Sunday, May 3, 2009

บางกอกกล๊าสกะซวกกิเลนผยอง1แผลนำฝูง

"เดอะกล๊าสแรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี ยังร้อนแรงต่อเนื่อง เก็บสามแต้มสำคัญขึ้นนำฝูงเดี่ยว หลังเฉือนหวิว "แข้งกิเลนผยอง" เมืองทองฯไปแบบสนุก 1-0 ได้ประตูชัย น.69 ธนัตย์ วงศ์ศุภลักษณ์ ขณะที่จุฬาฯยังสะกดคำว่าชนะไม่เจอเช่นกัน หลังทำได้แค่เสมอ กับราชนาวี-ระยอง 1-1 ส่วนการท่าเรือไทย เจ๊า ทีโอทีแบบไร้สกอร์ 0-0 ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2552

บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-0 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด

การแข่งขันฟุตบอล "ไทยพรีเมียร์ลีก 2009" นัดที่ 8 เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ลงสนามดวลเกือกกัน 4 คู่ 4 สนาม ผลการแข่งขันมีดังนี้

ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 เป็นคู่บิ๊กแมตซ์ประจำสัปดาห์ บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมจ่าฝูง สถิติไร้พ่ายมี 17 แต้ม รับการมาเยือน "กิเลนผยอง" เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ที่มีอยู่ 13 แต้ม โดยนัดนี้เป็นเกมแรกของ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม กุนซือคนใหม่ของเมืองทองฯ ที่คุมทีมอย่างเป็นทาง และยังเป็นการพาทีมลงพบกับอดีตทีมเก่า ธ.กรุงไทย ในคราบของบางกอกกล๊าสด้วย

เกมนี้เมืองทองฯ ส่งกองหน้าคู่ สุริยา ดอมไธสง กับ พิเชษฐ์ อินทร์บาง และมี ยาย่า บัญชาเกมแดนกลางกับ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และส่ง นวพล ตระตันเสนีย์ ลงยืนแบ็คขวาแทน ปกาศิต แสนสุข ที่โดนแบน ด้าน บางกอกกล๊าส ยังเป็นชุดใหญ่นำโดย รุ่งโรจน์ สว่างศรี, อำนาจ แก้วเขียว, พร้อมด้วย อจายี่ และนันทวัฒน์ แทนโสภา ลงบู๊แดนหน้า

เริ่มครึ่งแรก น.8 เมืองทองฯ ได้โอกาสลุ้นก่อน ยาย่า ตัดบอลกลางสนามใช้ความเร็วกระชากบอลหลุดทะลุ แล้วทำชิ่งกับ พิเชษฐ์ อินทร์บาง เข้าเขตโทษ แต่ยิงช้าไปโดน พลวัฒน์ วังฆะฮาด เข้ามาสกัดที่บอลได้ก่อน ยาย่า จะยิง น.11 สุริยา ดอมไธสง ได้บอลทางขวา แต่ว่า พิเชษฐ์ ไปยืนล้ำหน้าอยู่ เลยตัดสินใจยิงเองบอลเลยคานบนนิดเดียว

น.14 ศุภชัย คมศิลป์ ของเจ้าบ้านตัดสินใจซัดไกล กวิน ธรรมสัจจานันท์ รับบอลหลุดมือไปชนโคนเสา นันทวัฒน์ แทนโสภา จะตามซ้ำแต่ กวิน หันกลับมาคว้าบอลได้ทัน น.31 เมืองทองฯ เปิดบอมบ์เข้าไส่ กฤษณะ กลั่นกลิ่น ประตูออกมาชกบอลพลาด สุริยา ดอมไธสง ตวัดยิง โดนตัวรุ่งโรจน์ ออกหลังหวาดเสียว

น.32 เมืองทองฯ ได้เตะมุมทางขวา ยาย่า เปิดเสาแรก โดนโขกสกัดออกมา เข้าทางพิชิตพงษ์ เฉยฉิว อัดซ้ำตรงกรอบแต่ กฤษณะ ไม่พลาดยืนถูกที่รับไว้ได้ น.35 พีรพงศ์ พิชิตโชตรัตน์ ของบางกอกกล๊าส เข้าเสียบ พิเชษฐ์ อินทร์บาง จากด้านหลังเจอเหลืองเป็นคนแรกของเกม

