Sunday, May 30, 2010

เชียงรายยิง5-1,ลำปาง2-1,สิงห์บุรีเจ๊าด.2เหนือ

"แมงป่องไฟ" เชียงราย เอฟซี เปิดบ้านถล่ม "ทหารเสือพระเจ้าตาก" ตาก เอฟซี 5-1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม ได้แบบสบายเท้า ขณะที่ "นักรบบางระจัน" สิงห์บุรี เอฟซี สุดเซ็ง ได้จุดโทษทดเจ็บ แต่ อัลมาร์มี่ ซิลล่า กลับยิงข้ามคาน ทำให้เสมอกับ "ม้าคะนองศึก" แพร่ ยูไนเต็ด ไปแบบน่าเสียดาย 0-0 ด้าน ลำปาง เอฟซี ฮึดชือด สุโขทัย เอฟซี 2-1 ส่วน เพชรบูรณ์ เอฟซี เจ๊ากับ พิษณุโลก เอฟซี สุดเดือด 1-1 บอลดิวิชั่น 2 ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล "เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2" ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

สิงห์บุรี เอฟซี 0-0 แพร่ ยูไนเต็ด

ที่สนามกีฬา จ.สิงห์บุรี "นักรบบางระจัน" สิงห์บุรี เอฟซี ทีมอันดับ 5 ของตาราง เตะ 14 นัด มี 28 คะแนน เปิดบ้านพบกับ "ม้าคะนองศึก" แพร่ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 เตะ 14 นัด มี 28 คะแนนเท่ากัน แต่ลูกได้เสียดีกว่าสิงห์บุรี

เกมนี้เจ้าถิ่น สิงห์บุรี วาง ธีระพร กลิ่นถือศีล ล่าตาข่ายคู่กับ มงคล เถกิงวิทย์สถาพร โดยมี กฤษณะ ปานมงคล ลงทำเกมทางด้านข้าง พร้อมด้วย สกล ขวัญใจ, พรเทพ ปานอินทร์ และ กมล โพธิ์ทอง ด้านทีมเยือนจากเหนือตอนบน ส่ง นิรุนดร์ อัศวภักดี กองกลางตัวทำเกมลงบัญชาเกมในแดนกลาง และให้ เธียร์รี่ กับ วรายุทธ กล่อมนาค เป็นศูนย์หน้าคู่กัน

เริ่มเกมมาทั้งสองทีมยังดูเนือยๆ เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างที่จะร้อนจัด แต่ น.6 แพร่ได้ทักทายก่อน จากการยิงไกลของเธียร์รี่ 20 หลากลางประตู แต่บอลไซด์ก้อยออกหลังไป

เกมของสิงห์บุรีพยายามจะทำเกมบุกขึ้นไป แต่จังหวะสุดท้ายมักไปทำฟาวล์คู่ต่อสู้บริเวณแดนหน้ามากกว่า แถม น.14 ยังเกือบโดนทีเด็ดของแพร่เล่นงานด้วย ยังดีที่ลูกยิงในเขตโทษฝั่งขวาของ วรายุทธ กล่อมนาค ดันเข้าซอง ขชล มีใจเย็น นายทวารเจ้าถิ่น

เกมผ่านมาครบครึ่งชั่วโมง สิงห์บุรี ยังไม่สามารถเล่นเกมของตัวเองได้ โดยเป็นแพร่ที่เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า แต่ยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกได้ ทว่าเกือบโดนลูกโต้กลับของเจ้าถิ่นเล่นงานเช่นกัน ยังดีที่ตูเร่ปราการหลังผิวสีของแพร่ยังจัดการกับ ธีระพร กลิ่นถือศีล กองหน้าตัวเก่งของสิงห์บุรีได้ดี

น.34 สิงห์บุรีมีโอกาสยิงประตูขึ้นนำครั้งแรกของเกม จากฟรีคิก 30 หลาของ กิตติทัต จันทองไฝ ด้วยเท้าซ้าย โดยบอลไซด์โป้งพุ่งเข้าหาสามเหลี่ยม แต่ กฤษฎา โนนชัย นายทวารทีมเยือนยังวิ่งมารับไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังเริ่มมาได้นาทีเดียว เกมรุกของแพร่ได้ทำงานก่อน เมื่อ เธียร์รี่ จ่ายบอลออกทางซ้ายให้ สมคิด บันลือ หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนสับไกยิง แต่ยังไม่ผ่านมือ ขชล มีใจเย็น นายทวารเจ้าถิ่นที่ล้มตัวรับไว้ได้

