Sunday, May 30, 2010

ลือคดีเปาจ๊อดคนร้ายอาจหมายตัววิโรจน์

คดีลอบสังหาร "เปาจ๊อด" อรรถกร เวชการ ตำรวจนางรอง เร่งสืบสวนพร้อมให้ผู้เคราะห์ร้ายแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม โดยจะใช้การสเกตช์หน้าคนร้ายในการติดตามตัว ขณะที่ "เปาจ๊อด" ใช้วันว่างทำบุญตักบาตรและอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ขณะที่มีข่าวลือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้หมายหัว "เปาจ๊อด" แต่น่าจะเป็น วิโรจน์ อ่อนโก๊ก ที่เดินทางไปด้วยกัน ส่วนคนในวงการลูกหนังมองเรื่องนี้ไม่น่าเกี่ยวกับการทำหน้าที่ตัดสินฟุตบอล

ความคืบหน้ากรณีลอบสังหาร "เปาจ๊อด" อรรถกร เวชการ ผู้ตัดสินฟีฟ่า เมื่อค่ำวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังจากทำหน้าที่ลงตัดสินในเกมสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก คู่ระหว่าง บุรีรัมย์ พีอีเอ กับ โอสถสภา เอ็ม-150 จบลง ซึ่งถือเป็นคดีเขย่าขวัญวงการเชิ้ตดำของเมืองไทยอย่างมาก

ล่าสุด พ.ต.ท.สิทธิ์ หวังสุขกลาง สารวัตรเวร สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ผู้รับผิดชอบคดีได้เผยถึงความคืบหน้าของการสืบสวนว่า ยังคงไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก โดยตอนนี้พยายามติดต่อกับทาง คุณอรรถกร เวชการ เพื่อให้เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะคดีนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด จนกว่าจะแน่ใจว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไรกันแน่ จึงอยากให้ได้ข้อมูลทั้งหมดจากผู้เสียหายก่อน

"ทางผู้บังคับการรวมถึงรองผู้บังคับการได้สั่งให้รีบดำเนินการโดยเร่งด่วน แต่ถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อกับคุณอรรถกรไม่ได้ อยากจะให้ผู้ใกล้ชิดช่วยแจ้งด้วย เพื่อจะได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม และต้องการข้อมูลเพื่อให้คดีเดินหน้าต่อไปได้ โดยเบื้องต้นเราทราบเพียงว่า คุณอรรถกร จำใบหน้าผู้ที่ลอบยิงได้ จึงอยากให้มาแจ้งข้อมูลและช่วยร่างภาพสเกตช์หน้าคนร้ายก็จะทำให้คดีง่ายขึ้น"

อรรถกรเดินสายทำบุญ

ด้าน "เปาจ๊อด" อรรถกร เวชการ หลังจากที่เดินทางกลับบ้าน เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ได้ใช้เวลาทั้งวันเดินสายทำบุญตามวัดต่างๆ พร้อมปล่อยนกปล่อยปลา ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า อยากจะทำจิตใจให้สบาย และทำบุญเพื่ออุทิศแก่เจ้ากรรมนายเวรบ้าง โดยวันที่ 31 พ.ค. จะไปทำบุญและไหว้หลวงพ่อบ้านแหลม ที่ จ.สมุทรสงคราม เนื่องจากเป็นพระที่ตนเคารพนับถือ

"เปาจ๊อด" กล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกครั้งว่า คงปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่สิ่งที่อยากจะฝากคืออยากให้วงการฟุตบอลบ้านเรามีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ในส่วนของนักเตะตนไม่เคยมีปัญหา และที่ผ่านมาทุกคนก็ยอมรับคำตัดสินด้วยดี จะเห็นว่าเกมจบผู้เล่นก็จบด้วย เข้าแสดงความยินดี จับมือกัน ก็อยากให้กองเชียร์แสดงภาพเช่นนั้นบ้าง เกมจบก็อยากให้อภัยกัน ส่วนตัวทำหน้าที่ด้วยใจบริสุทธิ์ และไม่เคยคิดเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่แล้ว

ลืออีกเป้าหมายอาจเป็นวิโรจน์

ในขณะเดียวกัน มีข่าวลือมาอีกด้านว่า เป้าหมายของคนร้ายอาจจะไม่ได้หมายหัว อรรถกร แต่จะเป็น วิโรจน์ อ่อนโก๊ก ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่นั่งรถไปด้วยกันมากกว่า