น.41 อนนท์ บุญสุโข กองกลาง เดอะแรบบิท เปิดบอลยาวให้กับ นันทวัฒน์ แทนโสภา แต่ว่า กวิน ธรรมสัจจานันท์ ออกมาเร็วกว่า และใช้หัวเล่น แต่นันทวัฒน์ กลับยกเท้าสูงเลยไม่รอดโดนใบเหลืองอีกคน น.45 เมืองทองฯ บุกเจาะตรงกลาง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว โหม่งบอลให้ สุริยา จับได้ในเขตโทษตวัดยิงแต่เบาไป ตรงตัว กฤษณะ กลั่นกลิ่น ครึ่งแรกสกอร์ยังเท่ากัน 0-0

ครึ่งหลัง น.50 บางกอกกล๊าส ได้เตะมุมทางขวา ศุภชัย คมศิลป์ เปิดยาวเสาสอง รุ่งโรจน์ สว่างศรี ขึ้นโขกลงพื้น ตรงตัว กวิน ธรรมสัจจนันท์ ที่เคลื่อนที่มาปิดมุมได้ทัน น.51 เมืองทองฯ เตะมุมทางซ้าย พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เล่นสั้นให้ พิเชษฐ ชิ่งคืนก่อน พิชิตพงษ์ จะเปิดยาวเสาสอง ดังโก้ เซียก้า โขกคนเดียวโล่งๆ กับเข้าข้างตาข่าย

น.57 เจ้าบ้านที่เริ่มโหมบุกมากขึ้น ก็มีโอกาสจากการซัดไกลของ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ก็ยังไม่พลาดล้มตัวคว้าไว้ทัน น.63 เมืองทองฯ ที่รับอยู่นานมีโอกาสโต้กลับ มูซ่า ซีล่า จัดการซัดไกลระยะ 30 หลาบอลออกข้าง น.67 ยาย่า กระชากบอลออกขวาเปิดเข้าใน โดนสกัดออกมาได้ บอลเข้าทาง พิชิตพงษ์ ไหลต่อให้ ดังโก้ เซียก้า ยืนยิงเหน่งๆ แต่กฤษณะ กับพุ่งตัวเซฟไว้ได้ปลายมือ

น.67 บางกอกกล๊าสมาบ้าง ศรันย์ พรมแก้ว กระชากบอลออกขวา แล้วไหลคืนหลังให้ ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ วิ่งเข้าซัดตรงหัวกะโหลกบอลออกข้างนิดเดียว น.69 แฟนเจ้าบ้านได้เฮกันลั่นสนาม พีรพงศ์ เปิดบอลจากจากกลางสนามไปทางขวา พลวัฒน์ วังฆะฮาด เติมขึ้นมาสวย ก่อนที่จะไหลบอลเข้ากลางประตู ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ วิ่งเข้าซัดด้วยขวาไม่พลาด บอลพุ่งเข้าตุงตาข่าย ให้บางกอกกล๊าส นำ 1-0

น.71 เมืองทอง หนองจอก น่าจะตีเสมอได้ จากพิชิตพงษ์ เฉยฉิว ที่สับไกซัดโล่งๆ จากทางซ้ายบอลออกหลังแค่คืบเดียว น.87 บางกอกกล๊าสที่รอสวนกลับ เกือบได้ประตูที่สองจากการหลุดเข้าซัดทางขวาของ พีรพงศ์ พิชิตโชตรัตน์ แต่ยิงเข้าด้านข้าง

น.88 เมืองทองน เปิดฉากบุกใหม่ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ลองซัดไกลจากด้านขวา บอลแฉลบขากองหลังเฉี่ยวเสาไกลออกหลัง จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบเกม บางกอกกล๊าส เปิดรังเฉือน เมืองทอง ยูไนเต็ดฯ 1-0

วาทะโค้ช

ฮาน เอ็มเซอร์ กุนซือบางกอกกล๊าส - ทีมไม่สมบูรณ์มากนัก อจายี่ เองก็ยังเจ็บ แต่ก็ต้องเอาลง ซึ่งเขาก็ยังเล่นไม่เต็มที่ ทำให้ครึ่งแรกเกมเราไม่ดีนัก แต่ครึ่งหลังมีการปรับตำแหน่งในการเล่น และเน้นการเคลื่อนที่ให้มากขึ้น การเปลี่ยนทางบอลเร็วขึ้นก็ทำให้จังหวะของเกมคุมได้ และชนะในที่สุด เป็นอีกเกมที่ประทับใจ และมีความสุขมากหลังจากที่นัดที่แล้วเราไปสิงคโปร์ก็ชนะมาได้

