Friday, May 14, 2010

เจ้าท่ากลับถึงไทยโวขอชนกิเลนนัดชิงเอเอฟซีคัพ

ทัพนักเตะ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี กลับถึงไทยเรียบร้อยแล้ว หลังบุกไปถล่ม ศรีวิจายา ทีมดังแดนอิเหนา มาได้อย่างสุดยอด ในศึกเอเอฟซี คัพ พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสร ประกาศลั่น อยากฟัดกับ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด รอบชิง เพื่อแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่า ฟุตบอลไทยไม่เป็นรองใครในโลกเหมือนกัน

ความเคลื่อนไหวของทีม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มสุดยอด ด้วยการบุกไปถล่ม ศรีวิจายา เอฟซี 4-1 ในศึกเอเอฟซี คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามจาการ์บาริ่ง เมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดขุนพลนักเตะการ ท่าเรือไทย เอฟซี พร้อมด้วยทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ได้เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้ออกเดินทางจากเมืองปาเลมบัง ด้วยสายการบินการูด้า เที่ยวบิน จีเอ 111 เวลา 06.20 น. ถึงกรุงจากาตาร์ เวลา 07.20 น.

ต่อจากนั้นจึงเดินทางต่อทันทีจากรุงจากาตาร์ กลับกรุงเทพฯ ด้วยสายการบินเดียวกัน เที่ยวบิน จีเอ 866 เวลา 09.40 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 13.10 น. โดยมีสื่อมวลชนหลายสำนักพร้อมทั้งครอบครัวของนักฟุตบอล ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

พิเชฐรับอยากฉะเมืองทองฯตัวสั่น

ด้าน พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ต้องการที่จะพบกับทีม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทีมจากประเทศไทยด้วยกัน ในรอบชิงชนะเลิศเป็นอย่างมาก เพราะจะถือเป็นการแสดงให้โลกเห็นพัฒนาการทางด้านลูกหนังของเมืองไทย

"ผมกล้าบอกได้เลยว่า ทีมของผมอยากพบกับ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ใจจะขาดแล้ว ซึ่งถ้าเลือกได้ อยากจะให้ทั้งสองทีมจากประเทศไทย ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกันเอง เชื่อว่าจะเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน และจะทำให้แฟนบอลชาวไทย มีความสุขกันถ้วนหน้า ส่วนในเรื่องของผลแพ้ชนะ คงไม่ซีเรียสมากมาย เราต้องการแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่า ฟุตบอลไทยไม่เป็นรองใครในโลกเหมือนกัน"

ขอสยบข่าวเท็จด้วยผลงาน

นอกจากนี้ บิ๊กบอส "สิงห์เจ้าท่า" ยังได้กล่าวต่อไปด้วยว่า "ส่วนกระแสข่าวลือต่างๆ นานา ที่พาดพิงมาถึงตัวผม อยากจะบอกให้ทุกคนสบายใจได้ว่า มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระมากๆ เนื่องจากผมและทีมงานทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างสุดความสามารถตลอดมา

อยากจะให้ดูกันที่ผลงานมากกว่าว่า พวกเรามีความตั้งใจในการทำงานมากขนาดไหน บางครั้งก็รู้สึกท้อใจเหมือนกัน และเคยคิดจะลาออก เพราะเราอุตส่าห์ตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อสโมสรและเพื่อชื่อเสียงของประเทศชาติ แต่กลับมีคนมาใส่ร้ายป้ายสีในเรื่องไม่จริง ผมไม่อยากจะพูดอะไรมาก เอาเป็นว่าผมจะแสดงออกด้วยผลงานของทีมก็แล้วกัน"

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

No comments:

Post a Comment