Sunday, May 31, 2009

เทโรเฉือนหวิวม้านิลคว้าชัยไฟ้ฟ้าหวิดดับฉลามชลแพ้ยับ

การแข่งขัน ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 12 เมื่อวันเสาร์ที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา มีผลการแข่งขันดังนี้

บีอีซีเทโรศาสน 3-2 ศรีราชา เอฟซี

ที่สนามบีอีซีเทโรฯ หนองจอก ทีม "มังกรไฟ" บีอีซีเทโรศาสน อันดับ 7 ที่เตะมา 11 นัด มี 13 แต้ม เปิดบ้านพบกับทีมรองบ๊วย ศรีราชา เอฟซี ที่เตะมา 10 นัด มี 6 แต้ม นัดนี้เจ้าถิ่นนำทัพโดย อานนท์ สังสระน้อย ดาวซัลโวประจำทีมลงจับคู่กับ กิตติพล ปาภูงา โดยมี ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสาให้ ด้านทีมเยือน คู่หัวหอกเป็น กัตโต้ กอนซาเลซ ชาวอาเจนติน่า กับ สนอง ชัยประโคม

เริ่มครึ่งแรก น. 7 กองเชียร์ เจ้าถิ่นสุดเซ็ง เมื่อแนวรับเคลียร์บอลกันไม่ดี บัมบ้า เกาซู เคลียร์บอลไม่ขาด บอลหลุดออกมานอกกรอบ ถึงตัว อรรถพงษ์ หนูพรหม ซัดไม่เหลือซาก ให้ทีมเยือน ศรีราชา ออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0

น. 13 เจ้าถิ่นมีลุ้นตีเสมอแต่ลูกโขกของ อานนท์ สังสระน้อย ข้ามคานไปซะก่อน น. 14 บัมบ้า เกาซู เกือบแก้ตัวให้ทีมได้ เมื่อหลุดเข้าไปดีดแต่บอลเข้าซอง นันทพล ศุภไทย นายทวารทีมเยือนเซฟได้สบายๆ น. 19 บีอีซีเทโรฯ พลาดโอกาสนำอีกครั้งเมื่อ จักรพันธ์ แก้วพรม หลุดเข้าไปซัดเต็มเหนี่ยวบอลแฉลบแนวรับทีมเยือนออกหลังไป น. 20 บีอีซีฯ ได้เตะมุมขวา กิตติพล ปาภูงา ปั่นไปเข้าหัว ทัศนา แช่มสะอาด กองหลังที่พ้นโทษแบน 2 นัดกลับมาโขกตั้งกลับมาให้ อาเรียน อาคาซู ซัดเข้าไปไม่เหลือซากสกอร์กลับมาอยู่ที่ 1-1 น. 21 ทีมเยือนน่าจะพลิกนำอีกครั้งเมื่อ กัตโต้ กอนซาเลซ ไหลให้ อรรถพงษ์ ซัดโล่งๆ แบบไม่มีใครประกบ บอลเหินข้ามคานเฉย น. 23 ชารูตะ ปีกขวา ชาวญี่ปุ่นของทีมเยือนได้ซัดบอลหลุดกรอบไปอีกครั้ง

น. 28 กิตติพล ปาภูงา ไปเล่นหนักใส่ อำไพ มุธาพร ทีมเยือนโดนเหลืองเป็นรายแรกของเกมนี้ไป น. 30 บีอีซีเทโรฯ น่าจะพลิกกลับมานำได้เมื่อ ธฤติ โนนศรีชัย กองหลังเติมขึ้นไปซัดแต่บอลข้ามคานหน้าตาเฉย น. 31 โอกาสเป็นของทีมเยือนที่น่าได้ประตูนำอีกครั้งจากลูกเตะมุมซ้ายของ วรุตม์ วงศ์ดี ไปเข้าหัว สนอง ชัยประโคม โขกเหน่ง ๆ แต่จังหวะนี้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวารทีมเยือนเซฟตรงเส้นเอาไว้ได้

น. 44 ศรีราชา ได้ฟรีคิก วรุตม์ ปั่นไปติดกำแพงกระดอนออกหลังทีมเยือนได้เตะมุมซ้ายวรุตม์ เปิดเข้าไปบอลปลิ้นไปถึง อรรถพงษ์ หนูพรหม ซัดไม่ผ่านมือศิวรักษ์ นายทวารเจ้าถิ่นอีกครั้ง จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 1-1