อรรถพล บุษปาคม โค้ชเมืองทอง - เกมนี้สูสีกัน ต่างก็มีจังหวะและโอกาสในการเข้าทำพอกัน แต่เราไม่มีศูนย์หน้าที่เก็บบอลได้ ทำให้เกมรุกวันนี้เสียง่ายไป ยาย่าเองก็มาเจ็บอีก ตัวทำเกมก็เลยขาดไปด้วย ก็ต้องขอโทษแฟนบอลด้วยที่มาเชียร์กันเยอะมาก เรายังมีจุดที่จะต้องแก้ไขกันอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะกองหน้าที่จะต้องหาตัวเก็บบอลมาให้ได้ เพื่อสร้างเกมรุกให้เฉียบคมกว่านี้

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม

บางกอกกล๊าส : กฤษณะ กลั่นกลิ่น 7.5, พลวัฒน์ วังฆะฮาด 7, อำนาจแ แก้วเขียว 7, อนนท์ บุญสุโข 7, รุ่งโรจน์ สว่างศรี 7.5 (ไกรเกียรติ เบียดตะคุ-), อจายี่ 5.5 (ชาตรี ฉิมทะเล6), อนาวิน จูจีน 5.5 (ศรันย์ พรมแก้ว6), ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ 8,ศุภชัย คมศิลป์ 6.5, นันทวัฒน์ แทนโสภา 6, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ 6

เมืองทอง : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 6, นวพล ตันตระเสนีย์ 6, เจษฏา จิตสวัสดิ์ 7, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ 7, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ 6.5, สุริยา ดอมไธสง 6 (ธนพัต ณ ท่าเรือ-), มูซ่า ซีล่า 6 (ซานู-), พิเชษฐ์ อินทร์บาง 6, ดังโก้ เซียก้า 6, ยาย่า 6 (มุสตาฟา 5), พิชิตพงษ์ เฉยฉิว 6

แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ : ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ ตัวนำชัยของบางกอกกล๊าส

จุฬาฯยูไนเต็ด 1-1 ราชนาวรี ระยอง

ที่สนาม หญ้าเทียมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย "ลูกพระเกี๊ยว" จุฬาฯ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยของตาราง มีแค่แต้มเดียวจาก 7 นัด เปิดบ้านรับการมาเยือน "ตะหานน้ำ" ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับ 14 แข่งมา 5 นัด มี 7 แต้ม นัดนี้ เจ้าบ้านส่งนักเตะตัวหลัก ยีน มาร์ค ผู้รักษาประตูชาวแคเมอรูนลงเฝ้าเสา พร้อมกับ กิตติภูมิ ปาภูงา และ วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ ลงบัญชาเกม ด้าน ทีมเยือน "ตะหานน้ำ" ส่ง เจษฎา งามเมือง และใหญ่ นิลวงศ์ พร้อมวาง สมเจต สัตบุษ ลงล่าตะข่าย

เริ่มครึ่งแรก เพียง 2 นาที เจ้าบ้านจุฬาฯ ได้จังหวะทักทายก่อน เมื่อ ณัฐพล บานไม่รู้โรย ได้จังหวะลากบอลหลุดเข้าไปยิง แต่ไปติดตัว ชินกร ดีสาย ผู้รักษาประตูราชนาวี ออกมาปิดมุมเซฟไว้ไดทัน จากนั้นจุฬาฯ ยังเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าราชนาวี อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของ ราชนาวีได้

น.10 ประสิทธิ์ เทาดี เปิดเข้ามาหน้าประตู ให้กับ ณัฐพล แต่ ชินกร ผู้รักษาประตูราชนาวี ออกมาเตะสกัด ก่อน ณัฐพล จะถึงบอลได้อย่างหวุดหวิด หลังจากที่โดนบุกเข้าใส่อยู่นาน ราชนาวี ระยอง ทีมเยือน เริ่มตั้งเกมได้ น. 18 ราชนาวี มาได้โอการลุ้นประตู จากจังหวะยิงไกลของ สมเจต สัตบุษ แต่บอลเบา ยีน มาร์ค ผู้รักประตู จุฬาฯ รับสบาย

