"เสี่ยเหมา" กมล สุวรรณเจริญ ผช.ผจก.ทีมราชนาวีระยอง ออกโรงเตือน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก รวมถึงผู้ตัดสินของสมาคมลูกหนังไทย ให้คำนึงถึงคุณภาพการตัดสินมากกว่าที่เป็นอยู่ บอกหากไม่เร่งพัฒนาคุณภาพเชิ้ตดำ อนาคตอาจมีเรื่องราวใหญ่โต ขณะที่กลุ่มแฟนคลับทีมราชนาวี ระยอง ยันหากทีมตัวเองยังไม่ได้รับความเป็นธรรมอีก จะยกพลกันบุกสมาคมฯ เพื่อประท้วงคุณภาพผู้ตัดสิน
จากกรณีที่เกมฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ครั้งที่ 13 เมื่อ 24 พ.ค. 52 ที่ผ่านมา ที่สนามกีฬาจ.กาญจนบุรี (กลีบบัว) รังเหย้าของทีม ทีโอที เอฟซี มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นในเกมที่เจ้าถิ่นเปิดบ้านชนะทีมเยือน ราชนาวี ระยอง ไปได้ 2-1 โดยได้จุดโทษในช่วงทดเวลาเจ็บ น. 92 หลังจาก เสกสันต์ ชาวทองหลาง นักเตะราชนาวี ระยอง ทำแฮนด์บอลระหว่างขึ้นสกัดลูกโขกของ สุเชาว์ นุชุน่ม
โดยผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวคือ สานิตย์ สุขสมดาว ได้ตัดสินให้เป็นจุดโทษ ก่อนที่นักเตะทีมราชนาวี ระยอง จะไม่พอใจการตัดสินได้เดินออกจากสนามเป็นเวลา 5 นาที ก่อนจะกลับมาลงสนามต่อและสุเชาว์ นุชนุ่ม ยิงประตูชัยให้ ทีมทีโอที เอฟซี ชนะไปได้ 2-1 ในน. 97 โดยระหว่างเหตุการณ์ได้มีกองเชียร์ทีมเยือนเขวี้ยงกระป๋องเบียร์ และขวดน้ำพลาสติกลงไปในสนามด้วยนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดในเรื่องนี้ "เสี่ยเหมา" กมล สุวรรณเจริญ ผช.ผจก.ทีมราชนาวีระยอง ที่ค่อนข้างหัวเสียกับการเสียจุดโทษของทีมตัวเอง ออกมากล่าวกับ นสพ.สยามกีฬาว่า "ช่วงสายของวันที่ 25 พ.ค. 52 ที่ผ่านมาผมได้โทรศัพท์ไปแจ้งถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
โดยเฉพาะคุณภาพของผู้ตัดสินในเกมนี้อย่าง คุณสานิตย์ สุขสมดาว ที่ตัดสินให้ทีมเราเสียจุดโทษในจังหวะที่ เสกสันต์ ชาวทองหลาง ขึ้นโขกสกัดบอลแย่งกับ สุเชาว์ นุชนุ่ม แล้วลูกโขกของสุเชาว์ไปถูกแขนของ เสกสันต์ ที่หันหลังขึ้นโขกสกัด ผมยอมรับจังหวะนี้ลูกฟุตบอลโดนแขนของเสกสันต์ จริง แต่หากดูที่เจตนาจากการที่นักเตะทีมผมหันหลังสกัดบอลในจังหวะนั้น ไม่น่าจะถือว่าเป็นเจตนาของการทำแฮนด์บอล
ผจก.ทีมทีโอที เอฟซี อย่าง "พี่ก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ เองยังให้สัมภาษณ์เลยว่า จริงแล้วบทสรุปของเกมนี้น่าจะลงเอยด้วยการเสมอกันไป พร้อมกับบอกด้วยว่าลูกที่ได้จุดโทษถือเป็นความโชคดีของทีม ที่ผมเรียนกับ ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ก็เพื่อต้องการให้ทีมเราได้รับความเป็นธรรมบ้าง จากการตัดสินของผู้ตัดสิน"
"เสี่ยเหมา" กล่าวอีกว่า นี่ไม่ใช่เกมแรกที่เราโดนแบบนี้ จากการทำหน้าที่ไม่ได้มาตรฐานของผู้ตัดสิน ไม่ว่าจะเป็นเกมนัดที่ 5 ของเราที่เราบุกไปแพ้ พัทยา ยูไนเต็ด แล้วโดนจุดโทษในช่วงทดเจ็บ ทำให้เราแพ้ออกมาเมื่อ 9 เม.ย. 52 เกมนั้นเป็น นายทวีชัย สุภัทรวัน ลงตัดสิน จังหวะที่นักเตะผมทำฟาวล์นั้น เป็นการทำฟาวล์นอกเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินชี้ว่าเป็นจุดโทษหน้าตาเฉย
ส่วนอีกเกมคือนัดที่เราเล่นในบ้านตัวเองแท้ๆ ในเกมนัดที่ 9 เมื่อ 10 พ.ค. นัดนั้นเราได้ประตูนำไปก่อน แต่พอถึง น. 30 ผู้เล่นของเรา ยามมิค จอร์เจส โดนใบแดงแบบไม่น่าจะโดน จากการตัดสินของ นายนิติภูมิ กุลบุตร ต่อด้วยเกมล่าสุดกับทีโอที เอฟซี"