ครึ่งหลัง น. 48 เทโรฯ น่าจะได้ประตูนำครั้งแรก อานนท์ พาบอลทะลุไปสวยจนสุดเส้นหลังก่อนเปิดไปหน้าประตู แต่ไม่มีเติม โดนเคลียร์ทิ้งไปได้ น. 51 บัมบ้า เกาซู ได้ซัดเหน่งๆ แต่ติดสุพจน์ วงษ์หอย กองหลังทีมเยือนที่ล้มตัวขวางทางบอลไว้ได้ น. 54 เป็นทีมเยือนที่พลิกกลับมานำอีกครั้ง จากการหลุดเข้าไปซัดอย่างเลือดเย็นของ ชารูตะ นักเตะชาวญี่ปุ่น ให้ศรีราชา นำ 2-1 น. 61 บีอีซีเทโรฯน่าจะตีเสมอได้เมื่อ จักรพันธ์ แก้วพรม โชว์ความเหนือชั้นลากเข้าหาเขตโทษ ก่อนตัดสินใจป้ายไปทางขวาให้ กิตติพล ปาภูงา ตะบันเต็มเหนี่ยมแต่ไม่ผ่าน นันทพล ศุภไทย นายทวารทีมเยือน น. 70 บีอีซีเทโรฯ โหมบุกหนักและน่าจะได้ประตูตีเสมอ แต่ อานนท์ สังสระน้อย ได้ชาร์ตเหน่งๆ ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย น. 82 อคาซู ของเจ้าถิ่น เปิดจากขวา ไปเข้าหัว ชลากร สงวนดี ขวิดเหน่งๆ เข้าไปไม่เหลือซากสุดปัญญาที่ นันทพล ศุภไทย นายทวารทีมเยือนจะเอาอยู่ ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้ง 2-2

น. 86 เป็นเจ้าถิ่นที่แซงนำ จากการเปิดบอลยาวของ กิตติพล ปาภูงา ไปถึง อานนท์ สังสระน้อย พอดี ก่อนซัดประตูที่ 5 ของทัวร์นาเมนต์ นี้ของตัวเองเข้าไปให้ บีอีซีเทโรฯ นำเป็น 3-2 และและเป็นประตูชัยให้ทีม "มังกรไฟ" เก็บชัยชนะได้สำเร็จ

หลังเกมปรากฏว่ามีการประทะกันของกองเชียร์ 2 ทีม โดยเป็นกองเชียร์ทีมเยือนที่เดินเข้าไปหากองเชียร์เจ้าถิ่น และใช้เท้าย่ำไปที่ผ้าพันคอของบีอีซีเทโรฯ จนทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นไม่พอใจ กรูกันเข้ามาจะทำร้ายแฟนบอลศรีราชา ก่อนที่กองเชียร์ 2 ทีมจะกรูกันเข้าหากัน ดีที่เจ้าหน้าที่สนามรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลความปลอดภัยแค่ราว 2-3 นายห้ามทัพไว้ได้ทัน ก่อนเหตุการณ์บานปลายและกองเชียร็ 2 ทีมแยกจากกันไป แต่หลังจากนั้นปรากฏว่า 2 ทีมยังคงคาใจกันไม่เลิก จะไปฟาดปากกันต่อบริเวณลานจอดรถทางออกสนามอีกรอบ แต่ดีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยมีการอ้างมาจากแฟนบอลศรีราชา ด้วยว่าพวกเขาโดนแฟนบอลเจ้าถิ่น ขี่มอเตอร์ไซต์พุ่งเข้าชน

วาทะโค้ช

พยงค์ ขุนเณร กุนซือ บีอีซีเทโรฯ - 2 ประตูที่เราเสียนั้นเป็นความผิดพลาดของเราเอง ยังดีที่กลับมาได้โอเคนะกับ 3 แต้ม แม้ว่าโดยรวมผลงานจะยังไม่ดีเท่าไหร่นักก็ตามที แต่เชื่อว่าทีมเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนกับเกมที่เหลือต่อจากนี้ไปต้องยกเครดิตให้กับลูกทีมไปเต็มๆ เลยสำหรับเกมนี้

ครองพล ดาวเรือง กุนซือ ศรีราชา เอฟซี - ถึงแม้ทีมจะกลับมาตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ผมก็พอใจกับฟอร์มของลูกทีมนะที่มาสู้กับทีมใหญ่ๆ อย่างบีอีซีเทโรฯ เขาได้ระดับนี้จริงแล้วอย่างที่บอกที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเราเล่นไม่ดีเพียง แต่เรายังขาดเรื่องของความเก๋าไปเท่านั้นที่ ทำให้ไม่สามารถรักษาสกอร์นำเอาไว้ได้ โดยรวมพอใจครับเล่นกันได้แบบนี้ที่ทำให้เทโรฯ ต้องหืดจับ แม้จะแพ้แต่ผมก็พอใจ และถือว่ามีอนาคตและเชื่อว่าแฟนบอลเองก็คงจะคิดเหมือนกับผม

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

บีอีซีเทโรฯ : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน 6, นพพล ปิตะฝ่าย 6, ธฤติ โนนศรีชัย 6, จักรพันธ์ แก้วพรหม 7, กิตติพล ปาภูงา 6.5, อาเรียน อคาซู 6.5, ชาคริต บัวทอง 6 ( ชลากร สงวนดี 6.5 ), บัมบ้า เกาซู 5.5 (วุฒิชัย ทาทอง 5.5), อานนท์ สังสระน้อย 6.5, ทัศนา แช่มสะอาด 6, กีร์ฮูเบิร์ต 5.5 (พิชิต ใจบุญ 6)

