Monday, May 11, 2009

สุรัตน์ไปแน่!สิ้นพ.ค.นี้บินร่วมทัพเมลเบิร์น

"ปาน" สุรัตน์ สุขะ เตรียมเป็นนักเตะไทยคนแรก ที่จะได้ค้าแข้งในศึก เอลีก ของออสเตรเลีย กับบทีม เมลเบิร์น วิคตอรี่ ด้วยค่าเหนื่อยปีแรกราวเดือนละ 184,166 บาท และหากฟอร์มเข้าตาได้ต่อสัญญาจะเพิ่มให้อีก 1 หมื่นเหรียญในปีต่อไป ส่วนทีม ชลบุรี เอฟซี ได้รับค่าตัว 1,300,000 บาท "เสี่ยนพ" อรรณนพ สิงโตทอง ผจก.ทีม พร้อมหนุนเพื่ออนาคตของนักเต และวงการฟุตบอลไทย ที่จะเปิดตลาดให้รายอื่นๆ ในอนาคต

หลังจากที่หนังสือพิมพ์ สยามกีฬารายวัน ได้มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวนักเตะของทีม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี "ปาน" สุรัตน์ สุขะ แฝดผู้พี่ของ "เปรม" สุรีย์ สุขะ ที่จะเดินทางไปค้าแข้งในเวที เอลีก ของออสเตรเลีย กับทีม เมลเบิร์น วิคตอรี่ โดยเจ้าตัวจะได้รับค่าเหนื่อยราว 2 แสนบาทต่อเดือน

ล่าสุดเมื่อ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา "เสี่ยนพ" อรรณนพ สิงโตทอง ผจก.ทีมชลบุรี ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า "จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ผมเองในฐานะ ผจก.ทีมชลบุรี เอฟซี ยังไม่อยากให้เป็นข่าวออกไป เพราะเกรงว่าทางทีม เมลเบิร์น วิคตอรี่ จะเปลี่ยนใจ"

"แต่ล่าสุดผมเองได้รับการยืนยันมาจากทีมดังในลีกของออสเตรเลีย ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเรา หลังจากที่เคยอยู่ร่วมสายเดียวกันมาในเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก และเราเคยขายนักเตะบราซิลคือ เนย์ ฟาเบียโน่ โอลิเวียร่า ให้กับเขามาแล้ว 1 รายไปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเขายืนยันจะซื้อ สุรัตน์ สุขะ ไปร่วมทีมด้วยอย่างแน่นอน"

"โดยการเซ็นสัญญาจะไปทำกันที่สโมสร เมลเบิร์น วิคตอรี่ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกินเดือน พ.ค. นี้แน่นอน ขณะนี้ สุรัตน์ เหลือเพียงแค่รอการอนุมัติวีซ่าเข้าประเทศจากสถานทูตของออสเตรเลีย เท่านั้น ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรซึ่งเมื่อผ่านกระบวนนี้เสร็จสรรพ ก็พร้อมจะบินไปร่วมทัพกับทีมเมลเบิร์น วิคตอรี่ ทันที"

"จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ทาง เออร์นี่ เมอริค กุนซือของเมลเบิร์น ได้ส่งทีมงานมาดูฟอร์มการเล่นของ สุรัตน์ แล้วถึง 2 รายการ คือไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่ ชลบุรี เอฟซี เตะในบ้าน รวมถึงเกมนัดเยือน ฮานอย แบ็งค์ ที่ทีมชลบุรี เอฟซี บุกไปเอาชนะกลับมาได้ 2-0 ในศึก เอเอฟซี คัพ ซึ่งเขาก็พอใจกับฟอร์มจนตัดสินใจที่จะซื้อไปร่วมทีมด้วย โดยถือเป็นนักเตะไทยรายแรก รวมถึงนักเตะเอเชียรายแรกด้วยที่ทีมเมลเบิร์น วิคตอรี่ จะคว้าตัวไปร่วมทัพด้วย

