Sunday, February 21, 2010

นายกสั่งเข้มงวดแฟนบอล, ห้ามแฟนเจ้าท่าเชียร์เอเอฟซี

นายกสังเข้มงวดแฟนบอล อย่าดึงวงการตกต่ำ ขณะที่ ส.ฟุตบอลฯ ห้ามแฟนสิงห์เจ้าท่าเชียร์เอเอฟซีคัพ พร้อมขอพระราชทานอภัยโทษ ปธ.สโมสรการท่าเรือฯ รับผิดทุกกรณี พร้อมนำคนผิดมาลงโทษ ส่วนเมืองทองฯ ลั่นไม่ขอเตะด้วยหากทีมไม่ได้ความเป็นธรรม...

ความเคลื่อนไหวกรณี แฟนบอลทีมสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี ก่อเหตุจลาจล และทำร้ายแฟนบอลเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ระหว่างเข้าชมเกมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ส่งผลให้เกมต้องยุติลงในนาทีที่ 81 ขณะที่เมืองทองฯ นำอยู่ 2-0 จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย รวมทั้งยังเกิดเหตุต่อหน้าผู้แทนพระองค์ฯ นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเรียนว่าทุกกรณีต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาความรุนแรง ความจริงวงการฟุตบอลไทยกำลังไปในทางที่ดี เนื่องจากมีแฟนๆมาดูบอลในประเทศมากขึ้น ฉะนั้นอย่าทำให้เกิดปัญหากระทบกระบวนการนี้ ฟุตบอลยุโรปมีช่วงหนึ่งที่ตกต่ำไปมาก เพราะปัญหาจากอันธพาลตีกัน กว่าจะฟื้นขึ้นมาได้ต้องใช้เวลา ดังนั้น อย่าไปซ้ำรอยนั้น และขอให้สโมสรต่างๆได้มีมาตรการที่เข้มงวดกวดขันมากขึ้นเกี่ยวกับแฟนๆของตัว เอง

ด้าน นายองอาจ ก่อสินค้า "บิ๊กเปี๊ยก" เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ ได้โทรศัพท์ข้ามประเทศมาขอข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในแมตช์ดังกล่าว พร้อมทั้งห่วงใยมาก เพราะภาพและข่าวเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ทำให้ภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลไทยที่กำลังดีวันดีคืนถูกทำลายไปด้วย พร้อมกันนี้ มอบหมายให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา อุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ เป็นประธานพิจารณากรณีดังกล่าว ร่วมกับนายอุดม อนันตพงษ์ ประธานฝ่ายพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง เพื่อหาข้อสรุป ในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ. เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย

เลขาธิการสมาคมลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า เบื้องต้นคงต้องมีมาตรการคุมเข้ม ด้วยการห้ามแฟนบอลของการท่าเรือไทยเข้าสนาม แต่ระยะเวลาจะนานแค่ไหน คงต้องอยู่ที่การตัดสินใจของคณะกรรมการที่จะหารือกัน แต่แน่นอนว่า ในเกม "เอเอฟซี คัพ" การท่าเรือไทยจะใช้สนามศุภชลาศัยเป็นสนามเหย้าพบกับ สโมสรดานัง จากเวียดนามในวันที่ 24 ก.พ. ในฐานะที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นสมาชิกของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ "ฟีฟ่า" และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย "เอเอฟซี" คงมีมาตรการห้ามแฟนบอลการท่าเรือเข้าสนาม เพราะถือว่ามีอำนาจเต็มที่สามารถกระทำได้ เพื่อเป็นการปรามของแฟนบอลบางส่วน ที่ยังมีอารมณ์ค้างมาจากเกมที่มีปัญหาด้วย เชื่อว่า สโมสรดานังคงจะร้องขอกรณีนี้ ผ่านมาทางเอเอฟซีด้วยเช่นกัน แม้ตอนนี้จะยังไม่มีปฏิกิริยาจากเอเอฟซีออกมา เนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุด แต่ต้องเตรียมมาตรการต่างๆ ไว้รับมือ และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก เพราะไม่เช่นนั้นภาพของวงการฟุตบอลไทยพังแน่นอน

"อยากฝากเรียนไป ถึงแฟนบอลทุกสโมสรขอให้ช่วยกันป้องกัน และเชียร์อย่างสร้างสรรค์ เชื่อว่าทุกคนรักฟุตบอลไทย และไม่อยากให้ฟุตบอลไทยพังลงไปอีกครั้ง ขณะเดียวกันสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้รับสนองโปรดเกล้าฯจัดการแข่งขัน ต้องทำหนังสือขอกราบบังคมทูล ขอพระราชทานอภัยโทษจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป" เลขาธิการสมาคมลูกหนังไทย กล่าว

พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมีผู้เสียหาย 5 คน ประกอบด้วยแฟนบอลทีมเมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด 4 คน และ แฟนบอลทีมการท่าเรือ 1 คน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเมื่อคืนที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบปากคำ และส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ และราชวิถี พบว่าต่างฝ่ายมีบาดแผลเจ็บฟกช้ำจากการถูกชกต่อยบริเวณใบหน้า และร่างกายเพียงเล็กน้อย หลังเกิดเหตุ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประสานขอภาพจากสื่อมวลชน ช่อง 3 และ ช่อง NBT แล้ว เพื่อดูภาพการแข่งขั้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ กระทั่งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทขึ้น นำมาประกอบรวมรวบพยานหลักฐาน

ผู้ กำกับการ สน.ปทุมวัน กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จะเน้นตัวบุคคลที่เป็นแกนนำในการก่อเหตุ คนที่เริ่มต้นชกต่อยทำร่างกายผู้อื่นก่อน เพื่อขอศาลออกหมายจับตามภาพถ่าย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นรวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ในประเด็นที่ผู้ก่อเหตุทำลายทรัพย์สินต่างๆในสนามกีฬานั้ คงต้องให้ตัวแทนของการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ จากนั้นจะติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไป สโมสรเมืองทองฯยูไนเต็ด กล่าวว่า ขอยืนยันที่จะเป็นตัวแทนของทุกสโมสรเร่งดำเนินการให้สมาคมฟุตบอลฯ ออกกฎระเบียบที่เข้มงวดในฟุตบอลทุกรายการที่จัดแข่งขันในประเทศ รวมทั้งต้องมีบทลงโทษทีมการท่าเรือฯ ในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย มาถึงตอนนี้ถ้าสมาคมฟุตบอลฯยังไม่รีบเร่งดำเนินการให้ความเป็นธรรมแก่ ทีมแฟนบอลเมืองทองฯ ขณะเดียวกันกฎระเบียบ การแข่งขันในอนาคตต้องเข้มงวด และมีบทลงโทษกับทีมการท่าเรือฯ

"ขอยืนยันว่า เมืองทองฯจะไม่ส่งทีมลงแข่งขันกับ การท่าเรือฯในทุกรายการ โ รวมทั้งฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2 นัดเหย้า-เยือนด้วย โดยพร้อมที่จะยอมเสียคะแนนไป 6 แต้มขณะที่ ฟุตบอลถ้วย ก็จะยกชัยชนะให้เลย พร้อม กราบขอโทษสปอนเซอร์ที่สนับสนุนทีมเมืองทองฯด้วย ถ้าปีนี้ ไม่ได้แชมป์ทุกรายการ อันเนื่องมาจากผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว"เสี่ยเป้ กล่าว

ขณะเดียวกัน นายพิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสรการท่าเรือไทยฯ กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ. จะมีการแถลงข่าวที่สนามแพต สเตเดี้ยม เวลา 17.00 น. และเวลา 17.30 น. จะเรียกแฟนบอล การท่าเรือฯ มาพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ความรู้ แฟนบอลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก ตนมีความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะรับผิดชอบทั้งหมดตามที่กล่าวไป และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่สบายใจเลย แต่มันเป็นเรื่องที่เหนือการควบคุม

ประธานสโมสรการท่าเรือไทยฯ กล่าวต่ออีกว่า วอนสื่อมวลชน อย่ามองสโมสรการท่าเรือไทยฯ เป็นจำเลยของสังคม และวงการฟุตบอลไทย เพราะมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ขอยืนยันว่าจะมีการติดตามตัวผู้ที่ก่อเรื่องมาลงโทษอย่างแน่นอน ขณะนี้ตนมีรูปถ่ายทั้งหมดแล้ว เรื่องนี้จะเป็นบทลงโทษของทางสโมสรเอง เพราะต้องการให้เป็นบทเรียนสำหรับแฟนบอลว่าจะต้องไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบ นี้ขึ้นอีก

ส่วน นายวรวุฒิ โรจนพานิช ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ รู้สึกมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงเตรียมลงมาดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสมาคมฟุตบอลฯ คณะกรรมการจัดการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก รวมทั้งตัวแทนของทุกสโมสรมาร่วมหารือ เพื่อแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งหาแนวทางป้องกันร่วมกัน ก่อนที่จะเสนอต่อรัฐบาลและสมาคมฟุตบอลร่วมกันสร้างมาตรฐานต่อไป

แหล่งข่าว :: http://www.thairath.co.th/

No comments:

Post a Comment