Monday, June 7, 2010

เจ้าท่าเฉียบอัดแข้งเทพ3-2,ทีทีเอ็มเซ็งโปลิศ สอย1-0

"สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี เปิดแพทสเตเดี้ยม ดวลกับ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด สุดมันส์ ก่อนได้ จิระวัฒน์ มัคคะรมย์, ศรายุทธ ชัยคำดี และ สมปอง สอแหลบ เรียงแถวยิงคนละเม็ด เบียดคว้า 3 แต้มเต็ม ด้วยสกอร์ 3-2 ขณะที่ "โปลิศแมน" อินทรี เพื่อนตำรวจ สุดแสบยิงช่วงท้ายเกม บุกเชือด "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร คาบ้าน 1-0 ศึกลูกหนัง สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา

การท่าเรือไทย เอฟซี 3-2 แบงค็อก ยูไนเต็ด

ที่สนาม แพท สเตเดี้ยม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับ 10 ตารางคะแนน ลงสนาม 9 นัด มีอยู่ 11 แต้ม เปิดบ้านพบกับ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 14 แข่งมา 8 นัด เก็บได้ 7 คะแนน

เกมนี้เจ้าบ้าน การท่าเรือไทย เอฟซี จัดระบบการเล่น 4-4-3 โดยวางกองหน้า เป็น "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี, สมปอง สอแหลบ และ จาค็อป แทน ใหญ่ นิลวงษ์ แดนกลาง 3 คน มี จิรวัฒน์ มัคคะรมย์, จักรกริช บุญคำ และ เกียรติเจริญ เรืองปาน ส่วนกองหลังมี รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์, พงษ์พิพัฒน์ คำนวน, โยชิอากิ มารุยาม่า และ มาริโอ ดา ซิลวา ส่วน ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ ยืนเป็นผู้รักษาประตู

ฝั่ง แบงค็อก ยูไนเต็ด มาเยือนด้วยระบบการเล่น 3-5-2 โดยมี วีระ เกิดพุดซา เป็นผู้รักษาประตู กองหลังเป็น เกรียงไกร ชาสังข์, มุซซ่า ซาอิบ และ ปฏิภาณ เพชรพูล ที่รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมด้วย ส่วนแดนกลางมี มาซาฮิโระ ฟูกาซาวะ, กิตติศักดิ์ ศิริแว่น, ชีค อะบิ๊บ ฟอฟาน่า และ ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์, โดยใช้ ซารีฟ สายนุ้ย ยืนเป็นหอกเป้า

เริ่มการแข่งขันได้เพียง น.2 เท่านั้น ก็เชียร์เจ้าบ้านก็ได้เสียวกันก่อน จากการเปิดจากมุมธงฝั่งขวาของ จิระวัฒน์ มัคคะรมย์ เข้ามาหน้าปากประตูเป็น จาค็อบ อาเคียวมาเร่ ได้โหม่เต็มศรีษะ แต่ วีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตู แบงค็อก ยูไนเต็ด ปัดออกมาได้ บอลยังไปเข้าทางผู้เล่นของการท่าเรือ เกียรติเจริญ เรืองปาน ที่เก็บตกได้จากแถวสอง ก่อนส่งบอลต่อให้ จาคอบ ได้ซัดอีกครั้ง และทางด้าน วีระ เกิดพุดซา กระโดดปัดออกหลังได้อีกครั้งหนึ่ง

น.10 "สิงห์เจ้าท่า" ได้โอกาสจากลูกฟรีคิก ระยะ 20 หลาทางริมเส้นด้านซ้าย จิระวัฒน์ มัคคะรมย์ รับหน้าที่ปั่นด้วยขวา บอลลอยข้ามหัวกำแพง พุ่งเข้ากรอบ จังหวะสุดท้าย บอลตกกระทบพื้น และกระเด้งเข้าไปตุงตาข่าย ให้เจ้าถิ่นออกนำ 1-0

การแข่งขันเป็นไปอย่างเข้มข้น เมื่อทั้งเจ้าบ้านและทีมเยือนเปิดเกมแลกกันเต็มที่ น.13 กองเชียร์ทีมเยือนก็มีโอกาสได้ลุ้นเช่นกัน จากการเปิดฟรีคิกระยะกว่า 30 หลาของ มูซ่า โคเน่ เข้าไปหน้าเขตโทษเป็น รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ กองหลังการท่าเรือ โหม่งสะกัดผิดเหลี่ยมบอลย้อยตกหลังประตู

และแล้วเกมบุกทีมเยือนก็เป็นผล น.15 จากการต่อบอลขึ้นทางฝั่งขวาแล้วก็เป็น ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ เปิดข้ามฟากผ่านหน้าประตูข้ามไปที่เสาสองเป็น มูซซ่า ซาอิบ ขึ้นแย่งโหม่งกับ รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ กองหลังของเจ้าบ้าน แต่จังหวะสุดท้ายเป็น มุซซ่า ซาอิบ ที่เทกตัวโหม่งได้ดีกว่า ส่งบอลย้อยลอยข้ามหัว ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ ผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน เป็นประตูตีเสมอ 1-1

เกมของทั้งสองทีมเป็นไปอย่างเร้าใจกองเชียร์ น.31 พงษ์พิพัฒน์ คำนวน เปิดบอลยาวจากทางฝั่งขวาเข้ากลางให้ สมปอง สอแหลบ ได้เบียดแย่งบอลกับ มุซซ่า โคเน่ กองหลังแบงค็อก ล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินมองเป็นการเข้าแย่งบอลปล่อยให้เล่นต่อไป น.35 แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้โอกาสลุ้นบ้าง จากกลูกตั้งเตะฟรีคิกของทางด้าน ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ บอลพุงตรงเข้ากรอบแต่ทาง ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ ผู้รักษาประตูท่าเรือ รับได้ไม่พลาด

เข้าสู่ช่วงท้ายของครึ่งแรก เกมทั้งสองทีมยังเป็นไปอย่างสนุก น.42 เจ้าบ้าน การท่าเรือไทย เอฟซี ได้ประตูออกนำ 2-1 จากการทำประตูของ ศรายุทธ ชัยคำดี ที่รับบอลต่อมาจาก จิระวัฒน์ มัคคะรัมย์ แล้วเห็นว่าว่า วีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตูของ แบงค็อก ออกมาไกล บรรจงชิพ ข้ามหัวเข้าประตูไปอย่างสวยงาม หมดครึ่งแรกเจ้าถิ่น การท่าเรือฯ ออกนำ แบงค็อก ยูไนเต็ด อยู่ 2-1

ครึ่งหลังทีมเยือน แบงค็อก ยูไนเต็ด มีการขยับปรับเปลี่ยนผู้รักษาประตู โดยให้ สราวุธ กองลาภ เข้ามาแทน วีระ เกิดพุดซา ที่พลาดเสีย 2 ประตูในครึ่งเวลาแรก น.53 ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ มีโอกาสซัดไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่ทางด้านผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ ก็ล้มตัวคว้าไว้ได้

การท่าเรือฯ เริ่มมีการขยับปรับเปลี่ยนแดนหน้า โดยเปลี่ยน ใหญ่ นิลวงษ์ ลงเล่นแทน จาค็อบ อาเคียวมาเร่ หลังจากที่ทางฝั่งท่าเรือ เริ่มต่อเกมกลับมาได้อีกครั้ง ก็ได้ประตูทิ้งห่างเป็น 3-1 น.58 เป็นทาง จักรกริช บุญคำ เปิดบอลต่อให้ สมปอง สอแหลบ ที่ในกรอบเขตโทษ และเลี้ยงจี้เข้าหาประตู ก่อนซัดเต็มข้อผ่านมือผู้รักษาประตูทีมเยือนเข้าไปตุงตาข่ายวสุดสวย

ถัดมา น.67 การท่าเรือฯ ก็มีโอกาสได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะชุลมุนในกรอบเขตโทษ จักรกริช บุญคำ ได้ซัดเต็มข้อแต่ สราวุธ กองลาภ ผู้รักษาประตูตัวสำรองของแบงค็อก พุ่งปัดได้ แต่บอลยังไม่พ้นอันตราย ใหญ่ นิลวงษ์ ได้โอกาสยิงจ่อๆ แต่บอลพุ่งไปชนเสาออกหลังไป

หลังจากที่ได้ประตูนำห่างเป็น 3-1 การท่าเรือฯ เล่นกันได้อย่างมีความมั่นใจมากขึ้น ด้าน "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด มีจังหวะสวนกลับบ้างเป็นบางจังหวะ น.86 ทีมเยือนก็มาได้ประตูไล่ตีตามมาเป็น 2-3 จากการยิงนอกกรอบของ ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์

ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน ผู้เล่นของแบงค็อก ยูไนเต็ด พยายามเร่งเกมบุกอย่างเต็มที่ น.89 มาได้ลูกฟรีคิก ระยะกว่า 30 หลากลางประตู นพพล ผลอุดม ยิงไปติดปลายมือ ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ ปัดออกหลังไป แม้ว่าหลังจากนั้นจะพยายามบุกเข้าทำประตูเจ้าบ้าน แต่ก็ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม การท่าเรือไทย เอฟซี เอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ดไปได้ 3-2

วาทะโค้ช

สะสม พบประเสริฐ เฮดโค้ชการท่าเรือไทย เอฟซี - เกมโดยรวมถือว่าดีโดยเฉพาะในช่วง 70 นาทีแรกนั้นถือว่าเล่นได้ตามแท็กติก แต่หลังจากที่ยิงนำไป 3-1 แล้ว มีการดึงเกมมากไป จนโดนไล่มาเป็น 2-3 ฟุตบอลมันอยู่ที่จังหวะสุดท้ายใครทำได้ดีกว่าก็เป็นฝ่ายชนะ

วรกร วิจารณ์ณรงค์ กุนซือแบงค็อก ยูไนเต็ด - วันนี้ วีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตูเจ็บอยู่จึงเล่นได้ไม่เต็มที่ โดยรวมผู้เล่นก็พยายามเล่นกันอย่างเต็มที่ เล่นได้ตามแท็กติกที่วางไว้ แต่หลังจากเสียลูก 3-1 แล้วทำให้เกมไปเข้าทางท่าเรือมากกว่า

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

การท่าเรือไทย เอฟซี : ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ 7, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ 7, พงษ์พิพัฒน์ คำนวน 7, โยชิอากิ มารุยาม่า 7, มาริโอ ดา ซิลวา 7, จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ 6.5 (วรวุฒิ วังสวัสดิ์ 6.5), จักรกริช บุญคำ 7, เกียรติเจริญ เรืองปาน 7, ศรายุทธ ชัยคำดี 8, สมปอง สอแหลบ 7.5, จาค็อบ อาเคียวมาเร่ 6.5 (ใหญ่ นิลวงษ์ 6)

แบงค็อก ยูไนเต็ด : วีระ เกิดพุดซา 6 (สราวุธ กองลาภ 6), เกรียงไกร ชาสังข์ 6, มุซซ่า ซาอิบ 6 (ปารเมศ มาศขุนทด 6), ปฏิพาน เพชรพูล 6.5, กิตติศักดิ์ ศิริแว่น 6 (นพพล ผลอุดม 6), มาซาฮิโร่ ฟูกาซาซ่า 6.5, ทรงศักดิ์ เฮมเขียว 6.5, จิรณัฐ นนทเกษ 6, ชีค อาบิ๊บ ฟอฟาน่า 6, ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ 6.5, ซารีฟ สายนุ้ย 6.5

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ศรายุทธ ชัยคำดี หัวหอกจอมเก๋าของ การท่าเรือไทย เอฟซี

ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร 0-1 อินทรีเพื่อนตำรวจ

ที่สนาม อบจ.พิจิตร "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ทีมอันดับ 6 ของตาราง ลงสนาม 8 นัด มี 14 คะแนน เปิดบ้านพบกับ "โปลิศแมน" อินทรีเพื่อนตำรวจ ทีมอันดับ 13 เตะมา 9 เกม มีอยู่ 8 แต้ม

เกมนี้ โจเซ่ อัลเวส เบอร์วิส เฮดโค้ชเจ้าถิ่น ส่ง ณรงค์ จันทร์เสวก ลากเลื้อยทางริมเส้นฝั่งซ้าย พร้อมจัดกองกลางตัวรับลงพร้อมกันถึงสามคนทั้ง แฟร้งค์ อดัมส์, สันติภาพ ศิริ และ เจษฎา บุญเรืองรอด โดยมี ขวัญชัย เฟื่องประกอบ และ กิตติพงษ์ มูลพงค์ เป็นกองหน้าคู่กัน ส่วนกองหลังประกอบไปด้วย ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร, ธนา ศรีพันดร เป็นแบ็กขวาและซ้าย ส่วนเซนเตอร์เป็น พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี กับ เอ็นกวตต้า โดยมี ทศพร ศรีเรือง เฝ้าเสาประตู

ขณะที่ อินทรีเพื่อนตำรวจ ของ "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานสโมสร ที่เกมนี้มานั่งชมอยู่ขอบสนามด้วยนั้น จัด ณรงค์ชัย วชิรบาล เพลเมกเกอร์คนเก่ง ลงทำเกมหลังคู่ศูนย์หน้า สุรชาติ สารีพิมพ์ และ ฟูจิ โดยมี เอกอาทิตย์ สมจิตร กับ จักรพันธ์ พรใส คอยลากเลื้อยทางริมเส้นทั้งสองฝั่ง และให้ ธนพัต ณ ท่าเรือ เป็นตัวตัดเกม ส่วนแผงหลังมี เดชา สะอาดโฉม, กฤษฎี ประกอบของ, ทากาฮิโระ กาวามูระ และ ชาง ซึง วอน ขณะที่นายทวารเป็น สมพงษ์ ยอดอาจ

เปิดฉากมานาทีแรก ทีทีเอ็ม ได้ลุ้นจากการยิงไกลร่วม 30 หลาของ ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร แต่ลูกนี้ข้ามคานออกหลังไปแบบได้ลุ้น น.4 เจ้าบ้านทำเกมรุกมาได้สวย และเกือบส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จ เมื่อ ธนา ศรีพันดร ทุ่มบอลจากฝั่งซ้ายไปเส้นหลังให้ ณรงค์ จันทร์เสวก วิ่งสอดขึ้นมาตวัดไปที่เสาแรกให้ กิตติพงษ์ มูลพงค์ พุ่งโขกเต็มศีรษะ แต่ดาวยิงผมยาวรายนี้ กลับโหม่งออกอย่างน่าเสียดาย

อีก 3 นาทีถัดมา เกมรับของ อินทรีเพื่อนตำรวจ ดันขึ้นสูง และเกือบนำพาการเสียประตูให้เจ้าบ้านอีกครั้ง เมื่อ ขวัญชัย เฟื่องประกอบ วิ่งแซงกองหลังหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงในเขตโทษฝั่งซ้าย แต่บอลนั้นเบาเกินไปทำให้ สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวารทีมเยือนรับสบาย

หลังถูกกดดันหนักตั้งแต่ 10 นาทีแรก แต่หลังจากนั้น อินทรีเพื่อนตำรวจ สามารถครองเกมได้ และเกือบส่องประตูขึ้นนำได้เช่นกัน น.12 เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา และเป็น กฤษฎี ประกอบของ ที่เปิดไปเสาสองให้ สุรชาติ สารีพิมพ์ โหม่งเต็มศีรษะผ่าน ทศพร ศรีเรือง นายทวารเจ้าถิ่นไปแล้ว แต่ ธนา ศรีพันดร แบ็กซ้ายของ ทีทีเอ็ม ยังยืนคุมเส้นอยู่โหม่งสะบัดออกไปได้ แต่ยังไม่พ้นขีดอันตรายเมื่อ กฤษฎีเปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าลุ้นกลางประตูอีกครั้ง

โดยหนนี้ ทศพร ออกมาตัดบอลพลาด ทำให้จังหวะสุดท้าย สุรชาติ สารีพิมพ์ ได้ยิงอีกครั้งประมาณ 10 หลา ทว่า เอ็นกวตต้า กองหลังผิวสีของ ทีทีเอ็มยังเตะทิ้งออกมาได้บนเส้นอีก ทำให้ทีมเยือนชวดได้ประตูถึงสองครั้งติด อย่างเหลือเชื่อ

น.15 เกมรุกของ อินทรีเพื่อนตำรวจ เหมือนได้ใจ และคราวนี้เป็น ฟูจิ ที่ได้บอลถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนเปิดไปบริเวณจุดโทษให้ สุรชาติ สารีพิมพ์ โหม่งย้อนหวังเสียบเสาแรก แต่บอลกลับผ่านออกหลังไปแค่คืบ

ทว่านาทีถัดมา ทีทีเอ็ม โต้กลับมาบ้าง โดย ขวัญชัย เฟื่องประกอบ ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนเปิดไปกลางประตูให้ กิตติพงษ์ มูลพงค์ โฉบเข้ามายิงระยะแค่ 5 หลา แต่ติดเซฟ สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวาร อินทรีเพื่อนตำรวจ อย่างน่าเสียดาย

น.23 กองเชียร์ทีมเยือนที่ตามมาเชียร์เกือบได้เฮกันลั่น เมื่อ เอ็นกวตต้า ปราการหลัง ทีทีเอ็ม ไปทำฟาวล์ จักรพันธ์ พรใส หน้าเขตโทษก่อนรับใบเหลืองเป็นคนแรก และจากฟรีคิกประมาณ 20 หลากลางประตู "เจ้าตั้ม" ณรงค์ชัย วชิรบาล รับหน้าที่ปั้นแหวกกำแพง แต่บอลกลับพุ่งชนเสาอย่างจัง

จากนั้น อินทรีเพื่อนตำรวจ สามารถครองบอลได้มากกว่า แต่ น.28 กลับเป็น "สิงห์เหนือ" ที่ได้ลุ้นบ้าง เมื่อ สันติภาพ ศิริ เปิดบอลออกทางขวาให้ ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร แบ็กขวาที่เติมเกมขึ้นมากดเต็มข้อ บอลพุ่งผ่าน สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวารทีมเยือนไปแล้ว แต่ ชาง ซึง วอน กองหลังเลือดกิมจิของ "โปลิศแมน" ยังสไลด์ดักไว้ได้หวุดหวิด

เกมผ่านมาถึงช่วงท้ายครึ่งแรกทั้งสองทีมดูเนือยลงไป เนื่องจากอากาศในสนามที่ค่อนข้างร้อน แม้ว่า ธนา ศรีพันดร ของ ทีทีเอ็ม จะได้ยิงฟรีคิก 25 หลา แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ สมพงษ์ ยอดอาจ อีก ก่อนครบ 45 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังกลับมาเล่นกันใหม่ ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น และเริ่มมาได้ไม่ถึงนาทีเจ้าบ้านเกือบขึ้นนำถึงสองครั้งติดกัน เริ่มจาก ขวัญชัย เฟื่องประกอบ ไหลบอลให้ เจษฎา บุญเรืองรอด วิ่งมาตะบัน 20 หลากลางประตูเต็มข้อ แต่ สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวาร อินทรีเพื่อนตำรวจ ยังทุบออกมาได้ และอีกไม่กี่วินาทีต่อมา กิตติพงษ์ มูลพงค์ ได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษฝั่งขวา แต่ติดบล็อก ชาง ซึง วอน กองหลังทีมเยือนออกหลังไปอีก

น.48 เกมรุกของ ทีทีเอ็ม ทำงานอย่างหนัก เช่นเดียวกับ สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวารทีมเยือนที่ต้องออกแรงเซฟลูกยิงไกล 30 หลาของ ขวัญชัย เฟื่องประกอบ บอลพุ่งจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้ว แต่ผู้รักษาประตูดาวรุ่งรายนี้กระโดดรับติดมือ

จากนั้น ทีทีเอ็ม เหมือนได้ใจ เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ผู้มาเยือนอย่างหนัก น.53 ณรงค์ จันทร์เสวก ปีกซ้ายของเจ้าถิ่น เลี้ยงบอลจากซ้ายก่อนตัดเข้ากลางและซัดเต็มข้อ แต่บอลถากเสาแรกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

เกมผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองทีมยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกกันได้ แต่รูปเกมที่ออกมาถือว่าสนุก เนื่องจากทั้งสองทีมพยายามจะเปิดเกมรุกเข้าหากัน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ

น.63 ทีทีเอ็ม แก้เกมด้วยการเปลี่ยนตัวเป็นคนแรก โดยส่ง "พลทหารโด้" ไกรกิตติ อินอุเทน ลงสนามไปแทน เจษฎา บุญเรืองรอด และก็เกือบได้เรื่อง เมื่อ ไกรกิตติ โดนบอลครั้งแรกก็เกือบส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้ แต่ลูกยิงในเขตโทษฝั่งขวาของ "พลทหารโด้" กลับหลุดเสาแรกออกหลังไป

จากนั้น อินทรีเพื่อนตำรวจ เหมือนอยู่ไม่ได้ โดยมีการเปลี่ยนตัวคนแรกเช่นกัน น.71 ด้วยการส่ง โกรัน โซริค ลงไปล่าตาข่ายแทน ฟูจิ แต่ น.74 เป็น ทีทีเอ็ม ที่โต้กลับไวและเกือบได้ประตู เมื่อ ขวัญชัย เฟื่องประกอบ โหม่งบอลย้อนให้ สันติภาพ ศิริ วิ่งเข้ามาวอลเลย์ 25 หลากลางประตู แต่บอลยังไปตรงตัว สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวารทีมเยือนอีก

ท้ายเกมทั้งสองทีมเปลี่ยนตัวอีกฝั่งละคน โดยเจ้าบ้านให้ อนุสรณ์ ศรีชาหลวง ลงแทน กิตติพงษ์ มูลพงค์ ส่วน อินทรีเพื่อนตำรวจ ให้ สิงขร มังคุด ลงไปแทน เอกอาทิตย์ สมจิตร และ น.83 งานก็เข้าทางฝั่งเจ้าบ้านจนได้ เมื่อ จักรพันธ์ พรใส กระชากบอลแหวกกลางก่อนจ่ายบอลออกฝั่งขวาให้ สิงขร มังคุด จับบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดเต็มข้อผ่าน ทศพร ศรีเรือง นายทวาร ทีทีเอ็ม เข้าประตูไปให้ อินทรีเพื่อนตำรวจ นำ 1-0 ชนิดช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่น

หลังเสียประตู "สิงห์เหนือ" พยายามเปิดเกมรุกอย่างหนัก หวังเอาประตูตีเสมอให้ได้ และก็เกือบทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮเช่นกัน โดย น.85 กองหลังทีมเยือนเคลียร์บอลไม่ขาด แต่จังหวะขลุกขลิกหน้าประตูของ "โปลิศแมน" ไม่ได้นำพาซึ่งประตูตีเสมอของ ทีทีเอ็ม

ท้ายเกมเจ้าบ้าน ดันขึ้นไปเล่นเกมรุกอย่างหนักหวังเอาประตูตีเสมอ ทว่าพอทำไม่ได้ยังเกือบโดนทีมเยือนส่องประตูปิดกล่องเอาด้วย แต่ยังดีที่ลูกหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายของ จักรพันธ์ พรใส กลับยิงชนเสาอย่างจัง

และเวลาที่เหลือเกมรุกของ ทีทีเอ็ม ไม่สามารถตีเสมอให้แฟนบอลเจ้าถิ่นได้ยิ้มได้ จบเกม อินทรีเพื่อนตำรวจ บุกมาชนะ ทีทีเอ็ม ถึงถิ่น 1-0 คว้า 3 แต้มไปครอง โดย "สิงห์เหนือ" แพ้ในบ้านเป็นเกมที่สองแล้ว และเป็นความพ่ายแพ้นัดแรกของ โจเซ่ นับตั้งแต่กลับมาคุมทีม ทีทีเอ็ม

วาทะโค้ช

โจเซ่ อัลเวส เบอร์วิส กุนซือใหญ่ ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร - เป็นเกมที่ดีนับตั้งแต่ที่ผมมาคุมทีม แม้ว่าวันนี้เราจะแพ้แต่โดยรวมถือว่าพอใจในเรื่องการครองเกม โดยวันนี้หากเรามีกองหน้าที่ดีเราน่าจะยิงประตูได้ ซึ่งความพ่ายแพ้ในวันนี้ผมจะเดินเข้าไปบอกนักเตะและแสดงความยินดีที่ทุกคน เล่นได้ดีและผมเชื่อว่าเราจะกลับมาได้เพราะวันนี้เป็นแค่เกมเกมนึงที่เราไม่ ชนะเท่านั้น

ชัยยง ขำเปี่ยม กุนซือใหญ่อินทรี เพื่อนตำรวจ - แน่นอนว่า 3 คะแนนนอกบ้านเป็นสิ่งที่น่าพอใจ ซึ่งวันนี้เราพยายามใช้ผู้เล่นที่รูปร่างสูงใหญ่สู้กับ ทีทีเอ็ม และช่วง 15 นาทีสุดท้ายเราเอานักเตะที่มีความคล่องตัวลงไปสู้และก็ได้ผล อย่างไรก็ตามครึ่งแรกเรามีโอกาสได้ประตูเยอะแต่ก็ทำไม่ได้ซึ่งนี่คือฟุตบอล และพยายามบอกเด็กว่าอย่าเก็บมาเป็นอารมณ์ทำให้เราได้ประตูชัยในช่วงท้าย

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร : ทศพร ศรีเรือง 5, ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร 5.5, เอ็นกวตต้า 5.5 (โคเน่ อดาม่า -), พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี 5.5, ธนา ศรีพันดร 5.5, แฟร้งค์ อดัมส์ 5, ณรงค์ จันทร์เสวก 6, เจษฎา บุญเรืองรอด 5.5 (ไกรกิตติ อินอุเทน 5.5), สันติภาพ ศิริ 5.5, ขวัญชัย เฟื่องประกอบ 5.5, กิตติพงษ์ มูลพค์ 5.5 (อนุสรณ์ ศรีชาหลวง -)

อินทรี เพื่อนตำรวจ : สมพงษ์ ยอดอาจ 7, เดชา สะอาดโฉม 6, กฤษฎี ประกอบของ 6, ทากาฮิโระ คาวามูระ 6, ชาง ซึง วอน 6, เอกอาทิตย์ สมจิตร 5 (สิงขร มังคุด 6), จักรพันธ์ พรใส 6.5, ธนพัต ณ ท่าเรือ 6, ณรงค์ชัย วชิรบาล 6.5, สุรชาติ สารีพิมพ์ 6.5, ฟูจิ 6 (โกรัน โซริค 5.5)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวารของ อินทรี เพื่อนตำรวจ

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

No comments:

Post a Comment