Monday, May 31, 2010

ลีโอถล่มนนท์ฟุตซอลลีก

การแข่งขันยูเอสเอ็มไทยแลนด์ฟุตซอลลีก 2010 เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ณ ห้องเอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน

ยังคงมีแฟนบอลแห่ไปชมกันแน่นขนัด โดยคู่แรก การท่าเรือแห่งประเทศไทย พบ แบงค็อก เอฟซี ปรากฏว่า การท่าเรือฯ ที่นำทัพมาโดย วุฒิชัย ถิ่นทวี ส่วน แบงค็อก เอฟซี ที่มี “พ่อมดฟุคซอล” อนุชา มั่นเจริญ ทำหน้าที่โค้ชแอนด์เพลย์เยอร์ เสมอกันไป 1-1 โดยการท่าเรือฯ ได้ประตูจาก อุกฤษณ์ แต่งตั้ง นาที 1 ส่วนแบงค็อกได้จาก จิรวัฒน์ สอนวิเชียร นาที 26 อีกคู่ นนทบุรี พ่าย ลีโอ บีจี 1-5 นัดต่อไปจะมีขึ้นวันที่ 5 มิ.ย. ที่สนาม ม.อาร์แบค ธอส.อาร์แบค พบ สมุทรสาคร เวลา 16.00 น.

ฟัน 2 ประเด็น ยิง "เปาจ๊อด" เป่าพลาด-เล่นวีเจ เล็งขอทหารคุ้มกัน

ฟันธงเหลือ 2 ประเด็นเหตุลอบยิง “เปาจ๊อด” อรรถกร เวชการ น่าจะมาจากการลงทำหน้าที่ และ ต้องการดิสเครดิต “วีเจ” วิจิตร เกตุแก้ว นายกสมาคมผู้ตัดสิน ด้าน “เปาอั๋น” ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ ขอหารือบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกหาทางป้องกัน อาจขอรถตู้เดินทางพร้อมทหารคุ้มกัน

ความคืบหน้า “เปาจ๊อด” อรรถกร เวชการ ผู้ตัดสินที่เดินทางไปทำหน้าที่ในเกมลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีก 2010 ระหว่าง บุรีรัมย์ พีอีเอ พบกับ โอสถสภา เอ็ม 150 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ถูกรถตามประกบยิงถึง 7 นัด โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ รอดตายอย่างปาฏิหาริย์
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่สนามเทพหัสดิน ผู้ตัดสินทั้งระดับฟีฟ่า, ชั้น 1, ชั้น 2 และชั้น 3 เข้ามาร่วมกิจกรรมตามปกติซึ่งได้ปฏิบัติกันมาทุกสัปดาห์ เพื่อเป็นการทบทวนเรื่องกฎกติกา ข้อผิดพลาดในการลงทำหน้าที่ และสิ่งที่จะต้องเร่งพัฒนารวมไปถึงสมรรถภาพ โดยมี “เปาอั๋น” ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ อุปนายกฝ่ายพัฒนา-นิเทศและสถาบัน เป็นวิทยากร นอกจากนั้นได้ให้ อรรถกร เวชการ ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่ถูกลอบยิงให้เพื่อนผู้ตัดสินได้รับทราบ


“เปาอั๋น” เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับวงการผู้ตัดสินไทยจนถึงกับจะต้องมาฆ่าแกงกัน ทำไมไม่มองให้กีฬาเป็นเรื่องของสปิริต รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ซึ่งในส่วนของผู้ตัดสินเองไม่มีใครทรยศต่ออาชีพตัวเอง แต่การผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้ ซึ่งสมาคมผู้ตัดสินไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งต้องใช้เวลาบ้าง เชื่อว่าจะดีขึ้นตามลำดับ


“สำหรับแนวทางการป้องกันผู้ตัดสินที่จะต้องเดินทางไปทำหน้าที่นั้น วันที่ 31 พฤษภาคม จะขอหารือกับบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก โดยอาจจะขอเป็นรถตู้ให้ผู้ตัดสินเดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ทหารด้วย เฉพาะสนามต่างจังหวัด เหมือนตอนท้ายเลกแรกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว” เปาอั๋น กล่าว
นอกจากนี้กลุ่มผู้ตัดสินด้วยกันเองมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สรุปออกมา 2 ประเด็น คือ เรื่องของการไม่พอใจจากบางทีม ที่ผู้ตัดสินไปทำหน้าที่ และเพื่อเป็นการดิสเครดิต อ.วิจิตร เกตุแก้ว นายกสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพ ว่าไม่สามารถดูแลความปลอดภัยผู้ตัดสินได้

"กีรติ"เดี้ยงอดยิงเด็กเทพ ไทยลีกนัดตกค้าง ปลาทูซดพลังเอ็ม

"ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์-พีอีเอ อดใช้บริการ กีรติ เขียวสมบัติ ดาวยิงทีมชาติไทยที่บาดเจ็บในเกมไทยพรีเมียร์ลีกนัดตกค้างที่ต้องเปิดบ้านพบ "เด็กเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด วันที่ 1 มิ.ย.นี้ ขณะที่ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ดวล "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี

การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2010 นัดประจำวันอังคารที่ 1 มิถุนายนนี้ มีเกมตกค้างเลื่อนมาเตะ 2 คู่ โดย "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์-พีอีเอ ทีมอันดับ 4 มี 15 คะแนนจะเปิดไอโมบาย สเตเดี้ยมต้อนรับการมาเยือนของ "เด็กเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สถานการณ์ไม่ค่อยดีมีเพียง 6 แต้มอยู่อันดับ 14 เกมเริ่มเตะเวลา 17.00 น.
บุรีรัมย์ ภายใต้การทำทีมของโค้ชคนใหม่ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม ที่พาทีมเก็บชัยชนะในเกมแรกที่เข้ามาคุมทีมในนัดที่แล้วจะมีปัญหา 2 ตำแหน่ง ในแนวรับ ไพรัช ทับเกตุแก้ว ติดโทษแบนต้องให้ แอนเดอร์สัน เดอ ซานโตส ลงแทน ส่วน กีรติ เขียวสมบัติ กองหน้าทีมชาติไทยมีอาการบาดเจ็บต้องปรับแผนโยก สุเชาว์ นุชนุ่ม หรือ คนึง บุราณสุข มาทดแทน ขณะที่แบงค็อกไม่มีปัญหาการจัดตัวผู้เล่น
ส่วนอีกคู่ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ทีมอันดับ 7 พบ "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ทีมอันดับ 10 ที่สนามกีฬากลางสมุทรสงคราม เวลา 16.30 น. เกมนี้เจ้าถิ่นที่เก็บไปแล้ว 14 แต้มจะไม่มี โนกูชิ ปินโต้ นายประตูลูกครึ่งบราซิล-ญี่ปุ่นที่บาดเจ็บ รวมถึงต้องเช็กความฟิตของ ประหยัด บุญญา ที่บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนตัวหลักรายอื่นทั้ง พิเชษฐ์ อินทร์บาง จีรวัฒน์ มัครมย์ และ พานุวัฒ ยิ้มสง่า อยู่กันครบ
ด้าน "พลังเอ็ม" ที่ผลงานไม่ค่อยดีมีแค่ 10 คะแนนจนต้องดึง "น้าชัช" ชัชชัย พหลแพทย์ กลับมานั่งเป็นที่ปรึกษาทีมจะมีปัญหาในแนวรุกเมื่อ สุรเดช ธงชัย ตัวจี๊ดทางริมเส้นติดโทษแบนลงเล่นไม่ได้ แต่ว่าตัวชูโรงอย่าง อภิภู สุนทรพนาเวศ คัพฟ้า บุญมาตุ่น และเจษฎา พั่วนะคุณมี ยังลงช่วยทีมได้เหมือนเดิม โดยมี ดาวิด บายีฮา ยืนเป็นหัวหอกเดี่ยว

ไทยลีกปรองดอง สั่งลดโทษ”จอร์จี้” เหลือแบน12นัด

บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ใช้แผนปรองดอง ลดโทษ “จอร์จี้” ศูนย์หน้าทีม “วิหคเพลิง” ทีโอที แคท เอฟซี ที่ถูกแบนทั้งฤดูกาล เหลือแค่ 10 นัด

และจากการสะสมคะแนนด้วยการโดนใบเหลือง ใบแดง อีก 2 นัด รวมห้ามลงสนาม 12 นัด พร้อมปรับเงินรวมแล้ว 54,000 บาท ส่วน “โค้ชต้อม” ณรงค์ สุวรรณโชติ ห้ามลงทำหน้าที่ 4 นัด พร้อมปรับเงิน 30,000 บาท ลดแค่ปรับเงินเหลือ 20,000 บาท ด้าน “เสี่ยเอ” พิมล ศรีวิกรม์ ผู้จัดการทีมทีโอที แคท เอฟซี ยืนยันตอนนี้ยังไม่ถอนทีม ขอเวลา 2 วันตัดสินใจ ยอมรับผิดหวังกับการตัดสิน


ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก เชิญคณะกรรมการฝ่ายพิจารณามารยาทมาประชุม พร้อมกับเชิญผู้แทนทีมทีโอที แคท เอฟซี ที่ส่ง “โค้ชต้อม” ณรงค์ สุวรรณโชติ มาร่วมประชุม เพื่อพิจารณาตามที่มีการอุทธรณ์ ที่มีการลงโทษ จอร์จี้ ซิมาคูริเซ ศูนย์หน้าที่ก่อเหตุชกผู้ตัดสินในเกมที่พบกับโอสถสภา โดยห้ามลงสนามทั้งฤดูกาล พร้อมปรับเงิน 50,000 บาท, ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือใหญ่ ปรับ 30,000 บาท ห้ามลงทำหน้าที่ 4 นัด, วณิชกร ซ่อนจันทึก สตาฟฟ์โค้ช ปรับ 20,000 บาท ห้ามลงทำหน้าที่ 2 นัด และสุขสำราญ ปรางทอง ผู้เล่นสำรอง ปรับ 10,000 บาท ห้ามลงสนาม 1 นัด ซึ่งการอุทธรณ์ครั้งนี้ ทีโอที ได้ขอให้ลดโทษในรายของ จอร์จี้ เป็นนัดๆ ไป


หลังจากการประชุม ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณามารยาทได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการพิจารณาการอุทธรณ์ของทีมทีโอที แคท เอฟซี มี 2 เรื่อง เรื่องแรก “โค้ชต้อม” ณรงค์ สุวรรณโชติ ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนมีความผิด 2 กระทง คือ 1.ประท้วงโดยสั่งการให้ผู้เล่นออกนอกสนามแข่งขัน แม้จะมีนักเตะบางคนอยู่ในสนามก็ตาม ถือเป็นความผิดตามระเบียบการลงโทษ ข้อ 2.2 ห้ามทำหน้าที่ 2 นัด ปรับเงิน 10,000 บาท และ 2.ด่าผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยผู้ตัดสิน ข้อ 2.3 ห้ามลงทำหน้าที่ 2 นัด ปรับเงิน 20,000 บาท รวม 2 กระทง ห้ามลงทำหน้าที่ 4 นัด ปรับเงิน 30,000 บาท แต่ลดโทษแค่ปรับเงินจาก 30,000 บาท เหลือ 20,000 บาทเท่านั้น


เรื่องที่ 2 การพิจารณาลงโทษผู้เล่นหมายเลข 10 จอร์จี้ ที่ถูกแบนตลอดทั้งฤดูกาล พร้อมปรับเงินระหว่าง 50,000- 100,000 บาท ตามความผิดข้อ 1.5 กรณีทำร้ายผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยผู้ตัดสิน ห้ามลงแข่งขันตลอดทั้งฤดูกาล ที่ประชุมเห็นว่าเนื่องจาก จอร์จี้ เป็นนักเตะต่างชาติอาจจะไม่เข้าใจภาษา และเห็นใจทีมที่ลงทุนไปมาก อีกทั้งฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ก็กำลังจะเติบโต ดังนั้นเพื่อเป็นการปรองดองในการร่วมกันพัฒนาฟุตบอลไทย จึงลดโทษจากห้ามลงแข่งขันทั้งฤดูกาล เหลือเพียงห้ามลงแข่งขันจำนวน 10 นัด พร้อมปรับเงินจำนวน 50,000 บาท แต่เนื่องจากว่า จอร์จี้ มีคะแนนสะสมจากการโดนใบเหลืองและใบแดงที่ผ่านมา ทำให้มีคะแนนสะสมครบ 12 แต้ม ต้องพักการแข่งขันอีก 2 นัด และปรับเงินอีก 4,000 บาท ทำให้ จอร์จี้ จะไม่มีสิทธิ์ลงสนามจำนวน 12 นัด พร้อมปรับเงิน 54,000 บาท
"การลงโทษครั้งนี้ไม่ได้ยึดเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาลงโทษ โดยเฉพะกรณีที่มีการทำร้ายผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยผู้ตัดสิน หรือสั่งห้ามผู้เล่นออกนอกสนาม หากผู้ใดกระทำความผิดเช่นนี้จะพิจารณาลงโทษเป็น 2 เท่าทันที” ดร.วิชิต กล่าว


ขณะที่ “โค้ชต้อม” ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือใหญ่ เปิดเผยว่า การลงโทษครั้งนี้ถือว่าไม่เป็นธรรม เพราะทำไมไม่ดูที่ต้นเหตุก็คือผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ผิดพลาด โดยเฉพาะจังหวะที่ผู้เล่นของทีมโอสถสภา เจตนาเสียบอย่างน้อย 5 ครั้ง แต่ได้แค่ใบเหลืองเดียว ก็ไม่เข้าใจว่าความยุติธรรมอยู่ตรงไหน หากมีการพิจารณากันอย่างนี้ถอนทีมดีกว่า


ด้าน “เสี่ยเอ” พิมล ศรีวิกรม์ ผู้จัดการทีมทีโอที กล่าวเสริมว่า ตอนนี้ยืนยันยังไม่มีการถอนทีมแต่อย่างใด ต้องมาดูก่อนว่าจะแก้ไขกันอย่างไร ซึ่งหลังจากได้รับคำตัดสินออกมาเช่นนี้แล้วยอมรับผิดหวังเป็นอย่างมาก ดังนั้นจะขอเวลา 1-2 วันค่อยมาว่ากัน แล้วจะเปิดแถลงข่าวถึงทิศทางของทีมทีโอทีต่อไป

ไทยพรีเมียร์ลีกแก้กฎวอล์คเอ้าค์ใครซ่าส์โดนแน่

ไทยพรีเมียร์ลีก ชี้กรณีแข้ง ชลบุรี วอล์กเอาต์ในเกมที่แพ้ เมืองทองฯ เกิดจากนักเตะไม่พอใจ และเดินออกจากสนามเอง ซึ่งไม่ใช่การตัดสินใจของโค้ชจึงรอดตัวไป แต่เตรียมเขียนกฎให้ครอบคลุมไม่ว่าโค้ช เจ้าหน้าที่ทีมหรือนักเตะวอล์กเอาต์โดนแน่

กรณีการวอล์คเอ้าค์ของนักเตะ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ในเกมที่บุกไปเยือน เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเกมดังกล่าว ชัยยะ มหาปราบ ผู้ตัดสิน เป่าให้จุดโทษแก่เมืองทองฯ นาทีที่ 26 จากจังหวะที่สองผู้เล่นของ ชลบุรี ณัฐพงษ์ สมณะ กับ เอกพันธ์ อินทะเสน เข้าไปเสียบสกัด ดัสกร ทองเหลา ล้มลงในกรอบเขตโทษ ยังผลให้ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายทวารกัปตันทีม ของ ชลบุรี เอฟซี ไม่พอใจพร้อมกับนำเพื่อนร่วมทีมวอล์คเอ้าค์

โดยเคสนี้ ด้าน อ.ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ อุปนายกสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพ ยืนยันว่า "จริงๆ แล้วกรณีของ ชลบุรี เอฟซี แตกต่างจาก ของ ทีโอที แคท เอฟซี ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็ไม่ได้อยู่ในกฎระเบียบที่เขียนข้อบังคับการวอล์คเอ้าค์เอาไว้ เพราะตามกฎการวอล์คเอ้าค์ จริงๆ แล้วคือผู้ฝึกสอนประท้วงผู้ตัดสิน ด้วยการนำเอานักเตะออกมานอกสนาม ถือเป็นการวอล์คเอ้าค์

แต่ของ ชลบุรี เอฟซี ผู้เล่นนำเพื่อนร่วมทีมออกนอกสนาม ซึ่งไม่มีอยู่ในกฎ ตรงนี้ทางบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ได้เพียงแค่ทำหนังสือเตือน ไปยังสโมสร ชลบุรี เอฟซี และบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ก็จะขอชี้แจงให้กับ สโมสรต่างๆ ได้รับรู้ว่า ทำไม ทีโอที มีโทษปรับแต่ของ ชลบุรี ไม่ปรับ มีการเข้าข้างโอนเอียงกันหรือไม่ ตนขอเรียนตามตรงว่า มันไม่ได้อยู่ในกฎระเบียบที่เขียนเอาไว้" "เปาอั๋น" กล่าว

แก้กฎวอล์คเอ้าค์ใหม่เริ่มใช้ทั่วกัน

อุปนายกสมาคมผู้ตัดสินอาชีพ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ตนคิดว่าเราจะต้องมีการทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎการวอล์คเอ๊าค์กันใหม่หมด ซึ่งต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ฝึกสอน หรือ นักเตะ ทำการประท้วงผู้ตัดสิน โดยไม่ทำการเล่นแบบต่อเนื่อง ออกมานอกสนาม จะใช้เวลากี่นาทีก็ตาม ถือว่าเป็นการวอล์คเอ๊าต์หมด โดยเราจะทำหนังสือชี้แจงไปยังทุกสโมสร ให้มีความเข้าใจตรงกัน และจะมีโทษปรับตามกฎระเบียบที่เราได้เขียนเอาไว้

"เปาอั๋น" โต้ ทีโอที ฟีฟ่าไม่รับฟ้อง

"เปาอั้น" อ.ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ ยังได้ชี้แจงถึงกรณีที่สโมสรทีโอที แคท เอฟซี จะทำเรื่องถึง "เอเอฟซี" ก่อนชงต่อถึง ฟีฟ่า หากไม่ได้รับความยุติธรรม ในกรณียื่นอุทธรณ์ ของ จอร์จี้ ซิมาคูริดเซ่ ที่โดนบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก แบนไปแล้ว 12 นัด

"กรณีนี้มันเป็นความผิดชัดเจนของ ทีโอที แคท เอฟซี ที่ทางบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก สามารถตัดสินได้เลย เพราะมันไม่ใช่ความผิดทางแทคนิค ทางฟีฟ่าเขาคงจะไม่รับฟ้องก็อาจจะเป็นไปได้"

บ.ไทยลีกให้ยืนไว้อาลัย "อินทรีดำ"

นอกจานั้น ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ยังขอความร่วมมือกับทุกสโมสร ทั้งในระดับไทยพรีเมียร์ลีก ,ดิวิชั่น 1 และ ดิวิชั่น 2 ลีกภูมิภาค ที่จะลงทำการแข่งขันเริ่ม ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. นี้ ยืนไว้อาลัยให้แก่ "อินทรีดำ" น.อ. ศุภกิจ มีลาภกิจ อดีตนักเตะทีมชาติไทย ของ สโมสรทหารกาศ และผู้ฝึกสอนของสโมสรทหารกาศ ที่เสียชีวิตไป เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา

"ศุภกิจ เขาเป็นนักเตะที่จัดว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของนักเตะรุ่นหลัง เมื่อลงสนามไม่ว่าจะสีเสิ้อของทีมชาติ หรือว่าสโมสรทหารอากาศ จะเต็มร้อยทุกนัด โดย บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จะเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมหนึ่งคืน ก่อนการฌาปนกิจ" ดร.วิชิต กล่าว

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ปฏิพณบินทดสอบฝีเท้าลุยเอสลีกสิงคโปร์

แข้งไทยยังเนื้อหอมใน เอสลีก สิงคโปร์ ล่าสุด "เจ้าต๊ะ" ปฏิพณ เพชรวิเศษ ของทีมพัทยา ยูไนเต็ด บินไปทดสอบแข้งกับสโมสร บาเลสเตียร์ แล้ว เจ้าตัวเปิดใจ ยังอยากอยู่กับต้นสังกัดต่อ แต่เมื่อผู้ใหญ่ให้โอกาส และเพื่อนาคต ก็ต้องไปลองดูสักครั้ง ได้ไม่ได้ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตการของเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

ความเคลื่อนไหวของทีม "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด ทีมในอันดับ 3 ในตารางไทยพรีเมียร์ลีก ล่าสุด "วังลันตา" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือใหญ่ของทีม ได้เปิดเผยว่า ทางทีม บาเลสเตียร์ ทีมในเอสลีก ของประเทศสิงคโปร์ ได้ติดต่อมายัง พันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา ผจก.ทีม ว่าต้องการจะได้ศูนย์หน้าเพื่อไปทดสอบฝีเท้า

โดยมองว่า "เจ้าต๊ะ" ปฏิพณ เพชรวิเศษ น่าจะไปทดสอบดู ซึ่งความจริงแล้ว ทีมก็ไม่อยากเสียผู้เล่นไป เพราะ ปฏิพน เองมีส่วนสำคัญกับทีมเช่นเดียวกัน แต่เพื่ออนาคตของเด็ก อีกทั้งตนก็เคยค้าแข้งที่สิงคโปร์ เชื่อว่าไม่น่าจะยากสำหรับการทดสอบฝีเท้าในครั้งนี้

ได้ไม่ได้อย่างไรก็ไม่เป็นปัญหา เพราะยังเป็นนักเตะของทาง พัทยาเหมือนเดิม แต่ถ้าโชคดีผ่านการทดสอบ เจ้าตัวก็จะมีรายได้ที่งดงามทีเดียว สำหรับการเดินทางนั้น โดยได้เดินทางในเที่ยงของวันจันทร์ ที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา และจะทำการทดสอบฝีเท้ายังสโมสรดังกล่าวเป็นเวลา 1 สัปดาห์

ด้านของ ปฏิพน เพชรวิเศษ เปิดเผยความรู้สึกว่า ก็รู้สึกดีใจที่ทางผู้ใหญ่ และทางโค้ช ได้เลือกตนเข้าไปทดสอบฝีเท้าในครั้งนี้ ตนอยากจะลองดูสักครั้ง แต่ความจริงยังอยากอยู่กับ พัทยา ยูไนเต็ด ต่อไป เพราะมีความสุข อบอุ่น และผู้ใหญ่ดูแลเราเป็นอย่างดีมาโดยตลอด แต่ในเมื่อทางผู้ใหญ่ให้โอกาส และเพื่อนาคต ก็ต้องไปลองดูสักครั้ง ได้ไม่ได้ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตการของเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

สำหรับผู้ที่เป็นที่ปรึกษา และดูแลค่าใช้จ่ายในการเดินทางในครั้งนี้ของ ปฏิพณ เพชรวิเศษ คือ "เจ้ากล่ำ" ธีระเวคิน สีหวงศ์ เพื่อนร่วมทีมพัทยา ยูไนเต็ด ที่ในอดีตเคยค้าแข้งอยู่ที่สิงคโปร์ กับทีมกอมบัค ยูไนเต็ด ได้ให้คำปรึกษาการเดินทาง และการใช้ชีวิตอยู่ที่สิงคโปร์

สำหรับผลงานของบาเลสเตียร์ คัลซ่า ในขณะนี้ทำผลงานได้ไม่ดีนัก อยู่อันดับที่ 8 ของตาราง จาก 14 นัดที่ผ่านมา ชนะ 5 เสมอ 2 และแพ้ไปถึง 7 นัด ยิงได้เพียง 13 ประตูเท่านั้น จึงต้องเร่งหากองหน้าฝีเท้าดีมาร่วมทีมโดยเร็ว จึงได้มาติดต่อกับ นายพันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา ผู้จัดการทีมพัทยา ยูไนเต็ด

ส่วนทาง ปฏิพณ เพชรวิเศษ นักเตะหมายเลข 14 ของ "โลมาฟ้า-ขาว" ที่เดินทางไปทดสอบฝีเท้าที่สิงคโปร์ในครั้งนี้ ถือว่าได้ของขวัญชิ้นสำคัญ เพราะเจ้าตัวเพิ่งครบรอบ 28 ปี ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

