-ระยอง เวลา 18.00 น. ,บางกอกกล๊าส เอฟซี เปิดสนามลีโอสเตเดี้ยมรับมือ ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร เวลา 18.00 น.

แหล่งข่าว :: http://www.thaileagueonline.com/

อ.อั๋นขอเวลาดูเทปกรณีใบแดงนพพล ไม่เกินวันศุกร์รู้เรื่อง

อ.ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ ขอเวลาพิจารณาเทปจากกรณีใบแดงของ นพพล ปิตะฝ่าย แบ็กซ้ายเทโรว่าเจ้าตัวได้ใบเหลืองก่อนหน้าที่จะถูกเหลืองที่ สองจริงหรือไม่ คาดวันศุกร์น่าจะทราบผล ที่ต้องดูละเอียดเนื่องจากเทปจากช่อง 3 และ สยามกีฬาทีวีเห็นไม่เหมือนกัน

หลังจากที่ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ยื่นหนังสืออุทธรณ์เพื่อให้พิจารณาใบแดงของ นพพล ปิตะฝ่าย แบ็กซ้ายตัวเก่งของทีมที่โดนตะเพิดออกจากสนามในเกมเชือด เอสซีจี สมุทรสงคราม 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทีมนั้นเห็นว่าเป็นความผิดพลาดของผู้ตัดสินเพราะตัวของนักเตะเองยังไม่เคยรับใบเหลืองมาก่อน

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง "อ.อั๋น" อ.ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ อุปนายกฝ่ายวิชาการสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพก็ได้รับคำตอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องการอุทธรณ์โทษของนพพล น่าจะรู้ในช่วงเย็นของวันศุกร์นี้ (11 มิ.ย.53) เนื่องจากเทปเหตุการณ์ดังกล่าวที่ได้รับจาก ช่อง 3 และ สยามกีฬาทีวี เห็นไม่เหมือนกัน จึงต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนเพื่อความเป็นธรรมให้กับตัวนักฟุตบอลและผู้ตัดสินเองด้วยรวมทั้งจะส่งผลการพิจารณาต่อไปยัง บ.ไทยพรีเมียร์ลีกว่าจะคงโทษต่อหรือลดโทษแบนลงมาเนื่องจากเทโรมีโปรแกรมแข่งกับทีโอทีในวันเสาร์ที่จะถึงนี้

แหล่งข่าว :: http://www.thaileagueonline.com/

โค้ชแต๊กจองถ้วยเอฟเอคัพเชื่อบุรีรัมย์ฯดีพอ

"โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม อดีตกุนซือที่เคยพา เมืองทองฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีกซีซั่นที่แล้วมาครอง โวขอนำ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ คว้าแชมป์ไทยคม เอฟเอ คัพ พร้อมเผยใช้แข้งนอกบู๊ และเตรียมอิมพอร์ตนักเตะต่างชาติเข้ามาอีก 2 ราย

"โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม อดีตกุนซือ ซึ่งเคยพาทีม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีกซีซั่นก่อนมาครอง ที่ล่าสุดไปรับงานสุดแสนท้าทายอีกครั้งในการไปคุมทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ นั้น ได้ออกมากล่าวถึงเป้าหมายของตัวเองในฤดูกาลนี้กับบุรีรัมย์ พีอีเอ ว่า

"สำหรับไทยลีกก็ยังหวังกับการเป็นแชมป์เพราะยังเหลืออีกหลายเกมให้ ลุ้น หากลูกทีมเล่นได้ยอดเยี่ยมทุกนัดที่เหลือ แล้วทีมอื่นๆ พลาดเราก็ยังมีโอกาสแม้ขณะนี้จะอยู่แค่อันดับ 3 ก็ตามกับชลบุรี เราก็ยังไม่เจอเขาส่วนเมืองทองฯ ไปเยือนแล้วดึงผลเสมอกลับมาได้ โดยไทยลีกนั้นเป็นรายการที่ไม่ง่าย ปีนี้ว่าไปแล้วตัวที่ทีมมีใช้งานยังไม่ถึงกับดีมาก โดยเฉพาะตัวนอกยังไม่ใช่ประเภทที่ดีที่สุดแต่ก็หวังจะพาทีมติดท็อปไฟฟ์ให้ ได้เป็นอย่างน้อย แต่รายการที่คิดว่ามีโอกาสมากกว่าไทยลีกนั้นคงเป็นฟุตบอลน็อกเอาต์ อย่างมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ เพราะแข่งเป็นทัวร์นาเมนต์เตะแค่ไม่กี่นัดแม้จะเป็นบอลน็อกเอาต์แพ้คัดออก แต่หากเราเตรียมดีๆ ผมเชื่อว่าจะพาทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ คว้าแชมป์รายการนี้ได้"

