แร็บบิทจับโค้ชง้วนคุมทัพเซ็นยาว3ปี

"เดอะกล๊าสแร็บบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมจ่าฝูงบอลไทยลีก ตัดสินใจเซ็นสัญญา "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ กุนซือคนใหม่ 3 ปีรวด พร้อมค่าเหนื่อยไม่น้อยกว่าเลข 6 หลักต่อเดือน เจ้าตัวรับเป็นงานท้าทาย และสโมสรมีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวไปสู่ทีมฟุตบอลอาชีพที่ดีได้ในอนาคต ประกาศจุดยืนถ้าผลงานไม่เข้าเป้ายอมเลิกสัญญาก่อนกำหนด ด้านผจก.ทีม ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ เชื่อได้ "โค้ชง้วน" เข้ามาทำทีมกับ คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัญโญ่ อดีตกุนซือทีมชาติไทย น่าจะส่งผลดีต่อทีมในอนาคต

ที่ห้องประชุม สโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี เมื่อวันจันทร์ที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี พร้อมด้วย ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผู้จัดการทีม คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัญโญ่ ผู้อำนวยการด้านเทคนิค มร.ฮานส์ อาร์เอ็มเซอร์ อดีตโค้ชของสโมสร นายชัยโชค พุ่มพวง ที่ปรึกษาสโมสร และ "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ กุนซือคนใหม่ของทีม

ได้ร่วมกันแถลงข่าวการปรับเปลี่ยนทีมงาน ด้านเทคนิคของสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ดึงเอา สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ อดีตนักเตะทีมชาติไทยและผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลสโมสรโฮม ยูไนเต็ด จากศึกเอสลีก ของประเทศสิงคโปร์ มาทำทีมแทน มร.ฮานส์ อาร์เอ็มเซอร์ ที่ขอกลับไปทำทีมเยาวชนของสโมสรตามที่ตนเองชอบ และถนัด

จากการเปิดเผยของ ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรฟุตบอลสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี ในครั้งนี้ ทางสโมสรมีสัญญาจ้าง "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ เป็นเวลานาน 3 ปี ค่าเหนื่อยไม่สามารถที่จะบอกตัวเลขได้ แต่ไม่น้อยกว่าเลข 6 หลักต่อเดือน และมั่นใจว่าหลังกุนซือคนใหม่เข้ามาทำทีม ผลงานของทีมน่าจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ส่วน ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผู้จัดการทีม ได้กล่าวว่า "การที่เราตัดสินใจดึง โค้ชง้วน เข้ามาทำทีมเราก็มีความมั่นใจถึงการทำงานของกุนซือคนนี้ ที่เป็นทั้งอดีตนักเตะทีมชาติเก่า และเคยผ่านการเล่นฟุตบอลอาชีพ รวมทั้งเป็นโค้ชอยู่ในสิงคโปร์ มานานกว่า 10 ปี น่าจะเข้ากับเด็กในทีมได้ดี

นอกจากนั้นการตัดสินใจปรับเปลี่ยนคนทำทีมในช่วงนี้ ก็เพราะในช่วงหลังๆ นี้ ทีมมีสภาพทรงกับทรุด ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างภายในทีมอาจจะมีผลทำให้ทีมพบกับความตกต่ำ แล้วค่อยมาตัดสินใจปรับเปลี่ยนคนทำทีมเอา สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ เข้ามาทำทีมตอนนั้น มันอาจจะสายเกินไปแล้วก็เป็นได้"

ด้าน สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ อดีตนักเตะทีมชาติไทยกุนซือใหม่ของสโมสรบางกอกกล๊าส กล่าวว่า "ผมได้คุยกับผู้บริหารทีมสโมสรบางกอกกล๊าส เพียงแค่ 2 อาทิตย์เท่านั้น ก่อนตัดสินใจเพราะเห็นว่าเป็นงานที่ท้าทายความสามารถ ก่อนที่จะเข้ามาทำทีมสโมสรบางกอกกล๊าส ด้วยสัญญาจ้าง 3 ปี เพราะมองเห็นว่าสโมสรแห่งนี้มีการบริหารจัดการที่ดี"

"ดีกว่าสโมสรโฮม ยูไนเต็ด ที่ผมเป็นโค้ชอยู่ และมองว่าสโมสรแห่งนี้สามารถที่จะก้าวเป็นสโมสรอาชีพที่ดีได้ในอนาคต แต่ถ้าก่อน 3 ปี ผลงานไม่ดีก็จะขอพิจารณาลาออกเองโดยวันพุธที่ 3 มิ.ย.นี้ ก็จะบินกลับไปสิงคโปร์ เพื่อขอเลิกสัญญากับสโมสรโฮม ยูไนเต็ด ที่จะหมดสัญญาภายในสิ้นปีนี้ ก็คงต้องเสียค่าเลิกสัญญาบางส่วนและจะบินกลับมาทำทีมบางกอกกล๊าส อย่างเต็มตัว วันเสาร์ที่ 6 มิ.ย.นี้"

"การทำทีมก็คงไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรภายในทีม เพราะถ้าทีมสโมสรบางกอกกล๊าส ศักยภาพตัวผู้เล่นไม่ดีพอทีมคงไม่ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับจ่าฝูงของตารางการแข่งขันได้ ตนเองในฐานะโค้ชใหม่จะเข้าไปดูแลในเรื่องของทีมให้ดีขึ้นเท่านั้น และจะดึงเอาความสามารถของนักเตะที่มีอยู่ออกมาใช้ให้มากที่สุด เรื่องที่จะไปปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นในทีม ไม่ทำเด็ดขาด เรื่องการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นให้เป็นหน้าที่ของผู้บริหารทีม หรือถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงภายในทีมก็คงต้องปรึกษากับทุกฝ่ายดูก่อนๆ ตัดสินใจ"

ส่วนคำถามของสื่อมวลชนที่ถามว่า ถ้าสมาคมฟุตบอลฯ จะดึงไปช่วยเป็นโค้ชทีมชาติไทยจะไปหรือไม่ ในเรื่องนี้ "โค้ชง้วน" กล่าวว่า "ก็คงอยู่ที่ช่วงเวลา ถ้ายังมีภาระที่ต้องทำทีมให้กับสโมสรบางกอกกล๊าส ก็คงต้องปฎิเสธไป แต่ถ้าหมดภาระหน้าที่กับสโมสรมีเวลาว่างพอก็คงต้องปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนตัดสินใจที่จะไปช่วยทีมชาติต่อไป"

ต่อจากนั้น อำนาจ แก้วเขียว กัปตันทีมสโมสรบางกอกกล๊าส ได้กล่าวว่า "น่าจะโอเค ที่ได้ พี่ง้วน มาทำทีม ทีมน่าจะดีขึ้นเพราะเขาเป็นนักฟุตบอลที่นักเตะในทีมบางกอกกล๊าส ทุกคนยอมรับในความสามารถอยู่แล้ว ถ้ามาเป็นโค้ชก็เชื่อว่าความสามารถของพี่เขา น่าจะพาทีมของเราก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางที่ดีได้"

ขณะที่ วรวุฒิ จุฬาฤทธิ์ ประธานเชียร์ทีมสโมสรบางกอกกล๊าส กล่าวว่า "เราในฐานะกองเชียร์ใครเข้ามาทำทีมเราก็ต้องเชียร์อยู่แล้ว แต่ก็เชื่อในความสามารถของกุนซือใหม่คนนี้ ที่มีประสบการณ์ทั้งเคยเป็นนักเตะทีมชาติและทำทีมอยู่ในสิงคโปร์มาหลายปี น่าจะพาทีมสโมสรบางกอกกล๊าส ก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางที่ดีได้ในอนาคต"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/