อีก 3 นาทีถัดมา เจ้าถิ่นมีลุ้นเช่นกัน จากจังหวะที่ พรเทพ ปานอินทร์ ได้โอกาสเปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปที่เสาแรก โดย กฤษฎา โนนชัย ผู้รักษาประตูทีมเยือนคิดว่าบอลออก จึงยืนหลบบอล ทว่าบอลกลับชนเสาแรกกระเด้งออกมา ยังดีที่ไม่มีผู้เล่นของ สิงห์บุรียืนอยู่ตรงนั้น ทำให้กองหลังแพร่เคลียร์ออกไปทัน

น.66 แพร่ชวดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เมื่อ เธียร์รี่ ดาวยิงผิวสีของทีมเยือน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ ขชล มีใจเย็น นายทวารเจ้าถิ่นแล้ว แต่ เธียร์รี่ พยายามยิงเหนือชั้นด้วยการหลบหนี ขชล แต่ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของสิงห์บุรียังเก๋า ดักทางก่อนสไลด์บอลออกข้างไปได้อย่างหวุดหวิด ทำให้เกมยังเสมอกันอยู่เท่าเดิม

จากนั้นเกมเริ่มแรงขึ้น โดยผู้เล่นทั้งสองทีมต่างเล่นคนมากกว่าบอล ทำให้ผู้ตัดสินต้องเป่าหยุดเกมและแจกใบเหลืองให้ผู้เล่นเจ้าปัญหาไปหลายคน รวมถึงบนอัฒจันทร์แฟนบอลบางส่วนของทั้งสองทีม ก็มีปัญหานิดหน่อย ทำให้เกมต้องหยุดไปชั่วขณะ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรบานปลาย

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย สิงห์บุรี ชวดได้ประตูชัยอย่างน่าเสียดาย เมื่อทีมมาได้ลูกโทษที่จุดโทษ ทว่า อัลมาร์มี่ ซิลล่า ดาวยิงผิวสีตัวสำรองที่เปลี่ยนลงไป กลับวิ่งเข้ามาซัดข้ามคานออกไปอย่างเหลือเชื่อ ทำให้จบเกมทั้งคู่เสมอกัน 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน

ลำปาง เอฟซี 2-1 สุโขทัย เอฟซี

ที่สนามกีฬากลางจังหวัดลำปาง "รถม้ามรกต" ลำปาง เอฟซี ทีมอันดับ 12 ของตารางมี 11 คะแนน เปิดรังพบกับ "ค้างคาวไฟ" สุโขทัย เอฟซี ทีมอันดับ 7 นัดนี้เจ้าบ้านขาด สาธิต ใจจันทร์ ที่ติดโทษแบน แต่ยังมี บุญธรรม สายเขียว และ ชูชาติ บุตรพรหม นำทัพ ด้านสุโขทัย ใช้ ภูวนนท์ ปิ่นแก้ว กับ บุญญฤทธิ์ ธรรมดา เป็นตัวทีเด็ด

เปิดฉากมาเป็นสุโขทัย ที่ดีกวา น.25 พรชัย สังข์ทอง กองหน้าของทีม ได้ส่องระยะ 25 หลาบอลพุ่งข้ามคานแบบได้เสียว จากนั้น น.32 สุโขทัย น่าได้ประตูสุดๆ เมื่อ อาทิตย์ หล่ายแก้ว เปิดฟรีคิกจากด้านขวา เข้ามาให้ สุรเชษฐ์ มงคลทิพย์ แปแค่ 3 หลาขามคานเหลือเชื่อ

ต่อมาเป็นจังหวะโต้กลับของเจ้าบ้าน จากการเปิดจากการกระชากถึงเส้นหลังของ วีระเดช สมก๋องแก้ว ก่อนหักเข้าไปให้ หัสนัย บุญสิงห์ พุ่งเข้าชาร์จแค่ 5 หลาไม่เหลือซาก สกอร์เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0

แต่นำได้แค่นาทีเดียว ลำปาง ก็เสียประตูตีเสมอจนได้ เมื่อ บุญญฤทธิ์ ธรรมดา เปิดจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ากลางไปให้ วรวิทย์ โถนทา พุ่งโหม่งเช็ดเข้าไป สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 หลังจากนั้นทำประตูเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1