Sunday, May 30, 2010

งง!บิ๊กวี.เจ.ประกาศลานายกเชิ้ตดำอีกรอบ

งงเป็นไก่ตาแตก "บิ๊กวี.เจ." วิจิตร เกตุแก้ว พลิกลิ้นอีกครั้ง ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพฯ อย่างแน่นอนแล้ว เผยไม่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ แต่อ้างไม่พร้อมและอยากเปิดทางให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯ บอลไทย เผยต้องให้ เลขาฯ สมาคมผู้ตัดสิน ดร.กษม ชนะวงษ์ รักษาการแทนไปก่อน แต่ยังเลือกตั้งไม่ได้ เพราะยังไม่มีการลงทะเบียนสมาชิกสามัญ ต้องเรียกสภากรรมการทั้ง 19 คน ลงมติเพื่อสรรหานายกต่อไป

จากคดีความที่เกิดขึ้นของ "เปาจ๊อด" อรรถกร เวชการ ทำให้ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามไปยังสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศไทย ที่มี "บิ๊กวี.เจ." วิจิตร เกตุแก้ว เป็นนายกสมาคมฯ อยู่ แต่ปรากฏว่าได้รับการปฏิเสธจากปากของ อ.วิจิตร เกตุแก้ว ที่จะพูดถึงเรื่องนี้

โดยอ้างว่า "ตอนนี้ไม่ได้เป็นนายกสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลฯ แล้ว และไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จึงไม่ขอออกความคิดเห็น ส่วนหลังจากนี้ทางสมาคมฯ จะมีการแต่งตั้งใคร หรือจะดำเนินการอย่างไรจะไม่เกี่ยวข้องกับตนเองอีก"

ซึ่งการออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้นั่งนายกสมาคมผู้ตัดสินฯ ครั้งนี้ของ "บิ๊กวี.เจ." ไม่ได้แจ้งว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะก่อนหน้านี้ ในการประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ ก็ยังยืนยันกับสื่อว่า ยังไม่ได้คิดลาออกและพร้อมทำหน้าที่ต่อไป แต่จู่ๆ กลับมากลับคำและบอกไม่ได้เป็นนายกสมาคมผู้ตัดสินฯ แล้ว

อ้างไม่พร้อมขอเปิดทางให้คนอื่น

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้มีการโทร.ไปถามย้ำกับท่าน อ.วิจิตร เกตุแก้ว อีกครั้ง ก็ได้รับคำยืนยันแน่ชัดว่า ขอลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพฯ แน่นอนแล้ว โดยเผยว่าหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการของสมาคมฯ แม้ว่าจะประกาศว่านั่งในตำแหน่งต่อ แต่เวลาต่อมาก็แจ้งขอลาออก ด้วยสาเหตุว่าไม่พร้อมที่จะทำงาน โดยไม่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพแต่อย่างใด สุขภาพของตนยังแข็งแรง และมีสมรรถภาพเกินร้อย พร้อมที่จะสละเวลา

แต่ก็อยากเปิดทางให้คนอื่นเข้ามาดำเนินการ ส่วนจะมีการคัดสรรกันอย่างไร หรือรูปแบบไหนก็ให้สมาคมฯ ดำเนินการไป ส่วนตัวไม่อยากออกความคิดเห็น แต่ยืนยันว่าลาออกอย่างแน่นอน

ผอ.เดชาบอกยังไม่ทราบเรื่อง

จากการที่ อ.วิจิตร เกตุแก้ว กล่าวอ้างว่าไม่ได้นั่งตำแหน่งเป็นนายกสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศไทยแล้ว ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ผอ.เดชา เศวตศิโรรัตน์ ผอ.องค์กรและสวัสดิการกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า "ยังไม่ทราบเรื่อง เพราะจากการประชุมล่าสุดเมื่อ 24 พ.ค. ท่านก็ยังยืนยันนั่งตำแหน่งนายกต่อไป และจากนั้นก็ไม่เคยได้เจอท่านอีกเลย ซึ่งถ้าข่าวนี้เป็นจริงก็คงจะต้องมีการหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร"

ตั้ง ดร.กษม รักษาการแทน

จากการประกาศลาออกจากนายกสมาคมผู้ตัดสินฯ ของ อ.วิจิตร อย่างกะทันหัน ผู้สื่อข่าวได้รับการยืนยันจาก "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยเผยว่า ทราบข่าวมาว่าท่านจะลาออก แต่จะสาเหตุใดไม่ทราบแน่ชัด

ส่วนการดำเนินการของสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลฯ จากนี้ไปในขั้นแรกก็จะต้องให้ทางเลขาธิการสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลฯ คือ ดร.กษม ชนะวงษ์ ทำหน้าที่รักษาการแทนไปก่อน และจะมีการเรียกสภากรรมการทั้งหมด 19 คนเข้าหารืออีกครั้ง

ย้ำยังเลือกตั้งไม่ได้

ส่วนกรณีที่นายกสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลฯ ลาออก จะต้องมีการเลือกตั้งตามมาหรือไม่ เรื่องนี้ "บิ๊กเปี๊ยก" อธิบายว่า ในช่วงเวลานี้ยังไม่อาจเลือกตั้งได้ เนื่องจากยังไม่มีการลงทะเบียนสมาชิกสามัญ เพราะสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลฯ อยู่ในช่วงของการก่อตั้ง และมีเพียงสภากรรมการ 19 คนเท่านั้น

"ความจริงการเปิดให้ผู้ตัดสินลงทะเบียนเพื่อเป็นสมาชิกสามัญและมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการที่จะส่งไปยัง กกท. แต่จู่ๆ ท่านนายก วิจิตร เกตุแก้ว ก็มาลาออกก่อนจึงทำให้ยังไม่มีสมาชิกสามัญแต่อย่างใด การเลือกตั้งก็เลยไม่อาจทำได้ ฉะนั้นจึงมีเพียงสภากรรมการ 19 คนที่จะมาประชุมถึงแนวทางในการหาตัวนายกสมาคมฯ กันต่อไป โดยทางเลขาฯ จะเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้"

"สิ่งที่เกิดขึ้นก็คล้ายกับช่วงที่ อ.วิจิตร เกตุแก้ว ลาออกจากนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตอนนั้นก็ให้ทาง คุณวรวีร์ มะกูดี ซึ่งเป็นเลขาฯ รักษาการแทน และทำการเลือกตั้งภายใน 30 วัน ซึ่งก็สามารถดำเนินการได้เลยเพราะสมาคมฟุตบอลฯ มีสมาชิกสามัญอยู่แล้ว แต่กรณีนี้ยังไม่มีสมาชิกสามัญจึงไม่อาจเลือกตั้งภายใน 30 วันตามกฎได้" "บิ๊กเปี๊ยก" กล่าวย้ำ

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ลือคดีเปาจ๊อดคนร้ายอาจหมายตัววิโรจน์

คดีลอบสังหาร "เปาจ๊อด" อรรถกร เวชการ ตำรวจนางรอง เร่งสืบสวนพร้อมให้ผู้เคราะห์ร้ายแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม โดยจะใช้การสเกตช์หน้าคนร้ายในการติดตามตัว ขณะที่ "เปาจ๊อด" ใช้วันว่างทำบุญตักบาตรและอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ขณะที่มีข่าวลือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้หมายหัว "เปาจ๊อด" แต่น่าจะเป็น วิโรจน์ อ่อนโก๊ก ที่เดินทางไปด้วยกัน ส่วนคนในวงการลูกหนังมองเรื่องนี้ไม่น่าเกี่ยวกับการทำหน้าที่ตัดสินฟุตบอล

ความคืบหน้ากรณีลอบสังหาร "เปาจ๊อด" อรรถกร เวชการ ผู้ตัดสินฟีฟ่า เมื่อค่ำวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังจากทำหน้าที่ลงตัดสินในเกมสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก คู่ระหว่าง บุรีรัมย์ พีอีเอ กับ โอสถสภา เอ็ม-150 จบลง ซึ่งถือเป็นคดีเขย่าขวัญวงการเชิ้ตดำของเมืองไทยอย่างมาก

ล่าสุด พ.ต.ท.สิทธิ์ หวังสุขกลาง สารวัตรเวร สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ผู้รับผิดชอบคดีได้เผยถึงความคืบหน้าของการสืบสวนว่า ยังคงไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก โดยตอนนี้พยายามติดต่อกับทาง คุณอรรถกร เวชการ เพื่อให้เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะคดีนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด จนกว่าจะแน่ใจว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไรกันแน่ จึงอยากให้ได้ข้อมูลทั้งหมดจากผู้เสียหายก่อน

"ทางผู้บังคับการรวมถึงรองผู้บังคับการได้สั่งให้รีบดำเนินการโดยเร่งด่วน แต่ถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อกับคุณอรรถกรไม่ได้ อยากจะให้ผู้ใกล้ชิดช่วยแจ้งด้วย เพื่อจะได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม และต้องการข้อมูลเพื่อให้คดีเดินหน้าต่อไปได้ โดยเบื้องต้นเราทราบเพียงว่า คุณอรรถกร จำใบหน้าผู้ที่ลอบยิงได้ จึงอยากให้มาแจ้งข้อมูลและช่วยร่างภาพสเกตช์หน้าคนร้ายก็จะทำให้คดีง่ายขึ้น"

อรรถกรเดินสายทำบุญ

ด้าน "เปาจ๊อด" อรรถกร เวชการ หลังจากที่เดินทางกลับบ้าน เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ได้ใช้เวลาทั้งวันเดินสายทำบุญตามวัดต่างๆ พร้อมปล่อยนกปล่อยปลา ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า อยากจะทำจิตใจให้สบาย และทำบุญเพื่ออุทิศแก่เจ้ากรรมนายเวรบ้าง โดยวันที่ 31 พ.ค. จะไปทำบุญและไหว้หลวงพ่อบ้านแหลม ที่ จ.สมุทรสงคราม เนื่องจากเป็นพระที่ตนเคารพนับถือ

"เปาจ๊อด" กล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกครั้งว่า คงปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่สิ่งที่อยากจะฝากคืออยากให้วงการฟุตบอลบ้านเรามีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ในส่วนของนักเตะตนไม่เคยมีปัญหา และที่ผ่านมาทุกคนก็ยอมรับคำตัดสินด้วยดี จะเห็นว่าเกมจบผู้เล่นก็จบด้วย เข้าแสดงความยินดี จับมือกัน ก็อยากให้กองเชียร์แสดงภาพเช่นนั้นบ้าง เกมจบก็อยากให้อภัยกัน ส่วนตัวทำหน้าที่ด้วยใจบริสุทธิ์ และไม่เคยคิดเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่แล้ว

ลืออีกเป้าหมายอาจเป็นวิโรจน์

ในขณะเดียวกัน มีข่าวลือมาอีกด้านว่า เป้าหมายของคนร้ายอาจจะไม่ได้หมายหัว อรรถกร แต่จะเป็น วิโรจน์ อ่อนโก๊ก ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่นั่งรถไปด้วยกันมากกว่า

เรื่องนี้ทาง วิโรจน์ อ่อนโก๊ก เปิดใจว่า ถึงวันนี้ยังสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ส่วนตัวไม่เคยมีเรื่องกับใครและไม่เคยทะเลาะกับใครมาก่อน ส่วนการตัดสินใจสนามที่ผ่านมาส่วนใหญ่ จะลงเป็นไลน์มากกว่าการตัดสิน ก็ไม่มีเกมไหนที่มีปัญหารุนแรง ก็ยังไม่อยากแสดงความคิดเห็น เพราะไม่รู้สาเหตุจริงๆ

สำหรับสาเหตุที่วงการข่าวลือบอกว่าน่าจะหมายเอาชีวิตของ วิโรจน์ อ่อนโก๊ก นั้นมีการเผยว่า ในช่วงที่รถคนร้ายวิ่งมาปาดหน้าแล้วลงมาเอาไม้มาตี ไม่ได้มาตีทางด้านฝั่งคนขับที่ อรรถกร นั่งอยู่ แต่กลับเดินไปยังทางด้านประตูซ้ายของรถซึ่งเป็นตำแหน่งที่ วิโรจน์ นั่งอยู่

คนวงการเชื่อไม่เกี่ยวกับเรื่องฟุตบอล

เหตุการณ์เขย่าขวัญที่เล่นกันถึงจะเอาชีวิตผู้ตัดสินกันเช่นนี้ ทำให้บุคคลในวงการออกมาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก โดย "บิ๊กก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีมบุรีรัมย์ พีอีเอเผยว่า ไม่ทราบเรื่องเลยจนเป็นข่าวในเช้าวันรุ่งขึ้น ยอมรับว่าตกใจและไม่เชื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นหลังเกมการแข่งขันที่บุรีรัมย์ แต่ตนไม่เชื่อว่าจะสาเหตุมาจากเกมดังกล่าว

ส่วนตัวไม่อยากแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้และไม่เกี่ยวกับข้องกับตนและทีมบุรีรัมย์อย่างแน่นอน กระนั้นขอรับประกันว่าผู้ตัดสินที่เดินทางมาบุรีรัมย์เราพร้อมอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่ ขณะที่ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก และสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลฯ ก็ต้องมีมาตรการดูแลออกมาด้วย

ด้าน ขาวผ่อง สิทธิชูชัย เลขาฯ ทีมโอสถสภา เอ็ม-150 เผยว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าสาเหตุจะมาจากเรื่องฟุตบอล ดูจากในเกมที่โอสถฯ แพ้บุรีรัมย์ไม่มีเหตุการณ์อะไรวุ่นวาย และการทำหน้าที่ก็เป็นไปด้วยดีจึงไม่น่าจะนำมาซึ่งการลอบยิงกันเช่นนี้ ส่วนตัวขอฝากให้ผู้ตัดสินต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวให้มากขึ้น

ส่วน "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือทีมเอสซีจี สมุทรสงคราม กล่าวว่า ส่วนตัวรู้จักกับ อรรถกร เวชการ เป็นอย่างดี เพราะพื้นเพเป็นชาวสมุทรสงครามเหมือนกัน รู้เลยว่า อรรถกร เป็นผู้ตัดสินมืออาชีพ เขาเคยบอกหลายครั้งว่าจะไม่ทำหน้าที่ยามที่ จ.สมุทรสงคราม ลงแข่งขัน เพราะจะถูกมองไม่ดี และเขาก็ปฏิบัติตัวดีมาตลอดไม่เคยคิดเข้าข้างใคร ฉะนั้นจึงไม่น่าจะมาจากเรื่องของฟุตบอล แต่สาเหตุจริงๆ คืออะไรไม่ทราบแน่ชัด ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับอรรถกรต่อไป

นอกจากนี้อีกหลายสโมสรก็มีความคิดเห็นตรงกันว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมาจากเรื่องของฟุตบอล แต่ส่วนใหญ่ไม่ขอแสดงความคิดเห็นเนื่องจากไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด เพียงแต่ฝากถึง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ที่จะต้องดูแลความปลอดภัยให้ดีที่สุด

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

กรูปรียังหวังดึงฟิลลิปส์มาร่วมทัพชั่วคราว

"กรูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี ยังตื้อไม่เลิก หวังดึง เควิน ฟิลลิปส์ นักเตะของเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่เพิ่งต่อสัญญากับทีมไปหมาดๆ มาร่วมทัพระยะสั้นๆ เพื่อหวังสร้างสีสันให้แฟนบอลชาวอีสาน พิชัย คงศรี ที่ปรึกษาทีมศรีสะเกษ เผยถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี คาดว่าจะเห็นลีลาของ ฟิลลิปส์ วันที่ 20 มิ.ย. นี้ ในเกมที่จะเปิดบ้านพบกับ บีอีซี เทโรศาสน

จากความพยายามของทีม "กรูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี ทีมบ๊วยของสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ที่ต้องการตัว เควิน ฟิลลิปส์ อดีตกองหน้าของซันเดอร์แลนด์ ที่ปัจจุบันค้าแข้งกับสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ มาร่วมทีมระยะสั้นๆ เพื่อหวังสร้างสีสันให้แฟนบอลชาวอีสาน

แต่ล่าสุดข่าววงในเผยว่า ทางเบอร์มิงแฮม ได้ต่อสัญญากับทาง ฟิลลิปส์ ออกไปอีก 1 ปี ทำให้เจ้าตัวยังไม่อาจจะไปอยู่ที่อื่นได้ เรื่องนี้ "หลอ เรดาร์" พิชัย คงศรี ที่ปรึกษาทีมศรีสะเกษกล่าวว่า เควิน จะมาไทยในสัปดาห์หน้า ส่วนตัวยังไม่ละความพยายาม ที่จะจะเจรจาขอมาเล่นเป็นเวลาชั่วคราว ถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี คาดว่าจะเห็นลีลาของ ฟิลลิปส์ วันที่ 20 มิ.ย. ในเกมที่จะเปิดบ้านพบกับ บีอีซี เทโรศาสน

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ปลาทูเน้นฟิตเนสสั่งเก็บตัวตลอดปี

"ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม วางแผนเก็บตัวยาวตลอดทั้งปี เพื่อให้นักเตะได้ฝึกซ้อมร่วมกันมากขึ้น "บิ๊กเปี๊ยก" สมศักดิ์ ศิริธรรม ผู้บริหารทีม เน้นเสริมเรื่องฟิตเนส โดยจะได้ อ.เจริญ กระบวนรัตน์ มาช่วยดูแล พร้อมทีมสตาฟฟ์อีก 5 คน

"บิ๊กเปี๊ยก" สมศักดิ์ ศิริธรรม นายกสมาคมฟุตบอล จ.สมุทรสงคราม และผู้บริหารทีม "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผลงานของทีมปีนี้ เกิดขึ้นมาได้เพราะความพร้อมในทุกด้าน โดยเรื่องของความฟิตของตัวนักเตะเราจะเน้นเป็นพิเศษ

"ที่ผ่านมาเราได้รับการสนุนที่ดีอย่างมากจาก เอสซีจี นอกจากเงินทุน ยังมีเรื่องของสถานที่ฝึกซ้อมและเก็บตัวด้วย โดยเวลานี้ เราจะใช้เอสซีจีที่สระบุรีเป็นสถานที่เก็บตัวของทีม ถ้าไม่ว่างก็จะมีที่บ้านโป่งอีกแห่ง ทำให้นักเตะได้อยู่ร่วมกัน และฝึกซ้อมด้วยกัน

อีกทั้งเราได้ อ.เจริญ กระบวนรัตน์ มาดูแลเรื่องฟิตเนส มีเครื่องมืออุปกรณ์ และทีมสตาฟฟ์ถึง 5 คนมาช่วยดูแลเรื่องเสริมสร้างกล้ามเนื่อ พร้อมการโภชนาการอย่างเสร็จสรรพ ตรงจุดนี้ ทำให้นักเตะทุกคนแข็งแกร่งขึ้น และพร้อมจะสร้างผลงานได้ดี

ปีหน้านั่งควบประธานอีกตำแหน่ง

"บิ๊กเปี๊ยก" สมศักดิ์ ศิริธรรม กล่าวอีกว่า ในปีหน้าโครงสร้างของสโมสรจะกระชับและมั่นคงมากยิ่งขึ้น โดยตำแหน่งประธานสโมสรตนจะขึ้นไปทำหน้าที่ดูแลเอง ควบกับนายกสมาคมฟุตบอล จ.สมุทรสงคราม อีกตำแหน่ง ส่วนประธานสโมสรในปีนี้อย่าง สมชาย ตั่นประเสริฐ ก็ยังจะเป็นฝ่ายบริหารของสโมสรต่อไป แต่ว่าจะต้องไปทำหน้าที่การเมืองในการลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลทำให้อาจไม่มีเวลามากนัก ตนจึงต้องขอทำหน้าที่ประธานสโมสรเอง

รวมพลังแฟนคลับเป็นหนึ่งเดียว

ในส่วนของการสร้างแฟนคลับที่นับว่าทีม "ปลาทูคะนอง" มีแฟนบอลติดตามจำนวนมาก ทั้งในการเล่นในบ้านและนอกบ้าน เรื่องนี้ สมศักดิ์ ศิริธรรม เผยว่า ที่ผ่านมาสโมสรกับแฟนคลับ ก็มักที่จะมีเรื่องมีราวตลอด เพราะความไม่เข้าใจกัน มาปีนี้ตนได้เรียกประธานแฟนคลับมาพูดคุยกันก็มีความเข้าใจกันดี และพร้อมจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน

โดยส่วนของสโมสรตนจะออกค่าใช้จ่ายเรื่องรถบัสในเกมที่ไปแข่งนอกบ้านก็จะจัดให้นัดละ 5 คัน ส่วนกลุ่มแฟนคลับเองเขาก็จะรวบรวมเงิน จากแฟนบอลคนละ 50 บาท หามาอีก 2 คัน เท่ากับว่าเกมเยือนเราจะมีรถสำหรับขนแฟนบอลไปเชียร์นัดละ 7 คันรถอย่างแน่นอน

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

เมืองกาญจน์เซ็งโดนตี1-1ปิดท้ายเลกแรกด.2ตะวันออก

"ค้างคาวมหากาฬ" เมืองกาญจน์ เอฟซี พลาดยึดแชมป์เลกแรกอย่างน่าเสียดาย หลังโดน "วานรไฟ" ลพบุรี เอฟซี ทำแสบยิงตีเสมอท้ายเกม 1-1 เก็บได้แค่ 1 แต้ม รั้งรองจ่าฝูง ตามหลัง สระบุรี เอฟซี อยู่ 2 คะแนน ขณะที่ "ป้อมปราการ" สมุทรปราการ เอฟซี เฝ้าบ้านทุบ ระยอง เอฟซี หืด 1-0 ส่วน สระแก้ว ยูไนเต็ด เลกแรกยังหาชัยไม่เจอ หลังโดน ราชบุรี เอฟซี บุกมาหักปีกคาถิ่น 1-0 บอลดิวิชั่น 2 ภาคกลางและตะวันออก เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล "เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2" โซนภาคกลางและตะวันออก เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

สมุทรปราการ เอฟซี 1-0 ระยอง เอฟซี

ที่สนามลาดกระบัง ซอย 54 "ป้อมปราการฟ้า-ขาว" สมุทรปราการ เอฟซี ทีมอันดับ 6 ของตาราง ลงเล่นไปแล้ว 14 นัด มีอยู่ 25 คะแนน เปิดบ้านพบกับ "ขุนศึกม้าลำพอง" ระยอง เอฟซี ทีมอันดับ 3 แข่งไป 14 นัด มี 28 คะแนน

เกมนี้ "ป๋าแหยม" วันชัย แหยมสลำ กุนซือใหญ่เจ้าถิ่น ส่ง พงศกร จันทร์หอม และ อาโม ไอซัค ลงเป็นตัวทีเด็ดในแนวรุก ด้าน อภิชาต โมสิกะ เฮดโค้ชทีมเยือน มี อดิศักดิ์ ศรีกำปัง, ศิลา ศรีกำปัง และ ณัฐวุฒิ คำรินทร์ ดาวรุ่งดีกรีเยาวชน 19 ปีของไทย ลงสนามในเกมนี้

เริ่มครึ่งแรก เป็นเจ้าบ้าน สมุทรปราการ เอฟซี ที่ได้ทักทายก่อน ตั้งแต่ต้นเกม เมื่อ อาโม ไอซัค ที่กระชากบอลจากทางริมเส้นด้านซ้ายเข้าไปในเขตโทษ ก่อนตัดสินใจตวัดบอลเต็มข้อหลุดออกเสาสองไปชนิดได้ลุ้น

น.21 ระยอง เอฟซี มีโอกาสทำเกมรุกตอบโต้เจ้าถิ่นขึ้นมาได้บ้าง จากจังหวะที่ ณัฐวุฒิ คำรินทร์ ขึ้นบอลทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนจ่ายบอลถวายพานให้ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง ได้ซัดเน้นๆ แต่ทว่าผู้รักษาประตูสมุทรปราการ เซฟเอาไว้ได้

น.32 โอกาสยังเป็นของ สมุทรปราการ เอฟซี ที่มีโอกาสลุ้นพังประตูขึ้นนำเมื่อ อาโม ไอซัค ที่ทำเกมริมเส้นด้านซ้ายได้อย่างโดดเด่น จังหวะนี้กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษได้ดีก่อนไหลบอลให้ พงศกร จันทร์หอม ซัดบอลข้ามคานออกหลังประตูไป

อีก 3 นาทีถัดมา กองเชียร์ป้อมปราการได้เฮกันลั่นสนาม จากจังหวะที่ อาโม ไอซัคแทงบอลทะลุช่องให้ พงศกร จันทร์หอม หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนซัดบอลเข้าไปตุงตาข่ายให้สมุทรปราการ เอฟซีขึ้นนำไปก่อน 1-0 ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองฝ่ายไม่สามารถทำอะไร หมดเวลาครึ่งแรก สมุทรปราการ เอฟซี ยังคงนำ ระยอง เอฟซี อยู่ 1-0