ผช.ผจก.ทีมราชนาวีระยอง เผยอีกว่า "คนอย่างผมชีวิตนี้ทุ่มเทให้กับฟุตบอลเต็มที่ ใครๆ ก็รู้เราเข้าไปทำทีมอยากจะเห็นทีมมีอนาคต ซึ่งทุกวันนี้ใครจะเชื่อว่าทีมที่อาจจะเรียกได้ว่าโนเนมอย่าง ราชนาวีระยอง จะได้รับการตอบรับดีจากแฟนบอล ชาวจ.ระยอง ทุกนัดที่เราลงเตะในบ้านนั้น มีแฟนบอลเข้าชมหลายพันคน เก็บค่าบัตรผ่านประตูได้มากชนิดที่ใครๆ ก็คงไม่อยากจะเชื่อว่าภาพแบบนี้จะเกิดขึ้นมาได้กับทีมราชนาวีระยอง
โดยส่วนตัวไม่ได้เป็นคนที่จ้องจะมีเรื่องกับผู้ตัดสิน และไม่ชอบที่จะโทษผู้ตัดสิน สิ่งที่ผมอยากจะถามกับ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก อยากจะเห็นทีมที่มีแฟนบอลให้การสนับสนุนแต่ละนัดหลายพันคน มีแนวโน้มว่าจะไปได้สวยกับเส้นทางของทีมอาชีพอีกทีมทั้งๆ ที่เราเป็นทีมเล็กๆ ตกชั้นจากลีกสูงสุดอย่างนั้น หรือเราเป็นทีมเล็กๆ ไม่รู้ว่าด้วยความเป็นทีมเล็กๆ หรือเปล่าถึงจะชอบโดนรังแกอยู่เสมอ
ผมมองว่าคุณภาพของผู้ตัดสินนั้นเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจแฟนบอลเรา โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับที่เขาอุตส่าห์ตามไปเชียร์ แล้วเห็นผู้ตัดสินที่ย่ำแย่ตัดสินให้เราเป็นผู้แพ้ออกจากสนาม ผมวิตกว่าสักวันหนึ่งหากผู้ตัดสินยังเป็นเช่นนี้ อาจจะมีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้นได้สักวันหนึ่ง ไม่ใช่แต่เฉพาะกับทีมเรา แฟนบอลเองที่เขาไม่พอใจกับผู้ตัดสินอาจจะแบกความกดดันเก็บกดไว้จนไม่อาจจะทน ได้แล้วมาระเบิดกับผู้ตัดสินเป็นได้
ผมจึงอยากจะฝากไปยัง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก รวมถึงคณะกรรมการผู้ตัดสินด้วยว่า ให้ดูแลเรื่องคุณภาพของผู้ตัดสินเป็นพิเศษ อย่างกลุ่มแฟนคลับของเราเองได้ประกาศกันแล้วว่า หากทีมราชนาวีระยอง ยังเจอกับผู้ตัดสินที่ไร้คุณภาพเช่นนี้อีกพวกเขาเตรียมตัวแล้วที่จะยกพลกัน มาประท้วงคุณภาพผู้ตัดสินถึงที่สมาคมฟุตบอลเลยทีเดียว" เสี่ยเหมา กล่าวทิ้งท้าย
ด้านความเคลื่อนไหวของทีม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่เกมล่าสุดเมื่อ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา บุกไปเอาชนะ สมุทรสงคราม เอฟซี ได้ 1-0 อยู่อันดับ 4 ตามเดิม ล่าสุดเมื่อ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม กุนซือใหญ่ได้ส่งทีมชุดสำรอง แต่มีนักเตะเก๋าอย่าง พิเชษฐ์ อินทร์บาง, สลาฮูดิน อาแว, ธนพัต ณ ท่าเรือ หัตฐพร สุวรรณ , มาเน่ มุสตาฟา, นวพล ตันตระเสนีย์ ลงช่วยทีมอุ่นเครื่องกับทีม ราชประชานนทบุรี ทีมจากระดับลีกดิวิชั่น 2 ที่สนามธันเดอร์โดมฯ
โดยได้รับความสนใจจากแฟนบอล เข้ามาชมกันหลักร้อยคน เกมนี้เป็นทีมชุดสำรองของเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่แพ้คาบ้าน 1-3 โดยทีมเยือนได้จาก ประกิต ดีพร้อม น. 28, ณัฐพล พูลทวี น. 49, วิสูตร บุญเป็ง น. 78 ส่วน เมืองทองฯ ตีไข่แตกได้จาก สลาฮูดิน อาแว น. 88
หลังเกม "โค้ชแต๊ก" กล่าวว่า "เกมนี้แค่การอุ่นเครื่อง ผมไม่ได้ซีเรียสกับผลการแข่งขันที่ออกมาแต่อย่างใด ต้องการให้นักเตะที่ไม่ค่อยได้ลงสนาม ได้ลงยืดเส้นยืดสายบ้าง จะได้เห็นฟอร์มและรู้ข้อบกพร่องของทีมที่ยังมีอยู่"
แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/
Monday, May 25, 2009
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment