Monday, May 25, 2009

กิเลนเฉือดปลาทู กระต่ายเจ๊า ฉลามกินนิ่ม ฮัลโหลเกมส์เดือดเชือดหวิว

"กิเลนผยอง" เมืองทองยูไนเต็ด เดินหน้าคว้าอีก 3 แต้ม หลังไปบุกพิฆาติ "แข้งปลาทูคะนอง" สมุทรสงครามถึงถิ่น 1-0 จากการซัลโวประตูชัย ของ "เจ้าโต้ง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว น. 28 ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2552

การแข่งขัน ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 11 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา ลงสนามฟาดแข้งกัน 4 คู่ ผลการแข่งขันมีดังนี้

สมุทรสงคราม เอฟซี 0-1 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด

ที่สนามกีฬากลาง จ.สมุทรสงคราม "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เอฟซี เปิดบ้านรับงานหนัก "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เกมนี้เจ้าบ้านได้ จีระวัฒน์ แก้วโบราณ กองหน้าตัวหลักพ้นโทษแบนกลับมาลงสนาม พร้อม ทรงวุฒิ บัวเพชร ขณะที่เมืองทอง ยังไม่มี ยาย่า ที่เจ็บต้องนั่งสำรอง โดยส่งหน้าเป็น วาเลรี่ เซนู ลงคู่กับ อนุสรณ์ ศรีชาหลวง และมี พิชิตพงษ์ เฉยฉิว คุมเกมแดนกลาง

เริ่มครึ่งแรก สมุทรสงคราม เล่นในบ้านไม่กลัวศักดิ์ศรีทีมใหญ่อย่าง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด น. 3 กิตติ ราช เสนาะ กองหน้าแม่กลองลากบอลเข้าเขตโทษ โดนเจษฏา จิตสวัสดิ์ เข้ามาชนล้มกลิ้ง แต่ผู้ตัดสิน ชัยยะ มหาปราบ ไม่ได้ว่าอะไร น.10 เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เริ่มตั้งเกมได้ใช้การเจาะตามช่อง โดยพิชิตพงษ์ เฉยฉิว ไหลบอลให้ อนุสรณ์ ศรีชาหลวง ได้ซัดระยะ 20 หลา บอลออกข้าง น.14 สมุทรสงครามได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกระยะ 35 หลา แต่ว่า อภินันท์ แก้วปีลา ซัดแรงบอลแฉลบกำแพงก่อนจะชนโคนเสาอย่างจัง น.21 เมืองทองฯ มีโอกาสอีกครั้ง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ไหลให้ วาลารี่ เซนู ทางซ้าย แต่เจ้าตัวยิงขุดดินแบบไม่มีลุ้น น.28 ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ได้บอลบริเวณกรอบ 18 หลา ทำท่าจะเปิดบอลไปทางซ้าย แต่หักกลับทะลุช่องไปทางขวาที่มี พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เติมขึ้นมาซัดเต็มข้อบอลแฉลบ เอกศักดิ์ บัวเบา กองหลังสมุทรสงคราม มุดเข้าไปนอนก้นตาข่ายอย่างสวยงาม ทำให้เมืองทองฯ ออกนำ 1-0 น.37 โรเบิร์ต โปรคูเร่อร์ ผจก.ทีมของเมืองทองฯ ออกไปโวยวายผู้ช่วยผู้ตัดสิน สุรชัย กุหลาบ ที่ยกธงให้ เซียก้า ฟาวล์ในจังหวะเข้าแย่งบอ กัณตภณ สมพิทยานุรักษ์ จากด้านหลัง ผู้ตัดสิน ชัยยะ มหาปราบ ต้องมาเตือนให้อยู่ในความสงบ น.43 เจษฏา จิตสวัสดิ์ กองหลังเมืองทองโดนเหลืองเป็นคนแรก เมื่อไปสกัด คะนึง บุราณสุข ในจังหวะที่จะลากบอลเข้าเขตโทษ สมุทรสงครามได้ฟรีคิกเยื้องไปทางซ้าย อรรถนพ ชัยแป้น ตั้งใจยิงเสาแรก บอลโดนมือ พิชิตพงษ์ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้จุดโทษ ทำให้ สมุทรสงคราม ได้เตะมุมทางขวา คะนึง บุราณสุข เปิดเสาแรก จีระวัฒน์ แก้วโบราณ โหม่งเช็ดบอลไปโดนมือ วิศรุต พันนาสี คราวนี้ ชัยยะ มหาปราบ ไม่ลังเลชี้เป็นจุดโทษให้แม่กลองทันที โดย ทรงวุฒิ บัวเพชร กัปตันทีมสังหารเอง แต่กลับยิงเบาเกินไป กวิน ธรรมสัจานันท์ พุ่งปัดก่อนที่จะตามตะคุบไว้ได้ ทำให้ ปลาทูคะนอง พลาดโอกาสทองที่จะตีเสมอได้อย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรก เมืองทองฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0