ครึ่งหลัง สมุทรปราการ ยังเปิดเกมรุกเข้าใส่ ระยอง เอฟซี ได้อย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้แฟนๆ เกือบได้เฮ จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาที่วางบอลยาวมาที่บริเวณเสาสอง อาโม ไอซัค เก็บบอลได้ก่อนกระดกบอลให้ พงศกร จันทร์หอม ได้ตีลังกายิง แต่บอลก็โด่งออกหลังประตูไป

น.52 ระยอง เอฟซี ทำเกมรุกตอบโต้ สมุทรปราการ ขึ้นมาได้ดีจากจังหวะที่ ณัฐวุฒิ คำรินทร์ ทำเกมขึ้นมาทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนโยนบอลเข้าไปในเขตโทษให้ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง ขึ้นโขกเหน่งๆ แต่ผู้รักษาประตูสมุทรปราการ ยังไวปัดบอลออกหลังประตูไปได้

น.60 ระยอง เอฟซี มีโอกาสลุ้นพังประตูตีเสมออีกครั้ง เมื่อทีมได้ลูกฟรีคิกบริเวณกลางสนามระยะหวังผล สุริยพงศ์ ศิลาปฏิพัทธิ์ ที่วิ่งเข้ามาหวดฟรีคิกลูกนี้โค้งข้ามคานออกหลังประตูไป

น.63 ระยอง เอฟซี ได้ลูกฟรีคิกบริเวณมุมธงด้านขวา สุริยพงศ์ ศิลาปฏิพัทธิ์ เปิดบอลเรียดไปที่บริเวณเสาแรก และเป็นทางด้าน อดิศักดิ์ ศรีกำปัง ที่วิ่งมาจิ้มบอลลูกนี้หลุดเฉียดเสาออกหลังประตูไปอย่างน่าเสียดาย

น.78 เกมในครึ่ง 15 นาทีสุดท้ายนั้น เป็นทางด้าน

สมุทรปราการ เอฟซี ยังครองเกมรุกได้ดีกว่า น.78 มีโอกาสลุ้นเบิกสกอร์เพิ่มอีกครั้ง เมื่อ พงศกร จันทร์หอม แทงบอลทะลุช่องให้ อาโม ไอซัค หลุดขึ้นไปทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนที่เจ้าตัวจะตักบอลให้ ชมนันท์ สุขเกษม หลุดเข้าไปจิ้มบอลลูกนี้ แต่ทว่าผู้รักษาประตูของระยอง เอฟซี ยังไววิ่งมาตะครุบบอลไว้ได้ทัน

ช่วงท้ายเกม ระยอง เอฟซี มีโอกาสลุ้นพังประตูตีเสมออีกครั้ง เมื่อ ธิติ สังข์ศรี เปิดบอลยาวเข้าไปในเขตโทษให้ ขจี ประสิ่งชอบ ได้โขกแต่ก็เบาเกินไป ทำให้ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านคว้าไว้ได้ทัน

ถัดมาไม่ถึงนาที สมุทรปราการ เอฟซีเกือบได้เฮอีกครั้ง เมื่อ มงคล วรพรม หลุดเข้าไปในเขตโทษด้านขวาก่อนที่จะยิงบอลสวนทางผู้รักษาประตู ระยองไปแล้ว และเป็นทางด้านกองหลังระยอง เอฟซี ที่เคลียร์บอลหน้าปากประตูออกมาได้ทัน ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดหมดเวลาการรแข่งขัน สมุทรปราการ เอฟซี เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ระยอง เอฟซี ไปได้ 1-0

ลพบุรี เอฟซี 1-1 เมืองกาญจน์ เอฟซี

ที่สนาม สพล.อ่างทอง เป็นนัดสุดท้ายของเลกแรกทีม "วานรไฟ" ลพบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 9 ของตาราง จากการลงสนาม 14 นัด ชนะ 4 เสมอ 6 แพ้ 4 มีอยู่ 18 คะแนน พบกับ "ค้างคาวมหากาฬ" เมืองกาญจน์ เอฟซี รองจ่าฝูง ที่ลงสนามไป 14 นัด ชนะ 9 เสมอ 4 แพ้ 1 นัด มีอยู่ 31 คะแนน โดยเกมนี้มีความสำคัญ เพราะเป็นเกมลุ้นแชมป์เลกแรกของทีม "ค้างคาวมหากาฬ" เนื่องจากหากพวกเขาชนะที่ผลต่างประตู 2 เม็ดขึ้นไป ก็จะแซง สระบุรี เอฟซี ขึ้นไปยึดจ่าฝูงทันที

เกมนี้ รังสิวุฒิ ชโลปถัมภ์ กุนซือใหญ่ "วานรไฟ" จัดทัพลงสนามนำโดย บุญกล้า จันทร์แปลง, ศราวุฒิ คำศรี, พลากร อ่อนธรรม, จารุพงษ์ สุงข์พงษ์, พร้อมเทพ พรหมจอม, ศิโรดม สิงห์ทิพย์พันธุ์ ส่วน ฐิติ สุโกรัตน์ กุนซือค้างคาวมหากาฬ จัดทัพชุดใหญ่นำโดย นภดล จุ้ยใจเหิม, กฤษดา นาคพันธ์, เผด็จ เหล็กศิริ, นริศ คล้ายทรัพย์, นพพร โพธิ์พรหม, นคร ชูศูนย์

เริ่มเกมครึ่งแรก ทีมเยือนเมืองกาญจน์ เอฟซี ไม่รอช้าเดินหน้าบุกใส่ก่อนแค่นาทีแรกก็ได้เสียว เมื่อนภดล จุ้ยใจเหิม ได้บอลขึ้นมาทางกราบขวากระชากเข้าหาประตูในกรอบเขตโทษตัดสินใจยิงมุมแคบแต่ บุญกล้า โกลลพบุรีเซฟเอาไว้ได้ทัน

ทว่าสองนาทีต่อมาก็เป็นโอกาสของทีมวานรไฟบ้าง เมื่อ พลากร ได้บอลเปิดทางกราบซ้ายเข้าไปหน้าประตู อีริค โกลเมืองกาญจน์ เอฟซี ออกมาพุ่งปัดไปเข้าทาง เชรีฟ พยายามล้มตัวยิง แต่ไม่ถนัดนักบอลบอลเอื่อยๆ ไปเข้าซอง อีริค รับเอาไว้ได้อีกครั้ง

เกมยังเปิดแลกกันสนุก โดนี่ เมืองกาญจน์ เอฟซี คุมเกมเหนือกว่านิดๆ น.10 เชรีฟ กองหน้าผิวสีลพบุรีส่องเหน่งๆ ในกรอบเขตโทษข้ามคาน น.16 ทศพร มิดฟิลด์ฝั่งซ้ายของเมืองกาญจน์ เอฟซี ก็มีโอกาสหลุดเข้าไปส่องกลางประตู 18 หลา แต่ยิงข้ามคานไปอีก

น.30 นภดล จุ้ยใจเหิม ของเมืองกาญจน์ เอฟซี ก็ปั่นฟรีคิกริมเส้นฝั่งซ้ายบอลชนคานออกไป สองนาทีต่อมา กฤษดา กัปตันเมืองกาญจน์ เอฟซี ยิงไกลกว่า 40 หลา กลางประตูบอลพุ่งชนคานออกไปอีกครั้ง ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเกมเริ่มตกเป็นของเมืองกาญจน์ เอฟซี มากขึ้นขณะที่ลพบุรี เอฟซี รับอย่างเหนียวแน่น และหาจังหวะโอกาสโต้กลับได้ลุ้นเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถยิงประตูกันได้จบครึ่งแรก ลพบุรี เอฟซี เสมอกับ เมืองกาญจน์ เอฟซี 0-0

ครึ่งหลังเริ่มแค่นาทีเดียว ลพบุรี เอฟซี ก็พลาดได้ประตูนำอย่างน่าเสียดาย เมื่อทาง เชรีฟ กองหน้าวานรไฟ ได้บอลโยนมาจากกราบขวาที่เสาสองได้โหม่งย้อนเข้าไปกลางประตูที่ พลากร อ่อนธรรม ที่ยืนโล่งๆ แต่ดันแบบอลแค่ 5 ข้ามคานออกไปเฉยเลย

เกมมาถึง น.58 กองเชียร์เมืองกาญจน์ เอฟซี ก็ได้เฮกันสนั่นเมื่อทาง ธเนศ น้าสุวรรณ ได้บอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวาเปิดไปหน้าประตูที่เสาสองและเป็น ทศพร อนุพัตน์ เติมสอดขึ้นแบเข้าประตูให้เมืองกาญจน์ เอฟซี ออกนำ 1-0

นาทีต่อมาลพบุรี เอฟซี ก็เกือบตีเสมอได้เมื่อทาง พลากร เปิดบอลทางกราบซ้ายไปเสาสอง เชรีฟ ขึ้นโหม่งแต่โดนเบียดทำให้เสียเหลี่ยมบอลออกหลังนิดเดียว จากนั้นเกมก็เริ่มที่จะตกเป็นของลพบุรี เอฟซี ที่พยายามเปิดเกมรุกใส่เพื่อหวังทวงประตูคืนให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ ไม่มีความต่อเนื่อง

จนมาถึงช่วงทดเจ็บ 5 นาที และเป็นนาทีสุดท้าย กองเชียร์ลพบุรี เอฟซี ก็ได้เฮกันสนั่นบ้างเมื่อทาง พลากร อ่อนธรรม ได้บอลกระชากขึ้นมาทางกราบซ้ายเข้าหาประตูในกรอบเขตโทษ ยิงที่เสาแรกเข้าไปให้ทีมลพบุรี ตามตีเสมอ 1-1 ทว่าเจ้าตัวที่มีเหลืองมาก่อนแล้วก็มาโดนอีกเหลือง จากจังหวะถลกเสื้อขึ้นคลุมหัวในจังหวะดีใจที่ยิงประตูได้ เป็นใบแดงต้องออกจากสนามไป จากนั้นก็จบเกม ลพบุรี เอฟซี เสมอ เมืองกาญจน์ เอฟซี 1-1

ทำให้ทีมเมืองกาญจน์ เอฟซี เก็บเพิ่มแค่ 1 แต้มเท่านั้น ส่งผลให้ต้องพลาดแชมป์เลกแรกได้แค่พระรอง ส่วนแชมป์เลกแรกตกเป็นของ สระบุรี เอฟซี ทีมีคะแนนเหนือกว่าอยู่ 2 คะแนน

สระแก้ว ยูไนเต็ด 0-1 ราชบุรี เอฟซี

ที่สนามกีฬากาญจนาภิเษก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว "ผีเสื้อพิฆาต" สระแก้ว ยูไนเต็ด ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง เล่นไปแล้ว 14 เกม มีแค่ 1 แต้ม เปิดรังรับมือ "มังกรแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง" ราชบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 11 ที่มีอยู่ 14 คะแนน

เกมนี้ โค้ชเชี่ยว ลาภไธสง กุนซือใหญ่ของทีม สระแก้ว ยูไนเต็ด ส่ง สุธี คำชา ลงเล่นริมเส้นฝั่งขวา และปล่อยให้ ประวิทย์ โสมีชัย ยืนเป็นตัวเป้าอยู่ข้างหน้าเพียงคนเดียว ส่วนในแดนหลังยังคงเป็น คริสเตียน เหยา จับคู่กับ จันทร ผิดพันธ์ ยืนเซนเตอร์เช่นเคย รูปเกมจะเน้นที่การรัดกุมของเกมรับแล้วหาจังหวะบุกเข้าใส่

ด้าน ราชบุรี เอฟซี โดยการนำทัพของ โค้ชธนบูรณ์ คณะโต ที่หวังเก็บ 3 แต้มแรกในการเข้ามาคุมทีมของตัวเองให้ได้ โดยส่งคู่หน้าที่ฟอร์มจัดจ้านอย่าง อีริค เกมเด็ม กับ อนุสรณ์ สีมี ลงล่าตาข่าย ส่วนแดนกลางยังคงใช้ เอกราช สามแอบ กับ คูฟูร์ เช่นเคย ซึ่งเกมนี้กุนซือของทีมเยือนขอโหมบุกเต็มที่ เพื่อที่จะเก็บชัยชนะกลับไปให้ได้

เริ่มครึ่งแรกทั้งสองทีมผลัดกันรุกรับพอๆ กัน เป็นทางทีมเยือนที่มีโอกาสครองบอลมากกว่าแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ดีพอ ซึ่งอาจเป็นเพราะสภาพสนามที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ทำให้การทำเกมของทั้งคู่ขาดๆ เกินๆ ไปหมดตลอด เวลาที่เหลือครึ่งแรกทั้งสองทีมยังไม่โอกาสจะจะที่เอาประตูขึ้นนำกันได้ จนสุดท้ายไม่มีทีมใดทำประตูได้ ก่อนที่จะหมดครึ่งแรกด้วยการเสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังจับจังหวะเกมของตัวเองไม่ได้ เวลาผ่านไปสนามยิ่งเละขึ้น ทำให้ต่างฝ่ายต่างครองบอลไม่ถนัด จังหวะผิดพลาดเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ยังเป็นฝั่งทีมเยือนที่มีโอกาสที่จะได้ประตูขึ้นนำมากกว่า

จนกระทั่งมา น.60 ทีมเยือนก็มาได้จุดโทษในจังหวะที่ สมบูรณ์ กิตติมงคล หลุดเข้าไปในเขตพยายามใช้หัวเล่นบอล แต่กลับโดนกองหลังของเจ้าถิ่นเตะเข้าที่หัว ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ และ อนุสรณ์ สีมี รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ทีมราชบุรี เอฟซี ออกนำ 1-0

ก่อนหมดเวลา 10 นาที ราชบุรี เอฟซี ต้องเสียผู้เล่นคนสำคัญอย่าง อีริค เกมเด็ม ที่ไปโดน จันทร ผิดพันธ์ ที่เกมนี้เล่นค่อนข้างแรงตลอดทั้งเกม ศอกเข้าที่หน้า ทำให้ต้องเย็บถึง 4 เข็ม และเปลี่ยนตัวออก โดยส่ง สุจริตพงษ์ น้อยโสภา ลงไปแทน และเกือบเพิ่มสกอร์ให้กับทีมเยือน ในน.90 จากจังหวะหลุดเข้าไปในเขตโทษด้านซ้ายก่อนที่จะโดนผู้รักษาประตูตัดบอลไปได้ ทำให้จบเกมราชบุรี เอฟซี บุกมาเอาชนะสระแก้ว ยูไนเต็ด 1-0 ส่งสระแก้วจบเลกแรกที่ตำแหน่งบ๊วยของตารางโดยที่ไม่ชนะใครเลย

ปทุมธานี เอฟซี 1-2 อยุธยา เอฟซี

ที่สามกีฬา ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต "นกปากห่างเหินหาว" ปทุมธานี เอฟซี ทีมอันดับ 12 ของตารางคะแนน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "นักรบกรุงศรี" อยุธยา เอฟซี ทีมอันดับ 4 เกมนี้ เจ้าถิ่น ปทุมธานี เอฟซี ได้ วินัย ดอนดี หายเจ็บกลับมาลงสนาม พร้อมกับ มิชาร์ด มิเรกู, ขวัญ ไวทยาชีวะ และ อนุวัฒน์ ดอกพุฒิ นำทีม ด้านทีมเยือนไม่มีปัญหาการจัดทัพ มี ธีโอดอร์ ยูยุน ลงล่าตาข่ายพร้อมด้วย นันทวัฒน์ ฝั้นชัยหวัง, ศราวุฒิ จันทร์เอี่ยม และ ศิวพงษ์ เจริญศิลป์ เช่นเดิม

เริ่มเกมครึ่งแรก น.19 ปทุมธานี เอฟซี น่าจะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ วินัย ดอนดี ฉกบอลก่อนที่ ผู้รักษาประตูจะตัดบอลได้ บอลไหลกำลังจะข้ามเส้นประตู แต่ สิทธิชัย ไตรศิลป์ สกัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด

เจ้าถิ่นเกือบจะได้ประตูอีกครั้ง เมื่อมาได้จังหวะปั่นฟรีคิก น.23 บัวมาห์ ควาดโว ปั่นบอลหลุดออกไปนิดเดียว จากนั้นเป็นทางฝั่นทีมเยือน ที่มีโอกาสที่จะได้ประตูขึ้นนำบ้าง น. 26 จากการเปิดมุมของ ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์ เปิดบอลเลยไปเสาสองมาเข้าหัว วศิน พุ่มนิคม โขกออกไปอย่างน่าเสียดาย

ท้ายเกมทีมเยือนน่าจะได้ประตูขึ้นนำ น.38 เมื่อ นิเวศน์ พิมรัตน์ เปิดจากทางด้านขวาบอลเลยมาทางปีกซ้าย ที่ วศิน พุ่มนิคม ก่อนจะเลี้ยงหลบผู้เล่น ปทุมธานี เอฟซี เข้าไปในเขตโทษไปดวลกับผู้รักษาประตู แต่ยิงบอลหลุดกรอบออกไป ทำให้หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง น.53 เจ้าถิ่นที่ช่วงท้ายครึ่งแรกโดนบุกหนักกลับได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะซ้ำของ ริชาร์ด หลังจากที่เพื่อนร่วมทีมโหม่งไปติดผู้รักษาประตู ในจังหวะแรก ทำให้เจ้าบ้านออกนำ 1-0

ทีมเยือนบุกหนักอยู่นาน ก่อนจะมาได้ฟรีคิก น.78 ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์ ปั่นไปแฉลบกองหลัง ปทุมธานี เอฟซี เข้าไปประตูไปให้ อยุธยา เอฟซี ไล่ตีเสมอมาเป็น 1-1 จากนั้น ทั้งสองทีมทำเกมบุกเข้าใส่กัน แต่เกมส่วนใหญ่ยังอยู่ที่กลางสนาม

หลังจากเปิดเกมเข้าใส่กันอยู่นาน สุดท้ายเป็นทีมเยือนที่มาได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากจังหวะที่ ลักษณะ คำรื่น ได้จังหวะสับไกเต็มข้อไปติดตัวกองหลังบอลแฉลบไปเข้าทางปืนของ ยูยุน จับหนึ่งจังหวะ ก่อนที่จะยิงเข้าไปเป็นประตูชัยให้ อยุธยา เอฟซี บุกมาเอาชนะ ปทุมธานี ได้ถึงถิ่น 2-1 เกมนี้ปทุมธานี เอฟซี ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 หลัง บัวมาห์ ควาดโว โดนใบแดง

สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน "เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2" โซนภาคกลางและตะวันออก นัดต่อไป วันที่ 02 มิถุนายน 2553 ปทุมธานี เอฟซี พบ ปราจีนบุรี ยูไนเต็ด ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต เวลา 17.30 น.

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

อาร์แบคถล่ม5-1,จุฬา4-1,ศรีราชาลิ่วเอฟเอคัพ

"สิงโตน้ำเงิน-ทอง" อาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี ฟอร์มเฉียบ ยกพลบุกถล่ม พัทยา เอฟซี ทีมจากศึกถ้วย ง. ได้แบบสบายเท้า 5-1 ขณะที่ "เสือสามย่าน" จุฬา ยูไนเต็ด เด็ดขาดไม่แพ้กัน หลังไล่ต้อนเด็ก "ชงโคสีม่วง" กรุงเทพคริสเตียน ขาดลอย 4-1 ส่วน "บลูมาร์ลิน" ศรีราชา เอฟซี หืดจับก่อนเชือด "วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี 1-0 ทะลุรอบสาม ศึกลูกหนัง "มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ" เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล "มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ" รอบสอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 พ.ค. 53 ที่ผ่านมา มีลงสนามทั้งหมด 3 คู่ ซึ่งผลมีดังนี้

พัทยา เอฟซี (ถ้วย ง.) 1-5 อาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี (ด.1)

ที่สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ เจ้าบ้าน พัทยา เอฟซี ทีมจากการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ง. เปิดบ้านพบกับ "สิงโตน้ำเงิน-ทอง" อาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี ทีมอันดับ 6 จากดิวิชั่น 1 โดยทางฝั่งเจ้าบ้านผลงานในรอบแรกสามารถเอาชนะนครสวรรค์ เอฟซี 1-0 ที่สนามแห่งนี้ ส่วนทางอาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี นั้นได้สิทธิ์ผ่านเข้าแข่งขันในรอบที่ 2 โดยอัตโนมัติ

เกมนี้เจ้าบ้าน พัทยา เอฟซี กุนซือใหญ่ ประเสริฐ วังเวง ส่งชุดใหญ่ลงสนามครบครันทั้ง จูเนียร์ เบียงเวนู, แดนพงษ์ วรกุล และ จุมพล กลิ่นระรื่น ส่วนผู้มาเยือน อาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี ของกุนซือ สมเด็จ หิตเทศ ส่งขุนพลตัวหลักลงพร้อมหน้าไม่ว่าจะเป็นกัปตันทีม ประเสริฐ เฉยไธสง, อมร กันดีลัง และ คฑาวุฒิ บุญอำพร

เริ่มเกมมาเป็นทางอาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี ที่เปิดเกมบุกเข้าใส่เจ้าบ้านทันที น.15 กลับเป็นทางพัทยา เอฟซี ที่สร้างเซอร์ไพรส์ ออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ จูเนียร์ เบียงเวนู หัวหอกผิวสีที่ได้บอลในกรอบเขตโทษก่อนโยกหลอกองหลังอาร์แบค มิตรภาพ และยิงด้วยซ้ายเสียบเสาแรกให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0

แต่อีก 1 นาทีให้หลัง อาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี ก็มาตีเสมอเป็น 1-1 ได้ทันควันจากจังหวะที่ แคนดิโอ กองหลังของพัทยา เอฟซี พยายามจะเคลียร์บอล แต่กลับเตะบอลไปติด อรัญ คลองมดคัน ผู้เล่นของอาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี ที่เข้ามาบล็อกทำให้บอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไป

น.27 อาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี ก็มาได้ประตูที่ 2 เมื่อ อมร กันดีลัง ได้บอลทางกราบขวาก่อนจะโยนเข้าไปกลางประตูและเป็น อะเดโฟลาริน ดูโรซินมี่ ที่เทกตัวขึ้นโหม่งคนเดียว ส่งบอลเสียบตาข่ายสุดสวย เปลี่ยนสกอร์ให้ทีมเยือนกลับขึ้นมานำ 2-1

น. 44 "สิงโตน้ำเงิน-ทอง" น่าจะได้ประตูที่ 3 อย่างที่สุด จากจังหวะที่ อะเดโฟลาริน ดูโรซินมี่ เปิดเรียดให้ คฑาวุฒิ บุญอำพร ได้แปเน้นๆ แต่บอลเจ้ากรรมกลับพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย ทำให้หมดครึ่งแรก อาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี บุกมานำ พัทยา เอฟซี อยู่ 2-1

ครึ่งหลังเจ้าบ้าน พัทยา เอฟซี เริ่มบุกทันที เพื่อหวังประตูตีเสมอ และก็เกือบทำสำเร็จ น.47 เมื่อ กฤษดา กอสูงเนิน ได้ยิงเต็มข้อ แต่บอลไปติดขาของ ชาญชัย ยวนจิตต์ ผู้รักษาประตูทีมเยือนบอลมาเข้าทาง จูเนียร์ เบียงเวนู ที่ได้ซ้ำดาบสองระยะ 3 หลา แต่เจ้าตัวกลับยิงข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อ

น. 51 อาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี มาได้ลูกโทษที่จุดโทษจากจังหวะที่ จุมพล กลิ่นระรื่น ปราการหลังของเจ้าบ้านไปหวด อรัญ คลองมดคัน ในกรอบเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น ปรวัตร สิริวัฒนากร ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือให้ทีมเยือนขึ้นนำเป็น 3-1

น.56 ทั้งสองทีมต้องมาเหลือผู้เล่นฝั่งละ 10 คนจากจังหวะปะทะกันรุนแรงของแดนพงษ์ วรกุล ของเจ้าบ้านกับ ปรวัตร สิริวัฒนากร ผู้เล่นอาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี ผู้ตัดสินไม่รีรอชักใบแดงให้ทั้งคู่ทันที

น.74 ทีมเยือนได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ สุริยัญ เคนคำ ตัวสำรองที่เพิ่งเปลี่ยนลงไปได้จังหวะกระชากบอลไปจนสุดเส้นหลัง และตบเข้ามาให้ ชนะ สนวิเศษณ์ อีกหนึ่งตัวสำรอง ที่เพิ่งลงไปได้ยิง แต่บอลกลับไปติดเซฟ ยุทธิภูมิ ศรีไชย นายทวารพัทยา เอฟซี ที่ปัดออกไปได้

น.82 อาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี มาได้ประตูเป็น 4-1 จากยิงของ อะเดโฟลาริน ดูโรซินมี่ และเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บอาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี มาได้ประตูตอกฝาโลงเป็น 5-1 จากจังหวะหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงของ ชนะ สนวิเศษณ์

เวลาที่เหลือในช่วงท้ายเกม พัทยา เอฟซี มีลูกฮึดพยายามบุกหวังประตูตีตื้น แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทำให้จบเกม อาร์แบค มิตรภาพ บุกมาชนะ พัทยา เอฟซี ไปได้ 5-1 วาทะโค้ช

ประเสริฐ วังเวง กุนซือพัทยา เอฟซี กล่าวว่า "เราพลาดง่ายไปหน่อยและเด็กก็เสียสมาธิ ทำให้โดนนำไปไกล และเป็นงานยากที่จะไล่ตาม"

สมเด็จ หิตเทศ กุนซืออาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี กล่าวว่า "พอใจกับผลการแข่งขัน ทุกคนเล่นได้ดีมาก แต่ยอมรับว่ากดดันกับบรรยากาศของกองเชียร์"

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

พัทยา เอฟซี : ยุทธิภูมิ ศรีไชย 5.5, จุมพล กลิ่นระรื่น 5.5, สิทธิพร ติยวัฒน์ 5.5, กฤษดา งามมาก 5 (ศักดิ์นริทร์ กอสูงเนิน 5.5), แคนดิโอ 5.5 (ทะนงศักดิ์ สาคร5.5), พีระ พรรณศรี 5.5, จูเนียร์ เบียงเวนู 6, เทวินทร์ จิตแจ้ง 5.5, แดนพงษ์ วรกุล 5.5, โคเน่ จูเนียร์ 5.5, สิทธิพงษ์ สุธงษา 5.5 (โชติมัน ไทยสูงเนิน 5.5)

อาร์แบค มิตรภาพ เอฟซี : ชาญชัย ยวนจิตต์ 6, อรัญ คลองมดคัน 6.5, คฑาวุฒิ บุญอำพร 6.5 (ชนะ สนวิเศษณ์ 5.5), ปรวัตร สิริวัฒนากร 6, อมร กันดีลัง 6.5 (สุริยัญ เคนคำ 5.5), จักรกฤษณ์ ตาลประสิทธิ์ 6, อะเดโฟลาริน ดูโรซินมี่ 7 (พีระพงศ์ อุดทา-), อองรี บิทก้า 6, อรรถพล แซ่เตียว 6, ประเสริฐ เฉยไธสง 6, วัชรพล ช่างกลึงเหมาะ 6

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : อะเดโฟลาริน ดูโรซินมี่ หัวหอกชาวไนจีเรีย ของอาร์แบค

จุฬา ยูไนเต็ด (ด.1) 4-1 กรุงเทพคริสเตียน (ด.2)

ที่สนามจุฬาฯ "เสือสามย่าน" จุฬา ยูไนเต็ด ทีมระดับดิวิชั่น 1 เปิดบ้านรับมือ "ชงโคสีม่วง" กรุงเทพคริสเตียน ทีมระดับดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล เกมนี้ เจ้าถิ่นจัดทัพใหญ่ ส่งแข้งจอมเก๋า อดุลย์ หมื่นสมาน นำทัพ พร้อมกับ ไมตรี กุหลาบขาว, วัฒนศัพท์ เจริญศรี, ชัยณรงค์ ทาทอง, อดิศักดิ์ กานู ผนึกกำลังกับแข้งนอกอย่าง อารอน ดา ซิลวา, มาริค ล่าตาข่าย ด้าน กท.คริสเตียน ส่งแข้งยังเติร์กลุยเกือบทั้งทีม

เริ่มเกมครึ่งแรก 10 นาที เป็นขุนพล "เสือสามย่าน" ที่เปิดเกมรุกใส่อย่างหนัก ถึง น.15 มาริค สับไกยิงในระยะ 30 หลา แต่บอลพุ่งช้าเข้าซอง พรพัฒน์ เธียรถาวร นายทวารชงโครับเข้าซองหนึบ

แข้งจุฬา เจ้าถิ่น ยังโขยกเกมรุกใส่แหลก น.20 หวิดทะลวงตาข่ายขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ ประสิทธ์ เทาดี กระชากบอลขึ้นทางริมเส้นด้านขวา ก่อนจ่ายเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ อารอน ดา ซิลวา สับไกยิงเน้นๆ ทว่า นายทวาร กท.คริสเตียน ยังไวกระโดดปัดออกไป

เกมยังเป็นของจุฬา ที่พับสนามบุกหนัก น.25 อารอน ดา ซิลวา ได้เหนี่ยวไกยิงยัดเสาสอง ในระยะนอกกรอบเขตโทษออกไปหวุดหวิด กระทั่งถึง น.29 อิทธิพล แก้วเขียว มิดฟิลด์ของ "ชงโคสีม่วง" ไปทำแฮนด์บอลบริเวณนอกกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินให้ฟรีคิกแก่เจ้าบ้าน เป็นทางด้าน อารอน ดา ซิลวา ที่รับหน้าที่ปั่น บอลกลมดิกเข้าเสาสองให้เจ้าบ้านผงาดขึ้นนำ 1-0

ถัดมานาทีเดียว "เสือสามย่าน" ยังคงสาดเกมรุกใส่อย่างหนัก น.35 กิตติศักดิ์ ปิ่นทอง ชิ่งบอลสั้นให้ อดิศักดิ์ กานู ยิงยัดเสาแรก แบบเน้นๆ ไม่เหลือซากให้จุฬาขึ้นนำ 2-0 ก่อนจะหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังยังเป็นขุนพล "เสือสามย่าน" ที่ครองเกมบุกได้หวือหวากว่า น.55 ได้จังหวะโต้กลับเร็วสู้ เป็นทางด้าน มาริค ที่กระชากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะสับไกยิงเต็มข้อ แต่ถูกนายทวาร กท.คริสเตียน ออกมาบังมุมมิดเซฟออกไปได้อีก

น.65 เกมรุกของจุฬาฯ ยังคงเดินเครื่องบุกแบบได้เสีย ได้ประตูทิ้งห่างจากจังหวะที่ อารอน ดา ซิลวา พาบอลเข้าไปกระหน่ำ แต่ติดเซฟนายทวาร "ชงโคสีม่วง" บอลกระดอนมาเข้าทางปืนของ ศรัณย์ สมิงชัย ที่เพิ่งเปลี่ยนลงไปแทน กิตติศักดิ์ ปิ่นทอง ซ้ำดาบสองให้เจ้าถิ่นนำ 3-0

แม้จะโดนกะซวกตาข่ายนำห่าง ทว่านักเตะ กท.คริสเตียน มาได้ปะตูตีไข่แตก จนได้หลังจากที่พยายามไล่บี้กันอยู่นาน จากการยิงของ ธนารักษ์ เย็นจิตร น.67 เกมทำท่าว่าจะจบด้วยสกอร์นี้

ช่วงทดเวลาเจ็บออกไปอีก 4 นาที จุฬาฯ มาได้ประตูตอกฝาโลง จากการสับไกยิงของ มาริค ให้ จุฬาฯ เปิดบ้านไล่ถล่ม กรุงเทพคริสเตียน 4-1 ผงาดเข้าสู่รอบสามต่อไป ส่วน กท.คริสเตียน ตกรอบนี้ รับเงินรางวัลปลอบใจไป 15,000 บาท

วาทะโค้ช

ธงชัย สุขโกกี ผู้ฝึกสอนจุฬา ยูไนเต็ด เผยว่า "เกมนี้เรามาเน้นแบบเอนเทอร์เทนแฟนบอล ขณะเดียวกันนักเตะก็เล่นได้ตามแท็กติกที่วางเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีอะไรต้องแก้ไข เพียงแต่ว่าต้องเพิ่มในส่วนของความเข้าใจเกมกันเข้าไปอีกนิด เพราะรอบหน้าหนักแน่อาจจะต้องเจอกับทีมในระดับไทยลีก ถ้าต้องพบกับทีมแกร่งขอวัดกับเมืองทองฯ ไปเลย ชนะก็ดัง หากแพ้เราก็ยังคงเสมอตัว"

นพพร เอกศาสตรา ผู้ฝึกสอน กรุงเทพคริสเตียน กล่าวว่า "รูปแบบการเล่นเราเป็นรองอยู่แล้ว เอาแค่นักเตะเทียบกันแบบตัวต่อตัว เราก็สู้เขาไม่ได้ แต่ต้องชื่นชมลูกทีมที่เล่นกันด้วยสปิริต ถือว่าเป็นการหาประสบการณ์ เมื่อเจอกับทีมแกร่งกว่า สิ่งที่ได้กลับมาก็คือกระดูก เพื่อจะได้นำเอามาสู้ต่อในดิวิชั่น 2 ซึ่งเราก็มีลุ้นติดหัวตารางเช่นกัน"

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

จุฬา ยูไนเต็ด : พรชัย จันทร์อินทร์ 6, ไมตรี กุหลาบขาว 6, นันทพล พิบูลย์พล 6, ชัยณรงค์ ทาทอง 5.5 (ศรัณย์ สมิงชัย 5), กิตติศักดิ์ ปิ่นทอง 6 (ภานุวัฒน์ ญาณอัมพรพิพัฒน์ -), อดิศักดิ์ กานู 7 (เธียรี่ เมคอนเด้ -), วัฒนศัพท์ เจริญศรี 6, ประสิทธิ์ เทาดี 6, อดุลย์ หมื่นสมาน 6, อารอน ดา ซิลวา 6, มาริค 6

กรุงเทพคริสเตียน : พรพัฒน์ เธียรถาวร 5, วัชเรนทร์ ชูพันธ์ 5 (ฟาหริด หมาดโสะ -), ดนัย ว่าโระ 5 (ณรงฤทธิ์ มุละสิวะ -), อนุวัตร ฉางทรัพย์ 5, สุนทร ปั้นรัตน์ 5, หัสนัย บุราณสุข 5, วิษณุศักดิ์ อุ่นน้อย 5, อิทธิพล แก้วเขียว 5,ประเวทย์ จิตรสิงห์ 5, ธนารักษ์ เย็นจิตร 5, ทาซิ โยซูเกะ 5 (เอกพจน์ ผ่องแพ้ว -)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : อดิศักดิ์ กานู กองหน้าของ จุฬา ยูไนเต็ด

ศรีราชา เอฟซี (ด.1) 1-0 สงขลา เอฟซี (ด.1)

ที่สนามศรีราชา สเตเดี้ยม ร.ร.บ้านศรีมหาราชา "บลูมาร์ลิน" ศรีราชา เอฟซี จ่าฝูงของศึกดิวิชั่น 1 เปิดรังเหย้ารับการมาเยือนของ "วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี ทีมจากดิวิชั่น 1 ด้วยกัน

เกมนี้ "โค้ชแดง" ทรงยศ กลิ่นศรีสุข ไม่มีปัญหาในการจัดทัพแต่อย่างใด สามารถจัดทัพใหญ่ลงสนามได้เต็มอัตราศึกนำโดย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, วาเลรี่ ซานู, สุจริต จันทกล, กัสโต้ กอนซาเลส และ วรุตม์ วงศ์ดี

ขณะที่สงขลา เอฟซี เกมนี้ยังคงไร้เงา บุญเลิศ เอี่ยวเจริญ กุนซือใหญ่ ซึ่งบอร์ดบริหารมีมติให้พักผ่อนชั่วคราว หลังจากที่ผลงานของทีมไม่สู้ดีนัก โดยให้ สัมพันธ์ โยธาทิพย์ ผู้ช่วยโค้ชขึ้นเป็นกุนซือขัดตาทัพ ส่วนตัวผู้เล่นยังคงมี ไชยรัตน์ หมัดศิริ, อัมรินทร์ หมัดหลำ, ทบ สมใจ และ ซัมเซ็ม หนิมา ลงสู้ศึก

เริ่มเกมเป็นทางด้านของเจ้าถิ่นที่โหมเกมบุกเข้าใส่ทันที และเพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น ศรีราชาฯ ก็ได้ทักทายก่อนจากการซัดของ วาเลรี่ ซานู แต่ยิงไม่เต็มเท้าบอลเฉี่ยวเสาออกไป หลังจากนั้น น.9 เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กลับตัวยิงหน้ากรอบเขตโทษไปตรงตัวนายทวารสงขลาฯ

น.18 สงขลาฯ ได้ลุ้นครั้งแรกเมื่อ วิทยา หมัดอะหิน ไหลเข้ากลางให้ อัมรินทร์ หมัดหลำ วิ่งเข้าซัดเต็มแรงบอลพุ่งเรียดถากเสาไปแบบได้ลุ้น นาทีถัดมา วรุตม์ วงศ์ดี จอมทัพศรีราชาฯ ไหลบอลให้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ซัดด้วยซ้ายข้ามคาน

ทั้งสองทีมต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสนุก น.35 สงขลาฯ บอมส์โด่งเข้าเขตโทษ บอลเลยไปถึง นันทพล ศุภไทย ผู้รักษาประตูศรีราชาฯ สกัดทิ้งด้วยเท้า บอลมาเข้าทาง อัมรินทร์ หมัดหลำ บรรจงแปอย่างใจเย็น แต่ทว่ากองหลัง ศรีราชา ยังไวทิ้งตัวสไลด์บล็อกไว้ได้หวุดหวิด ช่วงทดเจ็บ กัสโต้ กอนซาเลส สะบัดหลุดกองหลังทีมเยือนเข้าไปกระดกบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูเข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าไปก่อน ทำให้หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง ศรีราชาฯ เดินหน้าลุยแหลกทันที แล้วก็มาประสบความสำเร็จจนได้ใน น.51 อำไพ มุธาพร แทงบอลทะลุช่องให้ กัสโต้ กอนซาเลส หลุดเดี่ยวเข้าไปจิ้มบอลสวนทางผู้รักษาประตูเข้าไปให้ ศรีราชาฯ ออกนำก่อน 1-0

หลังเสียประตู สงขลา เอฟซี โหมบุกอย่างหนัก น.68 ทีมเยือนน่าได้ประตูตีเสมออย่างที่สุด เมื่อได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา ไชยรัตน์ หมัดศิริ เปิดเข้าเขตโทษแล้วก็เป็น วิทยา หมัดอะหิน ที่ได้โหม่งแต่ทว่าบอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

เกมเริ่มเดือดทั้งสองทีมมีจังหวะปะทะกันหนักๆ หลายครั้ง จนผู้ตัดสินต้องเบรกเกมด้วยการให้ใบเหลืองกับนักเตะทั้งสองทีม น.77 ศรีราชา ตัดบอลได้บริเวณกลางสนาม ก่อนจะต่อบอลกันมาถึงหน้าเขตโทษ สนอง ชัยประโคม ไหลต่อให้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ซัดแบบไม่จับผู้รักษาประตูทีมเยือนปัดทิ้งได้ปลายมือ

หลังจากนั้นสงขลาฯ ลุยหนัก ส่วนศรีราชา หันมาเน้นรับแล้วรอโต้กลับ น.82 วาเลรี่ ซานู กระชากบอลจากริมเส้นด้านซ้าย ตัดเข้ากลางก่อนจะบรรจงปั่นไซด์โค้งด้วยเท้าขวาเฉี่ยวเสาออกไปแค่คืบ นาทีถัดมาสงขลาฯ ได้โอกาสอีกครั้งมาเล็ก ยาวาหาบ แตะบอลคืนให้มาริอุส หวดเน้นๆ หน้าเขตโทษแฉลบกองหลังออกไปอีกครั้ง

ช่วงเวลาที่เหลือสงขลาฯ พยายามโหมบุกอย่างหนักหวังทำประตูตีเสมอได้ แต่แนวรับของศรีราชาฯ ไม่พลาดสกัดไว้ได้ ทำให้หมดเวลาศรีราชา เอฟซี เฉือนเอาชนะไปได้หวุดหวิด 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ

วาทะโค้ช

ทรงยศ กลิ่นศรีสุข กุนซือศรีราชา เอฟซี กล่าวว่า "ต้องยอมรับว่าเขาเตรียมทีมมาดี และมีโอกาสทำประตูเราเช่นกัน โดยทีมเรามีปัญหาในเรื่องของการแบกรับความกดดัน เมื่อถูกยั่วยุมักจะคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ แต่ก็ต้องถือว่าทุกคนทำหน้าที่ได้ดี สู้ทุกนาทีแบบไม่ยอมแพ้ และการผ่านเข้ารอบได้ก็ต้องถือว่าน่าพอใจ"

สัมพันธ์ โยธาทิพย์ เฮดโค้ชสงขลา เอฟซี กล่าวว่า "แม้ว่าเราจะแพ้แต่รูปเกมและแท็กติกการเล่นต่างๆ บอกได้เลยว่าทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างน่าพอใจ เพียงแต่ว่าจบสกอร์ไม่ได้เท่านั้น ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้ผ่านเข้ารอบ แต่ก็ไม่เป็นไรค่อยกลับไปแก้ไขกันอีกครั้งเพื่อสู้ในลีกต่อไป"

คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม

ศรีราชา เอฟซี : นันทพล ศุภไทย 7, ยอดรัก นาเมืองรักษ์ 6.5, อำไพ มุธาพร 7, สนอง ชัยประโคม 7, วาเลรี่ ซานู 7, ก่อเกริก เพ็ชรคงทอง 6.5, สุจริต จันทกล 7, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ 6.5 (ธงไชย รัฐไชย -), วรุตม์ วงศ์ดี 6 (พรศักดิ์ ป้องทอง 6), ดีเอโก้ โรเบิร์ต 7, กัสโต้ กอนซาเลส 7.5

สงขลา เอฟซี : เอ็มมานูเอล 6, อูเช่ เคเลชี่ 6.5, อิทธิพล หนุดหละ 6.5 (สิโรตน์ มีบุญ 5.5), ณัทธร เพ็ชรมณี 6.5, ซัมเซ็ม หนิมา 6.5, ทบ สมใจ 6.5, ไชยรัตน์ หมัดศิริ 7, อัมรินทร์ หมัดหลำ 6.5 (มาริอุส 6), ณัฐพล จันทร์สุริวงศ์ 6 (นันทเวศ จันทร์อุทัย 6), วิทยา หมัดอะหิน 6.5 (มาริอุส 6), มาเล็ก ยาวาหาบ 7

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : กัสโต้ กอนซาเลส กองหน้าผู้ทำประตูชัยให้ ศรีราชา เอฟซี

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

เชียงรายยิง5-1,ลำปาง2-1,สิงห์บุรีเจ๊าด.2เหนือ

"แมงป่องไฟ" เชียงราย เอฟซี เปิดบ้านถล่ม "ทหารเสือพระเจ้าตาก" ตาก เอฟซี 5-1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม ได้แบบสบายเท้า ขณะที่ "นักรบบางระจัน" สิงห์บุรี เอฟซี สุดเซ็ง ได้จุดโทษทดเจ็บ แต่ อัลมาร์มี่ ซิลล่า กลับยิงข้ามคาน ทำให้เสมอกับ "ม้าคะนองศึก" แพร่ ยูไนเต็ด ไปแบบน่าเสียดาย 0-0 ด้าน ลำปาง เอฟซี ฮึดชือด สุโขทัย เอฟซี 2-1 ส่วน เพชรบูรณ์ เอฟซี เจ๊ากับ พิษณุโลก เอฟซี สุดเดือด 1-1 บอลดิวิชั่น 2 ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล "เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2" ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

สิงห์บุรี เอฟซี 0-0 แพร่ ยูไนเต็ด

ที่สนามกีฬา จ.สิงห์บุรี "นักรบบางระจัน" สิงห์บุรี เอฟซี ทีมอันดับ 5 ของตาราง เตะ 14 นัด มี 28 คะแนน เปิดบ้านพบกับ "ม้าคะนองศึก" แพร่ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 เตะ 14 นัด มี 28 คะแนนเท่ากัน แต่ลูกได้เสียดีกว่าสิงห์บุรี

เกมนี้เจ้าถิ่น สิงห์บุรี วาง ธีระพร กลิ่นถือศีล ล่าตาข่ายคู่กับ มงคล เถกิงวิทย์สถาพร โดยมี กฤษณะ ปานมงคล ลงทำเกมทางด้านข้าง พร้อมด้วย สกล ขวัญใจ, พรเทพ ปานอินทร์ และ กมล โพธิ์ทอง ด้านทีมเยือนจากเหนือตอนบน ส่ง นิรุนดร์ อัศวภักดี กองกลางตัวทำเกมลงบัญชาเกมในแดนกลาง และให้ เธียร์รี่ กับ วรายุทธ กล่อมนาค เป็นศูนย์หน้าคู่กัน

เริ่มเกมมาทั้งสองทีมยังดูเนือยๆ เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างที่จะร้อนจัด แต่ น.6 แพร่ได้ทักทายก่อน จากการยิงไกลของเธียร์รี่ 20 หลากลางประตู แต่บอลไซด์ก้อยออกหลังไป

เกมของสิงห์บุรีพยายามจะทำเกมบุกขึ้นไป แต่จังหวะสุดท้ายมักไปทำฟาวล์คู่ต่อสู้บริเวณแดนหน้ามากกว่า แถม น.14 ยังเกือบโดนทีเด็ดของแพร่เล่นงานด้วย ยังดีที่ลูกยิงในเขตโทษฝั่งขวาของ วรายุทธ กล่อมนาค ดันเข้าซอง ขชล มีใจเย็น นายทวารเจ้าถิ่น

เกมผ่านมาครบครึ่งชั่วโมง สิงห์บุรี ยังไม่สามารถเล่นเกมของตัวเองได้ โดยเป็นแพร่ที่เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า แต่ยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกได้ ทว่าเกือบโดนลูกโต้กลับของเจ้าถิ่นเล่นงานเช่นกัน ยังดีที่ตูเร่ปราการหลังผิวสีของแพร่ยังจัดการกับ ธีระพร กลิ่นถือศีล กองหน้าตัวเก่งของสิงห์บุรีได้ดี

น.34 สิงห์บุรีมีโอกาสยิงประตูขึ้นนำครั้งแรกของเกม จากฟรีคิก 30 หลาของ กิตติทัต จันทองไฝ ด้วยเท้าซ้าย โดยบอลไซด์โป้งพุ่งเข้าหาสามเหลี่ยม แต่ กฤษฎา โนนชัย นายทวารทีมเยือนยังวิ่งมารับไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังเริ่มมาได้นาทีเดียว เกมรุกของแพร่ได้ทำงานก่อน เมื่อ เธียร์รี่ จ่ายบอลออกทางซ้ายให้ สมคิด บันลือ หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนสับไกยิง แต่ยังไม่ผ่านมือ ขชล มีใจเย็น นายทวารเจ้าถิ่นที่ล้มตัวรับไว้ได้

อีก 3 นาทีถัดมา เจ้าถิ่นมีลุ้นเช่นกัน จากจังหวะที่ พรเทพ ปานอินทร์ ได้โอกาสเปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปที่เสาแรก โดย กฤษฎา โนนชัย ผู้รักษาประตูทีมเยือนคิดว่าบอลออก จึงยืนหลบบอล ทว่าบอลกลับชนเสาแรกกระเด้งออกมา ยังดีที่ไม่มีผู้เล่นของ สิงห์บุรียืนอยู่ตรงนั้น ทำให้กองหลังแพร่เคลียร์ออกไปทัน

น.66 แพร่ชวดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เมื่อ เธียร์รี่ ดาวยิงผิวสีของทีมเยือน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ ขชล มีใจเย็น นายทวารเจ้าถิ่นแล้ว แต่ เธียร์รี่ พยายามยิงเหนือชั้นด้วยการหลบหนี ขชล แต่ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของสิงห์บุรียังเก๋า ดักทางก่อนสไลด์บอลออกข้างไปได้อย่างหวุดหวิด ทำให้เกมยังเสมอกันอยู่เท่าเดิม

จากนั้นเกมเริ่มแรงขึ้น โดยผู้เล่นทั้งสองทีมต่างเล่นคนมากกว่าบอล ทำให้ผู้ตัดสินต้องเป่าหยุดเกมและแจกใบเหลืองให้ผู้เล่นเจ้าปัญหาไปหลายคน รวมถึงบนอัฒจันทร์แฟนบอลบางส่วนของทั้งสองทีม ก็มีปัญหานิดหน่อย ทำให้เกมต้องหยุดไปชั่วขณะ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรบานปลาย

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย สิงห์บุรี ชวดได้ประตูชัยอย่างน่าเสียดาย เมื่อทีมมาได้ลูกโทษที่จุดโทษ ทว่า อัลมาร์มี่ ซิลล่า ดาวยิงผิวสีตัวสำรองที่เปลี่ยนลงไป กลับวิ่งเข้ามาซัดข้ามคานออกไปอย่างเหลือเชื่อ ทำให้จบเกมทั้งคู่เสมอกัน 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน

ลำปาง เอฟซี 2-1 สุโขทัย เอฟซี

ที่สนามกีฬากลางจังหวัดลำปาง "รถม้ามรกต" ลำปาง เอฟซี ทีมอันดับ 12 ของตารางมี 11 คะแนน เปิดรังพบกับ "ค้างคาวไฟ" สุโขทัย เอฟซี ทีมอันดับ 7 นัดนี้เจ้าบ้านขาด สาธิต ใจจันทร์ ที่ติดโทษแบน แต่ยังมี บุญธรรม สายเขียว และ ชูชาติ บุตรพรหม นำทัพ ด้านสุโขทัย ใช้ ภูวนนท์ ปิ่นแก้ว กับ บุญญฤทธิ์ ธรรมดา เป็นตัวทีเด็ด

เปิดฉากมาเป็นสุโขทัย ที่ดีกวา น.25 พรชัย สังข์ทอง กองหน้าของทีม ได้ส่องระยะ 25 หลาบอลพุ่งข้ามคานแบบได้เสียว จากนั้น น.32 สุโขทัย น่าได้ประตูสุดๆ เมื่อ อาทิตย์ หล่ายแก้ว เปิดฟรีคิกจากด้านขวา เข้ามาให้ สุรเชษฐ์ มงคลทิพย์ แปแค่ 3 หลาขามคานเหลือเชื่อ

ต่อมาเป็นจังหวะโต้กลับของเจ้าบ้าน จากการเปิดจากการกระชากถึงเส้นหลังของ วีระเดช สมก๋องแก้ว ก่อนหักเข้าไปให้ หัสนัย บุญสิงห์ พุ่งเข้าชาร์จแค่ 5 หลาไม่เหลือซาก สกอร์เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0

แต่นำได้แค่นาทีเดียว ลำปาง ก็เสียประตูตีเสมอจนได้ เมื่อ บุญญฤทธิ์ ธรรมดา เปิดจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ากลางไปให้ วรวิทย์ โถนทา พุ่งโหม่งเช็ดเข้าไป สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 หลังจากนั้นทำประตูเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1

ครึ่งหลังเกมของทั้ง 2 ทีมเนือยๆ ลงไปเสียบอลตรงกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ จน น.78 หัสนัย บุญสิงห์ ของเจ้าบ้านลองส่องไกลระยะ 30 หลาข้ามคานไปอีก จากนั้น น.82 เกมลำปาง ดีกว่าเกือบได้ประตูอีก เมื่อ เจษฎา เครือวิเศษ เปิดบอลจากกลางสนามให้ ธวัชชัย ชัยวรรณ โหม่งตรงกรอบ 6 หลาบอลข้ามคานอย่างน่าเจ็บใจอีก

ช่วง น.89 ทั้ง 2 ทีมต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ สุเมธี สุขใส ของสุโขทัย ไปเจตนาเตะผู้เล่นของลำปาง เอฟซี แต่เหตุการณ์ดันบานปลาย เมื่อ ชูชาติ บุตรพรหม ของลำปาง วิ่งเข้าไปผลักผู้เล่นสุโขทัย อีก ทำให้ผู้ตัดสินแจกใบแดงทั้งคู่

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 วีระเดช สมก๋องแก้ว เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวามาให้ อนุพงศ์ จินะการ สอดเข้าไปยิงแค่ 5 หลาไม่เหลือซาก ให้ลำปาง เอฟซี นำ 2-1 หลังจากนั้นทั้งคู่ทำประตูกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาลำปาง เอาชนะได้สุดมัน 2-1 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ

เพชรบูรณ์ เอฟซี 1-1 พิษณุโลก เอฟซี

ที่สนาม เพชรบุระ ภายใน ส.พล.เพชรบูรณ์ "นักสู้เมืองมะขามหวาน" เพชรบูรณ์ เอฟซี ทีมอันกับ 9 เตะ 14 นัด มี 21 คะแนน เปิดบ้านพบกับ "ขุนศึกนเรศวร" พิษณุโลก เอฟซี อันดับ 6 ของตาราง ลงสนาม 14 เกม มี 21 แต้ม

เกมนี้เจ้าถิ่นวางดาวยิงตัวเก๋าลงสนามคู่กัน คือ ชยพัทธ์ กุลวงศ์ กับ อำนาจ นามเทือง โดยมี สุรพงษ์ ทองบัว ลงลากเลื้อยบริเวณด้านข้างของสนาม และมี วีรภัทร ถมคำ เป็นเพลย์เมกเกอร์ ด้าน พิษณุโลก ส่งผู้เล่นต่างชาติลงสนาม 3 คน ประกอบไปด้วย แอนเนี่ยล, ไอย็อค และสเตฟาน พร้อมด้วยสองตัวเก๋าอย่าง ภัคพสชนัน รัศมี และ ยุทธพงษ์ อินทร์น้อย

เริ่มเกมมาแค่ 4 นาที "ขุนศึกนเรศวร" ทะยานออกนำอย่างรวดเร็ว เมื่อ รณชัย นิ่มวิลัย เปิดลูกเตะมุมให้ ธาราทิพย์ ขันแก้ววงศ์ ซัดจ่อๆ ตุงตาข่าย ให้พิษณุโลก บุกมานำ 1-0

หลังเสียประตู เพชรบูรณ์ พยายามจะเปิดเกมรุกหวังเอาประตูตีเสมอให้ได้ และมีโอกาสเช่นกันจาก อำนาจ นามเทือง แต่ก็ยิงไม่ตรงกรอบอีก

เกมรุกของ เพชรบูรณ์ ดีขึ้นหลังจากเสียประตู โดยมีโอกาสพาบอลเข้าไปป้วนเปี้ยนในเขตโทษของ พิษณุโลก หลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายกลับพลาดเอง ทำให้จบครึ่งแรกถูกทีมเยือนบุกมานำ 0-1

ครึ่งหลังกลับมาเล่นกันใหม่ เกมตกเป็นของ เพชรบูรณ์ ที่แม้จะเป็นฝ่ายตามหลังแต่กลับทำเกมได้ดีกว่า โดยมีโอกาสได้ลุ้นประตูหลายครั้งแต่ก็พลาดกันเองหมด ส่วน พิษณุโลก อาศัยจังหวะสวนกลับหวังเล่นงานเจ้าบ้าน แต่ก็ยังไม่คมพอ

จนกระทั่ง น.64 ความพยายามของพลพรรค "นักสู้เมืองมะขามหวาน" เพชรบูรณ์ เอฟซี ก็มาประสบความสำเร็จ เมื่อ ชยพัทธ์ กุลวงศ์ เปิดบอลให้ อำนาจ นามเทือง คู่หูในแดนหน้า เทกตัวขึ้นโหม่งไม่เหลือซาก ให้เพชรบูรณ์ ตีเสมอ พิษณุโลก 1-1

หลังจากตีเสมอได้ เพชรบูรณ์ เหมือนได้ใจ โดยเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกแบบพับสนามบุกอย่างหนัก แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรแนวรับอันแข็งแกร่งของ พิษณุโลก ได้อีก และท้ายเกม น.87 ทีมเยือนต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ รณชัย นิ่มวิลัย ไปเจตนาหวดใส่ ชลลิต ผิวสวัสดิ์ ดื้อๆ ทำให้ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามไป ก่อนจบเกมทั้งคู่เสมอกัน 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน

เชียงราย เอฟซี 5-1 ตาก เอฟซี

ที่สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย "แมงป่องไฟ" เชียงราย เอฟซี ทีมอันดับ 11 ของตารางมี 14 คะแนน เปิดบ้านพบกับ "ทหารเสือพระเจ้าตาก" ตาก เอฟซี ทีมอันดับ 13 ของตาราง มีอยู่ 12 คะแนน

เปิดฉากมาแค่ 6 นาที ตาก เอฟซี ต้องเปลี่ยน สรพงษ์ ยาพิณ ออกหลังจากได้รับบาดเจ็บ ส่ง จตุพร ทาสา ลงแต่ไม่ถึงนาที ก็โดน นริศ ใจผูก ห้องเครื่องเชียงราย ยูไนเต็ด ซัดระยะ 25 หลา ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายสุดสวย ทำให้สกอร์เจ้าบ้านขยับนำ 1-0

จากนั้น ช่วง น.45 สุทิน ธรรมวัง เปิดลูกเตะมุมด้านขวามาให้ นริศ คนเดิม โหม่งเข้าไปอีกสกอร์ขยับ 2-0 พร้อมกับหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเกมยังเดินหน้าอย่างสนุกแค่ 2 นาที จักรพันธ์ ศรีวิชัย ซัดนอกกรอบเขตโทษอีกครั้ง คราวนี้บอลหายวับเข้าประตู สกอร์เชียงราย นำ ตาก ห่าง 3-0 แต่ตากไม่ท้อ น.74 ก่อเกียรติ อ๊อดทรัพย์ ซัดระยะ 28 หลาเต็มข้อบอลเสียบมุม ให้ตาก เอฟซี ตามมาห่าง 1-3

ก่อนหมดเวลา 1 นาที อนุพงษ์ ศรีมหาโคตร ซัดให้กับทีมได้สำเร็จ เมื่อหลุดเดี่ยวไปยิงนิ่มๆ ให้ทีม เชียงราย เอฟซี นำห่างเป็น 4-1

จากนั้นเกมยังสนุกเหมือนเดิม นาทีทดเจ็บเป็น อนุพงษ์ ศรีมหาโคตร หลุดเข้าไปยิงอีกเม็ด ทำให้เชียงราย เอฟซี เอาชนะ ตาก เอฟซี 5-1 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ

สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน "เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2" โซนกรุงเทพและปริมณฑล นัดต่อไป วันที่ 12 มิถุนายน 2553 อุตรดิตถ์ หมอเส็ง พบ สิงห์บุรี เอฟซี ที่สนามกีฬา ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์ เวลา 16.00 น., ชัยนาท เอฟซี พบ ตาก เอฟซี ที่สนามกีฬา จ.ชัยนาท เวลา 16.00 น., นครสวรรค์ เอฟซี พบ สุโขทัย เอฟซี ที่สนามกีฬา จ.นครสวรรค์ เวลา 17.00 น., เชียงราย เอฟซี พบ ลำปาง เอฟซี ที่สนามกีฬา จ.เชียงราย เวลา 18.00 น.

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ม.รังสิตเฮหวิว1-0,บางกอกยิงโหด7-2ยึดฝูงกทม.

"กระทิงเหล็ก" บางกอก เอฟซี ฟอร์มดุเปิดบ้านถล่ม "สิงห์บางเขน" ม.เกษตรศาสตร์ กระจุย 7-2 ยึดจ่าฝูงของตารางไว้ได้สำเร็จ โดยมี "จ้าวเวหา" ม.รังสิต เจดับบลิว ที่เชือด มรภ.นครสวรรค์ ไปได้ 1-0 รั้งรองจ่าฝูง มีแต้มเท่ากัน แต่ลูกได้เสียเป็นรอง ขณะที่ "เด็กร่มเกล้า" ม.เกษมบัณฑิต โชว์เจ๋งยกพลบุกถล่ม "กุหลาบหนามเหล็ก" โรสเอเชีย เละคาบ้าน 6-3 ฟุตบอลดิวิชั่น 2 โซน กทม. เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล "เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2" โซนกรุงเทพและปริมณฑล เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

ม.รังสิต เจดับบลิว 1-0 มรภ.นครสวรรค์

ที่สนามฟุตบอล ม.รังสิต "จ้าวเวหา" ม.รังสิต เจดับบลิว รองจ่าฝูงของตาราง ลงสนาม 10 นัดมี 22 คะแนน เท่ากับ บางกอก เอฟซี แต่ลูกได้เสียเป็นรอง เปิดบ้านพบกับ มรภ.นครสวรรค์ ทีม อันดับ 6 แข่ง 9 นัด มี 12 คะแนน

เกมนี้ กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์ กุนซือใหญ่ฝั่งเจ้าถิ่น หวังเป็นยิ่งที่จะเก็บชัยเพื่อลุ้นแซง บางกอก เอฟซี ขึ้นเป็นจ่าฝูงเดี่ยว ด้วยการส่งขุมกำลังหลักอย่าง ธนา ปุ่นประโคน, ธาดา ทองท้วม และ พอล ทาเก็ม ลงสนามเพื่อล่า 3 แต้มเต็มในนัดนี้ ด้าน ผศ.วิทยา วาจาบัณฑิตย์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน มรภ.นครสวรรค์ ที่วันนี้ถือว่ายกพลมาแบบฟูลทีม เพราะมีแข้งเจ๋งอย่าง เพิ่มยศ โตเขียว, พิษณุ งามสงวน และ สยมภู พิลึก ที่หวังจะบุกมาเก็บแต้มในนัดนี้ให้ได้เช่นกัน

เริ่มเกมครึ่งเวลาแรกเหล่าขุนพล ม.รังสิต เจดับบลิว ก็สามารถครองบอลเซ็ตเกมรุกตามที่ตัวเองถนัดได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด และก็เกือบได้ลุ้นขึ้นนำ น.14 จากจังหวะที่ อำนาจ ทรงรัมย์ เติมขึ้นไปรับบอลบริเวณริมเส้นด้านขวา ก่อนจะครอสเข้ากลางให้ พอล ทาเก็ม ศูนย์หน้าผิวสีที่สอดขึ้นมาโหม่งแต่จังหวะนี้ก็ยังโดนไม่ดีพอ

อีกครั้งกับโอกาสที่น่าจะได้ประตูขึ้นนำของเจ้าถิ่น น.25 ธาดา ทองท้วม โดยฟรีคิกจากริมเส้นด้านขวา บอลโค้งเข้ากลางมาที่หน้าปากประตู และเป็น พอล ทาเก็ม ที่โถมขึ้นโหม่งจ่อๆ แต่ก็ยังติดแนวรับคู่แข่งที่ตามมาบล็อกเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าฟาวล์ให้ทีมเยือนในจังหวะที่แนวรุกเจ้าถิ่นเข้าชาร์จผู้รักษาประตู มรภ.นครสวรรค์

เกมยังคงเป็นของ ม.รังสิต เจดับบลิว ที่พับสนามบุกในครึ่งเวลาแรก แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ จึงทำให้ทั้งคู่เสมอกันอยู่ที่ 0-0 ในช่วง 45 นาทีแรก

ครึ่งหลัง กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์ กุนซือใหญ่ ม.รังสิต เจดับบลิว จัดการแก้เกมพร้อมกับสั่งให้ลูกทีมเน้นความแน่นอนในจังหวะบุก จนในที่สุดก็ได้ผล น.51 เมื่อ อลงกรณ์ แก้วใส ศูนย์หน้าเจ้าถิ่นจัดการเก็บตกหน้าปากประตูโล่งๆ ก่อนที่จะซัดบอลเน้นๆ ให้ต้นสังกัดออกนำ 1-0 ได้เป็นผลสำเร็จ

น.55 มรภ.นครสวรรค์ มีโอกาสได้โต้กลับจนเกือบที่จะได้ประตูตีเสมอ จากการยิงลูกใบไม้ร่วงนอกกรอบเขตโทษของ พิษณุ งามสงวน แต่บอลก็ยังพุ่งไปตรงตัว ณรงค์ วงศ์ทองคำ นายด่านเจ้าถิ่นที่เซฟเอาไว้ได้ในจังหวะนี้

หลังจากที่เริ่มจะตอบโต้ได้บ้าง มรภ.นครสวรรค์ ก็มีจังหวะหวาดเสียวหลายครั้ง น.78 พิษณุ งามสงวน บรรจงปั่นฟรีคิกในระยะที่ได้ลุ้นบริเวณหน้าปากประตู แต่ก็ยังได้แค่เฉียดเท่านั้น เวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ จบเกม ม.รังสิต เจดับบลิว ก็เฉือนเอาชนะ มรภ.นครสวรรค์ ไปได้ 1-0 เก็บ 3 คะแนนเต็ม เพื่อไปลุ้นแชมป์เลกแรก ในนัดที่สุดท้ายกับ บางกอก เอฟซี ต่อไป

บางกอก เอฟซี 7-2 ม.เกษตรศาสตร์

ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด "กระทิงเหล็ก" บางกอก เอฟซี ทีมนำจ่าฝูงของตารางลงแข่ง 10 นัด มีอยู่ 22 แต้ม เปิดบ้านรับมือ "สิงห์บางเขน" ม.เกษตรศาสตร์ ทีมอันดับ 8 ของตาราง เตะไปแล้ว 10 นัด มี 11 คะแนน

เกมนี้เจ้าถิ่นบางกอก ส่งผู้เล่นตัวหลักลงสนามเต็มอัตราศึก ส่ง สิทธิโชค ทัศนัย, กรวุฒิ แสงโพธิ์, อีเก้ เอ็มบ้า, ซามูเอล ควาคู ลงลุยตั้งแต่ต้นเกม ส่วนทางฝั่งทีมเยือนของกุนซือ อิสสระ ศรีทะโร เกมนี้ใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ลงบู๊เช่นกันนำโดย พิทักษ์ น้อยขวา, คึกฤทธิ์ สิทธิฤทธิ์, ปรพัฒน์ ตริณรัตน์ และ สุเมธ ชัยบุญ

เริ่มเกมการแข่งขัน ต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่กันทันที จน น.14 ทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการขึ้นเกมบุกทางฝั่งขวาของ ปรพัฒน์ ตริณรัตน์ ก่อนเปิดมาหน้าประตู ก็อดวิลล์ โอลุมบ้า โขกเสยต่อมาที่เสาสอง และเป็น ธีรศักดิ์ หงส์เวียงจันทร์ วอลเลย์เต็มข้อ ส่งบอลเข้าไปกองในตาข่าย

หลังจากถูกลูบคม เจ้าบ้านทำเกมบุกเข้าใส่ทันที และมาได้ลูกจุดโทษ น.21 เมื่อ กรวุฒิ แสงโพธิ์ ถูกกองหลังม.เกษตรฯ เตะล้มลงในเขตโทษ แต่ อีเก้ เอ็มบ้า กองหน้าตัวเก่งของทีมกลับซัดจุดโทษไปชนคานพลาดโอกาสได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย แต่หลังจากนั้น น.25 เจ้าบ้านบางกอกก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะต่อบอลกันขึ้นมาจากกลางสนามก่อนแทงทะลุช่องให้ ซามูเอล ควาคู หลุดเดี่ยวก่อนยิงสวนตัวผู้รักษาประตู ม.เกษตรฯ เข้าไปให้เจ้าบ้านตามตีเสมอเป็น 1-1

แต่จากนั้น น.28 ม.เกษตรฯ มาได้จุดโทษบ้าง เมื่อ พิทักษ์ น้อยขวา ถูกกองหลังเจ้าบ้านทำฟาวล์ในเขตโทษ แต่ ก็อดวิลล์ โอลุมบ้า ดันยิงไปชนคานพลาดโอกาสขึ้นนำอีกครั้งอย่างน่าเสียดาย

เกมดำเนินมาถึง น.38 เจ้าบ้านมาได้ประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 จากการทำเกมบุกขึ้นมาของ เสมอภาค ศรีนนท์ ก่อนเปิดมาหน้าประตู อีเก้ เอ็มบ้า โหม่งต่อให้ ซามูเอล ควาคู จิ้มจ่อๆ หน้าปากประตูเข้าไป ต่อจากนั้น น.41 สกอร์ไหลเป็น 3-1 เมื่อ เสมอภาค ศรีนนท์ ได้บอลหลุดเข้ามาเขตโทษก่อนเปิดต่อให้ กรวุฒิ แสงโพธิ์ แปง่ายๆ เข้าประตูไป จบครึ่งแรกเจ้าบ้านบางกอก พลิกกลับมานำ 3-1

ครึ่งเวลาหลัง น.63 ม.เกษตรฯ ได้ประตูตีตื้นไล่มาเป็น 3-2 จากการยิงไกลระยะ 30 หลาของ ปรพัฒน์ ตริณรัตน์ ลูกพุ่งเสียบใต้คานเข้าประตูไป

แต่ถัดมา น.69 เจ้าบ้านได้ประตูหนีห่าง 4-2 จากจังหวะที่ กรวุฒิ แสงโพธิ์ ยิงไกลบอลทำท่าจะไม่มีอะไรแต่ ทรงพล เพ็ญธิสาร ผู้รักษาประตูทีมเยือนพลาดรับบอลหลุดมือ อีเก้ เอ็มบ้า วิ่งเข้าซ้ำไม่เหลือซาก และในอีกนาทีต่อมาเจ้าบ้านมาได้ประตูที่ 5 กรวุฒิ แสงโพธิ์ เปิดบอลยาวให้ เสมอภาค ศรีนนท์ หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษก่อนซัดเต็มข้อลูกพุ่งเสียบเสาแรกเข้าประตูไป สกอร์ขยับเป็น 5-2

จากนั้น น.72 เจ้าบ้านมาได้ประตูนำห่าง 6-2 จากความผิดพลาดของผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่รับบอลจากการยิงของ ทิวานนท์ หนูนัน ไม่ดี ลูกหลุดมาเข้าทาง เสมอภาค ศรีนนท์ วิ่งตามเข้ามาซ้ำที่เสาสองเข้าประตูไป

เท่านั้นไม่พอช่วงทดเจ็บ น.93 เจ้าบ้านบางกอก มาได้ประตูย้ำชัยชนะ เมื่อ เสมอภาค ศรีนนท์ พาบอลบุกขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนเปิดให้ ทิวานนท์ หนูนัน วิ่งเข้ายิงที่เสาสองบอลเสียบหน้าต่างประตูเข้าไปให้เจ้าบ้านนำห่าง 7-2 และจบเกมไปด้วยสกอร์นี้ ทำให้ บางกอก เอฟซี เก็บ 3 แต้มได้เป็นนัดที่ 8 ติดต่อกัน

นอร์ท-เซ็นทรัล 1-2 ลูกอีสาน การบินไทย

ที่สนามกีฬากองพลทหารราบที่ 11 "เด็กห้าง" นอร์ท-เซ็นทรัล ทีมอันดับ 13 จากการเล่นไปแล้ว 10 เกมมีอยู่ 6 คะแนน พบกับ "พญานาคิน" ลูกอีสาน การบินไทย ทีมอันดับ 10 มีอยู่ 9 คะแนน และลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด โดยเกมนี้ทั้งสองทีมต้องการคะแนนเป็นอย่างมาเพื่อหนีอันดับท้ายตารางให้ได้ก่อนปิดเลกแรก

"โค้ชต๋อง" ชุมพล แก้วกาหลง ได้ตั้งเป้าเพื่อเอาสามแต้มให้ได้ เพื่อเป็นการฉลองการกลับมาเตะที่สนามแห่งนี้ หลังจากห่างเหินไปนาน วันนี้จะใช้ระบบ 4-4-2 โดยมี มโน กรีจันหรีด กับ ภานุวัฒน์ เจริญชนม์ ยื่อเป็นคู่เซนเตอร์ และมี สาธร จุลเสริม เป็นศูนย์หน้าตัวความหวัง

ฝั่งทีมเยือนของกุนซือ อภิรักษ์ ศรีอรุณ ที่วันนี้ต้องประสบกับปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่สามารถใช้งานได้รายคน จะมาในระบบ 4-4-2 เช่นกัน โดยจะมี โฮฮีน่า อาบู ลงเป็นคู่หน้ากับ ภานุพงศ์ ลำพุทธา เป็นตัวความหวังในการจบสกอร์ของทีม ส่วนนักเตะคนอื่นๆ หลังคงใช้ตัวหลังจากเกมที่ผ่านมา

ครึ่งแรกเจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำเร็ว แค่ น.2 จากจังหวะเติมเกมรุกขึ้นมาทางด้านขวา แล้วเปิดเข้ากลาง ธนพงษ์ ทับพรัน ยิงจังหวะแรกบอลเกือบจะไหลเข้าประตู แต่ สุวรรณ หมั่นบำรุงศาสน์ เข้าซ้ำอีกที เพื่อให้ชัวร์เป็นประตูให้ นอร์ท-เซ็นทรัล ขึ้นนำ 1-0

เกมดำเนินมาถึง น.15 ทีมเยือนที่พยายามอยู่นาน ที่จะเอาประตูคืนได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะทำเกมขึ้นมาทางด้านขวา แล้วเปิดเข้าใหกรอบเขตโทษกองหลัง นอร์ท-เซ็นทรัล สกัดไม่ขาดบอลมาเข้าทาง โอฮีน่า อาบู ก่อนจะยิงสวนเข้าไปให้ทีมเยือนไล่มาเป็น 1-1

เวลาที่เหลือ ทั้งคู่เปิดเกมเข้าใส่กันตลอด แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ดีพอ มีลูกหวาดเสียวบ้างบางจังหวะ แต่ก็ไม่เป็นประตู ทำให้จบเกมในครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 1-1