ศรีราชา เอฟซี : นันทพล ศุภไทย 6, ดราเม่ มากิ 6, อรรถพงษ์ หนูพรหม 6 (เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ 5.5), ก่อเกริก เพ็ชรคงทอง 6, อำไพ มุธาพร 6, สนอง ชัยประโคม 6 (เอกชัย ฤทธิ์พันธ์ 5.5), ดีเอโก้ โรเบิร์ต 6, สุพจน์ วงษ์หอย 6, ชารูตะ ฮิโรโนริ 6.5, วรุมต์ วงศ์ดี 6.5, กัตโต้ กอนซาเลซ 6 (วิลเลี่ยน เมนดอนก้า 5.5)

แมนออฟเดอะแมตซ์ : จักรพันธ์ แก้วพรม ปีกขวาตัวจี๊ด บีอีซีเทโรฯ

ราชนาวี ระยอง 2-1 โอสถสภา เอ็ม 150

ที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง เป็นการพบกันระหว่าง ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับ 7 ของตารางการแข่งขันที่นำทีมโดย สมเจตร สัตบุษ อดีตกองหน้าทีมชาติไทย พร้อมด้วย สุทธินันท์ นนที แต่ไม่มีสองนักเตะตัวเก่งอย่าง มารุต ดอกมะลิป่า ที่โดนโทษแบนกับ ศุภชัย ขำทรัพย์ ที่เจ็บเปิดบ้านรับการมาเยือน "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 ทีมอันดับ 3 ของตาราง ที่นำทีมโดย กิตติศักด์ ระวังป่า, "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี และ คัพฟ้า บุญมาตุ่น โดยก่อนการแข่งขันจะเริ่มได้มีการกระโดดร่มโชว์ของนักโดดร่มกองทัพเรือ ให้แฟนบอลในสนามได้ชมเรียกน้ำย่อย

เริ่มครึ่งแรก โอสถสภา เอ็ม 150 ผู้มาเยือนเป็นฝ่ายเคลื่อนเกมรุก เข้ามาเล่นในแดนของราชนาวี เจ้าบ้านได้ตลอด แต่กองหลังทีมเจ้าบ้านยังแกร่งสามารถตัดเกมรุกของทีมพลังเอ็มเอาไว้ได้หมด และบางจังหวะก็สวนกลับได้อย่างสวยๆ ผ่านไป 10 นาที ลูกหวาดเสียวยังไม่มีให้เห็น

น.15 เจ้าบ้านได้ ฟรีคิกทางริมสนามด้านขวา สุทธินันนท์ นนที หวดโด่งมาหน้าประตู บอลตกลงเสาแรก กระดอนจะเข้าประตู กิตติศักดิ์ ระวังป่า นายทวารพลังเอ็มพุ่งปัดบอลหลุดออก เข้าทาง สมเจตร สัตบุษ ดาวยิงประจำทีมซัดจ่อๆ ไม่เหลือ ให้ ราชนาวี ระยอง ขึ้นนำ 1-0

พอเสียประตูทีมโอสถสภา โหมรุกหนัก แต่นักเตะเจ้าบ้านอาศัยลูกขยัน บวกกับความฟิตไล่บี้ติดจนทำให้ โอสถสภา ต่อเกมรุกได้ไม่ถนัดทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายพับสนามบุกได้มากกว่า น.37 โอสถสภา เปลี่ยนเอา สุมัญญา ปุริสาย ลงแทน กฤษฎา เก็มเด็น ที่เจ็บ เกมยิ่งเล่นทีมราชนาวี เจ้าบ้านยิ่งดีโดยเฉพาะในแดนหน้าที่เร็วกว่ากองหลังโอสถสภา ทำให้สามารถกระชากบอลโต้กลับได้สวยๆ หลายครั้ง

ท้ายครึ่งแรก ฝนเริ่มเทลงมาอย่างหนัก บรรดานักเตะทีมโอสถสภา ก็โหมรุกอย่างหนักหมายแก้ประตูคืน แต่ทีมราชนาวี ก็ไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีของทีมหัวตารางเปิดเกมสวนกลับได้อย่างสนุก ชนิดสะใจแฟนบอลเจ้าบ้าน ที่แห่เข้ามาเชียร์กันแน่นสนาม จบเกมการแข่งขันครึ่งเวลาแรก ราชนาวี ระยอง นำอยู่ 1-0

ครึ่งหลังฝนยังเทลงมาอย่างหนัก แต่แฟนบอลชาว จ.ระยอง ก็ไม่มีใครหนีเ ฝ้าชมการฟาดแข้งกันอย่างใจจดใจจ่อ น.50 ใหญ่ นิลวงษ์ ของราชนาวี ระยอง หลุดเข้าไปในเส้นแบ๊คด้านขวากดระยะแค่ 15 หลา บอลพุ่งเฉียดเสาสองออกไปแค่คืบชนิดมีเฮ

น.52 ราชนาวี ระยอง ได้ฟรีคิกนอกเขตด้านซ้าย สุทธินันท์ นนที รับหน้าที่ปั่นฟรีคิกสุดสวย เข้าเสียบสามเหลี่ยมมุมซ้ายมือนายทวาร อย่างงดงามชนิด กิตติศักดิ์ ระวังป่า ไม่ได้กระดิก ทำให้ ราชนาวี ระยอง หนีไปเป็น 2-0