ครึ่งหลัง น.55 แข้งกิเลนผยองที่เน้นเกมรับ ได้โอกาสสวนจาก มูซ่า ซีล่า ตัดบอลกลางสนามให้ไหลให้ แดนโก้ เซียก้า ซัดตามน้ำ บอลเหินโด่งข้ามคาน น.57 อนุสรณ์ ศรีชาหลวง กองหน้าความเร็วสูงของเมืองทองฯ กระชากบอลขึ้นทางขวาซัดเสาแรกบอลออกข้าง ก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นตะคริวต้องส่ง สุริยา ดอมไธสง ลงเล่นแทน น.68 แม่กลองได้เตะมุมทางขวา คะนึง บุราณสุข เปิดได้ดี อรรถนพ ชัยแป้น วิ่งเข้าหวด แต่ไม่เต็มเท้า บอลเข้ามือ กวิน ธรรมสัจจานันท์ น.72 เมืองทองฯ ได้ฟรีคิกทางสุดริมเส้นด้านขวา วิศรุต พันนาสี เปิดติดกำแพงก่อนซ้ำบอลโด่งจะเสียบคานบน ทศพร ศรีเรือง ต้องปัดทิ้ง น.74 ปลาทูคะนอง ได้โอกาสบ้าง จากลูกตั้งเตะเกือบ 35 หลา คะนึง บุราณสุข ปั่นเข้าไปที่กลางประตู เทวา พรมมา โฉบเข้าโหม่งเช็ดจะเปลี่ยนทางแต่บอลออกข้าง น.79 เจ้าบ้านเกือบจะได้เฮอีก จากลูกฟรีคิกในแดนตัวเอง สุขสยาม ชาญมณีเวช เปิดยาวจะให้ มิเชล แต่ว่าไม่เล่นบอลปล่อยให้ เทวา พรมมา ได้บอลหลุดเดี่ยว แต่กลับซัดออกข้างเฉย น.82 สมุทรสงครามเตะมุมทางซ้าย คราวนี้ให้ อรรถนพ ชัยแป้น เปิดเข้าหัว เทวา ขวิดเต็มกบาลแต่ตรงตัว กวิน ธรรมสัจจานันท์ที่คว้าติดมือ น.88 มูซ่า ซีล่า กระชากจากกลางสนาม ก่อนซัดนอกเขตโทษ บอลข้ามคาน น.92 เจ้าบ้านโหมหนักและได้เตะมุมทางขวา คะนึง เปิดเสาแรก ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ โกขสกัดมาเข้าทาง ยาย่า อาศัยความสามารถกระชากริมเส้นด้านซ้าย ก่อนเปิดให้ สุริยา ดอมไธสง ที่ยืนว่างอยู่ตรงกลาง สุริยา พยายามจะชิพบอล แต่ไม่ข้ามมือ ทศพร ศรีเรือง ที่ออกมาปิดมุมได้ดี จบเกม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด บุกมาชนะ สมุทรสงคราม เอฟซี 1-0

วาทะโค้ช

สมชาย ชวยบุญชม กุนซือสมุทรสงคราม – เป็นเกมที่เราเล่นได้ดีอีกนัด ทั้งที่ตัวผู้เล่นไม่สมบูรณ์มากนัก เพราะตัวหลักหลายคนเป็นไข้อีสุกอีใส อีกทั้ง คะนึง บุราณสุข ก็ติดสอบทำให้มาช้า เกมช่วงแรกเราเลยกดดันเขาไม่ได้มากนัก อีกอย่างเรามีโอกาสจากจุดโทษแล้ว แต่ทรงวุฒิ เขามั่นใจมาก เลยขอไปยิง ก็ไม่โทษกันเพียงแต่เสียดายเท่านั้นเกมน่าจะเสมอ ยังไงแมตซ์หน้าเราจะเต็มทีมน่าจะกลับมาชนะได้อีก

อรรถพล บุษปาคม โค้ชของเมืองทอง – เกมนี้ครึ่งแรกต้องชมนักเตะทุกคนว่าทำเกมรุกมีประสิทธิภาพมาก เรากดดันเ ขาได้ตลอดและมีโอกาสในการทำประตูจนได้สกอร์ขึ้นนำ ส่วนครึ่งหลังยอมรับว่าแม่กลองมาดีกว่า ทำให้เราเน้นรับ ประสิทธิภาพในเกมรุกเลยหายไป ยังดีที่ช่วงท้ายเราดีขึ้นอีกแต่ก็ยิงประตูที่สองไม่ได้ ถือว่า 3 แต้มมีค่ามากเพราะเป็นนัดมาเยือนด้วย

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม

สมุทรสงคราม : ทศพร ศรีเรือง 7, อภินันท์ แก้วปีลา 6.5 (เทวา พรมมา 5), ทรงวุฒิ บัวเพชร 6.5, พัชรินทร์ สุกใส 6, จีระวัฒน์ แก้วโบราณ 7, กิตติราช เสนาะ 5 (คะนึง บุราณสุข 6), กัณตภณ สมพิทยานุรักษ์ 6.5, ปฏิภัทร รอบรู้ 6 (อรรถนพ ชัยแป้น 6), มิเชล 6, เอกศักดิ์ บัวเบา 7, สุขสยาม ชาญมณีเวช 7

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 7, ปกาศิต แสนสุข 7, เจษฏา จิตสวัสดิ์ 6.5, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ 7, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ 7 (สลาฮูดิน อาแว-),วาเลรี่ เซนู 6 (ยาย่า5),มูซ่า เซียล่า 6.5, วิศรุต พันนาสี 7, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว 7.5, อนุสรณ์ ศรีชาหลวง 6.5 (สุริยา ดอมไธสง 5), แดนโก้ เซียก้า6

