Tuesday, February 23, 2010

การแข่งขันฟุตบอลAFC CUP ระหว่าง สโมสรการท่าเรือไทยเอฟซี กับ สโมสรเอสเอชบี ดานัง

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในการจัดการแข่งขันฟุตบอลสโมสรชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ประจำปี 2552 ระหว่าง สโมสรเมืองทองหนองจอกยูไนเต็ด กับ สโมสรการท่าเรือไทยเอฟซี ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2553 ณ สนามศุภชลาศัย ภาพข่าวเหตุการณ์ได้ปรากฏและเผยแพร่ไปทั่วโลก ทางสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ได้ส่งหนังสือมายังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ดูแลด้านการรักษาความปลอดภัยในสนามแข่งขันในทุกรายการเป็นพิเศษ ต่อจากนี้ไป

เริ่มต้นจากแมทช์การแข่งขันเอเอฟซีคัพ ในวันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2553 ระหว่าง สโมสรการท่าเรือไทย และ สโมสรเอสเอชบี ดานัง ณ สนามศุภชลาศัย คณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลสโมสรชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ประจำปี 2552 โดยมี พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชาเป็นประธานจัดการแข่งขันฯ นั้น ได้ประชุมเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อพิจารณาเหตุการณ์ดังกล่าว

ในการนี้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรให้การแข่งขันเอเอฟซีคัพ ในวันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2553 ระหว่าง สโมสรการท่าเรือไทย และ สโมสรเอสเอชบี ดานัง ณ สนามศุภชลาศัย เป็นการแข่งขันในสนามปิด และไม่มีการจำหน่ายบัตรให้กับแฟนบอลและประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับการรักษาความปลอดภัยให้กับทีมเยือน และเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันจากทางเอเอฟซีในเบื้องต้นก่อนที่จะมีมาตรการและผลการพิจารณาอื่น ๆ อีกต่อไป

แหล่งข่าว :: http://www.fat.or.th

ประเมินสนามศุภฯ เสียหาย8แสน เอเอฟซีตรวจสอบ

สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ตรวจสอบความเรียบร้อยของสนามศุภชลาศัย ก่อนแข่งขันเอเอฟซี คัพ รอบแรกระหว่างการท่าเรือ พบ ดานัง จากเวียดนาม ขณะที่กรมพลศึกษาประเมินค่าเสียหาย 8 แสนบาท...

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขันของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ได้เดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยของสนามศุภชลาศัย หลังเกิดเหตุการณ์จลาจลในเกมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก ประจำปี 2552 ระหว่างทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด กับ ทีมการท่าเรือไทยไทย เอฟซี เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อประเมินว่าจะสามารถใช้เป็นสนามเหย้านัดแรกของการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี ในวันที่ 24 ก.พ.ได้หรือไม่

โดยทางสโมสรการท่าเรือไทยยืนยันว่า จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ปทุมวันตรวจค้นแฟนบอลแบบคนต่อคน ในศึกการแข่งขันเอเอฟซี คัพ 2010 รอบแรก ที่จะพบกับสโมสรดานัง จากเวียดนาม

สำหรับเกมการแข่งขันฟุตบอลใน รายการ เอเอฟซี คัพ วันพุธนี้ ยังคงต้องรอการอนุญาตจาก นายสมบัติ คุรุพันธ์ อธิบดีกรมพลศึกษาว่าจะให้สนามศุภชลาศัยแข่งขันหรือไม่ ซึ่งหากกรมพลศึกษาไม่อนุญาตให้ใช้สนาม ทางการท่าเรือไทยอาจเปลี่ยนไปใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานแข่งขันแทน โดยเบื้องต้นค่าเสียหายของสนามศุภชลาศัย กรมพลศึกษาประเมินค่าใช้จ่ายไว้ประมาณ 800,000 บาท.

แหล่งข่าว :: http://www.thairath.co.th/

'สะสม'ยืนยัน ไม่ใช่ต้นเหตุ แฟนบอลตีกัน

หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมการท่าเรือ ยืนยันไม่ใช่ต้นเหตุความรุนแรง แต่เป็นความผิดพลาดของหลายฝ่าย ขณะที่ประธานท่าเรือพร้อมลาออกถ้าเกิดเหตุซ้ำขึ้นมาอีก

เมื่อวัน ที่ 22 ก.พ.นายสะสม พบประเสริฐ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมการท่าเรือ เอฟซี ที่ถูกกล่าวหาเป็นหนึ่งในต้นเหตุให้แฟนบอลการท่าเรือยกพวกตีแฟนบอลทีมเมือง ทองฯในการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานก. เปิดใจผ่านรายการเจาะประเด็นทางช่อง 3 เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าไม่ใช่ต้นเหตุความรุนแรงแต่เป็นความผิด พลาดของหลายฝ่าย ขณะที่ประธานท่าเรือพร้อมลาออกถ้าเกิดเหตุซ้ำขึ้นมาอีก

"ความ รุนแรงมันเริ่มขึ้นช่วงที่เมืองทองนำ 2-0 มีการขว้างปาสิ่งของจากแฟนบอลลงมาในสนาม ขณะที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยใช้เพียงแผงเหล็กมากั้นแฟนบอลของทั้ง 2 ทีมเท่านั้น ซึ่งมันดูไม่ปลอดภัยเลย แม้จะเคยบอกเรื่องนี้กับฝ่ายจัดการแข่งขันไปแล้วแต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง แต่อย่างใด"

"ผมมีหน้าที่ควบคุมลูกทีมในสนามเท่านั้น ไม่มีหน้าที่ต้องลงไปห้ามแฟนบอลที่ก่อความวุ่นวายเลย แต่ผมก็รับหน่าที่เข้าไปห้ามปรามพร้อมกับประธานสโมสรเพื่อให้เหตุการณ์คลี่ คลายลง แต่ก็ได้ระดับหนึ่ง ซึ่งผมพยายามอย่างที่สุดแล้ว"

"ผมไม่ได้ ผลักอกกุนซือทีมเมืองทอง แต่ยอมรับว่าผลักอกคุณองอาจ ก่อสินค้า ลองถามคนในสมาคมดูว่าถ้ามีความยุติธรรมพอ พวกเขาจะบอกว่าเรเน หัวหน้าผู้ฝึกสอนเมืองทองผลักอก มีอยู่จังหวะหนึ่งที่นักฟุตบอลจะเตะบอลออกเพราะมีผู้เล่นเจ็บในสนาม โดยมารยาทก็ต้องเตะบอลออก แต่ผู้ตัดสินให้เป็นลูกฟาวล์จนเป็นเหตุให้เสียประตูแรก พอเสียประตูนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าทำไมนักเตะเมืองทองไม่เตะบอลทิ้ง แต่ไม่เป็นไรผมแพ้ก็เป็นผู้แพ้ที่ดี"

"พอเสียประตูที่ 2 แฟนบอลการท่าเรือเริ่มไม่พอใจ มีการขว้างปาสิ่งของลงมาในสนาม ผมก็เดินไปห้ามเพื่อให้มันสงบ และทำอย่างเต็มที่เพื่อให้มันจบ พอเดินกลับมาก็เข้าไปคุยกับผู้ตัดสินว่าทำพลาดไปนะ ซึ่งไม่มีอารมณ์ที่รุนแรงอะไรเลย จากนั้นเรเนปรี่เข้ามาด่าเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งธรรมชาติของกุนซือมักไม่ค่อยมีปากมีเสียงกัน แต่ผมกลับโดนใส่เป็นชุด"

"และ ที่ผมออกอาการก็คือว่าทำไมไม่ห้ามฝั่งโน้น เพราะฝั่งนั้นกระหน่ำมาอย่างเดียว และยั่วยุผมตลอดเวลา ซึ่งผมไม่ใช่พระอิฐพระปูน ผมยอมรับว่าทำพลาดที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ต้องขอโทษแฟนบอลด้วย และผมยังเห็นเรเนผลักอกเลขาฯสมาคมฟุตบอลจนกระเด็นในจังหวะที่จะเข้าไป เคลียร์เหตุการณ์ ซึ่งผมว่าเขาไม่น่าทำเพราะทีมตัวเองนำอยู่ 2-0 แล้ว"

"ฝ่าย จัดการแข่งขันหรือตำรวจคุมสถานการณ์ไม่ดีทำให้เหตุการณ์บานปลาย ซึ่งผมพยายามช่วยเต็มที่แล้ว และภูมิใจในนักเตะของตัวเองที่คล้องแขนกันเพื่อกันแฟนบอลเข้ามาทำร้าย"

"ใน ปัจจุบันการแข่งขันฟุตบอลของไทยมีความเข้มข้นมากขึ้น ต้องการชัยชนะเป็นหลัก การทำฟุตบอลแล้วต้องเสียพี่เสียเพื่อนเป็นเรื่องที่ผมเสียใจมาก การทำงานสักชิ้นแล้วต้องเสียเพื่อน อย่าดีกว่า ผมไม่ได้พูดกับใคร ไม่มีสิทธิ์พูดกับใคร เพราะฉนั้นผมยอม ยอมแพ้แล้ว ปล่อยให้สถานการณ์มันผ่านไปแล้วมาแก้ไขกันดีกว่า"

"ส่วนเรื่องการนำ พลุเข้าสนามนั้นผมได้คุยกับผู้จัดการทีมเมืองทองแล้วว่ากองเชียร์ท่าเรือไม่ เหมือนทีมอื่น มีช่องเล็กๆ ก็สามารถนำเข้ามาได้ ได้เตือนฝ่ายจัดการแข่งขันให้ระวัง ผมยังเคยหาทางปิดช่องเพื่อไม่ให้ส่งของกันเลย แต่ไม่แน่ใจว่าวันนั้นทำหรือเปล่า ถ้ามีกฏห้ามนำเข้าก็ต้องห้าม ผมไม่เคยสนับสนุนให้เอาพลุเข้าสนามเลย เพราะถ้าเอาเข้ามาถึงจะเป็นสีสันแต่มันอาจสร้างปัญหานะ"

"การที่แฟน บอลของท่าเรือไปตีคนอื่น สโมสรต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว มันน่าอับอายอยู่แล้ว แต่ผมควบคุมทีมในสนามเท่านั้น ตอนจบการแข่งขันตำรวจยังเชิญผมไปพูดกับแฟนบอลหน้าสนามด้วยซ้ำ ซึ่งผมทำทุกอย่างเพื่อให้เหตุการณ์สงบ ให้มันจบ และผมไม่ใช่คนที่มีนิสัยยั่วยุ"

"สำหรับบทลงโทษที่ทีมท่าเรือจะโดน นั้น จะเป็นการตัดแต้มก็ไม่ว่ากัน ซึ่งมันขึ้นอยู่กับไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกและสมาคมฟุตบอลจะมองแบบไหน ถ้าลงโทษหนักไป แฟนบอลท่าเรือรับได้ไหม ถ้าลงโทษเบาไป แฟนบอลเมืองทองรับได้ไหม มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะตัดสินเรื่องนี้ถ้าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในการ แข่งขันไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกผมพร้อมให้จัดการยังไงก็ได้"

"ในวันพุธ ที่จะเตะเอเอฟซีคัพ กับดานังถ้าในสนามไม่มีแฟนบอลของทีมท่าเรือผมบอกได้เลยว่ามีแต่เจ๊งกับเจ๊ง เพราะต้องใช้เงินอย่างน้อยเป็นล้าน เพราะเราอยากให้มีแฟนบอลเข้ามาเชียร์ ซึ่งเรามีมาตรการดูแลตรงนั้นอยู่แล้วเพื่อการันตีถึงความปลอดภัย"

"ผม ว่าเป็นเรื่องที่เลยเถิดกับกรณีที่เมืองทองจะไม่ยอมแข่งกับท่าเรือแล้วยอม เสีย 6 แต้มเพราะกีฬาก็คือกีฬา จะอ้างว่ากลัวคงไม่ได้ เพราะถ้าไม่ยอมลงแข่งอาจจะโดนมากกว่านั้นก็ได้ ต้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดการในเรื่องนี้"

"ในท้ายที่สุดผมก็ยังยืนยันว่าตัวเองไม่ผิดเพราะมีหน้าที่ควบคุมนักเตะในสนาม ไม่มีการยั่วยุใครทั้งนั้น ไม่ได้แตะตัวใครเลย"

ส่วน ความคืบหน้าเรื่องการลงโทษ นายพิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสรทีมการท่าเรือไทย เปิดแถลงข่าวกรณีเหตุการณ์ที่แฟนบอลท่าเรือไทย ฯก่อเหตุจลาจล และทำร้ายแฟนบอลเมืองทองฯ ยูไนเต็ดว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งต้องขอโทษแฟนบอลทีมเมืองทองฯ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่าหลังจากเกิดเหตุ สโมสรเหมือนตกเป็นจำเลยของสังคม

นาย พิเชฐ กล่าวต่อว่า "อยากให้แฟนบอลทั่วประเทศเข้าใจว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นจากแฟนบอลกลุ่มเล็กเท่านั้น ไม่อยากให้เหมารวมว่าแฟนบอลสโมสรการท่าเรือก่อการจราจลทั้งหมด รวมทั้งอยากวอนให้คนในวงการฟุตบอลด้วยกัน หยุดย่ำยีและซ้ำเติมการท่าเรือด้วย เพราะพวกเราไม่ใช่โจร ส่วนมาตรฐานต่อแฟนบอลที่ทำผิดนั้น ได้เตรียมมาตรการลงโทษไว้เรียบร้อยแล้ว แต่พร้อมจะให้โอกาสคนที่ทำผิดได้กลับตัวเสมอ"

นอกจากนี้ สโมสรยังพร้อมที่จะเป็นแกนนำในการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจกับแฟนบอลให้เรียนรู้การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยด้วย

"สำหรับ มาตรการที่สมาคมฟุตบอลฯ จะลงโทษแฟนบอลทีมสิงห์เจ้าท่าห้ามเข้าชมเกมการแข่งขันเอเอฟซี คัพ รอบแรก ระหว่างการท่าเรือ พบกับ สโมสรดานัง จากเวียดนาม ที่สนามศุภชลาศัย ในวันที่ 24 ก.พ.นั้น ต้องยอมรับว่าเป็นมาตรการที่รุนแรงเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม ก็พร้อมยื่นอุทธรณ์เพื่อช่วยให้แฟนบอลได้มีโอกาสเข้าร่วมชมในเกมนี้ แต่ถ้าผลออกมาว่าสมาคมฟุตบอลยันยืนยันตามมติเดิม ในฐานะที่การท่าเรือไทยฯ เป็นสโมสรที่สังกัดสมาคมฟุตบอลก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม แต่ก็พร้อมเดินหน้าต่อสู้เพื่อความถูกต้องและความยุติธรรมของทีมให้ดีที่สุด " บิ๊กเชฐ กล่าว

ประธานสิงห์เจ้าท่า กล่าวอีกว่า สำหรับเกมการแข่งขันเอเอฟซี คัพ ในวันพุธนี้ ทางสโมสรได้เตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยไว้อย่างเต็มที่และรัดกุม หากเกิดสถานการณ์จลาจลอีกครั้ง ก็พร้อมรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานสโมสรทันที และฝากถึงแฟนบอลรวมถึงสโมสรฟุตบอลอื่นว่า ไม่ต้องกลัว หากมาเยือนสนามของทีมการท่าเรือ จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เรายินดีต้อนรับทุกแฟนบอลทุกคน และขอยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