ครึ่งหลังเกมของทั้ง 2 ทีมเนือยๆ ลงไปเสียบอลตรงกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ จน น.78 หัสนัย บุญสิงห์ ของเจ้าบ้านลองส่องไกลระยะ 30 หลาข้ามคานไปอีก จากนั้น น.82 เกมลำปาง ดีกว่าเกือบได้ประตูอีก เมื่อ เจษฎา เครือวิเศษ เปิดบอลจากกลางสนามให้ ธวัชชัย ชัยวรรณ โหม่งตรงกรอบ 6 หลาบอลข้ามคานอย่างน่าเจ็บใจอีก

ช่วง น.89 ทั้ง 2 ทีมต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ สุเมธี สุขใส ของสุโขทัย ไปเจตนาเตะผู้เล่นของลำปาง เอฟซี แต่เหตุการณ์ดันบานปลาย เมื่อ ชูชาติ บุตรพรหม ของลำปาง วิ่งเข้าไปผลักผู้เล่นสุโขทัย อีก ทำให้ผู้ตัดสินแจกใบแดงทั้งคู่

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 วีระเดช สมก๋องแก้ว เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวามาให้ อนุพงศ์ จินะการ สอดเข้าไปยิงแค่ 5 หลาไม่เหลือซาก ให้ลำปาง เอฟซี นำ 2-1 หลังจากนั้นทั้งคู่ทำประตูกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาลำปาง เอาชนะได้สุดมัน 2-1 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ

เพชรบูรณ์ เอฟซี 1-1 พิษณุโลก เอฟซี

ที่สนาม เพชรบุระ ภายใน ส.พล.เพชรบูรณ์ "นักสู้เมืองมะขามหวาน" เพชรบูรณ์ เอฟซี ทีมอันกับ 9 เตะ 14 นัด มี 21 คะแนน เปิดบ้านพบกับ "ขุนศึกนเรศวร" พิษณุโลก เอฟซี อันดับ 6 ของตาราง ลงสนาม 14 เกม มี 21 แต้ม

เกมนี้เจ้าถิ่นวางดาวยิงตัวเก๋าลงสนามคู่กัน คือ ชยพัทธ์ กุลวงศ์ กับ อำนาจ นามเทือง โดยมี สุรพงษ์ ทองบัว ลงลากเลื้อยบริเวณด้านข้างของสนาม และมี วีรภัทร ถมคำ เป็นเพลย์เมกเกอร์ ด้าน พิษณุโลก ส่งผู้เล่นต่างชาติลงสนาม 3 คน ประกอบไปด้วย แอนเนี่ยล, ไอย็อค และสเตฟาน พร้อมด้วยสองตัวเก๋าอย่าง ภัคพสชนัน รัศมี และ ยุทธพงษ์ อินทร์น้อย

เริ่มเกมมาแค่ 4 นาที "ขุนศึกนเรศวร" ทะยานออกนำอย่างรวดเร็ว เมื่อ รณชัย นิ่มวิลัย เปิดลูกเตะมุมให้ ธาราทิพย์ ขันแก้ววงศ์ ซัดจ่อๆ ตุงตาข่าย ให้พิษณุโลก บุกมานำ 1-0

หลังเสียประตู เพชรบูรณ์ พยายามจะเปิดเกมรุกหวังเอาประตูตีเสมอให้ได้ และมีโอกาสเช่นกันจาก อำนาจ นามเทือง แต่ก็ยิงไม่ตรงกรอบอีก

เกมรุกของ เพชรบูรณ์ ดีขึ้นหลังจากเสียประตู โดยมีโอกาสพาบอลเข้าไปป้วนเปี้ยนในเขตโทษของ พิษณุโลก หลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายกลับพลาดเอง ทำให้จบครึ่งแรกถูกทีมเยือนบุกมานำ 0-1

ครึ่งหลังกลับมาเล่นกันใหม่ เกมตกเป็นของ เพชรบูรณ์ ที่แม้จะเป็นฝ่ายตามหลังแต่กลับทำเกมได้ดีกว่า โดยมีโอกาสได้ลุ้นประตูหลายครั้งแต่ก็พลาดกันเองหมด ส่วน พิษณุโลก อาศัยจังหวะสวนกลับหวังเล่นงานเจ้าบ้าน แต่ก็ยังไม่คมพอ