แมนออฟเดอะแมตซ์ : พิชิตพงษ์ เฉยฉิว กองกลางตัวทำประตูของเมืองทอง ยูไนเต็ด

บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-1 การท่าเรือไทย เอฟซี

ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 เจ้าบ้าน "เดอะกล๊าสแร๊บบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี จ่าฝูง มี 24 แต้มจาก 10 นัด เปิดรังรับการมาเยือนของ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือฯ ไทย อันดับ 5 ลงสนาม 9 นัดมี 14 แต้ม นัดนี้เจ้าบ้านส่งชุดใหญ่ ทั้ง นันทวัฒน์ แทนโสภา, อนาวิน จูจีน,อำนาจ แก้วเขียว, พลวัฒน์ วังฆะฮาด แต่ขาด รุ่งโรจน์ สว่างศรี, พีรพงษ์ พิชิตโชติรัตน์ ที่ติดโทษแบน ส่วน การท่าเรือฯ ให้ พิพัฒน์ ต้นกันยา, จีรวัฒน์ มัครมย์,นิรุตน์ คำสวัสดิ์ เป็นตัวหลัก โดยเกมนี้มี ผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอลทั้ง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานจัดการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก, ปีเตอร์ รีด กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย และมือขวา สตีฟ ดาบี้ เข้ามาชมเกมด้วย เริ่มครึ่งแรก น.20 บางกอกกล๊าส ได้ลุ้นก่อน อนนท์ บุญสุโข เปิดบอลยาวครึ่งสนามให้ นันทวัฒน์ แทนโสภา หลุดแผงหลังของ การท่าเรือฯ ไปซัดตรงกรอบเขตโทษด้านขวา แต่บอลพุ่งออกเสาสองไปแบบมีลุ้น น.28 นันทวัฒน์ แทนโสภา ได้จังหวะตั้งป้อมซัดตรงกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงตรงตัว ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ ต้องชกออกหลังไป น.30 พิพัฒน์ ต้นกันยา เปิดบอลจากด้านข้างให้ จีรวัฒน์ มัคครมย์ ก่อนเจ้าตัวแทงบอลต่อให้ นิรุตน์ คำสวัสดิ์ ซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลออกข้างเสาแรกไป น.31 การท่าเรือไทย ได้ฟรีคิกระยะ 30 หลา จีระวัฒน์ มัคครมย์ ห้องเครื่องที่ซัดประตูจากฟรีคิกไปแล้ว 3 เม็ด รับหน้าที่ปั้น บอลพุ่งจะเสียบคาน แต่ กฤษณะ กลั่นกลิ่น พุ่งปัดไว้ได้

น.37 สิงห์เจ้าท่า โต้กลับ พิพัฒน์ ต้นกันยา กระชากบอลเข้าหากองหลัง บางกอกกกล๊าส ก่อนไหลให้ นิรุตน์ คำสวัสดิ์ ด้านขวา เจ้าตัวแตะบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดเต็มข้อเสียบเสาสอง ไม่เหลือ ทำให้ทีมเยือนออกนำ 1-0 งานนี้ นิรุตน์ ดีใจหนักไปหน่อย วิ่งดึงเสื้อขึ้นมาปิดหน้า ผู้ตัดสินเลยควักใบเหลืองแจกฉลองการทำประตูด้วย น.44 อนาวิน จูจีน ของบางกอกกล๊าส เปิดบอลจากริมกรอบเขตโทษด้านขวาให้ นันทวัฒน์ แทนโสภา โหม่งที่เสาสองแต่แป๊กออกหลังไป จากนั้นอีกนาทีเดียว นิรุตน์ คำสวัสดิ์ ได้ซัดฟรีคิกระย 35 หลาบอลพุ่งจะเข้ากรอบกฤษณะ กลั่นกลิ่น เซฟไว้ได้ โดยเป็น อิทธิพล นนท์ศิริ กองหลัง การท่าเรือฯ ที่เติมมาสูง พุ่งเข้าชาร์จผู้รักษาประตูอีก ทำให้ผู้ตัดสินควักใบเหลืองแจกอีกราย หมดครึ่งแรก การท่าเรือฯ บุกมานำ บางกอกกล๊าส 1-0