จากนั้น สภาพสนามเริ่มมีน้ำท่วมขัง น.54 คับฟ้า บุญมาตุ่น กองกลางดาวรุ่งของ โอสถสภา หวดบอลระยะเกือบ 30 หลา บอลพุ่งเลียดแฉลบพื้นหญ้า เข้าเสียบมุมซ้ายมือนายทวารอย่างงดงามให้ทีมโอสถสภา ไล่มาเป็น 1-2

แม้ฝนจะตก น้ำจะท่วมขังเป็นหย่อมๆ ทีมโอสถสภา ที่เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าพยายามต่อเกมรุก แต่ราชนาวี ก็ใช้ความแข็งแรงตัดเกมโต้กลับ น.73 ใหญ่ นิลวงษ์ ตัดบอลได้หน้าเส้นแบ๊คด้านขวากระชากบอลวิ่งเข้าจ่อยิงระยะแค่ 8 หลา ดีที่ กิตติศักดิ์ ระวังป่า ยังเฉียบปัดบอลเซฟลูกอันตรายเอาไว้ได้

น.88 โอสถสสภา ก็หวิดตีเสมอได้จากลูกฟรีคิกนอกเขตแบ๊คด้านขวา จักรกริช บุญคำ เปิดบอลโด่งมาหน้าประตู บอลพุ่งชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย จบเกมการ ราชนาวี ระยอง เปิดบ้านเชือด โอสถสภา สุดมันส์ 2-1

วาทะโค้ช

น.ท.เอกรัตน์ ทรัพย์สิน กุนซือทีมราชนาวี ระยอง - ก็พอใจกับผลงานของลูกทีมที่ช่วยกันเล่นจนทีมเราได้พบกับชัยชนะในนัดนี้ หลังจากที่ต้องแพ้มาแล้วหลายนัด และชัยชนะในนัดนี้ก็ขอมอบให้กับแฟนบอลชาว จ.ระยอง ที่มาเชียร์แม้ฝนจะตกก็ไม่มีใครหนี

อ.อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ กุนซือทีมโอสถสภา เอ็ม 150 - นัดนี้เด็กเราดันไปเล่นตามเขาเอง แทนที่จะครองบอล ต่อบอลหาจังหวะ กลับไปสาดบอลยาวตามเขา บวกกับการเข้าทำประตูในจังหวะสุดท้ายไม่แม่พอ เลยต้องแพ้ไปในที่สุด

คะแนนความสามารถของนักเตะทั้งสองทีม

ราชนาวี ระยอง : ชินกร ดีสาย 6.5, อุดร พิมภาค 6.5, สุระเดช เสาไธสง 6.5, ฟานิค อาดัม 6 (ติณภพ ศรสถิตย์ 6), ใหญ่ นิลวงษ์ 6.5, สมเจตร สัตบุษ 7, ก้องศักดิ์ แสนทวีสุข 6 (ดนุสรณ์ ผุยแสงพันธ์ 6) สุทธินันท์ นนที 7, ยามิค จอเกส 6.5, เจษฎา งามเมือง 6.5, รัฐพร แซ่ตั๋น 6(ศักดิ์สุริยา กุลโพนเมือง 6)

โอสถสภา เอ็ม 150 : กิตติศักดิ์ ระวังป่า 6.5, โกศวัต ว่องไวลิขิต 6, ประทุม ชูทอง 6.5, ศิวะเมต ธนูศร 6 (อนิรุตน์ สืบยิ้ม 5.5), วันใหม่ เศรษฐนันท์ 6 (วสันต์ นาทะสัน 6), จักรกริช บุญคำ 6.5, กฤษฎา เก็มเด็น 5.5 (สุมัญญา ปุริสาย 5.5), ศรายุทธ ชัยคำดี 6, คัพฟ้า บุญมาตุ่น 6.5, สุรเดช ธงชัย 6, เจษฎา พั่วนะคุณมี 6

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : สุทธินันท์ นนที ของราชนาวี ระยอง

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 2-2 การท่าเรือไทย เอฟซี

ที่สนามกีฬากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา การไฟฟ้าฯ ทีมที่กำลังหลังผิงฝาไม่ชนะในลีกมาแล้ว 8 เกม อยู่อันดับ 11 มี 11 แต้ม เกมนัดนี้ขาด ณรงค์ชัย วชิรบาล ที่โดนแบน แต่ยังมี อภิภู สุนทรพนาเวศ, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ลงสนาม พบกับ การท่าเรือไทย อันดับ 6 มี 15 แต้ม นัดนี้ การท่าเรือฯ ยังมี พิพัฒน์ ต้นกันยา ยืนคู่กับ นิรัตน์ คำสวัสดิ์ โดยมี จีรวัฒน์ มัคครมย์ ยืนแดนกลาง โดยเกมนี้ได้รับเกียรติจาก รัฐมนตรีช่วยคมนาคม เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร เข้ามาชมการแข่งขันด้วย

เริ่มครึ่งแรก น.17 การไฟฟ้าฯ ได้ลุ้นก่อนจากลูกเตะมุมด้านขวาหาประตู ก่อนเป็น ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ นายทวารทีมเยือน ชกบอลออกมาเข้าทางปฎิภาณ เพชรพูล ที่เติมมาสูง ซัดเปรี้ยงเดียวยังดีตรงตัวของ ภัทรกรอีกครั้ง จากนั้น เกมส่วนใหญ่อยู่กลางสนาม เพราะทั้งสองทีมต่อบอลกันไม่ติดเพราะสภาพสนามที่ค่อนข้างจะเลื่อน แต่จังหวะโต้กลับเร็วของการไฟฟ้าฯ น.39 โจเอล เฮนรี่ กองหลังการไฟฟ้าฯ เติมขึ้นมาสูง ถึงเส้นหลังด้านขวา ก่อนหักเข้ากลางให้ รณชัย รังสิโย จับบอลหนึ่งจังหวะ แล้วผ่านต่อให้ อภิภู สุนทรพนาเวศ จับก่อนกลับตัวยิงเปรี้ยงเดียวบอลพุ่งเสียบเสาสองสุดสวย ให้ทีมเจ้าบ้านออกนำ 1-0 จากนั้นทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกการไฟฟ้าฯ นำ 1-0

ครึ่งหลัง น.50 การท่าเรือฯ ปรับเกมถอด ยุทธนา ไชยแก้ว ออกแล้วให้ ณรงค์ฤทธิ์ สามนปาน ลงสนามแทน ถัดมาอีกนาทีเดียว การท่าเรือฯ ได้ลุ้นเมือรังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ ของท่าเรือฯ ได้ซัดระยะ 30 หลาข้ามคานแบบมีลุ้น น.60 กลายเป็นการท่าเรือฯ ที่ได้ประตูตีเสมอได้ เมื่อ ได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาตรงกรอบเขตโทษเยื้องออกมาด้านขวา ก่อนเป็น จีรวัฒน์ มัครมย์ ที่ซัดด้วยขวา บอลโค้งเข้า 3 เหลี่ยมเสาสองสุดสวย ทำให้ทีมเยือนตามตีเสมอได้ สำเร็จ 1-1

น.62 การไฟฟ้าฯ ถอด ชัยวุฒิ วัฒนะ ออกหลังจากได้รับบาดเจ็บที่โคนขาด้านซ้าย แล้วให้ยุทธจักร ก้อนจันท์ลงสนามแทน จากนั้นอีก 4 นาทีกลายเป็น การท่าเรือฯ ที่ขึ้นนำ 2-1 จากการผิดพลาดของกองหลังไฟฟ้าฯ ที่เคลียร์บอลไม่ขาดไปเข้าทางพิพัฒน์ หลุดเดี่ยว ก่อนพิพัฒน์ จะกระชากบอลเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนซัดด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือแซมมวล ป.คันนิ่งแฮม ทำให้การท่าเรือฯ กลับมานำ 2-1 โดยพิพัฒน์ ซัดทีมเก่าของตัวเองด้วย

น.68 การไฟฟ้าฯ หวังแก้ประตูคืนและได้ผลเมื่อ ธีรทร บุญมาทัน กระชากบอลไปทางด้านซ้าย ก่อนเปิดไปที่เสาสองให้ วิคเตอร์ เมนซาร์ วอลเล่ย์ตูมเดียวบอลตกพื้นพุ่งเข้าเสาสองสุดสวย ทำให้การไฟฟ้าฯ ตามตีเสมอได้สำเร็จ 2-2

น.86 ทั้งคู่เหลือ10 คนเมื่อ จังหวะที่การท่าเรือฯ ได้เตะมุม เอ็ดวานโด้ ที่เพิ่งลงไปกระแทกกับแซมมวล ทำให้แซมมวลลุกจะมาเอาเรื่อง กันทำให้ผลักกันไปผลักกันมา แต่ก็ห้ามกันไว้ทัน ผู้ตัดสินเลยควักใบแดงไล่ทั้งคู่ออกจากสนาม ทำให้ การไฟฟ้าฯ ต้องถอด รณชัย รังสิโย ออกแล้วให้ อัมรินทร์ เยาว์ดำ ลงไปเฝ้าเสาแทน

หลังจากนั้นทั้งคู่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ เสมอกันไปสุดมัน 2-2 แบ่งกันทีมละ 1 แต้ม ทำให้การไฟฟ้าฯ ไม่ชนะมา 9 นัดติดในไทยลีก หลังเกมทางแฟนคลับของการไฟฟ้าฯ ได้จัดแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้กับ ยุทธจักร ก้อนจันทร์ ที่เกิดวันที่ 31 พ.ค. ด้วย

วาทะโค้ช

ทองสุข สัมประหังสิต กุนซือใหญ่การไฟฟ้าฯ - เกมนี้ทุกอย่างดีหมดแต่จังหวะสุดท้ายเราจบไม่ได้ แถมมาเสียประตูง่ายๆ อีกต่างหาก ไม่รู้เป็นอะไรจะได้ 3 แต้มก็มาพลาดง่ายๆ อีก เซ็งจริงๆ น่าเสียดายด้วย

สะสม พบประเสริฐ โค้ชใหญ่ การเท่าเรือไทย - โอเคนะกับ 1 แต้มเพราะเกมมาเยือน แต่ว่าถ้าผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมที่เด็กเราเจ็บ เขาก็ไม่ตีเสมอ คงต้องค่อยๆ ปรับโดยเฉพาะแนวหลังที่ยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่

คะแนนความสามารถของทังสองทีม

การไฟฟ้าฯ : แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม 6.5, ธีรธร บุญมาทัน 7, ปฎิภาน เพชรพูล 7, วัชระ มหาวงศ์ 6.5, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค 7, อภิเชษฐ์ พุฒตาล 7, อภิภู สุนทรพนาเวศ 7.5, ชัยวุฒิ วัฒนะ 7, รณชัย รังสิโย 6 (อัมรินทร์ เยาว์ดำ-), วิคเตอร์ เมนซ่าร์7.5,เฮนรี่ โจเอล โคคู 7

การท่าเรือฯ : ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ 6.5, บุญมี บุญรอด 7, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ 7, พิพัฒน์ ต้นกันยา 7, จีระวัฒน์ มัครมย์ 7 (เอกชัย สำเร 5.5), ยุทธนา ไชยแก้ว 6 (เกียรติเจริญ เรืองปาน 6), นิรุตน์ คำสวัสดิ์ 7 (เอ็ดวานโด้ เปไรร่า-), มาริโอ ดาซิลวา 7,กิตติศักดิ์ ธนสุวรรณ 7, เกียรติเจริญ เรืองปาน 6.5, มาดูโร่ สวาโม่เซ่ 7,

แมนออฟเดอะแมตช์ : วิคเตอร์ เมนซ่า ผู้ซัดประตูตีเสมอให้การไฟฟ้าฯ

บิ๊กแมตช์ไทยลีก "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ฟอร์มสะท้านบุกถล่ม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี 5-2 คว้า 3 คะแนนเต็ม ทำแต้มเท่าจ่าฝูง "แร็บบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี 25 แต้ม ด้านอานนท์ ฮีโร่ช่วยแข้ง "มังกรไฟ" เทโรฯ ปลิดชีพ ศรีราชาฯ แบบฉิวเฉียด 3-2 ช่วยทีมคว้า 3 แต้มสำคัญ,ราชนาวี เปิดรังเฉือนหวิว โอสถฯ 2-1ขณะที่ ไฟฟ้า เจ๊าสุดมันการท่าเรือ 2-2 ในศึกไทยพรีเมียร์เมื่อวันเสาร์ที่ 30 พ.ค. 2552

ชลบุรี เอฟซี 2-5 เมืองทอง ยูไนเต็ด

ที่สนามเทศบาลหนองปรือ พัทยา เกมบิ๊กแมตซ์ประจำสัปดาห์ เป็นพบกันระหว่าง "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี กับ "กิเลนผยอง" เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด เกมนี้ถือว่ามีความหมายอย่างยิ่งทีมใดชนะได้ จะได้ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงทันที ซึ่งทีมชลบุรีแข่งเพียง 10 นัดมี 23 แต้ม ส่วน เมืองทอง แข่ง 11 นัดมี 22 แต้ม อยู่อันดับที่ 4 ของตาราง

คู่นี้ถือว่าเจอกันครั้งแรกในระดับไทยลีก และผลงานที่ผ่านมาก็ฮอตทั้งคู่ โดยชลบุรีเอาชนะ นครปฐม มา 3-0 ส่วน เมืองทองฯ ก็บุกชนะสมุทรสงคราม 1-0 โดยเกมนี้ชลบุรีตัดสินใจนาทีสุดท้ายส่ง สุรีย์ สุขะ ที่เจ็บลงสนามแม้ว่าจะไม่สมบูรณ์เต็มที่ พร้อมด้วยตัวหลักชุดเดิมเกียรติประวุฒิ สายแวว ยืนเซ็นเตอร์คู่กับ ชลทิตย์ จันทคาม พร้อมณัฐพงษ์ สมณะ,อาทิตย์ สุนทรพิธ,สุรัตน์ สุขะ และมีพิภพ อ่อนโม้ ยืนหน้าคู่กับ โคเน่ โมฮัมเหม็ด ด้าน "กิเลนผยอง" ก็ใช้ชุดใหญ่เช่นกัน นำโดยอดีตลูกหม้อเก่าของชลบุรี ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์, เจษฏา จิตสวัสดิ์, มูซ่า ซีล่า, แดนโก้ เซียก้า, โซมาโฮโล ยาย่า และหัตฐพร สุวรรณ ที่ได้โอกาสลงตัวจริง โดยใช้ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ลงยืนหน้าคู่กับ พิเชษฐ์ อินทร์บาง พร้อมกับได้ไส่ชื่อ ธีรศิลป์ แดงดา เป็นตัวสำรองด้วย