บิ๊ก เชฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันนี้ได้เรียกแฟนบอลที่กระทำความผิดมาชี้แจงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งตัวเองได้สนับสนุนให้พวกเขาเดินทางไปมอบตัว สน.ปทุมวัน เพื่อชี้แจงเหตุผลที่แท้จริงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ตนพร้อมที่จะรับผิดชอบประกันตัวแฟนบอลหากต้องถูกควบคุมตัวเพื่อ ดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า สโมสรการท่าเรือยังไม่ได้รับรายงานข่าวในทางลบจากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี ซึ่งในวันนี้ได้ไปตรวจความพร้อมของสนามศุภชลาศัยที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี คัพ ในวันพุธนี้

แหล่งข่าว :: http://www.thairath.co.th/

ร็อบโบ้ยกนิ้วซ้อมวันแรกแข้งทีมชาติสุดฟิต

ทีมชาติไทยลงสนามซ้อมวันแรก มีแค่ 14 คน หลัง 6 แข้งเมืองทองฯ ติดภารกิจสโมสร เช่นเดียวกับ สุรัตน์ สุขะ ที่อยู่ออสเตเลีย พร้อมเรียก สมปอง สอแหลบ มาเสียบแทน ณรงค์ชัย วชิรบาล ที่เจ็บยังไม่หาย ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญ่ยกนิ้วนักเตะความฟิตเจ๋ง ขอเติมแค่แท็ก ชม 3 แข้งบางกอกกล๊าสที่เรียกเสริม มีอนาคต พร้อมเปิดโควตาให้ไปอิหร่านด้วย 1 ที่ แถมวันนี้ยังมี สตีฟ ดาบี้ ที่สมาคมสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับทีม มาร่วมแจมอีกด้วย

ความเคลื่อนไหวทีมฟุตบอลทีมชาติ เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนทำศึกฟุตบอลเอเชียน คัพ 2011 รอบคัดเลือกกลุ่ม อี กับอิหร่าน วันที่ 3 มี.ค.นี้ ที่กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน โดยไทย ที่มี 6 แต้ม จะต้องชนะเพื่อจะการันตีในการเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายทันที แต่ถ้าหากเสมอ จะต้องให้เกมคู่สิงคโปร์ที่มี 5 แต้ม ที่จะไปเยือนจอร์แดน มี 4 คะแนน ที่กรุงอัมมัม ประเทศจอร์แดน ในวันเดียวกัน ต้องไม่มีผลแพ้-ชนะ ถึงจะเข้ารอบ แต่ถ้าหากคู่นี้มีผลแพ้-ชนะแล้วไทย ไม่ชนะ จะตกรอบทันที

ล่า สุดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา กลับมาเตรียมทีมฝึกซ้อมกันอีกครั้ง เพื่อเตรียมทีมทำศึก โดยบรรดานักเตะทีมชาติไทย ได้เข้ามารายงานตัวกันทั้งหมด 14 คน ที่ รร.เรดิสัน ในช่วงบ่าย หลังจากเรียก 22 คน ขาดนักเตะจากเมืองทอง 6 คน ทั้ง ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ภานุพงษ์ วงศ์ษา, "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย, ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, กวิน ธรรมสัจจานันท์ และ 2 นักเตะอย่าง สุรัตน์ สุขะ ที่ติดภารกิจกับต้นสังกัดเมเบิร์น วิคตอรี่ ที่ประเทศออสเตเลีย,

ณรงค์ ชัย วชิรบาล ของอินทรีเพื่อนตำรวจที่มีอาการบาดเจ็บขอถอนตัว และทางทีมได้เรียก สมปอง สอแหลบ กองหน้าของการท่าเรือไทย เอฟซี เข้ามาแทน นอกจากนั้น 3 นักเตะดาวรุ่งอย่าง ชาตรี ฉิมทะเล, วิชะยา เดชมิตร, สุรเชษฐ์ งามทิพย์ จากบางกอกกล๊าส มาฝึกซ้อมเช่นกัน ซึ่งนักเตะของเมืองทองฯ จะเดินทางตามไปกาตาร์ เพื่อเก็บตัววันที่ 26 ก.พ.นี้ ขณะที่ชุดแรกจะเดินทางไปก่อนในวันที่ 25 ก.พ.

ในช่วงเย็นได้ เดินทางไปฝึกซ้อมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยมี ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญ่ พร้อม "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม สตาฟฟ์โค้ชที่ สมาคมฟุตบอลฯ เพิ่งแต่งตั้งมาคุมซ้อมเป็นวันแรก แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า สตีฟ ดาบี้ อดีตสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย ที่สมาคมฟุตบอลปรับให้เหลือแค่นักวิชาการของทีม และห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทำทีมชาติไทยชุดใหญ่ ยังคงมาช่วย ไบรอัน ร็อบสัน คุมซ้อมเหมือนปกติ

โดยการฝึกซ้อม เน้นไปที่การวอร์มเบาๆ และเล่นฟุตบอลสนามเล็ก ทั้งจังหวะเข้าทำต่างๆ โดยใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง มีแค่ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่มีอาการบาดเจ็บที่ต้นขาขวา ส่วน ณัฐพงษ์ สมณะ ส้นเท้าซ้ายโดนรองเท้ากัด ได้แค่วิ่งวอร์มเบา

ทาง "เสี่ยแฮ๊งค์" อนุชา นาคาสัย ผจก.ทีมชาติไทย กล่าวว่า ในเรื่องของ สตีฟ ดาบี้ ผมอยากให้มองว่า เขามาเพราะเป็นเพื่อนของ ไบรอัน ร็อบสัน ซึ่งถือว่า มาเป็นเพื่อนคุยภาษาเดียวกัน และทีมเราต้องการทีมเวิร์ก มีผู้ช่วยน่าจะทำให้อะไรดีขึ้น

ผจก.ทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า การเดินทางไปครั้งนี้ จะต้องเจอกับสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นอย่างแน่นอน ทีมเราได้เตรียมเสื้อแข่งแขนยาว พร้อมกับเสื้อซับในเพื่อให้ร่างกายอุบอุ่นมากที่สุด ผมเองเชื่อว่า ถ้าหากเกมนี้ นักเตะเล่นด้วยความมุ่งมั่น สิ่งที่ได้รับหลังชัยชนะจะคุ้มค่าต่อต่อเอง และวงการฟุตบอลอย่างมหาศาล และเชื่อว่ามีโอกาสทำได้สูงด้วย"

ขณะที่ ไบรอัน ร็อบสัน กล่าวว่า ได้ดูสภาพความฟิตของนักเตะถือว่าโอเคมากๆ เพราะทุกคนฝึกซ้อมกับสโมสรมาตลอด แต่ปัญหาตอนนี้นักเตะอย่าง ณัฐพงษ์ สมณะ, เทิดศักดิ์ ใจมั่น ยังมีอาการบาดเจ็บ แต่อีกสัก 2 วัน น่าจะหายทันฝึกซ้อมแน่

ส่วน 3 นักเตะดาวรุ่งของบางกอกกล๊าส ที่เรียกมาเสริมเพื่อฝึกกับทีม ถือว่ามีฝีเท้าดี อนาคตน่าจะเป็นกำลังสำคัญกับทีมชาติอย่างแน่นอน คิดว่าในการเดินทางไปอิหร่านครั้งนี้ จะหนีบ 1 ใน 3 คนไปด้วย จะเป็นใครขอดูอีกครั้ง" ร็อบสัน กล่าวปิดท้าย

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

เมืองทองฯบินชุดแรกบุกฮองกงลุยเอเอฟซีคัพ

ทีม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ยกทัพใหญ่ชุดแรกบินสู่ ฮองกง เตรียมสู้ศึกลูกหนัง เอเอฟซี คัพ กับทีม เซาส์ไซน่า แล้ว นำโดย เรเน่ เดอร์ซาเยียร์ กุนซือใหญ่ และ "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไป ส่วนชุดสองจะบินตามไป 23 ก.พ. นี้ "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ขอลืมเรื่องร้ายจากศึกถ้วย ก. มุ่งให้นักเตะมีสมาธิกับเกม ย้ำต้องเก็บ 3 แต้ม เพื่อเป็นที่ 1 ให้ได้ พร้อมเป็นของขวัญไปปลอบใจแฟนบอลที่โดนทำร้ายให้ได้

ความเคลื่อนไหวของทีม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ยกพลบินสู่ประเทศฮองกง เพื่อเตรียมลุยศึกฟุตบอล "เอเอฟซี คัพ" กับทีม เซาส์ไซน่า แล้ว ซึ่งจะลงสนามฟาดแข้ง วันที่ 24 ก.พ.นี้

โดยมี เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือใหญ่ พร้อมด้วย "เสี่ยเป้า" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไป และนักเตะ 14 คน ซึ่งเป็นชุดแรกนำโดย ธีรเทพ วิโนทัย, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ภานุพงษ์ วงษ์ศา ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชม. จึงถึงที่หมาย ก่อนที่จะเข้าพักที่ รร.ลีเกิ้ล ริเวอร์ไซส์ ทันที ส่วนนักเตะเมืองทองชุดที่สอง จะออกเดินทาง วันที่ 23 ก.พ.นี้

"เสี่ยเป้" ยันทีมพร้อมรบเต็มสูบ

จากการเปิดเผยของ "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไป ของเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ถึงความพร้อมของทีมว่า ตอนนี้ยอมรับว่า ทีมยังลืมเหตุการณ์ไม่ดี ในบอลถ้วย ก.ไม่ได้ แต่อย่างไรตอนนี้ เรามีเป้าหมายในรายการเอเอฟซีคัพ เราต้องกลับมามีสมาธิให้ได้ ในส่วนของความพร้อม ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่อากาศที่ฮองกง จะเย็นนิดหน่อย ประมาณ 18 องศา แต่คงจะไม่ส่งผลอะไรกับทีม เชื่อว่าเกมนี้จะสนุก

ขอ 3 แต้มปลอบขวัญแฟนบอล

นอกจากนั้น ผจก.ทั่วไป ของทีมเมืองทองฯ ยังได้กล่าวว่า สำหรับทีมเซาส์ไชน่า ยอมรับว่า คงจะประมาทไม่ได้ เพราะพวกเขามีตัวนอกหลายคน สำหรับเป้าหมายของเกมนี้ไม่มีทางเลือก นอกจาก 3 แต้ม เพราะเราต้องการเป็นที่ 1 ในสายรวมทั้งเกมนี้ นักเตะอยากที่จะได้รับชัยชนะ เพื่อไปปลอบขวัญแฟนบอล ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกม ถ้วย ก. ที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะเป็นของขวัญล้ำค่า ที่แฟนบอลอยากได้มากที่สุดในตอนนี้

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

สถิตย์ครวญหมูป่ายังไร้สปอนเซอร์หนุนทีม

"น้าถิตย์" สถิตย์ ทวีนุช ยอดผู้จัดการทีมของ "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี ออกมาโอดครวญ ทีมยังไร้สปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุน พร้อมยังได้แสดงความมั่นใจว่าสามารถควบคุมแฟนบอลให้อยู่หมัดได้

ความเคลื่อนไหวของ "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี น้องใหม่แห่งศึกดิวิชั่น 1 ที่ตกชั้นลงมาจากไทยพรีเมียร์ลีก ล่าสุดทาง "น้าถิตย์" สถิตย์ ทวีนุช ผู้จัดการทีม ได้ออกมาเผยถึงปัญหาในเรื่องสปอนเซอร์ที่ยังไม่มีเข้ามาสนับสนุนว่า "ในตอนนี้ทีมนครปฐมยังคงไม่มีสปอนเซอร์รายใดเข้ามาสนับสนุนทีม โดยงบประมาณทุกบาททางทีมงานและผู้บริหารเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ซึ่งนับว่าสร้างปัญหาให้เราเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากมีผู้สนับสนุนท่านใดสนใจเข้ามาช่วยเหลือทีมก็ขอให้ติดต่อเข้ามา ได้ เพราะศักยภาพทีมของเราต้องบอกว่าไม่เป็นสองรองใครในลีกดิวิชั่น 1 ดังนั้นหากมีเงินทุนเข้ามาช่วยเหลือทีม เชื่อว่า นครปฐม เอฟซี มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จได้"

มั่นใจคุมแฟนบอลอยู่หมัด

พร้อมกันนั้น "น้าถิตย์" ยังได้กล่าวถึงมาตรการป้องกันเหตุความรุนแรงในสนามเหย้าของตนเองว่า "ที่สนามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ซึ่งเป็นสนามเหย้าของทีมเรา ผมมั่นใจว่ามีระบบการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาและรัดกุมมากเพียงพอ แต่อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยหากการแข่งขันเปิดฉากขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมยืนยันว่าจะมีหน่วยทหารและตำรวจเข้ามาป้องกันอย่างเพียงพอแน่นอน ดังนั้นทุกฝ่ายวางใจได้ ทีมนครปฐมสามารถควบคุมแฟนบอลได้อยู่หมัดแน่นอน"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

สถิตย์ครวญหมูป่ายังไร้สปอนเซอร์หนุนทีม

"น้าถิตย์" สถิตย์ ทวีนุช ยอดผู้จัดการทีมของ "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี ออกมาโอดครวญ ทีมยังไร้สปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุน พร้อมยังได้แสดงความมั่นใจว่าสามารถควบคุมแฟนบอลให้อยู่หมัดได้

ความเคลื่อนไหวของ "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี น้องใหม่แห่งศึกดิวิชั่น 1 ที่ตกชั้นลงมาจากไทยพรีเมียร์ลีก ล่าสุดทาง "น้าถิตย์" สถิตย์ ทวีนุช ผู้จัดการทีม ได้ออกมาเผยถึงปัญหาในเรื่องสปอนเซอร์ที่ยังไม่มีเข้ามาสนับสนุนว่า "ในตอนนี้ทีมนครปฐมยังคงไม่มีสปอนเซอร์รายใดเข้ามาสนับสนุนทีม โดยงบประมาณทุกบาททางทีมงานและผู้บริหารเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ซึ่งนับว่าสร้างปัญหาให้เราเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากมีผู้สนับสนุนท่านใดสนใจเข้ามาช่วยเหลือทีมก็ขอให้ติดต่อเข้ามา ได้ เพราะศักยภาพทีมของเราต้องบอกว่าไม่เป็นสองรองใครในลีกดิวิชั่น 1 ดังนั้นหากมีเงินทุนเข้ามาช่วยเหลือทีม เชื่อว่า นครปฐม เอฟซี มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จได้"

มั่นใจคุมแฟนบอลอยู่หมัด

พร้อมกันนั้น "น้าถิตย์" ยังได้กล่าวถึงมาตรการป้องกันเหตุความรุนแรงในสนามเหย้าของตนเองว่า "ที่สนามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ซึ่งเป็นสนามเหย้าของทีมเรา ผมมั่นใจว่ามีระบบการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาและรัดกุมมากเพียงพอ แต่อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยหากการแข่งขันเปิดฉากขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมยืนยันว่าจะมีหน่วยทหารและตำรวจเข้ามาป้องกันอย่างเพียงพอแน่นอน ดังนั้นทุกฝ่ายวางใจได้ ทีมนครปฐมสามารถควบคุมแฟนบอลได้อยู่หมัดแน่นอน"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ศรีราชาเตรียมใช้ทหารเรือคุมเข้มแฟนบอล

"เสี่ยหน่อง" วีระศักดิ์ หวังกุศล ผู้จัดการทีม "บลูมาร์ลิน" ศรีราชา เอฟซีออกมาเผยว่าสโมสรเตรียมนำทหารเรือเข้ามาดูแลความสงบในสนาม และจะไม่ให้มีการขายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในวันแข่งขันเด็ดขาด พร้อมเตรียมตัวเดินทางไปเก็บตัวที่โคราช

ความเคลื่อนไหวของ "บลูมาร์ลิน" ศรีราชา เอฟซี อีกหนึ่งทีมน้องใหม่ที่ตกชั้นลงมาจากไทยพรีเมียร์ลีก ล่าสุดทางด้าน "เสี่ยหน่อง" วีระศักดิ์ หวังกุศล ผู้จัดการทีม ได้ออกมากล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยของสโมสรว่า "หลังจากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นที่สนามศุภชลาศัย เราได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับปัญหาเหล่านั้น โดยทางสโมสรเตรียมที่จะให้ทหารเรือจำนวนหลายสิบนายเข้ามาดูแลความเรียบร้อย ภายในสนามแข่งขัน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะช่วยควบคุมความรุนแรงได้ ดังนั้นทุกฝ่ายคงไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องปัญหาแฟนบอลก่อความวุ่นวาย"

เข้มไม่ขายเหล้า,เบียร์วันแข่ง

โดยทาง "เสี่ยหน่อง" ยังได้กล่าวเสริมไปอีกว่า "พร้อมกันนั้น เราเตรียมที่จะมีการตรวจตราอย่างเข้มงวดในเรื่องการห้ามขายเหล้า, เบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท เพราะผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ขึ้น อย่างไรก็ตาม การจะควบคุมให้ร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่อย่างน้อยเราจะขอทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้"

พร้อมเก็บตัวโคราช 6-10 มี.ค.