ครึ่งหลัง น.48 การท่าเรือฯ ได้ฟรีคิกทางริมเส้นด้านขวา จีรวัฒน์ มัคครมย์ เปิดเข้าไป เป็นดาริโอ ดาซิลวา โหม่งเต็มหัว แต่บอลข้ามคานอย่างน่าเสียดาย ถัดมาอีกนาทีเดียว บางกอกกล๊าส เกือบได้บ้างเมื่อ พลวัฒน์ วังฮะฆาด กระชากถึงเส้นหลัง ก่อนหักเข้ากลางให้ อาจายี่ แปรเน้นๆ บอลจะเสียบเสาแรกแต่ ภัทรกร ยังพุ่งปัดไว้ได้ แต่การท่าเรือฯ ก็ไม่รอด จากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุม ศุภชัย คมศิลป์ เปิดเตะมุมด้านขวา ด้วยเท้าซ้ายเข้ามากลางถึงหัว อำนาจ แก้วเขียว กัปตันทีมบางกอกกล๊าส ที่ดันมาสูงโหม่งตรงกรอบ 6 หลาเสาสอง บอลย้อนศรเสียบคานเสาแรกสุดสวย บอลกลับมาสกอร์เท่ากัน 1-1 น.54 ไกรเกียรติ เบียดตะคุ ของบางกอกกล๊าส โดนเหลืออย่างไม่น่าเสีย เมื่อ เจ้าตัวตัดบอลจาก นิรุตน์ คำสวัสดิ์ ได้ก่อนจะเล่นบอลต่อ แต่โดน นิรุตน์ กระแทกจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินดันไม่ยอมเป่าฟาล์วจน การท่าเรือฯ ตัดบอลไปได้ทำให้ เจ้าตัวไปโวยวายผู้ตัดสิน สุดท้ายเลยโดนเหลือไประงับอารมณ์ น.59 บางกอกกล๊าส กมดีขึ้นผิดหูผิดตา อาจายี่ โชว์สเต๊ปเทพ กระชากบอลริมเส้นด้านซ้ายหลอก 2 กองหลัง การท่าเรือฯ ก่อนเข้าไปยิงจ่อๆ ติดตัว ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ และเด้งมาเข้ามือ ภัทรกร อีกครั้ง ถัดมาอีกนาทีเดียว บางกอกกล๊าส ถอด เนสสัน มาติน แล้วให้ สุรเชษฐ์ งามทิพย์ ลงเล่นแทน ซึ่งถือว่าเป็นนักเตะน้อยที่สุดในสนามแค่ 18 ปีเท่านั้น

น.74 อำนาจ แก้วเขียว พุ่งเข้าเคลียร์บอลก่อนที่ เจษฎา ภู่เล็ก จะถึงบอล ทำให้เกิดการปะทะกัน แต่ทาง มาริโอ ดาซิลวา กองหลังของทีม การท่าเรือฯ ดันไม่พอใจ เข้ามาผลักจะเอาเรื่อง ทำให้ กฤษณะ กลั่นกลิ่น ของบางกอกกล๊าส เข้าไปผลักด้วย ทำให้ผู้ตัดสินแจกเหลืองไปทั้งคู่ จากนั้น ผู้ตัดสินแจกสุเชษฐ์ งามทิพย์ ของบางกอกกล๊าส ที่ไปฟาล์ว ผู้เล่นการท่าเรือฯ ด้วย น.82 นิรุตน์ คำสวัสดิ์ หัวหอกการท่าเรือไทยฯ ถึงกับเป็นตะคริว ทำให้ต้องส่งเอ็ดวานโด้ลงสนามแทน ขณะที่บางกอกกล๊าส ส่ง อนาวิน จูจีน ออกแล้วให้ ศรัณย์ พรหมแก้ว ลงสนาม และชาตรี ฉิมทะเล ลงแทน ซามูเอล อาจายี่

ท้ายเกม บางกอกกล๊าส น่าจะได้ประตูชัย จากจังหวะที่ ศุภชัย คมศิลป์ เปิดฟรีคิกจากระยะ 30 หลาด้านขวาของกรอบเขตโทษ บอลพุ่งชนเสาสองอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบเกมเสมอกันสุดมันส์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม

วาทะโค้ช

ฮาน เอ็มเซอร์ บางกอกกล๊าส เอฟซี - เกมนี้บอกตรงๆ ไม่เคยเจอผู้ตัดสินที่แย่แบบนี้มาก่อน ตั้งแต่แข่งขันในศึกไทยลีก ทำให้เกมเราแย่ไปหมด แต่ก็ยอมรับว่าครึ่งแรกด้วยแทคติดที่ไม่ลงตัว ทำให้ทีมไม่ดีแต่ยังดีที่ครึ่งหลังปรับแต่งลงไปใหม่ ทีมเลยดีขึ้น แต่ไม่เป็นไรเส้นทางลุ้นแชมป์อีกยาวไกล คงต้องทำให้ดีกว่านี้

สะสม พบประเสริฐ การท่าเรือไทยเอฟซี - โอเคเราน่าชนะ เพราะเรามาพลาดแค่ลูกตีเสมอแค่ลูกเดียวเท่านั้นเชื่อว่าจากนี้ฟอร์มนักเตะจะ ดีขึ้นเรื่อยๆ และถ้าดูจากตารางคะแนน เชื่อว่าเรามีลุ้นแชมป์แน่นอน

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม

บางกอกกล๊าส เอฟซี. กฤษณะ กลั่นกลิ่น 7, พลวัฒน์ วังฆะฮาด 7.5, ไกรเกียรติ เบียดตะคุ 7, อำนาจ แก้วเขียว 8, อนนท์ บุญสุโข 7.5, ซามูเอล อาจายี่ 6.5 (ชาตรี ฉิมทะเล-), เนลสัน มาติน 6 (สุรเชษฐ์ งามทิพย์ 5.5 ), อนาวิน จูจีน 6.5 (ศรัณย์ พรหมแก้ว 5.5 ), ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ 7, ศุภชัย คมศิลป์ 7.5, นันทวัฒน์ แทนโสภา 7