น. 23 กองเชียร์เจ้าบ้านเกือบได้เฮกันก่อน กิตติภูมิ ปาภูงา ลากเดี่ยวเข้าไปยิง แต่ชินกร ผู้รักษาประตู ตะหานน้ำออกมา ใช้ขาเซฟไว้ได้ทัน น.32 ศุภชัย ขำทรัพย์ ผู้เล่นราชนาวี ทำเกมขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนเปิดบอลเข้าไปที่หน้าประตู ให้กับ ใหญ่ นิลวงศ์ ยิงเต็มเท้าระยะ 12 หลา แต่ ยีน มาร์ค ผู้รักษาประตู โชว์ซุปเปอร์เซฟปัดออกหลังไปทัน

น.33 ราชนาวี มาได้ลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ศุภชัย ทรัพท์ขำ เปิดบอลเข้ามาที่เสาสองให้กับ ใหญ่ นิลวงษ์ เอาบอลลงก่อนสับไกลยิง แต่ไปติดกองหลัง ของ จุฬาฯ แต่ยังไปเข้าทางของ สมเจต สัตบุษ ยิงระยะแค่ 10 หลา บอลลอยข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

น.42 ใหญ่ นิลวงศ์ ของราชนาวี มาโดนใบเหลืองแรกของเกม หลังจากที่ไม่ยอมรอเสียงนกหวีดของ ผู้ตัดสินในจังหวะฟรีคิกของทีมตนเอง ก่อนจบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่น จากจังหวะที่จุฬาฯ ได้ฟรีคิก ระยะ 45 หลา ไพฑูรย์ นนทดี รับหน้าที่ยิง บอลเลียดผ่านกำแพงของ ราชนาวี เข้าไปตรงตัว ชินกร ผู้รักประตู ราชนาวี รับพลาดบอลลอดหว่างขาเข้าประตูไป จุฬาฯ ออกนำ 1-0

น.49 ราชนาวีเกือบมาได้ประตูตีเสมอ หลังจากได้ฟรีคิกทางด้านซ้าย ศุภชัย ทรัพท์ขำ เปิดเข้ามาที่หน้าประตูให้กับ สมเจต สัตบุษ เทกตัวขึ้นโหม่ง คนเดียว บอลลอยจะข้ามเส้นประอยู่แล้ว แต่ ประสิทธิ์ เทาดี ที่ยืนคุมเส้น อยู่เตะสกัดออกมาได้ทัน หลังจากที่เสียประตู ราชนาวี ระยอง พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่ จุฬาฯ อย่างหนัก แต่ยังไม่สามรถเจาะแนวรับของจุฬาฯ ได้

น. 77 ราชนาวี ระยอง เกือมมาได้ประตูตีเสมอ สุทธินันท์ ยิงไกลระยะ 20 หลา บอลลอยเกือบเสียบใต้คาน แต่ ยีน มาร์ ผู้รักษาประตู จุฬาฯ ปัดออกหลังไปได้แบบหวุดหวิด น.78 ราชนาวี ตีเสมอได้ จากลูกเตะมุม ก้องศักดิ์ แสนทวีสุข ที่เปลี่ยนลงมาแทน รัฐพร แซ่ตัน นาทีที่ 70 โขกไปตรงตัว ยีน มาร์ค ปัดออกมาไม่ดี เข้าทาง สมเจต สัตบุษ ยิงซ้ำ จ่อๆ ไม่เหลือเสมอกัน 1-1

จากนั้น ราชนาวี ยังเดินหน้าเปิดเกมบุกเข้าใส่ จุฬาฯ ยูไนเต็ด อย่างต่อเนื่อง น.90 เสกสันต์ ชาวทองหลาง สับไกล ระยะ 25 กลางประตู บอลลอยเกือบจะเสียบใต้คาน แต่ ยีน มาร์ค ปัดออกไปได้อีกครั้ง ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดหมดเวลา ทำให้ จุฬาฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ ราชนาวี ระยอง ไป 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม

วาทะโค้ช

โจเซ่ คารอช ของจุฬาฯ ยูไนเต็ด - เกมนักเตะเรามาการพัฒนามากขึ้น ทั้งในเรื่องความฟิต เกมนี้ถือว่าเด็กเราทำได้ดี แต่พลาดเสียประตูง่ายไปหน่อย ทำให้เราเสมอในเกมนี้ แต่โอเคครับนักเตะมีการพัฒนา มากขึ้น

น.ท. สุขสันต์ คุณสุทธิ์ ของราชนาวี ระยอง - ดีครับเป็นเกมที่มาก นักเตะเราเล่นดี แต่เราพลาดเสียประตูง่ายไปหน่อย แต่ครึ่งหลังเราน่าได้หลายประตู แต่โชคไม่เข้าข้างเรา แต่ได้ 1 แต้มก็โอเคแล้วครับ ดีกว่าไม่ได้

คะแนนความสามารถนักเตะทั้ง 2 ทีม

จุฬาฯ ยูไนเต็ด : เบเยเม่ ยีน มาร์ค 7.5, วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ 6.5, กิติภูมิ ปาภูงา 7, ไพฑูรย์ นนทะดี 7 (จตุพงษ์ ทองสุข 5), วิธิวรรธน์ สีชื่น 6, อุดบ จอกรอบ 6, วัฒนทรัพย์ ศรีเจริญ 6, วัฒนศัพย์ เจริญศรี 6, ศักดา ชุติภัคพงศ 6 (อดุลย์ หมื่นสมาน 5), ประสิทธิ์ เทาดี 6, ณัฐพล บานไม่รู้โรย

ราชนาวี ระยอง : กร ดีสาย 7, เจษฎา งามเมือง 6.5, สุระเดช เสาไธสง 6, กามเด็ม อาดัม (สุทธินันท์ นนทรี6), มารุต ดอกไม้ป่า 6.5 (น.56ติณภพ ศรีสถิตย์6), ศุภชัย ขำทรัพย์ 7, รัฐพร แซ่ตั๋น 6 (น.70 ก้องศักดิ์ แสนทวีสุข 6.5), ใหญ่ นิลวงศ์ 7, เสกสันต์ ชาวทองหลาง 6.5, สมเจต สัตบุต 7, ยามนิค 6.5

แมน ออฟเดอะแมชต์ : เบเยเม่ ยีน มาร์ค นายด่านของจุฬาฯ ยูไนเต็ด

การท่าเรือไทย เอฟซี 0-0 ทีโอที เอฟซี

ที่สนามแพทสเตเดี้ยม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี แข่งมา 6 นัดมี 10 แต้ม อยู่อันดับ 7 เปิดบ้านรับมือ "ฮัลโหล" ทีโอที เอฟซี ที่แข่งมา 7 นัด มี 10 แต้ม แต่ลูกได้-เสียดีกว่ารั้งอันดับ 6 ของตาราง เกมนี้เจ้าถิ่น ยังคงส่ง พิพัฒน์ ต้นกันยา กับ เอ็ดวัลโด้ เปไรร่า เป็นหัวหอกทะลวงตาข่าย พร้อมกับขนาบข้างไปด้วย จีรวัฒน์ มัครมย์ ปักหลักเป็นมือสังหารฟรีคิกในแดนกลาง ส่วน มาริโอ ดาซิลวา, อิทธิพล นนท์ศิริ เป็นแกนหลักดูแลเกมรับ

ด้าน "ฮัลโหล" ทีโอที เอฟซี ไร้ชื่อของสตาร์ประจำทีม "กบไซเบอร์" สุเชาว์ นุชนุ่ม ที่ยังอยู่ในอาการบาดเจ็บ แต่ยังได้ตัวจัดในเกมรุก สิทธิศักดิ์ ตาระพัน, กรีติ เขียวสมบัติ, ไกรสรณ์ ศรียันต์ ลงล่าสกอร์

เริ่มเกมครึ่งแรก เจ้าถิ่น เปิดฉากเดินหน้าบุกมันตามเสียงเชียร์ทันที ทว่าแนวรับของ ทีโอที ยังนิ่งดักสกัดพ้นเขตอันตรายเอาได้ทุกจังหวะ น. 10 ขุนพล "ฮัลโหล" น่าจะได้ประตูออกนำมากที่สุด จากฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ ธีรชัย งามเจริญ ปั่นบอลเฉียดคานบนออกหลังหวุดหวิด

น. 15 ไกรสรณ์ ศรียันต์ หัวหอก ทีโอที เอฟซี เล่นนอกเกมโดยไปเตะข้างหลัง โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ โดนผู้ตัดสินแจกเหลืองแรกของเกม น. 20 ทีโอที เอฟซี สิทธิศักดิ์ มัครมย์ วางบอลจากริมเส้นด้านซ้าย ผ่านเข้าหน้ากรอบเขตโทษ เข้าจุดนัดพบ กิตติภัทร วงศ์สมบัติ หลุดเข้าไปยิง แต่ ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ ยังไว้ทายาดออกมาเซฟไว้ได้