เริ่มครึ่งแรก ทีมเยือนได้ทักทายก่อนทันทีจาก พิเชษฐ์ อินทร์บาง ที่ลากบอลตรงเส้น 18 หลาก่อนพลิกตัวซัดด้วยขวา บอลออกข้าง น.13 เอกพันธ์ อินทเสน ขอลชลบุรีได้บอลทางขวา เปิดเรียดเข้าไปที่ปากประตู กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูเมืองทองฯ ปัดบอลไม่หยุดไหลไปเสาสอง อาทิตย์ สุนทรพิธ ยืนโล่งๆ คนเดียววิ่งเข้าไส่ด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งเสยตาข่ายให้ชลบุรีนำ 1-0

น.18 ทีมเยือนน่าจะตีเสมอได้ ยาย่า ตัดบอลจากกลางสนาม กระชากเข้าหากองหลังชลบุรี แล้วจ่ายออกซ้ายให้ พิเชษฐ์ อินทร์บาง ที่เติมขึ้นมาช่วย แต่กลับไม่เปิดเข้าใน ซัดเองบอลออกข้าง น.23 ชลบุรี ที่ใช้การต่อบอลสั้นทำเกมทางขวา พิภพ อ่อนโม้ ได้บอลไม่มีใครเข้าประกบ กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปที่หน้าประตู เจษฏา จิตสวัสดิ์ จะใช้อกพักบอลแต่พลาดบอลไหลไปถึงเสาสอง แต่ โคเน่ ไม่ทันระวังเลยชวดยิงประตูไป

น.30 เมืองทองฯ พยายามจะเอาคืน แต่กลับโดนชลบุรียิงหนีห่างจนได้ เมื่อ อาทิตย์ สุนทรพิธ จ่ายบอลสั้นให้ เอกพันธ์ อินทเสน เปิดด้วยซ้าย บอลไม่แรง แต่ เจษฏา จิตสวัสดิ์ กลับสกัดบอลพลาดหลุดไปถึง โคเน่ โมฮัมเหม็ด จับบอลหนีการประกบของ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ แล้วพลิกตัวซัดเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบโคนเสาไม่มีเหลือซาก ให้ "ฉลามชล" นำห่าง 2-0

น.33 เมืองทองฯ ได้ฟรีคิกระยะ 35 หลา พิชิตพงษ์ หลอกไม่ยิงข้ามบอลให้ ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ กดด้วยซ้ายเต็มแรงบอลพุ่งจะเสียบคานบน โกสินทร์ ไม่พลาดบินปัดปลายมือ นาทีต่อมากองเชียร์อุลตร้าเมืองทองได้เฮกันลั่น หัตฐพร สุวรรณ เปิดบอลยาวจากแดนตัวเองข้ามหัว เกียรติประวุฒิ สายแวว ที่ไม่ยอมขึ้นโหม่ง ไปถึง แดนโก้ เซียก้า วิ่งสอดขึ้นมาเอาบอลลงได้สวย ก่อนซัดด้วยขวาในเขตโทษ โกสินทร์ พุ่งปัดแต่ไม่ถึงบอลเข้าไปซุกที่ก้นตาข่ายให้เมืองทองฯ ไล่มา 1-2

น.39 ใบเหลืองแรกของเกมเป็นของ ณัฐพงษ์ สมณะ กองหลังชลบุรีที่ไปหวด ยาย่า จากด้านหลัง น.42 เมืองทองฯ ตีเสมอได้สำเร็จ ยาย่า เปิดมุมด้าานขวาด้วยซ้าย บอลโด่งเข้าไปที่หน้าประตู โกสินทร์ ออกมาตัดบอลช้าไป โดน แดนโก้ เซียก้า ขึ้นโขกตัดหน้าตุงตาข่าย เป็นสกอร์ให้ เมืองทองฯ ตีเสมอ 2-2 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง น.47 ชลบุรีลงมาบุกทันที เอกพันธ์ อินทเสน ตั้งป้อมซัดไกล กวิน ธรรมสัจจานันท์ รับไว้ได้ น.53 สุรัตน์ สุขะ เข้าไปยันไส่ พิเชษฐ อินทร์บาง รับเหลืองอีกคน น.54 พิเชษฐ อินทร์บาง ได้บอลทางขวา ก่อนที่จะจ่ายให้ ยาย่า กระชากเข้าเขตโทษ แล้วไหลให้ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว วิ่งเข้าซัดเต็มข้อ โกสินทร์ บินปัดปลายมือ น.56 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เตะมุมทางซ้าย เปิดโค้งเข้าหัว ณัฐ พร พันธ์ฤทธิ์ กองหลังขึ้นมาสะบัดโขกเต็มแรง บอลเสียบใต้คานอย่างสวยงาม พลิกให้ กิเลนผยอง แซงขึ้นนำ 3-2 น.58 อาทิตย์ สุนทรพิธ ก็ต้องสังเวยใบเหลืองอีกคน จากการทำฟาวล์ ปกาศิต แสนสุข