การท่าเรือไทย เอฟซี ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ 7.5, บุญมี บุญรอด 7, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ 7, พิพัฒน์ ต้นกันยา 6 (เจษฎา ภู่เล็ก 5.5), จีระวัฒน์ มัครมย์ 7, นิรุตน์ คำสวัสดิ์ 7 (เอ็ดวานโด้-), มาริโอ ดาซิลวา 7, กิตติศักดิ์ ธนะสุวรรณ 7, เกียรติเจริญ เรืองปาน 7.5, อิทธิพล นนท์ศิริ 7.5, ยุทธนา ไชยแก้ว 6 (ณรงค์ฤทธิ์ สามนปาน 6)

แมนออฟเดอะแมตช์ อำนาจ แก้วเขียว กัปตันทีมบางกอกกล๊าส ผู้โขกประตูตีเสมอให้ทีม

ทีโอที เอฟซี 2-1 ราชนาวีระยอง

ที่สนามกีฬาจ.กาญจนบุรี (กลีบบัว) "ฮัลโหล" ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 9 เปิดบ้านรับมือ ราชนาวีระยอง อันดับ 14 เกมนี้เจ้าถิ่น ทีโอที เอฟซี นำทัพโดย สุเชาว์ นุชนุ่ม, กิตติพงศ์ มูลพงษ์, สิทธิศักดิ์ ตาระพันธ์ รวมถึง 2 แข้งผิวสี เคาดิโอ พาสคาล และ โคเน่ เซดู กองกลางและหลัง ด้านทีมเยือนที่นัดนี้ไร้เงากุนซือใหญ่ น.ท.สุขสันต์ คุณสุทธิ์ เนื่องจากเจ้าตัวติดภารกิจเดินทางไปร่วมศึกฟุตบอลอาวุโสชิงแชมป์โลก โดยมีสตาฟฟ์โค้ช น.ท.เอกรัตน์ ทรัพย์สิน มาคุมทัพแทน

เริ่มครึ่งแรกท่ามกลางสภาพสนามที่แฉะลื่น เพราะฝนเทลงมาก่อนเกมจะเริ่มราว 1 ชั่วโมง เพียงไม่ถึงนาที สุเชาว์ นุชนุ่ม เกือบจะได้หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน ของทีมเยือนอยู่แล้วดีที่ พัฒนพงษ์ เซี่ยมผุง มาเบรคเกมไว้ได้ก่อนบอลจะไปเข้ามือสิทธิพงษ์ น. 5 โอกาสเป็นของทีมเยือนบ้างจากการหลุดไปซัดของ สมเจร สัตบุษ แต่ไปติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่นราชนาวีระยองออกมา น. 8 กองเชียร์เจ้าถิ่นเกือบได้เฮเมื่อ ไกรสรณ์ ศรียันต์ หลุดเข้าไปซัดบอลแฉลบกองหลังทีมเยือน สุระเดช เสาไธสง ทำท่าจะย้อยเสียบใต้คาน แต่บอลชนคานกระดอนออกมาเข้าทางปืน กิตติพงศ์ มูลพงศ์ ชาร์ตเหน่งๆ ข้ามคานไปอีก น. 16 ทีมเยือนฟรีคิก พัฒน์พงษ์ เซี่ยมผุง ปั่นเข้าไปโดน เคาดิโอ พาสคาล กองกลางเจ้าถิ่น สกัดไม่ดีบอลเกือบปลิ้นไปถึง เฟดเดอริค อดัม ดีที่ กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ ตามตระครุบไว้ได้ น. 20 โคเน่ เซดู กองหลัง ทีโอที ดึงสมเจต ล้มลงราชนาวีระยองได้ฟรีคิกระยะ 30 กว่าหลา มารุต ดอกมะลิป่า ซัดไปติดกำแพงไม่มีลุ้นอะไร น. 27 ทีโอที ที่แม้จะเดินเกมรุกได้วูบวาบกว่าแต่ปัญหาก็คือการจบสกอร์ที่ทำได้ไม่เฉียบคม พลาดโอกาสนำไปอีกครั้งเมื่อ รัฐศักดิ์ บุญรัตน์ กระชากหนีศรายุทธ เขียวแพร ก่อนเปิดไปติดแนวรับราชนาวีระยองโขกทิ้งออกมาเข้าทาง สุเชาว์ นุชนุ่ม ชาร์ตซ้ำเหน่งๆ ไม่ผ่านมือ สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน

น. 34 ทีโอที ได้เตะมุม ธีรชัย งามเจริญ เปิดเตะมุมขวาเข้าในเขตโทษบอลตกใส่ ศรายุทธ เขียวแพร แนวรับทีมเยือนก่อนจะโดน เคาดิโอ พาสคาล หลุดไปยิงเผาขนแต่นักเตะชาวไอวอรี่โคสต์ รายนี้ยิงหลุดกรอบไปแบบไม่น่าเชือ น. 38 เคาดิโอ พาสคาลทำแฟนบอลเจ้าถิ่นเซ็ง เมื่อกระชากหนีศรายุทธ เขียวแพร ไปได้ถึงในเขตโทษเกือบจะสุดเส้นหลัง แล้วตัดสินใจยิงยัดเอง บอลเลยออกหลังไปแบบน่าผิดหวัง