สุดท้ายผู้จัดการทีมศรีราชา เอฟซี ยังได้กล่าวถึงความพร้อมของทีมในขณะนี้ว่า "ในตอนนี้ ศรีราชา เอฟซี นับว่ามีสภาพทีมที่ค่อนข้างพร้อมพอสมควร เพราะนักเตะทุกคนเริ่มที่จะปรับตัวเข้ากับรูปแบบและระบบการเล่นของทีมได้ แล้ว และคาดว่าในวันที่ 6-10 มี.ค. ที่จะถึงนี้ เราจะยกพลไปเก็บตัวกันที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อทีมในเรื่องสภาพความฟิตและความเป็นทีมเวิร์ก มากขึ้น"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

เชียงรายเตรียมอุ่นเครื่องเพื่อนตำรวจ,เทโรฯ

"กว่างซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด "โค้ชจอน" ขจร ปุณณะเวส กุนซือคนใหม่ เตรียมจะพาทีมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในวันที่ 27 ก.พ. นี้ เพื่อฟาดแข้งนัดอุ่นเครื่องกับอินทรีเพื่อนตำรวจ และบีอีซี เทโรฯ 2 ทีมในศึกไทยลีก พร้อมเชื่อทีมได้ประโยชน์อื้อแน่

ความ เคลื่อนไหวทีม "กว่างซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เพิ่งจะแต่งตั้ง "โค้ชจอน" ขจร ปุณณะเวส อดีตนักเตะทีมชาติไทย ให้ดำรงตำแหน่งเป็นกุนซือคนใหม่นั้น ล่าสุดเตรียมที่จะเดินทางลงมาเก็บตัวกันที่กรุงเทพมหานคร โดยวางโปรแกรมที่จะอุ่นเครื่องกับ 2 ทีมจากไทยพรีเมียร์ลีกอย่าง อินทรีเพื่อนตำรวจ และบีอีซี เทโรฯ

โดยเรื่องนี้ "โค้ชจอน" ได้กล่าวว่า "ตอนนี้ทีมของเรากำลังมองหาโปรแกรมอุ่นเครื่องที่จะใช้ทดสอบควมพร้อมของ ทีมอยู่ ซึ่งในวันที่ 27 ก.พ. นี้ เราจะเดินทางลงมายังกรุงเทพฯ เพื่อเก็บตัวในช่วงสั้นๆ และจะลงเตะนัดอุ่นเครื่องกับสโมสรในไทยลีกอย่าง อินทรีเพื่อนตำรวจ และบีอีซี เทโรฯ โดยแมตช์กับอินทรีเพื่อนตำรวจนั้นเราจะลงเล่นในวันที่ 28 ก.พ. นี้ ส่วนเกมกับเทโรฯ ยังไม่กำหนดวันที่แน่นอน แต่เชื่อว่าทั้ง 2 นัดจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทีมเชียงรายแน่นอน"

สงขลาหวังแชมป์บอลชายแดนใต้ก่อนเปิดด.1

"วัว ชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี ของ บุญเลิศ เอี่ยวเจริญ เฮดโค้ชประจำทีม ได้ออกมาแสดงความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าจะสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอล 5 จังหวัดชายแดนใต้ ที่จะชิงชนะเลิศกับยะลา ในวันที่ 24 ก.พ. ได้อย่างแน่นอน

ทีม "วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี ทีมแกร่งอีกทีมในศึกดิวิชั่น 1 ล่าสุด บุญเลิศ เอี่ยวเจริญ กุนซือใหญ่ ได้ออกมากล่าวถึงความพร้อมของทีมก่อนลงแข่งศึกนัดชิงชนะเลิศรายการ ฟุตบอล 5 จังหวัดชายแดนใต้ กับทีมยะลา ว่า "ตอนนี้สภาพทีมของเรามีความพร้อมสมบูรณ์ในทุกส่วน โดยในแมตช์กับยะลา ในศึกนัดชิงฟุตบอล 5 จังหวัดชายแดนใต้นั้น เรามุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าทีมจะคว้าแชมป์มาครองให้ได้ เพราะรายการนี้เราได้รอคอยมานานถึงเกือบ 1 ปีเต็ม ดังนั้นผมเชื่อว่าคงไม่มีอะไรมาหยุดเราได้แน่นอน"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

แข้งจุฬาฟิตเต็มถังตลาดหลักทรัพย์23ก.พ.นี้

แข้ง "เสือสามย่าน" จุฬา ยูไนเต็ด ฟิตเต็มถัง พร้อมอัดตลาดหลักทรัพย์เรียกความมั่นใจในเกมอุ่นเครื่อง วันที่ 23 ก.พ. นี้ ซึ่ง มนตรี เครือวัลย์ เผยพร้อมให้โอกาสนักเตะทุกคนลงสนาม

ความ เคลื่อนไหวของทีม "เสือสามย่าน" จุฬา ยูไนเต็ด ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ลงทำการฝึกซ้อมกันตามปกติที่สนามจุฬา หญ้าเทียม โดยมี ชนะ ยอดปรางค์ กุนซือใหญ่นำลูกทีมลงทำการฝึกซ้อมอย่างพร้อมหน้า

หลัง เสร็จสิ้นจากการฝึกซ้อม มนตรี เครือวัลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมกล่าวถึงสภาพความพร้อมของทีมขณะนี้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี นักเตะทุกคนมีความฟิตและพร้อมที่จะลงสนามอย่างเต็มที่ ขาดเพียงแค่ วรชัย สุรินทร์ศิริรัตน์ ปราการหลังจอมเก๋าคนเดียวเท่านั้น

"ตอน นี้นักเตะทุกคนอยู่ในสภาพที่ฟิตสมบูรณ์ ขาดเพียงแค่ วรชัย สุรินทร์ศิริรัตน์ คนเดียวเท่านั้น แต่ก็ไม่หนักหนาอะไรมากมาย คาดว่าเปิดฤดูกาลน่าจะหายทัน โดยทีมเรามีการเก็บตัวฝึกซ้อมกันมาอย่างต่อเนื่องหลายเดือน น่าจะพร้อมแล้วในการสู้ศึกดิวิชั่น 1"

นอกจากนี้ผู้ช่วยผู้ จัดการทีมยังได้กล่าวถึงเกมอุ่นเครื่องกับทีมตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 23 ก.พ. นี้ ด้วยว่า ต้องการเน้นความสัมพันธ์ภายในทีม รวมถึงระบบการเล่นที่เข้ากับทีมมากที่สุด "สำหรับเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุดทีมเราเพิ่งเอาชนะทีโอทีฯมาได้ 3-2 ก็ต้องบอกว่าเราเรียกความมั่นใจได้ดีทีเดียว และในเกมที่จะอุ่นเครื่องกับตลาดหลักทรัพย์นั้น เราจะเน้นดูความสัมพันธ์ของทีม รวมทั้งระบบการเล่นต่างๆ ด้วย ซึ่งเชื่อว่าเกมนี้น่าจะเป็นโอกาสให้นักเตะทุกคนได้ลงสนามเพื่อยืดเส้นยืด สาย"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

Sunday, February 21, 2010

ท่าเรือโดนโทษทันที แบนแฟนบอลเข้าชม ศึกลูกหนังเอเอฟซีคัพ

สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) เตรียมบทลงโทษขั้นต้นทันที โดยจะห้ามแฟนบอลการท่าเรือเข้ามาชมเกมเอเอฟซี คัพ นัดแรก รอบแบ่งกลุ่ม ที่ทาง ดานัง จากเวียดนาม จะบุกมาเยือน ในวันพุธที่ 24 ก.พ.นี้ ที่สนามศุภชลาศัย ขณะที่ฝั่งการท่าเรือไทยเอฟซี ออกโรงพร้อมรับผิดชอบแต่โดยดี

ความคืบหน้าของเหตุการณ์จลาจลในสนามระหว่างเกม ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก ที่เมืองทองฯยูไนเต็ด พบกับการท่าเรือไทยเอฟซี ซึ่งรายงานล่าสุดแจ้งว่ามีแฟนบอลกิเลนได้รับ บาดเจ็บราว 20 คน โดยส่วนใหญ่ถูกของแข็งฟาดเข้าที่ลำตัว รวมถึงสะเก็ดจากพลุของฝั่งท่าเรือ

หนึ่งในแฟนบอลเมืองทองที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว จนต้องถูกนำตัวส่งไปทำแผลที่โรงพยาบบาลหัวเฉียวว่า รู้สึกผิดหวังกับการทำงานของสารวัตรทหารภายในสนามศุภชลาศัย รวมถึงฝ่ายจัดการแข่งขันที่ปล่อยให้ มีการนำพลุเข้าสนาม

"ที่ผมสงสัยคือเจ้าหน้าที่ส่วน ใหญ่เห็นแฟนบอลถูกกระทืบต่อหน้าต่อตา แต่ไม่ระงับเหตุ ขณะที่เรื่องของการรักษาความปลอดภัย ผมงงมากว่าทำไมฝั่งท่าเรือถึงมีพลุ ,ขวดน้ำ แม้กระทั่งขวดเบียร์ เพราะก่อนเข้าสนามฝั่งหลังประตูเมืองทอง มีการตรวจอย่างเข้มงวด แต่กลับมีพลุมากมายถูกจุดโดยแฟนท่าเรือ" หนุ่มใหญ่วัย 36 ปี ที่ถูกขวดเบียร์ฟาดเข้าที่แขนจนต้องเย็บ 4 เข็มเผย

ขณะเดียวกันกองเชียร์เมืองทองอีกรายที่ไม่ประสงค์จะออกนาม เผยว่า "ผมคิดว่าสโมสรท่าเรือไทยเอฟซี ต้องรับผิดชอบ นี่คือเหตุการณ์ที่เข้าขั้นจลาจล การยิงพลุลงไปในสนามถือเป็นสิ่งที่ น่าประณาม รวมถึงยังมีกองเชียร์ที่เป็นหญิง และเด็กของเราถูกทำร้ายอีกด้วย"

อย่างไรก็ดีกองเชียร์เมืองทองกลุ่มดังกล่าวยืนยันว่าเรื่องที่ เกิดขึ้นเกิดจากคนบางกลุ่มเท่านั้น ไม่ใช่กองเชียร์ท่าเรือทั้งหมด รวมถึงยังมองว่าการแฟนบอลท่าเรือไม่ให้เข้าสนาม น่าจะเป็นบทลงโทษที่สมควรที่สุด ส่วนเรื่องคดีความกองเชียร์ยืนยันว่า จะเข้าแจ้งความพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน

ส่วน ด้านความเคลื่อนไหวล่าสุดของฝั่ง ท่าเรือไทย เอฟซี มีการเปิดเผยจาก เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง รองประธานสโมสร ว่าทีมสิงห์เจ้าท่า พร้อมรับผิดชอบในเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อแฟนบอลทั้งหมด รวมถึงกำลังรอสรุปยอดผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

"เวลานี้เรายังไม่ทราบยอดที่แน่นอนของผู้ที่ได้รับบาด เจ็บ แต่เราพร้อมรับผิดชอบซึ่งจะมีการหารือกับผู้บริหารสโมสรภาย ในไม่เกินวันจันทร์นี้ ส่วนเรื่องเกมเอเอฟซี คัพ รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ที่ทีมมีโปรแกรมพบดานัง จากเวียดนาม ในวันพุธที่ 24 ก.พ.นี้ ที่สนามศุภชลาศัย ต้องรอดูผลการวินิจฉัยจากเจ้าหน้าที่จากสมาพันธ์ ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) อีกครั้งในวันอาทิตย์นี้ (21 ก.พ.)" โดยผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) จะมีบทลงโทษขั้นต้นทันที โดยจะห้ามแฟนบอลการท่าเรือเข้ามาชมเกมนัดนี้

แหล่งข่าว :: http://www.sportpost.net

นายกสั่งเข้มงวดแฟนบอล, ห้ามแฟนเจ้าท่าเชียร์เอเอฟซี

นายกสังเข้มงวดแฟนบอล อย่าดึงวงการตกต่ำ ขณะที่ ส.ฟุตบอลฯ ห้ามแฟนสิงห์เจ้าท่าเชียร์เอเอฟซีคัพ พร้อมขอพระราชทานอภัยโทษ ปธ.สโมสรการท่าเรือฯ รับผิดทุกกรณี พร้อมนำคนผิดมาลงโทษ ส่วนเมืองทองฯ ลั่นไม่ขอเตะด้วยหากทีมไม่ได้ความเป็นธรรม...