ใช้แข้งนอกบู๊ดูฟอร์ม 2 ตัวใหม่

โดยในรายการมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ นั้น "โค้ชแต๊ก" กล่าวว่า "รายการนี้จะใช้บริการนักเตะต่างชาติลงสนามทำศึกเต็มพิกัดตามโควตาที่กำหนด ให้แต่ละทีมมีใช้งานได้ 5 ราย ซึ่งไม่เกี่ยวกับรายการไทยพรีเมียร์ลีก โดยช่วงพักเลกนี้จะอิมพอร์ตนักเตะต่างชาติเข้ามาอีก 2 ราย เพราะเรามีนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนทำทีมจากเลกแรก โดยเฉพาะกลุ่มนักเตะต่างชาติอยู่ 2 ราย คือ บรูโน่ เปไรร่า กองหน้า กับ กิลซิม่า กองกลางชาวบราซิล ทั้งคู่ ซึ่งขณะนี้มีเอเยนต์ได้นำมาเสนอบ้างแล้วแต่ขอพิจารณาก่อน ซึ่งจะเน้นไปที่กองหน้าเป็นพิเศษเพราะเป็นปัญหาของทีมในขณะนี้ หากไม่เป็นจากบราซิล หรือแอฟริกา ก็อาจจะมาจากยุโรป แต่ต้องเป็นประเภทของจริงเอามาแล้วใช้งานได้ทันที โดยท่านประธานสโมสรอย่าง เนวิน ชิดชอบ พร้อมจะสู้ค่าตัวไม่อั้นหากเป็นของดีจริงๆ"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

คดีทีโอทียังนิ่งรอบังยีสายตรงจากแอฟริกาใต้

คดีทีโอทียังไม่คืบหน้ารอ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี แจ้งผลมาจากแอฟริกาใต้ ด้านการตัดสินเรื่อง นพพล ปิตะฝ่าย ของบีอีซี เทโรศาสน คณะกรรมการเร่งดูเทปก่อนตัดสิน 11 มิ.ย.นี้ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ดักคอผู้ตัดสินอย่าคิดช่วยกันเอง หลักฐานชัดเจนว่าทำหน้าที่ผิดพลาดสมควรออกมารับผิด

ถือว่าเป็นกรณีศึกษาที่ในคนวงการลูกหนังเฝ้ารอติดตามถึงผลการตัดสิน สำหรับกรณีของ จอร์จี้ ซิมาคูริดเซ่ แข้งชาวจอร์เจีย ของทีม "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท ที่โดนทาง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ตัดสินโทษแบนตลอดซีซั่น จนทางสโมสรทำเรื่องยื่นฟ้องศาลปกครอง และยังอุทธรณ์ถึงสมาคมฟุตบอลฯให้พิจารณาด้วย โดยทาง "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ และ "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการฯ ต่างก็ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ กระนั้นก็ยังคงแจ้งข่าวมาว่ากรณีนี้อาจจะลดโทษลงมาได้

ล่าสุดผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง "เสี่ยง้วน" ธารา พฤกษ์ชะอุ่ม ผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ก็ได้รับคำตอบว่า ทางท่านนายกสมาคมฟุตบอลฯ จะรีบแจ้งเรื่องกลับมาให้เร็วที่สุด เหนืออื่นใดคือเมื่อการตัดสินออกมาแล้วก็อยากให้ทางสโมสรทีโอที ยอมรับเพื่อจะได้เดินหน้าพัฒนาวงการฟุตบอลกันต่อไป

เรื่อง"นพพล"รอวันที่11มิ.ย.