ครึ่งหลังเกมของทั้งสองทีม ยังเปิดเกมสู้เข้าใส่กันอยู่ทันที เป็นทีมเจ้าบ้านที่มีโอกาสเกือบได้ประตู แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ดีพอ ทำให้สกอร์ของทั้งสองทีมยังไม่ขยับ จนกระทั่งเกมผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมงเป็นทีมเยือน ลูกอีสาน การบินไทย ที่ประตูขึ้นนำ น.61 จากจังหวะเปิดบอลครอสเข้ากลางบอลเลยมาที่ สุรศักดิ์ คุ้มกัน ที่เติมขึ้นมายิงเข้าไปให้ทีมเยือนออกนำ 2-1

เวลาที่เหลือเจ้าถิ่นพยายามทวงประตูคืนให้ได้ แต่ยังหาจังหวะเน้นๆ ไม่ได้และเกือบโดนทีม ลูกอีสาน การบินไทย ยิงประตูเพิ่มอีกด้วย แต่สุดท้ายไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกมทีม ลูกอีสาน การบินไทย บุกมาเอาชนะ นอร์ท-เซ็นทรัล ไป 2-1

โรสเอเชีย ยูไนเต็ด ธัญบุรี 3-6 ม.เกษมบัณฑิต

ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 "กุหลาบหนามเหล็ก" โรสเอเชีย ยูไนเต็ด ธัญบุรี ทีมอันดับ 11 ของตาราง เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "เด็กร่มเกล้า" ม.เกษมบัณฑิต ทีมอันดับ 12

เกมนี้ "โค้ชเตี้ย" ศุภชัย ศรีลาชัย กุนซือใหญ่เจ้าถิ่น หวังเก็บ 3 แต้ม เพื่อทำ คะแนนหนีทีมเยือนให้ได้ แม้เกมนี้จะขาดสองกองหลังตัวหลักอย่าง เอกรัตน์ เจริญกุล กับ อนุชาติ ยศไกร ที่ได้รับบาดเจ็บต้องรักษาตัวยาว แต่ยังโชคดีที่ได้ ยอดรัก ศรีเนตร ที่หายเจ็บกลับมาช่วยทีม

ด้าน โค้ช สุทร สวนมูล ของ ม.เกษมบัณฑิต ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำโดยผู้รักษาประตูร่างเล็กอย่าง วัชรินทร์ นิบือซา ส่วนแนวรุกได้ใช้ สราวุธ ราษีจันทร์ เป็นหน้าต่ำ และปล่อยให้ ชนะพล เพ็งสวย ยืนเป็นหน้าเป้าตัวเดียว

เริ่มครึ่งแรก ทีมเยือนเป็นฝั่งที่ได้เขี่ยเริ่มเกมก่อน และจากจังหวะเขี่ยนี่เองทีมเยือนอาศัยที่เจ้า บ้านยังไม่ได้ตั้งตัว โยนบอลยาวไปหน้ากรอบเขตโทษ บอลมาเข้าทาง ชนะพล เพ็งสวย ก่อนจะ ตะบันเข้าไปให้ทีมเยือนออกนำ 1-0 ตั้งแต่ น.1

จากนั้นเจ้าถิ่นเหมือนกับยังงงไม่หาย และต้องมาโดนประตูที่ 2 น.3 จากการจ่ายบอล จากกลางไปหน้าคล้ายๆ กับลูกแลก บอลมาเข้าทาง สราวุธ ราษีจันทร์ ก่อนที่จะพาบอลเข้าเขตโทษ แล้วซัดเต็มข้อ บอลแสกหน้าผู้รักษาประตูเข้าไป ม.เกษมบัณฑิต นำห่าง 2-0

เจ้าถิ่นเริ่มกลับเข้าสู่เกม แต่ยังเอาประตูคืนไม่ได้ ก่อนจะมาโดนยิงเพิ่ม น.13 จากการทำเกม ขึ้นมาทางขวา ของผู้เล่น ม.เกษมบัณฑิต แล้วผ่านเขามาบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่ ฉัตรมงคล หล้าโสม จะเป็นคนยิงเข้าไปให้ทีมเยือนขยับออกไปอีกเป็น 3-0

โรสเอเชียฯ บุกหนัก แล้วมาได้ประตูตีไข่แตกช่วง 10 นาทีสุดท้าย จากจังหวะการทำเกมขึ้น มาทางฝั่งซ้าย โดย ชนินทร์ ยันตะศรี ก่อนจะผ่านเข้ากลางมาให้ จารุบุตร จ่ายหนองบัว จับหนึ่ง จังหวะแล้วสับไกระยะกว่า 40 หลา บอลพุ่งเข้าประตูไปอยางสวยงาม ให้เจ้าบ้านตามมาเป็น 1-3 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเริ่มไปได้แค่ 10 นาที ทีมเยือนได้ประตูหนีห่างออกไปอีก น.55 เมื่อ วิทยา กิจกุศล กระชากบอลขึ้นไปก่อนจะเปิดให้ ฉัตรมงคล หล้าโสม แปง่ายๆ เข้าไปให้ทีมเยือนนำ 4-1 จากนั้น เจ้าถิ่นไล่ตามมาห่างๆ น.70 จากลูกฟรีคิกของ ภราดร ศรีลาชัย ระยะกว่า 30 หลา บอลโค้งเข้า ประตูไป โรสเอเชียฯ ไล่มาเป็น 2-4

หลังจากที่โดนไล่ขึ้นมา ม.เกษมบัณฑิต ก็ไม่ยอมกลับมายิงประตูหนีห่างอีกครั้ง น.75 วิทยา กิจกุศล เปิดบอลให้ ไพรจิตร ธรรมบรรเทิง ยิงเข้าไป ทีมเยือนออกนำ 5-2 ถัดมาอีก 2 นาที ม.เกษม บัณฑิต ได้ประตูที่ 6 จากการผ่านบอลของ บวร ตาปลา ให้กับ วิทยา กิจกุศล ก่อนจะลากบอลเข้าไป ในกรอบเขตโทษ แล้วยิงให้ทีมนำห่าง 6-2

และก่อนหมดเวลา น.85 ทีมเยือนดูจะผ่อนเกมลงไป ทำให้มาโดนเจ้าบ้านยิงได้อีกประตู จาก ทินนาถ ศุภนาม ให้ทีมไล่มาเป็น 3-6 แต่ก็ทำได้เพียงแค่นั้น จบเกม ม.เกษมบัณฑิต บุกมาเอา ชนะ โรสเอเชีย ยูไนเต็ด ธัญบุรี 6-3

ไทยซัมมิท สมุทรปราการ 2-3 ว.นอร์ทกรุงเทพ

ที่สนาม กกท.สมุทรปราการ ไทยซัมมิท สมุทรปราการ ทีมอันดับ 10 ของตาราง แข่ง 11 นัด มีอยู่ 9 แต้ม เปิดบ้านพบกับ ว.นอร์ทกรุงเทพ ทีมอันดับ 3 แข่ง 9 นัด เก็บได้ 21 คะแนน โดยเกมนี้แฟนบอลของทั้ง 2 ทีมได้เข้ามาเชียร์กันเป็นจำนวนมาก

เจ้าถิ่นเกมนี้จัดทัพชุดใหญ่ลงสนามเต็มอัตราศึกมี กรศักดิ์ มะละกา, พรปรีชา จารุนัย, วิทยา กองสำลี นำทัพ ส่วนทางทีมเยือนก็ไม่น้อยหน้า ยกพลมาครบครัน นำโดย เศกสรรค์ ปิตุรัตน์, โกวิทย์ ฝอยทอง, วิรัช วังจันทร์ และ ยุทธนา เรืองสุขสุด

เริ่มเกมเป็นทางเจ้าถิ่น ที่เดินหน้าบุกแหลก และเพียง น.3 ของการแข่งขัน ก็ได้ประตูออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะเปิดเตะมุมทางซ้ายของ ณัฐศักดิ์ สระทองหวัง ลูกลอยโด่งมาที่หน้าประตู บาโคบ็อค อัลเบิร์ต ได้โอกาสวอลเลย์เต็มเท้าบริเวณจุดโทษ ลูกพุ่งแรงเข้ากรอบ วิรัชวังจันทร์ นายทวารทีมเยือนรับลูกกระฉอก มาเข้าทางปืนของ กรศักดิ์ มะละกา ที่ซ้ำจ่อไม่ถึง 4 หลา เข้าประตูไป ไทยซัมมิท ขึ้นนำ 1-0

หลังได้ประตูขึ้นนำ เจ้าบ้านยังคงเดินเกมรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง น.9 ก็มาพังประตูทิ้งห่างได้สำเร็จ จากจังหวะที่ กรศักดิ์ มะละกา กระชากบอลเข้ากรอบเขตทาทางกราบซ้าย ก่อนจะสับไกยิงเต้มข้อ ลูกพุ่งเสียบเสาแรกเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ไทยซัมมิท ฉีกสกอร์หนีออกไปเป็น 2-0

จากนั้น ว.นอร์ทกรุงเทพ พยายามทำเกมบุกเข้าใส่ น.24 ก็ได้ลุ้น เมื่อ มาโนช มณฑา เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปหน้าปากประตู ยุทธนา เรืองสุขสุด จับบอลลงหนึ่งจังหวะ ก่อนที่จะวอลเลย์เต็มข้อบริเวณจุดโทษเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ว.นอร์กรุงเทพ ขยับสกอร์ไล่เข้ามาเป็น 1-2

ท้ายครึ่งแรก น.36 กองเชียร์ทีมเยือนก็ได้เฮกันลั่น เมื่อ ยุทธนา เรืองสุขสุด ได้บอลในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะหาจังหวะลั่นไกเต็มข้อ ลูกพุ่งเสีบสามเหลี่ยมเสาสองเข้าประตูไปอย่างงดงาม ว.นอร์ทกรุงเทพ ตามตีเสมอได้สำเร็จเป็น 2-2

ครึ่งหลังทั้ง 2 ทีมยังคงเปิดหน้าแลกหมัดกันอย่างสนุก น.60 เจ้าถิ่นเกือบที่จะขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ บาโคบ็อค อัลเบิร์ต เปิดบอลจากด้านขวาให้ กรศักดิ์ มะละกา ยิงเน้นบริเวณหัวกะโหลก แต่บอลดันพุ่งข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

รูปเกมยังคงเข้มข้น และเมื่อมาถึง น.72 ทีมเยือนหวิดที่จะพลิกขึ้นนำ เมื่อ มาโนช มณฑา เปิดบอลจากริมกรอบเขตโทษด้านขวาเข้าไปหน้าประตู และก็เป็น เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ อดีตกองหน้าทีมชาติที่เทกตัวขึ้นโหม่งเช็ดบริเวณจุดโทษไปทางเสาสอง แต่ลูกดันหลุดออกหลังไปเพียงไม่กี่คืบ

เกมดำเนินมาถึง น.75 กองเชียร์ ว.นอร์ทกรุงเทพ ต้องดีใจเก้อ เมื่อ เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ สามารถยิงบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ ทว่าไลน์แมนกลับยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน

ช่วงท้ายเกม น.85 เจ้าบ้านต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ ณัฐศักดิ์ สระทองหวัง ที่โดนใบเหลืองติดตัวอยู่แล้ว ไปยืนขว้างบอลไม่ให้ทีม ว.นอร์ทกรุงเทพ เล่นเร็ว ทำให้ เอกลักษณ์ หอมจันทร์ขาว ผู้ตัดสินในเกมนี้ชักใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกทันที

ทีมเยือนที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นมากกว่า พยายามบุกหนัก และเมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 ก็ทำสำเร็จ จากจังหวะที่ สถาพร แดงสี เปิดเตะมุมทางฝั่งขวาเข้าไปหน้าประตู แดนไตร ลองจำนงค์ โถมขึ้นโขกเต็มกะบาล ส่งลูกพุ่งเสียบเสาสองเข้าประตุไปอย่างสวยงาม ทำให้ ว.นอร์ทกรุงเทพ บุกมาเอาชนะ ไทยซัมมิท ไปอย่างสุดมันส์ 3-2 เก็บเพิ่มอีก 3 คะแนนได้สำเร็จ

สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน "เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2" โซนกรุงเทพและปริมณฑล นัดต่อไป วันที่ 2 มิถุนายน มี 1 คู่ กรุงเทพคริสเตียน พบกับ นนทบุรี ที่สนามกีฬาเทพหัสดิน เวลา 16.00 น.

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ชัยนาทตีกำแพงเพชร2-2ยึดแชมป์ด.2เหนือเลกแรก

"นกใหญ่พิฆาต" ชัยนาท เอฟซี เกือบชวดแชมป์เลกแรก หลังโดน กำแพงเพชร ยิงนำถึงสองหน ก่อนตีเสมอท้ายเกม 2-2 มี 38 แต้มเท่า พิจิตร ที่ถล่ม อุทัยฯ 5-0 จาก พิสิฐ ยืนยิ่ง คนเดียว 5 ลูก ทว่า ชัยนาท มีลูกได้เสียที่ดีกว่าเพียงประตูเดียวเท่านั้น ส่วน เชียงใหม่ เก่งเมื่อสาย บุกไปเชือด พะเยา 4-1 และ นครสวรรค์ ได้ พรชัย ครุฑเครือ กดคนเดียว 4 เม็ด พา "สิงโตแดง" บุกถล่ม อุตรดิตถ์ 5-2 ศึกลูกหนัง ดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนือ

การแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค "ดิวิชั่น 2" โซนภาคเหนือ เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2553 ที่ผ่านมา

อุทัยธานี ฟอเรสท์ เอฟซี 0 - 5 พิจิตร เอฟซี

สัชฌุกรกาญจน์ สัชฌุกร ผู้สื่อข่าวพิเศษฟุตบอลสยาม รายงานจากสนามกีฬา จ.อุทัยธานี เจ้าบ้าน "กระทิงป่าห้วยขาแข้ง" อุทัยธานี ฟอเรสท์ เอฟซี ทีมบ๊วยของตาราง เตะ 14 นัด มี 8 แต้ม นัดล่าสุดบุกไปเสมอ กำแพงเพชร 1-1 พบกับ "พญาชาละวัน" พิจิตร เอฟซี รองจ่าฝูงของตาราง ลงสนาม 14 นัด มี 35 คะแนน ซึ่งแมตช์ที่ผ่านมาชนะ สิงห์บุรี 2-0 ในบ้านของตัวเอง

เกมนี้ อุทัยธานีส่ง สุทัต สาริกัน, อนุสรณ์ ทองอร่าม, รัฐพล จันทร์อยู่, สัญญา จั่นเพ็ชร, กู้เกียรติ วงศ์กวน, ธรรมรัตน์ สมเด็จทรัพย์ ลงสนามเป็นแกนหลัก ส่วนพิจิตร วาง ศุภกร นาคน้อย และ พิสิฐ ยืนยิ่ง เป็นศูนย์หน้าคู่กันเหมือนเดิม โดยให้ อำนาจ รักประเสริฐ และ เอกสถา ธัญญกรรม ทำเกมแดนกลางคู่กัน ท่ามกลางบรรยากาศที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน

เริ่มเกมมา 8 นาที บรรยากาศในสนนามกีฬา จ.อุทัยธานี ต้องเปลี่ยนไป เมื่อฝนได้เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักพร้อมกับลมที่พัดอย่างแรง แต่เกมก็ยังสามารถเล่นได้ ซึ่งสภาพสนามของอุทัยธานีค่อนข้างที่จะระบายน้ำได้ดี ทำให้เล่นได้อย่างไม่มีปัญหา

โดยรูปเกมส่วนใหญ่สู้กันแดนกลางมากกว่า ซึ่งทั้งสองทีมไม่มีฝั่งใดได้ลุ้นจากลูกยิงเลย ทว่าท้ายเกมเป็นพิจิตรที่เริ่มคุมจังหวะของเกมได้ เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกกดดันเจ้าบ้านอย่างหนัก แต่ก็ไม่สามารถยิงขึ้นนำได้ จนกระทั่งจบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง พิจิตรแก้เกมมาอย่างดี และสามารถได้ประตูแรก น.56 จากการยิงของ พิสิฐ ยืนยิ่ง ให้ "พญาชาละวัน" นำ 1-0 หลังเสียประตู อุทัยฯ กลับเสียกระบวน และ น.75 "เจ้าต้อม" พิสิฐ ยืนยิ่ง ก็ซัดประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้และทีม นำห่างออกไป 2-0

ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจสำหรับทีมเยือน และถัดมา 4 นาที พิสิฐ ยืนยิ่ง ก็สามารถกดแฮตทริกได้สำเร็จ ให้พิจิตรนำ 3-0

พิจิตรต้องการอีก 4 ลูก ถึงจะแซงชัยนาทคว้าแชมป์เลกแรก เนื่องจากคู่ระหว่าง ชัยนาทกับกำแพงเพชรจบไปก่อนด้วยการเสมอกัน 2-2 ทำให้ขุนพลพิจิตรดาหน้าบุกกดดันอย่างหนัก จนกระทั่ง น.83 พิสิฐ ยืนยิ่ง ผีเข้าเต็มๆ เมื่อจัดการโหม่งเต็มศีรษะ ให้ พิจิตรนำอุทัยธานีขาดลอย 4-0

เท่านั้นยังไม่พอ ก่อนหมดเวลา 2 นาที พิสิฐ ยืนยิ่ง ยิงลูกที่ห้าของตัวเองและให้ทีม ปิดกล่องให้ "พญาชาละวัน" บุกมาชนะอุทัยธานี 5-0 ทำให้มี 38 แต้มเท่ากับชัยนาท แต่เป็นรองลูกได้เสียเพียงประตูเดียว ทำให้คว้ารองแชมป์เลกแรกไปแทน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อุทัยธานี : เจนศักดิ์ แซ่ฉั่ว 4, กำชัย ลาภเจริญพร 5, วีระชาติ ตรีโพธิ์ 5, ทศพร พัฒโนทัย 5, ฉัตรชัย บุญมา 5, สุทัต สาริกัน 5, อนุสรณ์ ทองอร่าม 5, รัฐพล จันทร์อยู่ 5, สัญญา จั่นเพ็ชร 5, กู้เกียรติ วงศ์กวน 5, ธรรมรัตน์ สมเด็จทรัพย์ 5

พิจิตร : คำแก้ว โสภา 6, สถาพร สีอ่อน 6, นิรัตน์ อินทรเทศน์ 6, สมพล เซ่งจันทร์ 6, สัจจา มณีโชติ 6.5, เอกสถา ธัญญกรรม 7, อำนาจ รักประเสริฐ 7, ธนพิพัฒน์ นาเมืองรักษ์ 6.5, ธรวุฒิ รัตนสิทธิ์ 6.5, พิสิฐ ยืนยิ่ง 9, ศุภกร นาคน้อย 7

พะเยา เอฟซี 1 - 4 เชียงใหม่ เอฟซี

ที่สนามกีฬากลางจ.พะเยา "กุ้งจอมเก๋า" พะเยา เอฟซี ทีมรองบ๊วย ที่เพิ่งบุกไปชนะพิษณุโลกได้ 1-0 มี 9 แต้ม พบกับอันดับ 3 เชียงใหม่ เอฟซี ที่มี 34 แต้มเกมล่าสุดพลาดท่าแพ้ชัยนาท เอฟซี 1-2 นัดนี้พะเยามี ณัฐพง แพงมี, รัชดากร นามเขตต์ เป็นตัวหลัก ด้านเชียงใหม่ให้ เบนจามิน มูซ่า, อนุชา ไชยวงศ์ ลงสนาม

โดยก่อนเกมไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนัดนี้ฝนได้เทลงมาอย่างหนักเลยทีเดียว ทำให้ทั้งคู่คอนโทรลบอลกันลำบาก น.6 รัชดากร นามเขตต์ แทงบอลทะลุช่องให้ ณัฐพล แพงมี หลุดเดี่ยวไปดวลกับ ธีรศักดิ์ กาวิชัย แต่เจ้าตัวยิงออกเหลือเชื่อ

จน น.34 เชียงใหม่ได้ประตูนำเมื่อ วสุวัฒน์ หลักฐาน เปิดบอลจากด้านซ้ายมา อนุรักษ์ ยอดวงศ์ ชกบอลไม่ขาดมาเข้าทาง วรุตน์ สัพโส ซัดแค่ 10 หลาเสียบคานเข้าไป และอีกแค่ 2 นาที อนุชา ไชยวงศ์ ก็ได้ลูกหลุดเดี่ยวจากลูกจ่ายของ ประวิทย์ วสุนทรา เข้าไปยิงง่ายๆ สกอร์เป็น 2-0

จากนั้นเหมือนจะไหล น.44 ประวิทย์ ได้ยิงฟรีคิกระยะ 25 หลาตรงกลางประตู ผู้รักษาประตูไม่ได้กระดิก บอลเสียบคานด้านซ้ายมือเข้าไปสุดสวย สกอร์ทิ้งห่าง 3-0 แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พะเยาก็ตามมาห่างๆ เมื่อ สันติชัย ศรศรี ได้ยิงนอกกรอบเขตโทษ บอลตกพื้นพุ่งเสียบเสาสองเข้าไปทำให้พะเยาตามมาเป็น 1-3 พร้อมกับหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเกมกลายเป็นของพะเยาที่ตั้งหน้าตั้งตาบุกได้ดีกว่า แต่จังหวะสุดท้ายไม่คม น.59 ณัฐพล แพงมี โหม่งบอลจะเสียบคาน ธีรศักดิ์ กาวิชัย ปัดไว้ได้จากนั้น น.64 ชลธาร โอฬารเสถียร ของพะเยา ตั้งป้อมยิงมุมแคบด้านซ้ายของกรอบโทษ จังหวะแรก ธีรศักดิ์ รับกระฉอกมา แต่ยังดีกองหลังเคลียร์กันได้

น.71 สันติชัย ศรศรี ของพะเยาตั้งป้อมซัดระยะ 30 หลา แต่ ธีรศักดิ์ พุ่งปัดข้ามคานได้อีก ถึง น.77 เชียงใหม่ก็มาได้ประตูที่ 4 เมื่อ เอกลักษณ์ ทองกริต เปิดบอลจากซ้ายเข้ามากลางให้ ศรัณย์ ศรีเดช โหม่งเต็มหัว ไม่เหลือซาก ทำให้สกอร์นำห่าง 4-1 หลังจากนั้นทำประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้หมดเวลาเชียงใหม่ชนะ 4-1 เก็บ 3 แต้มได้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

พะเยา เอฟซี : อนุรักษ์ ยอดวงศ์ 5, สุรชัย คูงามมาก 5.5, ณัฐพล แพงมี 5, อาคม ทับทิม 5 (ไพฑูรย์ แก้วบุบผา), จักรพันธ์ กันยานะ 5.5, สันติชัย ศรศรี 5.5, ศราวุธ วงค์ชัย 5.5, ทักษิณ ไชยรส 6 (สมานพันธ์ ดีมงคล 5), โจเซฟ อาโมโคฮา 6, รัชดากร นามเขตต์ 5 (ชลธาร โอฬารเสถียร 5.5), ธนภัทร พาโคกทม 5

เชียงใหม่ เอฟซี : ธีรศักดิ์ กาวิชัย 7, วรุตน์ สัพโส 6.5 (มิกก้า-), วรุตน์ รองไชย 7, เอกลักษณ์ ทองกริต 7, ประวิทย์ วสุนทรา 6 (ศรัณย์ ศรีเดช 6), วสุวัฒน์ หลักฐาน 7.5, เบนจามิน มูซ่า 7, อนุชา ไชยวงศ์ 7, ประวิทย์ ภมรพล 7, ณัฐธพงษ์ สุขงาม 7, ซากีรีน ดีกาสม 5.5 (จักรพงค์ แสนหลวง 5)

อุตรดิตถ์ เอฟซี 2 - 5 นครสวรรค์ เอฟซี

ที่สนามสรภ.อุตรดิตถ์ "ดาบหักพิฆาต" อุตรดิตถ์ เอฟซี ทีมอันดับ 10 ของตารางเกมล่าสุดเพิ่งบุกไปเสมอตาก เอฟซี มา 0-0 มี 16 คะแนน เปิดรังรับการมาเยือนของ นครสวรรค์ เอฟซี ทีมอันดับ 8 ทีมี19 แต้ม เกมล่าสุดเสมอกับเพชรบูรณ์ เอฟซี 0-0 เกมนัดนี้อุตรดิตถ์ มี อาฬารห์ เพ็งบ้านไร่, อาบาส ลงสนาม ขณะที่ นครสวรรค์ เอฟซี ใช้ ศุภชัย พลเลิศ, ณัฐกร พลายนุ่ม ลงสนาม