"ถ้าถามผมว่าเสียดายหรือไม่ยอมรับว่าเสียดาย เพราะปัจจุบัน สุรัตน์ ถือเป็นกำลังหลักสำคัญของทีมในแดนกลางให้กับเรา อีกอย่างเรากลับมาอยู่ในเส้นทางของการลุ้นแชมป์อีกครั้งในฤดูกาลนี้แล้วด้วย แต่เพื่ออนาคตของตัวนักเตะเราก็ต้องพร้อมปล่อยให้เขาไป เพราะมองแล้วสิ่งที่จะได้กลับคืนมานั้น มากซะยิ่งกว่าเงินค่าตัวที่ทีมชลบุรี เอฟซี จะได้รับ รวมถึงที่ตัวสุรัตน์ เองจะได้รับอีกด้วย"

"ซึ่งนั่นก็คือการไปเปิดตลาดให้กับนักเตะไทยใน เอลีก ของออสเตรเลีย หาก สุรัตน์ ไปแล้วพิสูจน์ตัวเองได้ดีอนาคตไม่แน่ เราอาจจะได้เห็นนักเตะจากสโมสรเราเองหรือสโมสรอื่นๆ ในไทยไปเล่น เอลีก ของออสเตรเลีย อีกก็ได้ ไม่ใช่แค่ทีม เมลเบิร์น ทีมเดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นย่อมจะส่งผลดีต่อภาพรวมของวงการฟุตบอลไทยเรา เพราะลีกของออสเตรเลีย นั้นมีความแข็งแกร่งและเป็นลีกอาชีพอย่างแท้จริง"

"เมื่อวีซ่าเสร็จทางคุณธนศักดิ์ สุระประเสริฐ จะเป็นคนเดินทางพา สุรัตน์ ไปดำเนินการเรื่องการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการต่อไป แม้ทีมเราจะต้องเสีย สุรัตน์ ไปแต่เชื่อว่าตัวที่เรามีอยู่อย่าง อดุลย์ หละโสะ, เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ จะทำหน้าที่แทนได้อย่างไร้ปัญหาแน่นอน" ผจก.ทีมฉลามชล กล่าว

สำหรับค่าตัวที่ทีมชลบุรี เอฟซี จะได้รับจากทีมเมลเบิร์น วิคตอรี่ นั้นจะได้ 5 หมื่นดอลลาร์ออสเตรเลีย (อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อ 11 พ.ค. ราว 26 บาท) หรือเป็นเงินไทยราว 1,300,000 บาท ส่วนตัว สุรัตน์ จะได้รับ 85,000 บาทต่อปีหรือราว 2,210,000 บาท ตกต่อเดือนเท่ากับเดือนละ 184,166 บาท

โดยหากปีต่อไปได้รับการต่อสัญญาทีมเมลเบิร์น จะเพิ่มค่าเหนื่อยให้อีกปีละ 1 หมื่นดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับจะได้ต่อปี 2,470,000 บาทหรือราว 205,833 บาทต่อเดือน โดยทีมจะมีเงินค่าขนย้ายสัมภาระต่างๆ หาก สุรัตน์ จะนำลูกและภรรยาไปอยู่ด้วยให้ราว 2 หมื่นเหรียญหรือราว 520,000 บาท

ขณะที่ "เจ้าปาน" ออกมาเปิดเผยว่า "ทราบเรื่องมานานแล้ว และมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถไปโชว์ฟอร์มที่ดีในการเล่นให้กับ เมลเบิร์น แน่นอน โดยก่อนเดินทางคงต้องเน้นเรื่องของฟิตเนสเป็นสำคัญ เนื่องจากการไปเล่นกับผู้เล่นที่รูปร่างสูงใหญ่นั้น สภาพร่างกายจะต้องฟิตพร้อมเต็มที่ โอกาสที่ได้รับครั้งนี้จะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อเป็นการเปิดตลาดให้ กับนักเตะไทยรายอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย"

ด้านความเคลื่อนไหวของทีม "กิเลนผยอง" เมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ของตารางที่เพิ่งเอาชนะทีม พัทยา ยูไนเต็ด มาได้ในศึกลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีก 1-0 ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา มีโปรแกรมอุ่นเครื่องกับทีม "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 14 ของตารางที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมไทยลีกเพราะฝนตกหนักต้องเลื่อนการแข่งขัน