น. 43 สุระเดช เสาไธสง สกัดบอลพลาด เป็นลูกส้มหล่นให้ ไกรสรณ์ ศรียันต์ แต่เจ้าตัวรีบซัดไปหน่อย บอลหลุดเสาสองออกหลังไปแบบน่าผิดหวัง หมดครึ่งแรกยังเสมอกัน แบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง น. 52 สุเชาว์ นุชนุ่ม เตะมุมซ้ายโคเน่ เซดู โขกเช็ดบอลผ่านหน้า สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน นายทวารราชนาวีระยองไปจะถึง กิตติพงศ์ มูลพงษ์ ตัดสินใจจะเจตนาใช้มือทำเข้าประตูผู้ตัดสิน สานิตย์ สุขสมดาว ให้ ใบเหลืองเป็นรางวัลไป น.65 สุเชาว์ นุชนุ่ม เปิดฟรีคิกไปเข้าหัว ไกรสรณ์ ศรียันต์ โขกเข็ดเข้าไปอย่างสวยงาม ทีโอที ออกนำ 1-0 น. 67 ดีใจได้แค่ 2 นาทีกองเชียร์ ทีโอที ก็ต้องเซ็งเมื่อ แนวรับ ทีโอที 2 คนอย่าง ดุรงฤทธิ์ ศรีลา กับ โคเน่ เซดู พลาดปล่อยให้ รัฐพร แซ่ตั๋นหลุดเข้าไปซัดเสียบเสาสองไม่เหลือซากสกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1

น. 89 สองทีมหวิดมีเรื่องกันในสนามหลังจากเตะติดดาบกันมาตลอดหลังสกอร์มาอยู่ที่ 1-1 แต่ไม่มีอะไรบานปลาย น. 92 ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 ของเกมนี้กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นสนามพร้อมกับมีเสียงตะโกนด่าทอผู้ ตัดสินมาจากฝั่งกองเชียร์ราชนาวีระยอง ที่มากับกระป๋องเบียร์จากอัฒจรรย์ ทำเอาเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารที่ดูแลควาปลอดภัยต้องขึ้นไปเชิญตัวออกจากสนาม หลังจากที่ผู้ตัดสิน สานิตย์ สุขสมดาว เป่าให้ ทีโอที ได้จุดโทษจากการทำแฮนด์บอลของ เสกสันต์ ชาวทองหลาง ในจังหวะขึ้นโขกกับ สุเชาว์ นุชนุ่ม เจอดอกนี้เข้าไป ทำเอานักเตะ "ตะหานน้ำ" ถึงกับเดือดจัด พากันเดินออกจากสนามเป็นเวลาถึง 5 นาทีก่อนตัดสินใจมาเล่นต่อไปและเป็น สุเชาว์ นุชนุ่ม ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไป

น. 99 หวิดมีการฟาดปากกันอีกครั้งหลังจาก กีรติ เขียวสมบัติ โดนทำฟาวล์แล้วรัฐศักดิ์ บุญญรัตน์ เดือดแทนเพื่อนจะไปเอาเรื่องนักเตะราชนาวีระยองผู้ตัดสินต้องห้ามทัพอีก ครั้ง โดยจังหวะนี้มีขาดน้ำลอยเข้าไปในสนามจากแฟนบอลอีกครั้งพร้อมกับมีป้ายของกอง เชียร์ราชนาวีระยองชูขึ้นมาด้วยว่า "มาตรฐานบอลไทยอยู่ที่กรรมการ" ก่อนที่ผู้ตัดสินจะปล่อยให้เกมดำเนินไปกว่าเวลาปกติถึง 15 นาที จึงเป่าจบเกม

หลังจบเกมมารุต ดอกมะลิป่า กับ เสกสันต์ ชาวทองหลางไม่พอใจผู้ตัดสินจะเข้ามาเอาเรื่อง แต่เพื่อนร่วมทีมรวมถึงเจ้าหน้าที่ทีมราชนาวีระยอง มาห้ามไว้ได้จบเกมทีโอที เฉือนชนะไปได้หวุดหวิด 2-1 ชนิดเกมดุเดือด

วาทะโค้ช

พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ กุนซือ ทีโอที เอฟซี - ราโชคดีมากกว่าที่เก็บ 3 แต้มในเกมนี้โดยเฉพาะการได้จุดโทษช่วงท้ายเกม แม้จะเป็นลูกโทษปัญหาก็ตามแต่ก็เป็นการตัดสินใจของผู้ตัดสิน ซึ่งเกมนี้ผลน่าจะลงเอยด้วยการเสมอกันมากกว่าพอใจครับกับ 3 แต้มทำให้อันดับเราดีขึ้น

เอกรัตน์ ทรัพย์สิน ผช.โค้ช ทีมราชนาวีระยอง - ทีมเรามักโดนแบบนี้เป็นประจำเลยทีเดียวโดยเฉพาะเกมนัดเยือนจริงแล้วเกมสู้ กันได้สนุกทีเดียวหลายครั้ง เราได้ทำหนังสือไปยังสมาคมฟุตบอลแต่ไม่มีอะไรกลับมาเกมนี้เราแพ้ก็เพราะผู้ ตัดสินที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ ผมอยากจะฝากไปถึง บ.ไทยพรีเมียร์ลีกด้วยว่าอย่ารังแกทีมเล็กเป็นอันขาดไม่เช่นนั้นอีกหน่อยคง ไม่มีแฟนบอลเข้าไปดูแน่หากยังปล่อยให้ผู้ตัดสินเป็นแบบนี้