เปิดฉากมาแค่ 5 นาที อาสาฬห์ เพ็งบ้านไร่ จ่ายบอลกลางสนามให้กับ สุริยงค์ เพ็ชรหาญ ก่อนเจ้าตัวแทงทะลุช่องให้ อาบาส มาซาวูด้า หลุดเดี่ยวไปซัดนิ่มๆ ทำให้เจ้าบ้านออกนำ 1-0 แต่ แค่ น.13 นครสวรรค์ ตามตีเสมอได้สำเร็จ เป็น 1-1 เมื่อ วัฒนา พลายนุ่ม เปิดบอลให้กับ พรชัย ครุฑเครือ หลุดไปยิงนิ่มๆ ตามตีเสมอได้สำเร็จ

พอโดนเหมือนเป๋ อีกแค่ 2 นาทีถัดมา สมเกียรติ บุญรอด เปิดจากด้านซ้ายมาให้ พรชัย คนเดิม ที่ชิงจังหวะได้ก่อนกองหลังอุตรดิตถ์ ก่อนยิงตรงกรอบเขตโทษไม่เหลือสกอร์ทีมเยือนขยับนำ 2-1 แต่ เจ้าบ้านไม่มีท้อ น.28 อาฬาห์ เพ็งบ้านไร่ แทงบอลตัดแผงหลังนครสวรรค์ ให้อาบาส หลุดเดี่ยวไปยิงให้กับอุตรดิตถ์ อีกตามตีเสมอเป็น 2-2 แบบสุดมันส์

แต่ น.37 แผงหลังอุตรดิตถ์ ที่วันนี้รั่วเป็นน้ำ โดยเจษฎา คิดชอบ หลุดเดี่ยวไปยิงให้กับทีมเยือนขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเกมยังสนุกทำท่าว่าจะจบด้วยสกอร์ 3-2 ด้วยซ้ำ แต่ น.85 สาธิต ป้อมเสนา ตั้งป้อมยิงไกลระยะ 30 หลาบอลเสียมุมสุดสวย ทำให้สกอร์ทีมเยือนขยับห่าง 4-2 และก่อนหมดเวลา 1 นาที พรชัย ครุฑเครือ ยิงประตูที่ 4 ของตัวเอง และให้ทีมนครสวรรค์ เอฟซี นำห่าง 5-2 พร้อมกับจบสกอร์นี้ด้วย

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อุตรดิตถ์ เอฟซี : นพดล เจริญทอง5, มานะ เครือเมือง 5.5, ชัยวัช พึ่งศิริ 5.5 (ศักดิ์สุริยา แอบแฝง5), อาสาฬห์ เพ็งบ้านไร่5.5, พงษ์พัฒน์ เจือประเสริฐ5.54,วินัย พลอาสา5.5, ณัฐนนท์ มณีวงษ์5.5, เจนณรงค์ วงค์น้อย5.5, อภิชาติ สุกรินทร์5.5, สุริยงค์ เพ็ชรหาญ5.5,อาบาส 6

นครสวรรค์ เอฟซี : กู้เกียรติ อินทรเกษตร 6, ยุทธนา พ่วงพันธ์ 6, สมเกียรติ บุญรอด6, โมรี่ ซามูโร่ 6 (วรนันท์ ศรีวารี 6), ธนวัติ ปานช้าง 6.5, กฤษดา หาทรัพย์ 6.5, พรชัย ครุฑเครือ 8, วัฒนา พลายนุ่ม 7, ศุภชัย พลเลิศ 7, พันธ์ศักดิ์ พันธ์สิงห์ 6.5, ณัฐกร พลายนุ่ม 7

ชัยนาท เอฟซี 2 - 2 กำแพงเพชร เอฟซี

ที่สนามเขาพลองสเตเดี้ยม เวลา 16.00 น.เป็นเกมระหว่าง "นกใหญ่พิฆาต" ชัยนาท เอฟซี ทีมนำจ่าฝูงของตารางลงเตะไป 14 นัดมี 37 คะแนนเปิดบ้านพบกับ "นักรบชากังราว" กำแพงเพชร เอฟซี ทีมอันดับ 14 ของตารางลงแข่งไปแล้ว 14 นัดมี 11 คะแนน

เกมนี้เจ้าถิ่นของกุนซือ ยศ กนกหิรัญปาน สภาพทีมมีความพร้อมสมบูรณ์ทุกจุดและจะหวังเก็บ 3 แต้มให้ได้เพื่อการันตีการเป็นแชมป์ในเลกแลกมี วัชระ เสือเอี่ยม, ชัยวุฒิ วัฒนะ, ประเวศ หอเจริญ, อาบู บาก้า ลงนำทัพ ส่วนทีมเยือนของ เศกสรร ศิริพงษ์ เกมนี้ส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเช่นกันนำโดย ภานุพงษ์ รำไพเราะ, ภานุวัฒน์ กุลบุตร, จักรชัย กอบสาริกร, นักรบ คุ้มเมฆ

เริ่มเกมการแข่งขันเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่นชัยนาทที่เปิดเกมรุกบุกเข้าใส่ทีมเยือนทันทีและมาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกใน น.10 สุเมธ อยู่โต บรรจงปั่นบอลข้ามกำแพงแต่เฉี่ยวโคนเสาออกหลังไปนิดเดียว

เจ้าบ้านได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกอีกครั้งใน น.25 เมื่อ นักรบ คุ้มเมฆ ของกำแพงเพชรไปทำฟาล์วผู้เล่นชัยนาทหน้ากรอบเขตโทษและเป็น สุเมธ อยู่โต รับหน้าที่ยิงอีกครั้งแต่บอลยังไปเข้าซอง วุธ สิงขรอาจ ผู้รักษาประตูทีมเยือนรับไว้ได้สบาย

เกมดำเนินมาถึง น.34 เจ้าบ้านชัยนาทได้โอกาสอีกครั้งจากการทำเกมบุกขึ้นมาทางริมเส้นของ ประเวศ หอเจริญ ก่อนตบเข้ามากลางประตูให้ ทนงศักดิ์ พรมตาด วิ่งเข้าแปเน้นๆ แต่ยังไปติดขาของ วุธ สิงขรอาจ ผู้รักษาประตูทีมเยือนเซฟไว้ได้อีกครั้ง จากนั้น น.36 สุเมธ อยู่โต ของเจ้าบ้านได้โอกาสส่องหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลก็ยังโด่งข้ามคานออกหลังไป

เจ้าบ้านยังบุกอย่างต่อเนื่องและเกือบได้ประตูอีกครั้งใน น.42 จากจังหวะที่ ประเวศ หอเจริญ กระชากบอลขึ้นมาจากกลางสนามก่อนแทงทะลุช่องให้ ทนงศักดิ์ พรมตาด ได้หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษแต่ดันยิงหักข้อมากเกินไปบอลหลุดเสาไกลออกหลังไป หมดครึ่งเวลาแรกทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0

ต่อกันครึ่งเวลาหลังยังเป็นเจ้าถิ่นชัยนาทที่ยังเปิดเกมรุกเข้าใส่และมาได้โอกาสใน น.51 จากการจ่ายบอลทะลุช่องของ ชัยวุฒิ วัฒนะ ให้กับ อาบู บาก้า ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษแต่ดันจับบอลจังหวะสุดท้ายไม่ดีลูกหลุดไปเข้าซอง วุธ สิงขรอาจ ผู้รักษาประตูทีมเยือนรับไว้ได้อีกครั้ง

กองเชียร์เจ้าบ้านเงียบกันทั้งสนามเมื่อทีมเยือนกำแพงเพชรมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ใน น.59 เมื่อ ภานุพงษ์ รำไพเราะ เติมเกมบุกขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนเปิดเข้ามาหน้าประตูบอลลอยไปถึงเสาสองและเป็น นักรบ คุ้มเมฆ วอลเล่ย์สวนตูมเดียวบอลตกพื้นหนึ่งทีก่อนเสียบหน้าต่างเสาสองเข้าไป

เจ้าบ้านชัยนาทมาตามตีเสมอทันควันใน น.61 จากจังหวะที่ผู้รักษาประตูทีมเยือนชกบอลจากลูกฟรีคิกออกมาไม่ขาดลูกมาเข้าทาง ประเวศ หอเจริญ ล็อกหลบกองหลังทีมเยือนก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงามให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

พอได้ประตูตีเสมอเจ้าบ้านบุกหนักหวังทำประตูขึ้นนำให้ได้แต่ต้องมาสังเวยประตูที่สองให้กับทีมเยือนใน น.74 จากการโต้กลับเร็ว ภานุพงษ์ รำไพเราะ พาบอลหลุดขึ้นมาจนถึงสุดเส้นหลังก่อนหักเข้ามาให้ ธีรพงษ์ อัครนิโรจน์ ซัดเต็มข้อที่เสาแรกลูกพุ่งเสียบใต้คานเข้าไปไม่เหลือซากให้กำแพงเพชรขึ้นนำอีกครั้ง 2-1

เจ้าบ้านน่าได้ประตูตีเสมอใน น.84 เสนาะ โล่งสว่าง เปิดฟรีคิกเข้าไปหน้าปากประตู ชัยวุฒิ วัฒนะ ได้แปจ่อๆ หน้าปากประตูแต่บอลข้ามคานออกไปอย่างเหลือเชื่อ

ช่วงทดเจ็บ น.95 เจ้าบ้านมาตามตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จจากจังหวะโยนบอมบ์เข้ามาในเขตโทษ ทนงศักดิ์ พรมตาด ตีลังกายิงบอลหลุดมาถึงเสาสอง เกริก พิบูลย์ไพโรจน์ วิ่งเข้ายิงจ่อๆ เข้าประตูไป จบเกมทั้งสองทีมเสมอกันไปอย่างสนุก 2-2 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ชัยนาท เอฟซี : ธวัช ยอดปรางค์ 5, ศรัญญู หาญพุฒ 5, เกริก พิบูลย์ไพโรจน์ 7, วัชระ เสือเอี่ยม 6, สุเมธ อยู่โต 5 (อภิศักดิ์ ดีดิษฐ์ 5), ชัยวุฒิ วัฒนะ 6, กฤษดา ปิสสา 5 (เสนาะ โล่งสว่าง 5.5), ประเวศ หอเจริญ 7, อาบู บาก้า 5, สรศักดิ์ เงินช้าง 5 (ศุภณัฐ ด้วงเหว่า 3), ทนงศักดิ์ พรมตาด 5.5

กำแพงเพชร เอฟซี : วุธ สิงขรอาจ 7.5, กฤษณะ วรรณวงษา 7, ภานุพงษ์ รำไพเราะ 7, ใกล้ชิด มโนมัย 7, สมพงษ์ ดีรัมย์ 7, ธานี สังข์ทอง 6.5, ภานุวัฒน์ กุลบุตร 6.5, นักรบ คุ้มเมฆ 7, จักรชัย กอบสาริกร 5 (ธีรพงษ์ อัคนิโรจน์ 6 (โชคชัย บุญทา -), อัลเมโร่, สุรักษ์ สะหม 6 (อัครพล บาลศิริ 6)

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

พัทยาฯบุกกะซวกวิหคเพลิง3-1ขึ้นที่3ไทยลีก

ลูโดวิค ทาคาม หัวหอกมหาภัยแคเมอรูน พัทยาฯ ซัดเบิ้ลขึ้นนำดาวซัลโวร่วม เทิดศักดิ์ ใจมั่น ของ ชลบุรี และ ดักโน่ เซียก้า ของ เมืองทองฯ ที่ 6 ประตู นำ "โลมาฟ้าขาว" บุกสยบ ทีโอที แคท เอฟซี ถึงรัง 3-1 เก็บสามแต้มขึ้นที่ 3 ตามหลัง เมืองทองฯ และ ชลบุรี จ่าฝูงและรองฯ แค่แต้มเดียว ส่วน "วิหคเพลิง" หล่นมาที่ 8 ศึกลูกหนังไทยลีก คู่โทน เมื่อเสาร์ที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา

ทีโอที แคท เอฟซี 1 - 3 พัทยา ยูไนเต็ด

ศึกสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 เลกแรก เมื่อเสาร์ที่ 29 พ.ค. 53 ที่ผ่านมา มีหวดแข้งกันแค่คู่เดียวที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม โดยเจ้าถิ่น "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี อันดับ 7 ที่เตะมา 9 นัด ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 3 มี 14 แต้มเท่ากับอันดับ 5, 6 และ 8 อย่าง ทีทีเอ็ม, บางกอกกล๊าส และ เอสซีจี สมุทรสงคราม นัดนี้เจอกับทีมอันดับ 4 อย่าง พัทยา ยูไนเต็ด ที่เตะมา 9 นัด ชนะ 4 เสมอ 3 แพ้ 2 มี 15 แต้ม

เกมนี้หาก ทีโอที แคท เอฟซี เก็บชัยได้จะแซงหน้าทีมเยือนขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ได้ทันที ขณะเดียวกันหากทีมเยือนชนะได้พวกเขาจะมีแต้มไล่หลังจ่าฝูงและรองอย่าง เมืองทองฯ และ ชลบุรี แค่ 1 แต้มเท่านั้น เกมนัดนี้เจ้าถิ่นมีผู้เล่นติดโทษแบน 2 รายคือ จอร์จี้ ที่ก่อเหตุในเกมบุกแพ้โอสถฯ 0-1 จนโดนแบนยาวถึง 10 นัดที่กำลังรอการยื่นอุทธรณ์อีกครั้ง โดยการโดนโทษแบนนัดนี้เป็นการสะสมใบเหลืองครบตามระเบียบการแข่งขันของ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก อีกรายที่โดนแบนคือ สุขสำราญ ปรางทอง

ขณะที่กุนซือใหญ่ อย่าง "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือใหญ่นั้นเริ่มต้นโทษแบน 4 นัดจากเกมนี้เป็นนัดแรก ด้านทีมเยือนมีผู้เล่นโดนแบน 1 รายเป็นกองหน้าชาวฝรั่งเศสอย่าง เจเรมี่ โนเวโร่ โดยก่อนเกมจะเริ่ม "บิ๊กเต้ย" พลพีร์ สุวรรณฉวี ประธานโครงการอะคาเดมี่ ของทีโอที แคท เอฟซี ได้มีการเปิดตัวทีมงานโค้ชจากสโมสร "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ อันดับ 4 พรีเมียร์ลีกอังกฤษซีซั่นล่าสุดมาเปิดตัวกับแฟนบอลด้วยก่อนที่ระหว่าง 31 พ.ค. - 5 มิ.ย. 53 นี้ทีมงานชุดดังกล่าวจะไปเปิดอะคาเดมี่ สอนฟุตบอลให้กับเยาวชนที่จ.นครราชสีมา ด้วย

เริ่มครึ่งแรก น. 5 สตาร์ตเกมครึ่งแรกมาแค่ 5 นาทีทีมเยือนบุกได้น้ำได้เนื้อกว่าจังหวะนี้ ลูโดวิค ทาคาม เปิดจากซ้ายเข้าหัว เปรมวุฒิ วงศ์ดี ได้โขกเหน่งๆ บอลข้ามคานไปแบบได้เสียวสำหรับแนวรับเจ้าถิ่น

น.9 สกอร์แรกของเกมเกิดขึ้นอย่างเร็วและเป็นทีมเยือนที่นำก่อน 1-0 จากการเติมขึ้นไปแปของ ลูโดวิค ทาคาม กองหน้าแคเมอรูนยัดเสาแรกเข้าไป

น.15 ทีโอที แคท เจ้าถิ่นไม่เสียอาการตั้งลำกันใหม่และได้ลุ้นจาก มิโรสลาฟ ทอธ ที่ซัดนอกกรอบบอลพุ่งเรียดหวิดจะดีแต่นริศ นายทวารทีมเยือนปัดออกหลังไปได้

น.17 สันติ ไชยเผือก สอย โธมัส โคซาร์ ร่วงนอกกรอบ ธีรชัย งามเจริญ จอมเก๋าทีโอที รับหน้าที่ปั่นเกือบจะดีแต่ก็ไม่ผ่าน นริศ ที่ทุบออกมาได้

น.22 หลังจากบุกพับอยู่นานหวังจะตีเสมอให้ได้แต่ทีโอที แคท ก็เจาะไม่เข้า เอ็ดเวิร์ด ตัดสินใจส่องไกลออกหลังไปอีกครั้ง

น29 ทีมเยือนพัทยาหนีเป็น 2-0 จากการโขกของ ลูโดวิค ทาคาม ส่งผลให้ดาวยิงแคเมอรูน รายนี้ขึ้นไปนำดาวซัลโวร่วมกับ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ของชลบุรี และ ดักโน่ เซียก้า ของ เมืองทองฯ ที่ 6 ประตูด้วยหลังเจ้าตัวทำประตูที่ 2 ในเกมนี้ได้

น.31 ทีโอที แคท ได้จุดโทษจากจังหวะที่ สันติ ไชยเผือก สอย เอ็ดเวิร์ด อีฟิมบ้า ล้มลงในเขตโทษผู้ตัดสินสุระ ศรีอาจ ชี้ให้เป็นจุดโทษ นาทีเดียวกัน ทีโอที ฯ เอาเอ็ดเวิร์ด ออกแล้วส่ง สิทธิศักดิ์ ตาระพัน ทำเกมแทน

น.32 มิโรสลาฟ ทอธ ดาวยิง สโววาเกียรับหน้าที่สังหารให้เจ้าถิ่นไล่มาเป็น 1-2 ได้โดยเป็นประตูที่ 3 ในซีซั่นนี้ของทอธ ด้วย

น.38 ใบเหลืองแรกของเกมเกิดขึ้นและเป็นของ ตระกูลฉัตร ทองใบ ของเจ้าถิ่นที่ไปทำฟาวล์ใส่ สันติ ไชยเผือก

น.39 ลูโดวิค หัวหอกทีมเยือนโดนไปบ้างหลังไปก่อนที่ น. 41สันติ จะถ่วงเวลาโดนเหลืองไปอีกรายสำหรับทีมเยือน

น.43 ทีมเยือนหนีห่างเป็น 3-1 จากการหลุดเข้าไปซัดของ เปรมวุฒิ วงศ์ดี ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

กลับมาครึ่งหลัง น.55 ทีโอที เจ้าถิ่นได้ลุ้นทำสกอร์ไล่ตีตื้นมาอีกจากลูกโขกของ มิโรสลาฟ ทอช ที่ ธีรชัย งามเจริญ เปิดไปให้ นาทีเดียวกันทีโอที ส่ง อาทิตย์ ดาวสว่าง ลงแทน ยุทธนา ไชยแก้ว

น.58 โธมัส โคซาร์ ได้ยิงแต่ก็หลุดกรอบออกหลังไปอีก จากนั้น น.63 ธนา ชะนะบุตร ที่เพิ่งลงไปแทน เปรมวุฒิ วงศ์ดี ทำแนวรับทีมเยือนโดยเฉพาะ มาเรียน จูฮาส ปั่นป่วน หลุดเข้าไปซัดแต่ออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น

น.71 อาทิตย์ ดาวสว่าง ดึงลูโดวิค ทาคาม ที่กำลังจะได้หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษล้มลงแต่ผู้ตัดสิน สุระ ศรีอาจ ให้แค่ใบเหลืองเท่านั้นทำเอากองเชียร์ทีมเยือนโห่ใส่เพราะมองว่าจังหวะนี้น่าจะเป็นใบแดงก่อนที่นักเตะพัทนาฯ จะกรูเข้าประท้วง

น.76 ทีโอที แคท เปลี่ยนรายสุดท้ายเอา วิชาญ นันทะศรี ลงแทน ตระกูลฉัตร ทองใบ นาทีเดียวกัน ทีโอที ได้ลุ้นตีตื้นจาก สิทธิศักดิ์ ตาระพันธ์ แต่ก็โดนแนวรับทีมเยือนสกัดทิ้งออกมาได้ ถัดมานาทีเดียว ทีโอที น่าจะโดนอีกเม็ดเมื่อโดนพัทยาฯตัดได้ก่อนที่ธนา จะหลุดเดี่ยวอีกครั้งแต่หนนี้ยิงไม่ดีพอโดน แซมมวล นายทวารทีโอที เซฟได้

น.81 ทีมเยือนรอดเสียประตูหน้าตาเฉยเมื่อปล่อยให้ โธมัส โคซาร์ ได้โขกหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น จากนั้นนาทีเดียว น.82 พัทยาฯ เปลี่ยนรายที่ 2 เอา นิเวศ ออกแล้วส่ง ทศพล การปลูก ลงแทน

น.85 ธนา ของทีมเยือนเล่นได้อย่างน่าผิดหวังอีกครั้ง เมื่อ ธนา เจ้าเก่าได้ซัดแต่ก็ไม่เข้ากรอบอีกครั้ง น.88 สันติ ไชยเผือก ของทีมเยือนเจตนาทำแฮนด์บอลขัดขวางการเล่นฟรีคิกของทีโอที โดนเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงออกจากเกมไป

น.92 ทศพล การปลูก หลุดเข้าไปซัดชนคาน ทีโอที รอดเสียประตูไป จบเกมเป็น พัทยา ยูไนเต็ด ที่บุกมาชนะไปได้ขาดลอยถึง 3-1 แซงหน้าอันดับ 3 อย่าง บุรีรัมย์ พีอีเอ ขึ้นไปอยู่อันดับ 3 แทน โดยตามหลัง เมืองทองฯ และ ชลบุรี จ่าฝูงและรองฯ แค่แต้มเดียวเท่านั้น ส่วน ทีโอที แคท แพ้นัดนี้หล่นจากอันดับ 7 มาอยู่อันดับ 8

วาทะโค้ช

เทเวศร์ กมลศิลป์ โค้ช ทีโอที แคท เอฟซี : "เกมนี้เราเสียประตูกันง่ายเกินไปในครึ่งแรกแม้ครึ่งหลังจะทำเกมรุกกันได้ดีขึ้นมาแล้วแต่ก็ไม่ดีพอยอมรับการขาดตัวทำเกมอย่าง จอร์จี้ ไปทำเกมรุกขาดๆเกินๆไปหมดแม้จะแพ้นัดนี้แต่ก็ไม่ซีเรียสเชื่อว่านัดต่อไปผลงานจะดีขึ้นมาได้"

ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือ พัทยา ยูไนเต็ด : "วันนี้ทุกคนทำหน้าที่กันได้เกินเป้านัดนี้มาเยือนหวังแค่ 1 แต้มเท่านั้นแต่ทุกคนทำหน้าที่ได้สุดยอดทั้งความสามารถเฉพาะตัวและทีมเวิร์คแม้จะขึ้นอันดับ 3 ได้แล้วแต่ยังไม่คาดหวังอะไรมากขอลุ้นแบบนัดต่อนัด"

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ทีโอที แคท เอฟซี : แซมมวล ป. คันนิ่งแฮม 5.5, ชูศักดิ์ สุวรรณา 5.5, มาเรียน จูฮาส 5.5, ยุทธนา ไชยแก้ว 5.5 (อาทิตย์ ดาวสว่าง 5.5), โธมัส โคซาร์ 6, ธีรชัย งามเจริญ 6, เอ็ดเวิร์ด อีฟิมบ้า 6 (สิทธิศักดิ์ ตาระพันธ์ 6), อันตัน คูบาล่า 6, มิโรสลาฟ ทอช 6, ตระกูลฉัตร ทองใบ 5.5 (วิชาญ นันทะศรี 5.5), พลวัฒน์ วังฆะฮาด 5.5

พัทยา ยูไนเต็ด : นริศ ทวีกุล 6, สมภพ นิลวงษ์ 6 (ทศพล การปลูก 5.5), นิเวศ ศิริวงศ์ 6, อิทธิพล พูลทรัพย์ 6, สมชาย สิงห์มณี 6, อนุชา กิจพงษ์ศรี 6, สันติ ไชยเผือก 6, ลูโดวิค ทาคาม 7 (รังสฤทธิ์ สุทธิสา –), อาร์ลินโด้ ลอไรโร่ 6, ริชาร์ด แลงลีย์ 6, เปรมวุฒิ วงศ์ดี 6 (ธนา ชะนะบุตร 5.5)

แมน ออฟ เดอะแมตช์ : ลูโดวิค ทาคาม กองหน้ามหาภัย พัทยาฯ

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

โค้ชแต๊กเปรยบุรีรัมย์ยังไม่ฝันถึงแชมป์

"โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม เผยไม่กดดันในการคุมทีมใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ พีอีเอ แง้มทีมยังมีจุดอ่อนเพียบ โดยเฉพาะกองหน้าประสานเอเย่นหาตัวเสริมแล้ว