ส่วนเรื่องการประท้วงจากสโมสร "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน กรณีที่ นพพล ปิตะฝ่าย แบ็กซ้ายตัวหลักของทีมโดนใบเหลืองที่สองในเกมที่เอาชนะเอสซีจี สมุทรสงคราม 2-1 ทั้งที่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้รับโดนใบเหลืองมาก่อน และมองว่าผู้ตัดสิน พรไพรัช โพยกระโทก น่าจะให้ผิดคน จึงยื่นเรื่องประท้วงเพื่อให้ลดโทษใบแดงลง

ตรงนี้ทาง อ.ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ หนึ่งในคณะกรรมการพิจารณากฎ กติกา มารยาท และข้อประท้วง ก็ออกมาเผยว่า ได้รับการยื่นเรื่องจากเทโรฯ เข้ามาแล้ว แต่ว่าเทปที่ส่งมายังไม่ชัดเจนมากนัก และคาดว่าจะตัดสินได้ในวันที่ 11 มิ.ย. นี้ ซึ่งเราจะต้องทำให้เร็วเพื่อจะได้ไม่ให้ทางเทโรฯ กระทบกับการเตรียมทีมที่จะต้องแข่งในวันที่ 12 มิ.ย. โดยส่วนตัวก็แจ้งทางทีมเขาแล้วว่า กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง ถ้าผู้ตัดสินผิดก็พร้อมยกเลิกใบแดงได้ แต่ถ้าผู้ตัดสินถูกทางทีมก็ต้องยอมรับด้วย

"แบน"ดักคอผู้ตัดสินอย่าคิดช่วยกันเอง

ขณะที่ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน โค้ชใหญ่บีอีซี เทโรศาสน เองก็ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกโกรธอีกครั้งว่า ทุกอย่างเราทำรายงานส่งไปแล้ว และเมื่อดูจากเทปที่บันทึกเกมการแข่งขันมันก็ชัดเจนทุกอย่างว่าเหลืองใบแรก เขาให้กับ กิตติพล ปาภูงา ไม่ใช่ นพพล ปิตะฝ่าย แล้ววันนี้ผู้ตัดสินก็มาพูดอีกว่า ให้ตั้งแต่ น.2 แต่จากเทปมันก็ชัดเจนว่าเขาให้กับหมายเลข 32 ของสมุทรสงคราม คือ ประสาร พันธ์สำลี ตอนนี้คือทางผู้ตัดสินเขาพยายามจะช่วยกันและคิดหาทางออกเพื่อให้เรื่องนี้ ผ่านพ้นไป แล้วยังไงผู้ตัดสินรอดพ้นความผิด แต่ทีมที่เขาลงทุนกันมา 30-40 ล้านจะต้องมาพังเพราะมาตรฐานการทำหน้าที่อย่างนี้หรือ คณะกรรมการลองเอาเทปไปดูให้ดีมันชัดเจนในตัวเอง กรณีของโคโบ ที่โดนใบแดงไล่ออก ตรงนั่นก็ผิดพลาด เพราะเขาควักใบเหลืองมาก่อน แล้วจึงให้ใบแดง ซึ่งโคโบไม่ได้โดนเหลืองมาก่อนจึงไม่ควรตามด้วยใบแดง หรือว่าจะให้ใบแดงเลย เคสอย่างนั้นก็ไม่ควรเป็นใบแดงคือไม่ได้รุนแรงเกินเหตุจนถึงต้องไล่ออก

"ผมว่าผู้ตัดสินวันนั้นทำหน้าที่ไม่นิ่ง มีความตื่นเต้นตลอดเวลา จนทำให้การมองเกม หรือการตัดสินเกมผิดพลาดหลายครั้ง อีกทั้งตัวเองให้เหลืองใครก็ไม่ยอมจด เมื่อผู้ตัดสินที่ 4 มาท้วงก็ว่าตามกันทั้งที่ตัวเองควรจะมีรู้ดีว่าให้เหลืองกับใครมา เมื่อลงโทษให้ใบแดงไปแล้ว คราวนี้ก็มาทำรายงานเพื่อที่จะให้มันเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ ตอนนี้เขากำลังดิ้นเพื่อให้หลักฐานมันเข้าข้างเขา แต่ภาพทุกอย่างมันฟ้อง จึงไม่อยากให้ผู้ตัดสินช่วยกันเอง อะไรที่ผิดก็ออกมาขอโทษ และลดใบแดงมาเป็นเหลืองใบเดียวให้กับ นพพล ก็จบเรื่องแล้ว"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/