ความเคลื่อนไหวกรณี แฟนบอลทีมสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี ก่อเหตุจลาจล และทำร้ายแฟนบอลเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ระหว่างเข้าชมเกมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ส่งผลให้เกมต้องยุติลงในนาทีที่ 81 ขณะที่เมืองทองฯ นำอยู่ 2-0 จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย รวมทั้งยังเกิดเหตุต่อหน้าผู้แทนพระองค์ฯ นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเรียนว่าทุกกรณีต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาความรุนแรง ความจริงวงการฟุตบอลไทยกำลังไปในทางที่ดี เนื่องจากมีแฟนๆมาดูบอลในประเทศมากขึ้น ฉะนั้นอย่าทำให้เกิดปัญหากระทบกระบวนการนี้ ฟุตบอลยุโรปมีช่วงหนึ่งที่ตกต่ำไปมาก เพราะปัญหาจากอันธพาลตีกัน กว่าจะฟื้นขึ้นมาได้ต้องใช้เวลา ดังนั้น อย่าไปซ้ำรอยนั้น และขอให้สโมสรต่างๆได้มีมาตรการที่เข้มงวดกวดขันมากขึ้นเกี่ยวกับแฟนๆของตัว เอง

ด้าน นายองอาจ ก่อสินค้า "บิ๊กเปี๊ยก" เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ ได้โทรศัพท์ข้ามประเทศมาขอข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในแมตช์ดังกล่าว พร้อมทั้งห่วงใยมาก เพราะภาพและข่าวเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ทำให้ภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลไทยที่กำลังดีวันดีคืนถูกทำลายไปด้วย พร้อมกันนี้ มอบหมายให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา อุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ เป็นประธานพิจารณากรณีดังกล่าว ร่วมกับนายอุดม อนันตพงษ์ ประธานฝ่ายพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง เพื่อหาข้อสรุป ในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ. เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย

เลขาธิการสมาคมลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า เบื้องต้นคงต้องมีมาตรการคุมเข้ม ด้วยการห้ามแฟนบอลของการท่าเรือไทยเข้าสนาม แต่ระยะเวลาจะนานแค่ไหน คงต้องอยู่ที่การตัดสินใจของคณะกรรมการที่จะหารือกัน แต่แน่นอนว่า ในเกม "เอเอฟซี คัพ" การท่าเรือไทยจะใช้สนามศุภชลาศัยเป็นสนามเหย้าพบกับ สโมสรดานัง จากเวียดนามในวันที่ 24 ก.พ. ในฐานะที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นสมาชิกของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ "ฟีฟ่า" และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย "เอเอฟซี" คงมีมาตรการห้ามแฟนบอลการท่าเรือเข้าสนาม เพราะถือว่ามีอำนาจเต็มที่สามารถกระทำได้ เพื่อเป็นการปรามของแฟนบอลบางส่วน ที่ยังมีอารมณ์ค้างมาจากเกมที่มีปัญหาด้วย เชื่อว่า สโมสรดานังคงจะร้องขอกรณีนี้ ผ่านมาทางเอเอฟซีด้วยเช่นกัน แม้ตอนนี้จะยังไม่มีปฏิกิริยาจากเอเอฟซีออกมา เนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุด แต่ต้องเตรียมมาตรการต่างๆ ไว้รับมือ และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก เพราะไม่เช่นนั้นภาพของวงการฟุตบอลไทยพังแน่นอน

"อยากฝากเรียนไป ถึงแฟนบอลทุกสโมสรขอให้ช่วยกันป้องกัน และเชียร์อย่างสร้างสรรค์ เชื่อว่าทุกคนรักฟุตบอลไทย และไม่อยากให้ฟุตบอลไทยพังลงไปอีกครั้ง ขณะเดียวกันสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้รับสนองโปรดเกล้าฯจัดการแข่งขัน ต้องทำหนังสือขอกราบบังคมทูล ขอพระราชทานอภัยโทษจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป" เลขาธิการสมาคมลูกหนังไทย กล่าว

พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมีผู้เสียหาย 5 คน ประกอบด้วยแฟนบอลทีมเมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด 4 คน และ แฟนบอลทีมการท่าเรือ 1 คน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเมื่อคืนที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบปากคำ และส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ และราชวิถี พบว่าต่างฝ่ายมีบาดแผลเจ็บฟกช้ำจากการถูกชกต่อยบริเวณใบหน้า และร่างกายเพียงเล็กน้อย หลังเกิดเหตุ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประสานขอภาพจากสื่อมวลชน ช่อง 3 และ ช่อง NBT แล้ว เพื่อดูภาพการแข่งขั้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ กระทั่งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทขึ้น นำมาประกอบรวมรวบพยานหลักฐาน

ผู้ กำกับการ สน.ปทุมวัน กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จะเน้นตัวบุคคลที่เป็นแกนนำในการก่อเหตุ คนที่เริ่มต้นชกต่อยทำร่างกายผู้อื่นก่อน เพื่อขอศาลออกหมายจับตามภาพถ่าย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นรวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ในประเด็นที่ผู้ก่อเหตุทำลายทรัพย์สินต่างๆในสนามกีฬานั้ คงต้องให้ตัวแทนของการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ จากนั้นจะติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไป สโมสรเมืองทองฯยูไนเต็ด กล่าวว่า ขอยืนยันที่จะเป็นตัวแทนของทุกสโมสรเร่งดำเนินการให้สมาคมฟุตบอลฯ ออกกฎระเบียบที่เข้มงวดในฟุตบอลทุกรายการที่จัดแข่งขันในประเทศ รวมทั้งต้องมีบทลงโทษทีมการท่าเรือฯ ในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย มาถึงตอนนี้ถ้าสมาคมฟุตบอลฯยังไม่รีบเร่งดำเนินการให้ความเป็นธรรมแก่ ทีมแฟนบอลเมืองทองฯ ขณะเดียวกันกฎระเบียบ การแข่งขันในอนาคตต้องเข้มงวด และมีบทลงโทษกับทีมการท่าเรือฯ

"ขอยืนยันว่า เมืองทองฯจะไม่ส่งทีมลงแข่งขันกับ การท่าเรือฯในทุกรายการ โ รวมทั้งฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2 นัดเหย้า-เยือนด้วย โดยพร้อมที่จะยอมเสียคะแนนไป 6 แต้มขณะที่ ฟุตบอลถ้วย ก็จะยกชัยชนะให้เลย พร้อม กราบขอโทษสปอนเซอร์ที่สนับสนุนทีมเมืองทองฯด้วย ถ้าปีนี้ ไม่ได้แชมป์ทุกรายการ อันเนื่องมาจากผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว"เสี่ยเป้ กล่าว

ขณะเดียวกัน นายพิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสรการท่าเรือไทยฯ กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ. จะมีการแถลงข่าวที่สนามแพต สเตเดี้ยม เวลา 17.00 น. และเวลา 17.30 น. จะเรียกแฟนบอล การท่าเรือฯ มาพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ความรู้ แฟนบอลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก ตนมีความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะรับผิดชอบทั้งหมดตามที่กล่าวไป และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่สบายใจเลย แต่มันเป็นเรื่องที่เหนือการควบคุม

ประธานสโมสรการท่าเรือไทยฯ กล่าวต่ออีกว่า วอนสื่อมวลชน อย่ามองสโมสรการท่าเรือไทยฯ เป็นจำเลยของสังคม และวงการฟุตบอลไทย เพราะมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ขอยืนยันว่าจะมีการติดตามตัวผู้ที่ก่อเรื่องมาลงโทษอย่างแน่นอน ขณะนี้ตนมีรูปถ่ายทั้งหมดแล้ว เรื่องนี้จะเป็นบทลงโทษของทางสโมสรเอง เพราะต้องการให้เป็นบทเรียนสำหรับแฟนบอลว่าจะต้องไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบ นี้ขึ้นอีก

ส่วน นายวรวุฒิ โรจนพานิช ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ รู้สึกมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงเตรียมลงมาดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสมาคมฟุตบอลฯ คณะกรรมการจัดการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก รวมทั้งตัวแทนของทุกสโมสรมาร่วมหารือ เพื่อแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งหาแนวทางป้องกันร่วมกัน ก่อนที่จะเสนอต่อรัฐบาลและสมาคมฟุตบอลร่วมกันสร้างมาตรฐานต่อไป

แหล่งข่าว :: http://www.thairath.co.th/

จ่อฟันหนักแฟนเจ้าท่า ยอดคนเจ็บเกือบ 40 ราย

หลังจากเกิดเหตุการณ์ แฟนบอล "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี บางกลุ่ม ไล่ทำร้ายร่างกาย แฟนบอล เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ในศึกลูกหนังชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่สนามศุภชลาสัย ยังผลให้ แฟนบอลเมืองทองฯ ได้รับอาการบาดเจ็บกันระนาว ซึ่งเกมการแข่งขันดังกล่าวแม้ไม่จบ แต่ผู้ควบคุมการแข่งขันยกให้ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายชนะ การท่าเรือไทย เอฟซี 2-0 จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้คนทุกภาคส่วน ต่างก็รับไม่ได้

ขณะเดียวกันทีมข่าวสยามกีฬารายวัน ได้รับการเปิดเผยจาก "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผช.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงรูปคดี ที่เร่งดำเนินการหาตัวคนร้ายมาลงโทษให้เร็วที่สุด "เบื้องต้นตนได้รับความร่วมมือ จากสื่อมวลชนทุกช่อง นำเอาภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก มาให้ ซึ่งก็ได้เห็นตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดแล้ว

อย่างไรก็ตามคงจะต้องมีบทลงโทษที่หนัก เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง เหนือสิ่งอื่นใดในอนาคตสมาคมฟุตบอลฯ ต้องดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งเหตุการณ์นี้ ถือว่าความปลอดภัยมันหละหลวมเกินไป ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะปล่อยปละละเลย"

นอกจากนั้นทางด้าน "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไป สโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ยืนยันถึงการที่จะเป็นตัวแทนของทุกสโมสร เร่งดำเนินการให้สมาคมฟุตบอลฯ ออกกฎระเบียบ ซึ่งเข้มงวดในฟุตบอลทุกรายการ ที่จัดแข่งขันในประเทศ รวมทั้งต้องมีบทลงโทษ ทีมการท่าเรือฯ ในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

"มาถึงตอนนี้ ถ้าสมาคมฟุตบอลฯ ยังไม่รีบเร่งดำเนินการให้ความเป็นธรรมแก่ ทีมแฟนบอลเมืองทองฯ ขณะเดียวกัน กฎระเบียบ การแข่งขันในอนาคตต้องเข้มงวด และมีบทลงโทษกับทีมการท่าเรือฯ ตนขอยืนยันว่า เมืองทองฯ จะไม่ส่งทีมลงแข่งขันกับ การท่าเรือฯ ทุกรายการ อาทิ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2 นัดเหย้า-เยือน เราพร้อมที่จะยกให้เลย 6 แต้ม ขณะที่ ฟุตบอลถ้วย เราก็จะยกชัยชนะให้เลย พร้อมกันนั้น ตนกราบขอโทษสปอนเซอร์ ที่สนับสนุนทีมเมืองทองฯ ด้วยถ้าปีนี้ เราไม่ได้แชมป์ทุกรายการ อันเนื่องมาจากผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว"

ชี้โค้ชสะสมอย่าเบี่ยงประเด็น

ผจก.ทั่วไป สโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ยังกล่าวต่อไปอีกว่า "ตนอยากจะฝากถึง "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือของการท่าเรือฯ ซึ่งไม่มีวุฒิภาวะ เพียงพอต่อการทำทีม ซึ่งที่ประชุม ผจก.ทีม ที่สมาคมฟุตบอลฯ เขาก็เป็นคนพูดเองว่า อยากจะขอเป็นกรณีพิเศษให้แฟนบอลการท่าเรือฯ นำเอาพลุเข้าไปจุดในสนามได้เพื่อสร้างสีสัน ซึ่งเราขอประณามต่อแนวคิดของเขา นอกจากนั้น ตนอยากจะให้เขาออกมายอมรับในคำพูด ไม่ใช่เบี่ยงประเด็น ไปที่เรื่องของโค้ชเมืองทองฯ เป็นชนวนเหตุให้เกิดเหตุการณ์ทั้งหมด"

ขณะเดียวกัน "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไปของ สโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้นำกระเช้าผลไม้ไปเยี่ยมแฟนบอลอุลตร้าเมืองทองผู้เคราะห์ร้าย ทั้ง "เลี่ยวเมืองทอง" นายธีรพล ศิระโอภาพร, "ตาหน่อย" นายชาริต หอมนาน, "เป๊กเมืองทอง" นรินทร์ ทีประวิภาต และ สิริกาญจน์ เจริญพันธุ์ ที่บ้านพักย่านนวมินทร์ พร้อมกับกล่าวขอโทษ ที่ไม่สามารถปกป้องแฟนบอลทั้งหมดของเมืองทองฯ ไม่ให้ได้รับอันตรายได้ พร้อมกันนั้นอยากจะให้เหล่า "อุลตร้าเมืองทอง" เป็นศูนย์รวมของแฟนบอลของสโมสรต่อไป"

นอกจากนั้น สิริกาญจน์ เจริญพันธุ์ เหยื่อสาวผู้เคราะห์ร้าย กล่าวกับผู้สื่อข่าวซึ่งอยู่ในอาการสลดหดหู่ ว่า "ผู้หญิงกับฟุตบอล สมัยก่อน มันมีช่องว่างห่างกันมาก แต่มาถึงตอนนี้ ต้องยอมรับว่าเสียดายโอกาสของฟุตบอลไทย ที่กำลังเจริญเติบโตไปด้วยดี ความรู้สึกก่อนหน้านี้ สำหรับตัวเองมีเพียงแค่ การรอให้ถึงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ อย่างใจจดใจจ่อ เพื่อไปเชียร์ทีมเมืองทองฯ มันสวนทางกับความรู้สึกตอนนี้ ที่ไม่เหมือนเมื่อก่อนคือห่วงตัวเองมากกว่า

อยากจะเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในสนามที่เข้มงวดมากกว่านี้ เพราะแฟนบอลอันธพาล เราห้ามเขาไม่ได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อรวมตัวเป็นสาวก "อุลตร้าเมืองทอง" แล้วก็ยังไม่ท้อ พร้อมที่จะเข้าไปเชียร์ทุกนัด"

ด้าน "เลี่ยวเมืองทอง" นายธีรพล ศิระโอภาพร อีกหนึ่งแฟนบอลกลุ่มอุลตร้าฯ ที่เข้าไปช่วยปกป้อง เด็ก, ผู้หญิง ที่โดนทำร้าย จนกระทั่งเจ้าตัวถูกแทงด้วยไขควงเข้าที่ปปลายคาง จนต้องเย็บถึง 11 เข็มกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "หลังจากที่แฟนบอลการท่าเรือฯ กลุ่มดังกล่าว พังรั้วกั้น เข้ามาหา กองเชียร์เมืองทองฯ ที่อยู่ใกล้กัน ตนทนเห็น เด็ก และ ผู้หญิง ถูกทำร้ายไม่ได้ จึงเข้าไปช่วยดึงเอาคนเหล่านั้นออกมา เลยถูกโดนรุมทำร้าย ถึงขนาดที่ก้มกราบขอชีวิต

จังหวะที่แหงนหน้าขึ้น ก็โดนไขควงแทงเข้าไปปลายคางพอดี จริงๆ แล้วเราอยากเห็นฟุตบอลไทยพัฒนาทุกด้าน โดยเฉพาะการเชียร์ อย่างไรก็ตามเบื้องต้น ตนก็คงจะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีต่อไป"