น. 22 เกมรุกของ ทีโอที ยังหลากหลายก กีรติ เขียวสมบัติ กะชากบอล เข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนจะเปิดให้ ไกรสรณ์ ศรียันต์ ที่เติมขึ้นมาโหม่ง แต่ก็ยิงเฉียดเสาแรกออกไป น. 30 สิทธิศักดิ์ ตาระพัน กะชากบอลเข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนจะเปิดให้กับ กรีติ เขียวสมบัติ กระโดดวอลเลย์ตามน้ำ บอลชนคานบนออกหลังแบบน่าจะได้ประตูมากที่สุด

น. 40 "สิงห์เจ้าท่า" ยังคงซ็อตต่อเนื่อง ปล่อยให้ "ฮัลโหล" สาดเกมรุกใส่อย่างหนัก ทว่าแนวรับของ เจ้าบ้านรวมถึง ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ นายทวาร ช่วยเซฟชีวิตเอาไว้ได้ ก่อนจะขึงเกมรับเอาไว้จนกระทั้งจบเกมครึ่งแรกยังเสมอ 0-0

ครึ่งหลัง น. 47 เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูเบิกร่อง จากจังหวะที่ พิพัฒน์ ต้นกันยา กระชากบอลจากระยะ 30 หลา สุดเส้นก่อนหักเข้ากลางให้ เอ็ดวัลโด้ เปไรร่า หัวหอกร่างยักษ์ ที่ขึ้นมาเติมเกม แต่แหย่เท้าไม่ถึง กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ นายทวารทีโอที ออกมาตัดบอลออกไปได้

น. 55 ทีมเยือน ลำเลียงบอลตอบโต้ เป็นระลอก ธีรชัย งามเจริญ สับไกยิง 25 หลา แต่ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ นายทวารเจ้าถิ่น ไม่ยอมให้ผ่านมือไปง่าย ๆ น. 75 สิทธิศักดิ์ ตาระพัน ทำซิ่งสั้นๆ กับ กรีติ เขียวสมบัติ ก่อนที่ตัวเองจะเติมขึ้นไปยิง แต่ ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ ยังนิ่งเซฟช่วยทีมเจ้าบ้าน เอาไว้ได้อีกหน

น. 80 เกมรุกของเจ้าบ้านกลับมาชีวิต ชีวา อีกครั้ง พิพัฒน์ ต้นกันยา กระชากบอลจากริมเส้นด้านซ้าย ก่อนเปิดให้ เอ็ดวัลโด้ เปไรร่า โหนขึ้นโหม่ง บอลเลยเสาสองออกไป น. 85 "สิงห์เจ้าท่า" ยังบุกแบบได้เสีย นันเวศ จันทร์อุทัย อาศัยความเร็ว พาบอลทะลุเข้ากรอบเขตโทษ หมายจะสับไกยิงประตู แต่แนวรับของ ทีโอที ยังช่วยกันเซฟเอาไว้ได้หมดทุกจังหวะ

ช่วงท้ายเกม ทั้งสองทีมมีโอกาสจะ พาบอลเข้าไปกระหน่ำตาข่ายกันได้ ทว่าแนวรับและผู้รักษาประตู ของทั้งคู่ยังเล่นกันได้เหนียวแน่น ก่อนจะหมดเวลาเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม

วาทะโค้ช

สะสม พบประเสริฐ กุนซือการท่าเรือไทย เอฟซี - ต้องยอมรับว่านักเตะเราค่อนข้างที่จะเล่นไม่ได้ ตามที่ซ้อมเอาไว้ จังหวะยิงประตูต้องดุดันเฉียบขาดกว่านี้ ซึ่งหากว่าไม่ปรับคาร์แร็กเตอร์ในการเล่นในบ้านไม่ได้อย่างนี้ ดูแล้วเป็นเรื่องที่ลำบากหากจะเข้าสู่วงโคจรลุ้นแชมป์

พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีม ทีโอที เอฟซี - จริงๆ แล้วเป้าหมายในเกมนี้คือ 3 แต้ม ครึ่งแรกน่าจะยิงประตูได้ เพราะจังหวะเข้าทำประตู ค่อนข้างที่จะหลากหลาย พอสมควรแต่กองหน้า ยังไม่เฉียบคมพอ ครึ่งหลังต้องยอมรับว่าเด็กเรามาแผ่ว 1 แต้มนอกบ้านก็สมน้ำสมเนื้อ

คะแนนความสามารถของ ทั้ง 2 ทีม

การท่าเรือไทย เอฟซี : ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ 7, เคย์ ลังกาวงษ์ 6, พงษ์พิพัฒน์ คำนวณ 6, มาริโอ ดาซิลวา 6.5, เกียรติเจริญ เรืองปาน 6, อิทธิพล นนท์ศิริ 6, โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ 5.5 (เจษฎา ภู่เล็ก 5), เอกชัย สำเรถใถ (นันทเวศ จันทร์อุทัย- ) ,จีระวัฒน์ มัครมย์ 6, พิพัฒน์ ต้นกันยา 6.5 (นิรุตน์ คำสวัสดิ์ -), เอ็ดวัลโด้ เปไรร่า 6

ทีโอที เอฟซี : กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ 6.5, รัฐศักดิ์ บุญญรัตน์ 6, ไพรัช ทับเกตุแก้ว 6, เกลาดิโอ ปาลคาล 6, สิทธิศักดิ์ ตาระพัน 6, ธีรชัย งามเจริญ 6, รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ 6.5, โคเน่ เซย์ตู 6, กิตติภัทร วงศ์สมบัติ 5.5 (สุเชาว์ นุชนุ่ม 5), ไกรสรณ์ ศรียันต์ 5.5 (นาวิน จันทร์งาม-), กรีติ เขียวสมบัติ 6 ( กิตติพงษ์ มูลพงศ์-

แมนออฟเดอะแมตซ์ : ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ นายทาวารฟอร์มหนึบสิงห์เจ้าท่า

ศรีราชา เอฟซี 1-2 สมุทรสงคราม เอฟซี

ที่สนามศิรินธร อสช.ศรีราชา จ.ชลบุรี ศรีราชา เอฟซี ทีมอันดับ 15 มีแค่ 5 แต้มนัดนี้ ขาดดาวรุ่งทั้ง อรรถพงษ์ หนูพรหม กับ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ที่โดนแบนพบกับ สมุทรสงคราม เอฟซี อันดับ 13 มี 7 แต้ม นัดนี้ยังให้ ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร, จิรวัฒน์ แก้วโบราณ, กันตภณ สมพิทยานุรักษ์ เป็นตัวหลักเหมือนเดิม

เริ่มครึ่งแรก น.15 สมุทรสงคราม เอฟซี รับเหลืองแรกของเกมหลังจากที่ ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น ไปถีบใส่ ซารูตะ อย่างน่าเกลียด น.18 สุภภรณ์ พรหมพินิจ ของศรีราชา ได้ซัดระยะ 20 หลาข้ามคาน อย่างน่าเสียดาย น.21 สมุทรสงคราม ได้ลุ้นอีกครั้ง ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร แทงบอลทะลุช่องให้ จิรวัฒน์ แก้วโบราณ หลุดเดียว เจ้าตัวแตะบอลผ่าน นันทพล ศุภไทย ไปแต่จังหวะกำลังจะยิงกลายเป็น มากิ ดัมมี่ พุ่งสไตล์แย่งบอลคืนไปได้อย่างหวุดหวิด

น.31 สิทธิพันธ์ ชุมช่วย ของทีมเยือน ซัดตรงกรอบเขตโทษ ยังดีที่ เป็นนันทพล ที่พุ่งปัดออกหลังไปได้ น.44 สิทธิพันธ์ ชุมช่วย ได้บอลตรงกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนกระชากบอลหนีกองหลังศรีราชา แล้วสับไกลทันที บอลดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ไปแฉลบขา มากิ ดัมมี่ ของศรีราชา เปลี่ยนทาง เข้าประตูทำให้สมุทรสงคราม ออกนำ 1-0 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