เรื่องนี้ทาง วิโรจน์ อ่อนโก๊ก เปิดใจว่า ถึงวันนี้ยังสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ส่วนตัวไม่เคยมีเรื่องกับใครและไม่เคยทะเลาะกับใครมาก่อน ส่วนการตัดสินใจสนามที่ผ่านมาส่วนใหญ่ จะลงเป็นไลน์มากกว่าการตัดสิน ก็ไม่มีเกมไหนที่มีปัญหารุนแรง ก็ยังไม่อยากแสดงความคิดเห็น เพราะไม่รู้สาเหตุจริงๆ

สำหรับสาเหตุที่วงการข่าวลือบอกว่าน่าจะหมายเอาชีวิตของ วิโรจน์ อ่อนโก๊ก นั้นมีการเผยว่า ในช่วงที่รถคนร้ายวิ่งมาปาดหน้าแล้วลงมาเอาไม้มาตี ไม่ได้มาตีทางด้านฝั่งคนขับที่ อรรถกร นั่งอยู่ แต่กลับเดินไปยังทางด้านประตูซ้ายของรถซึ่งเป็นตำแหน่งที่ วิโรจน์ นั่งอยู่

คนวงการเชื่อไม่เกี่ยวกับเรื่องฟุตบอล

เหตุการณ์เขย่าขวัญที่เล่นกันถึงจะเอาชีวิตผู้ตัดสินกันเช่นนี้ ทำให้บุคคลในวงการออกมาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก โดย "บิ๊กก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีมบุรีรัมย์ พีอีเอเผยว่า ไม่ทราบเรื่องเลยจนเป็นข่าวในเช้าวันรุ่งขึ้น ยอมรับว่าตกใจและไม่เชื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นหลังเกมการแข่งขันที่บุรีรัมย์ แต่ตนไม่เชื่อว่าจะสาเหตุมาจากเกมดังกล่าว

ส่วนตัวไม่อยากแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้และไม่เกี่ยวกับข้องกับตนและทีมบุรีรัมย์อย่างแน่นอน กระนั้นขอรับประกันว่าผู้ตัดสินที่เดินทางมาบุรีรัมย์เราพร้อมอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่ ขณะที่ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก และสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลฯ ก็ต้องมีมาตรการดูแลออกมาด้วย

ด้าน ขาวผ่อง สิทธิชูชัย เลขาฯ ทีมโอสถสภา เอ็ม-150 เผยว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าสาเหตุจะมาจากเรื่องฟุตบอล ดูจากในเกมที่โอสถฯ แพ้บุรีรัมย์ไม่มีเหตุการณ์อะไรวุ่นวาย และการทำหน้าที่ก็เป็นไปด้วยดีจึงไม่น่าจะนำมาซึ่งการลอบยิงกันเช่นนี้ ส่วนตัวขอฝากให้ผู้ตัดสินต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวให้มากขึ้น

ส่วน "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือทีมเอสซีจี สมุทรสงคราม กล่าวว่า ส่วนตัวรู้จักกับ อรรถกร เวชการ เป็นอย่างดี เพราะพื้นเพเป็นชาวสมุทรสงครามเหมือนกัน รู้เลยว่า อรรถกร เป็นผู้ตัดสินมืออาชีพ เขาเคยบอกหลายครั้งว่าจะไม่ทำหน้าที่ยามที่ จ.สมุทรสงคราม ลงแข่งขัน เพราะจะถูกมองไม่ดี และเขาก็ปฏิบัติตัวดีมาตลอดไม่เคยคิดเข้าข้างใคร ฉะนั้นจึงไม่น่าจะมาจากเรื่องของฟุตบอล แต่สาเหตุจริงๆ คืออะไรไม่ทราบแน่ชัด ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับอรรถกรต่อไป

นอกจากนี้อีกหลายสโมสรก็มีความคิดเห็นตรงกันว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมาจากเรื่องของฟุตบอล แต่ส่วนใหญ่ไม่ขอแสดงความคิดเห็นเนื่องจากไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด เพียงแต่ฝากถึง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ที่จะต้องดูแลความปลอดภัยให้ดีที่สุด

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

No comments:

Post a Comment