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

ทีโอที เอฟซี : กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ 6, รัฐศักดิ์ บุญญรัตน์ 6, ดุรงฤทธิ์ ศรีลา 6, เคาดิโอ พาสคาล 6, สุเชาว์ นุชนุ่ม 7, สิทธิศักดิ์ ตาระพันธ์ 6 (กีรติ เขียวสมบัติ 6) ( สมรชัย พลายงาม - ), กิตติพงษ์ มูลพงศ์ 6 ( กิตติภัทร วงศ์สมบัติ 5.5 ), ธีรชัย งามเจริญ 6, รัตนะ เพ็ชอาภรณ์ 6, โคเน่ เซดู 6, ไกรสรณ์ ศรียันต์ 6.5

ราชนาวีระยอง : สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน 6, ศรายุทธ เขียวแพร 6, สุระเดช เสาไธสง 6, แฟดเดอริค อดัม 6 ( ดนุสรณ์ ผุยแสงพันธ์ 6), ใหญ่ นิลวงษ์ 6 (สุทธินันท์ นนที 6), สมเจตร สัตบุษ 6, เสกสันต์ ชาวทองหลาง 6, มารุต ดอกมะลิป่า 6, ศุภชัย ขำทรัพย์ 6, รัฐพร แซ่ตั๋น 6, พัฒน์พงษ์ เซี่ยมผุง 6 (อุดร พิมพ์ภาค 6)

แมนออฟเดอะแมตซ์ : สุเชาว์ นุชนุ่ม ปีกขวาตัวเก่งทีโอที เอฟซี

ชลบุรี เอฟซี 3-0 นครปฐม เอฟซี

ที่สนามสิรินธร อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าบ้าน "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 2 ของตารางที่มีอยู่ 20 แต้ม เปิดบ้านพบ "นักสู้เจดีย์ใหญ่" นครปฐม ทีมอันดับ 6 มีอยู่ 13 แต้ม เกมนี้เจ้าบ้านยังมีตัวหลักลงครบครันนำโดย สุรีย์-สุรัตน์ สุขะ,อาทิตย์ สุนทรพิชและ โคเน่ โมฮาเหม็ด ส่วนผู้มาเยือนมี ไมเคิล เบิร์น, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ และ ประหยัด บุญญา นำทัพ

เริ่มครึ่งแรก น.4 เจ้าบ้านก็มีโอกาสทักทายก่อน สุรีย์ เปิดบอลจากริมเส้นขวามาให้ โคเน่ ได้โหม่งที่กลางประตูบอลหลุดสามเหลี่ยมแค่คืบ น.6 เอกพันธ์ ลากเข้าไปถึงเส้นหลัง ก่อนไหลมาหน้าประตู พิภพ ได้ยิงเหน่งๆ แต่ไม่ดี น.7 เจ้าบ้านยังบุกต่อเนื่อง และมีลุ้นจากฟรีคิกริมกรอบประตู 18 หลาฝั่งขวา อาทิตย์ ปั่นโค้งชนเสาแรกอย่างจัง น.9 อดิศร แดงเรือง เข้าสกัดข้างหลัง โคเน่ รับเหลืองเป็นคนแรกของเกม น.13 ผู้มาเยือนได้ลุ้นบ้างเมื่อ วิมล คืนหลังให้ ไมเคิล เบิร์น ซัดนอกกรอบบอลพุ่งเข้าหากรอบ แต่ โกสินทร์ ยังรับเข้าซอง น.15 ชลบุรี ได้โต้เร็วบ้าง สุรัตน์ เปิดโด่งมาหน้าประตู โคเน่ โหม่งเต็มกบาลบอลจะมุดคานอยู่แล้วแต่ มานะ ยังลอยไปปัดข้ามคานไปได้ น.19 กองเชียร์เจ้าบ้านได้เฮลั่นเมื่อ อาทิตย์ จ่ายถวายพานให้ โคเน่ หลุดเช็คล้ำหน้าเข้าไปยิงให้ชลบุรีขึ้นนำ 1-0 น.27 ชลบุรีได้เตะมุม อาทิตย์ เปิดมาหน้าประตู สุรีย์ ขึ้นปะทะกับ ริจินัลโด้ ถึงกับแตกต้องหยุดปฐมพยาบาลชั่วคราวทำให้ สุรีย์ มีแผลแตกที่โหนกแก้มขวาต้องส่ง เจษฎากร เหมแดง ลงเล่นแทน น. 39 ชลบุรีได้ลูกเตะมุมอีกครั้ง อาทิตย์ เปิดมาเสาสอง โยชิอากิ โหม่งขงเข้ามาหน้าประตู โคเน่ โหม่งซ้ำไปโดนแขน วุฒิศักดิ์ ตรงหน้าประตูบอลปลิ้นออกไป ลูกนี้ผู้ตัดสินให้แค่เตะมุมทำให้นักเตะชลบุรีรุมประท้วงจะเอาลูกจุดโทษแต่ ก็ไม่เป็นผลได้แค่ลูกเตะมุมเท่านั้น