ครึ่งหลัง น.47 ศรีราชา เกือบได้ประตูตีเสมอ เมื่อพลิกบอลยิงระยะแค่ 10 หลา แต่ตรงตัว ทศพร ศรีเรือง น.55 สมุทรสงคราม ที่ได้ประตูหนีห่างอีกครั้ง จากจังหวะฟรีคิกระยะ 40 หลาทางด้านริมเส้นด้านขวาของ ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น ที่ทำท่าจะเปิดบอลไปเสาสอง แต่เจ้าตัวหลอกยิงเสาแรก ทำให้ นันทพล ที่ไปดักเสาสอง พุ่งมาปัดไม่ทัน สมุทรสงคราม ขยับนำ 2-0

น.71 สุภภรณ์ พรหมพินิจ เปิดบอลจากกรอบเขตโทษด้านขวา ทศพร ศรีเรือง พุ่งปัดมาเข้าทาง ซารูตะ ยิงเต็มข้อแค่ 3 หลาไม่เหลือ เจ้าบ้านตามมา 1-2 น.81 วิลเลี่ยม เมโดนซา ของศรีราชา เปิดบอลจากด้านซ้าย เข้ากลาง ให้ ซารุตะ โหม่งเต็มหัว แต่ทศพร ศรีเรือง โชว์ซุปเปอร์เซฟ พุ่งปัดออกจากเส้นได้แบบหวุดหวิด จากนั้นอีกนาทีเดียว วิลเลี่ยม ได้บอลทางด้านซ้าย ก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่าน ออกเสาสองแบบได้เสียว

น.86 ศรีราชา น่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ สุจริต นันทกล หลุดกัปดักล้ำหน้า ไปดวลกับ ทศพร ศรีเรือง แต่เจ้าตัวดันแปไปตรงตัวอย่างน่าเสียดาย น.88 คะนึง บุราณสุข หลุดไปยิงชนเสา อย่างน่าเสียดาย จากนั้น ทศพร ศรีเรือง ประตู ของ สมุทรสงคราม ไปโวยวายผู้ตัดสิน รับเหลืองไปอีกคน หมดเวลา ศรีราชา แพ้ สมุทรสงคราม คาบ้าน 1-2

วาทะโค้ช

ครองพล ดาวเรือง ของศรีราชาเ อฟซี - เด็กเล่นในบ้านกดดันมาก ครึ่งแรกเล่นกันไม่ได้เลย แต่พอโดนนำกลับเล่นได้ดี แต่จังหวะสุดท้ายไม่สามารถยิงประตูไม่ได้อีก ยอมรับเหนื่อยมากๆ ไม่ใช่เหนื่อยที่ฟอร์มการเล่น แต่เหนื่อยที่คะแนนไม่สามารถเก็บแต้มได้ต่อเนื่อง

สมชาย ชวยบุญชุม ของสมุทรสงคราม เอฟซี - โอเคเลยครับ ช่วงหลังเรากลับมาเล่นระบบเดิม ถือว่าโอเคมากๆ เลยทีเดียว ต้องยกให้นักเตะทุกคนที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเชื่อว่าจะสามารถกลับมาเล่น ที่ฟอร์มดีเหมือนฤดูกาลที่แล้วได้อย่างแน่นอนครับ

คะแนนความสามารถของทั้ง 2 ทีม

ศรีราชา เอฟซี นันทพล ศุภไทย 5.5, ดราเม มากิ 5, ก่อเกริก เพ็ชรคงทอง 6, สุภภรณ์ พรหมพินิจ 6.5, สนอง ชัยประโคม 5 (วิลเลี่ยม6.5 ), พรศักดิ์ ป้องทอง 6 (เอกชัย ฤทธิพันธ์5.5 ), สุจริต นันทกล 6.5, สุพจน์ วงศ์หอย 6.5, ซารูตะ 6.5, วัชรพงษ์ มากกลาง 5 (ศิริภัทร หิรัญวัฒนตระกูล6), วรุตน์ วงศ์ดี 6.5

สมุทรสงครามเอฟซี ทศพร ศรีเรือง 7, ชุมพล บัวงาม 7, อภินันท์ แก้วปีลา 7, ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร 7, พัชรินทร์ สุขใส 7.5, จิรวัฒน์ แก้วโบราณ 7, กัณตภณ สมพิทยานุรักษ์ 7, มิเชล คาริน 7, สิทธิพันธ์ ชุมช่วย 6.5 (คะนึง บุราณสุข6 ),ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น 7 (ประเสริฐ เฉยไธสง-), เอกศักดิ์ บัวเบา 7

แมนออฟเดอะแมตช์ พัชรินทร์ สุขใส ผู้เล่นของสมุทรสงคราม

No comments:

Post a Comment