เข้าไปคุมทีมนัดแรกก็สามารถพาทีมคว้าชัยได้ทันที สำหรับ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม กุนซือคนใหม่ของ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ที่ลงสนามล่าสุดเอาชนะโอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรีได้ 2-0 ทำให้มองว่าทีมน่าจะมีลุ้นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกปีนี้หรือไม่

"โค้ชแต๊ก" ได้เปิดใจว่าตนยังไม่ได้มองไกลขนาดนั้น ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการปรับจูนทีม ปรับระบบการเล่น วิธีการต่างๆ ให้ลงตัวมากขึ้น ก็ยอมรับว่าทีมยังมีจุดอ่อนให้เห็นหลายอย่างที่จะต้องแก้ไข เร่งด่วนเวลานี้ก็คือกองหน้า เพราะที่มีอยู่ก็ยังไม่ถึงในเกมระดับนี้ ก็แจ้งต่อท่านประธานติดต่อเอเย่นที่จะหาตัวดีๆมาเสริมในช่วงเลกสองอย่างแน่นอน รวมทั้งจะมีมีโละตัวเก่าที่เล่นไม่ได้ออกด้วยอ

"ทางทีมไม่ได้กดดันว่าเข้าแล้วจะต้องพาทีมได้แชมป์ เพราะเราเข้ามาเพียงปีแรก เพียงแต่ทำอันดับให้ดีเท่าที่จะทำได้ แล้วค่อยว่ากันในปีหน้า ส่วนตัวก็ต้องทำเต็มที่ เชื่อว่าถ้าทีมลงตัวก็น่าจะเกาะกลุ่มหัวตารางได้"โค้ชแต๊ก กล่าว

ไพรัชชมเปาะแท็คติก"โค้ชแต็ก"

ไพรัช ทับเกตุแก้ว เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวแกร่งของบุรีรัมย์ พีอีเอ ผู้ทำประตูให้ทีมในเกมเชือดโอสถสภา 2-0 ออกมาเปิดเผยว่าการเข้ามาทำทีมของ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม ทำให้ทีมมีชีวิตชีวา และเล่นได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้น

จากการที่ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ปรับเปลี่ยนหัวเสือมาเป็น "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม ที่เคยพาทีม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่แล้ว และประเดิมการคุมทีมเป็นเกมแรกด้วยการชนะทันที ซึ่ง ไพรัช ทับเกตุแก้ว กองหลังตัวหลักของทีม ได้กล่าวชมถึงแท็คติกที่ "โค้ชแต็ก"ได้วางไว้ในเกมนัดแรกว่า

"การคุมทีมของโค้ชแต๊กนั้นเรียกว่าเปลี่ยนแปลงอะไรเยอะมาก ทั้งในเรื่องของแท็คติกรายละเอียดปลีกย่อย แต่ก็มีเป้าหมายชัดเจนว่า ต้องการจะให้นักเตะทำอะไร ต้องการให้นักเตะเล่นในทิศทางไหน" "โดยแท็คติกหลายๆอย่างเราก็ลองใช้ในสนามซ้อมกันมาแล้ว ซึ่งพอมาเล่นจริงมันก็เวิร์กครับ ยิ่งถ้าเราคมอีกนิดนึง น่าจะยิงได้ 4-5 ลูกสบาย"

พร้อมกันนี้ ปราการหลังจอมแกร่งของ บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้เอ่ยถึงจังหวะการยิงประตูของตัวเองว่า "อย่างแรกคงต้องชมอ้น (รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชติ) ที่ครอสบอลมาได้เข้าหัวผมพอดี ทำให้ผมดหม่งเข้าทำประตูในเกมดังกล่าว

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

Thursday, May 27, 2010

เชียงราย,นกเงือก,ราชประชาพาเหรดซิวชัยไทยคมเอฟเอ

ศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2010 ว.นอร์ทกรุงเทพ ต้าน "นกเงือกพิฆาต" ปราจีนบุรี เอฟซี ไม่ไหวพ่าย 1-3 อีกคู่ "กว่างซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวังหละงเปิดบ้านไล่อัด ส.พนักงานฯโกเบล็ก ทีมจากถ้วย ค 4-0 เช่นเดียวกับที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม "ตราชฎา" ราชประชา- นนทบุรี เอาชนะ สพล.กรุงเทพฯ ด้วยสกอร์ 4-0 เช่นกัน โดยเกมนี้ นรากร วิเศษธนกาล ยิงไปสองประตู เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา

ว.นอร์ทกรุงเทพ (ด.2) 1 - ปราจีนบุรี เอฟซี (ด.1) 3

ที่สนามกีฬา ม.รังสิต เวลา 16.00 น. เป็นการพบกันระหว่าง "อาชาผยอง" นอร์ทกรุงเทพ ทีมจาก ด.2 พบกับ "นกเงือกพิฆาต" ปราจีนบุรี เอฟซี ทีมใน ด.1 ทางด้านเจ้าถิ่นนอร์ทกรุงเทพ ผ่านเข้าสู้รอบ 2 ด้วยการเอาชนะอยุธยา เอฟซี 3-2 มาส่วนทางทีมเยือน เพิ่งจะลงสนามในรายการนี้เป็นเกมแรก

นอร์ทกรุงเทพ พร้อมส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงฟาดแข้งในเกมนี้ จากรอบแรกที่นอร์ทกรุงเทพ เฉือนชนะอยุธยา เอฟซี 3-2 มีผู้เล่นคนสำคัญของทีมอย่าง เอกสิทธิ์ สุดสวาท โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ด้าน "โค้ชโป้ง" กฤษณ์ สิงห์ปรีชา เผยไม่มีผลกระทบกับทีมมากนัก เพราะผู้เล่นคนสำคัญคนอื่นๆ ยังสามารถลงเล่นกันได้อย่างครบครัน โดยเกมนี้จะใช้ระบบ 5-4-1

ส่วนทางด้าน "นกเงือกพิฆาต" ปราจีนบุรี เอฟซี ได้สิทธิ์ผ่านเข้ามาแข่งขันในรอบสองอัตโนมัติ เกมนี้ไม่มีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บ ด้าน "โค้ชต๋อย" ประภาร นาคพงษ์ แม้ว่าเกมนี้พานักเตะเดินทางมาไกล แม้ว่าจะเจอกับทีมที่อยู่ในลีกต่ำกว่าก็คงไม่ประมาท เน้นการครองบอลเพื่อเข้าทำประตู โดยมีนักเตะตัวหลักอย่าง เอกณรงค์ หวานอารมย์ กับ ฮัม ซุก ฮุน ประสานงานในแดนกลาง

เกมนี้สภาพสนามไม่ค่อยจะสมบูรณ์ เนื่องจากฝนตกลงมาก่อนที่เกมจะเริ่ม ทำให้ช่วงออกสตาร์ตครึ่งแรกทั้งสองทีมยังควบคุมจังหวะเกมของตัวเองไม่ได้ หลังจากผ่านไป 5 นาที ทีมปราจีนบุรี เอฟซี เริ่มตั้งเกมได้และหาจังหวะเข้าทำจากการขึ้นเกมมาทางด้านซ้าย ก่อนที่จะเปิดเข้ากลางบอลไปให้ จารุวัฒน์ นามมูล แต่บอลย้อนหลังไปทำให้โหม่งได้ไม่ถนัดบอลไปเข้ามือ วิรัช วังจันทร์

จากนั้นยังเป็นปราจีน เอฟซี ที่ได้จังหวะลุ้นประตูอีกครั้ง ใน น.13 จากการปั่นฟรีคิกบริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้ายของ ฮัม ซุก ฮุน บอลโค้งผ่านหน้าประตู มีผู้เล่นของปราจีนบุรี เอฟซี วิ่งเข้าชาร์จหน้าประตูแต่ไม่โดนบอล หลุดเสาสองไปนิดเดียว

เกมของเจ้าถิ่นเริ่มกลับมาสู่เกมตัวเองอีกครั้ง และใน น.22 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ทำเกมขึ้นมาทางกลางสนาม เกมทำท่าว่าจะไม่มีอะไร ยุทธนา เรืองสุขสุด ที่ได้บอลบริเวรหน้ากรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา ก่อนจะตัดสินใจยิงดื้อๆ บอลพุ่งเสีบเสาเข้าไปแบบที่ วิโรจน์ เพ็ชรดอน ไม่ทันตั้งตัว เจ้าถิ่นออกนำ 1-0

เจ้าถิ่นดีใจได้แค่นาทีเดียว ก็ต้องมาโดนทีมเยือนตีเสมอ ใน น.23 จากจังหวะชุลมุนกันในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะเป็น จารุวัฒน์ นามมูล ที่ล้มตัวตวัดบอลผ่านตัว วิรัช วังจันทร์ เข้าไป ทำให้ทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1

ช่วงท้ายเกม ว.นอร์ทกรุงเทพ น่าจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง ใน น.40 เมื่อได้จังหวะทำเกมขึ้นทางด้านขวา โดย นรินทร์ ศรีคุ้ม ก่อนจะเปิดไปทางเสาสอง บอลเลยมาถึง เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ ซัดจ่อๆ ไปติดบล็อก วิโรจน์ เพ็ชรดอน ทีมเยือนก็เกือบได้ประตูเช่นกัน เมื่อ ปองเทพ มุสาลี ได้จังหวะซัดเต็มข้อหน้ากรอบเขตโทษ แต่ไปติดเซฟ วิรัช วังจันทร์ เหมือนกัน จากนั้นทำอะไรกันไม่ได้ หมดครึ่งแรกทั้งคู่เสมอกันอยู่ 1-1

กลับเข้าสู่ครึ่งหลังเริ่มเกมไปได้ไม่ภึง 10 นาที ทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำ ใน น.54 จากการทำเกมขึ้นมาทางกลางสนาม ก่อนจะแทงทะลุช่องให้ เอนวาโอดิกา กระชากเข้ากรอบเขตโทษแล้วยิงบอลสวนตัว วิรัช วังจันทร์ เข้าไปให้ทีมปราจีนบุรี เอฟซี ออกนำ 2-1

พอโดนนำเจ้าถิ่นเปิดเกมบุกใส่ทันที แล้วเกือบจะได้ประตูใน น.57 จากการทำเกมขึ้นมาทางกราบขวาที่ มาโนช มณฑา ก่อนจะเปิดเข้ากลางแต่บอลโด่งย้อยเกือบจะมุดคานเข้าประตู แต่ วิโรจน์ เพ็ชรดอน ยังเหินปัดออกไปได้หวุดหวิด

จากนั้นทั้งสองทีมผลัดกันครองเกมบุก ก่อนที่ทีมเยือนที่จะมาได้ประตูนำห่าง ใน น.73 ในจังหวะที่ จารุวัฒน์ นามมูล กระชากบอลหลบผู้เล่นของ ว.นอร์ทกรุงเทพ ถึงสองคนเข่าไปในเขตด้านขวาก่อนจะปาดเข้ากลางให้ ฮัม ซุก ฮุน แปเน้นๆ เข้าเสาสองไป ปราจีนบุรี เอฟซี นำห่าง 3-1

ช่วงท้ายเกมใน น.85 ปราจีนบุรี เอฟซี ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ ผดุงศักดิ์ นาคพงษ์ โดนใบแดง หลังจากไปเสียบ สถาพร แดงสี แต่เจ้าถิ่นทำอะไรไม่ได้ จบเกมพ่ายปราจีนบุรี เอฟซีไป 1-3

คะแนนความสามารถผู้เล่นทั้งสองทีม

ว.นอร์ทกรุงเทพ : วิรัช วังจันทร์ 5.5, ยุทธนา เนาวรัตน์ 5.5, โกวิท ฝอยทอง 6, สถาพร แดงสี 5.5, พิเชษฐ์ มุตมาจันทร์ 5.5 (สุธิศักดิ์ เต็งหลี น.63 5), ธีระศักดิ์ คุณรักษา 6 (ปฐมชัย เสือสกุล 5 ), เกริกพล บุญสิทธิ์ 6 (ประจักษ์ กระบวนงาม น.77 5), มาโนช มณฑา 6, เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ 6, นรินทร์ ศรีคุ้ม 6.5, ยุทธนา เรืองสุขสุด 6.5

ปราจีนบุรี เอฟซี : วิโรจน์ เพ็ชรดอน 6.5, ไตรรงค์ แก่นจันทร์ 6, ผดุงศักดิ์ นาคพงษ์ 6, วุฒิพงษ์ ศรีกสิกิจ 6, เจษฎา แก้วประสงค์ 6, ฮัม ซุก ฮุน 7.5, จารุวัฒน์ นามมูล 7.5 (กิตติราช เนาะ น.90+3-), อิทธิเดช วันนา 6, ยู บุน คุน 6, ปองเทพ มุสาลี 6.5, เอนวาโอดิกา 6.5 (เอกรงค์ หวานอารมณ์ น.90-)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์:จารุวัฒน์ นามมูล ของปราจีนบุรี เอฟซี

เชียงราย ยูไนเต็ด 4- พนักงานหลักทรัพย์โกลเบล็ก 0

ที่สนามกีฬากลาง จ.เชียงราย เป็นการแข่งขันฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ รอบ 2 เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมจากดิวิชั่น 1 ที่ลงประเดิมรายการนี้ เปิดรังพบกับ พนักงานหลักทรัพย์โกลเบล็ก ทีมจากถ้วย ค โดยรอบแรกหลักทรัพย์โกลเบล็ก เอาชนะ ลูกอีสานเอฟซี มาได้ 3-1 เกมนัดนี้เจ้าบ้านใช้ อนุ สิงหราช, เทวฤทธิ์ จุลสม ลงสนามด้าน โกลเบล็ก มี จักรภพ ฮวดศรี, นาคิน ธรรมสุวรรณ เป็นตัวหลัก

น.6 เจ้าบ้านขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็วเมื่อ กองหลังเชียงราย เคลียร์บอลยาวมา ฉัตรชัย นาควิจิตร วิ่งไล่เบียดกับมาโร จูเนียร์ นักเตะของโกเบล็ก ก่อนเป็น ฉัตรชัย ที่ถึงก่อนและเห็นผู้รักษาประตู โกบเบล็ก ออกมาไกลเลยตัดสินใจ ดีดบอลกว่า 30 หลาบอลเสียบใต้คาน หลัง ชรินทร์ สุขสมพืช ผู้รักษาประตูถอยเข้าไปเซฟไม่ทัน สกอร์นำเร็ว 1-0

จากนั้นยังเป็นเชียงราย ที่เดินเกมได้ต่อเนื่อง น.30 ภาคภูมิ วงศ์ประเสริฐ เปิดบอลจากด้านขวาให้ อนุชา ช่วยศรี โหม่งเต็มหัวที่เสาสองบอลหลุดกรอบออกเสาสองอย่างเหลือเชื่อ หลังจากนั้นยังเป็นเชียงราย ที่เดินเครื่องบุกอย่างหนัก แต่ว่าจังหวะสุดท้ายพลาดไปหมดทำให้ครึ่งแรก เชียงราย ยูไนเต็ด นำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง น.53 โกลเบล็ก เกือบได้ประตูตีเสมอเมื่อ เจษฎา ชูเดช แย่งบอลจาก อาณัฐ อินทะชัย ได้ก่อนสับระยะ 30 หลาแต่บอลออกข้างแบบเสียวสุดๆ น.58 เชียงราย ขยับหนี 2-0 เมื่อ ฉัตรชัย หลุดเดี่ยวไปจิ้มบอลผ่าน ชรินทร์ สุขสมพืช นิ่มๆ เรียกเสียงเชียร์ได้ลั่นสนาม

น.63 เชียงราย หนีไปห่างเมื่อ ธวัชชัย ทองฮวด เตะมุมจากด้านขวาสั้นๆ ให้เอดูก่อนเจ้าตัวกึ่งยิงกึ่งผ่านมาเสาแรก อนุชา ช่วยศรี พุ่งไปโหม่งเช็ดบอลเข้าเสาแรกไม่เหลือซาก สกอร์เชียงรายหนีห่าง 3-0 น.88 เชียงราย นำห่างอีกเมื่อ ฉัตรชัย นาควิจิตร ไหลบอลให้ เทวฤทธิ์ จุลสม หลุดไปจิ้มผ่านประตูเข้าไป ทำให้สกอร์ห่าง 4-0 ก่อนหมดเวลาด้วยสกอร์นี้ ทำให้เชียงราย ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 3 ต่อไป

คะแนนความสามารถผู้เล่นทั้งสองทีม

เชียงราย ยูไนเต็ด อาทิตย์ ธนูศร6, ภาคภูมิ วงศ์ประเสริฐ 6.5, ธวัชชัย ทองฮวด 7(วิโรจน์ ศิลาอ่อน 6), ฉัตรชัย นาควิจิตร 8, อนุชา ช่วยศรี 6.5 (สัมพันธ์ ดำสุข 6), รัฐพล อัฐวงศ์ 7, เอดู กราฟรี 6.5, สัญญา พุ่งจันทร์ 7, เทวฤทธิ์ จุลสม 7, อาณัฐ อินทะชัย 6.5(อาณัฐ กาวิชา 6), อนุ สิงหราช 7

หลักทรัพย์โกลเบล็ก ชรินทร์ สุขสมพืช 5, ไตรรงค์ ขำสุนทร 5, จักรภพ ฮวดศรี 5.5 , หัตถพล เมฆเกลื่อน 5.5 (จิตติวัฒน์ แถวกระต่าย 5), เจษฎา ชูเดช 5, ดำรงค์ ภูสมนึก 5, นาคิน ธรรมสุวรรณ-(วิศวัสต์ แซ่เฮง 5.5), มาโร จูเนียร์ 5.5, คงวุฒิ พรหมมินทร์ 5, ภัทรพล ลาภมาก 5, โตโรโด้ 5.5 (สรายุทธ จันทร์กิมฮะ 5)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ฉัตรชัย นาควิจิตร กองหน้าทีมเชียงราย

ราชประชา-นนทบุรี เอฟซี 4 - สพล.วิทยาเขตกรุงเทพ-สนั่นรักษ์ 0

ที่ยามาฮ่า สเตเดี้ยม เวลา 18.00 น. เจ้าบ้าน "ตราชฎา"ราชประชา-นนทบุรี เอฟซี ทีม จากศึกดิวิชั่น 1 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ สพล.วิทยาเขตกรุงเทพ-สนั่นรักษ์ ทีมจากการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานประเภท ง

โดยเกมนี้เจ้าบ้าน "ตราชฎา" ต้องขาดผู้เล่นตัวหลักถึง 8 รายด้วยกัน ทำให้ประพันธ์ เปรมศรีกุนซือใหญ่ต้องปรับทัพพอสมควร ผู้เล่น 11 ตัวแรกนำทัพโดย โชคดี อินทรลักษณ์กัปตันทีมที่คอยบัญชาเกมแดนกลาง, สาวิน บุญโสพิศและประกิต ดีพร้อม ส่วนทางผู้มาเยือนอย่างสพล.วิทยาเขตกรุงเทพ-สนั่นรักษ์ ที่วันนี้เป็นรองจึงไม่มีอะไรต้องเสียส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามครบครันทั้ง เมธาสิทธิ์ สิทธิสบาย, ธีรพงษ์ ไชยยาและนัฐพงษ์ คุ้มศักดิ์

เริ่มเกมมาเป็นทาง "ตราชฎา" เปิดเกมบุกกดดันอาคันตุกะทันที น.28 หลังจากบุกอยู่นานราชประชา-นนทบุรี เอฟซี ก็มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ประกิต ดีพร้อม เปิดยาวจากกลางสนามให้กรพรหม จรูญพงศ์ หลุดไปถึงเส้นหลังก่อนเปิดเข้ามาหน้าประตูให้นรากรณ์ วิเศษธนกาล ที่วิ่งเข้ามาแปเข้าไปง่ายให้เจ้าบ้านออนำ 1-0 น. 31 เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูที่ 2 เมื่อนรากรณ์ วิเศษธนกาล เปิดไซด์ก้อยทะลุแผงกองหลังสพล.วิทยาเขตกรุงเทพ-สนั่นรักษ์ ให้เธียรี่ รอสแตนด์ ได้หลุดไปยิงแต่เจ้าตัวทำได้ไม่ดีพอยิงออกไปอย่างน่าเสียดาย

น.44 สพล.วิทยาเขตกรุงเทพ-สนั่นรักษ์ ได้ลุ้นบ้างเมื่อมาได้ฟรีคิกระยะ 30 หลาและเป็นคามิน รุ่งเรืองตัวสำรองที่พึ่งเปลี่ยนลงไปปั่นโค้งด้วยซ้ายบอลเกือบเสียบเข้าเสาแรกแต่ทว่าเยน ริชาร์ด ยังไวทายาทบินปัดออกไปได้ ช่วงท้ายครึ่งแรกยังไม่มีทีมไหนทำประตูเพิ่มได้จบ 45 นาทีแรกราชประชา-นนทบุรี เอฟซี นำ สพล.วิทยาเขตกรุงเทพ-สนั่นรักษ์ 1-0

เริ่มเกมครึ่งหลังยังคงเป็นเจ้าบ้านที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด น. 62 ราชประชา-นนทบุรี เอฟซีมาได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ ศราวุธ สินธุปัน บรรจงชิพข้ามแผงกองหลังของสพล.วิทยาเขตกรุงเทพ-สนั่นรักษ์ อย่างเหนือชั้นให้นิรันดร์ พันทอง แบ็กซ้ายของทีมที่เติมเกมขึ้นมายิงเล่นทางเข้าไปให้เจ้าบ้านนำเป็น 2-0

น. 70 สพล.วิทยาเขตกรุงเทพ-สนั่นรักษ์ ได้โอกาสบ้างเมื่อได้ลูกเตะมุมและเป็นธีรพงษ์ ไชยยา ที่เปิดเข้ามาให้อ๊อด นิยมกล้า ได้เทกตัวขึ้นโหม่งบอลเกือบจะเบียดเสาแรกเข้าประตูแต่ไม่วายถูกเยน ริชาร์ดผู้รักษาประตูของทีม "ตราชฎา" เซฟได้อีก

น. 76 เจ้าบ้านมาได้ประตูทิ้งห่างเป็น 3-0 จากจังหวะที่ ศราวุธ สินธุปัน แทงบอลให้นรากรณ์ วิเศษธนกาล ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเล่นทางเข้าประตูไป น.85 ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจสำหรับราชประชา-นนทบุรี เอฟซี และก็มาได้ประตูที่ 4-0 เมื่อวิศรุต พันนาสีได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับคฑาวุธ อารมณ์เพียรผู้รักษาประตูทีมเยือนก่อนที่จะแตะหลบแต่บอลไปติดขาของคฑาวุธ เปลี่ยนทางไปเข้าเท้าไทกิ อิชิสุ นักเตะแดนปลาดิบที่เปลี่ยนลงไป ยิงเข้าไปโล่งๆเปลี่ยนสกอร์ให้เจ้าถิ่นเป็น 4-0

ช่วงเวลาที่เหลือสพล.วิทยาเขตกรุงเทพ-สนั่นรักษ์พยายามเปิดเกมบุกเพื่อหวังยิงประตูตีไข่แตกแต่ก็ไม่เป็นผล จบเกมราชประชา-นนทบุรี เอฟซี เปิดบ้านถล่มสพล.วิทยาเขตกรุงเทพ-สนั่นรักษ์ ไป 4-0 ผ่านเข้ารอบที่ 3 ไปได้สำเร็จ

คะแนนความสามารถของผู้เล่นทั้งสองทีม

ราชประชา-นนทบุรี เอฟซี : เยน ริชาร์ด6.5, สาวิน บุญดสพิศ6, ประกิต ดีพร้อม6(วิศรุต พนนาสี6), โชคดี อินทรลักษณ์6.5, กรพรหม จรูญพงศ์6.5, นรากรณ์ วิเศษธนกาล7.5, ศราวุธ สินธุปัน7(ไทกิ อิชิสุ6), ดาวูด้า วูลัมพา6.5, นิรันดร์ พันทอง7, กิตติพงษ์ สมมาตร6.5, เธียรี่ รอสแตนด์6.5

สพล.วิทยาเขตกรุงเทพ-สนั่นรักษ์ : คฑาวุธ อารมณ์เพียร5.5, ธีรพงษ์ ไชยยา6, ผดุงพงษ์ พุจารย์5.5, อรรถวิท วรสิงห์5.5, อ๊อด นิยมกล้า6, เมธาสิทธิ์ สิทธิสบาย5.5(วิภูษิต ณะนุ่ย5), ศราวุฒิ เชื้อนุ่น5.5, นาวิน ถามุนตรี5(คามิน รุ่งเรือง5.5), พัฒนา พูนทรัพย์5.5, เอกชัย เพ็งธรรม5.5(สำราญ จันตีแก้ว5.5), นัฐพงษ์ คุ้มศักดิ์5.5

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : นรากรณ์ วิเศษธนกาล

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/