นอกจากนี้ "ครอบครัวเหลืองภูมิยุทธ" ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ทางด้าน นายธานี เหลืองภูมิยุทธ วัย 61 ปี กล่าวว่า "ลูกชายเป็นแฟนบอลเมืองทองฯ ตั้งแต่ ดิวิชั่น 2 เขาเป็นคนเริ่มให้พวกเรารู้ว่าฟุตบอลไทยลีกสมัยนี้ เล่นกันมันส์ ก็ไม่นึกเลยว่า จะต้องมาเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้ ในสนามฟุตบอล ยอมรับว่าเสียใจมากๆ

เช่นเดียวกับ นางจินดามณี เหลืองภูมิยุทธ ภรรยา และ น.ส.จตุพร เหลืองภูมิยุทธ บุตรสาว ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุกครั้งที่ไปดูฟุตบอลไทยลีกมันคือความสนุกสนาน มันเป็นการพักผ่อนรูปแบบใหม่ของคนไทย ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อน อยากให้ สมาคมฟุตบอลฯ และ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงจะเดินทางไปเชียร์เมืองทองฯ ต่อไป"

แฟน "เจ้าท่า" ร่วมประณามแถมยอมรับผิด

ด้าน ยุทธนา แจ่มกระจ่าง แกนนำแฟนบอลการท่าเรือไทยฯ ที่เรียกตัวเองว่า "คลองเตยอาร์มี่" กลุ่มโซน ซี สนามแพท สเตเดี้ยม นั้น ได้ออกมาเผยว่ารู้สึกไม่สบายใจ กับการกระทำของแฟนบอลบางส่วน ที่ทำให้เสื่อมเสียทั้งหมด พร้อมร่วมประณามการกระทำของคนที่วิ่งลงไปไล่กระทืบแฟนบอล เมืองทองฯ โดยแกนนำรายนี้ ขอยอมรับผิด และสัญญาว่าจะพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

"บอกตามตรงว่า มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่แสดงความป่าเถื่อนเช่นนี้ออกมา โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นแฟนบอลขาจร ส่วนขาประจำผมบอกได้เลยว่า ทุกคนเชื่อฟังสิ่งที่ผมพูดหมด คือห้ามไม่ให้ลงไปเพื่อผสมโรง และทุกคนก็เชื่อเนื่องจากแฟนบอลที่รัก การท่าเรือฯ ด้วยใจ ซึ่งแฟนบอลเหล่านี้จะเป็นกลุ่ม "คลองเตยอาร์มี่" โซน ซี สนามแพท สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นขาประจำ และเชียร์การท่าเรือฯ มาตลอด

ผมในฐานะแกนนำไม่รู้จะพูดอย่างไร เนื่องจากคำว่า ขอโทษ ก็คงไม่ทดแทนกับความรู้สึกของแฟนบอล เมืองทองฯ ได้ จึงได้แต่ยอมรับผิดและจะพยายามไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตามขอชื่นชมแฟนบอลส่วนใหญ่ ที่ไม่ไปผสมโรง รวมถึงแฟนบอลที่ลงไปเพื่อห้ามปราม ดังนั้นแสดงให้เห็นว่า พวกที่กระทำนั้นเป็นบุคคลที่ชาวการท่าเรือฯ ไม่ขอยอมรับ และขอร่วมประณามด้วย"

นอกจากนั้น ยุทธนา แจ่มกระจ่าง แกนนำแฟนบอล การท่าเรือฯ ยังได้แสดงสปิริตอีกด้วยว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการตามล่าหาผู้กระทำผิดที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อทางสโมสร จึงฝากบอกร้อยเวรที่ดูแลคดีรวมถึงผู้กำกับ สน.ปทุมวัน ว่าหากต้องการข้อมูลสามารถติดต่อที่ตนได้ตลอด ที่เบอร์ 08-4002-7246 ซึ่งตนยินดีให้ความร่วมมือเสมอ

แกนนำแฟนบอล การท่าเรือฯ "คลองเตยอาร์มี่" โซน ซี สนามแพท สเตเดี้ยม ยังเผยต่ออีกว่า มีโครงการที่จะไปทำบุญกันตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้ว โดยวันที่ 28 ก.พ. นี้ กลุ่มแฟนบอลการท่าเรือฯ จะไปทำบุญที่บ้านครูน้อย ด้วยการไปมอบสิ่งของให้กับเด็กๆ และเลี้ยงอาหารกลางวัน จึงอยากฝากให้แฟนบอลที่ต้องการจะร่วมสร้างกุศลครั้งนี้ สามารถติดต่อมาได้ และหากใครจะนำสิ่งของไปร่วมแจกก็ยินดีเสมอ

พิเชฐ เตรียมแถลงจันทร์นี้ 5 โมง

ด้าน พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสร การท่าเรือไทยฯ ได้เผยกับผู้สื่อข่าวสยามกีฬา ว่าในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ. นี้ จะมีการแถลงข่าวที่สนามแพท สเตเดี้ยม เวลา 17.00 น. และเวลา 17.30 น. จะเรียกแฟนบอล การท่าเรือฯ มาเพื่อพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้ความรู้กันแฟนบอลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีอย่างนี้ขึ้นอีก ซึ่งตนยอกรับว่ามีความเป็นลูกผู้ชายพอ ที่จะรับผิดชอบทั้งหมดตามที่กล่าวไป

นอกจากนั้นประธานสโมสรของ "สิงห์เจ้าท่า" ยังได้เผยด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้สบายใจแต่อย่างใด ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เหนือการควบคุม อย่างไรก็ตามตนขอวอนสื่ออย่ามองว่า การท่าเรือไทยฯ เป็นจำเลยของสังคม และวงการฟุตบอลไทย ทั้งนี้มีหลายปัจจัย ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

"ผมในฐานะประธานสโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทยฯ เป็นคนนึงที่อยากพัฒนาวงการฟุตบอลไทย จึงได้ทำทุกอย่างเพื่อเป็นไปแนวทางเดียวกัน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สนามศุภฯ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ทุกคนทำเต็มที่แล้ว

อีกทั้งปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุก็มีหลายอย่างด้วยกัน และอยากขอบอกทุกคนเลยว่า การท่าเรือฯ ไม่ใช่จำเลยของสังคม โดยเฉพาะสื่อฯ โปรดอย่าทำข่าวที่เป็นการโจมตีทีมการท่าเรือฯ ซึ่งผมต้องขอโทษจริงๆ กับเหตุการณ์ดังกล่าว และโปรดอย่ามาซ้ำเติมกันอีกเลย"

ขณะที่แฟนบอล "สิงห์เจ้าท่า" ที่ลงไปทำร้ายร่างกายแฟนบอลคู่แข่งนั้น ทาง พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสร เผยว่า ตอนนี้ตนมีรูปถ่ายไว้หมดแล้ว และจะมีบทลงโทษแฟนบอลตนเองอย่างแน่นอน

"นี่เป็นเรื่องของสโมสรที่จะต้องมีการลงโทษกันเอง ซึ่งผมมีรูปและเห็นชัดเจนว่ามีใครบ้าง ดังนั้นจะมีการติดตามตัวเพื่อมาลงโทษอย่างแน่นอน โดยเรื่องนี้จะเป็นบทลงโทษของทางสโมสรเอง เนื่องจากต้องการให้เป็นบทเรียนสำหรับแฟนบอลว่าจะต้องไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์ แบบนี้ขึ้นอีก"

ด้าน เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง รองประธานสโมสร การท่าเรือไทยฯ ออกมาเผยถึงการตรวจสนามศุภชลาศัยของ เอเอฟซี และผู้ควบคุมการแข่งขัน ที่สโมสร การท่าเรือฯ จะใช้เป็นสังเวียนแข้งหวดกับ ดานัง ยอดทีมจากเวียดนาม ในศึกเอเอฟซี คัพ ในวันพุธที่ 24 ก.พ. ว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะการแข่งขันถ้วยเอเชีย ไม่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันในประเทศ แต่ยอมรับว่าอาจจะมีผลจากเหตุการณ์เมื่อวาน ซึ่งคงต้องลุ้นกันอีกที หลังจากที่เอเอฟซีจะเข้ามาตรวจในเช้าวันจันทร์นี้

"ยังไม่ทราบว่าทาง เอเอฟซี จะมาตรวจสนามเมื่อไหร่ ระหว่างเย็นวันอาทิตย์กับเช้าวันจันทร์ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้ จะมีผลต่อการตัดสินใจของ เอเอฟซี เนื่องจากเป็นคนละทัวร์นาเมนต์กัน แต่ก็อดห่วงไม่ได้ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ การท่าเรือฯ ไม่เคยประสบมาก่อน ซึ่งต้องดูกันว่ามีจะผลมากแค่ไหน"

"อย่างไรก็ตาม หากสนามศุภชลาศัยไม่ผ่านการตรวจ ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากกตอนส่งชื่อสนามไปให้ เอเอฟซี นั้น เราส่งชื่อสนามราชมังคลากีฬาสถานเป็นสนามสำรอง ดังนั้นรับรองได้ว่า การท่าเรือฯ มีสนามแข่งขันแน่นอน"

สรุปยอดคนเจ็บ 6 รพ. เกือบ 40 คน

นอกจากนั้น จากการเช็กล่าสุด จากโรงพยาบาลใกล้เคียง ประกอบไปด้วย รพ.หัวเฉียว, รพ.กลาง, รพ.ราชวิถี, รพ.จุฬา และ รพ.ตำรวจ นั้น ปรากฏว่ามีผู้เข้ามารับการรักษารวมเกือบ 40 คนด้วยกัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแฟนบอล เมืองทองฯ ทั้งสิ้น โดย รพ.เปาโล ย่านโชคชัย 4 เยอะที่สุด มีจำนวน 20 คน, รพ.ตำรวจ 8 คน, รพ.จุฬาฯ 4 คน, รพ.หัวเฉียว 2 คน, รพ.ราชวิถี 1 คน และรพ.กลาง ที่ไม่สามารถบอกจำนวนได้ แต่คาดว่าไม่น้อยกว่า 5 คน

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสยามกีฬา ได้ทำการโทรศัพท์ไปสอบถามตามโรงพยาบาลดังกล่าว แต่ไม่สามารถให้ข้อมูลที่แน่ชัดได้ เนื่องจากเป็นความลับของทางราชการ นอกจากนั้นยังมีอีกหลายโรงพยาบาล ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากแฟนบอลของทั้งสองทีม ที่ได้รับบาดเจ็บ ต่างแยกย้ายไปตามโรงพยาบาลอื่นๆ ทั่วกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตามทุกคนที่เข้ารับการรักษาไม่มีอาการสาหัส โดยสามารถกลับบ้านได้ทุกคน มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ถึงขั้นเย็บแผล

ทั้งนี้หลังจากที่ทราบว่าไม่มีใครเสียชีวิต ทำให้ผู้บริหารของทั้งสองทีม, แฟนบอล รวมถึงผู้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดรู้สึกโล่งอก เนื่องจากภาพข่าวที่ออกไปนั้น หลายคนหนีเอาชีวิตรอดด้วยการกระโดดลงมาจากอัฒจันทร์ บางคนถูกเบียดจนไม่สามารถขยับตัวหนีไปไหนได้ แต่เมื่อทราบว่าทุกคนปลอดภัย ทำให้ทุกฝ่ายมีความสบายใจขึ้น

ขณะที่ ร.ต.ท.พิเชฐ พรมแก้ว ร้อยเวรเจ้าของคดี สังกัด สน.ปทุมวัน ได้เผยว่า มีผู้มาแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันจำนวน 7 คน โดยทั้งหมดมาแจ้งว่าถูกทำร้ายร่างกายเท่านั้น โดยไม่มีการแจ้งของหายแต่อย่างใด ก่อนจะส่งตัวไปรักษาและทำแผลที่ รพ.ตำรวจ ทั้งนี้จากรายการข่าวที่ออกไปว่ามีการถูกขโมยโน้ตบุ๊กนั้น เป็นเพียงแค่การป้องกันตัวเฉยๆ ซึ่ง ร.ต.ท.พิเชฐ เผยว่า ไม่สามารถบอกได้ว่า คนที่มาแจ้งความรายนี้นั้นชื่ออะไร เนื่องจากมีผลต่อรูปคดี

ส่วน พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผู้กำกับ สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า จากที่เจ้าทุกข์มาแจ้งนั้นรวมถึงภาพข่าวต่างๆ บอกได้เลยว่าเป็นคดีทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นคดีอาญาที่ยอมความกันไม่ได้ ดังนั้นจึงจะขอเทปจากสื่อทุกแขนงให้ความร่วมมือเพื่อนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ให้ถึงที่สุด

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

บุรีรัมย์ยำใหญ่4-1,ผีตาโขนเฉือนหวิว4-3ด.2อีสาน

บุรีรัมย์ เอฟซี เปิดบ้านถล่ม "เรือไฟพิฆาต" นครพนม เอฟซี มันส์หยด 4-1 แถมเกมเดือด นักเตะโดนตะเพิดออกฝั่งละคน ขณะที่ "ผีตาโขนออกศึก" เลย ซิตี้ ยังไว้ลายแชมป์เก่า ยกทัพเฉือน น้องใหม่ "ปลาไหลไฟฟ้า" หนองบัวลำภู ยูไนเต็ด หืดจับ 3-2 ศึกลูกหนังลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ภาคอีสาน เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา

บุรีรัมย์ เอฟซี 4-1 นครพนม เอฟซี

ที่สนาม ม.ราชภัฏบุรีรัมย์ ทีมบุรีรัมย์ เอฟซี เปิดบ้านพบกับ "เรือไฟพิฆาต" นครพนม เอฟซี โดยเกมนี้ทั้งสองทีม ส่งตัวหลักลงสนามอย่างพร้อมหน้า เริ่มเกมทั้งสองทีมเปิดเกมเข้าใส่กันอย่างสนุก ผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่เป็นทีมเจ้าบ้านบุรีรัมย์ เอฟซี ที่ทำได้ดีกว่า และมาได้ประตูออกนำ น.2 จากการยิงของ รณกฤษ ธัญญานนท์ บุรีรัมย์ เอฟซี ออกนำ 1-0

ครึ่งหลัง น. 86 จิรายุทธ เพิ่มพูล ผู้เล่นของทีมนครพนม เอฟซี โดนใบแดง หลังจากนั้นเกมยังเป็นทีมเจ้าบ้านที่เหนือกว่า น.87 เจตษ์ชัย ศรีโพธิ์ดก ก็หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงให้เจ้าถิ่นนำเป็น 2-0 เกมยังเป็นทีมบุรีรัมย์ เอฟซี ที่เล่นได้เหนือกว่า และมาบวกประตูเพิ่ม น. 89 จากการยิงของ อนุกรณ์ ส่งรัมย์ บุรีรัมย์นำห่างเป็น 3-0

หลังจากนั้นทีมนครพนม เอฟซี มาได้ประตูตีไข่แตก น.90 จากการยิงของ สรรักษ์ พรหมแมน ทำให้ นครพนม เอฟซี ตามมาเป็น 3-1 ช่วงทดเวลาเจ็บ เป็นทีมเจ้าบ้าน บุรีรัมย์ เอฟซี มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะ จากการยิงของ ศุภกิจ จินะใจ จบเกมทีมบุรีรัมย์ เอฟซี เอาชนะ นครพนม เอฟซี ไปได้อย่างท่วมท้น 4-1