น.43 ผู้มาเยือนได้ลุ้นบ้างเมื่อได้ฟรีคิกริมเส้น นนทพันธ์ เปิดไปที่เสาสอง วุฒิศักดิ์ ได้โหม่งโล่งๆ แต่โหม่งไม่ดี โด่งออกหลังไป หมดครึ่งแรก ชลบุรีนำ 1-0

ครึ่งหลัง น.46 เจ้าบ้านก็ได้เฮกันลั่น พิภพ หลุดเข้าไปลากหลบ 2 กองหลัง นครปฐม เข้าไปยิงเหน่งๆ ไม่เหลือซากสกอร์เจ้าบ้านขยับ 2-0 น.52 เจ้าบ้านยังไล่ขย่มอยู่ฝ่ายเดียวและมีโอกาสลุ้นขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ พิภพ หลุดเข้าไปดวลกับ มานะ แต่ลูกนี้ พิภพ ยิงไม่ดีพอติดมือโกล์นครปฐม น.60 พิภพ ยังคงโดดเด่นมีโอกาสหลุดเข้าไปดวลกับ มานะ อีกครั้งแต่ยังยิงไม่ดีพอตรงตัว มานะ เซฟไว้ได้ทัน น.64 อาทิตย์ เล่นบอลยาวตักโด่งไปริมเส้นซ้าย ณัฐพงษ์ เติมมาสวยก่อนตะบันด้วยซ้ายบอลหลุดเสาแค่คืบเดียว น.66 นครปฐมได้โต้กลับเร็ว เอกภูมิ ได้ซัดหน้ากรอบแต่ยังโด่งออกไป น.75 ไมเคิล เบิร์น ลากหลบสองนักเตะเจ้าถิ่นก่อนชิ่งให้ อดิศร แล้วไหลต่อให้ ริจินัลโด้ ได้ยิงแต่ยังหลุดกรอบไกล น.83 ชลบุรียังร้อนแรงไม่เลิกได้ลูกเตะมุม อาทิตย์ เปิดมาเสาแรก มารุยาม่า โถมขึ้นมาโหม่งเต็มหัวให้ชลบุรีนำ 3-0

ช่วงท้ายเกม นครปฐม พยายามทำเกมบุกสู้ แต่ก็ไม่เป็นผล จบเกม ชลบุรี ชนะนครปฐม 3-0 เก็บ 3 แต้มเต็มในบ้านได้สำเร็จ

วาทะโค้ช

"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือชลบุรี - ดีครับเกมนี้เราคาดหวังทุกเกมที่เล่นในบ้านซึ่งวันนี้นักเตะก็ทำได้ดีเล่น กันดีทุกคนจะว่าไปแล้ววันนี้นครปฐมก็มาดีแต่เรานั้นทำได้ดีกว่าจึงชนะในเกม นี้ ต้องยกเครดิตให้นักเตะทุกคนที่ช่วยกัน

สถิตย์ ทวีนุช เฮดโค้ชนครปฐม เกมวันนี้ไม่มีอะไรเลย เล่นกันได้สนุกสูสีเราเป็นรองอยู่แล้ว แต่นักเตะก็ทุ่มเทกันได้ดี เราโชคร้ายที่เสียประตูลูกแรก ดูแล้วผู้ช่วยผู้ตัดสินพลาดเพราะเห็นแล้วล้ำหน้าเยอะมาก ไม่เป็นไรเอาใหม่ครับฟุตบอลมีแพ้มีชนะแต่อยากให้ผู้ตัดสินพัฒนาการทำหน้าที่ ด้วย

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม

ชลบุรี เอฟซี : โกสินทร์ หทัยรัตนกุล 6.5, ณัฐพงษ์ สมณะ 6.5, ภานุวัฒน์ จินตะ 6.5 (อดุล หละโส-), อาทิตย์ สุนทรพิช 6.5, พิภพ อ่อนโม้ 7, มารุยามา 6.5, โคเน่ โมฮาเหม็ด 7 (ไกรสร ปั้นเจริญ-), เอกพันธ์ อินทะเสน 6.5, ชลทิตย์ จันทคาม 6.5, สุรัตน์ สุขะ 6.5, สุรีย์ สุขะ 5.5 (เจษฎากร เหมแดง 6)

นครปฐม เอฟซี : มานะ นพเนตร 6.5, ประหยัด บุญญา 6 (เดชาวัติ กลิ่นพยอม 5.5), บิรอนเซ่ 6, วุฒิศักดิ์ มณีสุข 6, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ 6 (อนุสรณ์ สีมี 5.5), วิมล จันทร์คำ 6, ไมเคิล เบิร์น 6, อดิศร แดงเรือง 6, ประดิษฐ์ สว่างศรี 6 (ปริญญา อู่ตะเภา 5.5), นนทพันธ์ เจียรสถาวงศ์ 6.5, รีจินัลโด้ 6

แมนออฟเดอแม็ตช์ : พิภพ อ่อนโม้ กองหน้าจอมเก๋าของชลบุรี

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/

No comments:

Post a Comment