โดยเกมนี้แข่งขันกันที่สนามฟุตบอลธันเดอร์โดม เมืองทองธานี "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม กุนซือใหญ่เมืองทองฯ ส่งผู้เล่นสำรองจากเกมที่แล้วอย่าง สลาฮูดิน อาแว, พิเชษฐ อินทร์บาง และ สุริยา ดอมไธสง พร้อม ยาย่า กับ มุสตาฟา ส่วน แบงค็อก ยูไนเต็ด "โค้ชอ้วก" วรกร วิจารณ์ณรงค์ ผช.โค้ช ส่งทัพใหญ่ทั้ง ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์, กิตติศักดิ์ ศิริแว่น, จิระ เจริญสุข, ปรีชา ชาวกล้า และ ซารีฟ สายนุ้ย ลงเล่น นัดนี้ทีมเมืองทองฯ ได้จำหน่ายตั๋วให้กับแฟนบอลที่เข้าชมในราคา 20 บาท โดยมีแฟนบอลเข้ามาชมเกมกว่า 200 คน

ครึ่งแรกเป็นทีมเมืองทองฯ ที่ทำได้ดีกว่าแค่ น.4 ก็มายิงประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้จากการยิงของ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ จากนั้นผลัดกันรุกรับตลอด น.20 แบงค็อกฯ น่าจะยิงประตูตีเสมอมากที่สุดเมื่อ กิตติศักดิ์ ศิริแว่น หลุดเช็กล้ำเข้าไปยิงจ่อๆแต่ ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ เซฟไว้ได้

น.25 เจ้าบ้านมาหนีเป็น 2-0 จากการยิงสุดสวยของ อนุสรณ์ ศรีชาหลวง ไม่ถึงนาทีผู้มาเยือนน่าจะได้ประตูเหมือนกันจากการโหม่งของ ปรีชา แต่ชนเสาอย่างจัง เมืองทองฯ ยังบุกเยอะกว่า แต่ยิงทิ้งยิงขว้างเอง นาทีสุดท้าย ยาย่า จ่ายทะลุช่องให้ พิเชษฐ์ ได้ยิงเหน่งๆ แต่ยังโดนกองหลังแบงค็อก ส่วนครึ่งหลังเกมยังสนุกสูสี น.75 เมืองทองฯ หนีเป็น 3-0 จาก สุริยา ดอมไธสง แต่ นันทวุฒิ ฝั้นชัยวัง ก็มายิงไล่มาเป็น 1-3 ทำให้จบเกมเมืองทองฯ เอาชนะไป 3-1

หลังเกม "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม กุนซือใหญ่ทีมเมืองทองฯ กล่าวถึงเกมนี้ว่า "เป็นเกมที่ให้โอกาสผู้เล่นที่ไม่ได้ลงเล่นได้เคลื่อนไหวบ้าง ตอนนี้พยายามจะใช้เวลาในการจูนทีมใหม่ให้มาเน้นการเคลื่อนไหวพร้อมกันและ เน้นทีมเวิร์กเป็นหลักคาดว่าจากนี้ 2 อาทิตย์นักเตะตัวสำรองน่าจะสามารถทดแทนหมุนเวียนลงได้บ้าง ส่วนปัญหาเรื่องการจบสกอร์ยังมีปัญหา แต่ตนพยายามปรับให้ดีขึ้นเชื่อว่าน่าจะดีขึ้นในเกมหน้า"

ส่วน "โค้ชอ้วก" วรกร วิจารณ์ณรงค์ ผช.โค้ชแบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวว่า "เกมวันนี้ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง เรายังมีปัญหาเรื่องการยิงประตูเหมือนเดิม จากนี้คงจะเน้นในเรื่องความเข้าใจเกม และการเข้าทำเกมหน้าที่จะโอสถสภาเอ็ม 150 น่าจะทำได้ดีขึ้น"

No comments:

Post a Comment