หนองบัวลำภู ยูไนเต็ด 2-3 เลย ซิตี้

ที่สนามกีฬากลางจังหวัดหนองบัวลำภู ทีมน้องใหม่ "ปลาไหลไฟฟ้า" หนองบัวลำภู ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมแชมป์เก่า "ผีตาโขนออกศึก" เลย ซิตี้ โดยเกมนี้ ทั้งสองทีมต่างก็ขนผู้เล่นตัวหลักลงสนามอย่างคับคั่ง

เริ่มเกมเป็นทีมเลย ซิตี้ ที่ครองเกมได้มากกว่า และบุกได้อย่างต่อเนื่อง น.7 ณัฐภัทร สมศรี ก็ยิงประตูให้ เลย ซิตี้ ออกนำก่อนเป็น 1-0 ถัดมา น.10 ทีมเลย ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากลูกยิงของ วีระวัฒน์ แก้วรักษา สกอร์ขยับเป็น 2-0

ช่วงท้ายครึ่งแรก กิตติชัย วงษ์สิม แบ็กขวาของทีมเลยซิตี้ กับ วุฒิศักดิ์ รักษาภักดี ของทีมหนองบัวลำภู ต้องมาโดนใบแดงคนละใบ หลังทั้งคู่เข้าบอลหนักใส่กัน จากนั้น หนองบัวลำภู ก็มาได้ประตูตีไข่แตก จากการยิงของ สุทธิ สุดไฮ่งาม ทีมหนองบัวลำภู ตามมาเป็น 2-1 และหนองบัวลำภูก็ได้ประตูตีเสมอ 2-2 จนได้จาก สุวัจน์ ผดุงค์มัย แต่แล้วช่วงท้ายเกม เลยซิตี้ มาได้ประตูชัย จากการฝีเท้าของ ปรัชญา สิทธิ จบเกม เลย ซิตี้ บุกเอาชนะ หนองบัวลำภู ยูไนเต็ด ไปได้ 3-2

ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น

- มุกดาหาร เอฟซี เสมอ สกลนคร เอฟซี 0-0

- หนองคาย เอฟซี แพ้ สุรินทร์ เอฟซี 0-1

- กาฬสินธุ์ เอฟซี ชนะ อุบล ไทเกอร์ เอฟซี 1-0

- มหาสารคาม ซิตี้ เสมอ ยโสธร ยูไนเต็ด 1-1

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป ของลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 27 ก.พ. 53 ยโสธร ยูไนเต็ด พบ ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬา จ.ยโสธร เวลา 16.00 น., นครพนม เอฟซี พบ มุกดาหาร เอฟซี ที่สนามกีฬา จ.นครพนม 16.00 น., เลย ซิตี้ พบ อุดรธานี เอฟซี ที่สนามกีฬา จ.เลย 17.00 น., นครราชสีมา เอฟซี พบ มหาสารคาม ซิตี้ ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา 17.00 น.

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

เชียงรายยิง2-1,สิงห์บุรีเฮท้ายเกมภาคเหนือ

"นักรบบางระจัน" สิงห์บุรี เอฟซี โชว์ฟอร์มเก่ง เล่นในบ้านเฉือน "ทหารเสือพระเจ้าตาก" ตาก เอฟซี ได้แบบหวุดหวิด 2-1 เก็บสามแต้มแรกได้สำเร็จ ด้าน "แมงป่องไฟ" เชียงราย เอฟซี น้องใหม่แห่งโซนภาคเหนือ สุดแสบยิงช่วงท้ายเชือด "ขุนศึกนเรศวร" พิษณุโลก เอฟซี ระทึก 2-1 ศึกลูกหนัง ดิวิชั่น 2 ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนือ เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา

สิงห์บุรี เอฟซี 2-1 ตาก เอฟซี

ที่สนามกีฬากลาง จ.สิงห์บุรี "นักรบบางระจัน" สิงห์บุรี เอฟซี มีคิวเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "ทหารเสือพระเจ้าตาก" ตาก เอฟซี โดยเกมนี้ทั้งสองทีมหวังจะเก็บ 3 คะแนนเต็ม ให้ได้ เพื่อเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจในนัดต่อไป

เกมนี้ สิงห์บุรี เอฟซี ที่มี ด.ต.พีระพงษ์ บำเพ็ญ เป็นกุนซือใหญ่ ยังไม่สามารถใช้งาน 3 ดาวเตะต่างชาติ เพราะเนื่องจากใบโอนย้ายยังไม่เสร็จเรียบร้อย แต่ก็ยังคงมี กมล โพธิ์ทอง และ ธีระพร กลิ่นกอศีล ลงลุยเป็นแกนหลัก ส่วน ตาก เอฟซี ของ ชาญยุทธ บุญล้อม เฮดโค้ชจอมเข้ม มีสถานการณ์เดียวกัน เมื่อใบโอนย้ายของนักเตะผิวสี 1 ราย ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ไม่สามารถส่งลงสนามได้ แต่ยังมี เกียรติพงษ์ สิทธิแก้ว, ปิติพงษ์ แก้วแสนสาย และ ศิวณัฐ อินจินา นำทัพ

เริ่มเกมครึ่งแรก เจ้าถิ่น สิงห์บุรี เอฟซี ก็อาศัยความได้เปรียบในเรื่องความเคยชินกับสภาพสนามจนสามารถกระทุ้งประตูออก นำไปได้ก่อน 1-0 จากการหลุดขึ้นไปซัลโวทางด้านซ้ายของ อภิวัฒน์ คันฑะมาส น.15 ส่งผลให้ สิงห์บุรี เอฟซี ออกนำ ตาก เอฟซี 1-0

แม้จะโดนยิงนำ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ ตาก เอฟซี ท้อใจแต่อย่างใด น.37 "ทหารเสือพระเจ้าตาก" ก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จ จากการซ้ำลูกยิงที่ไปติดบล็อกนายด่านเจ้าถิ่น ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็น จักรพันธ์ สายเสือ ที่กระหน่ำบนเส้นเขตปากประตูเข้าไปไม่เหลือซาก หมดครึ่งแรกทั้งคู่เสมอกันอยู่ 1-1

ครึ่งหลัง ยังเป็นเจ้าถิ่น ที่พับสนามครองเกมบุกเข้าใส่คู่ต่อสู้อย่างหนัก น.57 อัศนัย งามภักดิ์ ศูนย์หน้าสิงห์บุรี เอฟซี ได้บอลทะลุช่องหลุดเดี่ยวเข้าไปซัลโวแบบตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตู ตาก เอฟซี แต่สุดท้ายก็ยังไปติดขานายด่านรายนี้พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

เกมทำท่าว่าจะจะแบ่งแต้มกันไปแล้ว แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.92 สิงห์บุรี เอฟซี ก็มาได้ลูกที่จุดโทษ เมื่อแนวรับทีมเยือนมาทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ แม้ อภินันท์ ทองสกุล กัปตันทีมเจ้าถิ่นจะยิงเป็นประตูขึ้นนำไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินก็เป่าให้ยิงใหม่ เมื่อมีเพื่อนร่วมทีมวิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนเสียงนกหวีดจะดังขึ้น และก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด อภินันท์ ก็ยิงเข้าไปง่ายๆ ให้ สิงห์บุรี เอฟซี เปิดบ้านบดเอาชนะ ตาก เอฟซี ไปได้ 2-1 เก็บ 3 คะแนนแรกประจำซีซั่นได้สำเร็จ

เชียงราย เอฟซี 2-1 พิษณุโลก เอฟซี

ที่สนามกีฬากลาง จ.เชียงราย น้องใหม่แห่งโซนภาคเหนือ "แมงป่องไฟ" เชียงราย เอฟซี ของทางด้าน "ทวิช ไกลถิ่น" กุนซือใหญ่ มีคิวเปิดบ้านต้อนรับมือ "ขุนศึกนเรศวร" พิษณุโลก เอฟซี ที่มี สิทธิพล เอี่ยมสง่า ขรัวเฒ่าแห่งวงการลูกหนังเมืองพิษณุโลกคุมทัพ

เกมครึ่งแรก ทั้งคู่ก็ต่างเน้นความแน่นอนในจัวหวะเซตเกมรุก โดยเฉพาะ เชียงราย เอฟซี ที่ค่อนข้างจะมีโอกาสสร้างจังหวะหวาดเสียวให้แฟนฟุตบอลชาวเชียงรายได้กรี๊ด กร๊าดหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังพลาดเป้าไปหมด จบ 45 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลังเริ่มสนุกขึ้น เมื่อเจ้าถิ่นโหมบุกเข้าใส่อย่างหนัก น.73 ก็มาได้ประตูออกนำ จากการสกัดเข้าประตูตัวเองของ อัครเดช สถานทุง ดาวเตะพิษณุโลก ส่งผลให้ เชียงราย เอฟซี ออกนำไปก่อน 1-0

เกมดำเนินมาถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.93 เชียงราย เอฟซี ก็มากระทุ้งประตูที่ 2 ได้สำเร็จจากการซัลโวของ ภูเบศร์ แสนสุวรรณ์ แต่ พิษณุโลก เอฟซี ก็ไม่ยอมง่ายๆ น.94 ก็ได้ประตูตีไข่แตก จากการยิงของ รณชัย นิ่มวิลัย แต่ก็ทำได้เพียงแค่นั้น จบเกม เชียงราย เอฟซี จัดการเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ พิษณุโลก เอฟซี 2-1

ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น

- ลำปาง เอฟซี ชนะ นครสวรรค์ เอฟซี 2-1

- เพชรบูรณ์ เอฟซี ชนะ พะเยา เอฟซี 2-0

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป ของลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้ วันที่ 27 ก.พ. 53 แพร่ ยูไนเต็ด พบ พิจิตร เอฟซี ที่สนาม อบจ.แพร่ เวลา 17.00 น., ชัยนาท เอฟซี พบ เพชรบูรณ์ เอฟซี ที่สนามกีฬากลาง จ.ชัยนาท เวลา 16.00 น., พะเยา เอฟซี พบ อุตรดิตถ์ หมอเส็ง ที่สนามกีฬากลาง จ.พะเยา เวลา 17.00 น., พิษณุโลก เอฟซี พบ ลำปาง เอฟซี ที่สนามกีฬากลาง จ.พิษณุโลก เวลา 18.00 น.

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

สุราษฎร์ยิง3-1,หาดใหญ่เจ๊ง,พัทลุงเฮภาคใต้

"เดอะ รูสเตอร์" สุราษฎร์ เอฟซี คืนฟอร์มเก่ง เปิดบ้านเชือด ระนอง เอฟซี นิ่ม 3-1 เก็บชัยนัดแรกได้สำเร็จ ด้าน "แรดอีเกิ้ล" หาดใหญ่ เอฟซี พลาดท่าโดน "พะยูนพิฆาต" ตรัง เอฟซี บุกมาเฉือนท้ายเกม 2-1 ส่วน "นางแอ่นจ้าวเวหา" พัทลุง เอฟซี เฝ้ารังซิว "ปืนใหญ่ลังกาสุกะ" ปัตตานี เอฟซี หวิว 1-0 ศึกฟุตบอล ดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้ เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้ เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา

สุราษฎร์ เอฟซี 3-1 ระนอง เอฟซี

ที่สนามกีฬาสุราษฎร์ธานี "เดอะ รูสเตอร์" สุราษฎร์ เอฟซี เปิดบ้านรับมือ ระนอง เอฟซี โดยเกมนี้ เจ้าถิ่นหวังเก็บชัยให้ได้ รังสรรค์ มธุระเมธาวี ผจก. จัดทัพใหญ่ลงสู้ นำโดย วีระศักดิ์ จี้อุ่น, สานิตย์ ซุ่นกี่ อดีตทีมชาติไทย และ มุสซ่า ฟอนตาเนียล อดีตเยาวชนทีมชาติกินี ส่วนทีมเยือน ระนอง ก็มาแบบฟูลทีมเช่นกัน

เริ่มเกมครึ่งแรก ระนอง เอฟซี ไม่ได้หวั่นเกรงศักดิ์ศรีเจ้าถิ่น และอาศัยอยู่เหนือลมเปิดบอลยาวทิ้งไปข้างหน้า บุกเป็นระลอก แต่จังหวะสุดท้าย ยังทำได้ไม่ดี แถมโดนโต้คืน และเสียประตู เมื่อเจ้าถิ่นเปิดบอลออกริมเส้นฝั่งขวา เข้ามาและเป็น กามาร่า มูซ่า ที่ได้ยิงซ้ำเข้าไป ให้ สุราษฎร์ นำ 1-0 ถัดมาอีก 3 นาที เจ้าถิ่นก็ได้ประตูที่ 2 จากการยิงของ เอกรัตน์ ธรรมวิศาล เป็น 2-0 แต่ชั่วพริบตา น.35 ระนอง เอฟซี ก็ตีคืนเป็น 1-2 ทันควัน จาก กิตติพงษ์ สุ่นจักร และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง สุราษฎร์ เอฟซี ลงมาดูดีกว่า เปิดเกมรุกใส่เป็นระลอก แต่ก็ยังคงทำอะไรไม่ถนัด เมื่อทาง ระนอง เอฟซี ลงไปตั้งรับ และเปิดเกมแลกอย่างสุดฤทธิ์ จนมาถึงช่วงท้ายเกม น.85 กฤษดา ก้าวณรงค์ ของเจ้าถิ่น ก็ปั่นฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลกเข้าไปอย่างสวยงามให้ สุราษฎร์ เอฟซี หนีไปเป็น 3-1 จากนั้น สุราษฎร์ เอฟซี ก็คุมเกมเอาไว้ได้หมด จบเกม สุราษฎร์ เอฟซี เอาชนะ ระนอง เอฟซี 3- 1

หาดใหญ่ เอฟซี 1-2 ตรัง เอฟซี

ที่สนามจิระนคร หาดใหญ่ "แรดอีเกิ้ล" หาดใหญ่ เอฟซี เปิดบ้านรับมือ "พะยูนพิฆาต" ตรัง เอฟซี เกมนี้มีแฟนบอลเจ้าถิ่นเดินทางมาให้กำลังใจกันอย่างหนาตา และยังมีพิธีเปิดการตัวสโมสรหาดใหญ่ เอฟซี โดยมีนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และประธานสโมสรเป็นประธาน มีผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัดสงขลาและพี่น้องประชาชนมาร่วมเป็นเกียรติหนาตา

ซึ่งเกมนี้เจ้าถิ่น หาดใหญ่ เอฟซี จัดนักเตะชุดใหญ่ลงสนามครบครัน นำโดย สงกรานต์ บุญคำ, ฟิกรีย์ หมัดเร๊ะ, สมเดช หลำเบ็ญหมุด และ สมเดช กาสาเอก ส่วนฝั่งทีมเยือน ก็มาแบบเต็มสูบ มี ตารุดดิน อุศมา, เคษ์ ลังกาวงศ์ และ อาทร ใสงาม เป็นกำลังสำคัญ