จนกระทั่ง น.64 ความพยายามของพลพรรค "นักสู้เมืองมะขามหวาน" เพชรบูรณ์ เอฟซี ก็มาประสบความสำเร็จ เมื่อ ชยพัทธ์ กุลวงศ์ เปิดบอลให้ อำนาจ นามเทือง คู่หูในแดนหน้า เทกตัวขึ้นโหม่งไม่เหลือซาก ให้เพชรบูรณ์ ตีเสมอ พิษณุโลก 1-1

หลังจากตีเสมอได้ เพชรบูรณ์ เหมือนได้ใจ โดยเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกแบบพับสนามบุกอย่างหนัก แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรแนวรับอันแข็งแกร่งของ พิษณุโลก ได้อีก และท้ายเกม น.87 ทีมเยือนต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ รณชัย นิ่มวิลัย ไปเจตนาหวดใส่ ชลลิต ผิวสวัสดิ์ ดื้อๆ ทำให้ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามไป ก่อนจบเกมทั้งคู่เสมอกัน 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน

เชียงราย เอฟซี 5-1 ตาก เอฟซี

ที่สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย "แมงป่องไฟ" เชียงราย เอฟซี ทีมอันดับ 11 ของตารางมี 14 คะแนน เปิดบ้านพบกับ "ทหารเสือพระเจ้าตาก" ตาก เอฟซี ทีมอันดับ 13 ของตาราง มีอยู่ 12 คะแนน

เปิดฉากมาแค่ 6 นาที ตาก เอฟซี ต้องเปลี่ยน สรพงษ์ ยาพิณ ออกหลังจากได้รับบาดเจ็บ ส่ง จตุพร ทาสา ลงแต่ไม่ถึงนาที ก็โดน นริศ ใจผูก ห้องเครื่องเชียงราย ยูไนเต็ด ซัดระยะ 25 หลา ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายสุดสวย ทำให้สกอร์เจ้าบ้านขยับนำ 1-0

จากนั้น ช่วง น.45 สุทิน ธรรมวัง เปิดลูกเตะมุมด้านขวามาให้ นริศ คนเดิม โหม่งเข้าไปอีกสกอร์ขยับ 2-0 พร้อมกับหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเกมยังเดินหน้าอย่างสนุกแค่ 2 นาที จักรพันธ์ ศรีวิชัย ซัดนอกกรอบเขตโทษอีกครั้ง คราวนี้บอลหายวับเข้าประตู สกอร์เชียงราย นำ ตาก ห่าง 3-0 แต่ตากไม่ท้อ น.74 ก่อเกียรติ อ๊อดทรัพย์ ซัดระยะ 28 หลาเต็มข้อบอลเสียบมุม ให้ตาก เอฟซี ตามมาห่าง 1-3

ก่อนหมดเวลา 1 นาที อนุพงษ์ ศรีมหาโคตร ซัดให้กับทีมได้สำเร็จ เมื่อหลุดเดี่ยวไปยิงนิ่มๆ ให้ทีม เชียงราย เอฟซี นำห่างเป็น 4-1

จากนั้นเกมยังสนุกเหมือนเดิม นาทีทดเจ็บเป็น อนุพงษ์ ศรีมหาโคตร หลุดเข้าไปยิงอีกเม็ด ทำให้เชียงราย เอฟซี เอาชนะ ตาก เอฟซี 5-1 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ

สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน "เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2" โซนกรุงเทพและปริมณฑล นัดต่อไป วันที่ 12 มิถุนายน 2553 อุตรดิตถ์ หมอเส็ง พบ สิงห์บุรี เอฟซี ที่สนามกีฬา ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์ เวลา 16.00 น., ชัยนาท เอฟซี พบ ตาก เอฟซี ที่สนามกีฬา จ.ชัยนาท เวลา 16.00 น., นครสวรรค์ เอฟซี พบ สุโขทัย เอฟซี ที่สนามกีฬา จ.นครสวรรค์ เวลา 17.00 น., เชียงราย เอฟซี พบ ลำปาง เอฟซี ที่สนามกีฬา จ.เชียงราย เวลา 18.00 น.

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

No comments:

Post a Comment