น.62 กองหลังของชลบุรีก็รั่วอีกครั้ง เมื่อโดน ปกาศิต แสนสุข เปิดบอลยาวจากริมเส้นกราบขวา บอลหลุดเลยไปถึง พิเชษฐ์ อินทร์บาง ทางซ้ายก่อนที่จะยิงผ่านมือ โกสินทร์ ที่พยายามออกมาขวาง เข้าประตูไปเป็นสกอร์ให้ทีมเยือนหนีห่าง 4-2 น.69 หัตฐพร สุวรรณ กองกลางของเมืองทองฯ เตะอาทิตย์ทางด้านหลังรับเหลืองไปอีกราย น.72 ยาย่า ได้บอลตรงเส้น 18 หลา หาจังหวะยิงไม่ได้ ไหลต่อให้ พิชิตพงษ์ ที่เติมขึ้นมา ก่อนแตะบอลออกซ้ายไปถึง หัตฐพร สุวรรณ ที่เติมขึ้นมาคนเดียวจัดการกระดกบอลข้ามตัว โกสินทร์ เสียบเสาสองสวยงาม เป็นสกอร์ให้เมืองทองฯ หนีห่างเป็น 5-2

น.81 เมืองทองฯ เปลี่ยนตัวคนแรก โดยส่งเอา วาเลรี่ เซนู แข้งผิวหมึกลงแทน ยาย่า อีก 5 นาทีต่อมา ก็เปลี่ยนหน้าให้ สุริยา ดอมไธสง แทน พิเชษฐ์ อินทร์บาง น.88 ชลบุรี ที่เกมยังไม่อาจจะเจาะประตูคืนได้เกือบเสียอีก เมื่อเมืองทอง โต้เร็วจาก พิชิตพงษ์ ที่วางบอลให้ วาเลรี่ เซนู หลุดเดี่ยวก่อนกระดกบอลข้ามหัว โกสินทร์ แล้วจะยิงกับเตะบอลวืด เลยโดนกองหลังชลบุรีมาเคลียร์ไปได้

ท้ายเกม ชลบุรีได้ฟรีคิกระยะ 20 หลา อาทิตย์ ซัดได้สวย กวิน ต้องทุบออกมา ชลทิตย์ ตามซ้ำก็โดนกวินปัดออกหลัง ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้าบ้านก่อนจบเกม เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด บุกมาถล่มชลบุรี 5-2 ซึ่งถือเป็นการแพ้มากที่สุดของชลบุรีด้วย โดยเมืองทองฯ คว้าเพิ่มอีก 3 แต้ม ทำให้มี 25 แต้มขึ้นไปเท่ากับ บางกอกกล๊าส แต่ว่าประตูได้เสียดีกว่า ทำให้ขึ้นนั่งจ่าฝูงได้เป็นครั้งแรก

วาทะโค้ช

"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี - ต้องขอบอกว่าเป็นเกมที่แย่มากสำหรับเรา เพราะได้ประตูนำก่อนถึง 2-0 แต่ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ไม่ได้ จุดเปลี่ยนของเกมก็คงจะอยู่ที่ประตูซึ่งเขาไล่มา 1-2 ครึ่งหลังเกมมันเปิดแลก และจังหวะสังหารประตู ของนักเตะเมืองทองฯ เล่นได้ดีกว่าประกอบกับกองหลังเรารั่ว เลยโดนเยอะ อย่างไรก็ตามการแพ้หนนี้ถือว่าไม่เสียหายมาก เพราะเราแข่งน้อยกว่าใครเพื่อนอยู่ 1 แมตซ์

อรรถพล บุษปาคม โค้ช "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด - บอกแล้วว่าเป็นเกมที่สู้กันสนุกแน่ ช่วงที่โดนนำ 2-0 ต้องชมเด็กเราว่ามีสมาธิได้ดี ทำให้เกมเรากลับมาเร็วและตีเสมอได้เร็ว ส่วนครึ่งหลังเราแก้เกมด้วยการเน้นเกมรุกที่รวดเร็ว ซึ่งก็ทำได้ดี อีกอย่างวันนี้เราปิดจุดแข็งของชลบุรีได้ทำให้เกมนี้เราคุมไว้ได้หมด ดีใจมากที่ชนะได้เพราะทำให้เราขึ้นมานำได้เป็นครั้งแรก

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม

ชลบุรี เอฟซี : โกสินทร์ หทัยรัตนกุล 6, สุรีย์ สุขะ 6.5, ณัฐพงษ์ สมณะ 6.5, เกียรติประวุฒิ สายแวว 6, ภานุวัฒน์ จินตะ 5.5 (เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ 5), อาทิตย์ สุนทรพิธ 7, พิภพ อ่อนโม้ 7.5, โคเน่ โมฮัมเหม็ด 7, เอกพันธ์ อินทเสน 6 (แอนเดอร์สัน 5), ชลทิตย์ จันทคาม 6.5, สุรัตน์ สุขะ 7

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 7, ปกาศิต แสนสุข 6.5, เจษฏา จิตสวัสดิ์ 7, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ 7.5, หัตฐพร สุวรรณ 7.5, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ 7, มูซ่า ซีล่า 7, พิเชษฐ อินทร์บาง 7.5 (สุริยา ดอมไธสง-), พิชิตพงษ์ เฉยฉิว 7.5, แดนโก้ เซียก้า 8, ยาย่า 7.5 (วาเลรี่ ซานู-)

แมนออฟเดอะแมตซ์ : แดนโก้ เซียก้า แข้งไอวอรี่โคสต์ผู้ซัด 2 ประตู

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

No comments:

Post a Comment