เริ่มเกมครึ่งแรก หาดใหญ่ เอฟซี ก็เดินเกมรุกใส่ทันที ทำเอานักเตะเมืองตรัง ต้องถอยร่นลงไปรับกันพัลวัน น.15 หาดใหญ่ ก็ยิงประตูขึ้นนำจนได้ จาก สมเดช กาสาเอก ที่ยิงไปแฉลบกองหลังของ ตรัง เข้าประตูให้ หาดใหญ่ นำ 1-0 หลังเสียประตู ตรัง เอฟซี พยายามตั้งเกมและเปิดแลกบุกหนัก ชนิดพับสนาม แต่ไม่สามารถผ่านแผงกองหลังของหาดใหญ่ เอฟซี จบครึ่งแรก หาดใหญ่ นำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง ตรัง ปรับทัพลงมาสู้ใหม่ น.57 ณรงค์ฤทธิ์ สามนปาน ได้เปิดฟรีคิกเข้าไปหน้าประตู และเป็น ธีระวุฒิ สรรค์พันธ์ ขึ้นโหม่งตุงตาข่ายให้ตรัง เอฟซี ตามตีเสมอ 1-1 จากนั้น ตรัง ก็บุกหนัก น.80 อเล็กซ์ กองหน้าผิวสีของตรัง ก็มายิงเพิ่มให้ตรังขึ้นนำบ้าง 2-1 เวลาที่เหลือทั้งสองทีมยิงเพิ่มอีกไม่ได้จบเกม ตรังบุก มาชนะ หาดใหญ่ 2-1 พร้อมกับขยับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงทันที

พัทลุง เอฟซี 1-0 ปัตตานี เอฟซี

ที่สนามกีฬากลาง พัทลุง "นางแอ่นจ้าวเวหา" พัทลุง เอฟซี เปิดบ้านพบกับ "ปืนใหญ่ลังกาสุกะ" ปัตตานี เอฟซี โดยเกมนี้ เจ้าถิ่น นำทัพโดย สำราญ จินดาวัน, สุริยะ อมตเวทย์ และ อาทิตย์ หนูหลง ส่วนฝั่งทีมเยือน ปัตตานี ก็จัดทัพที่สมบูรณ์ที่สุดลงสู้

เกมครึ่งแรก เจ้าถิ่นอาศัยเสียงเชียร์และความคุ้นเคยของสนาม เปิดฉากบุกใส่ทันที แต่ก็ถูกนักเตะ "ปืนใหญ่ลังกาสุกะ" ต้านเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ก่อนเสมอกันไป 0-0 ในครึ่งเวลาแรก

ครึ่งหลังเริ่มเกมได้ 3 นาที กองเชียร์เจ้าถิ่นก็ได้เฮลั่น เมื่อ สุริยะ อมตเวทย์ เปิดบอลจากริมเส้นให้ ธีรวุฒิ พาหุลรัตน์ ที่อยู่หน้าประตู จับบอลลงก่อน ซัลโวตุงตาข่ายให้เจ้าถิ่น พัทลุง ออกนำ 1-0 หลังเสียประตู ปัตตานี เอฟซี พยายามที่จะเปิดเกมรุกแก้คืน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จบเกม พัทลุง เอฟซี เอาชนะ ปัตตานี เอฟซี ไปได้แบบหืดจับ 1-0

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป ของลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้ วันที่ 27 ก.พ. 53 ที่สนามกีฬากลาง จ.ปัตตานี เริ่ม 16.00 น. ปัตตานี เอฟซี พบ พังงา เอฟซี, ที่สนามกีฬากลาง จ.กระบี่ เริ่ม 17.00 น. กระบี่ เอฟซี พบ หาดใหญ่ เอฟซี ที่สนามเทศบาลนครตรัง เริ่ม 18.00 น. ตรัง เอฟซี พบ สุราษฎร์ เอฟซี

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

วานรไฟบุกเฮ4-2,ป้อมปราการเจ๊าด.2ตะวันออก

นักเตะ "วานรไฟ" ลพบุรี เอฟซี สุดเจ๋งยกพลบุกกระซวก สระแก้ว ยูไนเต็ด พังคาบ้าน 4-2 เก็บชัยได่สองนัดติดต่อกัน ขณะที่ "ป้อมปราการ" สมุทรปราการ เอฟซี ดีกรีแชมป์เก่าประจำโซน เฝ้าบ้านทำได้แค่เจ๊ากับ "นักสู้วัวทะโมน" เพชรบุรี เอฟซี แบบไร้สกอร์ ศึกลูกหนังดิวิชั่น 2 ภาคกลางและตะวันออก เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ภาคกลางและตะวันออก เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา

สมุทรปราการ เอฟซี 0-0 เพชรบุรี เอฟซี

ที่สนามศุลกากร ลาดกระบัง "ป้อมปราการ" สมุทรปราการ เอฟซี ดีกรีแชมป์เก่าประจำโซนปีที่แล้ว เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "นักสู้วัวทะโมน" เพชรบุรี เอฟซี เกมนี้ สมุทรปราการ ส่ง ชมนันท์ สุขเกษม, สามารถ จันทร์กระจ่าง และ ณัฐวุฒิ คำอักษร นำทัพ ส่วน เพชรบุรี มี อีริค บราวน์ และ โซโลม่อน แข้งนอกชาวกานา เป็นตัวทีเด็ด

เริ่มเกมช่วง 15 นาทีแรก สมุทรปราการ เปิดเกมบุกได้มากกว่า แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คม แต่ น.30 เป็นเพชรบุรี ที่มีโอกาสได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ วีรศักดิ์ สืบพงษ์ เปิดจากด้านขวามาให้ อีริค บราวน์ ตีลังกายิง บอลถากเสาออกไปแบบมีเสียว

จากนั้น น.35 เพชรบุรี ได้ลุ้นอีกเมื่อ โซลาม่อน นักเตะกานาของ เพชรบุรี ได้จังหวะยิงตรงกรอบเขตโทษ แต่บอลออกไปแบบมีลุ้นสุดๆ ทำให้ครึ่งแรกเสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง น.50 สมุทรปราการ เจ้าบ้านได้ซัดฟรีคิกระยะ 25 หลาตรงกรอบเขตโทษกลางประตู สามารถ จันทร์กระจ่าง ปั่นเปรี้ยงเดียว บอลจะมุดเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ ณัฐวุฒิ แสงดารา ผู้รักษาประตู เพชรบุรี พุ่งปัดออกไปเหลือเชื่อ

จากนั้นยังเป็น "ป้อมปราการ" ที่ได้เสียวอีก น.70 อามู นักเตะเจ้าบ้านได้ปั่นไซด์โป้ง ระยะ 25 หลา เป็น ณัฐวุฒิ แสงดารา คนเดิม โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดไปได้อีก จากนั้นทั้งสองทีมยังทำประตูกันไม่ได้ จนจบเกม สมุทรปราการ เอฟซี เปิดรังเสมอกับ เพชรบุรี เอฟซี แบบไร้สกอร์ 0-0

สระแก้ว ยูไนเต็ด 2-4 ลพบุรี เอฟซี

ที่สนามอำเภออรัญประเทศ สระแก้ว ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "วานรไฟ" ลพบุรี เอฟซี โดยเกมนัดนี้ต้องบอกว่า สนามค่อนข้างลื่นนิดหน่อย เพราะมีฝนตกลงมาก่อน

เปิดฉากมาเป็นทีมเยือน "วานรไฟ" ลพบุรี เอฟซี เดินหน้าใส่อย่างเต็มที่ แต่จังหวะสุดท้ายไม่คมพอ จนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ทีมเยือนก็ได้ประตูนำก่อนจนได้ เมื่อ วสันต์ กองแก้ว หลุดไปทางด้านขวาก่อนเปิดบอลให้ พร้อมเชธ พรหมจอม แตะบอลด้วยขวา ก่อนซัดซ้ายนิ่มๆ ให้ วานรไฟ นำก่อน 1-0

ครึ่งหลัง กลายเป็นเกมของ ลพบุรี เอฟซี ที่จังหวะสุดท้ายคมกว่า พลากรณ์ อ่อนธรรม ทำชิ่งกับ วสันต์ กองแก้ว ก่อนเป็น พลากรณ์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงประตูแบบนิ่มๆ สกอร์ทีมเยือนขยับห่าง 2-0 จากนั้น เจ้าถิ่น ดูเหมือนจะหยุดความร้อนแรงของ วานรไฟ ไม่อยู่ น.72 จารุพงษ์ สังขพงษ์ จอมทัพของ ลพบุรี เอฟซี เปิดบอลหลุดกับดักล้ำหน้า ให้ วสันต์ กองแก้ว เข้าไปยิงสบายๆ สกอร์ห่าง 3-0

ดูเหมือนสระแก้ว ไม่ได้ยอมง่ายๆ น.76 จารุพงษ์ สังข์พงษ์ ทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ประวิทย์ โสมีชัย รับหน้าที่สังหารไม่เหลือซาก ทำให้ สระแก้ว ตีไข่แตก กลับมาไล่ตาม 1-3 แต่ น.83 ลพบุรี ก็นำห่างเป็น 4-1 อีก เมื่อ จารุพงษ์ สังข์พงษ์ เปิดบอลทะลุช่องทางด้านขวาให้ ศิโรดม สิงห์ทิพพันธ์ กระชากบอลจากกรอบโทษด้านขวา ก่อนเลี้ยงตบเข้าใน แล้วยิงยัดเสาแรกทันทีไม่เหลือซาก

น.87 สระแก้ว มาได้ประตูที่ 2 ไล่มาห่างๆ เป็น 2-4 จากลูกโหม่งของ สุธี คำชา แต่ก็ไล่ไม่ทัน จบเกม สระแก้ว ยูไนเต็ด แพ้ ลพบุรี เอฟซี 2-4

ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น

- นครนายก เอฟซี เสมอ ราชบุรี เอฟซี 1-1

- ปทุมธานี เอฟซี เสมอ สมุทรสาคร เอฟซี 1-1

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป ของลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคกลางและตะวันออก วันที่ 27 ก.พ. นี้ อ่างทอง เอฟซี พบ สระแก้ว ยูไนเต็ด ที่สนามสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตอ่างทอง เวลา 16.00 น., ลพบุรี เอฟซี พบ กบินทร์บุรี เอฟซี ที่สนามกีฬาจังหวัดลพบุรี เวลา 17.00 น., ระยอง เอฟซี พบ สระบุรี เอฟซี ที่สนามกีฬาจังหวัดระยอง เวลา 17.30 น., ราชบุรี เอฟซี พบ ปทุมธานี เอฟซี ที่สนามกีฬาจังหวัดราชบุรี เวลา 17.30 น.

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

นอร์ทกรุงเทพถล่มโรสเอเชียฯ5-0ยึดฝูงกทม.

นอร์ทกรุงเทพ โชว์ฟอร์มร้อนแรง เปิดบ้านถล่มโหด โรสเอเชีย ยูไนเต็ด ธัญบุรี กระจุย 5-0 เก็บชัยสองนัดรวดขึ้นรังจ่าฝูงทันที ด้าน "จ้าวเวหา" ม.รังสิต-เจดับบลิว เอฟซี ประเดิมนัดแรกสุดสวย ยกพลบุดอัด "ชงโคม่วงทอง" กรุงเทพคริสเตียน พังคาบ้าน 3-1 ส่วน ไทยซัมมิท สมุทรปราการ พลาดท่าโดน "ชาววัง" ราชวิถี บุกสอยถึงถิ่น 0-1 ศึกลูกหนัง ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑล เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑล เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา

นอร์ทกรุงเทพ 5-0 โรสเอเชีย ยูไนเต็ด ธัญบุรี

ที่สนามกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ บางเขน เป็นการพบกันระหว่าง นอร์ทกรุงเทพ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ โรสเอเชีย ยูไนเต็ด ธัญบุรี เกมนี้ "โค้ชโป้ง" กฤษณ์ สิงห์ปรีชา กุนซือเจ้าถิ่นขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำโดย เศกสรรค์ ปิตุรัตน์, โกวิทย์ ฝอยทอง, วิรัช วังจันทร์ และ ปฐมชัย เสือสกุล ส่วนทีมเยือนมีทางด้าน วัชรินทร์ โพธิ์สะอาด, ยอดรัก ศรีเนตร และทินนาถ ศุภนาม ลงสู้ศึก

เริ่มเกม เจ้าถิ่น โหมเกมบุกเข้าใส่อย่างหนัก หวังทำประตูขึ้นนำให้เร็วที่สุด กระทั่งมาถึง น.30 นอร์ทกรุงเทพ ได้ลูกเตะมุมทางด้านขวา นรินทร์ ศรีคุ้ม เปิดเข้าเขตโทษบอลเลยมาถึงเสาสอง ก่อนที่ แดนไตร ลองจำนงค์ จะกระโดดแประยะ 5 หลา เข้าไปไม่เหลือให้ นอร์ทกรุงเทพ นำ 1-0

หลังจากนั้นยังเป็นเกมของเจ้าบ้าน น.35 ปฐมชัย เสือสกุล ปั่นฟรีคิกระยะ 28 หลาข้ามคานไปนิดเดียว และก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 2 นาที นรินทร์ ศรีคุ้ม ทุ่มบอลเร็วทางริมเส้นฝั่งซ้ายให้ ปฐมชัย เสือสกุล ก่อนที่ ปฐมชัย เสือสกุล จะลักไก่ยิงไกลทันทีระยะกว่า 35 หลา บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างงดงาม ให้ นอร์ทกรุงเทพ นำครึ่งแรก 2-0

ครึ่งหลังเริ่มมาได้ไม่ถึงนาที นอร์ทกรุงเทพ บอมบ์ยาวเข้าเขตโทษ กองหลังทีมเยือนเคลียร์ไม่ขาดบอลมาเข้าทาง เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ แปบอลเข้ากลางให้ มาโนช มณฑา ซัดเข้าไป ให้ทีมหนีห่างเป็น 3-0 นอร์ทกรุงเทพ ยังไม่เพลาเกมบุก และน.57 ก็มาได้ประตูหนีไปอีกเป็น 4-0 จากการตะบันฟรีคิกระยะ 35 หลาของ โกวิทย์ ฝอยทอง

เกมของโรสเอเชียไม่ดีขึ้น ทำให้นอร์ทกรุงเทพเล่นง่าย น.70 เจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุม ปฐมชัย เสือสกุล เปิดโค้งเข้ามาผู้รักษาประตูปัดทิ้ง บอลเลยมาถึงเสาสองและก็เป็น เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ ที่วอลเล่ย์ด้วยขวา ตามน้ำเข้าไป นอร์ทกรุงเทพ นำ 5-0 ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลานอร์ทกรุงเทพ ชนะไปขาดลอย 5-0 เก็บชัยชนะได้ 2 นัดรวดขึ้นจ่าฝูงทันที

กรุงเทพคริสเตียน 1-3 ม.รังสิต-เจดับบลิว เอฟซี

ที่สนามเทพหัสดิน "ชงโคม่วงทอง" กรุงเทพคริสเตียน เปิดบ้านรับมือ "จ้าวเวหา" ม.รังสิต-เจดับบลิว เอฟซี ที่ลงสนามเป็นนัดแรกของฤดูกาล เกมนี้ กรุงเทพคริสเตียน ของ นพพร เอกศาสตรา นำทัพมาโดย สุนทร ปั้นรัตน์ กองหลังกัปตันทีม, เอกพจน์ ผ่องแผ้ว, วิษณุศักดิ์ อุ่นน้อย ด้าน ม.รังสิต-เจดับบลิว เอฟซี ของ อ.ไพรัช หิมเวช นำมาโดย ธาดา ทองท้วม, อิทธิพล จันแปงเงิน และ เจมส์ บัวเต็ง

ครึ่งแรก ผ่านมาได้แค่ 5 นาที กองหลังเจ้าถิ่นไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ กรรมการเป่าเป็นลูกจุดโทษ และเป็น เจมส์ บัวเต็ง กองหลังของ รังสิต-เจดับบลิว ยิงเข้าไป ให้ ม.รังสิตฯ นำ 1-0

จากนั้น น.25 กรุงเทพคริสเตียน มาได้ลูกเตะมุม วิษณุศักดิ์ อุ่นน้อย เปิดจากด้านซ้ายของสนามบอลโค้งเข้าหัว เอกพจน์ ผ่องแผ้ว โขกตุงตาข่าย ทัพ "ชงโคม่วงทอง ตามตีเสมอสำเร็จ 1-1 จากนั้นทั้งสองทีมต่างผลัดกันรุกและรับอย่างสนุก แต่ยังไม่มีสกอร์เพิ่ม หมดครึ่งแรก กรุงเทพคริสเตียน เสมอกับ ม.รังสิต-เจดับบลิว เอฟซี 1-1

ครึ่งหลังเกมผ่านมาได้ 10 นาที กรุงเทพคริสเตียน ครองเกมบุกได้มากกว่า แต่ยังไม่สามารถบวกสกอร์เพิ่มกันได้ จากนั้นทั้งสองทีมก็ผลัดกันบุกได้อย่างเมามัน จนมาถึง น.80 จากจังหวะสวนกลับเร็วของ ม.รังสิต-เจดับบลิว เอฟซี อิทธิพล จันแปงเงิน แบ็กขวาตัวลุยของทีมได้บอล วิ่งยาวจากแดนหลัง ก่อนจะจ่ายต่อให้ วิลลี่ เอ็นโญ่ กองหน้าของทีม ที่วิ่งหลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษ ยิงสวนตัวนายทวาร กรุงเทพคริสเตียน เข้าไป ม.รังสิจ-เจดับบลิว เอฟซี ขยับนำ 2-1

ช่วงท้ายเกม น.88 กรุงเทพคริสเตียน ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ อิทธิพล แก้วเขียว ตัวสำรองที่เพิ่งถูกส่งลงไปใหม่ ทำฟาวล์หนักใส่ อิทธิพล จันแปงเงิน ผู้ตัดสินควักใบเหลืองที่ 2 แจกให้ เป็น ใบแดง ทันที

แต่ น.90 ม.รังสิต-เจดับบลิว เอฟซี ก็ต้องมาเหลือ 10 คนเช่นกัน เมื่อ เลสลี่ย์ นักเตะผิวสีของทีมไปฟาวล์ตัดเกม กรรมการ แจกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงอีกเช่นกัน น.95 ศรันย์ ชุวัสวัส ได้บอลกระชากมาทางขวาก่อนจ่ายตัดเข้าในให้ มงคล นกกาศักดิ์ ยิงปิดท้ายให้ ม.รังสิตฯ บุกมาชนะ กรุงเทพคริสเตียน 3-1 เก็บ 3 แต้มแรกได้อย่างสวยงาม

ไทยซัมมิท สมุทรปราการ 0-1 ราชวิถี

ที่สนามกีฬา ศูนย์ กกท. สมุทรปราการ ไทยซัมมิท สมุทรปราการ เปิดบ้านรับการมาเยือนของทีม "ชาววัง" ราชวิถี เกมนี้ เจ้าถิ่น ไทยซัมมิท ที่มี นายปันสิน พันธ์รักษ์ เป็นกุนซือ ส่งนักเตะตัวหลักอย่าง เอกพล จีจอม, กรศักดิ์ มะละกา และ วีรยุทธ ไชยคำสุข ลงสนาม ส่วน โค้ชพล ชมชื่น ของราชวิถี ส่ง สราวุฒิ คงเจริญ, ณัฐพล สมปาลี และ วิทยา เล่าเรือง เป็นทีเด็ด

เริ่มเกม เจ้าถิ่นได้ทักทายก่อนตั้งแต่ต้นเกม จากจังหวะที่ กรศักดิ์ มะละกา หลุดกำดักล้ำหน่าเข้าไปซัดเหน่งๆ แต่บอลดันเหินข้ามคานออกหลังประตูไปอย่างน่าเสียดาย น.17 ยังคงเป็นฝั่งเจ้าบ้าน ที่เปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือน ราชวิถี จากลูกฟรีคิกบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ สุรพล พรบริบูรณ์ ปั่นบอลโค้ง ทำท่าจะฮุกเข้าประตู แต่ผู้รักษาประตูของราชวิถี ยังทุบบอลออกหลังไปได้หวุดหวิด

น.27 กองเชียร์ของฝั่งเจ้าบ้านได้เงียบกันทั้งสนามเมื่อ วิทยา เล่าเรือง ตีลังกายิงในกรอบเขตโทษ เข้าไปตุงตาข่ายให้ ราชวิถี ขึ้นนำไปก่อน 1-0

ช่วงท้ายเกม ราชวิถี มาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน หลังจากที่ อรรถสิทธิ์ รังศรีศักดิ์ เสียบสกัด เอกพล จีจอม ในจังหวะที่ได้ลุ้นพังประตูขึ้นนำ ทำให้ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่นักเตะของราชวิถีออกนอกสนามไป ก่อนหมดครึ่งแรก ราชวิถี บุกมานำ ไทยซัมมิท อยู่ 1-0

ครึ่งหลัง ไทยซัมมิท สมุทรปราการ ที่มีผู้เล่นเยอะกว่า มีโอกาสเปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือนได้อย่างสนุกจังหวะนี้ เมที ลักขะบัด อาศัยจังหวะชลมุนวิ่งเข้ามายิงด้วยขวาในเขตโทษ แต่บอลเบาเกินไป ทำให้ผู้รักษาประตู ราชวิถี คว้าเอาไว้ได้

น.65 เจ้าบ้านพลาดโอกาสได้ประตูตีเสมอไปอย่างน่าเสียดายเมื่อ เอกพล จีจอม ได้บอลทางฝั่งขวาก่อนเปิดบอลเข้าไปที่เสาสอง กรศักดิ์ มะละกา ได้โขกโล่งๆ แต่บอลก็หลุดออกหลังประตูไปไกล น.78 เจ้าถิ่นยังคงเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ราชวิถี หมายจะพังประตูตีเสมอให้ได้ แต่ วีรยุทธ ไชยคำสุข ก็ยิงข้ามคานออกหลังประตูไปชนิดไม่ได้ลุ้น

ท้ายเกมยังคงเป็นฝั่ง ไทยซัมมิท ที่เป็นฝ่ายครองเกมรุกบุกเข้าใส่ ราชวิถี และมีโอกาสทำประตูหลายต่อหลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายนั้นจบไม่ลง ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน ราชวิถี บุกมาเอาชนะ ไทยซัมมิท ได้ถึงถิ่น 1-0

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป ของลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑล วันที่ 27 ก.พ. นี้ ทุกคู่เริ่มเวลา 16.00น. มหาวิทยาลัยรังสิต พบ เกษมบัณฑิต ที่สนามกีฬา ม.รังสิต, นนทบุรี พบ ไทยซัมมิท สมุทรปราการ ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ เทศบาลนครนนทบุรี, ราชวิถี พบ วิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ที่สนามไทย-ญีปุ่น ดินแดง

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

บิ๊กป๋อมยัน4ทีมโต๊ะเล็กโลกร่วมบู๊ไทยแลนด์ไฟฟ์

"บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ คอนเฟิร์ม 4 ทีมสุดยอดของโลก ร่วมดวลศึก "ไทยแลนด์ไฟฟ์ 2010" ระหว่าง 8-10 เม.ย. ที่ รร.เซ็นธารา จ.อุดรธานี ประกอบด้วย อาร์เจนตินา, อิหร่าน, อุซเบกิซสถาน และทีมชาติไทย แข่งแบบพบกันหมดหาแชมป์ แถมแฟนบอลไทย ยังจะได้ชมเกมถ่ายทอดสด 2 นัดทาง สทท.11 ในนัดที่ปะทะ อาร์เจนตินา และ อิหร่าน

"บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ เปิดเผยเกี่ยวกับการจัดการแข่งขัน "ฟุตซอล ไทยแลนด์ไฟฟ์" ครั้งที่ 3 ประจำปี 2010 ว่า ในขณะนี้เราได้ทีมครบ 4 ทีม ตามจำนวนที่จะจัดการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้วและทีมคู่แข่ง ก็ได้ตอบรับยืนยันเป็นหนังสืออย่างเป็นทางการ กลับมา

ได้แก่ ทีม "ฟ้า-ขาว" อาร์เจนตินา อันดับ 7 ของโลกและแชมป์เก่ารายการนี้, ทีม อิหร่าน อันดับ 5 ของโลก, ทีมอุซเบกิสถาน อันดับ 18 ของโลก และทีมชาติไทยอันดับ 10 ของโลก ในปัจจุบันที่มีการจัดอันดับล่าสุดใน www.futsalworldranking.be

ซึ่ง รายชื่อแต่ละทีมที่มาเข้าร่วมการแข่งขันเป็นทีมระดับท็อปเทนของโลกทั้งนั้น ขณะที่อุซเบกิสถาน นั้น ก็นับเป็นทีมที่แข็งแกร่งพัฒนาขึ้นมามาก ซึ่งล่าสุดที่เราเจอในเอเชียนอินดอร์เกมส์ ก็สุดจะคู่คี่สูสี โดยปีนี้เขาจะเป็นเจ้าภาพฟุตซอลชิงแชมป์เอเชียด้วย จึงเตรียมตัวมาอย่างดี แต่ละทีมผ่านไปไม่ง่ายแน่นอน ดังนั้นฟุตซอลไทยแลนด์ไฟฟ์ในปีนี้ จึงถือว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับโลก ที่จะให้คนไทยได้ดูกัน

สำหรับ การจัดการแข่งขัน จะมีขึ้นที่ จ.อุดรธานี ซึ่งทาง อบจ.อุดรธานี และเทศบาลเมืองอุดรธานี เสนอตัวเข้ามาเป็นเจ้าภาพ ซึ่งทางตนก็เห็นว่าอยากจะเปิดโอกาสให้คนต่างจังหวัด ได้มีโอกาสได้ชมทัวร์นาเมนต์ดีๆ บ้างและเป็นการกระจายการพัฒนาไปสู่ภูมิภาค ขณะที่ จ.อุดรธานีเป็นหัวเมืองภาคอีสาน มีความพร้อมมากจึงได้เลือกให้เป็นเจ้าภาพ โดยการแข่งขันมีขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย.นี้ ที่โรงแรมเซ็นธารา จ.อุดรธานี ใช้ชื่อการแข่งขันว่า ฟุตซอลไทยแลนด์ไฟฟ์ 2010 จ.อุดรธานี

โดย โปรแกรมการแข่งขัน วันที่ 8 เม.ย. ทีมชาติไทย พบกับ อุซเบกิสถาน เวลา 17.00 น. คู่ทีสอง อาร์เจนตินา พบ อิหร่าน เวลา 19.30 น., วันที่ 9 เม.ย. อาร์เจนตินา พบ ทีมชาติไทย เวลา 17.00 น. ถ่ายทอดสดทาง สทท.11 คู่ที่สอง อิหร่าน พบ อุซเบกิสถาน เวลา 19.30 น., วันที่ 10 เม.ย. อุซเบกิสถาน พบ อาร์เจนตินา เวลา 14.30 น.และ อิหร่าน พบ ทีมชาติไทย เวลา 17.00 น. ถ่ายทอดสดทาง สทท.11 เช่นกัน

ด้าน ปูลปิส กุนซือทีมฟุตซอลชาติไทยชาวสเปน ซึ่งเป็นผู้ประสานงานติดต่อทีมต่างๆ มาแข่งขันกล่าวว่า ทีมในยุโรป จะมีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นติดการแข่งขันในลีกอยู่ จึงต้องเชิญทีมจากอเมริกาใต้และเอเชีย แต่ทุกทีมที่มาก็ถือว่าล้วนแล้วแต่แข็งแกร่งมาก เป็นศึกหนักของทีมชาติไทย โดยทีมผ่านมาทีมไทย ยังไม่เคยได้แชมป์รายการนี้เลย แต่ครั้งนี้เราจะพยายามทำให้ได้

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

ตร.นำเทปบอล “เมืองทองฯ-การท่าเรือ” ตรวจ เตรียมแจ้งจับหัวโจกก่อเหตุ

แฟนบอล “เมืองทอง-หนองจอก” และ “การท่าเรือ” เข้าแจ้งความหลังเหตุตะลุมบอนจนฉาวโฉ่ ตำรวจสอบปากคำพาตรวจร่างกาย เตรียมขอเทปบันทึกการแข่งเป็นหลักฐาน เน้นหัวโจกขอหมายจับข้อหาทำร้ายร่างกายตามภาพที่พบ ส่วนทรัพย์สินที่เสียหายให้ กกท.เป็นเจ้าทุกข์

วันนี้ (21 ก.พ.) พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเหตุแฟนบอลการท่าเรือ ยกพวกทำร้ายแฟนบอลเมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ภายในเกมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก ประจำปี 2552 ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวานที่ผ่านมา ว่า หลังเกิดเหตุได้มีผู้เสียหายจำนวน 5 คน ประกอบด้วย แฟนบอลทีมเมืองทอง-หนองจอก จำนวน 4 คน และแฟนบอลทีมการท่าเรือ จำนวน 1 คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำ และส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจและราชวิถี ส่วนผู้เสียหายมีบาดแผลเจ็บฟกช้ำจากการถูกชกต่อยบริเวณใบหน้าและร่างกายเพียงเล็กน้อย

พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความไว้ พร้อมประสานขอภาพจากสื่อมวลชน ช่อง 3 และช่อง NBT แล้ว เพื่อดูภาพการแข่งขั้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุจนกระทั่งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทขึ้น เพื่อนำมาประกอบรวมรวบพยานหลักฐาน โดยจะเน้นตัวบุคคลที่เป็นแกนนำในการก่อเหตุ คนที่เริ่มต้นชกต่อยทำร่างกายผู้อื่นก่อน เพื่อขอศาลออกหมายจับตามภาพถ่าย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่ร่างกาย หรือจิตใจ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุด

“จากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ส่วนผลกระทบทางด้านคดีไม่มากเท่าไหร่ แต่มีผลกระทบทางด้านจิตใจ เนื่องจากเป็นการแข่งฟุตบอลวัฒนธรรมประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน ซึ่งแฟนบอลต้องมีน้ำใจเป็นนักกีฬาซึ่งกันและกัน” พ.ต.อ.ไพศาล กล่าว

พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการทำลายทรัพย์สินต่างๆ ภายในสนามกีฬานั้น คงต้องให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยในฐานะผู้เสียหายเป็นผู้เข้าแจ้งความในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แหล่งข่าว :: http://www.manager.co.th/Sport/